Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

ปศุสัตว์เชียงรายเร่งช่วยสัตว์เลี้ยงประสบภัยน้ำท่วม ให้การดูแลอย่างเต็มที่

 

เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2567 ที่สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดเชียงราย นายสัตวแพทย์บุญญกฤช ปิ่นประสงค์ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ ได้ลงพื้นที่เพื่อให้ความช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย โดยเฉพาะสุนัขและแมวที่ถูกทิ้งไว้ในบ้านเนื่องจากเจ้าของไม่สามารถนำออกมาได้ หรือไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ทางกรมปศุสัตว์จึงได้ประสานกับคุณโรเจอร์ โลหน์นทน์ สมาคมพิทักษ์สัตว์ไทยและองค์กรต่าง ๆ ในการจัดส่งทีมอาสาและผู้เชี่ยวชาญในการจับสัตว์อย่างปลอดภัย เพื่อช่วยเหลือสัตว์ที่ประสบปัญหาและนำไปฟื้นฟูสุขภาพที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวจนกว่าจะแข็งแรงและพร้อมกลับคืนสู่เจ้าของ

นายพืชผล น้อยนาฝาย ปศุสัตว์จังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า ขณะนี้มีความร่วมมือจากหน่วยงานและองค์กรต่าง ๆ ในการจัดเตรียมอุปกรณ์และทรัพยากรต่าง ๆ เช่น อาหารสุนัขและแมว รวมถึงเครื่องมือในการจับสัตว์เลี้ยงเพื่อให้แน่ใจว่าสัตว์ได้รับการดูแลที่ดี โดยในระยะนี้เจ้าของสัตว์สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทันทีหากพบว่าสัตว์เลี้ยงของตนถูกกักขังในพื้นที่น้ำท่วม ทางเจ้าหน้าที่พร้อมเข้าช่วยเหลือและนำสัตว์เลี้ยงออกมาอย่างปลอดภัย

นอกจากนี้ ปัญหาที่พบมากในช่วงนี้คือมีการโพสต์ผ่านโซเชียลมีเดียจากบุคคลที่ไม่ใช่เจ้าของสัตว์ ทำให้การเข้าช่วยเหลือเกิดความล่าช้า เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่สามารถติดต่อกับเจ้าของสัตว์โดยตรงได้ นายสัตวแพทย์บุญญกฤชขอความร่วมมือจากประชาชนที่โพสต์หรือเห็นสัตว์ติดค้างในบ้านให้ประสานกับเจ้าของสัตว์โดยตรง เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ นายสัตวแพทย์บุญญกฤชได้กล่าวขอบคุณผู้มีจิตศรัทธาและหน่วยงานต่าง ๆ ที่ได้บริจาคอาหารสัตว์และให้การสนับสนุนในด้านต่าง ๆ โดยทางกรมปศุสัตว์จะดำเนินการช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัยในจังหวัดเชียงรายโดยไม่มีค่าใช้จ่าย และจะดูแลสัตว์เลี้ยงจนกว่าสภาพร่างกายของสัตว์จะดีขึ้นและสามารถกลับคืนสู่เจ้าของได้อย่างปลอดภัย

สำหรับเจ้าของสัตว์ที่ต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดเชียงรายได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-5371-1604 ทางทีมงานพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่

สุดท้ายนี้ นายสัตวแพทย์บุญญกฤชยังเน้นย้ำว่า การช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงที่ประสบภัยในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน พร้อมทั้งขอให้เจ้าของสัตว์ที่ประสบอุทกภัยมั่นใจได้ว่าสัตว์เลี้ยงของตนจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

