Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

พิธีมอบแบบลายผ้าพระราชทาน “ผ้าลายสิริวชิราภรณ์”

 

เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2567 หอประชุมโรงเรียนสามัคคีวิทยาคม อำเภอเมืองเชียงราย จ.เชียงราย นางสุภาพรรณ หมั่นเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีมอบแบบลายผ้าพระราชทาน “ผ้าลายสิริวชิราภรณ์” และเครื่องหมายรับรองสินค้าแฟชั่นและหัตถกรรมพระราชทาน “Sustainable Fashion : แฟชั่นแห่งความยั่งยืน” ให้กับ แม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเชียงราย หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ ประธานเครือข่ายพัฒนาสตรีจังหวัดเชียงราย รวมถึงช่างทอผ้า ช่างหัตถกรรม ผู้ผลิต ผู้ประกอบการในจังหวัดเชียงราย เพื่อนำไปสร้างสรรค์ชิ้นงาน พัฒนา ต่อยอด ตามอัตลักษณ์ ภูมิปัญญา ของแต่ละท้องถิ่น

.

ผ้าลายสิริวชิราภรณ์ ซึ่งเป็นลายที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ได้ทรงศึกษาค้นคว้าลวดลายผืนผ้าจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ และทรงนำมาออกแบบลายพระราชทาน เนื่องในปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครบ 6 รอบ 72 พรรษา โดยมีลายพระราชทานหลักจำนวน 4 ลาย ได้แก่ ลายวชิรภักดิ์, ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ 2567, ลายหัวใจ และลายดอกรักราษฎร์ภักดีโดยพระราชทานแบบตั้งต้นไว้ 4 ประเภท ได้แก่ ประเภทผ้ากาบบัว ประเภทผ้ายก, จก, ขิด, แพรวา, ประเภทผ้ามัดหมี่ และประเภทผ้าบาติก ซึ่งกลุ่มทอผ้า กลุ่มผู้ผลิตผ้า กลุ่มงานหัตถกรรม สามารถนำลายพระราชทานหลัก ทั้ง 4 ประเภทนี้ ไปถักทอผสมผสานกับลวดลายภูมิปัญญาพื้นถิ่น เพื่อสร้างอัตลักษณ์ สืบสาน และต่อยอดภูมิปัญญา และงานหัตถศิลป์พื้นถิ่น ให้ดำรงคงอยู่คู่แผ่นดินไทยสืบไป

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

จ.เชียงราย ร่วมมูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. ส่งเสริมผู้ประกอบการเยาวชน

 

เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2567 ที่ศูนย์การเรียนรู้ ซี.ซี.เอฟ.เชียงราย ตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย นางอุบลรัตน์ พ่วงภิญโญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย ดร.บรรจงเศก ทรัพย์โสภา ผู้อำนวยการมูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชน ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และนายไชยรัตน์ จินะราช รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3 ร่วมกันลงนาม MOU

ภายใต้กิจกรรมส่งเสริมผู้ประกอบการเยาวชนในจังหวัดเชียงราย (ทักษะอาชีพเด็กในโรงเรียน) ระหว่าง มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ เพื่อเด็กและเยาวชน ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3 เพื่อร่วมกันส่งเสริมรูปแบบการศึกษาด้านธุรกิจและชมรมทักษะอาชีพในโรงเรียน เป็นการแก้ไขปัญหาระยะยาวและยั่งยืนสำหรับเด็กและเยาวชนด้อยโอกาสที่แสวงหาทางเลือกอาชีพสำหรับอนาคต เพื่อให้นักเรียนมีความรู้และทักษะในการประกอบอาชีพทางเลือก รวมทั้งปลูกฝังทัศนคติที่ดีต่ออาชีพที่มีคุณค่าให้กับนักเรียน ส่งเสริมให้ครูมีทักษะเป็นผู้ประกอบการในการขยายองค์ความรู้เพิ่มเติม สร้างรายได้เพิ่มและลดภาระค่าใช้จ่ายประจำวันของครอบครัว โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ และจัดตั้งกลุ่มอาชีพชมรมอาชีพเพื่อการสำรวจและปฏิบัติของรุ่นน้องในอนาคต โดยมี ผู้อำนวยการโรงเรียนและคณะผู้บริหาร บุคคลากรครู และทางมูลนิธิฯ ร่วมพิธีในครั้งนี้ด้วย

ดร.บรรจงเศก ทรัพย์โสภา ผู้อำนวยการมูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชนฯ กล่าวว่า มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชน ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ถือเป็นองค์กรพัฒนาเอกชนด้านการพัฒนาเด็ก ให้ความช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาส จำนวน 34 จังหวัด 35 โครงการฯ มีเด็กในความดูแลของมูลนิธิฯ จำนวน 44,000 คนทั่วประเทศ ให้ความช่วยเหลือด้านการศึกษา ทุนการศึกษาประจำปี ด้านสุขภาพ ส่งเสริมการเรียนรู้ทักษะชีวิตและทักษะอาชีพแก่เด็กและเยาวชน

