Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

แองเจิลเชียงรายคืนสนามบิน ต้อนรับนักท่องเที่ยว หลังดราม่าหนัก

ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงรายต้อนรับ “Angel Of Chiang Rai” อย่างเป็นทางการ

ฟื้นคืนแลนด์มาร์กศิลปะเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม

[ประเทศไทย, 7 มีนาคม 2568] – ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย จัดกิจกรรมต้อนรับ “Angel Of Chiang Rai” ณ อาคารผู้โดยสาร โดยมี นางแสงเดือน อ้องแสนคำ รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ด้านสนับสนุนธุรกิจ) และ ดร.สิทธิปัฐพ์ มงคลอภิบาลกุล รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ด้านปฏิบัติการและบำรุงรักษา) ร่วมมอบของที่ระลึกตราสัญลักษณ์ AOT ให้แก่ผู้โดยสาร พร้อมกิจกรรมถ่ายภาพร่วมกับผลงานศิลปะอันโดดเด่นนี้

“Angel Of Chiang Rai” เป็นผลงานของ อาจารย์ไกรวุฒิ ดอนจักร ศิลปินจากสมาคมขัวศิลปะเชียงราย ที่สร้างสรรค์ขึ้นโดยได้รับแรงบันดาลใจจากการรวม 10 ชาติพันธุ์ในอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ประติมากรรมนี้เคยถูกจัดแสดงที่ด่านพรมแดนไทย-เมียนมาแห่งที่ 1 ก่อนที่จะถูกย้ายไปจัดแสดง ณ พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยเมืองเชียงราย (CCAM) และได้รับการบูรณะซ่อมแซมก่อนที่จะกลับมาตั้ง ณ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงรายในเดือนมีนาคม 2568

กระแสดราม่าจากอดีตสู่ปัจจุบัน

ก่อนหน้านี้ ประติมากรรม “Angel Of Chiang Rai” เคยตกเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ หลังเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ทำให้ชาวบ้านบางส่วนเชื่อมโยงเหตุการณ์น้ำท่วมกับการติดตั้งรูปปั้นดังกล่าว ณ ด่านพรมแดนไทย-เมียนมาแห่งที่ 1 โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่า แม้น้ำจะท่วมสูง แต่รูปปั้นกลับไม่ได้รับความเสียหาย ส่งผลให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์และความเชื่อที่แตกต่างกันออกไป

ในขณะเดียวกัน อาจารย์ไกรวุฒิ ดอนจักร ศิลปินเจ้าของผลงาน ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ศิลปะไม่มีอำนาจในการก่อภัยพิบัติ” และขอให้ผู้ที่เชื่อมโยงงานศิลปะกับภัยธรรมชาติ ใช้เหตุผลและหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ในการอธิบายมากกว่าความเชื่อส่วนบุคคล นอกจากนี้ อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ ยังได้ออกมาปกป้องงานศิลปะดังกล่าว โดยกล่าวว่า เป็นเรื่องไร้สาระที่จะโทษรูปปั้นว่าเป็นต้นเหตุของน้ำท่วม” และเสนอให้ย้ายรูปปั้นไปยังพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยเชียงรายเพื่อป้องกันกระแสต่อต้านที่อาจเกิดขึ้น

“Angel Of Chiang Rai” กับบทบาทใหม่ที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย

การนำ “Angel Of Chiang Rai” กลับมาติดตั้งที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ไม่ได้เป็นเพียงการคืนแลนด์มาร์กศิลปะให้กับจังหวัดเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาคุณภาพการให้บริการผู้โดยสารของท่าอากาศยาน โดยมุ่งเน้นการสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นมิตรต่อผู้เดินทาง รวมถึงการส่งเสริมวัฒนธรรมท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ

ทั้งนี้ การนำงานศิลปะกลับมาติดตั้งยังสอดคล้องกับแนวทางขององค์การยูเนสโก ที่ประกาศให้เชียงรายเป็น เมืองสร้างสรรค์ด้านการออกแบบ” (City of Design) ซึ่งเป็นโอกาสในการต่อยอดด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของจังหวัด

ความคิดเห็นของประชาชนต่อ “Angel Of Chiang Rai”

แม้ว่าจะมีการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับรูปปั้นในอดีต แต่ปัจจุบัน “Angel Of Chiang Rai” ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากประชาชน นักท่องเที่ยว และผู้โดยสารที่เดินทางมายังท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย หลายคนเห็นว่างานศิลปะชิ้นนี้เป็นตัวแทนของวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ของกลุ่มชาติพันธุ์ในเชียงราย และสมควรได้รับการอนุรักษ์และเผยแพร่ในฐานะส่วนหนึ่งของมรดกศิลปะร่วมสมัย

อย่างไรก็ตาม ยังมีกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับการนำรูปปั้นกลับมาติดตั้ง โดยให้เหตุผลว่าความเชื่อทางวัฒนธรรมเป็นสิ่งที่ควรเคารพ และหากประชาชนบางส่วนยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับฮวงจุ้ยหรืออาถรรพ์ ก็ควรหาสถานที่ที่เหมาะสมมากกว่าสำหรับการจัดแสดง

สถิติที่เกี่ยวข้องกับศิลปะและการท่องเที่ยวในเชียงราย

จากข้อมูลของสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พบว่า เชียงรายเป็นหนึ่งในจังหวัดที่ได้รับความนิยมด้านการท่องเที่ยวเชิงศิลปะและวัฒนธรรม โดยในปี 2567 มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนจังหวัดเชียงรายกว่า 2.8 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ประมาณ 15% นอกจากนี้ พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยเชียงราย (CCAM) มีผู้เข้าชมเพิ่มขึ้นกว่า 30% หลังจากมีการจัดแสดงผลงานศิลปะที่หลากหลาย รวมถึงการนำ “Angel Of Chiang Rai” กลับมาติดตั้งอีกครั้ง

นักวิชาการด้านศิลปะและวัฒนธรรมให้ความเห็นว่า การใช้ศิลปะเป็นเครื่องมือในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเป็นแนวทางที่มีศักยภาพสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวัดเชียงรายที่มีความโดดเด่นด้านศิลปะร่วมสมัยและวัฒนธรรมชาติพันธุ์ หากมีการบริหารจัดการและประชาสัมพันธ์ที่เหมาะสม อาจทำให้เชียงรายก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางศิลปะระดับนานาชาติได้ในอนาคต

บทสรุป

การกลับมาของ “Angel Of Chiang Rai” ที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ไม่เพียงแต่เป็นการคืนแลนด์มาร์กให้กับจังหวัด แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความหลากหลายทางวัฒนธรรมและการพัฒนาเมืองผ่านศิลปะ อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่เคยเป็นกระแสดราม่าในอดีตสะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างทางความเชื่อในสังคมไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรได้รับการพูดคุยและทำความเข้าใจร่วมกัน

ในขณะที่เชียงรายยังคงเดินหน้าส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม การใช้ศิลปะเป็นสื่อกลางในการสร้างการรับรู้และเชื่อมโยงกับนักท่องเที่ยวอาจเป็นแนวทางที่ช่วยให้เมืองนี้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : Mae Fah Luang Chiang Rai International Airport – CEI

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
AROUND CHIANG RAI ECONOMY

เชียงราย-กัวลาลัมเปอร์ บินตรง 4 เดือนผู้โดยสาร เกือบหมื่นคน

เชียงรายดัน “ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง” สู่ศูนย์กลางการบินภูมิภาค เสริมเศรษฐกิจท่องเที่ยวและการค้าชายแดน

