Categories
AROUND CHIANG RAI ENTERTAINMENT

เชียงรายดังไกล “MY DANCE” คว้าชัย เวทีเต้นเอเชียตีตั๋วไประดับโลก

เด็กเชียงรายเก่งระดับโลก ความสำเร็จจาก MY DANCE ACADEMY ในการแข่งขัน UDO ASIA-PACIFIC STREET DANCE CHAMPIONSHIPS 2025

ชลบุรี, 6 เมษายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทีมนักเต้นเยาวชนจาก MY DANCE ACADEMY จังหวัดเชียงราย ได้สร้างผลงานอันน่าประทับใจและน่าภาคภูมิใจในการแข่งขัน UDO ASIA-PACIFIC STREET DANCE CHAMPIONSHIPS 2025 ซึ่งจัดขึ้น ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ศรีราชา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ระหว่างวันที่ 3-6 เมษายน 2568 การแข่งขันครั้งนี้เป็นเวทีระดับนานาชาติที่รวบรวมตัวแทนนักเต้นสตรีทแดนซ์จากทั่วทุกมุมโลก เพื่อชิงชัยความเป็นหนึ่งในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และคัดเลือกทีมที่โดดเด่นเพื่อเข้าร่วมการแข่งขัน UDO World Championships 2025 ณ ประเทศอังกฤษ ทีมจาก MY DANCE ACADEMY ไม่เพียงแต่คว้ารางวัลสำคัญถึง 4 รางวัลเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวแทนจากภาคเหนือของประเทศไทยที่สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดเชียงรายและประเทศไทยในเวทีระดับโลก

การแข่งขันครั้งนี้จัดโดย United Dance Organisation (UDO) ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรชั้นนำด้านการเต้นสตรีทแดนซ์ระดับโลก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมศักยภาพของเยาวชนผ่านการเต้น อีกทั้งยังมุ่งหวังให้เยาวชนไทยรู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ พัฒนาทักษะการทำงานเป็นทีม สร้างวินัยในตนเอง และส่งเสริมการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดี นอกจากนี้ ยังเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ปกครองได้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนและพัฒนาศักยภาพของบุตรหลานในมุมมองใหม่ๆ ที่ไม่จำกัดเพียงแค่ด้านวิชาการเท่านั้น

ความสำเร็จอันน่าภาคภูมิใจของ MY DANCE ACADEMY

ทีมจาก MY DANCE ACADEMY ซึ่งประกอบด้วยนักเต้นเยาวชนและผู้ใหญ่จากจังหวัดเชียงราย ได้แสดงความสามารถอย่างเต็มที่ในการแข่งขันครั้งนี้ โดยสามารถคว้ารางวัลใหญ่ถึง 4 รางวัล และมีอีก 2 ทีมที่สร้างสีสันบนเวที

รายชื่อสมาชิกทีมและผลงาน

ทีม MY DANCE ACADEMY ประกอบด้วยสมาชิกหลากหลายวัย ซึ่งแต่ละคนมีส่วนร่วมในการสร้างผลงานอันน่าประทับใจ ดังนี้

Myda Crew Junior ( rank 10 ) รุ่น Under 12

  1. น้องโฟกัส เด็กหญิงศุภกานต์ หลิวชาญพิมพ์ อายุ 8 ปี ชั้น ป.2/2 โรงเรียนศิริมาตย์เทวี
  2. วิปครีม เด็กหญิงชนัญชิดา กองสุวรรณ์ อายุ 10 ขวบ ชั้นป.4 โรงเรียน ต้นดีศึกษา
  3. น้องใบทาย เด็กหญิงธนิสา ไกรศรี อายุ 8 ปี โรงเรียนอนุบาลเชียงราย ชั้นประถมศึกษาปีที่2/9
  4. น้องส้ม เด็กหญิง อริสา ฮาร์มเซ่น อายุ 10 ปี โรงเรียนปิติศึกษา ป.4
  5. น้องลำพูน สิบสองปันนา พนมการณ์ 9 ปี Chiangrai International School ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
  6. น้องไดมอนด์ เด็กหญิง ปวันรัตน์ จันทร์ทวีทรัพย์ อายุ 10 ปี Chaingrai International School ชั้น ป4

