Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

พิจารณาสุดยอดผ้าเชียงราย ปี 67 ผ้าพื้นถิ่น ผ้าทอมือ ผ้าที่ทำจากมือ

 
เมื่อวันที่ศุกร์ที่ 3 พฤษภาคม 2567 ณ ห้องประชุมพวงแสด ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดเชียงรายจังหวัดเชียงราย โดยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดเชียงราย จัดการประชุมคณะกรรมการประกวดสุดยอดผ้าเชียงราย ประจำปี 2567 พิจารณาคัดเลือกสุดยอดผ้าจังหวัดเชียงราย เพื่อทูลเกล้าฯ ถวาย เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

 

ในการนี้ นางสุภาเพ็ญ ศิริมาตย์ ประธานแม่บ้านมหาดไทย เป็นประธานการประชุมฯ พร้อมด้วย นางสุภาพรรณ หมั่นเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นางจิราภรณ์ โมสิกรัตน์ อุปนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย คณะกรรมการฯ ที่ได้รับการแต่งตั้งจากจังหวัดเชียงราย และ คุณจินตนา จิตรสกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท โตโยต้าเชียงราย จำกัด เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว

 

ทั้งนี้ ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP หรือ ช่างทอจังหวัดเชียงรายได้ให้ความร่วมมือจัดส่งผ้าเข้าร่วมการประกวดฯ เป็นจำนวนมาก โดยคณะกรรมการฯ พิจารณาจากผ้าพื้นถิ่น ผ้าทอมือ ผ้าที่ทำจากมือ (Hand Made) และควรเป็นสีธรรมชาติ เส้นใยที่ใช้ทอ หรือผลิต ต้องเป็นเส้นใยฝ้ายหรือเส้นใยไหมที่เป็นเส้นใยแท้ ไม่ใช้เส้นใยประดิษฐ์หรือเส้นใยผสม

 

ในโอกาสนี้ นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย มอบหมายให้ นางสาวณพิชญา นันตาดี นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สนง.วัฒนธรรม เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในภารกิจพิธีการศพที่ได้รับพระราชทาน

 
เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 67 ที่ภายในวัดเจ็ดยอด (พระอารามหลวง) อำเภอเมืองเชียงราย นางสุภาพรรณ หมั่นเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในภารกิจพิธีการศพที่ได้รับพระราชทาน เพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ตลอดจนสร้างขวัญกำลังใจ และเป็นสิริมงคลในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานพิธีการศพที่ได้รับพระราชทานของสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย
 
 
โดยมี พระพุทธิญาณมุนี เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย เจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงราย พระภิกษุสงฆ จำนวน 10 รูป นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยหัวหน้าฝ่ายฯ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ตลอดจนประชาชนทั่วไปเข้าร่วมในพิธี ซึ่งได้กำหนดให้วันที่ 1 พฤษภาคมของทุกปี เป็นวันสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในภารกิจพิธีการศพที่ได้รับพระราชทาน เนื่องจากเป็นวันที่กระทรวงวัฒนธรรมได้เริ่มปฏิบัติภารกิจพิธีการศพที่ได้รับพระราชทานเต็มรูปแบบทั่วประเทศ โดยประกอบพิธีพร้อมกันทั่วประเทศ
 
 
ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราโชบายเกี่ยวกับพิธีการศพแก่ข้าราชการ บุคคลผู้ทำคุณประโยชน์และประชาชนผู้มีสิทธิ์ตามหลักเกณฑ์ของสำนักพระราชวังที่กำหนด โดยให้รัฐบาลดำเนินการโดยกระทรวงวัฒนธรรมสนองงานตามพระบรมราโชบายเกี่ยวกับพิธีการศพที่ได้รับพระราชทาน ตามหลักเกณฑ์สำนักพระราชวัง
 
 
โดยขยายการดำเนินงานสู่พสกนิกรทั่วประเทศ ให้ผู้วายชนม์และวงศ์ตระกูลได้รับเกียรติยศอันสูงสุดอย่างเท่าเทียม ทั่วถึง ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่มีต่อพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า โดยปฏิบัติงานพิธีการศพที่ได้รับพระราชทานทุกจังหวัดทั่วประเทศให้เป็นไปอย่างถูกต้องตามโบราณราชประเพณี สมเกียรติยศตามฐานันดรศักดิ์ชั้นยศของผู้วายชนม์ที่ได้รับ อีกด้วย
 
 
สำหรับพิธีการจัดให้มีพิธีจุดเทียนเครื่องบวงสรวง อ่านโองการบวงสรวง ปักธูปหางเครื่องบวงสรวง โปรยข้างตอกดอกไม้ ประธานในพิธีนำผู้เข้าร่วมพิธีทักษิณานุปทานทำบุญถวายเจ้าพ่อโรงโกศอารักษ์เครื่องสูง และวิญญาณผู้วายชนม์ อันเกี่ยวเนื่องกับพิธีการศพที่ได้รับพระราชทาน ตลอดจนพิธีการทางศาสนาศาสนพิธีอาราธนาศีล พระสงฆ์ให้ศีล อาราธนาพระปริตร พระสงฆ์จำนวน 10 รูป สวดพุทธมนต์ พิธีทอดผ้าบังสุกุล และร่วมกันถวายจตุปัจจัยไทยธรรม พระสงฆ์อนโมทนา ประธานในพิธีกรวดน้ำเป็นอันเสร็จพิธีตามลำดับ
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TRAVEL

