Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

สภาผู้บริโภครับลูกชาวบ้าน ทวงถามความรับผิดชอบปม “ขยะฝังดินล่องหน” ทต.แม่ยาว

สังคมเงียบงันทต.แม่ยาวยังไร้คำตอบ ปม “ขยะฝังดินล่องหน” หลังสภาองค์กรของผู้บริโภค รับลูกชาวบ้าน ยื่นหนังสือจี้ความรับผิดชอบและความโปร่งใส

เชียงราย, 22 พฤศจิกายน 2568 — เสียงเรียกร้อง “ขอคำตอบที่ตรงไปตรงมา” จากชาวตำบลแม่ยาว จังหวัดเชียงราย กำลังก้องอยู่ท่ามกลางความเงียบของหน่วยงานท้องถิ่น เมื่อกรณี “ขยะฝังดินล่องหน” ที่ถูกกล่าวหาว่าเทศบาลตำบลแม่ยาว (ทต.แม่ยาว) นำไปฝังกลบโดยมิชอบ ยังไม่มีคำชี้แจงที่ชัดเจนต่อสาธารณะ ทั้งๆ ที่ สภาองค์กรของผู้บริโภคจังหวัดเชียงราย ได้รับเรื่องร้องเรียนและประกาศจะส่งหนังสือสอบถามอย่างเป็นทางการแล้ว

“หลังชาวบ้านมาร้องเรียน เราจะทำหนังสือถึงเทศบาลตำบลแม่ยาว ขอคำชี้แจงและติดตามคำตอบเพื่อนำไปสู่ขั้นตอนต่อไปตามลำดับ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของผู้บริโภค” — ธนชัย ฟูเฟื่อง หัวหน้าหน่วยงานประจำจังหวัดเชียงราย สภาองค์กรของผู้บริโภค กล่าวย้ำต่อทีมข่าว

แม้ทต.แม่ยาวจะมีแนวทางแก้ไขระยะยาว เช่น การเตรียมทำบันทึกข้อตกลง (MOU) เรื่องการขนและปลายทางของขยะกับหน่วยงานอื่น แต่สำหรับชาวบ้าน โดยเฉพาะในพื้นที่ บ้านห้วยทรายขาว หมู่ 4 คำถามเร่งด่วนกลับอยู่ที่ “ต้นสายปลายเหตุ” ใครเป็นผู้สั่งการให้ฝังกลบ, ขยะที่ฝังกลบนั้นคืออะไร, และ มาตรการตรวจสอบความปลอดภัยได้ทำจริงหรือไม่ ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีคำตอบสาธารณะจากผู้มีอำนาจในเทศบาล

ฉากหลังของความเงียบ เมื่อ “การจัดการระยะยาว” เดินหน้า แต่ “คำอธิบายอดีต” ยังไม่มี

เรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อชาวบ้านในพื้นที่พบการนำขยะมาพักและฝังกลบในบริเวณใกล้ชุมชนและแหล่งน้ำ โดยอ้างว่าเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าหลังการย้ายเขตการปกครองของชุมชนบางแห่ง อย่างไรก็ดี การดำเนินการลักษณะดังกล่าวก่อให้เกิดคำถามด้าน ความชอบด้วยกฎหมาย, ความปลอดภัยด้านสาธารณสุข, และ ความรับผิดชอบทางปกครอง ในหลายมิติ

“สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่คำถามว่า ‘ต่อจากนี้ขยะจะไปไหน’ แต่คือคำถามว่า ‘ที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้น ใครรับผิดชอบ’” ตัวแทนชาวบ้านสะท้อนประเด็นหลัก หลังทราบข่าวการทำ MOU จัดการขยะในอนาคต แต่ยังไม่เห็นการชี้แจงข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วในพื้นที่

ในหนังสือร้องเรียนของชาวบ้านที่ส่งถึงนายกเทศบาลตำบลแม่ยาวและคณะผู้บริหาร มี 3 คำถามสำคัญ ที่ต้องการคำตอบเป็นลำดับแรก ได้แก่

  1. ขยะที่ถูกฝังกลบไปแล้วและถูกขุดขึ้นมา มีสิ่งของอันตรายหรือไม่   หากมี ต้องเปิดเผยรายการและผลตรวจอย่างโปร่งใส
  2. ขยะที่ยังเหลืออยู่ ได้ตรวจสอบแล้วหรือยังว่าเป็นขยะอันตรายหรือไม่   ต้องมีเอกสารและหน่วยตรวจสอบที่เชื่อถือได้
  3. ขอรายละเอียดวัน เวลา สถานที่ และวิธีการขนทิ้ง   เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าร่วมสังเกตการณ์หรือรับรู้ข้อมูลได้โดยตรง ลดความกังวลและข้อสงสัย