MY DANGER GALZ (rank 6) รุ่น Under 18

  1. ทรีทรี วัชรวีร์ เกาะทอง อายุ 12 ปี โรงเรียนพระกุมารเยซูเชียงของ ป.6
  2. พิมพ์ ณิชารี ปงรังษี อายุ 16 ปี โรงเรียนสามัคคีวิทยาคม ม.4
  3. มีน อารยา สัทธานนท์ อายุ 17 ปี  โรงเรียนสามัคคีวิทยาคม ม.4
  4. ขวัญ นีรชา ณ ลำพูน อายุ 14 ปี โรงเรียนสามัคคีวิทยาคม ม.2
  5. นาน่า ณิชนันท์ กันยานนท์ อายุ 14 ปี โรงเรียนสามัคคีวิทยาคม ม.2
  6. โมโม่ โมนะ วังวิญญู อายุ 16 ปี โรงเรียนปิติศึกษา ม.4

Myda Supercrew รุ่น Supercrew (18 คนขึ้นไป) สมาชิกทั้งหมด ทุกทีม และเพิ่มสมาชิก อีก 4 คนคือ

  1. ทอฝัน กัญพัชย์ วงค์ฮู้ อายุ 13 ปี โรงเรียนเทศบาล 6 นครเชียงราย ม.2
  2. หยก หทัยชนก สุขวัฒนถาวรชัย อายุ 13 ปี โรงเรียนเทศบาล 6 นครเชียงยงราย ชั้น ม.2
  3. น้องเจม เด็กชาย ปพนรัตน์ จันทร์ทวีทรัพย์ อายุ 9 ปี  Chiangrai International School ชั้น ป3
  4. บุ้งกี๋ เด็กหญิง ปัญจสิริ สวัสดิวงศ์ อายุ 13 ปี โรงเรียนสามัคคีวิทยาคม ม.1

La MYDA Nostra (อันดับ 4, รุ่น Ultimate Advance)

  1. ครูหมีพู นายณภัทร บุญประกอบ อายุ 21 ปี MY DANCE ACADEMY
  2. น้องเปีย นางสาววชิรญาณ์ นามวงค์ อายุ 21 ปี มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
  3. น้องเบลล์ นางสาวธนภูพรรณ วงค์อะทะชัย อายุ 20 ปี มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
  4. ครูตระกร้อ นายศุภพิชญ์ กันยะธง อายุ 34 ปี MY DANCE ACADEMY
  5. ครูส้ม นางสาวศุภกานต์ ปัญญาพล อายุ 26 ปี MY DANCE ACADEMY
Solo U10 อันดับ 3
  1. น้องโฟกัส เด็กหญิงศุภกานต์ หลิวชาญพิมพ์ อายุ 8 ปี ชั้น ป.2/2 โรงเรียนศิริมาตย์เทวี 
Solo O18 อันดับ 3
  1. ครูหมีพู นายณภัทร บุญประกอบ อายุ 21 ปี MY DANCE ACADEMY

การใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ของเยาวชนเชียงราย

ความสำเร็จของทีม MY DANCE ACADEMY ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน แต่มาจากการฝึกซ้อมอย่างหนักและการใช้เวลาว่างของเด็กๆ และเยาวชนอย่างมีคุณค่า เด็กๆ เหล่านี้เลือกที่จะทุ่มเทให้กับการเต้น ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพเท่านั้น แต่ยังช่วยพัฒนาทักษะด้านการทำงานเป็นทีม ความรับผิดชอบ และวินัยในตนเอง ครูยุ้ย ผู้อำนวยการของ MY DANCE ACADEMY กล่าวว่า “เรามุ่งหวังให้เด็กๆ ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ แทนที่จะปล่อยให้เสียไปโดยเปล่าประโยชน์ การเต้นเป็นช่องทางหนึ่งที่ช่วยให้เด็กๆ ได้แสดงออก และพัฒนาตัวเองในหลายด้าน”