วธ.เปิดตัวเที่ยวชุมชน ยลวิถี เชียงแสน ชุมชนวัดพระธาตุผาเงา (บ้านสบคำ)

 
เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2567 นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานพิธีเปิดตัว      สุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ชุมชนคุณธรรมฯ วัดพระธาตุผาเงา (บ้านสบคำ) และลานวัฒนธรรมสร้างสุข โดยมี พระพุทธิญาณมุนี เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย เจ้าอาวาสวัดพระธาตุผาเงา นางอุบลรัตน์ พ่วงภิญโญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม คณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผลประจำกระทรวงวัฒนธรรม (ค.ต.ป.วธ.) นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย รวมถึงหัวหน้าหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน เครือข่ายสภาวัฒนธรรม และชาวชุมชนวัดพระธาตุผาเงา (บ้านสบคำ) เข้าร่วม ณ ชุมชนคุณธรรมฯ วัดพระธาตุผาเงา (บ้านสบคำ) ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ในโอกาสนี้ ได้มีการแสดงศิลปวัฒนธรรม เพื่อต้อนรับ ชุด “ตีกลองหลวง” โดยกลุ่มตีกลองหลวงวัดพระธาตุผาเงา การแสดงในพิธีเปิด ชุด “ฮอมขวัญตราบนิรันดร์ สถิตมั่นแขกแก้วมาเยือน”  จากโรงเรียนเชียงแสนวิทยาคม รวมถึงการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน ชุดการเต้นบาสโลบ และการแสดงของกลุ่มแม่บ้านสบคำ ที่มีความสวยงาม สนุกสนาน สะท้อนอัตลักษณ์ วิถีชีวิตของชาวชุมชนวัดพระธาตุผาเงา(บ้านสบคำ) ได้เป็นอย่างดี
 
 
จากนั้น ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม และคณะได้เดินเยี่ยมชมตลาดวัฒนธรรม “อิ่มบุญ ยลวิถีผาเงา”ชมการแสดงขับทุ้มหลวงพระบาง โดยคณะขับทุ้มบ้านสบคำ ชมการสาธิตภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม อาทิ กลุ่มทอผ้าล้านนาลายอัตลักษณ์เชียงแสน กลุ่มวิสาหกิจชุมชนสมุนไพรวัดพระธาตุผาเงา ชมฐานการเรียนรู้ของโรงเรียนคนสามวัยวัดพระธาตุผาเงา เช่น การตัดตุง การทำตุงข้าวเปลือก การทำผางประทีป รวมถึงชมฐานแหล่งเรียนรู้และภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่โดดเด่นของชุมชน อาทิ พิธีเรียกขวัญ (ซ้อนขวัญ) ตามความเชื่อชาวไท-ลาว ฐานการเรียนรู้ “การประดิษฐ์เรือไฟเล็ก (สะเปา)” ในงานประเพณีไหลเรือไฟ ซึ่งเป็นประเพณีสำคัญของชุมชนบ้านสบคำ หนึ่งเดียวในจังหวัดเชียงราย อีกด้วย นอกจากนี้ ภายในงานมีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย CPOT และผลิตภัณฑ์ สินค้า ของดีชุมชนฯ ตลอดจนการจัดแสดงนิทรรศการและสาธิตโดยหน่วยงานในพื้นที่
 
 
นางยุพาฯ กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับจังหวัดเชียงราย และชุมชนคุณธรรมฯ วัดพระธาตุผาเงา(บ้านสบคำ) ที่ได้รับรางวัล 10 สุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ประจำปี พ.ศ. 2566 ที่คัดอย่างเข้มข้นจาก 76 ชุมชน ทั่วประเทศ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ได้ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม จัดโครงการ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2564 จนถึงปัจจุบัน มีชุมชนได้รับการคัดเลือกมาแล้วกว่า 30 ชุมชน ตามนโยบายของรัฐบาล ในการขับเคลื่อน Soft Power ของไทยสู่นานาชาติ ด้วยการนำทุนทางวัฒนธรรมของชุมชน มาพัฒนาต่อยอด สร้างสรรค์สินค้าและบริการ ทั้งนี้ ชุมชนวัดพระธาตุผาเงา หรือชุมชนบ้านสบคำ นับเป็นชุมชนคุณธรรมที่น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีผู้นำ “พลังบวร” และเครือข่ายที่เข้มแข็ง ประชาชนมีความสุข มีความรักสามัคคี มีการสืบสาน รักษา ต่อยอด ภูมิปัญญาของท้องถิ่น ซึ่งยืนยันได้ว่า ชุมชนแห่งนี้เป็นชุมชนที่มีศักยภาพ มีคุณภาพ และมีความพร้อมด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมสร้างสรรค์ในทุกมิติ สามารถต่อยอดไปสู่การท่องเที่ยวคุณภาพสูงเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวทุกประเภทอย่างยั่งยืนสืบไป โดยการต่อยอดต่อจากนี้ กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) พร้อมร่วมเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ให้นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติมาเยือน และศึกษาเรียนรู้อัตลักษณ์ วิถีชีวิต วัฒนธรรม และประเพณีของชุมชนมากยิ่งขึ้น
 
