Categories
ECONOMY

ลอยกระทงปีนี้คึกคัก เงินสะพัดทั่วประเทศ

ชาวไทยยังคงนิยมประเพณีลอยกระทง แม้ค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยสูงขึ้น

เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 ผลสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคในช่วงเทศกาลลอยกระทงประจำปี 2567 ของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยให้เห็นว่าคนไทยส่วนใหญ่ยังคงให้ความสำคัญกับประเพณีลอยกระทง โดยมีถึง 50.7% ที่วางแผนจะร่วมกิจกรรมนี้ และอีกส่วนหนึ่งเลือกที่จะทำกิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ทานอาหารนอกบ้าน หรือเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ

กระทงย่อยสลายง่ายมาแรง เงินสะพัดกว่าหมื่นล้าน

ที่น่าสนใจคือ พฤติกรรมการเลือกซื้อกระทงของผู้บริโภคในปีนี้ให้ความสำคัญกับกระทงที่ทำจากวัสดุธรรมชาติและย่อยสลายง่ายเป็นอันดับหนึ่ง สะท้อนให้เห็นถึงความตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังคำนึงถึงความสวยงาม ราคา และความสะดวกในการหาซื้ออีกด้วย

ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อหัวเพิ่มขึ้น แต่คนยังคงออกมาใช้จ่าย

แม้ว่าค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อหัวในการเฉลิมฉลองวันลอยกระทงในปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 2,449.18 บาท เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อหัวอยู่ที่ 2,075.58 บาท แต่ก็ยังมีมูลค่าการใช้จ่ายรวมสูงถึง 10,355.18 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในรอบ 9 ปี สะท้อนให้เห็นว่าแม้จะมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น แต่คนไทยก็ยังคงออกมาใช้จ่ายในช่วงเทศกาลนี้

ปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจใช้จ่าย

ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการตัดสินใจใช้จ่ายในช่วงเทศกาลลอยกระทง ได้แก่

  • ความต้องการที่จะสืบสานประเพณี: ผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังคงให้ความสำคัญกับการสืบทอดประเพณีอันดีงามของไทย
  • การผ่อนคลายความเครียด: การออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านและร่วมงานเทศกาล เป็นการช่วยให้ผู้คนได้ผ่อนคลายจากความเครียดในชีวิตประจำวัน
  • การใช้เวลากับครอบครัวและเพื่อนฝูง: การลอยกระทงเป็นโอกาสที่ดีในการใช้เวลากับคนที่รัก
  • การส่งเสริมเศรษฐกิจ: การใช้จ่ายในช่วงเทศกาลช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ

แนวโน้มการใช้จ่าย

จากผลสำรวจพบว่า ผู้บริโภคยังคงนิยมใช้เงินสดในการชำระค่าใช้จ่าย แต่ก็มีการใช้ช่องทางการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น เช่น Mobile Banking, QR Payment, บัตรเดบิต และบัตรเครดิต ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการใช้จ่ายที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน

สรุป

เทศกาลลอยกระทงปี 2567 ยังคงเป็นที่นิยมของคนไทย แม้ว่าจะมีความท้าทายจากสถานการณ์เศรษฐกิจ แต่ผู้คนก็ยังคงออกมาใช้จ่ายและร่วมกิจกรรมต่างๆ อย่างคึกคัก โดยมีแนวโน้มที่ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมากขึ้น

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
FOLLOW ME
MOST POPULAR
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

มฟล. นำบุญถวายผ้าพระกฐิน สืบสานประเพณี

มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง นำชุมชนร่วมถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน สืบสานประเพณีอันดีงาม

เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 บรรยากาศแห่งความศรัทธาและความสามัคคีเปี่ยมล้น ณ วัดเชตวัน (วัดพระนอน) อำเภอเมืองเชียงราย เมื่อมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ร่วมกับชุมชน และหน่วยงานภาครัฐ จัดพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน ประจำปี 2567 โดยมีผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มัชฌิมา นราดิศร อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เป็นประธานในพิธี และนายประสงค์ หล้าอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ให้เกียรติร่วมเป็นสักขีพยาน

สืบทอดประเพณีอันดีงาม

พิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทานในครั้งนี้ ถือเป็นประเพณีอันดีงามที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงได้ปฏิบัติสืบทอดกันมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการสนับสนุนพระพุทธศาสนา และส่งเสริมให้บุคลากร นักศึกษา และชุมชนได้ร่วมกันทำบุญกุศล นอกจากนี้ ยังเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

พระราชทานผ้าพระกฐินจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า

ผ้าพระกฐินที่นำมาถวายในครั้งนี้ เป็นพระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ต่อพุทธศาสนิกชนชาวไทย และเป็นเกียรติอย่างสูงแก่ชาวจังหวัดเชียงราย