“ทปษ.บุญสิงห์” เปิดการประกวดโคเนื้อ “โคบาลล้านนา ครั้งที่ 3” จังหวัดเชียงราย

 
เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2567 ที่หาดทรายเทียมหนองหลวง ต.เวียงชัย อ.เวียงชัย จ.เชียงราย นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานพิธีเปิดการประกวดโคเนื้อ “โคบาลล้านนา ครั้งที่ 3” ณ บริเวณหาดทรายเทียมหนองหลวง ตำบลเวียงชัย อำเภอเวียงชัย จังหวัดเชียงราย โดยมีนายญาณวุฒิ สุดพิมศรี นายอำเภอเวียงชัย นายพืชผล น้อยนาฝาย ปศุสัตว์จังหวัดเชียงราย และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้การต้อนรับ
 
นายพืชผล น้อยนาฝาย ปศุสัตว์จังหวัดเชียงราย กล่าวว่า การงานจัดการประกวดโคเนื้อในครั้งนี้ เพื่อประชาสัมพันธ์ขยายผลการสร้างมูลค่าเพิ่มโคเนื้อ การยกระดับและเพิ่มศักยภาพมาตรฐานการผลิตสินค้าเกษตรคุณภาพอาหารปลอดภัย โครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตและสร้างเครือข่ายการผลิตสินค้าเกษตรคุณภาพอาหารปลอดภัยอย่างสร้างสรรค์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงโคเนื้อคุณภาพ ในจังหวัดเชียงราย 
 
 
เพื่อพัฒนาศักยภาพการปรับปรุงพันธุ์สัตว์ การคัดเลือกพันธุ์สัตว์ เพื่อประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ การผลิตและสร้างมูลค่าเพิ่มโคเนื้อ เพิ่มช่องทางการตลาดให้ผู้ประกอบการและเกษตรกรได้เชื่อมโยงเครือข่ายกัน และมีการจัดประกวด 2 ประเภท ได้แก่ โคลูกผสมยุโรปทั่วไป และโคลูกผสมบีฟมาสเตอร์ รวมทั้งหมด 12 รุ่น โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อในจังหวัดเชียงราย และจังหวัดใกล้เคียงในกลุ่มภาคเหนือตอนบน 2 (เชียงราย พะเยา แพร่ และน่าน) และผู้ประกอบการแปรรูปผลิตภัณฑ์ด้านปศุสัตว์ ในจังหวัดเชียงราย ซึ่งในปีนี้เป็นครั้งที่ 3 ที่มีการจัดประกวดโคเนื้อเกิดขึ้น ตั้งแต่มีการส่งเสริมการเลี้ยงโคเนื้อมาระยะเวลา 6 ปี ที่ผ่านมา 
 
 
ซึ่งผลผลิตโคเนื้อที่ได้พัฒนาปรับปรุงพันธ์โดยพ่อพันธุ์สายเลือดยุโรป เริ่มเจริญเติบโตและขยายเพิ่มขึ้น จังหวัดเชียงราย มีเป้าหมายในการพัฒนาปรับปรุงพันธุ์โคเนื้อ โดยการยกระดับสายเลือดพันธุ์โคเนื้อยุโรป เน้นโคเนื้อสายพันธุ์ บีฟมาสเตอร์ เป็นหลัก
 
 
การจัดงานประกวดโคเนื้อในครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา ห้างร้าน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมการเลี้ยงโคเนื้อ กลุ่มเกษตรกรวิสากิจชุมชนผู้เลี้ยงโคเนื้อต่างๆ เครือข่ายโคเนื้อล้านนา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและเชี่ยวชาญการเลี้ยงโคเนื้อ ตลอดจนเกษตรกรเจ้าของโคเนื้อที่ส่งโคเนื้อเข้าร่วมประกวดทั้งจังหวัดเชียงราย และจังหวัดใกล้เคียง
 
 
ทางด้าน นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่านับว่าเป็นสิ่งน่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง สำหรับทุกคนที่มีโอกาสได้เข้าร่วมงานการประกวดโคเนื้อในครั้งนี้ การประกวดถือได้ว่าเป็นการประชาสัมพันธ์อย่างหนึ่ง ที่จะส่งผลให้เกิดการพัฒนาและขยายตลาดเนื้อโคคุณภาพ เป็นการแสดงถึงสินค้าและผลิตภัณฑ์โคเนื้อที่ได้พัฒนามาระดับหนึ่ง ทราบว่าจังหวัดเชียงราย ได้ดำเนินการส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงโคเนื้อคุณภาพ มาตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปัจจุบัน ทำให้เริ่มมีผลผลิตโคเนื้อพันธุ์ดี ที่ได้ดำเนินการปรับปรุงพันธุ์มาในระยะเวลา 6 ปี ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า กว่าจะได้ผลผลิตโคเนื้อออกมาต้องใช้เวลานานเป็นแรมปี 
 