 
“ชุมชนวัดพระธาตุผาเงา (บ้านสบคำ)” ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขงทางด้านทิศตะวันตก ชื่อของวัดนี้มาจาก พระธาตุที่ตั้งอยู่บนยอดหินก้อนใหญ่มีลักษณะคล้ายรูปทรงเจดีย์ คำว่า “ผาเงา” คือ เงาของก้อนหิน จึงตั้งชื่อว่า “พระธาตุผาเงา” ตั้งอยู่ในเขตประวัติศาสตร์เมืองเชียงแสนน้อย หรือเวียงปรึกษา มีการขุดค้นพบ “พระพุทธรูปหลวงพ่อผาเงา” เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2519 คาดว่ามีอายุเก่าแก่มากถึง 1,300 ปี ภายในวัดพระธาตุผาเงา มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ประชาชนสามารถมาสักการะและท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เป็นแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้  ด้านศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ อาทิ หอพระไตรปิฎกเฉลิมพระเกียรติฯ หอพระบรมฉายามหาราชพุทธิรังสรรค์ หอวัฒนธรรมนิทัศน์ และพิพิธภัณฑ์ผ้าทอล้านนาเชียงแสน
 
 
เชิญมาสัมผัสวิถีวัฒนธรรม  อันดีงามของชาวบ้านสบคำเป็นชาวไทยเชื้อสาย ไท-ลาว ไท-ยวน ไท-ลื้อ มีอัตลักษณ์เฉพาะตัว และยังมีเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงจากวัดพระธาตุผาเงาอีกหลายแห่ง ได้แก่ สกายวอร์คผาเงาสามแผ่นดิน พิพิธภัณฑ์ผ้าทอล้านนาเชียงแสน จุดชมวิวสองฝั่งโขงบ้านสบคำ และวัดสบคำ เป็นต้น เมื่อเดินทางไปเที่ยวในชุมชนแห่งนี้ พลาดไม่ได้คืออาหาร คือ ปลาเนื้ออ่อนทอดกระเทียม และลาบปลาแม่น้ำโขง รวมถึงยังมีผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย ให้ซื้อกัน     เป็นที่ระลึก คือ ผ้าทอล้านนาลายเชียงแสน และสมุนไพรวัดพระธาตุผาเงา ด้านเทศกาลประเพณีที่จะดึงดูด ให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวกันตลอดปี ไม่ว่าจะเป็นประเพณีสรงน้ำพระธาตุผาเงา ในช่วง 12-20 เมษายนของทุกปี ประเพณีบุญข้าวประดับดิน ในวันแรม 14 ค่ำ เดือน 9 ของทุกปี และประเพณีไหลเรือไฟ 12 ราศี เป็นต้น

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สนง.วัฒนธรรม เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE ECONOMY

‘เบียนนาเล่ เชียงราย’ เงินสะพัดกว่า 2.4 หมื่นล้าน นักท่องเที่ยว 2.7 ล้านคน

 

เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2567 นายประสพ เรียงเงิน ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย เปิดเผยว่า จากการที่รัฐบาล โดย กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) มอบหมายให้สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย (สศร.) จัดงานมหกรรมศิลปะนานาชาติไทยแลนด์เบียนนาเล่ เชียงราย ระหว่างวันที่ 9 ธันวาคม 2566 -30 เมษายน2567 โดยได้มีการประชุมเพื่อสรุปผลการดำเนินงาน พบว่า การดำเนินงานเป็นหลักสำคัญในการส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศ ทั้งด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว และด้านการส่งเสริมเทศกาล หรือเฟสติวัล ซึ่งจากการเก็บข้อมูล ของ สศร. ร่วมกับ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง สรุป ยอดผู้เข้าชมงาน จัดแสดง ใน 3 ส่วนสำคัญ ณ วันที่ 21 เมษายน รวมจำนวน 2,790,964 คน โดยแบ่งเป็นเข้าชมนิทรรศการหลัก แสดงผลงานศิลปะการจัดวางเฉพาะพื้นที่ของศิลปิน 60 คนในเขต อ.เมือง อ.เชียงแสน และอ.แม่ลาว จำนวน 17 จุด จำนวน 714,235 คน ส่วนที่ Pavilion หรือ ศาลา แสดงผลงานนิทรรศการกลุ่มของศิลปิน พิพิธภัณฑ์ และองค์กรต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ 13 แห่ง มีผู้เข้าชมจำนวน 42,893 คน และในส่วน Collateral Events กิจกรรมพิเศษ มีผู้เข้าชม จำนวน 2,033,836 คน มีการเข้าถึงสื่อประชาสัมพันธ์ออนไลน์ ทาง Facebook Instagram YouTube TikTok จำนวนมากเป็นปรากฎการณ์ใหม่ที่เกิดขึ้นของมิติศิลปะ รวม 22,403,688 ครั้ง และมีการปฏิสัมพันธ์ทางสื่อโซเชียลเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว

 

