Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เซ็นทรัลเชียงราย-มทบ.37 จับมือ “บำบัดทุกข์-บำรุงสุข” มอบเงินหนุนภารกิจประชาชน

เซ็นทรัล เชียงราย–มทบ.37 จับมือ “บำบัดทุกข์–บำรุงสุข” มอบเงินสนับสนุน 20,000 บาท เสริมภารกิจช่วยเหลือประชาชน พร้อมเปิดเวทีดนตรีเชื่อมใจชุมชน

เชียงราย, 10 กันยายน 2568 – การผนึกกำลังระหว่างภาคเอกชนและหน่วยงานทหารกำลังขยายบทบาทจาก “แนวหลัง” มาสู่ “แนวหน้า” ของการรับมือปัญหาสาธารณะและการเยียวยาจิตใจผู้คน เมื่อ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย มอบเงินสนับสนุน 20,000 บาท แก่ มณฑลทหารบกที่ 37 (มทบ.37) เพื่อใช้ในภารกิจบรรเทาสาธารณภัยและช่วยเหลือประชาชน พร้อมจัดกิจกรรมดนตรีโดย หมวดดุริยางค์ มทบ.37 เพื่อส่งต่อความสุขในพื้นที่สาธารณะของเมือง

พิธีรับมอบจัดขึ้นวันที่ 9 กันยายน 2568 เวลา 19.00 น. ณ บริเวณชั้น G ของศูนย์การค้า โดยมี คุณสายัณห์ นักบุญ ผู้อำนวยการศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย เป็นผู้แทนส่งมอบ และ พันเอก โรมรัน ชูก้าน รองผู้บัญชาการ มทบ.37 เป็นผู้แทนรับมอบ บรรยากาศเต็มไปด้วยความเป็นกันเอง ท่ามกลางประชาชนที่แวะเวียนรับชมการแสดงดนตรี ซึ่งถูกออกแบบให้เป็น “เวทีกลางเมือง” สำหรับสร้างพื้นที่ร่วมทางวัฒนธรรมและเสริมแรงใจในช่วงปลายปี

 “เงินสนับสนุน” ฉายภาพภารกิจที่มองไม่เห็น

แม้จำนวนเงินสนับสนุนจะไม่สูงเมื่อเทียบกับงบประมาณภาครัฐ แต่ในบริบทภารกิจเชิงพื้นที่ของ มทบ.37 ที่ต้องเคลื่อนกำลังและอุปกรณ์อย่างฉับพลันในสถานการณ์วิกฤต เงินทุกบาทคือเชื้อเพลิงปฏิบัติการ ตั้งแต่ค่าน้ำมันรถกู้ภัย ค่าบำรุงรักษาเครื่องมือ ไปจนถึงวัสดุสิ้นเปลืองสำหรับช่วยเหลือเบื้องต้น การอุดหนุนจากภาคเอกชนจึงทำหน้าที่ “ปะติดปะต่อช่องว่างทรัพยากร” ที่มักเกิดขึ้นในงานภาคสนาม โดยเฉพาะช่วงฤดูกาลเสี่ยงอุทกภัยและดินถล่มของภาคเหนือ

ยิ่งไปกว่านั้น งานด้านมนุษยธรรมต้องการทั้ง “ความพร้อม” และ “ความต่อเนื่อง” ไม่ใช่เฉพาะตอนเกิดเหตุ การสนับสนุนเชิงรุกของภาคธุรกิจช่วยให้หน่วยทหารสามารถคงความฟิตของกำลังพลและอุปกรณ์ เพิ่มโอกาสให้การเข้าถึงผู้ประสบภัยเป็นไปอย่างทันการณ์ ลดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่จำเป็น

ดนตรีเป็นสะพาน “ทหาร–ประชาชน”

พร้อมกันนั้น หมวดดุริยางค์ มทบ.37 ได้เปิดการแสดงในกิจกรรม “Music Corner: เปิดพื้นที่กิจกรรมแบ่งปันความสุขในเทศกาลส่งท้ายปี” ดนตรีที่คัดสรรท่วงทำนองร่วมสมัยและเพลงอมตะกลายเป็นภาษากลางที่ทุกวัยเข้าใจตรงกัน การแสดงไม่ได้มีเพียงความบันเทิง หากแต่ตั้งใจสื่อสารบทบาท “ทหารคู่ประชาชน” ในเชิงบวก ผ่านเวทีที่เข้าถึงง่าย ไม่เป็นทางการเกินไป และเปิดพื้นที่ให้ประชาชนรู้สึกปลอดภัยที่จะร่วมสนทนา แลกเปลี่ยน และสะท้อนปัญหาของชุมชน

การสร้าง “จุดพบ” ระหว่างทหารกับคนเมืองท่ามกลางศูนย์การค้า ถือเป็นการย่นระยะห่างภาครัฐ–ประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม เพราะในภาวะปกติ คนส่วนใหญ่อาจมีโอกาสพบเจอทหารเฉพาะในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือภารกิจพื้นที่ปิด การใช้ดนตรีเป็น “ตัวกลาง” จึงช่วยเปิดบทสนทนาใหม่ให้ค่อย ๆ ก่อร่างความไว้วางใจซึ่งกันและกัน

เมื่อ CSR เชื่อม “เศรษฐกิจท้องถิ่น–ความมั่นคงมนุษย์”

เซ็นทรัล เชียงราย ในฐานะกลไกเศรษฐกิจท้องถิ่น ย่อมตระหนักว่าความมั่นคงทางสังคมกับความคึกคักทางเศรษฐกิจเดินไปด้วยกัน พื้นที่ค้าปลีกที่ปลอดภัย มิตรไมตรีของเมือง และประสบการณ์ที่ดีของผู้มาเยือน ล้วนสะท้อนกลับเป็นความน่าอยู่และน่าใช้ชีวิต การลงมือผ่านกิจกรรม ความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) ที่จับต้องได้ เช่น การเติมทรัพยากรให้หน่วยปฏิบัติการกู้ภัย และการเปิดพื้นที่สาธารณะให้กิจกรรมสร้างสรรค์ จึงเป็นการลงทุนทางสังคมที่ “คูณผล” ทั้งด้านภาพลักษณ์ แรงสนับสนุนชุมชน และความพร้อมรับมือเหตุไม่คาดคิด

ในอีกด้านหนึ่ง มทบ.37 ซึ่งดูแลพื้นที่ยุทธศาสตร์ของภาคเหนือช่วงบน มีภารกิจบูรณาการร่วมกับจังหวัด อปท. และหน่วยงานด้านความมั่นคง–สาธารณสุขอยู่เสมอ การได้รับการสนับสนุนจากภาคธุรกิจในพื้นที่ ทำให้การเชื่อมประสานงานกับเครือข่ายภาคเอกชนเป็นไปอย่างคล่องตัวมากขึ้น ทั้งในยามฉุกเฉินและช่วงฟื้นฟูหลังภัยพิบัติ

บำบัดทุกข์–บำรุงสุข” จากแนวคิดสู่กลไก

สาระสำคัญของความร่วมมือครั้งนี้คือการทำให้คำว่า “บำบัดทุกข์–บำรุงสุข” ลงสู่การปฏิบัติจริงในสามมิติ

  1. บำบัดทุกข์เชิงปฏิบัติการ
    เงินสนับสนุน 20,000 บาท แม้เป็นตัวเลขไม่ใหญ่ แต่มีความยืดหยุ่นสูงสำหรับค่าใช้จ่ายเร่งด่วนในภารกิจพื้นที่ ช่วยลดขั้นตอนเชิงเอกสารและระยะเวลารอคอยงบกลาง เหมาะกับงานที่ต้องแข่งกับนาทีชีวิต
  2. บำรุงสุขเชิงสังคม–วัฒนธรรม
    เวทีดนตรีกลางศูนย์การค้า คือพื้นที่ “พักหายใจ” ของคนเมือง ช่วยลดความตึงเครียด สร้างแรงใจ และกระตุ้นการจับจ่ายหมุนเวียนในช่วงเทศกาล อีกทั้งยังเป็นเวทีสื่อสารของทหารที่เป็นมิตรและเข้าถึงได้
  3. บำรุงทุนทางความไว้วางใจ
    การพบปะในพื้นที่สาธารณะ สร้างทุนสังคมระหว่างหน่วยงานรัฐ–เอกชน–ประชาชน ให้พร้อมระดมความร่วมมือได้รวดเร็วขึ้นเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน

เล่าเรื่องผ่านผู้คน บทบาทที่เกื้อกูลกัน

แม้พิธีรับมอบจะเรียบง่าย แต่สะท้อนความเข้าใจบทบาทซึ่งกันและกันอย่างลึกซึ้ง ฝั่งศูนย์การค้าเห็นความสำคัญของ “ความพร้อมตอบสนองภัย” ในจังหวัดท่องเที่ยว–เศรษฐกิจที่กำลังเติบโต ขณะที่ฝั่งทหารมองเห็นคุณค่าของ “พื้นที่กลางเมือง” ในการส่งสัญญาณเชิงบวก สื่อสารความห่วงใย และพร้อมเป็นที่พึ่งได้จริง

การตระเตรียมกิจกรรมดนตรีโดยหมวดดุริยางค์ มทบ.37 ยังชี้ให้เห็น ศิลปะการสื่อสารเชิงสาธารณะ ของหน่วยงานความมั่นคงสมัยใหม่ ว่าการยืนข้างประชาชนไม่จำเป็นต้องอยู่ในเครื่องแบบและยุทโธปกรณ์เสมอไป แต่สามารถ “วางเครื่องมือ” แล้ว “ยกเครื่องดนตรี” เพื่อทำหน้าที่เชื่อมใจคนในเมือง ท่ามกลางชีวิตประจำวันอันคึกคัก

พลังหุ้นส่วนท้องถิ่นในเมืองชายแดนเหนือ

เชียงรายเป็นจังหวัดชายแดนที่คุณสมบัติ “เมืองท่องเที่ยว–ประตูการค้า–ชุมชนพหุวัฒนธรรม” อยู่ร่วมกัน การบริหารเมืองเช่นนี้ต้องอาศัย “พันธมิตรหลายชั้น” ตั้งแต่ด่านหน้าในพื้นที่ ไปจนถึงเครือข่ายธุรกิจและสาธารณสุข ความร่วมมือครั้งนี้จึงเป็นกรณีศึกษาเล็ก ๆ ที่ชี้ว่าการขับเคลื่อนเมืองยุคใหม่ ไม่ได้อาศัยกลไกรัฐล้วน ๆ หากต้องใช้ เครือข่ายร่วมสร้าง (co-creation) ที่ทุกฝ่ายมีพื้นที่และภารกิจของตนชัดเจน

  • ความยั่งยืนเชิงระบบ จะเกิดก็ต่อเมื่อการสนับสนุนมี “ความต่อเนื่อง” มากกว่าความฉาบฉวย และผูกเข้ากับแผนงานเชิงพื้นที่ เช่น ฤดูฝน–ฤดูท่องเที่ยว–ช่วงเทศกาลสำคัญ
  • ความยืดหยุ่นเชิงปฏิบัติการ ต้องอาศัยกองหนุนทางสังคมที่พร้อมเสมอทั้งทรัพยากรและอาสาสมัคร ซึ่งภาคธุรกิจในเมืองสามารถช่วยระดมทรัพยากรและสื่อสารสาธารณะได้เร็วกว่า
  • ความไว้วางใจเชิงสังคม คือสินทรัพย์ที่สร้างยากที่สุด แต่จำเป็นที่สุดในยามวิกฤต กิจกรรมเชิงวัฒนธรรมอย่างดนตรีมีพลังลดช่องว่างอย่างนุ่มนวลและต่อเนื่อง

มองไปข้างหน้าจากกิจกรรมเดียว สู่ “แพลตฟอร์มความร่วมมือ”

บนฐานความสำเร็จของงานครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายสามารถต่อยอดได้ในหลายทิศทาง

  • ตั้ง “กลไกสื่อสารฉุกเฉินร่วม” ระหว่างศูนย์การค้า–มทบ.37–จังหวัด เพื่อแจ้งเตือนสาธารณะ รวบรวมสิ่งของจำเป็น และประสานจุดอพยพ/จุดช่วยเหลือ เมื่อเกิดภัยพิบัติ
  • ขยาย “เวทีศิลปะเพื่อชุมชน” เป็นตารางกิจกรรมรายไตรมาส เปิดพื้นที่ให้วงดนตรีเยาวชน โรงเรียน และชุมชนชาติพันธุ์ร่วมแสดง สร้างพื้นที่ปลอดภัยทางวัฒนธรรม
  • พัฒนา “ชุดครุภัณฑ์ฉุกเฉิน” ด้วยเงินสนับสนุนและการระดมทุนสาธารณะ เช่น ชุดไฟส่องสว่างเคลื่อนที่ เครื่องสูบน้ำขนาดเล็ก ชุดปฐมพยาบาลขั้นสูง เพื่อวางกระจายในจุดเสี่ยง