น้องโฟกัส วัย 8 ปี ผู้คว้ารางวัล Solo U10 เล่าว่า “หนูชอบเต้นมากค่ะ หลังเลิกเรียนหนูจะมาซ้อมกับเพื่อนๆ และครูทุกวัน การเต้นทำให้หนูสนุกและมีเพื่อนเยอะขึ้น” เช่นเดียวกับน้องทอฝัน วัย 13 ปี จากทีม MYDA SUPER CREW ที่กล่าวว่า “การเต้นทำให้หนูรู้จักจัดการเวลา และมีวินัยมากขึ้น หนูภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมที่สร้างชื่อเสียงให้เชียงรายค่ะ”

การสร้างชื่อเสียงให้จังหวัดเชียงราย

ผลงานของ MY DANCE ACADEMY ในการแข่งขันครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นความสำเร็จของทีมเท่านั้น แต่ยังเป็นการยกระดับชื่อเสียงของจังหวัดเชียงรายให้เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ การที่ทีมจากจังหวัดทางภาคเหนือของประเทศไทยสามารถคว้ารางวัลในเวทีใหญ่ระดับเอเชียได้ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเยาวชนในพื้นที่ห่างไกล ที่หากได้รับการสนับสนุนอย่างเหมาะสม ก็สามารถก้าวไปสู่เวทีโลกได้อย่างสง่างาม

ครูสายเมฆ หัวหน้าผู้ฝึกสอนของทีม กล่าวว่า “เราภูมิใจมากที่เด็กๆ จากเชียงรายได้แสดงให้โลกเห็นว่าเราก็มีดีไม่แพ้ใคร การแข่งขันครั้งนี้เป็นโอกาสที่ทำให้เด็กๆ ได้พัฒนาตัวเอง และนำชื่อเสียงมาสู่จังหวัดของเรา จะเห็นได้ว่าเด็กที่ได้หรือไม่ได้รางวัลมีความสุขกับการเต้น เราเองก็ดีใจ และภูมิใจที่เชียงรายมีทีมเก่งๆ แบบนี้”

แรงบันดาลใจและการสนับสนุนจากทุกฝ่าย

ความสำเร็จของ MY DANCE ACADEMY จะไม่เกิดขึ้นได้หากขาดการสนับสนุนจากทีมผู้ฝึกสอน ผู้ปกครอง และผู้จัดงาน โดยทีมครูผู้ฝึกสอน ประกอบด้วย ครูสายเมฆ, ครูยุ้ย, ครูกร้อ, ครูหมีพู, ครูส้ม, ครูเปีย และทีมครูตึกขาว ได้ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจในการฝึกซ้อมเด็กๆ ให้พร้อมสำหรับการแข่งขัน ผู้ปกครองและครอบครัวของนักเต้นทุกคนก็มีส่วนสำคัญในการให้กำลังใจและสนับสนุนทั้งด้านการเดินทางและค่าใช้จ่ายต่างๆ

นอกจากนี้ ต้องขอขอบคุณเวที UDO ASIA-PACIFIC STREET DANCE CHAMPIONSHIPS ทีมงานผู้จัด และผู้สนับสนุนทุกท่าน ที่มอบโอกาสและพื้นที่ให้เยาวชนไทยได้แสดงศักยภาพ และสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักเต้นรุ่นใหม่ต่อไป การแข่งขันครั้งนี้ยังปิดท้ายด้วยความสนุกสนานจากมินิคอนเสิร์ตของศิลปิน B KING OF THE MIC และ CHUN WEN CHONBURIFLOW ซึ่งเพิ่มสีสันให้กับงานได้เป็นอย่างดี

