Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

เชียงรายคุมเข้ม ไฟป่า-หมอกควัน ปิดอุทยานถ้ำหลวง เว้นโซนนันทนาการ

เชียงรายประกาศปิดพื้นที่อุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน คุมเข้มหมอกควันไฟป่า

เชียงราย, วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568  – อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน (เตรียมการ) ออกประกาศห้ามเข้าไปในพื้นที่ ยกเว้นโซนนันทนาการ ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ – 31 พฤษภาคม 2568 ครอบคลุม ตำบลโป่งผา, ตำบลโป่งงาม, ตำบลเวียงพางคำ และตำบลห้วยไคร้ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เพื่อป้องกันผลกระทบจาก ไฟป่า หมอกควัน PM2.5 และการลักลอบเผาป่า ตามนโยบาย 92 วัน ปลอดการเผาในพื้นที่เชียงราย

มาตรการคุมเข้มพื้นที่อุทยาน ป้องกันไฟป่า

อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน (เตรียมการ) ดำเนินมาตรการเข้มงวดเพื่อ ป้องกันการบุกรุกและเผาทำลายป่า โดยมีข้อกำหนดสำคัญ ดังนี้:

  1. ห้ามเข้าพื้นที่อุทยาน ยกเว้นโซนนันทนาการ (แหล่งท่องเที่ยวถ้ำหลวงและขุนน้ำนางนอน)
  2. กรณีจำเป็นต้องเข้าพื้นที่ ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่อุทยาน
  3. ห้ามเผาในเขตอุทยานโดยเด็ดขาด ผู้ฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 4-20 ปี ปรับ 400,000 – 2,000,000 บาท ตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562
  4. ห้ามเผาในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 2-15 ปี ปรับ 20,000 – 150,000 บาท ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507
  5. ห้ามเผาขยะและกิ่งไม้ใบไม้ในพื้นที่ชุมชนและเกษตรกรรม ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 25,000 บาท ตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535

เชียงรายเดินหน้ามาตรการ “92 วัน ปลอดการเผา” คุมเข้มไฟป่า

การประกาศปิดพื้นที่เป็นไปตาม นโยบายควบคุมการเผาในที่โล่งทุกชนิด ของจังหวัดเชียงราย เพื่อป้องกัน หมอกควันและฝุ่น PM2.5 ที่เพิ่มสูงขึ้นทุกปีจาก การเผาป่าเพื่อบุกรุกพื้นที่, การล่าสัตว์ และการเผาเพื่อเตรียมพื้นที่เกษตร รวมถึง ควันข้ามแดนจากประเทศเพื่อนบ้าน

เจ้าหน้าที่และเครือข่ายอาสาสมัครดับไฟป่า ได้รับอนุญาตให้ เข้าปฏิบัติการควบคุมไฟป่าในพื้นที่อุทยานได้โดยไม่ต้องขออนุญาตล่วงหน้า แต่ต้องประสานงานกับเจ้าหน้าที่อุทยานโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้มาตรการดังกล่าวมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ – 31 พฤษภาคม 2568

ประชาชนที่พบเห็น การลักลอบเผาป่า สามารถแจ้งสายด่วน 1362 กรมอุทยานแห่งชาติ หรือ 191 ตำรวจท้องที่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการโดยทันที

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน เตรียมการ

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
NEWS UPDATE

ครม.ไฟเขียวร่างกฎหมายใหม่ ปลดล็อกที่ดินทำกินในอุทยานฯ

เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกา 2 ฉบับ ที่เสนอโดย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อแก้ไขปัญหาการใช้ที่ดินทำกินในเขตอุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นผู้แถลงข่าวหลังการประชุม

สาระสำคัญของร่างพระราชกฤษฎีกา 2 ฉบับ

ร่างพระราชกฤษฎีกาทั้งสองฉบับนี้ประกอบด้วย:

  1. ร่างพระราชกฤษฎีกาโครงการอนุรักษ์และดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติในอุทยานแห่งชาติ ตามมาตรา 64 แห่ง พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562
  2. ร่างพระราชกฤษฎีกาโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและเขตห้ามล่าสัตว์ป่า ตามมาตรา 121 ของ พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562

ร่างพระราชกฤษฎีกาเหล่านี้จัดทำขึ้นเพื่ออนุญาตให้ประชาชนที่อยู่อาศัยหรือทำกินในพื้นที่ดังกล่าวก่อนที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ สามารถดำรงชีวิตต่อไปได้ โดยรัฐไม่ได้ให้สิทธิ์ในที่ดิน แต่ให้สามารถอยู่อาศัยและทำกินได้อย่างถูกกฎหมาย พร้อมกับมีหน้าที่ในการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่นั้น ๆ

การอนุญาตให้ใช้ที่ดินทำกิน

ครม. ได้กำหนดให้มีการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่อุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าในระยะเวลา 20 ปี โดยจะมีการกำหนดเขตที่อยู่อาศัยและที่ทำกินให้ชัดเจน โดยไม่ขยายพื้นที่เพิ่มเติม

พื้นที่ที่ครอบคลุมภายใต้โครงการนี้ ได้แก่:

  • อุทยานแห่งชาติ จำนวน 4 แห่ง เช่น อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว (เพชรบูรณ์) และอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ (จันทบุรี)
  • เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จำนวน 1 แห่ง เช่น เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูผาแดง (เพชรบูรณ์)
  • เขตห้ามล่าสัตว์ป่า จำนวน 1 แห่ง เช่น เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ (ลพบุรี)

การช่วยเหลือเกษตรกรและประชาชนในพื้นที่

สำหรับผู้ที่อยู่อาศัยในพื้นที่เหล่านี้ จะได้รับการสำรวจสิทธิ์โดย กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ซึ่งกำหนดให้แต่ละครอบครัวถือครองที่ดินไม่เกิน 20 ไร่ และหากมีครัวเรือนร่วมทำกิน จะถือครองได้ไม่เกิน 40 ไร่ ทั้งนี้ การโอนสิทธิ์หรือยินยอมให้บุคคลภายนอกเข้าใช้ที่ดินไม่ได้

การปฏิบัติงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

นายภูมิธรรม เวชยชัย ระบุว่าครม. ได้มอบหมายให้ คณะกรรมการที่ดินแห่งชาติ และ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมมือกันจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อติดตามและทบทวนกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยเน้นการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินให้มีความยั่งยืนและเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวเสริมว่า ร่างพระราชกฤษฎีกานี้เป็นการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศเขตอุทยานและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เพื่อให้ประชาชนสามารถอยู่อาศัยและทำกินได้อย่างปลอดภัย โดยไม่ละเมิดกฎหมาย

ความสำคัญของการแก้ไขกฎหมาย

นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้กล่าวถึงหลักการสำคัญในการแก้ไขกฎหมายนี้ เพื่อให้ประชาชนสามารถทำมาหากินในพื้นที่ป่าโดยไม่ถือเป็นความผิดทางอาญาอีกต่อไป พร้อมทั้งย้ำว่าการแก้ไขครั้งนี้เป็นการช่วยบรรเทาความขัดแย้งระหว่างหน่วยงานรัฐและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากกฎหมายเดิม

“เป้าหมายสำคัญคือให้ประชาชนอยู่ร่วมกับป่าอย่างมีความสุขและถูกต้องตามกฎหมาย” นายปกรณ์กล่าวทิ้งท้าย พร้อมเน้นว่าการแก้ไขกฎหมายนี้จะช่วยสร้างความเป็นธรรมและลดความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในอดีต

สรุปผลการประชุม

ครม. ได้เห็นชอบให้ดำเนินการตามร่างพระราชกฤษฎีกา 2 ฉบับนี้ เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสนับสนุนการใช้ที่ดินทำกินอย่างยั่งยืนเพื่อประโยชน์ของชุมชนในระยะยาว

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
SOCIETY & POLITICS

“ประยุทธ์” อนุมัติ 2 ร่างพรฎ. ปลดล็อกให้สิทธิทำกินถูกกฎหมาย

 

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 11 กรกฎาคม 2566 ว่า ที่ประชุมครม. มีมติรับทราบและอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา 2 ฉบับ คือ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดโครงการอนุรักษ์และดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติภายในอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. …. และร่างพระราชกฤษฎีกากาหนดโครงการอนุรักษ์และดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าหรือเขตห้ามล่าสัตว์ป่า พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ 

ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดโครงการอนุรักษ์และดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติภายในอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. …. ระยะเวลาโครงการ 20 ปีนับแต่ พ.ร.ฎ. ใช้บังคับ สำหรับพื้นที่โครงการ ใน 7 เขตอุทยานแห่งชาติ ได้แก่ 

1.อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ จ. จันทบุรี 

2.อุทยานแห่งชาติเขาสิบห้าชั้น จ. จันทบุรี 

3.อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ จ. กาญจนบุรี 

4.อุทยานแห่งชาติต้นสักใหญ่ จ. อุตรดิตถ์ 

5.อุทยานแห่งชาติตาดหมอก จ. เพชรบูรณ์ 

6.อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว จ. เพชรบูรณ์ และ 

7.อุทยานแห่งชาติลานสาง จ. ตาก 


สำหรับร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดโครงการอนุรักษ์และดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าหรือเขตห้ามล่าสัตว์ป่า พ.ศ. ….ระยะเวลาโครงการ 20 ปีนับแต่ พ.ร.ฎ. ใช้บังคับ สำหรับพื้นที่โครงการ ใน 7 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าหรือเขตห้ามล่าสัตว์ป่า ได้แก่ 

1.เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำผาท่าพล จ. พิษณุโลก 

2.เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ. ลพบุรี 

3.เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทับพญาลอ จ. เชียงราย 

4.เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน จ. อุทัยธานี 

5.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูผาแดง จ. เพชรบูรณ์ 

6.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จ. อุทัยธานี และ 

7.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลำน้ำน่านฝั่งขวา จ. อุตรดิตถ์