 
ทำให้สินค้าโคเนื้อมีโอกาสของเวลาที่สามารถวางแผนการผลิตและการตลาดได้ล่วงหน้า แต่อย่างไรก็ตามผลผลิตโคเนื้อคุณภาพก็ยังมีปริมาณไม่เพียงพอในการบริโภคภายในประเทศ ยังคงมีการนำเข้าโคมีชีวิตและเนื้อโคอย่างต่อเนื่อง และปัจจุบัน ประเทศไทยต้องเจอภาวะการแข่งขันภายใต้เงื่อนไขข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ระหว่างไทยและนิวซีแลนด์และออสเตรเลีย ซึ่งมีผลบังคบใช้ 
 
 
ในวันที่ 1 มกราคม 2564 เป็นต้นมานั้น โดยมีการลดภาษี เป็น 0% หากเราไม่มีการเร่งรัดพัฒนาทั้งในด้านการผลิต การแปรรูป การตลาด ตลอดจนสร้างความเข้มแข็งให้กับสถาบันเกษตรกร จะทำให้ไม่สามารถแข่งขันทางการค้าทั้งในและต่างประเทศได้ การพัฒนาขยายช่องทางการตลาดโดยเน้นการประชาสัมพันธ์ การจัดการผลผลิตให้ได้คุณภาพ ซึ่งก็มีหลายปัจจัย โดยเฉพาะในเรื่องของพันธุ์สัตว์ ถือเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่ง ที่ต้องเร่งพัฒนาปรับปรุงพันธุ์ ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนการผลิตลดลงได้ โคเนื้อที่มีลักษณะพันธุ์ดี มีอัตราการแลกเนื้อสูง และจากงานวิจัยทางวิชาการ เนื้อที่มีคุณภาพดี ก็ต้องเป็นเนื้อที่ได้จากโคลูกผสมยุโรป พันธุ์ต่างๆ ซึ่งทราบว่า จังหวัดเชียงราย เป็นแหล่งผลิตโคเนื้อสายพันธุ์ บีฟมาสเตอร์ ซึ่งเป็นพันธุ์ที่เลี้ยงง่ายปรับตัวได้ดีในสภาพแวดล้อมบ้านเรา 
 
 
ถือเป็นเป็นโอกาสที่ดีอย่างยิ่งที่จังหวัดเชียงราย ได้เล็งเห็นความสำคัญ และได้พิจารณาจัดสรรงบประมาณให้ดำเนินการ โดยต้องการส่งเสริมให้พี่น้องเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อ ได้พัฒนาการเลี้ยงของตนเอง ก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้น สามารถที่จะพัฒนาเป็นอาชีพหลักได้ต่อไป และการประกวดโคเนื้อ โคบาลล้านนา ครั้งที่ 3 ในวันนี้จึงนับได้ว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี ให้ประโยชน์พี่น้องแก่เกษตรกร โดยในจังหวัดเชียงราย ทราบว่า มีการรวมตัวของพี่น้องเกษตรกรกลุ่มวิสาหกิจชุมชนในอำเภอต่างๆ เป็นเครือข่ายโคเนื้อล้านนา ซึ่งจะส่งผลให้กลุ่มเครือข่ายของเราเข้มแข็ง มีพลังต่อรองในเรื่องต่างๆ และทำให้เชื่อมโยงเครือข่ายการผลิตและการตลาดโคเนื้อ กับเครือข่ายอื่นๆในห่วงโซ่าการผลิต ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมั่นคง ในอาชีพต่อไป
 