เชียงราย, 4 มีนาคม 2568 – ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.) กำลังเดินหน้าขยายศักยภาพสู่การเป็นศูนย์กลางการบินของภาคเหนือตอนบน ล่าสุดเที่ยวบิน กัวลาลัมเปอร์ – เชียงราย – กัวลาลัมเปอร์ (AK871-872) ซึ่งเป็นเส้นทางบินระหว่างประเทศเพียงเส้นทางเดียวของสนามบินเชียงรายในช่วงฤดูหนาวที่ผ่านมา ได้ทำการบินเที่ยวสุดท้ายเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 หลังจากเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน 2567 โดยให้บริการนักท่องเที่ยวจากหลายประเทศ เช่น ไทย มาเลเซีย จีน และอินโดนีเซีย เป็นระยะเวลา 4 เดือน มีผู้โดยสารเดินทางเข้า-ออกเชียงรายรวมเกือบ 10,000 คน

ตลอดช่วงเทศกาลปีใหม่ เส้นทางบินนี้ได้รับความนิยมอย่างสูง โดยมีผู้โดยสารจองเต็มทุกเที่ยวบินทั้งขาเข้าและขาออก สะท้อนถึงความต้องการเส้นทางบินตรงระหว่างเชียงรายกับเมืองหลักในต่างประเทศ ทำให้เกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านภาคการท่องเที่ยว การค้า และบริการของจังหวัดเชียงราย

ศักยภาพของท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย

นาวาอากาศตรี สมชนก ศรีปัญญา ผู้อำนวยการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย เปิดเผยว่า ทชร. ซึ่งเป็นท่าอากาศยานระดับภูมิภาค (Regional Airport) พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภาคเหนือตอนบน รองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมการบินในอนาคต ขับเคลื่อนควบคู่ไปกับจังหวัดเชียงรายตามเจตนารมณ์

สนามบินเป็นกลไกในการผลักดันเศรษฐกิจของจังหวัด”

ปัจจุบัน ทชร.มีความสามารถรองรับผู้โดยสารได้ปีละ 3 ล้านคน และมีศักยภาพก้าวสู่การเป็นท่าอากาศยานที่มีมาตรฐานระดับสากล โดยมีแผนดำเนินการเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน รวมถึงพัฒนาพื้นที่ภายในสนามบินให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น การพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการบิน ศูนย์กระจายสินค้าทางอากาศ และโครงการเชื่อมโยงสนามบินกับภูมิภาคจีนตอนใต้และประเทศลุ่มแม่น้ำโขง

เส้นทางบินระหว่างประเทศ กัวลาลัมเปอร์ – เชียงราย กับโอกาสในอนาคต

สายการบินไทยแอร์เอเชียเตรียมกลับมาเปิดให้บริการเส้นทางบินตรงระหว่าง กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย – เชียงราย อีกครั้งในช่วงฤดูหนาวปลายปี 2568 โดยคาดว่าจะมีให้บริการ 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ (เฉพาะวันอังคาร วันพฤหัสบดี และวันเสาร์)

เส้นทางบินดังกล่าวถือเป็นโอกาสสำคัญในการดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียและนักเดินทางจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และจีนตอนใต้ ที่สามารถเดินทางต่อมายังเชียงรายได้สะดวกขึ้น ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงรายอย่างมีนัยสำคัญ

แผนการพัฒนาท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย

เพื่อรองรับการขยายตัวของจำนวนผู้โดยสารและเส้นทางบินระหว่างประเทศ ทอท. ได้เร่งดำเนินโครงการพัฒนาระยะที่ 1 ของสนามบินเชียงราย ซึ่งประกอบด้วย

  • ก่อสร้างระบบทางขับขนานด้านทิศเหนือ – เปิดให้บริการแล้ว
  • ปรับปรุงพื้นที่หัวทางวิ่งด้าน 03 และ 21 – แล้วเสร็จสมบูรณ์
  • ขยายถนนทางเข้า-ออกสนามบิน – อยู่ระหว่างการลงนามสัญญาของผู้รับจ้าง
  • ก่อสร้างอาคารรับรองบุคคลสำคัญ (VIP/VVIP) – อยู่ระหว่างออกแบบ
  • ก่อสร้างอาคารสำนักงาน ทชร. – อยู่ระหว่างการจัดทำแบบก่อสร้าง
  • ก่อสร้างอาคารดับเพลิง-กู้ภัยท่าอากาศยาน – อยู่ระหว่างดำเนินการจัดทำข้อกำหนดด้านเทคโนโลยี

ศักยภาพของเชียงรายกับบทบาทศูนย์กลางการบินภาคเหนือ

เชียงรายเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูงด้านการท่องเที่ยวและการค้าชายแดน โดยเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในการเชื่อมโยงระหว่างไทย เมียนมา ลาว และจีน ซึ่งสามารถใช้สนามบินแม่ฟ้าหลวงเป็นศูนย์กลางในการขนส่งสินค้าและการเดินทางระหว่างประเทศ

ข้อดีของการพัฒนาเส้นทางบินเชียงราย – ต่างประเทศ ได้แก่
ส่งเสริมเศรษฐกิจการท่องเที่ยว – เชียงรายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เช่น วัดร่องขุ่น ดอยตุง และดอยแม่สลอง ซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ
กระตุ้นการลงทุนและการค้า – เชียงรายเป็นจังหวัดชายแดนที่มีศักยภาพในการขนส่งสินค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
อำนวยความสะดวกให้ประชาชน – เพิ่มตัวเลือกการเดินทางให้ประชาชนเชียงรายและนักธุรกิจที่ต้องการเดินทางไปต่างประเทศโดยตรง

อย่างไรก็ตาม ทชร. ยังคงมีความท้าทายในด้านโครงสร้างพื้นฐานและปริมาณเที่ยวบินระหว่างประเทศที่ยังมีจำนวนน้อยเมื่อเทียบกับสนามบินหลักในภาคเหนือ

ความคิดเห็นจากสองมุมมอง

ฝ่ายที่สนับสนุน เห็นว่าการขยายเส้นทางบินระหว่างประเทศจะช่วยให้เชียงรายเติบโตเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์และการท่องเที่ยว ช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ และดึงดูดนักลงทุนเข้าสู่จังหวัดมากขึ้น

ฝ่ายที่เห็นว่ามีข้อจำกัด ให้ความเห็นว่า แม้ท่าอากาศยานเชียงรายจะมีศักยภาพสูง แต่ยังมีข้อจำกัดด้านปริมาณเที่ยวบินระหว่างประเทศ หากไม่มีสายการบินให้บริการอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้สนามบินเชียงรายไม่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เต็มศักยภาพ

สถิติที่เกี่ยวข้อง

  • จำนวนเที่ยวบินในปี 2567 – เฉลี่ย 34 เที่ยวบินต่อวัน รวม 12,035 เที่ยวบินต่อปี
  • จำนวนผู้โดยสารต่อวัน5,210 คน
  • สายการบินที่ให้บริการในเส้นทางบินภายในประเทศ5 สายการบิน
  • เป้าหมายการรองรับผู้โดยสารในอนาคต3 ล้านคนต่อปี
  • จำนวนเที่ยวบินระหว่างประเทศในฤดูหนาวที่ผ่านมาเกือบ 10,000 คน เดินทางผ่านเส้นทางกัวลาลัมเปอร์ – เชียงราย