น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ประชาชนที่ได้รับประโยขน์ในสิทธิอาศัยและทำกินในเขตดังกล่าว ได้แก่ บุคคลธรรมดาสัญชาติไทยหรือได้ยื่นคำร้องขอสัญชาติไทยและอยู่ระหว่างรอการพิจารณาของพนักงานเจ้าหน้าที่ ที่เป็นผู้ไม่มีที่ดินทำกินและได้อยู่อาศัยหรือทำกินในเขตดังกล่าวภายใต้กรอบเวลาตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 41 (อยู่ในพื้นที่มาก่อนการประกาศเป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติ และ/หรือก่อนวันที่ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าฯ ใช้บังคับ) หรือตามคำสั่ง คสช. ที่ 66/2557 (เป็นผู้ยากไร้ ผู้ที่มีรายได้น้อย หรือผู้ไร้ที่ดินทำกินที่อยู่ในพื้นที่ก่อนวันที่ 17 มิ.ย. 57) และมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตพื้นที่โครงการหรือได้ครอบครองที่ดินรวมทั้งทำประโยชน์มาโดยต่อเนื่องและไม่มีที่ดินทำกินอื่น


การอยู่อาศัยทำกินในพื้นที่โครงการ อาทิ ครอบครองและใช้ประโยชน์ด้วยตนเอง, ไม่ได้มีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในที่ดิน, กำหนดพื้นที่ครอบครัวละไม่เกิน 20 ไร่ (ไม่เกิน 50 ไร่กรณีอยู่กันเป็นครัวเรือนตั้งแต่ 3 ครอบครัวขึ้นไป), ทำประโยชน์และอยู่อาศัยต่อเนื่อง ไม่ละทิ้งติดต่อกันเกิน 1 ปีโดยไม่มีเหตุอันสมควร, ไม่อนุญาตให้ซื้อ ขาย แลกเปลี่ยน ให้เช่า ให้เช่าซื้อ ให้ยืม หรือโอนการครอบครองให้บุคคลอื่นรวมถึงไม่บุกรุกขยายพื้นที่เพิ่มเติม โดยผู้เข้าร่วมโครงการอยู่อาศัยจะมีหน้าที่และส่วนร่วมในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู ดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ ระบบนิเวศ และความหลากหลายทางชีวภาพภายในเขตพื้นที่โครงการ


“รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ดำเนินการมาโดยตลอดในส่วนของแผนงานหรือนโยบายในการช่วยเหลือประชาชนที่ไม่มีที่ดินทำกินและได้อยู่อาศัยหรือทำกินในพื้นที่ดังกล่าว ร่าง พ.ร.ฎ 2 ฉบับนี้เป็นการสร้างสมดุลในการช่วยเหลือประชาชนให้มีที่อยู่อาศัยและทำกินที่ถูกต้องตามกฎหมายและยังให้การอนุรักษ์ธรรมชาติมีประสิทธิภาพ ซึ่งขั้นตอนต่อไปจะส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเพื่อดำเนินการต่อไป” น.ส.ทิพานัน กล่าว


เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักนายกรัฐมนตรี

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
NEWS SOCIETY & POLITICS

วัฒนธรรมเชียงราย สำรวจอุทยานแห่งชาติ ถ้ำหลวง – ขุนน้ำนางนอน

จังหวัดเชียงราย จัดการประชุมคณะอนุกรรมการสำรวจและบริหารจัดการระบบถ้ำในเขตอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง – ขุนน้ำนางนอน (เตรียมการ) อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย

Facebook
Twitter
Email
Print
เมื่อวันศุกร์ที่ 19 พฤษภาคม 2566 เวลา 09.30 – 16.00 น. ณ อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง – ขุนน้ำนางนอน (เตรียมการ) อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จัดการประชุมคณะอนุกรรมการสำรวจและบริหารจัดการระบบถ้ำในเขตอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง – ขุนน้ำนางนอน (เตรียมการ) อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยมี นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทน อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เป็นประธานการประชุมฯ เพื่อกำหนดแนวทางการพัฒนาแนวทางการบริหารจัดการอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง – ขุนน้ำนางนอน (เตรียมการ) ในการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ในการสำรวจ ศึกษา วิจัย หรือการทดลองเชิงวิชาการ รวมทั้งการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจของชุมชนในท้องถิ่น และหารือการจัดงานรำลึก 5  ปี กู้ภัยถ้ำหลวง ณ อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน (เตรียมการ)
 
โดยมี Mr. Vern Unsworth MBE Consullant-Extenstion and Survey นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ นางรุ่งศรัณย์ บันลือศักดิ์ชัย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน (เตรียมการ) นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย นายเสริฐ ไชยานันตา ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย หัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนนายอำเภอแม่สาย ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเป็นคณะกรรมการฯ และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมดังกล่าว
 
 ในการนี้ นางพรทิวา ขันธมาลา ผู้อำนวยการกลุ่มยุทธศาสตร์และเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม และนายวิชชากรณ์ กาศโอสถ นักวิชาการวัฒนธรรมปฏิบัติการ ผู้ประสานงานวัฒนธรรมอำเภอแม่สาย เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย

 
Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE