
เชียงรายไพรด์ 2025 – งานแห่งความกล้าหาญและความเท่าเทียม สะท้อนพลังบวกในสังคมและปักหมุดเชียงรายสู่เมืองต้นแบบแห่งความหลากหลายของประเทศไทย
เชียงราย, 28 พฤษภาคม 2568 – องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย (อบจ.เชียงราย) ร่วมแถลงข่าวเตรียมความพร้อมการจัดงาน “เชียงรายไพรด์ 2025” เพื่อส่งเสริมสิทธิความเท่าเทียมทางเพศ และเสริมสร้างพลังบวกแก่ชุมชน LGBTQIA+ จังหวัดเชียงรายเดินหน้าเป็นพื้นที่ต้นแบบแห่งความหลากหลายและการยอมรับความแตกต่าง หวังสร้างวัฒนธรรมใหม่แห่งความเท่าเทียมในสังคม
เชียงรายจับมือทุกภาคส่วน ประกาศจัด “เชียงรายไพรด์ 2025”
เมื่อวันพุธที่ 28 พฤษภาคม 2568 เวลา 15.00 น. ที่ห้องธรรมปัญญา องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย มอบหมายให้นายสุธีระพงษ์ วันไชยธนวงศ์ รองนายก อบจ.เชียงราย แถลงข่าวร่วมกับนายบุญส่ง ตินารี นายอำเภอเมืองเชียงราย และนายพงศ์ภีระ พัฐภีระพงศ์ ผู้อำนวยการมูลนิธิเอ็มพลัสเชียงราย พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนศูนย์การค้าเซ็นทรัลเชียงราย ตัวแทนภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และอินฟลูเอ็นเซอร์ชื่อดัง รวมถึงเยาวชนและกลุ่ม LGBTQIA+ เข้าร่วมงานอย่างคึกคัก สะท้อนพลังการขับเคลื่อนของทุกภาคส่วนในพื้นที่
ผลักดันสิทธิความเท่าเทียมทางเพศ และพลังบวกในสังคม
นายสุธีระพงษ์ วันไชยธนวงศ์ รองนายก อบจ.เชียงราย ระบุว่า “เชียงรายไพรด์ 2025” ถือเป็นเวทีสำคัญในการแสดงออกถึงพลังแห่งความกล้าหาญ การยืนหยัด และการสนับสนุนสิทธิของพี่น้องผู้มีความหลากหลายทางเพศในจังหวัดเชียงรายและสังคมไทยโดยรวม ย้ำว่า อบจ.เชียงรายให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชน ความเสมอภาค และการอยู่ร่วมกันอย่างเคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์มาโดยตลอด
รองนายก อบจ.เชียงราย ยังกล่าวอีกว่า “ความหลากหลายทางเพศเป็นส่วนหนึ่งของความงดงามในวัฒนธรรมของสังคม ควรได้รับการสนับสนุนอย่างจริงจัง เชียงรายคือพื้นที่ที่ทุกคนสามารถเป็นตัวของตัวเองได้อย่างปลอดภัย ภาคภูมิใจ และมีคุณค่า”
การจัดงาน “เชียงรายไพรด์ 2025” สร้างพื้นที่ปลอดภัยและเฉลิมฉลองอัตลักษณ์
งาน “เชียงรายไพรด์ 2025” จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน 2568 ณ ลานกาสะลอง ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเชียงราย ด้วยความร่วมมือจากมูลนิธิเอ็มพลัสเชียงราย และเครือข่ายภาครัฐ ภาคประชาสังคม และภาคเอกชน ภายในงานจะมีกิจกรรมเฉลิมฉลองและขบวนพาเหรดแห่งความภาคภูมิใจ รณรงค์ให้เกิดการยอมรับในความหลากหลายทางเพศ เวทีเสวนา และกิจกรรมสร้างสรรค์เพื่อชุมชน LGBTQIA+ พร้อมกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในท้องถิ่น
งานนี้ได้รับความร่วมมือจากศูนย์การค้าเซ็นทรัลเชียงราย ภาคธุรกิจ ภาคการท่องเที่ยว และภาคการศึกษาในจังหวัดอย่างกว้างขวาง เพื่อยกระดับภาพลักษณ์ของเชียงรายสู่เมืองแห่งความเท่าเทียมในระดับสากล
มุมมองและเสียงจากชุมชน LGBTQIA+ และเยาวชน
ภายในงานแถลงข่าวมีอินฟลูเอ็นเซอร์ชื่อดังของเชียงราย อาทิ ซัดดัมโซคิ้ว และมิว ลำสูลำ ที่มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ชีวิตในฐานะบุคคลหลากหลายทางเพศ พร้อมทั้งตัวแทนเยาวชนจากโครงการ MPLUS Ambassador ร่วมเวทีเสวนา ส่งเสียงของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการสังคมที่เปิดกว้าง เป็นธรรม และให้คุณค่ากับทุกอัตลักษณ์