 
นายบุญสิงห์ กล่าวด้วยว่า หลังจากผ่านการประกวดโคในครั้งนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าพี่น้องเกษตรกรผู้เข้าร่วมงานจะได้ประโยชน์ หรือประสบการณ์ดีๆ ที่ได้เห็นโคเนื้อที่มีวิวัฒนาการปรับปรุงพันธุ์ จนได้ผลผลิตและผลิตภัณฑ์ที่ดีมีคุณภาพ นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง ต่อครอบครัว และหวังว่ากลุ่มเครือข่ายผู้เลี้ยงโคเนื้อล้านนาจะเติบโตและเข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ และขอให้มีการจัดงาน “โคบาลล้านนาครั้งที่ 4” ให้เกิดขึ้นต่อไปในอนาคต.
 
 
 สำหรับการจัดการประกวดโคเนื้อ “โคบาลล้านนา ครั้งที่ 3” นี้ ดำเนินงานโดยสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดเชียงราย ภายใต้โครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตและสร้างเครือข่ายการผลิตสินค้าเกษตรคุณภาพอาหารปลอดภัยอย่างสร้างสรรค์ กิจกรรมการยกระดับและเพิ่มศักยภาพมาตรฐานการผลิตสินค้าเกษตรคุณภาพอาหารปลอดภัย ประจำปี 2567 โดยประชาสัมพันธ์ขยายผลการสร้างมูลค่าเพิ่มโคเนื้อ จัดให้มีการประกวดโคเนื้อขึ้น มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงโคเนื้อคุณภาพในจังหวัดเชียงราย และพัฒนาศักยภาพการปรับปรุงพันธุ์สัตว์ การคัดเลือกพันธุ์สัตว์ และมีการจัดประกวด 2 ประเภท ได้แก่ โคลูกผสมยุโรปทั่วไป และโคลูกผสมบีฟมาสเตอร์ รวมทั้งหมด 12 รุ่น 
 
 
โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อในจังหวัดเชียงราย และจังหวัดใกล้เคียงในกลุ่มภาคเหนือตอนบน 2 (จังหวัดเชียงราย จังหวัดพะเยา จังหวัดแพร่ และจังหวัดน่าน) และผู้ประกอบการแปรรูปผลิตภัณฑ์ด้านปศุสัตว์ ในจังหวัดเชียงราย ซึ่งในปีนี้เป็นครั้งที่ 3 ที่มีการจัดประกวดโคเนื้อเกิดขึ้น ตั้งแต่มีการส่งเสริมการเลี้ยงโคเนื้อมาระยะเวลา 6 ปี ที่ผ่านมา ซึ่งผลผลิตโคเนื้อที่ได้พัฒนาปรับปรุงพันธ์โดยพ่อพันธุ์สายเลือดยุโรปเริ่มเจริญเติบโตและขยายเพิ่มขึ้นในจังหวัดเชียงราย มีเป้าหมายในการพัฒนาปรับปรุงพันธุ์โคเนื้อ โดยการยกระดับสายเลือดพันธุ์โคเนื้อยุโรป เน้นโคเนื้อสายพันธุ์ บีฟมาสเตอร์ เป็นหลัก
 
 
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ปศุสัตว์เชียงราย เร่งแก้ปัญหา กระบือขาดแหล่งอาหาร “เวียงหนองหล่ม”

 

เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพืชผล น้อยนาฝาย ปศุสัตว์จังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย สำนักงานปศุสัต์อำเภอแม่จัน ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์เชียงราย เทศบาลตำบลจันจว้า อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย สำนักงานชลประทานเชียงราย และฝ่ายปกครองอำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย นำหญ้าอัดก้อน จำนวน 8,000 กิโลกรัม ส่งมอบให้กับ กลุ่มปางควายผู้เลี้ยงกระบือในพื้นที่เวียงหนองหล่ม ณ ปางควายบ้านต้นบาง หมู่ที่ 7 ตำบลจันจว้า อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรกลุ่มปางควายฯ

 

เนื่องจากในพื้นที่ประสบปัญหาจากภัยแล้งอย่างรุนแรง และ ในพื้นที่เวียงหนองหล่ม มีการก่อสร้างแหล่งเก็บกักน้ำ ของกรมชลประทาน จึงทำให้แหล่งอาหาร หรือหญ้าสำหรับเลี้ยงกระบือไม่เพียงพอต่อจำนวนกระบือที่มากถึง 1,700 ตัว
 
 
ทั้งนี้ทางทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีทำการขนลำเลียงหญ้าอัดก้อน จาก ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์เชียงราย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ยังพื้นที่ประสบปัญหา หลังจากที่ได้รับการร้องขอจาก กลุ่มปางควายผู้เลี้ยงกระบือในพื้นที่เวียงหนองหล่ม
 
 
นายพืชผล น้อยยาฝาย ปศุสัตว์จังหวัดเชียงราย กล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าว เป็นการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน หลังจากที่ทางส่วนงานที่เกี่ยวข้องก็ได้มีการประชุมวางแผน เพื่อช่วยเหลือกระบือทันที และอนาคตเตรียมดำเนินการแก้ไขปัญหาระยะยาวในการที่จะสร้างแหล่งอาหารใหม่ ให้กับกระบือ ด้วยการทำแปลงสาธิตการปลูกหญ้ารูซี่ จากนั้นจะกระจายไปในพื้นที่ เพื่อให้เพียงพอต่อจำนวนประชากรของกระบือ ซึ่งการแก้ไขปัญหาระยะยาวก็จะติดปัญหาเรื่องกระบือขาดแคลนอาหารลงได้
 
 
อย่างไรก็ตามทุกหน่วยงานในพื้นที่ มุ่งที่จะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ที่กระบือขาดแหล่งอาหาร ซึ่งจะได้มีการประสานงานกับทาง กลุ่มปางควายผู้เลี้ยงกระบือในพื้นที่เวียงหนองหล่ม เพื่อเข้าถึงปัญหาโดยเร็ว.
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ปศุสัตว์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ปศุสัตว์เชียงรายปูพรมตรวจค้น 30 ห้องเย็น มีตำรวจคุ้มกันกลัวเหตุซ้ำเพชรบูรณ์

 

เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2566 นายพืชผล น้อยนาฝาย ปศุสัตว์จังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยนายโชคชัย วงละคร สัตวแพทย์อาวุโส ด่านกักกันสัตว์เชียงราย นำเจ้าหน้าที่ส่วนงานที่เกี่ยวข้องเข้าทำการตรวจห้องเย็นของบริษัทเพาเวอร์ ซัพพลาย จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ริมภนนพหลโยธิน ต.สันทราย อ.เมืองเชียงราย ซึ่งเป็น 1 ในห้องเย็น 30 แห่งของ จ.เชียงราย เพื่อตรวจเช็คสต๊อกสินค้าว่ามีสินค้าผิดกฎหมายหรือไม่ โดยเฉพาะสินค้าประเภทหมูแช่แข็ง โดยมีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเชียงราย นำกำลังเข้ามาดูร่วมตรวจค้นเพื่อดุแลความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด ภายหลังจากเกิดเหตุเจ้าของห้องเย็นใน จงเพชรบูรณ์ก่อเหตุยิงปศุสัตว์จังหวัดเจนเสียชีวิตขณะเข้าทำการตรวจค้น จึงนำกำลังตำรวจมาช่วยคุ้มกันเพื่อให้เกิดเหตุซ้ำรอย

 

นายพืชผล เปิดเผยว่า การตรวจต้นเป็นไปตามมาตรการป้องกันการลักลอบขนเนื้อโค กระบือและสุกร ซึ่งทางร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการให้ดำเนินการอย่างเข้มงวด โดยให้ปศุสัตว์ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจค้นห้องเย็นและจุดเสี่ยงต่อการลักลอบนำเข้าเนื้อเถื่อนทั่วประเทศ โดย จ.เชียงราย มีห้องเย็นประมาณ 30 กว่าแห่ง ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเพื้นที่ตัวเมืองเชียงรายเสียเป้นส่วนใหญ่ วันแรกนี้จะมีการตรวจสอบก่อน 2 แห่ง และจะทยอยตรวจสอบให้ครบทั้ง 30 แห่งภ่ายในวันที่ 20 ตุลาคมที่จะถึงนี้
 