นายประสพ กล่าวอีกว่า ขณะที่การเก็บข้อมูลตัวเลขเชิงเศรษฐกิจ จาก การประมาณการของสำนักงานสถิติแห่งชาติ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พบว่า มีนักท่องเที่ยว ใน จ.เชียงรายเพิ่มมากขึ้น ร้อยละ 11 เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจหมุนเวียนในพื้นที่จังหวัดเชียงรายและกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบนไม่ต่ำกว่า 24,000 ล้านบาท เกิดการหมุนเวียนเศรษฐกิจในพื้นที่ ในช่วงการจัดงาน มีการจ้างงาน 8,000 กว่าอัตรา โดยเป็นการจ้างในระบบประกันสังคม 844 อัตรา ชุมชนได้รับประโยชน์จากการจัดงาน 560 ชุมชน มีศิลปินทั้งในและต่างประเทศตั้งใจมาชมงานนี้โดยตรง 1,000 กว่าคน มี สถาบันการศึกษาทุกระดับมาดูงาน เกิน 500 กว่าแห่ง จึงเห็นภาพของจำนวนคนและการเข้าถึงงานเป็นอย่างมาก ซึ่ง นายเฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ ในฐานะผู้นำการจัดงาน แสดงข้อคิดเห็นว่า ต่อไป ไม่ต้องมีคำอธิบายแล้วว่า ไทยแลนด์เบียนนาเล่คืออะไร เพราะคนไทยมีความเข้าใจ และเข้าถึงงานศิลปะแล้ว และที่สำคัญ ได้เกิดการทำงานร่วมระหว่างหน่วยงานรัฐ ศิลปินไทย และต่างชาติ ช่างฝีมือ ลูกมือทำงาน เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ และถ่ายทอดองค์ความรู้ ระหว่างกันทำให้ศิลปิน และชาวชุมชนทุกที่มีความผูกพัน และมีความภูมิใจที่ได้ทำงานศิลปะระดับโลกให้เกิดขึ้นในประเทศไทย

 

“ผลการดำเนินงานที่เกิดขึ้นเกินความคาดหวัง เกิดผลทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม อย่างไรก็ตาม สศร. จะมีการถอดบทเรียนจากการจัดงานครั้งนี้ ไปทำการศึกษาวิจัย เพื่อการปรับปรุงและพัฒนาการจัดงานในครั้งต่อไป ที่ จ.ภูเก็ต ในปี 2568 และจะมีการสรุปข้อมูลภาพรวมอย่างเป็นทางการโดย สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. หลังการจัดงาน ในระยะเวลา 3 เดือน เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป” ผอ.สศร.

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

วัฒนธรรมเชียงราย โชว์เหนือ คว้าโล่รางวัลชุมชนต้นแบบ 3 ปีติด

 

เมื่อวันจันทร์ที่ 22 เมษายน 2567 ณ หอศิลป์แห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรมกระทรวงวัฒนธรรมจัดพิธีมอบโล่รางวัลเชิดชูเกียรติ 10 สุดยอด ชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โดย  นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานพิธีมอบโล่เชิดชูเกียรติ 10 สุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โดยมีนางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้นำชุมชน 10 สุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ข้าราชการและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม เข้าร่วม ณ หอศิลป์แห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม

 ทั้งนี้ นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย มอบหมายให้ นางสุภาพรรณ  หมั่นเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และนายพิสันต์  จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย เข้ารับโล่รางวัลผู้สนับสนุนการขับเคลื่อนชุมชนฯ

 

ในการนี้ พระพุทธิญาณมุนี เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย เจ้าอาวาสวัดพระธาตุผาเงา และนายอานนท์  สมพันธ์ ผู้ใหญ่บ้านสบคำ เข้ารับโล่รางวัล 10 สุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566

 

ในโอกาสนี้ ชุมชนคุณธรรมฯ วัดพระธาตุผาเงา (บ้านสบคำ) ได้นำทุนทางวัฒนธรรมของชุมชนมาพัฒนาต่อยอดสู่อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ หรือ Soft Power ด้านต่างๆ เพื่อให้เกิดคุณค่าและมูลค่าอย่างสร้างสรรค์ โดยร่วมจัดแสดงนิทรรศการ สาธิตภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม และนำผลิตภัณฑ์ชุมชน อาทิ ผ้าทอล้านนาลายอัตลักษณ์เชียงแสน และสมุนไพรวัดพระธาตุผาเงา มาร่วมจัดแสดงในงานดังกล่าวด้วย

 

ทั้งนี้ จังหวัดเชียงรายโดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย กำหนดจัดพิธีเปิดสุดยอดชุมชนคุณธรรมต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ชุมชนคุณธรรมฯ วัดพระธาตุผาเงา (บ้านสบคำ) โดยได้รับเกียรติจาก นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม จะมาเป็นประธานในพิธีฯ ในวันเสาร์ที่ 27 เมษายน 2567 เวลา 9.00 น. เป็นต้นไป ณ บริเวณลานจอดรถ1 วัดพระธาตุผาเงา ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย กิจกรรมประกอบด้วย การแสดงศิลปะวัฒนธรรมพื้นบ้าน อาทิ การขับทุ้ม การตีกลองหลวง การเต้นบาสโลบ เป็นต้น การสาธิตภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม อาทิ วิถีชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์ไท-ลาว การบายศรีสู่ขวัญ อาหารพื้นบ้าน ภูมิปัญญาของโรงเรียนสามวัยวัดพระธาตุผาเงา ฯลฯนิทรรศการของส่วนราชการ ชุมชนต่างๆ ชมและช้อปสินค้าทางวัฒนธรรม CPOT และสินค้าชุมชนในตลาดวัฒนธรรม “อิ่มบุญ ยลวิถีผาเงา” และลานวัฒนธรรมสร้างสุข