สู่เวทีโลกความหวังของเด็กเชียงราย

ด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมในครั้งนี้ ทีม MY DANCE ACADEMY มีโอกาสได้ไปต่อในเวที UDO World Championships 2025 ณ ประเทศอังกฤษ ซึ่งจะเป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงถึงความสามารถของเยาวชนไทยในระดับโลก ความสำเร็จนี้ไม่เพียงแต่เป็นความภาคภูมิใจของทีมและจังหวัดเชียงรายเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้เยาวชนไทยทั่วประเทศเห็นว่า การทุ่มเทและใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ สามารถนำพาความฝันไปสู่ความจริงได้

จากเด็กตัวเล็กๆ ในเมืองเชียงราย สู่การเป็นนักเต้นที่เก่งกาจในระดับนานาชาติ MY DANCE ACADEMY ได้พิสูจน์แล้วว่า ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ หากมีความมุ่งมั่นและการสนับสนุนที่ดีเยี่ยมจากทุกฝ่าย และนี่คือจุดเริ่มต้นของการเดินทางที่ยิ่งใหญ่ของเด็กเชียงรายบนเส้นทางสตรีทแดนซ์ระดับโลก

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : MY DANCE ACADEMY

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

เชียงของเสริมท่องเที่ยวด้วยศิลปะ วัฒนธรรม MOU ม.ราชภัฏเชียงราย

พิธีลงนามความร่วมมือวิชาการ วิจัย และวัฒนธรรม เชียงของ มุ่งพัฒนาการท่องเที่ยวด้วยศิลปะการแสดง

เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2568 มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ได้จัดกิจกรรม การนำเสนอผลงานวิจัยและพัฒนาความร่วมมือระหว่างพิพิธภัณฑ์กับท้องถิ่น” เพื่อเผยแพร่ผลงานวิจัยและเสริมสร้างความร่วมมือในการพัฒนาพื้นที่ อำเภอเชียงของ ให้สอดคล้องกับการเป็นเมืองศิลปะของจังหวัดเชียงราย

ภายในงานมีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านวิชาการ (MOU) ด้าน การวิจัยและวัฒนธรรมเพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่ โดยมี นายอุดม ปกป้องบวรกุล นายอำเภอเชียงของ และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปวีณา ลี้ตระกูล รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ร่วมลงนาม พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน สภาวัฒนธรรมอำเภอเชียงของ และประชาชนในพื้นที่ที่เข้าร่วมเป็นเกียรติในพิธี

พิธีลงนามและกิจกรรมวิชาการครั้งนี้จัดขึ้นที่ พิพิธภัณฑ์ภาพเก่าเล่าเรื่องเมืองเชียงของ อาคารองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย (ท่าเรือบัค) บ้านหัวเวียง อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย

การวิจัยเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวผ่านศิลปะวัฒนธรรม

หัวใจสำคัญของงานวิจัยครั้งนี้คือการใช้ ศิลปะการแสดงวัฒนธรรม มาสร้างสรรค์เป็นบทเพลงและผลงานจิตรกรรมร่วมสมัย เพื่อช่วย ส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของอำเภอเชียงของและจังหวัดเชียงราย โดยได้รับการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย และการมีส่วนร่วมจากหลายภาคส่วนในพื้นที่

นอกจากนี้ยังเป็นการเชื่อมโยงงานวิจัยให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชน โดยเฉพาะการส่งเสริมแหล่งเรียนรู้ด้านประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรมของเชียงของ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดเด่นของเมืองศิลปะแห่งนี้

ผู้แทนหน่วยงานวัฒนธรรมร่วมกิจกรรม

ในงานนี้ได้รับเกียรติจาก นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย นายวรพล จันทร์คง และ นางสาวกนกวรรณ สุทธะ นักวิชาการวัฒนธรรมปฏิบัติการ จาก สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย กลุ่มส่งเสริมศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม เข้าร่วมงาน โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของ การบูรณาการศิลปะและวัฒนธรรมท้องถิ่นกับงานวิจัย เพื่อนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน

MOU นี้จะช่วยพัฒนาเชียงของอย่างไร?