บทสรุป

สนามบินแม่ฟ้าหลวง เชียงราย กำลังก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการบินของภาคเหนือตอนบน โดยมีการขยายโครงสร้างพื้นฐานและเพิ่มเส้นทางบินระหว่างประเทศเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม ยังมีความท้าทายด้านปริมาณเที่ยวบินและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติมที่จำเป็นต้องดำเนินการเพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมการบินในอนาคต

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : GATC Thailand / ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงพร้อมรับปีใหม่ 2568 ด้วยบริการครบวงจร

ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงรายยกระดับบริการรับเทศกาลปีใหม่ 2568

เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2568 ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย เพื่อติดตามการให้บริการและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับประชาชนที่เดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 โดยมีนาวาอากาศตรี สมชนก เทียมเทียบรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย พร้อมเจ้าหน้าที่ร่วมต้อนรับและนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินงาน

รองรับผู้โดยสารเทศกาลปีใหม่

คาดการณ์ว่าช่วงเทศกาลปีใหม่ ระหว่างวันที่ 3-5 มกราคม 2568 จะมีผู้โดยสารใช้บริการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงรายกว่า 20,750 คน และมีเที่ยวบินรวม 124 เที่ยวบิน ท่าอากาศยานได้เปิดใช้งานระบบ Biometric เพื่ออำนวยความสะดวก ลดเวลาการตรวจบัตรโดยสาร การตรวจค้น และขั้นตอนก่อนขึ้นเครื่อง พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เชิงรุกช่วยให้คำแนะนำในทุกขั้นตอน

นอกจากนี้ ท่าอากาศยานยังบูรณาการร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ เพื่อให้บริการขนส่งสาธารณะผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เป็นไปอย่างปลอดภัย โดยเน้นให้ผู้ให้บริการปฏิบัติตามระเบียบอย่างเคร่งครัด สร้างความมั่นใจแก่ผู้ใช้บริการ

สถิติผู้โดยสารเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2567 ถึงวันที่ 2 มกราคม 2568 มีผู้โดยสารเดินทางผ่านท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงรายกว่า 46,190 คน แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 1,117 คน และภายในประเทศ 45,073 คน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2567 ถึง 13.05%

การเติบโตของเที่ยวบินระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น 400% และเที่ยวบินภายในประเทศเพิ่มขึ้น 9.22% จำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น 22.24% และผู้โดยสารภายในประเทศเพิ่มขึ้น 11.71% สะท้อนความสำเร็จของการพัฒนาท่าอากาศยานให้สอดคล้องกับความต้องการที่เพิ่มขึ้น

มุ่งมั่นยกระดับมาตรฐานการให้บริการ

ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงรายมุ่งมั่นพัฒนาการให้บริการเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้โดยสาร พร้อมรองรับการเดินทางของกลุ่มลุ่มน้ำโขงและภูมิภาคจีนตอนใต้ในอนาคต นอกจากนี้ ท่าอากาศยานยังขอความร่วมมือผู้โดยสารให้เผื่อเวลาเดินทางมายังสนามบินอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการพลาดเที่ยวบินและให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น

ทั้งนี้ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ยังคงยกระดับการให้บริการและสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้โดยสารและเสริมสร้างความเป็นศูนย์กลางการคมนาคมในภูมิภาคอย่างยั่งยืน.

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
AROUND CHIANG RAI ECONOMY

ยกระดับท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงรายสู่ศูนย์กลางการท่องเที่ยวระดับสากล

ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงรายเดินหน้าพัฒนายกระดับการให้บริการ รองรับการเติบโตท่องเที่ยว

เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2567 เวลา 11.00 น. นาวาอากาศตรีสมชนก เทียมเทียบรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ผชร.) ให้การต้อนรับ ดร.วาสนา พงศาปาน ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์กรมหาชน) หรือ อพท. พร้อมคณะ และคณะสื่อมวลชนจากหลายสำนัก เพื่อสัมภาษณ์เกี่ยวกับแผนการพัฒนาท่าอากาศยานและการยกระดับการให้บริการนักท่องเที่ยว ณ ห้องประชุมตอบแทนคุณแผ่นดิน ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.)

แผนพัฒนาท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย

นาวาอากาศตรีสมชนก ได้กล่าวถึงแผนการพัฒนาและศักยภาพของท่าอากาศยานในด้านต่าง ๆ ทั้งด้านกายภาพ สิ่งอำนวยความสะดวก และกระบวนการในการให้บริการที่ดำเนินงานภายใต้มาตรฐานระดับสากล โดยเฉพาะด้าน Safety และ Security ที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีแผนพัฒนาท่าอากาศยานเพื่อรองรับปริมาณผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นจากการเติบโตของการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงราย

ทชร. ยังได้รับการออกแบบให้เป็น Gateway สำคัญของการเดินทางและการท่องเที่ยวในภูมิภาค โดยตั้งอยู่ในพื้นที่ที่สะดวกต่อการเชื่อมต่อระบบคมนาคม รวมถึงใกล้สถานศึกษา แหล่งเศรษฐกิจ และพื้นที่สำคัญของประเทศเพื่อนบ้าน เช่น อำเภอเชียงแสน อำเภอเชียงของ และอำเภอแม่สาย

การพัฒนาสู่ศูนย์กลางการขนส่งและไมซ์ (MICE)

นอกจากนี้ ทชร. ยังมีศักยภาพในการพัฒนาให้เป็น ศูนย์กลางการขนส่งสินค้าทางอากาศ (Air Cargo Hub) และ ศูนย์ซ่อมอากาศยาน (MRO) เพื่อให้บริการซ่อมบำรุงอากาศยานในภูมิภาค พร้อมสร้างโอกาสในการจ้างงานสำหรับแรงงานในพื้นที่ รวมถึงยกระดับทักษะแรงงานด้านการวางแผนซ่อมบำรุง โดยมีเป้าหมายในการเป็นศูนย์กลางที่สำคัญในระดับภูมิภาค

ในด้านการท่องเที่ยว ทชร. ได้ร่วมบูรณาการกับจังหวัดเชียงรายเพื่อสนับสนุนการจัดงานประชุมและกิจกรรมระดับนานาชาติ รวมถึงอุตสาหกรรม ไมซ์ (MICE) ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ พร้อมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬาและการศึกษา เพื่อสร้างความยั่งยืนในระยะยาว

ความร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ

นาวาอากาศตรีสมชนกกล่าวว่า การพัฒนาทั้งหมดนี้ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในจังหวัดเชียงราย ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อสร้างความเข้มแข็งและยกระดับจังหวัดเชียงรายให้เป็นศูนย์กลางการเดินทางและการท่องเที่ยวระดับสากล

ทชร. พร้อมให้บริการนักท่องเที่ยวและผู้โดยสารด้วยมาตรฐานระดับสูง และพร้อมร่วมมือกับทุกกลไกในการพัฒนาเชียงรายให้เป็นจังหวัดที่ยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ การศึกษา กีฬา และการท่องเที่ยว

บทบาทสำคัญของทชร.