ขณะที่ฝ่ายชุมชนเห็นว่า “การทำ MOU เรื่องปลายทางของขยะ” เป็นเพียงวิธีแก้ปัญหา ปลายเหตุ การฟื้นฟูความเชื่อมั่นจำเป็นต้องเริ่มที่ การอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว และ การแสดงความรับผิดชอบของผู้มีอำนาจ ในฐานะผู้ดูแลพื้นที่สาธารณะ

บทบาทของสภาองค์กรของผู้บริโภค  กดปุ่มตรวจสอบ “สิทธิผู้บริโภคด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ”

การที่ สภาองค์กรของผู้บริโภค (สภาฯ) เข้ามารับเรื่องถือเป็น “กลไกภายนอก” ที่ช่วยตรวจสอบความโปร่งใสของกระบวนการในระดับท้องถิ่น โดยมีจุดประสงค์เพื่อคุ้มครอง สิทธิผู้บริโภคในการได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน และทันเวลา เมื่อปัญหาอาจกระทบต่อคุณภาพน้ำ อากาศ สิ่งแวดล้อม และสุขภาวะของประชาชน

ธนชัย ฟูเฟื่อง ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า สภาฯ จังหวัดเชียงรายจะดำเนินการทำหนังสืออย่างเป็นทางการถึงทต.แม่ยาว เพื่อขอคำชี้แจงในประเด็นที่ประชาชนร้องเรียน พร้อมติดตามคำตอบและ เปิดเผยความคืบหน้าอย่างเป็นระบบ ซึ่งกระบวนการดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อให้หน่วยงานรัฐ อธิบายเหตุผล-ข้อเท็จจริง และ ระบุผู้รับผิดชอบ ต่อการตัดสินใจในอดีตให้ชัดเจน

ในหนังสือร้องเรียนเดียวกัน ชุมชนยังระบุรายชื่อผู้เกี่ยวข้อง ตั้งแต่นายกเทศบาล ปลัดเทศบาล ผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง พร้อมเรียกร้อง “การแสดงความจริงใจ” ในการแก้ไขปัญหา โดยให้ ชี้แจงต่อประชาชนในที่ประชุมอย่างเป็นทางการ ไม่ใช่การสื่อสารผ่านช่องทางไม่เป็นทางการเพียงอย่างเดียว

ทำไม “คำอธิบายต้นเหตุ” จึงสำคัญกว่าการประกาศแนวทางใหม่

1) ความเชื่อมั่นของสาธารณะ

ในสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับขยะมูลฝอยและแหล่งน้ำ ความไว้เนื้อเชื่อใจเป็นทุนทางสังคมที่สำคัญที่สุด การสื่อสารแต่ “มาตรการในอนาคต” โดยไม่ทบทวน “บทเรียนที่ผ่านมา” จะไม่สามารถกู้ความเชื่อมั่นได้เต็มที่ เพราะประชาชนยังไม่ทราบว่า ความเสี่ยงที่เคยเกิดขึ้นได้ถูกประเมินและแก้ไขอย่างไร และ ใครรับผิดชอบทางนโยบาย-ปฏิบัติ

2) การป้องกันซ้ำรอยเชิงระบบ

การอธิบายต้นเหตุอย่างโปร่งใสทำให้สังคมเห็น ช่องโหว่อำนาจ-ขั้นตอน-ความรู้ ที่ต้องอุด เพื่อไม่ให้ปัญหาเกิดซ้ำ อาทิ ช่องว่างการสื่อสารระหว่างหน่วยงาน การอนุญาตการใช้พื้นที่ผิดประเภท การขาดระบบตรวจสอบภายใน หรือการประเมินความเสี่ยงต่อแหล่งน้ำที่ไม่เพียงพอ

3) ฐานข้อมูลเพื่อการเยียวยา

หากมีผู้ประกอบการหรือประชาชนได้รับผลกระทบ (เช่น ยอดสั่งซื้อสินค้าที่ลดลง หรือค่าใช้จ่ายในการจัดหาน้ำสะอาด) การมี “คำอธิบายต้นเหตุ” และ “ข้อมูลตรวจสอบขยะ” ที่เป็นลายลักษณ์อักษร จะช่วยให้การเยียวยาเป็นไป บนหลักฐาน ไม่ใช่ความรู้สึก

ภาพใหญ่ว่าด้วย “ขยะกับแหล่งน้ำ”  ความเสี่ยงที่ชาวบ้านกังวล

แม้ปริมาณขยะที่ถูกฝังกลบ และชนิดของขยะในกรณีนี้ยังรอผลตรวจที่เป็นทางการ แต่ความกังวลของชุมชนสะท้อนความรู้พื้นฐานด้านสิ่งแวดล้อมที่ถูกต้อง การฝังกลบโดยไม่มีมาตรการทางวิศวกรรม (เช่น พื้นรองกันรั่วซึม ระบบรวบรวมน้ำชะขยะ และระบบบำบัด) อาจก่อให้เกิด น้ำชะขยะ (leachate) ไหลปะปนลงสู่ดินและแหล่งน้ำผิวดิน/ใต้ดิน จนส่งผลต่อคุณภาพน้ำในครัวเรือน การเกษตร และสุขภาพสาธารณะ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่แหล่งน้ำอยู่ใกล้ชุมชน

ความเสี่ยงอีกด้านคือ การสับสนของข้อมูล   หากหน่วยงานไม่สามารถบอกได้ชัดเจนว่าขยะที่ฝังเป็น “ขยะทั่วไป” หรือ “ขยะอันตราย” และไม่ได้มีผลตรวจจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้ ความหวาดระแวงของประชาชนจะสูงขึ้น และกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับชุมชนในระยะยาว

องค์ประกอบของคำชี้แจงที่สังคมคาดหวัง (และตรวจสอบได้)

เพื่อให้ข้อเท็จจริงเดินหน้าและความเชื่อมั่นกลับคืน การชี้แจงของทต.แม่ยาวควรมีองค์ประกอบ ครบ-ชัด-ตรวจสอบได้ อย่างน้อย 7 ข้อ ดังนี้

  1. ไทม์ไลน์เหตุการณ์ — วันที่ เวลา สถานที่ การตัดสินใจ และผู้สั่งการในแต่ละช่วง
  2. ชนิดและปริมาณขยะ — เอกสารกำกับการขนถ่าย (ถ้ามี) พร้อมผลตรวจวิเคราะห์จากหน่วยงาน/ห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรอง
  3. ผลตรวจพื้นที่ฝังกลบ/พื้นที่โดยรอบ — คุณภาพน้ำดิบ ดิน และกลิ่น ในระยะก่อน-ระหว่าง-หลังการขุดคืน พร้อมแผนติดตาม
  4. มาตรการควบคุมความเสี่ยงทันที (containment) — วิธีการเก็บกู้ออกจากพื้นที่ การป้องกันน้ำฝนชะล้าง การจัดพื้นที่พักวัสดุชั่วคราวอย่างถูกวิธี
  5. ปลายทางของขยะที่ขุดคืน — โรงงาน/สถานที่ปลายทางที่ได้รับอนุญาต รอบเวลา/เส้นทางขนส่ง และหลักฐานการรับมอบ
  6. การมีส่วนร่วมของประชาชน — ช่องทางสังเกตการณ์ รายงานผล และการรับข้อร้องเรียนพร้อมกำหนดเวลาตอบสนอง (SLA)
  7. ผู้รับผิดชอบและบทเรียน — ระบุบทเรียนเชิงกระบวนการ/บุคลากร และแผนป้องกันซ้ำ

หากสาระสำคัญทั้ง 7 ข้อนี้ปรากฏอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร กอปรกับการพบปะชี้แจงสาธารณะ จะช่วย “ปลดล็อก” วิกฤตความเชื่อมั่นที่กำลังเกิดขึ้นได้มาก

จากประเด็นท้องถิ่น สู่บรรทัดฐานธรรมาภิบาล

กรณีแม่ยาวมิได้เป็นเพียงเรื่อง “ขยะกองหนึ่ง” แต่สะท้อนโจทย์ใหญ่ของการบริหารจัดการพื้นที่สาธารณะในระดับท้องถิ่น กฎหมายและมาตรฐานมีอยู่แล้ว แต่การสื่อสารและการบังคับใช้ต้องปรากฏจริง การนำขยะไปฝังกลบในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะใกล้แหล่งน้ำหรือชุมชน เป็นเรื่องที่ทุกหน่วยงานทราบดีว่ามีความเสี่ยงสูง การตัดสินใจดังกล่าวจึงต้องมี หลักฐานทางวิชาการ และ กระบวนการมีส่วนร่วม รองรับอย่างเคร่งครัด

ในทางปกครอง หลักธรรมาภิบาลกำหนดไว้อย่างชัดเจนว่า เมื่อเกิดเหตุที่กระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาวะในชุมชน หน่วยงานรัฐต้อง ชี้แจง-รับฟัง-แก้ไข-ติดตาม อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันชุมชนเองก็มีหน้าที่ ตั้งคำถามบนข้อเท็จจริง และร่วมตรวจสอบอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งบทบาทของสภาองค์กรของผู้บริโภคในครั้งนี้จึงถือเป็น “สะพาน” เชื่อมข้อเรียกร้องของประชาชนกับกระบวนการราชการให้เดินหน้า

ทางออกเชิงระบบ  ไม่ใช่แค่ “ย้ายที่ทิ้ง” แต่ต้อง “ยกระดับทั้งห่วงโซ่”

แม้การทำ MOU กับหน่วยงานปลายทางจะช่วยลดแรงกดดันเฉพาะหน้า แต่การแก้ปัญหาที่ยั่งยืนควรมองทั้งห่วงโซ่ ตั้งแต่ แหล่งกำเนิด-การคัดแยก-การขนส่ง-สถานที่พักชั่วคราว-ปลายทางกำจัด รวมถึงการบริหารความเสี่ยงในสถานการณ์ฉุกเฉิน แนวทางที่จับต้องได้ อาทิ

  • ระบบคัดแยกต้นทางระดับชุมชน พร้อมการเก็บแยกประเภทและรอบเวลาที่แน่นอน ลดภาระฝังกลบ
  • สถานที่พักขยะชั่วคราวมาตรฐาน มีหลังคา พื้นรองกันรั่วซึม รางรวบรวมน้ำชะขยะ และบ่อบำบัด
  • แผนขนส่งโปร่งใส ระบุเส้นทาง-เวลาขนย้าย พร้อมบันทึก/หลักฐานการรับมอบปลายทาง
  • แดชบอร์ดข้อมูลสาธารณะ รายงานตัวชี้วัด (จำนวน/ชนิดขยะ ผลตรวจคุณภาพน้ำ/กลิ่น/เสียง ข้อร้องเรียน และการแก้ไข)
  • เวทีพบปะชุมชนรายไตรมาส เพื่อติดตามผล ข้อเสนอแนะ และสรุป “แก้แล้ว-กำลังดำเนินการ-เสร็จเมื่อไร”

การยกระดับเช่นนี้ทำให้ “ความเสี่ยง” ถูกจัดการเป็นระบบ ไม่ขึ้นกับดุลยพินิจรายบุคคล และที่สำคัญคือ ตรวจสอบได้ ซึ่งเป็นหัวใจของการอยู่ร่วมกันในสังคมประชาธิปไตย

จากความเงียบ สู่ความจริง

ความเงียบของหน่วยงานรัฐในประเด็นที่กระทบต่อ น้ำที่ดื่ม-อากาศที่หายใจ-ผืนดินที่เพาะปลูก ไม่ใช่ทางออกในปี 2568 ที่ข้อมูลเดินทางเร็วกว่าเดิม สังคมคาดหวังคำชี้แจงอย่างเป็นทางการที่มี ข้อมูลรองรับ และ แผนแก้ไขที่ตรวจสอบได้ ยิ่งสภาองค์กรของผู้บริโภคเข้าสู่กระบวนการแล้ว ยิ่งเป็นโอกาสของทต.แม่ยาวที่จะ เปิดข้อมูล-รับฟัง-ลงมือ เพื่อพาเรื่องนี้ไปสู่ จุดคลี่คลาย อย่างมีศักดิ์ศรีทุกฝ่าย

ในระยะสั้น สังคมต้องการคำตอบ 3 ข้อของชาวบ้านอย่างเร่งด่วน ในระยะกลาง ต้องการเห็นไทม์ไลน์รับผิดชอบ-แก้ไข-ติดตาม ในระยะยาว ต้องการเห็นระบบจัดการขยะที่ไม่นำพาความเสี่ยงกลับมาวนซ้ำ

เมื่อคำตอบเกิดขึ้นบนข้อมูลและความโปร่งใส ความสงสัยจะกลายเป็นความร่วมมือ และแม่ยาวจะได้ทั้ง “สิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัย” และ “การบริหารที่น่าเชื่อถือ” ควบคู่กัน

Fact Box ประเด็นที่ต้องจับตา 

  • หนังสือสอบถามของสภาองค์กรของผู้บริโภค ถึงทต.แม่ยาว ออกเมื่อใด เนื้อหาขอข้อมูลอะไร และกำหนดเวลาตอบภายในกี่วัน
  • ผลตรวจชนิดขยะและพื้นที่ ใครเป็นผู้ตรวจ ห้องปฏิบัติการใด มาตรฐานอะไร และเผยแพร่สู่สาธารณะเมื่อใด
  • ปลายทางขยะที่ขุดคืน ชื่อสถานที่/โรงงานที่ได้รับอนุญาต รอบเวลาขนย้าย หลักฐานการรับมอบ
  • การสื่อสารสาธารณะ มีเวทีชี้แจง/ระบบรับข้อร้องเรียน/แดชบอร์ดข้อมูลแบบเปิดหรือไม่
  • บทเรียนและผู้รับผิดชอบ มีการระบุ/ทบทวนกระบวนการตัดสินใจเดิม และมาตรการป้องกันซ้ำรอยหรือไม่

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • หน่วยงานประจำจังหวัดเชียงราย สภาองค์กรของผู้บริโภค
  • หนังสือร้องเรียนของชาวบ้านบ้านห้วยทรายขาว หมู่ 4 ถึงนายกเทศบาลตำบลแม่
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News