ผู้แทนเยาวชนได้กล่าวว่า “ความหวังของคนรุ่นใหม่ คือการสร้างสังคมที่ทุกคนรู้สึกมีคุณค่า มีพื้นที่ให้แสดงออกอย่างอิสระ ปลอดภัย และปราศจากอคติ”
ผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชนและภาพลักษณ์เชียงราย
การจัดงาน “เชียงรายไพรด์ 2025” ไม่เพียงสร้างพลังบวกและแรงบันดาลใจให้กับผู้เข้าร่วมงาน แต่ยังส่งผลดีต่อภาพลักษณ์จังหวัดเชียงรายในฐานะพื้นที่ปลอดภัยสำหรับทุกเพศ เพิ่มโอกาสทางการท่องเที่ยว ส่งเสริมเศรษฐกิจและวัฒนธรรมในท้องถิ่น ให้จังหวัดเชียงรายเป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวและกลุ่ม LGBTQIA+ จากทั่วประเทศ
ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติระบุว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรม Pride ในหลายจังหวัด มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2566 จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นหนึ่งในต้นแบบของการจัดงาน Pride สามารถสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวในช่วงจัดงานกว่า 250 ล้านบาท และคาดว่าจังหวัดเชียงรายจะได้รับประโยชน์ในลักษณะเดียวกัน
การพัฒนาอย่างยั่งยืนและแนวทางขับเคลื่อน
อบจ.เชียงราย และภาคีเครือข่ายยังเดินหน้าส่งเสริมบทบาทชุมชน LGBTQIA+ ในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ผ่านกิจกรรมให้ความรู้ การรณรงค์เชิงนโยบาย และการสร้างพื้นที่ปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการสนับสนุนการมีส่วนร่วมในกิจกรรมสาธารณะ และการพัฒนาทักษะเยาวชน เพื่อส่งเสริมความเท่าเทียมในทุกมิติ
จากข้อมูลของมูลนิธิเอ็มพลัส พบว่าจังหวัดเชียงรายมีประชากร LGBTQIA+ กว่า 6,000 คน หรือร้อยละ 2.5 ของประชากรทั้งจังหวัด และมีอัตราการเปิดเผยตัวตนในที่สาธารณะเพิ่มขึ้นกว่า 10% ต่อปี ในช่วงสามปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงบรรยากาศที่เปิดกว้างและการยอมรับในพื้นที่
การวิเคราะห์และแนวโน้มอนาคต
เชียงรายไพรด์ 2025 เป็นมากกว่างานเฉลิมฉลอง แต่เป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงในเชิงโครงสร้างสังคม ประชาชน เยาวชน ภาคเอกชน และหน่วยงานรัฐต่างเห็นพ้องร่วมกันว่า “ความหลากหลายคือพลังในการขับเคลื่อนสังคมไทย” การจัดงานในครั้งนี้จะนำไปสู่การวางรากฐานของสังคมประชาธิปไตยที่ยั่งยืน ลดอคติทางเพศ และเสริมสร้างเศรษฐกิจในระยะยาว
สถิติและแหล่งอ้างอิง
- จำนวนประชากร LGBTQIA+ จังหวัดเชียงราย กว่า 6,000 คน (มูลนิธิเอ็มพลัส, 2567)
- รายได้จากการจัดงาน Pride ของเชียงใหม่ปี 2566 กว่า 250 ล้านบาท (สำนักงานสถิติแห่งชาติ, 2567)
- งาน Pride ส่งผลต่อการรับรู้สิทธิและอัตราการเปิดเผยตัวตนของบุคคลหลากหลายทางเพศ เพิ่มขึ้นกว่า 10% ต่อปี (มูลนิธิเอ็มพลัส, 2566)
- อุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องกับ LGBTQIA+ มีการเติบโตเฉลี่ย 8% ต่อปี (สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ, 2566)
เครดิตภาพและข้อมูลจาก :
- องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย
- มูลนิธิเอ็มพลัสเชียงราย
- ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเชียงราย
- สำนักงานสถิติแห่งชาติ
- สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
- อินฟลูเอ็นเซอร์และตัวแทนเยาวชนโครงการ MPLUS Ambassador