โดยครั้งนี้ทางมูลนิธิฯ ร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3 จะดำเนินโครงการส่งเสริมผู้ประกอบการเยาวชนในจังหวัดเชียงราย (ทักษะอาชีพเด็กในโรงเรียน) จำนวน 10 โรงเรียนในสังกัดพื้นที่อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย งบประมาณจำนวนทั้งสิ้น 745,600 บาท (เจ็ดแสนสี่หมื่นห้าพันหกร้อยบาทถ้วน) ซึ่งโรงเรียนที่ได้รับการคัดเลือกสำหรับโครงการนี้ จำนวน 10 โรงเรียน โดยระยะเวลาดำเนินโครงการ 12 เดือน ได้แก่ 1. กลุ่มไส้อั่วยูนนานท้องถิ่นของโรงเรียนบ้านแม่หม้อ 2. พวงกุญแจผ้าทอชาวเขา โรงเรียนบ้านห้วยผึ้ง 3. คุกกี้ดอกไม้/ผ้าพิมพ์ลายใบไม้ ชุมชนศึกษา โรงเรียนบ้านแม่สะแลป 4. คุกกี้ชาเขียว/งาขี้ม่อน โรงเรียนบ้านกลาง 5. ผลิตภัณฑ์แกะสลักเลซิ่ง โรงเรียนพญาไพรไตรมิตร 6. ผลิตภัณฑ์ตุ๊กตาดินเผา โรงเรียนบ้านพญาไพร 7. คุ๊กกี้หว่านหอมแดง โรงเรียนบ้านจะตี 8. ของที่ระลึกจากเครื่อง CNC โรงเรียนดอยแสนใจ (ตชด.อนุสรณ์) 9. ของที่ระลึกจากเครื่องเลเซอร์ โรงเรียนบ้านปางมะหัน และ 10. หมอนรองคอ ผ้าปักชนเผ่า โรงเรียนบ้านมนตรีวิทยา

ดังนั้น มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ.เพื่อเด็กและเยาวชน มุ่งเน้นในการพัฒนาส่วนที่ต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด  อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย จึงได้รับการคัดเลือกโดยพิจารณาจากความยากจน ความขาดแคลนในการดำรงชีวิต และความซับซ้อนทางสังคม โดยการแสวงหาความร่วมมือกับองค์กรภาคีเครือข่ายในพื้นที่ให้บรรลุเป้าหมายต่อไป

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

ไฮไลต์ ‘เบียนนาเล่ เชียงราย’ 6-7 เม.ย. 67 ดนตรีของ 10 ชาติพันธุ์

 

เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2567 นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า งานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 ประสบความสําเร็จอย่างดงามด้วยความร่วมมือร่วมใจจากทุกภาคส่วน รวมถึงการสนับสนุนจากคนไทยและนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกเดินทางมาเที่ยวชมงานศิลปะที่จัดแสดงในสถานที่สําคัญซึ่งเชื่อมโยงแหล่งเที่ยวของจังหวัดเชียงราย ด้วยนิทรรศการหลักและกิจกรรมคู่ขนานที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องไปจนสิ้นสุดโครงการในวันที่ 30 เมษายน 2567

 

นายเสริมศักดิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับกิจกรรมคู่ขนานสำคัญในช่วงปลายเดือนมีนาคม จนถึงช่วงต้นเดือนเมษายน 2567 ได้แก่

1) งาน “Chiangrai Cosplay summer meeting 2024” วันที่ 30 มีนาคม 2567 โดยกลุ่มเยาวชนคอสเพลย์เชียงราย (Chiangrai Cosplay Club) ซึ่งเป็นกิจกรรมสร้างสรรค์และพัฒนาทักษะความสามารถด้านศิลปะของคนรุ่นใหม่ที่มารวมตัวกันสร้างสรรค์กิจกรรม พร้อมออกบูธจำหน่ายของสะสมและของที่ระลึก ณ บริเวณลานใต้ต้นจามจุรี หอศิลป์ร่วมสมัยเมืองเชียงราย (CIAM) 

 

2) ข่วง Crafts โดยจาก Craftsman Cafe & Spaces เครือข่ายศิลปะร่วมสมัยในจังหวัดเชียงราย ที่ตั้งใจเปิดพื้นที่ให้ผู้สร้างงานศิลปะได้มีโอกาสทำงานร่วมกัน โดยจัดกิจกรรมต่อเนื่องทุกวันเสาร์ – อาทิตย์แรกของเดือน นับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2566 เป็นต้นมา เช่น กิจกรรม Workshop โดยสมาชิกศิลปินสมาชิก งาน Paint โมเดลจิ๋ว, การระบายสีน้ำ, งานผ้า และงานเพนต์ก้อนหิน โดยล่าสุดข่วง Crafts ร่วมกับ Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 และ สสส. จัดกิจกรรม “ปิดเทอมสร้างสรรค์ อัศจรรย์วันว่าง” เพื่อเปิดโอกาสการเรียนรู้ทางศิลปะให้แก่เยาวชนในช่วงปิดเทอมได้เข้าร่วม Class เรียนศิลปะสำหรับเด็ก เรียนรู้พื้นฐานเส้น การเล่นสี การวาดรูปและฝึกใช้จินตนาการสร้างผลงานศิลปะขั้นพื้นฐาน ในวันที่ 30-31 มีนาคม 2567 ณ Craftsman Cafe And Spaces หมู่บ้านลานทอง จังหวัดเชียงราย

 

นายเสริมศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า 3) กิจกรรมไฮไลต์สำคัญ คือ เทศกาลดนตรีชาติพันธุ์ “กวาคีลา : เป่า ร้อง กลอง รำ เปิดโลกวิถีวัฒนธรรมดนตรีชาติพันธุ์เมืองเชียงราย” ซึ่งเป็นการแสดงดนตรีของ 10 ชาติพันธุ์เมืองเชียงราย ได้แก่ กลุ่มชาติพันธุ์ อาข่า อิ้วเมี่ยน ม้ง ลีซู ลาหู่ บาเกียว ปกาเกอะญอ ดาราอ้าง  คะฉิ่น ขมุ และลัวะ ในวันที่ 6-7 เมษายน 2567 ภายใต้ความร่วมมือของผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.องอาจ อินทนิเวศ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย กิจกรรมการสร้างสรรค์ศิลปะร่วมสมัยที่จะเนรมิตบรรยากาศของหอศิลป์   ร่วมสมัยเมือง เชียงราย (CIAM) ให้อบอวลไปด้วยเสียงดนตรีอันเป็นเครื่องมือสื่อสารวิถีวัฒนธรรม อันหลากหลาย จากกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ในจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยกิจกรรมทีน่าสนใจในเทศกาล  เช่น นิทรรศการให้ความรู้เรื่องดนตรีชาติพันธุ์ของแต่ละกลุ่ม การแสดงดนตรีพื้นเมืองจากวงดนตรีนักเรียน  ในจังหวัดเชียงราย การแสดงดนตรีจากวงดนตรีกลุ่มชาติพันธุ์ร่วมสมัย การเสวนาจากนักวิชาการด้านดนตรี การเสวนาจากปราชญ์ชาติพันธุ์ท้องถิ่น การออกร้านจำหน่ายอาหารและสินค้าของกลุ่มชาติพันธุ์ และกิจกรรมการละเล่นพื้นบ้านชาติพันธุ์ โดยรอบบริเวณงาน ขอเชิญชวนคนรุ่นใหม่สายอาร์ตมาร่วมกิจกรรม Collateral Event เปิดมุมมองใหม่ ส่งเสริมเศรษฐกิจและภาคภูมิใจไปกับอัตลักษณ์ของเมืองเชียงราย ในงานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 ซึ่งยังคงจัดต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 30 เมษายน 2567 นี้

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงวัฒนธรรม

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

เคาะสันโค้ง 12-16 เม.ย.67 ถนนคนเล่นน้ำ เริ่มเล่นน้ำตั้งแต่ เที่ยงวัน – 4 ทุ่ม

 

เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2567 ที่ประชุมจัดงานสงกรานต์ สันโค้งถนนคนเล่นน้ำ สภ.เมืองเชียงรายประชุมเตรียมการจัดงานสันโค้งถนนคนเล่นน้ำเทศบาลนครเชียงราย กับทาง เทศบาลนครเชียงราย เจ้าของพื้นที่ชุมชนสันโค้งและชุมชนใกล้เคียง การดูแลความปลอดภัยตำรวจกองเมืองเชียงรายสถาบันการศึกษาโรงเรียนสันโค้ง บริเวณถนนโรงเรียนเทศบาลเด่นห้า ถนนด้านหน้าของวิทยาลัยเทคนิคเชียงราย และผลกระทบที่จะเกิดกับโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์

 

โดยที่ประชุมได้สรุปและขอประชาสัมพันธ์ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบดังนี้

1.จัดงานตั้งแต่วันที่ 12-16 เมย.67 กำหนดเวลาเล่นน้ำตั้งแต่ 12.00-22.00 น.ในแต่ละวัน การใช้เสียงหรือเครื่องเสียง การเปิดใช้เสียงขอให้ดังเหมาะสมไม่สร้างความรำคาญให้แก่ชุมชน ปิดเครื่องเสียงหลัง 22.00 น. ให้เจ้าบ้านคอยกำกับดูแลกันก่อนที่ตำรวจจะมาจัดการ

2.มีขบวนแห่วันที่ 14 เมย.67 แห่พระและขบวนแห่สงกรานต์สันโค้งถนนคนเล่นน้ำฯ เวลา 14.00น.-15.30 น.

3.เส้นทางเดินรถสันโค้งน้อยเป็น One way จากแยกโรงบาลมาทางแยกเด่นห้า จะเริ่มปิดเส้นทางเดินรถทางเดียวตั้งแต่เวลา 15.00-20.00น.

4.เปิดให้ใช้ห้องน้ำที่วัดเชตุพน และเปิดให้ชาวบ้านเก็บเงินอำนวยสะดวกค่าเข้าห้องน้ำ

5.การขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ดำเนินให้ถูกต้องตามกฎหมาย

6.รณรงค์การแต่งกายพื้นเมือง เหมาะสมและการดื่มของมึนเมาให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย

 

ขอประชาสัมพันธ์แก่นักท่องเที่ยวและคนมาเล่นน้ำ ร่วมไปถึงความร่วมมือให้ชาวบ้านที่อยู่เส้นทางสันโค้งน้อย ได้ยึดถือปฏิบัติโดยความสามัคคีพร้อมเพรียงกัน ช่วยตกแต่งหน้าบ้านตลอดสายให้สวยงาม เพื่อรักษาภาพลักษณ์ที่ดีงามวัฒนธรรมของเชียงราย งานสงกรานต์สันโค้งถนนคนเล่นน้ำ เทศบาลนครเชียงราย การจัดการที่ดีทำให้งานประสบความสำเร็จเป็นที่ประทับใจแก่นักท่องเที่ยวและทุกๆ ฝ่าย ในการเป็นเจ้าบ้านที่ดี เน้นย้ำประเพณีเล่นน้ำสงกรานต์ที่ดีงาม ขับขี่ปลอดภัย เมาไม่ขับ