หากทำได้ต่อเนื่อง เมืองจะมี “กล้ามเนื้อเชิงสังคม” ที่แข็งแรงขึ้น ขณะเดียวกันศูนย์การค้าก็จะทำหน้าที่มากกว่าพื้นที่เศรษฐกิจ แต่เป็น ศูนย์รวมพลังของเมือง ที่พร้อมยืนเคียงข้างกันในทุกจังหวะชีวิต

พลังเล็ก ๆ ที่ต่อยอดผลใหญ่

เหตุการณ์มอบเงิน 20,000 บาท และการบรรเลงดนตรีหนึ่งค่ำคืน อาจดูเล็กเมื่อเทียบกับโจทย์ความท้าทายของสังคม แต่ในเชิง “ระบบ” นี่คือจิ๊กซอว์ที่ทำให้เมืองมี ความพร้อม–ความหวัง–ความอบอุ่น มากขึ้น การเกื้อกูลกันระหว่าง เซ็นทรัล เชียงราย และ มทบ.37 จึงไม่เพียงบันทึกไว้ในหน้าข่าว หากแต่ควรถูกต่อยอดเป็นวัฒนธรรมเมืองที่ทุกภาคส่วน ร่วมรับผิดชอบและร่วมภูมิใจ ไปด้วยกัน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย
  • มณฑลทหารบกที่ 37 (มทบ.37)
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

เซ็นทรัล เชียงรายผนึกเรือนจำกลาง! เปิด “ลอกคลองเพื่อชุมชน” สร้างโอกาสใหม่ผู้ต้องขัง แก้วิกฤตน้ำท่วม

เซ็นทรัล เชียงราย ผนึกเรือนจำกลาง เปิดโครงการ “ลอกคลองเพื่อชุมชน” สร้างโอกาสใหม่ผู้ต้องขัง แก้วิกฤติน้ำท่วม

เชียงราย, 18 กรกฎาคม 2568 – ในยุคที่ปัญหาสิ่งแวดล้อมและความเหลื่อมล้ำทางสังคมกำลังเป็นประเด็นสำคัญของสังคมไทย ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย ได้ก้าวขึ้นมาเป็นต้นแบบการดำเนินธุรกิจเพื่อสังคมอย่างแท้จริง ด้วยการเปิดตัวโครงการ “ลอกคลองเพื่อชุมชน” ที่ไม่เพียงแต่มุ่งแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่ แต่ยังเป็นการสร้างโอกาสทางอาชีพให้กับผู้ต้องขังในเรือนจำกลางเชียงราย เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2568

จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง

เรื่องราวของโครงการนี้เริ่มขึ้นจากการสังเกตปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในพื้นที่โดยรอบศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย ซึ่งประสบปัญหาน้ำท่วมขังในช่วงฤดูฝนอย่างต่อเนื่อง สาเหตุหลักมาจากระบบระบายน้ำที่ไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ทำให้ร่องระบายน้ำตื้นเขิน เต็มไปด้วยตะกอนและเศษขยะ

ผู้บริหารเซ็นทรัล เชียงราย ตระหนักดีว่าปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องที่สามารถแก้ไขได้ด้วยการดำเนินการเพียงฝ่ายเดียว จึงได้มองหาพันธมิตรที่เหมาะสมในการดำเนินงาน และเมื่อมองไปที่เรือนจำกลางเชียงราย ซึ่งมีผู้ต้องขังที่ต้องการโอกาสในการพัฒนาทักษะและสร้างรายได้ ก็เกิดเป็นแนวคิดที่จะสร้างประโยชน์ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน

วันสำคัญของการส่งมอบโอกาส

ในช่วงเช้าของวันที่ 18 กรกฎาคม 2568 บรยากาศในบริเวณเรือนจำกลางจังหวัดเชียงรายมีความพิเศษแตกต่างจากทุกวัน เมื่อคุณสายัณห์ นักบุญ ผู้อำนวยการศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร เดินทางมาเพื่อเป็นสักขีพยานในพิธีเปิดโครงการที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คนมากมาย

การมอบเงินสนับสนุนโครงการจำนวน 10,000 บาท แด่คุณนวรัตน์ จันทร์จิเรศรัศมี นักทัณฑวิทยาชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการเรือนจำกลางเชียงราย ไม่ใช่เพียงการส่งมอบเงินทุน แต่เป็นการส่งมอบความหวังและโอกาสใหม่ให้กับผู้ต้องขังที่จะได้มีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้กับสังคม

ขอบเขตและเป้าหมายของโครงการ

โครงการ “ลอกคลองเพื่อชุมชน” มีเป้าหมายที่ชัดเจนและสามารถวัดผลได้อย่างเป็นรูปธรรม กิจกรรมหลักคือการทำความสะอาดและขุดลอกร่องระบายน้ำสาธารณะเป็นระยะทางยาวกว่า 450 เมตร ครอบคลุมพื้นที่ทำงานรวม 1,800 ตารางเมตร ซึ่งเป็นบริเวณโดยรอบศูนย์การค้าที่มีความสำคัญต่อการระบายน้ำของพื้นที่

การดำเนินงานจะแบ่งออกเป็นหลายขั้นตอน เริ่มจากการสำรวจพื้นที่ วางแผนการทำงาน การเตรียมอุปกรณ์ จนถึงการขุดลอกและทำความสะอาดอย่างเป็นระบบ ซึ่งจะใช้แรงงานจากผู้ต้องขังที่ผ่านการคัดเลือกและมีความเหมาะสมในการทำงานประเภทนี้

ผลลัพธ์ที่คาดหวังจากโครงการนี้ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขัง แต่ยังรวมถึงการปรับปรุงทัศนียภาพของพื้นที่ให้สวยงาม การเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ และที่สำคัญคือการส่งเสริมสุขอนามัยของประชาชนในพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบโดยตรง

มิติใหม่ของการฟื้นฟูผู้กระทำผิด

หากมองในมุมของการฟื้นฟูและพัฒนาผู้ต้องขัง โครงการนี้ถือเป็นนวัตกรรมทางสังคมที่น่าสนใจ เพราะไม่ได้เน้นเพียงการให้งานทำ แต่เป็นการสร้างประสบการณ์การทำงานที่มีความหมายและส่งผลดีต่อสังคมอย่างเป็นรูปธรรม

คุณสายัณห์ นักบุญ ได้อธิบายปรัชญาเบื้องหลังโครงการว่า “เซ็นทรัล เชียงราย มีความมุ่งมั่นในการเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน โครงการนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นการตอกย้ำความร่วมมืออันดีกับเรือนจำกลางเชียงราย ในการสร้างโอกาสและมอบกำลังใจให้กับผู้ต้องขัง เราเชื่อว่าการให้โอกาสคือการสร้างอนาคตที่ดีให้กับสังคม”

ความคิดนี้สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงกระบวนทัศน์จากการมองผู้ต้องขังเป็นภาระของสังคม กลายเป็นการมองเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีศักยภาพในการสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้กับสังคม หากได้รับโอกาสและการพัฒนาที่เหมาะสม

ความต่อเนื่องของการร่วมมือ

โครงการ “ลอกคลองเพื่อชุมชน” ไม่ใช่การเริ่มต้นความร่วมมือระหว่างเซ็นทรัล เชียงราย กับเรือนจำกลางเชียงราย แต่เป็นการต่อยอดความสัมพันธ์อันดีที่มีมาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา

การสนับสนุนที่สำคัญคือการมอบพื้นที่พิเศษ ณ ชั้น G โซน Northern Village (นอร์เทิร์น วิลเลจ) ให้เรือนจำกลางเชียงรายนำผลิตภัณฑ์จากฝีมือผู้ต้องขังมาจัดจำหน่ายโดยไม่คิดค่าเช่าพื้นที่ ซึ่งเป็นช่องทางสำคัญในการสร้างรายได้และส่งเสริมทักษะอาชีพให้กับผู้ต้องขัง

การดำเนินการนี้ไม่เพียงช่วยให้ผู้ต้องขังมีรายได้ แต่ยังเป็นการสร้างความมั่นใจและศักดิ์ศรีในตนเอง เมื่อพวกเขาเห็นว่าผลงานของตนเองได้รับการยอมรับจากสังคมและสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง

การสนับสนุนแบบ 360 องศา

สำหรับกิจกรรมลอกคลองในครั้งนี้ เซ็นทรัล เชียงราย ไม่ได้ให้การสนับสนุนเพียงด้านการเงินเท่านั้น แต่เป็นการสนับสนุนแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นค่าดำเนินการจ้างแรงงานผู้ต้องขัง การจัดเตรียมอาหารกลางวันและเครื่องดื่มตลอดระยะเวลาการปฏิบัติงาน รวมถึงการอำนวยความสะดวกและดูแลด้านความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด

การดูแลเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในรายละเอียดและความเป็นมนุษย์ในการดำเนินโครงการ เพราะการให้ผู้ต้องขังออกมาทำงานนอกกำแพงเรือนจำไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องมีการประสานงานและดูแลอย่างรอบคอบในทุกด้าน

ผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม

เมื่อวิเคราะห์ผลลัพธ์ของโครงการนี้ในระยะสั้นและระยะยาว จะพบว่ามีผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมหลายมิติ

ในระยะสั้น การขุดลอกคลองจะช่วยแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่ ซึ่งเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตและการประกอบธุรกิจของคนในพื้นที่ การปรับปรุงระบบระบายน้ำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นจะช่วยลดความเสี่ยงจากโรคที่เกี่ยวข้องกับน้ำขัง และสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้นให้กับชุมชน

ในระยะยาว การสร้างโอกาสให้ผู้ต้องขังได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมจะช่วยลดอัตราการกลับมากระทำผิดซ้ำ เนื่องจากพวกเขาได้รับการพัฒนาทักษะ สร้างความมั่นใจ และรู้สึกว่าตนเองยังมีคุณค่าและสามารถทำประโยชน์ให้กับสังคมได้

นอกจากนี้ โครงการยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับองค์กรอื่นๆ ในการดำเนิน CSR ที่สร้างผลกระทบเชิงบวกอย่างแท้จริง ไม่ใช่เพียงการทำเพื่อสร้างภาพลักษณ์ แต่เป็นการแก้ไขปัญหาสังคมอย่างเป็นระบบ

ความท้าทายและข้อจำกัด

แม้โครงการนี้จะมีเป้าหมายที่ดี แต่ก็มีความท้าทายและข้อจำกัดที่ต้องพิจารณา การทำงานกับผู้ต้องขังต้องมีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด และต้องมีการประสานงานที่ดีระหว่างหน่วยงานต่างๆ

การสร้างความเข้าใจกับชุมชนเกี่ยวกับการให้ผู้ต้องขังออกมาทำงานก็เป็นอีกหนึ่งความท้าทาย เนื่องจากอาจมีความกังวลในเรื่องความปลอดภัย แม้ว่าผู้ต้องขังที่เข้าร่วมโครงการจะผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มงวดแล้วก็ตาม

ทิศทางอนาคตของการพัฒนาอย่างยั่งยืน

เซ็นทรัล เชียงราย หวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการ “ลอกคลองเพื่อชุมชน” จะเป็นต้นแบบสำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืนและสร้างสรรค์ในรูปแบบใหม่ ซึ่งสามารถขยายผลไปยังพื้นที่อื่นๆ และสร้างเป็นเครือข่ายการทำงานเพื่อสังคมที่แข็งแกร่ง

การมองการพัฒนาแบบองค์รวมที่คำนึงถึงทั้งปัญหาสิ่งแวดล้อม การสร้างโอกาสทางสังคม และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในทุกกลุ่ม เป็นแนวทางที่น่าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการสร้างสังคมที่เข้มแข็งและเท่าเทียมมากขึ้น

โครงการนี้แสดงให้เห็นว่า เมื่อภาคเอกชนและภาครัฐทำงานร่วมกันด้วยเป้าหมายที่ชัดเจนและวิธีการที่เหมาะสม สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกที่ยั่งยืนได้อย่างเป็นรูปธรรม และที่สำคัญคือการสร้างความหวังและโอกาสใหม่ให้กับผู้คนที่สังคมมักจะมองข้าม

สำหรับจังหวัดเชียงรายและประชาชนในพื้นที่ โครงการนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยแก้ไขปัญหาการระบายน้ำที่เป็นปัญหาเรื้อรัง แต่ยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาท้องถิ่นอย่างยั่งยืนต่อไป

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย
  • เรือนจำกลางจังหวัดเชียงราย
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

เซ็นทรัลเชียงราย จัดฟุตบอลกระชับมิตร มอบ 3 แสนบาทยกระดับกีฬาเชียงราย

 

เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย จับมือกับ เทศบาลนครเชียงราย จัดการแข่งขันฟุตบอลกระชับมิตร “FRIENDLY MATCH : CPN x ChiangRai Municipality 2024” ณ สนามหญ้าเทียม X-ARENA (ท่าสาย) เพื่อส่งเสริมทักษะการเล่นกีฬาฟุตบอล 7 คน ก่อให้เกิดความสมานสามัคคี มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง และสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีต่อกัน โดยผลการแข่งขันจบลงที่ เทศบาลนครเชียงรายชนะไปด้วย 5-6 พร้อมขนเงินรางวัลมูลค่า 20,000 บาทกลับบ้าน

ในโอกาสนี้ คุณรุจิเรศ นีรปัทมะ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) มอบเงินสนับสนุนให้กับ สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดเชียงราย จำนวน 300,000 บาท เพื่อสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ และยกระดับกีฬาจังหวัดเชียงรายมุ่งสู่ความเป็นเลิศ โดยมี คุณธเนศ โกมลธง รองนายกเทศมนตรีนครเชียงราย, เดช ใจกล้า อุปนายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดเชียงราย เป็นผู้รับมอบ และมี ธนาพรรณ พงษ์พันธ์, สายัณห์ นักบุญ, วีรโชติ ถิรวายามกุล, สุภัทร อักษรแก้ว, ภาธร์ รังษีกุลพิพัฒน์, และโชติศิริ ดารายน ร่วมงาน ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย

โดยการสนับสนุนในครั้งนี้ไม่เพียงแค่เป็นการส่งเสริมกีฬาฟุตบอลเท่านั้น แต่ยังเป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งและความสมานสามัคคีในชุมชน การร่วมมือกันจัดกิจกรรมกีฬานับว่าเป็นสิ่งที่ช่วยเสริมสร้างความสุขและสุขภาพที่ดีให้กับคนในท้องถิ่น และยังช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจในพื้นที่ด้วย

ถือเป็นโอกาสที่ดีในการพัฒนากีฬาของจังหวัดเชียงราย เพื่อให้เยาวชนและประชาชนในพื้นที่มีโอกาสในการพัฒนาทักษะทางกีฬา และส่งเสริมการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ โดยเงินสนับสนุนที่ได้รับจะนำไปใช้ในการจัดกิจกรรมกีฬาและพัฒนาให้กับประชาชนในจังหวัดเชียงราย เพื่อสร้างเสริมความสามารถและคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับทุกคน

การจัดกิจกรรม “FRIENDLY MATCH : CPN x ChiangRai Municipality 2024” ในครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนและภาครัฐในการส่งเสริมกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม และเป็นการสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่ดีให้กับชุมชนในจังหวัดเชียงราย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

ศิลปกรรม “ต๋ามฮอยศิลป์” รุ่นที่ 42. ส่วนหนึ่ง Thailand Biennale,Chiang Rai

 

วันที่ 1-5 มีนาคม 2567 ณ ชั้น 1 หน้าร้านซุปเปอร์สปอร์ต ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงรายร่วมเป็นส่วนหนึ่ง Thailand Biennale,Chiang Rai กับนิทรรศการผลงานศิลปกรรม “ต๋ามฮอยศิลป์” รุ่นที่ 42

โดยศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย ขอเชิญร่วมชมนิทรรศการผลงานศิลปกรรม “ต๋ามฮอยศิลป์” รุ่นที่ 42 กับการแสดงผลงานของนักเรียน สาขาศิลปกรรมแผนกวิชาวิจิตรศิลป์ จากวิทยาลัยอาชีวะศึกษาเชียงราย ระหว่างวันที่ 1-5 มีนาคม 2567 ณ ชั้น 1 หน้าร้านซุปเปอร์สปอร์ต ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย

กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อเปิดโอกาส พร้อมร่วมผลักดัน แลพัฒนาศักยภาพนักเรียนนักศึกษา ให้มีสมรรถนะอาชีพด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ส่งเสริมทักษะการจัดนิทรรศการแสดงผลงานศิลปกรรมของนักเรียน นักศึกษาสู่สาธารณชน ตอกย้ำภาพลักษณ์ของจังหวัดเชียงราย ให้เป็นเมืองของศิลปะจากผลงานศิลปินรุ่นใหม่ อย่างต่อเนื่อง และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงาน มหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ ครั้งที่ 3 ไทยแลนด์เบียนนาเล่ เชียงราย Thailand Biennale,Chiang Rai 2023 – เปิดโลก (The Open World)