ด้วยศักยภาพและการพัฒนาที่มุ่งเน้นความยั่งยืน ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย พร้อมที่จะเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและการขนส่งที่สำคัญของภาคเหนือ และสนับสนุนให้เชียงรายเป็นจังหวัดที่เติบโตไปพร้อมกับเศรษฐกิจโลก โดยยังคงรักษาเอกลักษณ์และความงดงามของวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างครบถ้วน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : Mae Fah Luang Chiang Rai International Airport – CEI

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ทอท. ยกระดับมาตรฐาน ถอดบทเรียน แผนเคลื่อนย้ายอากาศยานที่ขัดข้อง

 
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2567 ที่โรงแรมไชยนารายณ์ ริเวอร์ไซด์ อำเภอเมืองเชียงราย นายสมชนก เทียมเทียบรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรมงานลูกค้าสัมพันธ์ เพื่อพัฒนาความร่วมมือ การประสานงาน และการให้การสนับสนุนตามแผนเคลื่อนย้ายอากาศยานที่ขัดข้อง พร้อมทั้งจัดการเสวนาหัวข้อ “แผนเคลื่อนย้ายอากาศยานที่ขัดข้อง ณ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง” โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมงาน ได้แก่ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการสอบสวนอากาศยานอุบัติเหตุและอุบัติการณ์ ทีมเคลื่อนย้ายอากาศยานที่ขัดข้องของ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และหน่วยงานในสังกัด บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)

 

ในโอกาสนี้ นางสาวนันทวรรณ กันคำ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย ได้ร่วมเสวนาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อป้องกันความตื่นตระหนกและข่าวลือ โดยเฉพาะ Fake News ที่เกิดขึ้นในโลกโซเชียล

 

กิจกรรมครั้งนี้เกิดขึ้นจากเหตุการณ์สายการบินนกแอร์ เที่ยวบินที่ DD108 ลื่นไถลออกนอกรันเวย์ ที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2565 ซึ่งส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคธุรกิจ และภาพลักษณ์ของประเทศ ทอท. จึงได้จัดโครงการกิจกรรมลูกค้าสัมพันธ์ เพื่อพัฒนาความร่วมมือ การประสานงาน และการให้การสนับสนุน พร้อมจัดเวทีเสวนาถอดบทเรียนกรณีการดำเนินการตามแผนเคลื่อนย้ายอากาศยานที่ขัดข้อง ณ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เพื่อยกระดับมาตรฐานการดำเนินการให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมที่เป็นการสร้างความเข้าใจ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ นำความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานจากหลากหลายภาคส่วนมาประมวลผลและนำไปประยุกต์ใช้ เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดในอนาคต ให้สามารถกลับมาดำเนินการได้อย่างปกติและให้บริการลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้โดยเร็วที่สุด

 

ซึ่งย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2567 เวลาประมาณ 23.00 น. นาวาอากาศตรีสมชนก เทียมเทียบรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย และนางแสงเดือน อ้องแสนคำ รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ด้านสนับสนุนธุรกิจ) ได้ดำเนินการเตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวกสายการบินตามมาตรฐานด้านความปลอดภัยและด้านการรักษาความปลอดภัยภายในเขตการบิน เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการบิน รวมทั้งให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานของสายการบินนกแอร์ ณ บริเวณลานจอดอากาศยานหมายเลข 7 หลังจากที่อากาศยานนกแอร์ทะเบียน HS-DBR ได้ถูกลากออกมาจากโรงซ่อมอากาศยานชั่วคราว เพื่อรอเตรียมความพร้อมในการทำการบินกลับไปยังท่าอากาศยานดอนเมือง

 

จนในวันที่ 12 เมษายน 2567 เวลา 07.05 น. สายการบินนกแอร์ เที่ยวบินที่ DD 6601 แบบเครื่อง B738 ทะเบียน HS-DBR ได้ทำการบินออกไปยังท่าอากาศยานดอนเมืองเรียบร้อยแล้ว โดยมีดร.สิทธิปัฐพ์ มงคลอภิบาลกุล รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ด้านปฏิบัติการและบำรุงรักษา) ให้การอำนวยความสะดวกในด้านการปฏิบัติการบินและร่วมแสดงความยินดีกับอากาศยานนกแอร์ทะเบียน HS-DBR ที่ได้กลับมาบินขึ้นสู่ท้องฟ้าและพร้อมให้บริการแก่ผู้โดยสารอีกครั้ง นกหยกนภา Boeing 737-800 หลังจากที่การซ่อมเสร็จสิ้น

 

หลังจากนี้ โรงเก็บอากาศยานชั่วคราวจะถูกรื้อถอน เนื่องจากเป็นการเช่าใช้ชั่วคราว และต้องคืนให้กับผู้ให้เช่าซึ่งเป็นผู้ให้บริการ Temporary Hangar ระดับโลก เพื่อนำไปใช้ในประเทศอื่นที่กำลังรออยู่

 

การจัดกิจกรรมลูกค้าสัมพันธ์ครั้งนี้เป็นการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ในการพัฒนามาตรฐานความปลอดภัยและการบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ท่าอากาศยานแห่งนี้เป็นท่าอากาศยานที่มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุดในการให้บริการทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

2 ปีซ้อน หลังสนามบินเชียงราย ได้รับรางวัล “ท่าอากาศยานดีเด่น ปี 67”

 

 เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 นาวาอากาศตรีสมชนก เทียมเทียบรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย พร้อมด้วย นางแสงเดือน อ้องแสนคำ รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ด้านสนับสนุนธุรกิจ) และพนักงานท่าอากาศยานแม่หลวง เชียงราย เข้าร่วมมีพิธีมอบรางวัลเชิดชูเกียรติบุคลากรผู้ทรงคุณค่าของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)(ทอท.) และมอบรางวัลให้แก่พนักงานดีเด่น , พนักงานที่ได้รับการคัดเลือกเป็นสุจริตชน ฅน ทอท. , พนักงานและลูกจ้างที่ได้รับการยกย่องเป็นกรณีพิเศษ , กลุ่มหรือหน่วยงาน ทอท.ดีเด่น , ท่าอากาศยานดีเด่น , บุคคลหรือหน่วยงานภายนอกผู้ทำคุณประโยชน์ให้แก่ ทอท. ประจำปี 2567 เนื่องในโอกาสครบรอบการดำเนินงาน 45 ปี ทอท. 

ในปี 2567 นี้ ถือเป็นอีกหนึ่งปีแห่งความภาคภูมิใจของพนักงานท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.) ที่ได้รับรางวัลอันทรงคุณค่า โดยมีรายละเอียดดังนี้ 

 ท่าอากาศยานดีเด่น ประจำปี 2567 (ติดต่อกัน 2 ปีซ้อน) ของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) รางวัลแห่งความภาคภูมิใจที่มาจากความมุ่งมั่น ตั้งใจ ทุ่มเท และเสียสละ ของพนักงานท่าอากาศยานท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงรายทุกคน ที่ร่วมมือร่วมใจกันเป็นหนึ่งเดียวในการดำเนินงานให้ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงราย และขานรับนโยบายของ ทอท. พร้อมทั้ง “มุ่งมั่น พัฒนา ขับเคลื่อนสู่อนาคต” 

โดยผลงานแห่งความภาคภูมิใจ ของ ทชร. นั้น ประกอบด้วย 

  • เข้าร่วมโครงการ Customer Experience Accreditation จาก Airport Council International ซึ่งเป็นท่าอากาศยานแรกของประเทศไทย
  • การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ICAO Asia Pacific Aerodrome Design and Operation Task Force ภายใต้การดำเนินงานทั้งหมดของทีมงานพนักงาน ทชร. เพื่อแสดงถึงศักยภาพในการพร้อมนำจังหวัดเชียงรายสู่ Mice City
  • ได้รับรางวัลสถานประกอบการดีเด่นด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อมในการทำงาน 15 ปีติดต่อกัน
  • ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการจัดนิทรรศการศิลปะร่วมสมัย Thailand Bianale Chiang Rai โดยให้การสนับสนุนสถานที่ตั้งปฏิมากรรมศิลปะร่วมสมัย เพื่อให้ผู้โดยสารและผู้ใช้บริการร่วมชมและถ่ายภาพ 