 
นายพืชผล กล่าวว่าการตรวจสอบจะมีการตรวจสอบทั้งเอกสารการขออนุญาติ เอกสารการขนย้าย และจำนวนสินค้าทั้งหมด ทั้งใบรายงานและสถานที่กักเก็บสินค้า ซึ่งอาจต้องใช้เวลาในการตรวจสอบแต่เบื้องต้นยังไม่พบสินค้าหรือเอกสารที่ส่อไปในทางที่ผิดกฎหมาย ทั้งนี้ จ.เชียงราย เป็นจังหวัดชายแดนทางปศุสัตว์ได้มีการเฝ้าระวังร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวทั้งด่านกักกันสัตว์ ศุลกากร ตำรวจและทหารในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาก็ไม่พบการกระทำผิด มีการตรวจพบการลักลอบนำเนื้อสุกรเถื่อนเข้าทางชายแดนบ้างแต่เพียงครั้งเดียวก็ไม่พบอีกเลย
 
 
นายพืชผลกล่าวด้วยว่ามาตรการหลังจากนี้ก็จะบูรณาการร่วมกับหน่วยงานทุกส่วนเข้ามาสกัดกั้นอย่างจริงจัง ทั้งก่ารลำลเยงผ่านห้องเย็นภายในประเทศ และการลักลอบนำเข้าหรือผ่านชายแดน รวมไปถึงการซื้อขายผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ก็จะมีการเฝ้าระวังตัวเอง หากพื้นที่ไหนมีความเสี่ยงก็จะขอกำลังจากตำรวจและทหารเข้าร่วมในการตรวจค้นเพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเป็นอันตรายกับเจ้าหน้าที่เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยกับ จ.เพชรบูรณ์อีก
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ปศุสัตว์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

ปศุสัตว์เชียงราย ประกาศเขตโรคระบาด “บ้านดอยสะโง้” หลังหมูดำตายระนาว

 
วันที่ 30 กันยายน 2566 สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดเชียงราย นำโดย นายพืชผล น้อยนาฝาย ปศุสัตว์จังหวัดเชียงรายพร้อมด้วย ปศุสัตว์อำเภอเชียงแสน ด่านกักกันสัตว์เชียงราย สำนักงานปศุสัตว์เขต 5 และศูนย์วิจัยและพัฒนาการสัตวแพทย์ภาคเหนือตอนบน จ.ลำปาง
 
ลงพื้นที่จัดเวทีหารือร่วมกับผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำตำบล และชาวบ้านในพื้นที่บ้านดอยสะโง้ หมู่ที่ 7 ตำบลศรีดอนมูล อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย โดยดำเนินการประชาสัมพันธ์ประกาศเขตโรคระบาดสัตว์ชั่วคราว ชนิดโรคอหิวาห์แอฟริกาในสุกร ชนิดสุกร และหมูป่า ในพื้นที่บ้านดอยสะโง้ หมู่ที่ 7 ตำบลศรีดอนมูล อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย และพื้นที่ในรัศมี 5 กิโลเมตรรอบจุด เกิดโรค
 
โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 20 แห่งพรบ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 ให้ประชาชนและเกษตรกรในพื้นที่ทราบ และแจ้งมาตรการดำเนินการลดความเสี่ยงของการระบาดโดยการทำลายสุกรที่เหลือในพื้นที่ทั้งหมด โดยอาศัยอำนาจสัตวแพทย์ตามมาตรา 13 (4) แห่ง พรบ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 
 