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สภ.เมืองเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

ฮักษา คน ดิน น้ำ ป่า กับ บ้านแม่สุภาพ จันแปงเงิน พื้นที่เกษตร

 

เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2567 ณ ศูนย์การเรียนรู้เกษตรยั่งยืน บ้านแม่สุภาพ จันแปงเงิน ตำบลแม่เงิน อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงรายคุณสุภาพและครอบครัว ร่วมกับ มูลนิธิรักษ์ไทย สำนักงานเกษตรอำเภอเชียงแสน สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอเชียงแสน เทศบาลตำบลแม่เงิน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลแม่เงิน และเครือข่ายองค์กรชุมชนในพื้นที่ ร่วมกันจัดกิจกรรม เปิดพื้นที่เรียนรู้ “เกษตรเยียวยา ฮักษา คน ดิน น้ำ ป่า เพื่อความมั่นคงด้านอาหาร” ขึ้น เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านการเกษตรกับแกนนำเกษตรกรจากพื้นที่ จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน พะเยา และเชียงราย มากกว่า 160 คน โดยได้รับเกียรติจาก นายปราณพัฒน์ หาญชัย ปลัดอำเภอเชียงแสน จังหวัดชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิด

 

นอกจากจะได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ประสบการณ์จากหน่วยงานต่างๆ ตลอดจนแรงบันดาลใจของครอบครัวคุณสุภาพแล้ว ผู้เข้าร่วมยังได้ เรียนรู้ จากฐานการเรียนรู้ เกี่ยวกับการคืนชีวิตให้ดินจากวัสดุธรรมชาติ ฐานการเรียนรู้เกษตรผสมผสนเพื่ออาหารและรายได้ที่มั่นคงและฐานการเรียนรู้การปลูกถั่วเหลืองพืชทางเลือกหลังนา จากแกนนำเกษตรกรตำบลแม่เงิน นอกจากนี้ยังผู้เข้าร่วมทุกคน ยังได้ทานอาหารและขนม ที่นำวัตถุดิบในแปลงเกษตรคุณสุภาพและเครือข่าย เช่น แกงแคไก่ น้ำพริกผักต้ม น้ำผลไม้จากสมุนไพรในแปลง ส้มตำ เป็นต้น

 

คุณรัตนา ศรีธนะ แกนนำเกษตรกร อำเภอจุน จังหวัดพะเยา หนึ่งในแกนนำเกษตรเครือข่ายเกษตรกรในโครงการ She Feed the World กล่าวว่า “เห็ดชั่วโคตร ที่ปลูกต้นไม้ เอาเชื้อเห็ดมาเติม มันยะได้มันยั่งยืน สัตว์เลี้ยงทั้งกบ ปลา ที่มีอยู่สามารถขายได้ในราคาที่สูง และที่สำคัญทุกตารางนิ้วมันสร้างอาหารได้ น่าสนใจมาก” ขณะที่ คุณอัมพร จากจังหวัดพะเยา ย้ำว่า “ฉันติดตามคุณสุภาพ จาก Facebook มานาน วันนี้ได้มีโอกาสมาพื้นที่จริง รู้สึกดีใจมาก และเห็นคุณสุภาพทำในสิ่งที่เฮาฮัก ฮักในสิ่งที่เฮาทำ มันคือความสุข ที่ฉันจะนำไปประยุกต์ใช้ในแปลงตนเองที่พะเยา”

 

สุดท้าย สุภาพ จันแปงเงิน กล่าวย้ำ ว่า เธอและครอบครัวมีความสุข มีอาหารและรายได้ที่มั่นคง นอกจากนี้เธอยังมีส่วนช่วยให้คนในชุมชนได้รวมกลุ่มทำงานร่วมกันทั้งการพัฒนาด้านการเกษตร การส่งเสริมบทบาทผู้หญิง และยุติการใช้ความรุนแรง ที่มีส่วนช่วยให้คนในชุมชนที่เคยประสบกับปัญหาเช่นเดียวกับเธอ มีความสุข หายจากภาวะซึมเซา ติดเตียงได้ เธอและความครัวมีความสุขมากและจะทำมันต่อไป

 

สุภาพ จันแปงเงิน เล่าถึงชีวิตและความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับเธอ เมื่อเธอลุกขึ้นมาเผชิญกับปัญหาที่เธอไม่คิดว่ามีทางออก….

จากความพยายามของ สุภาพ จันแปงเงิน และครอบครัว ที่เริ่มเปลี่ยนแปลงพื้นที่นาที่เธอได้รับมรดกของพ่อแม่ สู่ระบบเกษตรผสมผสาน การส่งเสริมบทบาทหญิงชาย มีหน่วยงานหลายหน่วยงาน เช่น สำนักงานเกษตรอำเภอเชียงแสน สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอเชียงแสน เทศบาลตำบลแม่เงิน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลแม่เงิน ได้เข้ามาสนับสนุนครอบครัวคุณสุภาพ ในการพัฒนาพื้นที่เกษตรเป็นแหล่งเรียนรู้ และหนึ่งในหน่วยงานที่เข้ามาร่วมสนับสนุน คือ โครงการ She Feed the World ดำเนินงานโดย มูลนิธิรักษ์ไทย ภายใต้การสนับสนุนจาก PepsiCo Foundation โดยการประสานงานจาก องค์การแคร์ นานาชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีเป้าหมายในการทำงานเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกรรายย่อย เพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาหารในระดับครัวเรือน ประเทศ และโลก และความมั่นคงด้านรายได้ของครัวเรือน