พนักงานที่ได้รับการคัดเลือกเป็น “พนักงานดีเด่น ประจำปี 2567“ คือ นางสาวอารินรักษ์ โพธิ์ระมาด ตำแหน่ง เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานอาวุโส 6 ส่วนมาตรฐานท่าอากาศยานและอาชีวอนามัย 

ในการนี้ เข้ารับรางวัลจาก ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. ซึ่งการได้รับรางวัลในครั้งนี้ ถือเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานเพื่อการมุ่งมั่น ตั้งใจให้ ทชร. ก้าวไปสู่การเป็นท่าอากาศยานที่ดีต่อชุมชม และต่อเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงรายต่อไป 

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

ภารกิจ 622 วัน “นก หยกนภา” จนถึงวันนี้ กลับไปโบยบินขึ้นสู่ท้องฟ้า

 
เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2567 เวลาประมาณ 23.00 น. นาวาอากาศตรีสมชนก เทียมเทียบรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย และ นางแสงเดือน อ้องแสนคำ รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ด้านสนับสนุนธุรกิจ) ร่วมกันดำเนินการเตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวกสายการบินตามมาตรฐานด้านความปลอดภัย และด้านการรักษาความปลอดภัยภายในเขตการบิน ทชร. เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการบิน รวมทั้งให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานของ สายการบิน NOK AIR ภายในบริเวณลานจอดอากาศยานหมายเลข 7 หลังจากที่อากาศยาน NOK AIR ทะเบียน HS – DBR ได้ถูกลากออกมาจากโรงซ่อมอากาศยานชั่วคราว เพื่อรอเตรียมความพร้อมในการทำการบินกลับไปยังท่าอากาศยานดอนเมือง 
 
 
และ ในวันนี้ 12 เมษายน 2567 เวลา 07.05 น. สายการบิน NOK AIR เที่ยวบินที่ DD 6601 แบบเครื่อง B738 ทะเบียน HS – DBR ได้ทำการบินออกไปยังท่าอากาศยานดอนเมือง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมี ดร.สิทธิปัฐพ์ มงคลอภิบาลกุล รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ด้านปฏิบัติการและบำรุงรักษา) ให้การอำนวยความสะดวกในด้านการปฏิบัติการบินและร่วมแสดงความยินดีกับอากาศยาน NOK AIR ทะเบียน HS – DBR ที่ได้กลับไปโบยบินขึ้นสู่ท้องฟ้าและพร้อมให้บริการแก่ผู้โดยสารอีกครั้ง
 
 
สำหรับการซ่อมบำรุงเครื่องบินลำนี้ มีการสร้างโรงซ่อมบำรุงชั่วคราวขึ้นมาที่ท่าอากาศยานแม้ฟ้าหลวงเชียงรายเพื่อซ่อมบำรุงโดยเฉพาะ โดยก่อสร้างแล้วเสร็จและเริ่มซ่อมบำรุงเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา ก่อนใช้เวลาประมาณ 6 เดือน
 
 
ก่อนหน้านี้ สายการบินนกแอร์ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 30 ก.ค. ระบุว่า เที่ยวบินที่ DD108 เส้นทางดอนเมือง-เชียงราย ผู้โดยสาร 164 ท่าน พร้อมลูกเรือ 6 ท่าน ออกเดินทางจากท่าอากาศยานดอนเมือง เวลา 20.03 น. (เวลาท้องถิ่น) และถึงท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย เวลา 21.06 น. ขณะที่นักบินกำลังนำเครื่องบินลงจอดที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงรายมีฝนตกหนัก ทำให้เครื่องบินลื่นไถลออกนอกรันเวย์ และนักบินสามารถจอดเครื่องได้อย่างปลอดภัย และนำผู้โดยสารพร้อมลูกเรือทั้งหมดลงจากเครื่องเข้าไปยังอาคารผู้โดยสาร โดยไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
 
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : Mae Fah Luang Chiang Rai International Airport – CEI 3 ชม. ·

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

‘สนามบินแม่ฟ้าหลวง’ รับแผน ‘สุริยะ’ สั่งให้บริการผู้โดยสารช่วงสงกรานต์ให้สะดวก

 

เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากการประชุมแผนการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 ระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน 2567 รวม 7 วัน ได้สั่งการทุกหน่วยงานในสังกัดเตรียมความพร้อมให้กับประชาชนครอบคลุมทุกมิติ รวมทั้งบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนแผนให้เกิดผลสัมฤทธิ์ มุ่งเป้าหมายให้ประชาชนเดินทางถึงที่หมายได้อย่างสะดวกและปลอดภัยตามนโยบาย “เดินทางทั่วไทย คมนาคม สะดวก ปลอดภัย ใส่ใจให้บริการประชาชน” โดยให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมการรองรับและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ตลอดจนกำกับดูแลการให้บริการ มาตรฐานความปลอดภัย และแจ้งข้อมูลข่าวสารประชาชนล่วงหน้าเพื่อวางแผนการเดินทาง

 

นายสุริยะ กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานบริการทั้งบก ราง น้ำ และอากาศเตรียมการบริการผู้โดยสารช่วงสงกรานต์ให้ได้รับความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย โดยในส่วนของการเดินทางทางอากาศ ได้กำชับบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) ซึ่งบริหารท่าอากาศยานหลักของประเทศ ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.) ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) และท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) ให้บูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่ให้บริการในท่าอากาศยานในการร่วมกันบริหารจัดการการอำนวยความสะดวกอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดความรวดเร็วในทุกกระบวนการทั้งในส่วนของผู้โดยสารขาเข้าและขาออก การจัดเจ้าหน้าที่ดูแลและให้ความช่วยเหลือผู้โดยสารในทุกขั้นตอน รวมถึงรักษามาตรฐานด้านความปลอดภัย และเชื่อมโยงกับการคมนาคมด้านอื่น
อย่างไร้รอยต่อ 
 
 
โดยคาดว่าในช่วงสงกรานต์ 2567 คือ ระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน 2567 จะมีผู้โดยสารมาใช้บริการท่าอากาศยานของ AOT ทั้ง 6 แห่ง กว่า 2.61 ล้านคน เพิ่มขึ้น 28.50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศประมาณ 1.65 ล้านคน เพิ่มขึ้น 46.00% และผู้โดยสารภายในประเทศประมาณ 962,362 คน เพิ่มขึ้น 6.59% ขณะที่คาดว่าจะมีเที่ยวบินรวมประมาณ 15,113 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 16.71% แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศประมาณ 8,682 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 32.53% และเที่ยวบินภายในประเทศประมาณ 6,431 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 0.52% 
 
