
สามนายทหารเพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร รุ่น 26 ผนึกกำลังแก้วิกฤตน้ำท่วมเชียงราย: บทบาทนำสู่ความหวังของคนในพื้นที่
เชียงราย, 9 กรกฎาคม 2568 – ในขณะที่ประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายจากภัยธรรมชาติที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นซ้ำซากในหลายพื้นที่ การรวมพลังของสามนายทหารเพื่อนร่วมรุ่นจากโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 26 กลายเป็นแสงแห่งความหวังในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมที่คุกคามจังหวัดเชียงราย โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอแม่สายที่ได้รับผลกระทบหนักจากอุทกภัยในอดีต
เบื้องหลังวิกฤตที่ซ่อนเรื่องราว
นอกเหนือจากการเป็นเพื่อนร่วมรุ่นแล้ว การที่ พลตรี วรเทพ บุญญะ รองแม่ทัพภาคที่ 3 และผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการก่อสร้าง กองทัพภาคที่ 3, พลโท สิรภพ ศุภวานิช เจ้ากรมการทหารช่าง, และ พลตรี จักรวีร์ เสนีย์วรยุทธ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 มาร่วมมือกันในครั้งนี้ ยังสะท้อนถึงการตระหนักรู้ในความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องแก้ไขปัญหาอุทกภัยอย่างเป็นระบบ
เหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในเดือนกันยายน 2567 ได้ทำลายอำเภอแม่สายอย่างรุนแรง ใช้เวลาถึง 2 เดือนในการทำความสะอาดและฟื้นฟูพื้นที่ ความเสียหายครั้งนั้นไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเท่านั้น แต่ยังเป็นการเปิดเผยจุดอ่อนของระบบป้องกันน้ำท่วมที่มีอยู่
ภารกิจสำคัญของ “สามทหารเสือ”
การทำงานของนายทหารทั้งสามท่านนี้มีการแบ่งบทบาทหน้าที่ที่ชัดเจนและเสริมซึ่งกันและกัน ซึ่งเป็นจุดแข็งที่สำคัญในการขับเคลื่อนโครงการใหญ่ๆ ให้บรรลุเป้าหมาย
พลตรี วรเทพ บุญญะ ในฐานะรองแม่ทัพภาคที่ 3 ทำหน้าที่เป็นผู้ประสานนโยบายระดับสูงและบูรณาการการทำงานในระดับภาค ท่านได้เน้นย้ำการปฏิบัติงานให้ได้มาตรฐานตามโครงการพัฒนาพื้นที่เพื่อป้องกันและลดผลกระทบภัยพิบัติ พร้อมทั้งมอบขวัญกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่
พลโท สิรภพ ศุภวานิช เจ้ากรมการทหารช่าง เป็นผู้นำทางด้านเทคนิคการก่อสร้างและควบคุมมาตรฐานการดำเนินงาน ท่านลงพื้นที่กำกับดูแลการปฏิบัติงานของกำลังพลกรมการทหารช่างอย่างใกล้ชิด และจัดลำดับความเร่งด่วนในการปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง
พลตรี จักรวีร์ เสนีย์วรยุทธ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 มีบทบาทสำคัญในการประสานงานระดับพื้นที่ และการสนับสนุนกำลังพลและยุทโธปกรณ์อย่างเต็มกำลัง

ความคืบหน้าโครงการขุดลอกแม่น้ำรวกหัวใจสำคัญของการแก้ไขปัญหา
โครงการขุดลอกแม่น้ำรวกเป็นโครงการสำคัญที่สุดในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในอำเภอแม่สาย ซึ่งปัจจุบันมีความคืบหน้าที่น่าพอใจ ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 7 กรกฎาคม 2568 แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
- งานขุดลอกแม่น้ำ: 96.23%
- งานถากถางพื้นที่: 100%
- ผลงานรวมทั้งหมด: 96.18%
โครงการนี้ครอบคลุมระยะทาง 14 กิโลเมตรภายใต้ความรับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 3 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการใหญ่ที่ขุดลอกแม่น้ำรวกทั้งหมด 32 กิโลเมตร โดยกรมการทหารช่างรับผิดชอบอีก 18 กิโลเมตรหลัง
ความสำคัญของโครงการนี้ไม่ได้อยู่ที่ตัวเลขความคืบหน้าเท่านั้น แต่ยังเป็นการอุดช่องว่างและแก้ไขจุดอ่อนที่เคยเป็นสาเหตุของอุทกภัยในอดีต การดำเนินการที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพนี้ แสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทของกำลังพลที่ทำงานทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อให้โครงการแล้วเสร็จก่อนฤดูฝนที่กำลังจะมาถึง
การเตรียมความพร้อมเชิงรุก MOU และการฝึกซ้อมครอบคลุม
การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเท่านั้น การเตรียมความพร้อมด้านการบริหารจัดการภัยพิบัติก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน
พลตรี จักรวีร์ เสนีย์วรยุทธ์ ได้นำทีมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ด้านความร่วมมือในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกับ 7 หน่วยงานหลักในจังหวัดเชียงราย ซึ่งประกอบด้วย
- จังหวัดเชียงราย
- มณฑลทหารบกที่ 37
- ศูนย์เฝ้าระวังและตอบโต้ภัยพิบัติเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย
- มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย
- ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 15 เชียงราย
- องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย
การลงนาม MOU นี้ไม่ใช่เพียงแค่การลงนามเป็นพิธีการ แต่เป็นการวางรากฐานสำคัญในการบูรณาการการทำงานของหน่วยงานต่างๆ ให้เป็นระบบและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีการจัดกำลังพลเข้าร่วมการฝึกซ้อมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (อุทกภัย) ระดับจังหวัด ระหว่างวันที่ 7-10 กรกฎาคม 2568 ซึ่งครอบคลุมการฝึกปฏิบัติระบบการแจ้งเตือน การกู้ภัยด้วยอากาศยาน การขับเรือยนต์ห้องแบน การใช้เครื่องสูบน้ำท่วมขัง การใช้เครื่องสูบน้ำระยะไกล และการใช้เครื่องจักรกลสำหรับช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย

ความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ
สถานการณ์น้ำท่วมในเชียงรายไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศที่ทำให้ฝนตกหนักและมีความถี่มากขึ้น ข้อมูลจากการติดตามสถานการณ์ล่าสุดแสดงให้เห็นว่าระดับน้ำในแม่น้ำสายยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เช้าวันที่ 4 กรกฎาคม 2568 และใกล้จะล้นตลิ่ง
การที่ทหารได้เข้าไปช่วยเหลือและสนับสนุนการสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมแสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการตอบสนองต่อภัยฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่หมู่บ้านเกาะทรายซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงสูง
ความสำคัญของความร่วมมือข้ามหน่วยงาน
การทำงานร่วมกันของนายทหารทั้งสามท่านนี้เป็นตัวอย่างที่ดีของการบูรณาการทำงานข้ามหน่วยงาน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนอย่างปัญหาน้ำท่วม การที่แต่ละคนมีความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ และสามารถประสานงานกันได้อย่างราบรื่น เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้โครงการต่างๆ ดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ความสำเร็จของโครงการขุดลอกแม่น้ำรวกที่มีความคืบหน้าถึง 96.18% ในช่วงเวลาอันสั้น แสดงให้เห็นถึงพลังของการทำงานเป็นทีม และความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน
ผลกระทบต่อชุมชนและเศรษฐกิจท้องถิ่น
ปัญหาน้ำท่วมในอำเภอแม่สายไม่ได้ส่งผลกระทบเพียงแค่ต่อการดำรงชีวิตของประชาชนเท่านั้น แต่ยังกระทบต่อเศรษฐกิจท้องถิ่นที่พึ่งพาการท่องเที่ยวและการค้าขายชายแดนเป็นหลัก การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมอย่างยั่งยืนจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวและนักลงทุน ซึ่งจะส่งผลดีต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจในระยะยาว
การที่รัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณเกือบ 2 หมื่นล้านบาทสำหรับการฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง
มุมมองอนาคต ความยั่งยืนและการป้องกันเชิงรุก
การดำเนินการของนายทหารทั้งสามท่านนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า แต่เป็นการวางรากฐานสำหรับการจัดการภัยพิบัติในอนาคต การจัดตั้งเขตปลอดการก่อสร้างกว้าง 40 เมตรเพื่อขยายฝั่งแม่น้ำ และการรื้อถอนอาคารที่ก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาตในเขตดังกล่าว เป็นมาตรการป้องกันเชิงรุกที่จะช่วยลดความเสี่ยงในอนาคต
แผนการฟื้นฟูที่แบ่งออกเป็นระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว แสดงให้เห็นถึงการมองการณ์ไกลและการวางแผนที่มีระบบ ซึ่งจะช่วยให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างยั่งยืน
พลังแห่งมิตรภาพเพื่อชาติและประชาชน
การรวมพลังของพลตรี วรเทพ บุญญะ, พลโท สิรภพ ศุภวานิช, และพลตรี จักรวีร์ เสนีย์วรยุทธ์ ไม่ได้เป็นเพียงแค่การทำงานร่วมกันของเพื่อนร่วมรุ่น แต่เป็นการแสดงให้เห็นถึงพลังของความสามัคคีและความมุ่งมั่นที่จะใช้ความรู้ความสามารถเพื่อประโยชน์ของชาติและประชาชน
ความสำเร็จของโครงการขุดลอกแม่น้ำรวกที่มีความคืบหน้าเกือบ 100% และการเตรียมความพร้อมด้านต่างๆ ที่ครอบคลุมและเป็นระบบ เป็นสิ่งที่สร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในพื้นที่ในช่วงฤดูฝนที่กำลังจะมาถึง
การทำงานของทหารทั้งสามท่านนี้เป็นตัวอย่างที่ดีของการที่กองทัพบกไทยสามารถปรับตัวและตอบสนองต่อภัยคุกคามรูปแบบใหม่ที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่ภัยทางการทหารเท่านั้น แต่รวมถึงภัยพิบัติทางธรรมชาติและปัญหาเชิงโครงสร้างที่มีความซับซ้อน
ในท้ายที่สุดแล้ว ความสามารถในการบูรณาการภารกิจทางทหารเข้ากับการบริการสาธารณะและการพัฒนาประเทศ เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยสร้างความไว้วางใจจากประชาชนและเสริมสร้างความเข้มแข็งของชาติโดยรวม การที่สามเพื่อนร่วมรุ่นจากเตรียมทหาร รุ่นที่ 26 สามารถมาทำงานร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาสำคัญของชาติ เป็นเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจและความหวังให้กับทุกคนในสังคมไทย
เครดิตภาพและข้อมูลจาก :
- เขียนโดย กันณพงศ์ ก.บัวเกษร ผู้ก่อตั้งนครเชียงรายนิวส์
- เรียบเรียงโดย มนรัตน์ ก.บัวเกษร ผู้ร่วมก่อตั้งนครเชียงรายนิวส์
- ข้อมูลความคืบหน้าโครงการขุดลอกแม่น้ำรวก: กองทัพภาคที่ 3 (7 กรกฎาคม 2568)
- ข้อมูลการลงนาม MOU และการฝึกซ้อม: มณฑลทหารบกที่ 37 (7 กรกฎาคม 2568)
- Nation Thailand: “Mae Sai flooding: Military reinforces flood barriers” (24 May 2025)
- Nation Thailand: “Residents evacuate as downpour causes flooding in Mae Sai” (24 May 2025)
- Bangkok Post: “Stemming the floodwaters” (2 June 2025)
- Chiang Rai Times: “Flood Warning Issues For Mae Sai Chiang Rai” (July 2025)
- กองทัพภาคที่ 3: https://www.army3.mi.th/
- กรมการทหารช่าง: https://www.engineer.rta.mi.th/
- กองทัพบกไทย: https://www.rta.mi.th/
- รายงานสถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดเชียงราย: กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
- ข้อมูลการฟื้นฟูพื้นที่น้ำท่วม: Nation Thailand (25 December 2024)
- Dailynews: “กรมควบคุมมลพิษแนะแนวทางจัดการตะกอนดินจากการขุดลอกแม่น้ำ” (June 2025)