เนื่องจากการตั้งสถานบันเทิงครบวงจรทั่วโลก มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ 1.5 ล้านล้านดอลาร์สหรัฐ หรือ 54 ล้านล้านบาท ในปี 65 และคาดว่าในปี 67 มูลค่าถึง 79 ล้านล้านบาท โดยมาเก๊า เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ประชาชน 7 แสนคนต่อทำรายได้ 1.2 ล้านล้านบาท โดยญี่ปุ่น เตรียมเปิดสถานบันเทิงครบวงจรครั้งแรก 3 แห่ง ทั้งเมืองโอซาก้า ในปี 2571 ที่เมืองนางาซากิ ในปี 73 และเมืองฟูกูโอกะในปี 74 จึงคาดว่าไทย หากสร้าง เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ คอมเพล็กซ์ จะสร้างรายได้เข้าประเทศ 1.2 หมื่นล้านบาทในปีแรก
นายกฯ สั่งการให้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน หามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วน มาตรการเยียวยาผู้ประกอบการและแรงงานอย่างเหมาะสม เพื่อเสนอ ครม. พิจารณา เพื่อดูแลและเยี่ยวยาปัญหาแรงงาน ผู้ได้รับผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจชะลอตัว จากปัญหาโรงงานทั่วประเทศ ต้องปิดตัวลง หรือเลิกจ้างงาน
โดยนายกรัฐมนตรีได้ย้ำ เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมาว่า มติเห็นชอบผลการศึกษาในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการแก้ไขปัญหาบ่อนพนัน ด้วยการนำเศรษฐกิจสีเทาขึ้นมากำกับดูแล และ เก็บภาษีได้อย่างถูกต้อง พร้อมย้ำว่า รัฐบาลไม่ได้ต้องการส่งเสริมการพนัน แต่ต้องการกำกับดูแลให้มีประสิทธิภาพ แก้ปัญหาผู้มีอิทธิพล แล ะนำรายได้จากการส่งเสริมการลงทุนขนาดใหญ่มาใช้ในการพัฒนาประเทศ สร้างงาน สร้างอาชีพ และ หลังจากนี้ ครม.จะต้องศึกษา และ ยกร่างกฎหมายให้สภาฯ พิจารณาต่อไป
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาไทยเสียเวลาและโอกาสมากพอแล้ว ถึงเวลาทวงคืนเวลาที่สูญเสียไปให้กลับมาเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจของประเทศแล้ว
เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์