 
  • โดยที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิคาดว่าจะมีผู้โดยสารประมาณ 1.34 ล้านคน เพิ่มขึ้น 36.73% และมีเที่ยวบินประมาณ 7,022 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 21.13% 
  • ส่วนท่าอากาศยานดอนเมืองมีผู้โดยสารประมาณ 625,530 คน เพิ่มขึ้น 14.83% และมีเที่ยวบินประมาณ 4,117 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 10.58% 
  • สำหรับ ท่าอากาศยานเชียงใหม่มีผู้โดยสารประมาณ 199,563 คน เพิ่มขึ้น 34.83% และมีเที่ยวบินประมาณ 1,152 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 6.96% 
  • ด้านท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย มีผู้โดยสารประมาณ 41,318 คน เพิ่มขึ้น 16.71% และมีเที่ยวบินประมาณ 281 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 18.07% 
  • และ ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตมีผู้โดยสารประมาณ 355,501 คน เพิ่มขึ้น 31.97% และมีเที่ยวบินประมาณ 2,161 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 24.77% 
  • ขณะที่ท่าอากาศยานหาดใหญ่มีผู้โดยสารประมาณ 53,894 คน ลดลง 6.92% และมีเที่ยวบินประมาณ 380 เที่ยวบิน ลดลง 0.52%
นายสุริยะ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงคมนาคมและ AOT ขอร่วมกันส่งมอบความสุขให้พี่น้องประชาชนในการเดินทางกลับบ้านและการท่องเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 โดยได้จัดที่จอดรถยนต์ฟรี ณ บริเวณลานจอดรถยนต์ระยะยาว โซน D ทสภ.ตั้งแต่วันที่ 12 – 16 เมษายน 2567 และที่ ทดม.สามารถจอดรถยนต์ฟรีได้ที่บริเวณระหว่างอาคารคลังสินค้า 2 และอาคารจอดรถยนต์ 5 ชั้น ตั้งแต่วันที่ 11 – 17 เมษายน 2567 สามารถจอดรถยนต์ได้ 250 คัน พร้อมจัดเตรียมรถรับส่งให้บริการระหว่างจุดจอดรถไปยังอาคารผู้โดยสาร นอกจากนี้ ได้เน้นย้ำให้ AOT เตรียมความพร้อมดำเนินการในทุกมิติ เพื่อส่งมอบประสบการณ์การเดินทางที่น่าประทับใจ และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศ 
 
 
โดยให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ให้บริการผู้โดยสารในท่าอากาศยาน เช่น สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ผู้ประกอบการที่ให้บริการภาคพื้น เป็นต้น จัดเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์ให้เพียงพอ ประสานบริษัทผู้รับจ้างให้บริการรถเข็นกระเป๋าเตรียมความพร้อมพนักงาน และรถเข็นกระเป๋าให้พร้อมบริการผู้โดยสารตลอดเวลา และให้เพิ่มความถี่ในการจัดเก็บรถเข็นกระเป๋าให้เร็วขึ้น รวมทั้งขอความร่วมมือสายการบินให้เปิดใช้งานเคาน์เตอร์ให้ครบตามจำนวนที่ได้รับการจัดสรร นอกจากนี้ ให้จัดเจ้าหน้าที่ Airport Help คอยอำนวยความสะดวกและให้คำแนะนำผู้โดยสารในด้านต่างๆ เช่น แนะนำการใช้เครื่อง CUSS (Common Use Self Service) 
 
 
สำหรับเช็กอินด้วยตนเอง หรือเครื่อง CUBD (Common Use Bag Drop) สำหรับโหลดสัมภาระด้วยตนเอง รวมไปถึงช่วยดูแลเรื่องการจัดแถวของผู้โดยสารทั้งในพื้นที่บริเวณหน้าเคาน์เตอร์เช็กอิน เพื่อให้เกิดความสะดวกและรวดเร็ว ตลอดจนด้านระบบคมนาคมขนส่งซึ่งขณะนี้ที่ ทสภ. ทดม. ทชม.และ ทภก.ได้มีการเปิดให้บริการรถรับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ Grab Application เพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้โดยสารให้ได้รับความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย และการบริหารจัดการการจราจรเพื่อลดความหนาแน่นของรถยนต์ในท่าอากาศยาน
 
 
ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ AOT กล่าวว่า AOT พร้อมดำเนินการตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยท่าอากาศยานของ AOT จะมีการจัดตั้งศูนย์ประสานงานและอำนวยความสะดวก และศูนย์ความปลอดภัยคมนาคม ซึ่งมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการการทำงานและประสานงานด้านการข่าวร่วมกันตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งจะจัดพิธีปล่อยแถวการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เพื่อเพิ่มมาตรการการรักษาความปลอดภัยและเตรียมความพร้อมต้อนรับผู้โดยสาร ในด้านการรณรงค์ด้านความปลอดภัย AOT ได้จัดให้มีโครงการรณรงค์ขับขี่ปลอดภัย และโครงการท่าอากาศยานสีขาว 
 
 
ทั้งนี้ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 อาจมีผู้ใช้บริการสนามบินจำนวนมาก โดยเฉพาะที่ ทดม.ที่อาจมีรถหนาแน่นบริเวณชานชาลาอาคารผู้โดยสารขาเข้าและขาออก AOT จึงได้กำหนดให้รถแท็กซี่สาธารณะทุกคันใช้ช่องทาง PASSENGER DROP LANE พร้อมจัดเตรียมเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก ให้คำแนะนำ และให้ความช่วยเหลือแก่ผู้โดยสารบริเวณช่องทาง PASSENGER DROP LANE ประตู 16 และ 17 ตลอด 24 ชั่วโมง ยกเว้นรถแท็กซี่สาธารณะที่มีผู้โดยสารที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษ หรือต้องการใช้รถวีลแชร์ หรือนำรถวีลแชร์มาด้วยให้ส่งผู้โดยสารที่บริเวณประตูหมายเลข 5 อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ (ขาออก) อาคาร 1 ทดม.
 
 
ดร.กีรติ กล่าวเพิ่มเติมว่า AOT ขอแนะนำผู้โดยสารที่ต้องการความรวดเร็วในขั้นตอนการเช็กอินและโหลดกระเป๋าสัมภาระใช้บริการเครื่อง CUSS และ CUBD ซึ่งใช้เวลาเพียงเล็กน้อย ทำให้ไม่ต้องรอต่อแถวเช็กอินที่เคาน์เตอร์ และสำหรับในขั้นตอนตรวจค้น ขอแนะนำผู้โดยสารปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การนำของเหลว เจล สเปรย์ ติดตัวขึ้นเครื่อง
ขอความร่วมมือผู้โดยสารตรวจสอบให้บรรจุภัณฑ์มีข้อความระบุปริมาตรที่ชัดเจน และไม่เกิน 100 มิลลิลิตร จำนวนรวมไม่เกิน 10 ชิ้น หากมีบรรจุภัณฑ์ที่มีปริมาณของเหลวเกินกำหนดจะต้องนำไปโหลดใต้ท้องเครื่อง และสำหรับแบตเตอรี่ลิเธียมสำรองขนาดเล็กที่มีค่าความจุไฟฟ้าน้อยกว่าหรือเท่ากับ 100 Wh หรือ 20,000 mAh สามารถนำติดตัวขึ้นเครื่องบินได้ 
 