ยอดเงินบริจาคสูงเกินเป้าหมาย

จากการร่วมแรงร่วมใจของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง คณะศรัทธาวัดเชตวัน และพุทธศาสนิกชน ทำให้ยอดเงินบริจาคในการถวายผ้าพระกฐินพระราชทานในครั้งนี้สูงถึง 1,515,824.29 บาท ซึ่งเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยแบ่งเป็นเงินบริจาคจากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จำนวน 753,240.29 บาท และจากคณะศรัทธาวัดเชตวัน และพุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธา จำนวน 762,584 บาท

ความสำคัญของการทำบุญ

การทำบุญถวายผ้าพระกฐิน เป็นการสร้างกุศลแก่ตนเองและครอบครัว นอกจากนี้ ยังเป็นการสนับสนุนพระภิกษุสามเณรในการปฏิบัติธรรม และช่วยให้พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองสืบไป

เสียงสะท้อนจากผู้เข้าร่วมพิธี

นายประสงค์ หล้าอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า การได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทานในครั้งนี้ รู้สึกปลาบปลื้มใจเป็นอย่างยิ่ง และขอชื่นชมมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงที่ได้จัดกิจกรรมอันเป็นประโยชน์ต่อสังคมเช่นนี้

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มัชฌิมา นราดิศร อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กล่าวว่า การจัดพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน เป็นกิจกรรมที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของมหาวิทยาลัยที่มุ่งเน้นการพัฒนาคน พัฒนาสังคม และพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งเสริมให้บุคลากร นักศึกษา และชุมชน ได้ตระหนักถึงคุณค่าของพระพุทธศาสนา และร่วมกันทำบุญกุศล

บทส่งท้าย

พิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทานของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ไม่เพียงแต่เป็นการสืบทอดประเพณีอันดีงามเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสามัคคีของชุมชน และความตั้งใจในการทำความดีของทุกคน ซึ่งจะนำมาซึ่งความสุข ความเจริญ และความสงบสุขแก่ทุกหมู่เหล่า

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
CULTURE

พิธีสมโภชผ้ากฐินพระราชทาน ณ วัดหนองแวง ขอนแก่น

พิธีสมโภชผ้าพระกฐินพระราชทาน ประจำปี 2567 ณ วัดหนองแวง จังหวัดขอนแก่น: ร่วมสืบสานประเพณีและความสามัคคีของชุมชน

เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 กระทรวงวัฒนธรรมได้จัดพิธี สมโภชผ้าพระกฐินพระราชทาน ประจำปี พ.ศ. 2567 ณ วัดหนองแวง พระอารามหลวง อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น เพื่อสืบสานประเพณีทางพุทธศาสนาและสร้างความเป็นสิริมงคลให้กับประชาชนในพื้นที่ โดยได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานผ้าพระกฐิน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลกฐินในปีนี้

ผู้นำพิธีทั้งฝ่ายสงฆ์และฆราวาส

พิธีในครั้งนี้มี พระเทพวิสุทธิคุณ เจ้าคณะจังหวัดขอนแก่นและเจ้าอาวาสวัดหนองแวง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และ นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานฝ่ายฆราวาส นอกจากนี้ยังมีผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงวัฒนธรรมและผู้แทนจากหน่วยงานราชการในจังหวัดขอนแก่น อาทิ นางโชติกา อัครกิจโสภากุล รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม และ นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา พร้อมด้วยประชาชนเข้าร่วมพิธีอย่างคับคั่ง

กิจกรรมที่จัดขึ้นในพิธี

พิธีสมโภชครั้งนี้เต็มไปด้วยกิจกรรมที่สร้างความประทับใจและความสามัคคีในชุมชน โดยมีการจัดขบวนแห่องค์ผ้าพระกฐินพระราชทานอย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งประกอบด้วยกิจกรรมสำคัญดังนี้:

  1. ขบวนแห่องค์ผ้าพระกฐินพระราชทาน: ขบวนแห่ที่ยิ่งใหญ่และเป็นระเบียบเรียบร้อย โดยมีประชาชนจากชุมชนใกล้เคียงเข้าร่วมอย่างคึกคัก
  2. พิธีเปิดการแสดงสมโภช: การแสดงศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นที่จัดขึ้นเพื่อสมโภชองค์ผ้าพระกฐิน ซึ่งสร้างบรรยากาศแห่งความปลื้มปิติและความเป็นสิริมงคล
  3. การถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์: พิธีถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อแสดงความจงรักภักดีและความเคารพต่อพระองค์
  4. พิธีเปิดกรวยกระทงดอกไม้: ถวายความเคารพและรับผ้าพระกฐิน พร้อมทั้งการถวายเครื่องบริวารแด่เจ้าอาวาสวัดหนองแวง

ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน

ในพิธีครั้งนี้ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย นำโดย นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่และนักวิชาการวัฒนธรรมจากจังหวัดเชียงรายเข้าร่วมเพื่อสนับสนุนการจัดงานให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติ นอกจากนี้ยังมี นางพรทิวา ขันธมาลา นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการพิเศษ และ นายเอกณัฏฐ์ กาศโอสถ นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ ที่ร่วมลงพื้นที่เพื่อช่วยเสริมสร้างความเข้าใจในความสำคัญของประเพณีดังกล่าว

ความสำคัญของพิธีสมโภชผ้าพระกฐิน

พิธีสมโภชผ้าพระกฐินพระราชทานนี้ เป็นการสืบสานประเพณีทางพุทธศาสนาที่มีมาอย่างยาวนานในประเทศไทย และเป็นโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์และความสามัคคีในชุมชน นอกจากนี้ยังเป็นการถวายบุญเพื่อเป็นสิริมงคลให้แก่ประชาชนและประเทศชาติ ทั้งนี้ การทอดถวายผ้าพระกฐิน ยังถือเป็นการสนับสนุนให้วัดและพระสงฆ์ได้รับการบำรุงรักษาและพัฒนาทางด้านศาสนาอย่างต่อเนื่อง

บทสรุป

พิธีสมโภชผ้าพระกฐินพระราชทานประจำปีนี้ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สร้างความประทับใจและเสริมสร้างความศรัทธาของประชาชนชาวขอนแก่นและพื้นที่ใกล้เคียง การร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและประชาชนทั่วไป เป็นตัวอย่างของการรักษาและสืบสานประเพณีอันดีงามของไทย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานวัฒนธรรม เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

มหากฐิน มหากุศล เชียงราย 2567 พลังศรัทธาไทย วัดแสงแก้วโพธิญาณ

พิธีทอดกฐินสามัคคี ประจำปี 2567 “มหากฐิน มหากุศล” ณ วัดแสงแก้วโพธิญาณ

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม 2567 เวลา 15.30 น. วัดแสงแก้วโพธิญาณ ตำบลเจดีย์หลวง อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย ได้จัดพิธีทอดกฐินสามัคคีประจำปี พ.ศ. 2567 ภายใต้ชื่อ “มหากฐิน มหากุศล” โดยมีพระมหาสุบรรณ มหาคัมภีโร เจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวงและเจ้าคณะอำเภอแม่สรวย เป็นประธานในพิธีทอดกฐิน ส่วนพระภาวนารัตนญาณวิ (ครูบาอริยชาติ อริยจิตฺโต) เจ้าอาวาสวัดแสงแก้วโพธิญาณ เป็นผู้รับการถวายกฐิน โดยมีพุทธศาสนิกชน ศิษยานุศิษย์ และคณะศรัทธาที่นับถือวัดแสงแก้วโพธิญาณเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง สะท้อนถึงความศรัทธาอันลึกซึ้งในพระพุทธศาสนาและในประเพณีทอดกฐินสามัคคี

ความสำคัญของพิธีทอดกฐิน

การทอดกฐิน หรือการกรานกฐินเป็นหนึ่งในกิจกรรมทางพระวินัยที่พระภิกษุสงฆ์พึงกระทำร่วมกันภายในระยะเวลาที่กำหนดในแต่ละปี ตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 จนถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 การทอดกฐินมีวัตถุประสงค์ที่สำคัญในการส่งเสริมความสามัคคีในหมู่คณะสงฆ์ รวมถึงการช่วยเหลือพระภิกษุที่มีจีวรชำรุดหรือขาดแคลนด้วย โดยการถวายผ้ากฐินนี้จะถูกจัดเป็นสังฆทาน กล่าวคือ การถวายแก่คณะสงฆ์ทั้งหมดโดยไม่เจาะจงแก่ภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง เมื่อผ้ากฐินได้รับการถวาย พระภิกษุในวัดนั้น ๆ จะนำผ้ามาอุปโลกน์หรือการมอบให้แก่ภิกษุรูปใดรูปหนึ่งในคณะสงฆ์เพื่อใช้งาน ซึ่งการทอดกฐินของพุทธศาสนิกชนจึงถือว่าเป็นการทำบุญที่มีอานิสงส์สูง และเป็นประเพณีที่สำคัญของคนไทยในพุทธศาสนาอย่างยิ่ง