เนื่องจากสงสัยว่าสุกรอาจป่วยด้วยโรคอหิวาห์แอฟริกาในสุกรซึ่งเป็นโรคที่ไม่มียารักษาและไม่มีวัคซีนป้องกันโรค และจะดำเนินการชดใช้การทำลายสุกรตามระเบียบของกรมปศุสัตว์ นอกจากนี้ และด่านกักกันสัตว์เชียงราย ตั้งด่านสกัดกั้นการเคลื่อนย้าย เพื่อป้องปรามการลักลอบเคลื่อนย้ายในพื้นที่อีกด้วย
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
SOCIETY & POLITICS

ปศุสัตว์เชียงราย จัดพิธีมอบโคพระราชทาน ให้เกษตรกร อ.แม่สาย

 
วันนี้ (17 สิงหาคม 66) นายศรัญยู มีทองคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานพิธีมอบโคพระราชทาน ตามโครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริ ณ อาคารอเนกประสงค์ประชารัฐ บ้านป่าแดงหลวง หมู่ที่ 11 ตำบลเกาะช้าง อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ให้แก่ นายสนิท ก๋องคำ เกษตรกรชาวตำบลเกาะช้าง โดยมี นายพืชผล น้อยนาฝาย ปศุสัตว์จังหวัดเชียงราย ปลัดอำเภอแม่สาย หัวหน้าส่วนราชการ และเกษตรกรในพื้นที่เข้าร่วมพิธี ซึ่งเป็นโครงการที่สำคัญและครอบคลุมพื้นที่ทั้งประเทศ มีหน่วยงานของกรมปศุสัตว์ที่เกี่ยวข้องหลายหน่วยงานทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค 
 
มีการบริหารโครงการในรูปแบบของคณะกรรมการซึ่งมีอธิบดีกรมปศุสัตว์เป็นประธาน และได้มอบอำนาจให้ปศุสัตว์เขตเป็นผู้กำกับดูแลในพื้นที่ 9 เขต ปศุสัตว์ทั่วประเทศ ในการช่วยส่งเสริมด้านปศุสัตว์เพื่อแก้ปัญหาความยากจนให้แก่เกษตรกร ทำให้มีโอกาสได้รับโค-กระบือ เป็นกรรมสิทธิ์ มีทรัพย์สิน มีอาชีพ และมีรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งโคเป็นสัตว์ที่มีประโยชน์มหาศาลต่อวิถีชีวิตของเกษตรกรไทย ผลผลิตที่เป็นลูกเป็นเสมือนเงินฝากประจำปี ที่จะสร้างรายได้มั่นคงแก่ผู้เลี้ยง การเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร โดยเฉพาะมูลของโคจะช่วยลดรายจ่าย เพิ่มเป็นรายได้รายวันที่เกิดขึ้นสม่ำเสมอ จนสิ้นอายุของโคตัวนั้น สามารถแก้ไขปัญหาความยากจนของเกษตรกร ฟื้นฟูสภาพธรรมชาติสิ่งแวดล้อม สืบสานวิถีชีวิตวัฒนธรรมที่ดีงามของชนบทไทย
 
นายพืชผล น้อยนาฝาย ปศุสัตว์ จังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ด้วยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ทรงมีพระราชประสงค์ปล่อยชีวิตโคเพศผู้ 1 ตัว เพศเมีย 1 ตัว เพื่ออุทิศบุญกุศลและเสริมความเป็นสิริมงคล เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2566 และทรงพระราชทานโคดังกล่าวไปให้ความช่วยเหลือเกษตรกร คือ นายสนิท กองคำ อยู่บ้านเลขที่ 107/4 หมู่ที่ 11 ตำบลเกาะช้าง อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยโคพระราชทานที่ได้รับมอบในวันนี้ ได้รับการตรวจสุขภาพและฉีดวัคซีนป้องกันโรคเรียบร้อยแล้ว และได้ขนย้ายมาจากคอกกักสัตว์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ยังความปราบปลื้มปีติยินดีให้แก่นายสนิท ก๋องคำ และครอบครัวอย่างหาที่สุดมิได้
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ปศุสัตว์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News