 

วันนี้ทุกตารางนิ้วในพื้นที่ 3 ไร่ 3 งาน 75 ตาราวาง คือ แหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศเกษตรที่อาศัยความเกื้อกูลกันของสิ่งต่างๆในแปลง โดยไม่ใช้สารเคมี มีความหลากหลายของพืช สัตว์ และเห็ดนานาชนิด มีพืชหลายระดับตั้งแต่พืชหัว พืชคลุมดิน พืชและไม้พุ่มขนาดเล็ก ไม้ผลระดับสูง ไม้ผลและไม้ใช้สอยที่เป็นไม้เด่นหรือไม้ที่มีเรือนยอดสูงสุดในแปลง ซึ่งช่วยเกื้อกูลในการเจริญเติบโตของสัตว์ ทั้งหอย สัตว์น้ำ แมงและแมลง นก หนู กระรอก งู ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ สิ่งเหล่านี้ได้สร้างความมั่นคงด้านอาหารและรายได้ใหกับครอบครัว ความสำเร็จนี้ได้รับการยอมรับทั้งในระดับชุมชน ตำบล อำเภอและจังหวัด ซึ่งพิสูจน์ได้จากรางวัลมากมายที่ คุณสุภาพ และครอบครัวได้รับ

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : มูลนิธิรักษ์ไทย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

ยิ่งใหญ่อลังการ งานไหว้สา มหาชินธาตุเจ้าดอยตุง

 

เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา ณ พระธาตุดอยตุง ต.ห้วยไคร้ อ.แม่สาย จ.เชียงราย  พระพุทธิวงศ์วิวัฒน์  ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย เจ้าอาวาสวัดพระสิงห์ (พระอารามหลวง)  รักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยตุง พระเซ็งกิม กตสิทโธ เจ้าอาวาสวัดกิ่วกาญจน์ อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ในฐานะประธานกรรมการดำเนินจัดงาน วัดพระธาตุดอยตุง พร้อมด้วยพุทธสานิกชนได้จัดขบวนเชิญเครื่องสักการะ พระธาตุดอยตุง   เพื่อประกอบพิธีทางสงฆ์ และ จัดการแสดงจินตภาพแห่งความมหัศจรรย์ประกอบแสงสีเสียง บอกเล่าเรื่องราว ความเป็นมาขององค์พระธาตุดอยตุง

 

      ในการจัดงาน “ต๋ามฮอยศรัทธา 2006 ปี๋เมินมา หกเป็งวันทา ไหว้สาพระมหาชินธาตุเจ้าดอยตุง” ประจำปี 2567 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 23 มีนาคม 2567 และมีพิธีสรงน้ำพระธาตุดอยตุง ในวันที่ 24 มีนาคม 2567

 

     พระพุทธิวงศ์วิวัฒน์  ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย เจ้าอาวาสวัดพระสิงห์ (พระอารามหลวง)  รักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยตุง  กล่าวว่า  พระธาตุดอยตุงถือว่ามีประวัติอันยาวนาน และเป็นปฐมเจดีย์ของล้านนา ซึ่งชาวเชียงรายถือว่าโชคดี ที่พระธาตุเจ้าดอยตุง ซึ่งเป็นที่บรรจุพระรากขวัญเบื้องซ้าย (กระดูกไหปลาร้าข้างซ้าย) ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และมีการสรงน้ำพระธาตุดอยตุงทุกปีตรงกับเดือน4 เดือน 6เหนือ ขึ้น15 ค่ำ ซึ่งถือว่าเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ปีนี้ตรงกับวันที่ 23 และ 24 มีนาคม 2567

 

     พระเซ็งกิม กตสิทโธ เจ้าอาวาสวัดกิ่วกาญจน์ ประธานกรรมการดำเนินจัดงาน วัดพระธาตุดอยตุง กล่าวว่า  ในปีนี้จัดอย่างยิ่งใหญ่กว่าปีที่ผ่านมา โดยนำการแสดงแสง สี เสียงสื่อผสม จินตภาพแห่งความมหัศจรรย์ มาจัดแสดงเรื่องการสร้างพระธาตุดอยตุง เป็นบทละคร จะทำให้เป็นสิ่งเข้าถึงทุกคนได้ง่ายและรวดเร็ว และยังมี กิจกรรม อื่น ๆ แสดงศิลปวัฒนธรรม พิธีตักน้ำทิพย์  ขบวนน้ำสรงพระราชทาน ผ้าห่มพระธาตุพระราชทาน และเครื่องสักการะ  พิธีถวายเครื่องสักการะ  พระธาตุดอยตุง พร้อมขบวนชาติพันธุ์ 18 ชาติพันธุ์ ขบวนมวลชนและเครื่องสักการะของส่วนราชการ 18 อำเภอ บูชาตุงประจำปีเกิด บูชาน้ำเต้าบรรจุน้ำทิพย์ กาดกำกิ๋นชาติพันธุ์ ขบวนแห่น้ำทิพย์และเครื่องสักการะหกเป็งวันทาไหว้สาพระมหาชินธาตุเจ้าดอยตุง และ  ชมการแสดงจินตภาพแห่งความมหัศจรรย์ละครประกอบแสงสีเสียง

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

ไทยเป็นเจ้าภาพ “วิสาขบูชาโลก” ตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนา

 

เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2567 ดร.พวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้ากราบ พระพรหมบัณฑิต (ประยูร ธมฺมจิตฺโต) เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร กรรมการมหาเถรสมาคม ในฐานะประธานสภาสากลวันวิสาขบูชาโลก (ICDV) และประธานสมาคมมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนานานาชาติ (IABU) และหารือการเตรียมจัดงานวิสาขบูชาโลก ประจำปี 2567 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ

 

พระพรหมบัณฑิต  เปิดเผยว่า ที่ประชุมฯ ในวันนี้ได้ร่วมกันสรุปกำหนดการการจัดงานวันวิสาขบูชาโลก และการจัดประชุมวิสาขบูชาโลกนานาชาติ “ในหัวข้อเอกภาพของการทำงานร่วมกัน” ซึ่งประเทศไทยได้รับเกียรติในการให้เป็นเจ้าภาพในปีนี้ (2567) โดยมีกำหนดจัดในระหว่างวันที่ 19 – 20 พฤษภาคมนี้  และมีการหารือกันเนื่องในโอกาสที่ปีนี้เป็นปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงได้มีกำหนดเชิญผู้นำทางศาสนา และพุทธศาสนิกชนจากนานาประเทศมาเข้าร่วมงานถึง 73 ประเทศ

 

โดยจะมีการจัดกิจกรรมต่างๆ การเจริญพระพุทธมนต์  และกิจกรรมถวายพระพรชัยมงคล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วย ซึ่งการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือที่ดีจากรัฐบาล ในการอำนวยความสะดวกด้านต่างๆ รวมถึงงบประมาณสนับสนุน

 

ด้าน ดร.พวงเพ็ชร กล่าวว่า ในนามของรัฐบาล น้อมรับการทำงานให้พระพุทธศาสนาและรับใช้มหาเถรสมาคมอย่างเต็มที่ ในฐานะที่ตนกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาเเห่งชาติและกรมประชาสัมพันธ์ จะประสานการจัดงานให้ประสบผลสำเร็จ และสนับสนุนด้านการประชาสัมพันธ์อย่างเต็มที่เพื่อให้การจัดงานวิสาขบูชาโลก ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ออกสู่สายตาคนทั้งโลกอย่างยิ่งใหญ่  ให้ทั่วโลกได้เห็นว่าประเทศไทยเหมาะสมที่จะเป็นศูนย์กลางทางพระพุทธศาสนา ประกอบกับปีนี้เป็นปีมหามงคลของปวงชนชาวไทย

 

เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมเป็นเจ้าภาพที่ดี ต้อนรับคณะผู้เข้าร่วมงานวิสาขบูชาโลก และเข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนา ร่วมสืบสานและน้อมนำหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนามาใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

ส่วนราชการเชียงรายพร้อมหน้า สืบสานประเพณีไหว้สาพระธาตุดอยตุง ปี 2567

 

เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พร้อมด้วยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โปรดเกล้าฯ พระราชทานน้ำสรงพระธาตุดอยตุง ผ้าไตรพระราชทาน และผ้าห่มพระธาตุพระราชทาน ในโอกาสถวายสักการะครบรอบ “2006 ปี สืบมา หกเป็งล่องฟ้า ไหว้สาพระธาตุดอยตุง” เนื่องในประเพณีนมัสการและสรงน้ำพระธาตุดอยตุง ประจำปี พ.ศ.2567

 

ในช่วงเวลา 7.00 น.ว่าที่ร้อยตรีศราวุธ จันทวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีบวงสรวงพระธาตุดอยตุง โดยมีนายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นำหัวหน้าส่วนราชการ คณะพุทธศาสนิกชน เข้าร่วมพิธี ณ บริเวณพระธาตุดอยตุง  ซึ่งประธานในพิธีฯ นำทุกภาคส่วนปักธูปหางเครื่องบวงสรวง พร้อมโปรยข้าวตอกดอกไม้

 

จากนั้นเวลา 08.00 น. เริ่มขบวนสักการะพระธาตุดอยตุง โดยนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นำข้าราชการเคลื่อนขบวนอัญเชิญเครื่องสักการะหลวง ประกอบด้วย ผ้าห่มพระธาตุ ภัตตาหารเจ ตุงจัย ช้างคู่ พัดจามร สุ่มหมาก สุ่มพลู ต้นผึ้ง และน้ำศักดิ์สิทธิจากน้ำบ่อทิพย์ พร้อมด้วยขบวนตุง ขบวนแห่เครื่องสักการะพระธาตุดอยตุงจาก 18 อำเภอ สภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เทศบาลนครเชียงราย สถานศึกษา และจากหน่วยงานภาคเอกชน จากนั้นนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นางสุภาเพ็ญ ศิริมาตย์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย และประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเชียงราย เป็นประธานนำข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย พุทธสมาคมจังหวัดเชียงราย สถานศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และพุทธศาสนิกชน ประกอบพิธีถวายเครื่องราชสักการะหลวง ต่อด้วยพิธีพระพุทธมนต์สืบชะตาหลวงล้านนา

 

จากนั้นนายณรงค์พล คิดอ่าน นายอำเภอแม่สาย อ่านหมายรับสั่งที่ 1332 ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี และนายอภิชาติ ศรีสุวรรณ์ นายอำเภอแม่ฟ้าหลวง อ่านหมายรับสั่งที่ 1410 ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี หลังเสร็จสิ้น ต่อด้วยพิธีสรงน้ำพระธาตุดอยตุง ซึ่งเป็นน้ำทิพย์ที่ผ่านการเจริญชัยมงคลคาถา จากบ่อน้ำทิพย์ พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา ลั่นฆ้องชัย 9 ครั้ง และพิธีถวายผ้าไตรพระราชทานแด่พระสงฆ์ ปิดท้ายด้วยพิธีห่มผ้าพระธาตุดอยตุง เป็นอันเสร็จพิธีตามประเพณีที่ได้ปฏิบัติมา