  1. พัฒนาเชียงของให้เป็นเมืองศิลปะและวัฒนธรรม – ขับเคลื่อนแหล่งท่องเที่ยวให้สอดคล้องกับอัตลักษณ์ท้องถิ่น
  2. สร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างภาคการศึกษาและชุมชน – สนับสนุนการวิจัยที่ตอบโจทย์พื้นที่
  3. ส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ – ใช้ศิลปะ วัฒนธรรม และงานวิจัยในการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว

เชียงของ เมืองศิลปะที่ต้องจับตา

อำเภอเชียงของเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงในด้านการท่องเที่ยวเชิงศิลปะและวัฒนธรรม เนื่องจากมีประวัติศาสตร์ยาวนาน วิถีชีวิตดั้งเดิม และอยู่ติดแม่น้ำโขง โครงการความร่วมมือนี้จะเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับเชียงของให้เป็น ศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรม ของจังหวัดเชียงรายและภาคเหนือ

มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย และภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนต่างให้คำมั่นว่า จะเดินหน้าพัฒนาความร่วมมือเชิงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เชียงของกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่ยั่งยืนในอนาคต

FAQ: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการพัฒนาเชียงของผ่านศิลปะและวัฒนธรรม

  1. โครงการนี้มีเป้าหมายหลักคืออะไร?
    โครงการเน้น วิจัยและพัฒนาความร่วมมือด้านวัฒนธรรม เพื่อใช้ศิลปะและการแสดงวัฒนธรรมมาสร้างสรรค์และยกระดับเชียงของให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางศิลปะ
  2. การลงนาม MOU นี้มีผลกระทบต่อชุมชนอย่างไร?
    ช่วยสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ กระตุ้นการท่องเที่ยว และสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชน
  3. พิพิธภัณฑ์ภาพเก่าเล่าเรื่องเมืองเชียงของ คืออะไร?
    เป็นสถานที่จัดแสดงภาพถ่ายเก่าแก่เกี่ยวกับเชียงของและแม่น้ำโขง โดยสะท้อนถึงประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของคนในพื้นที่
  4. การใช้ศิลปะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวได้อย่างไร?
    ศิลปะและการแสดงทางวัฒนธรรมเป็นสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่สนใจ วัฒนธรรมท้องถิ่น และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับชุมชน
  5. อำเภอเชียงของมีอะไรน่าสนใจบ้าง?
    เชียงของเป็นเมืองริมโขงที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ วัดเก่าแก่ พิพิธภัณฑ์ วิถีชีวิตชุมชน และศิลปะร่วมสมัยที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานวัฒนธรรมเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

FAM Trip เชียงราย สร้างสรรค์ศิลปะจากธรรมชาติ

ศิลปินเชียงราย ร่วมสรรค์สร้างสรรค์งานศิลปะตามรอยเส้นทางชา-กาแฟ

เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย ร่วมกับสมาคมขัวศิลปะ จัดกิจกรรม FAM Trip เส้นทางชา กาแฟ จากสวนสู่แก้วครั้งที่ 1 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมของจังหวัดเชียงราย โดยมีศิลปินจากทั่วภาคเหนือเข้าร่วมกิจกรรม

ตามรอยเส้นทางชา กาแฟ สู่แรงบันดาลใจศิลปะ

นายเสริฐ ไชยยานันตา ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า กิจกรรม FAM Trip เส้นทางชา กาแฟ จากสวนสู่แก้วครั้งนี้ เป็นการนำศิลปินจากหลากหลายสาขา ทั้งจิตรกร นักแกะสลัก และช่างภาพ เดินทางไปยังแหล่งปลูกชาและกาแฟชั้นนำของจังหวัดเชียงราย เพื่อสัมผัสบรรยากาศและวัฒนธรรมการปลูกชาและกาแฟอย่างใกล้ชิด และสร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่สะท้อนถึงความงดงามและเอกลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ และภูมิทัศน์ของจังหวัดเชียงราย