          จังหวัดเชียงราย เป็นจังหวัดเดียวที่ได้รับการคัดเลือกสุดยอดชุมชนคุณธรรมต้นแบ “เที่ยวชุมชนยลวิถี” ติดต่อกัน 3 ปี คือ พ.ศ.2564 ชุมชนวัดท่าข้ามศรีดอนชัย อ.เชียงของ, พ.ศ.2565 ชุมชนบ้านเมืองรวง อ.เมืองเชียงราย และ พ.ศ.2566 ชุมชนวัดพระธาตุผาเงา(บ้านสบคำ) อ.เชียงแสน

ความศักดิ์สิทธิ์ของวัดพระธาตุผาเงาตามความเชื่อของชาวบ้านนั้น เชื่อกันว่าหากใครเจ็บไข้ได้ป่วยแล้วมาสักการบูชาที่วัดนี้ อาการป่วยก็จะทุเลาลงและหายในที่สุดอย่างน่าอัศจรรย์ใจ

ตั้งอยู่บ้านสบคำ ตำบลเวียง สันนิษฐานว่าเป็นวัดที่สำคัญในสมัยอาณาจักรโยนก เดิมชื่อว่า วัดสบคำ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ต่อมาถูกกระแสน้ำพัดพังทลายลงเกือบหมดวัดจึงได้สร้างวัดขึ้นมาใหม่ ปี พ.ศ. 2519 มีการปรับพื้นที่บริเวณวัดใหม่จึงมีการขุดพบพระพุทธรูป อายุระหว่าง 700-1,300 ปี จึงได้เรียกพระพุทธรูปว่า “หลวงพ่อผาเงา” คำว่า “ผาเงา” หมายถึง เงาของก้อนผาหรือก้อนหิน ซึ่งมีขนาดใหญ่ทรงคล้ายเจดีย์ เวลาพระอาทิตย์ส่องผ่านก้อนหินทำให้เกิดเงาขนาดใหญ่ ชาวบ้านจึงเรียกว่า “พระธาตุผาเงา”

 

สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด ได้แก่ – พระอุโบสถ เป็นอาคารไม้แกะสลักด้วยไม้สักทอง สถาปัตยกรรมแบบล้านช้างผสมผสานล้านนา ภายในประดิษฐาน พระเชียงแสนสิงห์ 1 เป็นพระประธาน มีพุทธลักษณะงดงาม มีจิตรกรรมฝาผนังบอกเล่าเรื่องราวพุทธประวัติ – หอพระบรมฉายามหาราชพุทธิรังสรรค์ ภายในมีอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราชและพระฉายาลักษณ์ของราชวงศ์ รวมทั้งบุคคลสำคัญที่มาเยือนวัดพระธาตุผาเงา – วิหารหลวงพ่อผาเงา ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปหลวงพ่อผาเงา

 

ซึ่งถูกขุดพบเมื่อมีการปรับแต่งพื้นที่ของวัดมีพุทธลักษณะงดงาม จึงตั้งชื่อว่า “หลวงพ่อผาเงา” และเปลี่ยนชื่อวัดใหม่จากเดิมที่ชื่อวัดสบคำ มาเป็นวัดพระธาตุผาเงา – พระธาตุผาเงา ตั้งอยู่บนยอดหินก้อนใหญ่ คำว่าผาเงา ก็คือเงาของก้อนหิน มีลักษณะสูงใหญ่คล้ายรูปทรงเจดีย์และสร้างร่มเงาได้ดีมาก – พระบรมธาตุพุทธนิมิตเจดีย์ ตั้งอยู่บนยอดเขา เป็นเจดีย์ขนาดใหญ่สร้างครอบองค์พระธาตุเจ็ดยอดที่เหลือแต่ซากฐาน สูง 5 เมตร ภายในยังมีฐานของพระธาตุเจ็ดยอดองค์เดิมและมีภาพเขียนฝาผนังบอกเล่าเรื่องราวพระราชประวัติพระนางจามเทวี ด้านนอกสามารถเดินรอบได้ลักษณะคล้ายป้อมปราการ

 

สามารถมองเห็นทิวทัศน์สวยงามได้โดยรอบ – สกายวอร์กผาเงา 3 แผ่นดิน ตั้งอยู่ใกล้กับพระบรมธาตุพุทธนิมิตเจดีย์ ห่างจากแม่น้ำโขงประมาณ 400 เมตร เป็นสะพานกระจกรูปแปดเหลี่ยม มีความสูง 25 เมตร ทางเข้าและออกเชื่อมต่อกับถนนรอบพระบรมธาตุพุทธนิมิตเจดีย์ เป็นทางเดินพื้นกระจกนิรภัยลามิเนตและโลหะ สามารถเห็นวิวทิวทัศน์ริมแม่น้ำโขงทั้งฝั่งไทย และบ้านดอนสะหวัน เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

 

มีบริการรถรับส่งบริเวณลานจอดรถหน้าพระอุโบสถ อัตราค่าเข้าชม สกายวอร์ก วัดพระธาตุผาเงา ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็กสูงไม่เกิน 120 เซนติเมตร ไม่มีค่าใช้จ่าย จำกัดจำนวนผู้เข้าชมรอบละ 10

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สนง.วัฒนธรรม เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
CULTURE

ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง สูมาคารวะ สระเกล้าดำหัว วัฒนธรรมจังหวัดเจียงฮาย

 
เมื่อววันพฤหัสบดีที่ 18 เมษายน 2567 เวลา 09.00 น. “สืบสานสงกรานต์วิถีไทย สูมาคารวะ สระเกล้าดำหัว วัฒนธรรมจังหวัดเจียงฮาย ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง 2567” ในเทศกาลสงกรานต์ 2567

 

บุคลากรสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ร่วมรดน้ำดำหัว นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย เพื่อขอพรเนื่องในโอกาสเทศกาลสงกรานต์ และปีใหม่ล้านนา ประจำปี 2567 เพื่อความเป็นสิริมงคล และขอพรเนื่องในโอกาสเทศกาลสงกรานต์ และวันขึ้นปีใหม่ไทย ซึ่งถือเป็นการสืบทอด ขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรมอันดีงามของชาวเหนือมาแต่โบราณ

 

ประเพณีรดน้ำดำหัว เป็นสิ่งที่ทำต่อเนื่องกันมายาวนานในปีใหม่ไทย เป็นการแสดงความเคารพและความกตัญญูต่อบิดามารดา ผู้ใหญ่ และผู้มีพระคุณ ด้วยความเชื่อที่ว่า เป็นการขอขมาลาโทษ พร้อมทั้งรับคำอวยพรเพื่อสิริมงคลของชีวิต และประเพณีนี้ยังทรงคุณค่ามาจนทุกวันนี้

 

ประเพณีสงกรานต์ หรือที่รู้จักกันดีว่าคือวันขึ้นปีใหม่ไทย ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง หมายถึงการขึ้นศักราชใหม่หรือปีใหม่ตามปฏิทินสุริยคติ โดยคำว่า สงกรานต์ เป็นคำภาษาสันสกฤต แปลว่า ผ่าน หรือ เคลื่อนย้ายไป ในที่นี้คือ การเคลื่อนย้ายของพระอาทิตย์จากราศีมีนเข้าสู่ราศีเมษ ถือเป็นการเคลื่อนที่สำคัญ จึงเรียกว่า มหาสงกรานต์
ใน พ.ศ. 2432 ได้ประกาศให้วันที่ 1 เมษายน เป็นวันขึ้นปีใหม่ จนถึง พ.ศ. 2484 จอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้ประกาศเปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่ตามหลักสากล คือ วันที่ 1 มกราคม ส่วนเทศกาลสงกรานต์หรือการขึ้นปีใหม่แบบเดิม ได้กำหนดให้ตรงกับวันที่ 13 – 15 เมษายน ของทุกปี

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สนง.วัฒนธรรม เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

หน่วยราชการลงตรวจเข้มด่านชุมชน ช่วงเทศกาลสงกรานต์

 
เมื่อวันศุกร์ที่ 12 เมษายน 2567 นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย หัวหน้าคณะทำงานติดตาม ตรวจเยี่ยม จุดตรวจ จุดบริการ ด่านชุมชน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี พ.ศ. 2567 จังหวัดเชียงราย  พร้อมด้วยคณะทำงาน ประกอบด้วย  นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย, วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย, ผู้แทนผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์, ผู้แทนพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงราย, ผู้แทนผู้อำนวยการ สนง. พระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงราย โดยผู้ช่วยหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย เป็นคณะทำงานและเลขาฯ

 

ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมฯ เพื่อให้กำลังใจ มอบนโยบาย แนวทางปฏิบัติ และมอบเครื่องดื่ม น้ำดื่ม สิ่งของอุปโภค/บริโภค ให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานประจำจุดตรวจเยี่ยมฯ ในพื้นที่อำเภอแม่ฟ้าหลวง แม่สาย เชียงแสน เชียงของ และเวียงแก่น ดังนี้

 

  1. จุดตรวจตู้ยามบ้านห้วยน้ำขุ่น หมู่ที่ 1 ตำบลแม่ฟ้าหลวง อำเภอแม่ฟ้าหลวง
  2. จุดตรวจบ้านถ้ำปลา บ้านถ้ำ หมู่ที่ 3 ตำบลโป่งงาม อำเภอแม่สาย
  3. จุดตรวจบ้านเกาะผาคำ สามแยกเกาะผาคำ ตำบลบ้านแซวอำเภอเชียงแสน
  4. จุดตรวจห้วยเย็น บ้านห้วยเย็น หมู่ที่ 7 ตำบลริมโขง อำเภอเชียงของ
  5. จุดตรวจบ้านท่าเจริญ หมู่ที่ 10 ตำบลศรีดอนชัย อำเภอเชียงของ
  6. จุดตรวจบ้านห้วยเอียน หมู่ที่ 6 ตำบลหงาว อำเภอเวียงแก่น

 

ในการนี้ นายพิสันต์  จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย นายฐิติการณ์  ศิริอิศรานุวัฒน์ นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ร่วมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม ติดตามการปฏิบัติงาน ณ จุดตรวจ จุดบริการ ด่านชุมชน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ในพื้นที่อำเภอแม่ฟ้าหลวง แม่สาย เชียงแสน เชียงของ และเวียงแก่น ดังกล่าว

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สนง.วัฒนธรรม เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

MOU บริการวิชาการทำนุบำรุงกิจการพระพุทธศาสนาและศิลปวัฒนธรรม

 

เมื่อวันจันทร์ที่ 8 มีนาคม 2567 เวลา 13.00 น. ณ ห้องประชุมวิทยาลัยสงฆ์เชียงราย ศาลากลางจังหวัดหลังเดิม (ดอยจำปี) อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย วิทยาลัยสงฆ์เชียงราย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จัดพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) ว่าด้วยการบริการวิชาการทำนุบำรุงกิจการพระพุทธศาสนาและศิลปวัฒนธรรม ระหว่างวิทยาลัยสงฆ์เชียงราย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย กับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย และสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงราย โดยมี พระพุทธิญาณมุนี ผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์เชียงราย, นายโสไกร  ใจหมั้น ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงราย และนายพิสันต์  จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย มอบหมายผู้แทน ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU)ฯ ในที่ประชุมคณะสงฆ์จังหวัดเชียงราย สมัยสามัญ ครั้งที่ 2/2567 ระดับเจ้าคณะจังหวัด รองเจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะอำเภอ กองงานเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย และเลขานุการ

 

 

    บันทึกความร่วมมือ (MOU) ว่าด้วยการบริการวิชาการทำนุบำรุงกิจการพระพุทธศาสนาและศิลปวัฒนธรรม มีวัตถุประสงค๋เพื่อร่วมกันพัฒนาวิชาการ การทำนุบำรุงกิจการพระพุทธศาสนาและศิลปวัฒนธรรม, เพื่อร่วมมือกันจัดทำกิจกรรมวิชาการพระพุทธศาสนากับศาสตร์สมัยใหม่และศิลปวัฒนธรรม และเพื่อแลกเปลี่ยนด้านการศึกษา การวิจัยทางพระพุทธศาสนาและศิลปวัฒนธรรม รวมทั้งภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยมีระยะเวลา 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน 2567 ถึงวันที่ 7 เมษายน 2572

 

 

     ในการนี้ นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย มอบหมายให้ นางพรทิวา  ขันธมาลา ผู้อำนวยการกลุ่มยุทธศาสตร์และเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม เป็นผู้แทนร่วมพิธีลงนาม เและนางสาวสุพิชชา  ชุ่มมะโน นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ เป็นพยานในพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU)ฯ ดังกล่าว

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สนง.วัฒนธรรม เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
CULTURE

แข่งขันกลองปู่จานครลำปางชิงถ้วยรางวัลพระราชทาน ครั้งที่ 20

 

เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2567 เวลา 18.30 น. ดร.ลาลีวรรณ กาญจนจารีผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานพิธีเปิดการแข่งขันตีก๋องปู่จานครลำปางชิงถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ครั้งที่ 20 ประจำปี พ.ศ. 2567 ในงานสลุงหลวง กลองใหญ่ ปีใหม่เมือง นครลำปาง ประจำปี 2567 โดยมีนายชัชวาลย์ ฉายะบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวต้อนรับ นางกาญจนี อุดมกุลวณิชย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านปฏิบัติการคลังปิโตรเลียม บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) กล่าวให้การสนับสนุน

 

นางกรวรรณ สุ่มมาตย์ วัฒนธรรมจังหวัดลำปาง กล่าวรายงานฯ รศ.ดร.สุพรรณี ฉายะบุตร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดลำปาง นายสถาพร เที่ยงธรรม ผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรม นางสาวลิปิการ์ กำลังชัย รองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม นางจิตรี จิวะสันติการ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดลำปาง รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง หัวหน้าส่วนราชการ วัฒนธรรมจังหวัด 16 จังหวัดภาคเหนือ ภาคเอกชน สภาวัฒนธรรมอำเภอ 13 อำเภอ และภาคีเครือข่ายวัฒนธรรม

 

การแข่งขันตีก๋องปู่จานครลำปาง บูรณาการความร่วมมือระหว่างสภาวัฒนธรรมจังหวัดลำปาง สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดลำปาง สมาคมก๋องปู่จาและศิลปะการแสดงพื้นบ้านนครลำปาง สภาวัฒนธรรม 13 อำเภอ เครือข่ายก๋องปู่จา 13 อำเภอ ร่วมกับบริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) เพื่อสืบสานวัฒนธรรมประเพณีตีก๋องปู่จานครลำปางในกลุ่มเด็กและเยาวชนอย่างต่อเนื่อง และร่วมอนุรักษ์ ฟื้นฟูประเพณีตีก๋องปู่จา ซึ่งเป็นวัฒนธรรมท้องถิ่นให้ดำรงอยู่สืบไป ณ ลานศาลหลักเมือง และสนามหน้าพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้เมืองลำปาง (มิวเซียมลำปาง) อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง

 

สำหรับผลการแข่งขันตีก๋องปู่จานครลำปาง ชิงถ้วยพระราชทานฯ ดังนี้

1.รางวัลชนะเลิศพร้อมถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมเงินรางวัล 50,000 บาท

  • อำเภอห้างฉัตร

2.รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 รางวัล 40,000 บาท

  • อำเภองาว

3.รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 รางวัล 30,000 บาท

  • อำเภอเกาะคา

รางวัลชมเชย 10 รางวัล รางวัล 25,000บาท

  • อำเภอเมืองลำปาง
  • อำเภอแจ้ห่ม
  • อำเภอแม่พริก
  • อำเภอเสริมงาม
  • อำเภอสบปราบ
  • อำเภอวังเหนือ
  • อำเภอแม่ทะ
  • อำเภอเถิน
  • อำเภอเมืองปาน
  • อำเภอแม่เมาะ