 

 

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
NEWS UPDATE

นิด้า เผยผลรวมคนสนับสนุน ‘พิธา’ นั่งนายกฯ ‘ก้าวไกล’ แรงความนิยมเพิ่ม

 
เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง “การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง รายไตรมาส ครั้งที่ 1/2567” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 11-13 มีนาคม 2567 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
 

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง “การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง รายไตรมาส ครั้งที่ 1/2567” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 11-13 มีนาคม 2567 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปกระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 2,000 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับคะแนนนิยมทางการเมือง การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0

 

จากการสำรวจเมื่อถามถึงบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ พบว่า 
  • อันดับ 1 ร้อยละ 42.75 ระบุว่าเป็น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (พรรคก้าวไกล) เพราะ มีความกล้าหาญ ตรงไปตรงมา บุคลิกเป็นผู้นำ และเป็นคนรุ่นใหม่ 
  • อันดับ 2 ร้อยละ 20.05 ระบุว่า ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ 
  • อันดับ 3 ร้อยละ 17.75 ระบุว่าเป็น นายเศรษฐา ทวีสิน (พรรคเพื่อไทย) เพราะ เป็นคนเก่ง มีความรู้ความสามารถ และมีประสบการณ์ด้านเศรษฐกิจ 
  • อันดับ 4 ร้อยละ 6.00 ระบุว่าเป็น นางสาวแพทองธาร (อุ๊งอิ๊งค์) ชินวัตร (พรรคเพื่อไทย) เพราะ เป็นคนรุ่นใหม่ มีทัศนคติที่ดี และมีความเป็นผู้นำ 
  • อันดับ 5 ร้อยละ 3.55 ระบุว่าเป็น นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค (พรรครวมไทยสร้างชาติ) เพราะ มีวิสัยทัศน์ดี ซื่อสัตย์ มีความรู้ความสามารถ และมีประสบการณ์ในการทำงาน 
  • อันดับ 6 ร้อยละ 2.90 ระบุว่าเป็น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (พรรคไทยสร้างไทย) เพราะ เป็นบุคคลที่มีความน่าเชื่อถือ ทำงานด้วยความโปร่งใส และมีประสบการณ์ในการทำงาน 
  • อันดับ 7 ร้อยละ 1.45 ระบุว่าเป็น นายอนุทิน ชาญวีรกูล (พรรคภูมิใจไทย) เพราะ มีความมุ่งมั่นในการทำงาน ซื่อสัตย์ และมีความเด็ดขาดในการตัดสินใจ 
  • อันดับ 8 ร้อยละ 1.05 ระบุว่าเป็น พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ (พรรคพลังประชารัฐ) เพราะ มีประสบการณ์ในการทำงาน และมีผลงานทางการเมือง ร้อยละ 2.45 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ นายชัยธวัช ตุลาธน (พรรคก้าวไกล) นายวราวุธ ศิลปอาชา (พรรคชาติไทยพัฒนา) นายชวน หลีกภัย (พรรคประชาธิปัตย์) นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน (พรรคประชาธิปัตย์) นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา (พรรคประชาชาติ) นายกรณ์ จาติกวณิช นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส (พรรคเสรีรวมไทย) และ พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง (พรรคประชาชาติ) และร้อยละ 2.05 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

 

               ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงพรรคการเมืองที่ประชาชนจะสนับสนุนในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 48.45 ระบุว่าเป็น พรรคก้าวไกล อันดับ 2 ร้อยละ 22.10 ระบุว่าเป็น พรรคเพื่อไทย อันดับ 3 ร้อยละ 12.75 ระบุว่า ยังหาพรรคการเมืองที่เหมาะสมไม่ได้ อันดับ 4 ร้อยละ 5.10 ระบุว่าเป็น พรรครวมไทยสร้างชาติ อันดับ 5 ร้อยละ 3.50 ระบุว่าเป็น พรรคประชาธิปัตย์ อันดับ 6 ร้อยละ 2.30 ระบุว่าเป็นพรรคพลังประชารัฐ อันดับ 7 ร้อยละ 1.70 ระบุว่าเป็น พรรคภูมิใจไทย อันดับ 8 ร้อยละ 1.30 ระบุว่าเป็น พรรคไทยสร้างไทย และร้อยละ 1.40 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนากล้า พรรคเสรีรวมไทย พรรคประชาชาติ พรรคเพื่อไทยรวมพลัง และพรรคท้องถิ่นไทย และไม่ตอบ/ไม่สนใจ ในสัดส่วนที่เท่ากัน

 

               เมื่อพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 8.60 มีภูมิลำเนาอยู่กรุงเทพฯ ร้อยละ 18.55 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคกลาง ร้อยละ 17.95 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคเหนือ ร้อยละ 33.45 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยละ 13.75 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคใต้ และร้อยละ 7.70 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคตะวันออก ตัวอย่าง ร้อยละ 48.10 เป็นเพศชาย และร้อยละ 51.90 เป็นเพศหญิง

 