 
แต่ไม่สามารถโหลดใต้ท้องเครื่องบินได้ แบตเตอรี่ลิเธียมสำรองขนาดกลางที่มีค่าความจุไฟฟ้ามากกว่า 100 ถึง 160 Wh หรือ 20,000 ถึง 32,000 mAh สามารถนำติดตัวขึ้นเครื่องได้คนละไม่เกิน 2 ชิ้น แต่ไม่สามารถโหลดใต้ท้องเครื่องบินได้ แบตเตอรี่ลิเธียมสำรองขนาดใหญ่ที่มีค่าความจุไฟฟ้ามากกว่า 160 Wh หรือ 32,000 mAhไม่อนุญาตให้นำขึ้นเครื่องบินและโหลดใต้ท้องเครื่องบิน นอกจากนี้ แบตเตอรี่ลิเธียมสำรองที่ไม่ระบุพลังงานไฟฟ้าวัตต์ – ชั่วโมง (Wh) หรือระบุขนาดบรรจุของลิเธียม หรือระบุไม่ชัดเจนไม่สามารถนำขึ้นเครื่องบิน หรือโหลดใต้ท้องเครื่องบินได้ ทั้งนี้ ขอให้ผู้โดยสารปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด ซึ่งจะช่วยทำให้ขั้นตอนการตรวจค้นรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
 
 
นอกจากนี้ AOT ได้ร่วมส่งเสริมและสืบสานประเพณีสงกรานต์ โดยท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งได้ร่วมกัน
จัดกิจกรรมเพื่อต้อนรับผู้โดยสาร ได้แก่ ทสภ.จัดซุ้มถ่ายภาพและกิจกรรมสรงน้ำพระในอาคารผู้โดยสารหลัก และ
จัดซุ้มนิทรรศการประวัติความเป็นมาของเทศกาลสงกรานต์ ณ บริเวณชั้น 3 อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite-1: SAT-1) ส่วน ทดม.จัดตั้งซุ้มเทศกาล “Gateway to Wonderful Songkran อัศจรรย์สงกรานต์ ประเพณีไทยมรดกโลก” พร้อมการแสดงขบวนกลองยาว และการฟ้อนรำชุดเริงระบำสงกรานต์ รวมถึงจัดกิจกรรมสรงน้ำพระ การสาธิตการทำน้ำอบน้ำปรุง และกิจกรรมมอบของที่ระลึกให้กับผู้โดยสาร สำหรับ ทชม.นอกจากจะจัดจุดสรงน้ำพระ และจุด Check-in ถ่ายภาพในบรรยากาศเทศกาลสงกรานต์ (ปี๋ใหม่เมือง) แล้ว ยังจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับเทศกาลสงกรานต์ให้ผู้โดยสารได้มีส่วนร่วม อาทิ การสาธิตตัดตุงไส้หมู และการสาธิตทำกรวยดอกไม้ เป็นต้น 
 
 
รวมทั้งมีการแจกของที่ระลึก และจัดการแสดงคีตะมวยไทย ด้าน ทชร.จัดซุ้มสรงน้ำพระ กิจกรรมมอบของที่ระลึกให้แก่ผู้โดยสาร พร้อมการแสดงรำไทยจากนักเรียนโรงเรียนป่าสักไก่ ตลอดจนจัดการแสดงดนตรีพื้นเมืองล้านนา เพื่อสร้างความสนุกสนาน ขณะที่ ทภก.จัดกิจกรรมมอบของที่ระลึกให้แก่ผู้โดยสารเช่นกัน และที่ ทหญ.จัดซุ้มสรงน้ำพระ และจัดกิจกรรมสืบสานประเพณีสงกรานต์ โดยมีการแสดงเพื่อสร้างบรรยากาศในอาคารผู้โดยสาร
 
 
ดร.กีรติ กล่าวในตอนท้ายว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 อาจมีผู้โดยสารเดินทางจำนวนมาก AOT จึงขอความร่วมมือผู้โดยสารเผื่อเวลาเดินทางมาล่วงหน้า 2 – 3 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการพลาดเที่ยวบิน โดยสามารถสอบถามเกี่ยวกับเที่ยวบินและการบริการได้ที่ AOT Contact Center หมายเลขโทรศัพท์ 1722 ตลอด 24 ชั่วโมงท่าอากาศยานเชียงใหม่

 

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : Mae Fah Luang Chiang Rai International Airport – CEI

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI ECONOMY

“สุริยะ” ตรวจสนามบินเชียงราย สนับสนุนการขนส่งเชื่อมโยงท่องเที่ยว

 
เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2567 ณ ณ ห้องประชุมท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย จังหวัดเชียงราย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม นายมนตรี เดชาสกุลสม รองปลัดกระทรวงคมนาคม ประชุมติดตามความคืบหน้าการดำเนินโครงการสำคัญของกระทรวงคมนาคม เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 2/2567 ณ จังหวัดพะเยา โดยมีหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ และผู้แทนหน่วยงานในพื้นที่ เข้าร่วมประชุม
 
 
นายสุริยะ กล่าวว่า การประชุมติดตามความคืบหน้าการดำเนินโครงการสำคัญต่าง ๆ ของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ได้ติดตามประเด็นการเตรียมความพร้อมและการเพิ่มศักยภาพของท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ตามนโยบาย Aviation Hub ของรัฐบาลในการผลักดันประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงฯ มีโครงการที่ดำเนินการเพื่อเพิ่มศักยภาพท่าอากาศยาน ได้แก่ 1) งานก่อสร้างระบบทางขับขนานด้านทิศเหนือและปรับปรุงทางขับท้ายหลุมจอด พร้อมทางขับ A และ B 2) งานจ้างก่อสร้างพื้นที่หัวทางวิ่งด้าน 03 และ 21 3) โครงการศูนย์ซ่อมอากาศยาน Maintenance ,Repair and overhaul (MRO) ซึ่งอยู่ระหว่างการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) 4) งานจ้างก่อสร้างขยายถนนทางเข้า – ออก ท่าอากาศยานฯ คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างประมาณเดือนมิถุนายน 2567 นอกจากนี้ มีโครงการพัฒนาท่าอากาศยานฯ ระยะที่ 1 (ปี 2568 – 2571) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถรองรับผู้โดยสาร เป็น 6 ล้านคนต่อปี และระยะที่ 2 (ปี 2576 – 2578) เป็น 8 ล้านคนต่อปี โดยมีแผนงานสำคัญ ได้แก่ งานก่อสร้างเพิ่มลานจอดอากาศยาน งานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ งานก่อสร้างปรับปรุงอาคารผู้โดยสารเดิมเป็นอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ และงานก่อสร้างอาคารศูนย์ซ่อมแซมอุปกรณ์สนับสนุนภาคพื้น
 
 
สำหรับโครงการสนับสนุนท่าอากาศยานนานาชาติแม่ฟ้าหลวงฯ เพื่อบรรเทาการจราจรบริเวณหน้าท่าอากาศยานและสนับสนุนการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ประกอบด้วย
1. การก่อสร้างทางลอดและปรับปรุงถนนบริเวณแยกศูนย์ราชการบนถนนสาย ชร.1023 อ.เมือง จ.เชียงราย ระยะทาง 1.635 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 850 ล้านบาท มีแผนก่อสร้างระหว่างปี 2567 – 2569
2. ถนนสายแยก ทล.1 – สาย ชร.5023 ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย ระยะทาง 3.014 กม. วงเงินก่อสร้าง 200 ล้านบาท โดยเสนอขอรับงบประมาณค่าเวนคืนปี 2567 – 2568
3. ถนนสาย ค2, จ7, ง4 ผังเมืองรวมเชียงราย อ.เมือง จ.เชียงราย ระยะทาง 3.735 กม. วงเงินก่อสร้าง 250 ล้านบาท โดยเสนอขอรับงบประมาณค่าเวนคืนปี 2567 – 2568
4. ถนนสายเชื่อม ทล.1207 – ถนนเลี่ยงเมืองกรมทางหลวง อ.เมือง จ.เชียงราย ระยะทาง 2.356 กม. วงเงิน 84 ล้านบาท โดยเสนอขอรับงบประมาณค่าเวนคืนปี 2567 – 2568
5. ทางแยกต่างระดับบริเวณจุดตัด ชร.1023 กับ ทล.1 อ.เมือง จ.เชียงราย วงเงินก่อสร้าง409.560 ล้านบาท มีแผนเสนอขอรับงบประมาณค่าสำรวจอสังหาริมทรัพย์ ในปี 2569
 
