Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

คาดไม่เกิน 10 ปี ละอ่อนเชียงรายดื่มเหล้าสถิติพุ่งขึ้นอันดับ 1 ของประเทศ

 

เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2567 กลุ่มเยาวชน YSDN (Youth Strong & Development Network) ได้จัดเสวนาคืนข้อมูลเพื่อแก้ปัญหาการดื่มแอลกอฮอล์ของเด็ก เยาวชนในจังหวัดเชียงราย และอีก 6 จังหวัด พร้อมยื่นข้อเสนอ 5 ข้อ ต่อนายวิสาร เตชะธีรวัฒน์ ประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และนายธีระ วัชรปราณี รองประธานฯ คนที่ 5 ที่วัดหัวฝาย ต.สันกลาง อ.พาน จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา 

 

นายณัฐพงษ์ ไชยพงษ์ เจ้าหน้าที่โครงการ YSDN จังหวัดน่าน กล่าวว่า จากการสำรวจข้อมูลในกลุ่มอายุ 12-15 ปี จำนวน 10,078 ในอำเภอพาน อำเภอเทิง อำเภอเวียงชัย อำเภอแม่จัน อำเภอเชียงแสน อำเภอโนนสัง อำเภอวังทอง อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน อำเภอเมืองเชียงใหม่ อำเภอบัวเชด และอำเภอกระนวน พบว่า เด็กไทยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ทำให้คุณภาพชีวิตเปราะบาง โดยพบว่า 62.75 % มีเพื่อนดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งคนที่มีผลต่อการดื่มครั้งแรกคือ เพื่อนและรุ่นพี่ รุ่นน้อง 56.53% สมาชิกในครอบครัว 31.43 %

 

ส่วนสถานที่ดื่มพบในงานบุญประเพณี 46.25 % งานวันเกิด 45.90% ดื่มช่วงรับประทานอาหารกับครอบครัว 19.10 % โดย 48.62 เคยซื้อจากร้านค้าต่างๆ ได้  ทั้งๆ ที่กฎหมายห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ดังนั้น ผลสำรวจนี้แสดงให้เห็นว่า ผู้ประกอบการยังขาดความรับผิดชอบที่จะปฏิบัติตามกฎหมาย และชี้ให้เห็นว่ายังไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายได้อย่างจริงจังโดยเฉพาะในระดับชุมชนได้

 

ด้าน นส.โสภี ดงปาลี กล่าวว่า ข้อมูลที่ได้จากการดำเนินโครงการใน 5 อำเภอ ของจังหวัดเชียงรายสะท้อนว่า หากไม่มีมาตราการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง ในอีก 5-10 ปีข้างหน้า อาจจะทำให้สถิติการดื่มของจังหวัดเชียงรายสูงเป็นอันดับหนึ่งของประเทศได้ เพราะสามารถหาซื้อได้ง่ายและราคาถูก สุราชุมชนก็มีการส่งเสริมให้ผลิตได้อย่างเสรี ซึ่งเจ้าหน้าที่สรรพสามิตจังหวัดเชียงรายที่ร่วมเสวนารับปากว่ากวดขันให้เป็นไปตามกฎหมาย และพร้อมให้คำปรึกษากลุ่มเยาวชน หรือแจ้งเหตุใหมีการตรวจสอบการกระทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะการขายให้เด็กเยาวชน รวมถึงการเข้มงวดการจัดงานดนตรี ประเพณีต่างๆ โดยการสนับสนุนจากธุรกิจรายใหญ่ มีศิลปินดารามาแสดง แต่ไม่มีการควบคุมไม่ให้เด็ก เยาวชนเข้าไปดื่มแอลกอฮอล์

ด้าน นายวิสาร เตชะธีรวัฒน์ กล่าวว่า คณะกรรมาธิการแก้ไขกฎหมาย ทั้ง 42 คน มีความเห็นตรงกันในการปกป้องเด็กเยาวชน แต่ขณะนี้มีร่างกฎหมายถึง 5 ฉบับ ที่เสนอโดยรัฐบาล พรรคการเมือง และฝ่ายประชาชนที่เป็นผู้ประกอบการ และฝ่ายรณรงค์ ทำให้ต้องพยายามหาจุดร่วมกันจากทั้ง 5 ร่าง ซึ่งไม่ง่าย แต่ก็มีความก้าวหน้าไปมากแล้ว และคาดว่าอีก 2 เดือนน่าจะเสร็จ รวมทั้งตั้งคณะอนุกรรมาธิการศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไขปัญหาการบังคับใช้กฎหมายด้วย  

 

สำหรับข้อเรียกร้อง 5 ข้อ ประกอบด้วย

1. งดขาย งดดื่มแอลกอฮอล์ให้งานประเพณี งานกาชาด งานของดีประจำพื้นที่ งานที่มีมหรสพรื่นเริง ดนตรีการแสดง ซึ่งส่วนใหญ่จัดในสถานที่ราชการ สวนสาธารณะ สถานศึกษา วัด หรือพื้นที่สาธารณะ

2.ส่งเสริมค่านิยมในครอบครัว “ไม่ชวนให้เด็กดื่ม ไม่ดื่มให้เด็กเห็น”

3.ควบคุมการโฆษณาแฝงด้วยน้ำดื่ม โซดา มีกิจกรรมดนตรี Music หรือ Sexy Marketing ใช้ศิลปิน ดาราที่มีชื่อเสียงรวมทั้ง ควบคุมการโฆษณาในสื่อออนไลน์

4. ส่งเสริมกิจกรรมสร้างสรรค์สำหรับเด็กเยาวชนให้ทั่วถึงทุกคน นอกจากในโรงเรียน เพื่อให้มีทักษะชีวิตในโลกยุคใหม่ได้ทันสมัย