วัตถุประสงค์ของพิธีทอดกฐินสามัคคี

การทอดกฐินนอกจากจะเป็นการบำเพ็ญบุญส่วนตัวและร่วมบุญกับหมู่คณะแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมการประสานงานและการรวมพลังในชุมชน โดยผู้มาร่วมพิธีจะได้ร่วมกันบำเพ็ญบุญสร้างกุศลที่ช่วยสนับสนุนคณะสงฆ์ให้สามารถดำเนินกิจวัตรและปฏิบัติธรรมได้อย่างราบรื่น ในปีนี้การทอดกฐินสามัคคีจัดขึ้นภายใต้ชื่อ “มหากฐิน มหากุศล” ซึ่งเน้นย้ำถึงความสำคัญของบุญกุศลอันใหญ่ยิ่งที่ผู้ร่วมงานทุกคนได้มีส่วนร่วมในการถวาย

บรรยากาศของพิธีและความศรัทธาของชุมชน

ภายในงานมีประชาชนจากหลายพื้นที่เดินทางมาร่วมพิธีอย่างหนาแน่น ทั้งชาวบ้านในอำเภอแม่สรวยและจังหวัดใกล้เคียงที่มีความศรัทธาในครูบาอริยชาติ อริยจิตฺโต เจ้าอาวาสวัดแสงแก้วโพธิญาณ ทำให้บรรยากาศของพิธีเป็นไปด้วยความสงบและศรัทธา โดยทุกคนที่มาร่วมงานต่างตั้งใจฟังการสวดมนต์และการเทศน์จากครูบาอริยชาติ ซึ่งท่านได้กล่าวถึงความสำคัญของการบำเพ็ญกุศลและการรักษาความสามัคคีในหมู่คณะ นอกจากนี้ท่านยังให้ข้อคิดเกี่ยวกับการใช้ชีวิตอย่างสมถะและการบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น

การสนับสนุนจากหน่วยงานวัฒนธรรม

พิธีทอดกฐินสามัคคีครั้งนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานวัฒนธรรมของจังหวัดเชียงราย โดยนายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ได้มอบหมายให้นางวนิดาพร ธิวงศ์ ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม และนายสุพจน์ ทนทาน นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ เข้าร่วมพิธีถวายผ้ากฐินสามัคคีวัดแสงแก้วโพธิญาณในครั้งนี้อีกด้วย เพื่อเป็นการสนับสนุนและส่งเสริมกิจกรรมทางศาสนาที่สำคัญของชุมชน การสนับสนุนของหน่วยงานเหล่านี้ช่วยเพิ่มคุณค่าทางวัฒนธรรมและศาสนาในชุมชน ทำให้ประเพณีการทอดกฐินยังคงดำรงอยู่และเติบโตไปอย่างต่อเนื่องในแต่ละปี

การอนุเคราะห์ภิกษุและการสนับสนุนคณะสงฆ์

การทอดกฐินยังมีส่วนสำคัญในการช่วยเหลือพระภิกษุที่ขาดแคลนหรือมีจีวรที่ชำรุด การถวายผ้ากฐินในแต่ละปีจะช่วยให้พระสงฆ์ที่ได้รับการอุปโลกน์สามารถนำจีวรไปใช้ในการประกอบกิจของสงฆ์ได้อย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้ การสนับสนุนนี้ยังช่วยให้วัดสามารถบำรุงและซ่อมแซมอาคารสถานที่ของวัดและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องใช้ในกิจการทางศาสนา ทำให้วัดแสงแก้วโพธิญาณและวัดอื่น ๆ ในชุมชนสามารถดำเนินการสอนธรรมะและปฏิบัติศาสนกิจได้อย่างต่อเนื่อง

บทสรุป: บุญใหญ่ของชาวพุทธในวันทอดกฐินสามัคคี

พิธีทอดกฐินสามัคคี ณ วัดแสงแก้วโพธิญาณประจำปี 2567 นี้ เป็นอีกครั้งที่ชาวพุทธได้มีโอกาสบำเพ็ญบุญร่วมกันเพื่อสร้างกุศลอันยิ่งใหญ่ การทำบุญทอดกฐินไม่เพียงแต่เป็นการสนับสนุนคณะสงฆ์เท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างความสามัคคีและความผูกพันในชุมชน รวมถึงการร่วมแรงร่วมใจกันทำบุญให้แก่คณะสงฆ์ ซึ่งเป็นการสืบสานประเพณีที่สืบทอดมาหลายยุคหลายสมัย อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นให้คนรุ่นใหม่มีความตระหนักถึงคุณค่าของการทำบุญและการรักษาประเพณีวัฒนธรรมที่สำคัญของชาวพุทธไทย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สนง.วัฒนธรรม เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News