ทั้งนี้กิจกรรมแสดงนิทรรศการดังกล่าว มีจำนวนนักเรียน นักศึกษา ผู้ร่วมแสดงผลงานนิทรรศการ “ต๋ามฮอยศิลป์” รุ่นที่ 42 จำนวนทั้งสิ้น 33 คน เป็นนักเรียนระดับ ปวช. จำนวน 20 คน, ระดับ ปวส.จำนวน 13 คน จำนวนผลงานทั้งสิ้น 67 ชิ้น โดยแบ่งเป็น ประเภท จิตรกรรมเทคนิคสีน้ำมัน จำนวน 40 ชิ้น ,จิตรกรรมเทคนิคสีอะคิลิก จำนวน 8 ชิ้น และงานวาดเส้น เทคนิคดินสอดำ จำนวน 14 ชิ้น

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

ผู้จัดการทั่วไปนำทีมเจ้าหน้าที่ ‘เซ็นทรัลเชียงราย’ ซ้อมแผนรับนโยบายกระทรวงแรงงาน

 
ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย นำโดยคุณสายัณห์ นักบุญ ผู้จัดการทั่วไป ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย พร้อมสนองตอบต่อนโยบายด้านความปลอดภัยตามประกาศของกระทรวงแรงงาน เรื่องการป้องกันและระงับอัคคีภัยในสถานประกอบการ เพื่อความปลอดภัยในการทำงานของลูกจ้าง และผู้ใช้อาคาร โดยกำหนดให้สถานประกอบการนั้นๆ จัดฝึกซ้อมอพยพหนีไฟไม่น้อยกว่าปีละ 1 ครั้ง ซึ่งจะต้องมีผู้เข้าร่วมในการฝึกซ้อม 100 เปอร์เซ็นต์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ลูกจ้าง และผู้ใช้อาคาร สามารถรู้ถึงการปฏิบัติตนเมื่อเกิดเพลิงไหม้ในกรณีมีการอพยพหนีไฟ อีกทั้งเพื่อเพิ่มทักษะให้พนักงานได้ฝึกฝนตนเอง เมื่อเกิดเหตุการณ์ต่างๆ จะได้แนะนำลูกค้า รวมทั้งดูแลตัวเองได้อย่างรวดเร็ว และปลอดภัยในชีวิตทั้งของพนักงานเอง และลูกค้าที่มาใช้บริการ โดยเฉพาะความปลอดภัยของลูกค้านั้นต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง
 
 
โดยได้มีการจัดโครงการฝึกซ้อมแผนดับเพลิงเบื้องต้น และซักซ้อมแผนอพยพหนีไฟ ประจำปี 2565 เพื่อเตรียมความพร้อมในการอพยพพนักงาน และลูกค้าหากเกิดเหตุการณ์อัคคีภัย โดยมีเจ้าหน้าที่ศูนย์การค้า รวมทั้งพนักงานร้านค้าศูนย์การค้า และพนักงานร้านเช่าเข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 622 คน นอกจากนี้ ยังมีหน่วยงานภายนอกเข้าร่วมการฝึกซ้อมและร่วมสังเกตุการณ์ในครั้งนี้ อาทิ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย, มณฑลทหารบกที่ 37,โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์,สถานีตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย,สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย รวมถึงมีหน่วยงานส่งไฟร์แมน ข้าร่วมฝึกซ้อมแผนในครั้งนี้ อาทิ ไทวัสดุเชียงราย,โรบินสันเชียงราย และ บิ๊กซี เชียงราย
 
 
นอกจากนี้ทางศูนย์การค้าฯ ยังมีส่วนของการดูแลความปลอดภัยด้านอื่นๆ และให้ความสำคัญเช่นกัน เช่น การซ้อมแผนเผชิญเหตุต่างๆ ทั้งเหตุระเบิด การทะเลาะวิวาท การกระโดดตึก หรือเหตุการณ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นได้ภายในศูนย์การค้าฯ รวมถึงมาตรการการตรวจวัตถุต้องสงสัยในทุกจุดทางเข้าศูนย์การค้าฯ ซึ่งดำเนินการอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งของพนักงาน และลูกค้าที่มาใช้บริการทุกคน
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News