รางวัลขวัญใจมหาชน รางวัลละ 5,000 บาท

  • อำเภอแจ้ห่ม

โดยจังหวัดลำปาง โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดลำปาง ร่วมบูรณาการกับสภาวัฒนธรรมจังหวัดลำปาง บริษัท ปตท.น้ำมัน และการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) และภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน กำหนดจัดงานสลุงหลวง กลองใหญ่ ปีใหม่เมือง นครลำปาง ประจำปี พ.ศ. 2567 ระหว่างวันที่ 7 – 13 เมษายน 2567 โดยมีพิธีเปิดการแข่งขันกลองปู่จานครลำปางชิงถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ครั้งที่ 20 ในงานสลุงหลวง กลองใหญ่ ปีใหม่เมือง นครลำปาง ประจำปี พ.ศ. 2567 ในวันจันทร์ที่ 8 เมษายน 2567 ณ ลานศาลหลักเมืองนครลำปาง และสนามหน้าพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้เมืองลำปาง (มิวเซียมลำปาง) อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง ซึ่งมีกิจกรรมสำคัญ ดังนี้

  1. กิจกรรมข่วงแก้วเวียงละกอน และถนนสายวัฒนธรรม
  2. ขบวนอัญเชิญรางวัลพระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
  3. การแข่งขันตีก๋องปู่จานครลำปางชิงถ้วยรางวัลพระราชทานฯ
  4. พิธีมอบรางวัลพระราชทานฯ และบันทึกภาพร่วมกัน
  5. การแสดงศิลปวัฒนธรรมของเด็กและเยาวชนจังหวัดลำปาง
  6. การจำหน่ายสินค้าทางวัฒนธรรม และผลิตภัณฑ์ชุมชน

ซึ่งนายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย นายสุพจน์ ทนทาน นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ และนายพร้อมพงษ์ ทาสิทธิ์ ข้าราชการและบุคลากรสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย เข้าร่วมกิจกรรมฯ ดังกล่าว

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สนง.วัฒนธรรม เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

เที่ยวสงกรานต์ เชียงรายเบียนนาเล่สาดศิลป์ สาดสุข ลุ้นรับรางวัล

 

สายอาร์ตห้ามพลาด !! เที่ยวสงกรานต์เชียงราย สนุกสนานสราญศิลป์ ในงานไทยแลนด์เบียนนาเล่ และร่วมสนุกกับกิจกรรม “สาดศิลป์ สาดสุข สนุกกับเบียนนาเล่”  ลุ้นรับรางวัล สุดชีค Limited Edition มากมาย

 

นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว วธ) เปิดเผยว่า เทศกาลสงกรานต์เป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ที่เดินทางมาท่องเที่ยวเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ความประทับใจ ในสีสันบรรยกาศ ความรื่นเริง สนุกสนาน การละเล่นและวัฒนธรรมประเพณีของแต่ละภูมิภาคในประเทศไทย ประกอบกับขณะนี้กระทรวงวัฒนธรรม 

 

โดยสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย ร่วมกับจังหวัดเชียงรายได้จัดงานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ หรือไทยแลนด์เบียนนาเล่เชียงราย ระหว่างวันที่ 9 ธันวาคม 2566 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2567 ซึ่งมีกิจกรรมต่างๆ มากมาย และมีผู้เข้าชมงานเป็นจำนวนมากเกือบ 3,000,000 คนแล้ว จึงเชิญชวนผู้สนใจไปเที่ยวชมต่อจนกว่าจะจบงาน ซึ่งในช่วงวันที่ 6-7 เมษายน จะมีงาน “กวาคีลา : เป่า ร้อง กลอง รำ เปิดโลกวิถีวัฒนธรรมดนตรีชาติพันธุ์เมืองเชียงราย” เป็นกิจกรรมการแสดงดนตรีชาติพันธุ์ ส่วนหนึ่งของการจัดมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 ภายใต้ความร่วมมือกับผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.องอาจ อินทนิเวศ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย   ควบคู่ไปกับนิทรรศการศิลปะจากศิลปินระดับโลก

 

รมว วธ กล่าวต่อว่า เพื่อให้คนเดินทางไปเที่ยวเชียงรายได้มีโอกาสชมงานศิลปะระดับโลกไปพร้อมๆ กับการเที่ยวงานสงกรานต์ที่เชียงราย กระทรวงวัฒนธรรมและจังหวัดเชียงราย จึงจัดกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสนุกลุ้นรับรางวัล โดยขอเชิญผู้ที่เดินทางไปเที่ยวเชียงราย ระหว่างวันที่ 13 – 15 เมษายน 2567 นี้ ไปเชียงราย แล้วอย่าลืมแวะชมงานศิลปะ ในจุดแสดงงานไทยแลนด์เบียนนาเล่เชียงราย แล้วถ่ายภาพ/ถ่ายคลิปที่มีภาพตัวท่านเองคู่กับงานศิลป์ และโพสต์/แชร์บนเฟซบุ๊ก หรืออินสตาแกรม ตั้งค่าสาธารณะ ติดแฮชแทค ตามนี้ 

#thailandbiennalechiangrai2023
#thailandbiennale
#สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News