5.ภาครัฐในระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล ต้องให้ความสำคัญในการสร้างเมืองที่เป็นมิตรและสร้างสรรค์สำหรับเด็กเยาวชน ผู้ใหญ่ต้องเป็นแบบอย่างที่ดี และบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ตลาดนัดแนะแนวอาชีพสร้างโอกาสเด็กและเยาวชน เลือกสร้างทางการศึกษา

 

เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2567 นายพิสุทธิศักดิ์ ธรรมะวุฒิสุข ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานทะเบียนและบัตร ได้เป็นประธานในการเปิดงาน ตลาดนัดแนะแนวอาชีพเพื่อเตรียมความพร้อมสู่โลกของการเรียนต่อและมีงานทำ ที่ สวนสุขภาพ 100 ปี อ.เชียงคำ จ.พะเยา โดยมี นายธีระชัย สมฤทธิ์ นายกเทศมนตรีตำบลเชียงคำ และหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ที่เข้าร่วมจัดซุ้มนิทรรศการให้กับเด็กและนักเรียนกว่า 300 คน เข้าร่วม ในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ.เพื่อเด็กและเยาวชนฯ ในพื้นที่ของโครงการฯ จังหวัดพะเยา ได้จัดกิจกรรม นิทรรศการตลาดนัดแนะแนวอาชีพเพื่อเตรียมความพร้อมสู่โลกของการเรียนต่อและมีงานทำ

 

นาย ขจรศักดิ์ กาติ๊บ ประธานกรรมการบริหารโครงการพัฒนาเด็ก ซี.ซี.เอฟ.จังหวัดพะเยา กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของโครงการแนะแนวอาชีพเพื่อเตรียมความพร้อมสู่โลกของงาน หรือตลาดนัดแนะแนวอาชีพ ครั้งนี้ โครงการพัฒนาเด็ก ซี.ซี.เอฟ. จังหวัดพะเยา ภายใต้การสนับสนุนของ มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชน ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นองค์กรพัฒนาเอกชนด้านการพัฒนาเด็ก ให้ความช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสโดยไม่จำกัดเพศ เชื้อชาติ ศาสนา ให้ความช่วยเหลือด้านการศึกษา สุขภาพ ทักษะชีวิตและทักษะอาชีพ และเป็นโอกาสดีที่เด็กและเยาวชนในจังหวัดพะเยา ได้รับการช่วยเหลือ และส่งเสริมอาชีพเพื่อนำไปต่อยอดในการเลี้ยงชีพในอานาคตได้
 
 
โดยมี สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานพะเยา วิทยาลัยเทคนิคเชียงคำ ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอเชียงคำ ศูนย์ฝึกอาชีพเด็กและสตรี จังหวัดเชียงราย โรงเรียนทวิบริบาลศาสตร์ เชียงราย โรงเรียนศูนย์การเรียนรู้ ณชจันทร์ และ ฟาร์มเห็ดเศรษฐกิจร่มเย็น แนะแนวทางการศึกษาต่อแก่เด็กและเยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรมในวันนี้ เพื่อสร้างโอกาสให้เด็กและเยาวชนสร้างทางเลือกการศึกษาต่อ ทั้งด้านสายอาชีพและอุดมศึกษา ที่ตรงกับความต้องการและความถนัดของตนเอง เพิ่มช่องทางให้นักเรียนและผู้ปกครองได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารของสถาบันการศึกษา และเตรียมความพร้อมในการศึกษาต่อหรือเตรียมเข้าสู่ตลาดแรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งได้รับการสนับสนุนความร่วมมือจากองค์กร หน่วยงานภาครัฐ เอกชน ภาคีเครือข่ายโรงเรียน ชุมชน จัดซุ้มนิทรรศการทักษะอาชีพเด็กในโรงเรียน เพื่องานประชาสัมพันธ์
 
 
นายพิสุทธิศักดิ์ ธรรมะวุฒิสุข กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้เป็นการเตรียมความพร้อมสู่โลกของการศึกษาต่อและมีงานทำ โดยภายในงานมีหน่วยงานการศึกษาต่างๆ ร่วมจัดนิทรรศการ สร้างความเข้าใจในเส้นทางการศึกษาและการประกอบอาชีพ ด้วยการสร้างแรงบันดาลใจ (INSPIRATION) ในหัวข้อเรื่องความสำคัญของการศึกษา สำหรับเด็กและเยาวชนในโรงเรียนภาคี ในพื้นที่การดำเนินงานโครงการฯ เพื่อสร้างโอกาสให้เด็กและเยาวชนสร้างทางเลือกการศึกษาต่อ ทั้งด้านสายอาชีพและอุดมศึกษา ที่ตรงกับความต้องการและความถนัดของตนเอง เพิ่มช่องทางให้นักเรียนและผู้ปกครองได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารของสถาบันการศึกษา และเตรียมความพร้อมในการศึกษาต่อหรือเตรียมเข้าสู่ตลาดแรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
 
 
สำหรับ มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชน ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีพื้นที่ดำเนินงานในจังหวัดพะเยา ครอบคลุม 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอจุน อำเภอปง อำเภอภูซาง และ อำเภอเชียงคำ ปัจจุบัน มีเด็กในการดูแลของโครงการ จำนวน 1,191 ราย กิจกรรมตลาดนัดแนะแนวอาชีพ ในวันนี้ได้รับการสนับสนุนความร่วมมือจากองค์กร หน่วยงานภาครัฐ เอกชน ภาคีโรงเรียน ชุมชน จัดซุ้มนิทรรศการเพื่อประชาสัมพันธ์ แนะแนวทางการศึกษาต่อแก่เด็กและเยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรม
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News