 
นอกจากนี้ ในการประชุมได้ติดตามความคืบหน้าโครงการขยาย 4 ช่องจราจร ทางหลวงหมายเลข 1020 ตอนบ้านหัวดอย – บ้านใหม่ดอยลาน จ.เชียงราย กม. 7+420 – 30+000 เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ การคมนาคมขนส่งสินค้าและการท่องเที่ยว ซึ่งเมื่อโครงการแล้วเสร็จจะทำให้มีความสะดวกรวดเร็ว และสามารถรองรับปริมาณการจราจรที่เพิ่มขึ้นในอนาคต รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดเชียงรายและเชื่อมต่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดใกล้เคียงได้สะดวก ปลอดภัยยิ่งขึ้น และยังเป็นการสนับสนับการขนส่งสินค้าเชื่อมต่อด่านพรมแดนอีกด้วย รวมทั้งกระทรวงคมนาคมมีการดำเนินโครงการปรับปรุงโครงข่ายทางหลวงชนบทเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยว
 
 
ทั้งนี้ ในการประชุมได้รับทราบข้อมูลความต้องการของประชาชนในพื้นที่ ในส่วนของการก่อสร้างจุดกลับรถบริเวณหน้าโรงพยาบาลแม่จัน และสะพานลอยคนข้าม เพื่อความสะดวกปลอดภัยของประชาชนที่มาใช้บริการโรงพยาบาลและประชาชนในพื้นที่ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้มอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาขอใช้งบกลางในการก่อสร้างอย่างเหมาะสม รวมทั้งได้มอบนโยบายให้กรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท บูรณาการร่วมกัน เพื่อรวบรวมข้อมูลโครงข่ายถนนในพื้นที่จังหวัดเชียงรายและพะเยาที่ต้องปรับปรุงไฟฟ้าแสงสว่าง และตรวจสอบจุดตัดทางร่วม ทางแยกเพื่อเพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนของประชาชน
 
 
นายสุริยะ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงคมนาคมพร้อมผลักดันโครงการต่าง ๆ ให้เป็นรูปธรรมตามนโยบายรัฐบาลโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของทุกกลุ่ม และพร้อมรับฟังปัญหาและความคิดเห็นของประชาชน โดยกระทรวงคมนาคมจะเร่งรัดการดำเนินโครงการต่าง ๆ ให้แล้วเสร็จตามแผนงานที่กำหนด เพื่อให้พี่น้องประชาชนมีระบบคมนาคมขนส่งที่มีประสิทธิภาพ สามารถเดินทางได้สะดวก รวดเร็วและปลอดภัย รวมทั้งช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจจากการขนส่งสินค้าและท่องเที่ยวของประเทศให้ดีขึ้น
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ประชาสัมพันธ์กระทรวงคมนาคม

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
NEWS UPDATE

สนามบินเชียงราย สนับสนุนนักท่องเที่ยว โหลดผลไม้ใต้ท้องเครื่องบินได้ 10 กิโลกรัม

 
เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2556 เวลา 14.00 น. นาวาอากาศตรีสมชนก เทียมเทียบรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย แถลงข่าวประชาสัมพันธ์โครงการ ” ทชร.ร่วมใจช่วยเหลือเกษตรกร จำหน่ายผลไม้ให้ผู้โดยสาร” ซึ่งเป็นการสานต่อโครงการช่วยเหลือเกษตรกรจำหน่ายผลผลิตผลไม้ให้ผู้โดยสาร สายการบิน ของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงราย ตามที่ กระทรวงพาณิชย์ 
 
โดยกรมการค้าภายใน ได้มีหนังสือขอความอนุเคราะห์ให้ท่าอากาศยาน ภายใต้สังกัด บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) สนับสนุนพื้นที่ให้บริการกล่องบรรจุผลไม้จากกรมการค้าภายใน ขนาดบรรจุ 10 กิโลกรัม เพื่อให้ประชาชนหรือนักท่องเที่ยวนำไปบรรจุผลไม้เพื่อนำส่งหรือโหลดผลไม้ใต้ท้องเครื่องบินโดยสารได้ และสายการบินพาณิชย์ในประเทศสนับสนุนมาตรการความร่วมมือโหลดผลไม้ใต้ท้องเครื่องบินโดยสารโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายในปริมาณ 10 กิโลกรัมต่อผู้โดยสาร 1 คน เพื่อช่วยระบายผลผลิตผลไม้จากแหล่งผลิตในพื้นที่ไปสู่ผู้บริโภคได้อย่างมีคุณภาพและรวดเร็วที่สุด อันจะส่งผลให้ราคาผลไม้ในประเทศมีเสถียรภาพและส่งผลดีต่อเกษตรกรภายในจังหวัดเชียงรายโดยตรง
 
 
โครงการฯ นี้ถือเป็นการบูรณาการความร่วมมือของหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องภายในจังหวัดเชียงราย ประกอบด้วย พาณิชย์จังหวัดเชียงราย / สหกรณ์จังหวัดเชียงราย / องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย / หอการค้าจังหวัดเชียงราย / ผู้ใหญ่บ้านชุมชนโดยรอบท่าอากาศยาน รวมถึงสายการบินพาณิชย์ที่ให้บริการ ณ ทชร. ได้แก่ สายการบินไทยสมายล์ สายการบินไทยแอร์เอเชีย สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ และ สายการบินนกแอร์ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในจังหวัดเชียงรายให้มีช่องทางจำหน่ายผลไม้เพิ่มขึ้นโดยสามารถกระจายไปสู่ผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็วที่สุดโดยผ่านการ ” ขนส่งสินค้าทางอากาศ ณ ทชร.” และเพื่อเป็นการกระจายผลผลิตผลไม้ของเกษตรกร ทชร. ได้จัดจุดจำหน่ายผลไม้เพื่อจำหน่ายให้แก่ผู้โดยสาร ณ บริเวณหน้าชานชาลาอาคารผู้โดยสาร ประตู 1 ตั้งแต่วันที่ 14 – 16 มิถุนายน 2566 เวลา 08.00 ถึง 17.00 น.
 
 
ซึ่งโครงการๆ นี้ถือว่าเป็นการให้ความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนในจังหวัดเชียงราย เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรได้มีช่องทางจำหน่ายผลไม้ตามฤดูกาลและช่วยระบายผลผลิตสู่ผู้บริโภคเพิ่มขึ้น อันจะส่งผลต่อภาพรวมด้านเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงราย และเป็นการส่งเสริมการขนส่งสินค้าทางอากาศของ ทชร. โดย นาวาอากาศตรีสมชนก เทียมเทียบรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ที่มีความมุ่งมั่นให้ ทชร. เป็น “ ศูนย์กลางการขนส่งสินค้าทางอากาศ “
 

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : Mae Fah Luang Chiang Rai International Airport – CEI

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News