               ตัวอย่าง ร้อยละ 12.90 อายุ 18-25 ปี ร้อยละ 17.80 อายุ 26-35 ปี ร้อยละ 18.95 อายุ 36-45 ปี ร้อยละ 26.65 อายุ 46-59 ปี และร้อยละ 23.70 อายุ 60 ปีขึ้นไป ตัวอย่าง ร้อยละ 95.50 นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ 3.55 นับถือศาสนาอิสลาม และร้อยละ 0.95 นับถือศาสนาคริสต์ และศาสนาอื่น ๆ

 

               ตัวอย่าง ร้อยละ 37.35 สถานภาพโสด ร้อยละ 60.35 สมรส และร้อยละ 2.30 หม้าย หย่าร้าง แยกกันอยู่ ตัวอย่าง ร้อยละ 26.65 จบการศึกษาประถมศึกษาหรือต่ำกว่า ร้อยละ 36.50 จบการศึกษามัธยมศึกษาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 8.00 จบการศึกษาอนุปริญญาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 25.20 จบการศึกษาปริญญาตรีหรือเทียบเท่า และร้อยละ 3.65 จบการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า

 

               ตัวอย่าง ร้อยละ 8.30 ประกอบอาชีพข้าราชการ/ลูกจ้าง/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 15.20 ประกอบอาชีพพนักงานเอกชน ร้อยละ 21.60 ประกอบอาชีพเจ้าของธุรกิจ/อาชีพอิสระ ร้อยละ 12.95 ประกอบอาชีพเกษตรกร/ประมง ร้อยละ 16.60 ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป/ผู้ใช้แรงงาน ร้อยละ 19.80 เป็นพ่อบ้าน/แม่บ้าน/เกษียณอายุ/ว่างงาน และร้อยละ 5.55 เป็นนักเรียน/นักศึกษา

 

               ตัวอย่าง ร้อยละ 23.45 ไม่มีรายได้ ร้อยละ 20.75 รายได้เฉลี่ยต่อเดือนไม่เกิน 10,000 บาท ร้อยละ 26.75 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 10,001-20,000 บาท ร้อยละ 8.80 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 20,001-30,000 บาท ร้อยละ 4.45 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 30,001-40,000 บาท ร้อยละ 4.35 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 40,001 บาทขึ้นไป และร้อยละ 11.45 ไม่ระบุรายได้

 
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

เชียงราย จัดประเพณีเทศน์มหาชาติ บุญผะเหวด ปี 67 วัดปางไตรแก้ว อ.เวียงชัย

 

เมื่อวันเสาร์ที่ 23 มีนาคม 2567  ณ วัดปางไตรแก้ว ตำบลเวียงเหนือ อำเภอเวียงชัย จังหวัดเชียงราย นางอทิตาธร  วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในพิธี “ประเพณีเทศน์มหาชาติบุญผะเหวด ประจำปี 2567 ปีที่ 21”  พร้อมด้วยนายสุธีระพงษ์ วันไชยธนวงศ์ ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย โดยมี พระอนพัทย์ อาพัดทะโร รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดปางไตรแก้ว เป็นประธานฝ่ายสงฆ์  นายบดินทร์ เทียมภักดี นายอำเภอเวียงชัย  ผู้นำท้องที่ท้องถิ่น พี่น้องประชาชนบ้านไตรแก้ว และผู้เลื่อมใสศรัทธาในพุทธศาสนา ร่วมพิธีในครั้งนี้

 

บุญผะเหวด หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่าบุญมหาชาติ เป็นประเพณีบุญตามฮีตสิบสองของชาวอีสาน แต่ถ้าถือเป็นเรื่องทานก็เป็นประเพณีบริจาคทานครั้งยิ่งใหญ่ เป็นการทำบุญและฟังเทศน์เรื่องพระเวสสันดรชาดกมหาชาติ จำนวน 13 กัณฑ์ การจัดประเพณีเทศน์มหาชาติบุญผะเหวด ประจำปี 2567 ปีที่ 21 เป็นการรำลึกถึงพระเวสสันดรผู้ซึ่งบำเพ็ญเพียรอันยิ่งใหญ่ด้วยวิธีบริจาคทานหรือทานบารมีในชาติสุดท้ายของพระพุทธองค์ก่อนที่จะมาเสวยชาติและตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า งานบุญผะเหวดเป็นงานบุญยิ่งใหญ่ของชาวบ้านไตรแก้ว ด้วยความเชื่อที่ว่า หากได้ฟังเทศน์มหาชาติครบทั้ง 13 กัณฑ์ จบภายในวันเดียวนั้น อานิสงส์จะดลบันดาลให้ไปเกิดในศาสนาของพระศรีอริยเมตไตรย

 

ซึ่งเป็นดินแดนแห่งความสุขตามพุทธคติ จึงได้จัดงานประเพณีเทศน์มหาชาติบุญผะเหวดขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ของการจัดงานครั้งนี้คือ  เพื่อรำลึกถึงการบำเพ็ญบุญคือการทำความดีที่ยิ่งใหญ่ตามความเชื่อของชาวบ้าน  เพื่ออนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณีศิลปวัฒนธรรมของชาวอีสานและภูมิปัญญาท้องถิ่นให้คงอยู่สืบไป

 

ทั้งนี้ การจัดประเพณีเทศน์มหาชาติบุญผะเหวด ประจำปี 2567 ปีที่ 21 ของวัดปางไตรแก้วในครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย จำนวน 30,000 บาท อีกด้วย

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News