ศิลปินร่วมสร้างสรรค์ผลงานศิลปะเพื่อประชาสัมพันธ์

อาจารย์สุวิทย์ ใจป้อม นายกสมาคมขัวศิลปะ กล่าวว่า กิจกรรมครั้งนี้เป็นโอกาสอันดีที่ศิลปินจะได้ร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่สะท้อนถึงความหลากหลายของวัฒนธรรมและภูมิปัญญาของชาวเชียงราย ผลงานศิลปะที่เกิดจากการจัดกิจกรรมครั้งนี้ จะถูกนำไปจัดแสดงในงานเชียงรายดอกไม้งาม เพื่อประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวและผลิตภัณฑ์ของจังหวัดเชียงรายให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น

เส้นทางชา กาแฟ สู่ประสบการณ์ที่น่าประทับใจ

ตลอดระยะเวลาของกิจกรรม ศิลปินจะได้สัมผัสกับกระบวนการผลิตชาและกาแฟตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง ได้เรียนรู้เกี่ยวกับพันธุ์ชาและกาแฟที่ปลูกในจังหวัดเชียงราย รวมถึงได้ชิมกาแฟและชาหลากหลายชนิด นอกจากนี้ ศิลปินยังได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์กับเกษตรกรผู้ปลูกชาและกาแฟ

กิจกรรม

กิจกรรม FAM Trip เส้นทางชา กาแฟ จากสวนสู่แก้วครั้งนี้ คาดว่าจะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงรายในหลายด้าน ได้แก่

  • ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์: กิจกรรมนี้จะช่วยส่งเสริมให้จังหวัดเชียงรายเป็นที่รู้จักในฐานะแหล่งท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ที่มีศิลปะและวัฒนธรรมที่น่าสนใจ
  • สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ชาและกาแฟ: ผลงานศิลปะที่เกิดจากกิจกรรมนี้ จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ชาและกาแฟของจังหวัดเชียงราย
  • สร้างรายได้ให้กับชุมชน: กิจกรรมนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการท่องเที่ยว
  • ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม: กิจกรรมนี้เป็นตัวอย่างที่ดีของการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เพื่อพัฒนาจังหวัดเชียงราย

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

  1. กิจกรรม FAM Trip เส้นทางชา กาแฟ จัดขึ้นเมื่อไหร่? กิจกรรมจัดขึ้นในวันที่ 11-12 ธันวาคม 2567
  2. มีศิลปินเข้าร่วมกิจกรรมกี่คน? มีศิลปินจากเชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน และพะเยา เข้าร่วมกิจกรรมประมาณ 35 คน
  3. ผลงานศิลปะที่สร้างสรรค์ขึ้นจะนำไปจัดแสดงที่ไหน? ผลงานศิลปะจะถูกนำไปจัดแสดงในงานเชียงรายดอกไม้งาม
  4. กิจกรรมนี้มีวัตถุประสงค์หลักอะไร? วัตถุประสงค์หลักคือเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ และเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมของจังหวัดเชียงราย
  5. กิจกรรมนี้มีประโยชน์ต่อชุมชนอย่างไร? กิจกรรมนี้จะช่วยสร้างรายได้ให้กับชุมชน ส่งเสริมการท่องเที่ยว และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับจังหวัดเชียงราย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TRAVEL

ศาลากลางจังหวัดเชียงรายหลังเก่า ถูกรังสรรค์โดยศิลปิน ‘ไมเคิล ลิน’

 
ผลงานชิ้นนี้ถูกรังสรรค์โดยศิลปิน ‘ไมเคิล ลิน’ ผู้ที่เปลี่ยนพื้นที่สร้างสรรค์งานจิตรกรรมจากผืนผ้าใบไปสู่อาคารโบราณที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมืองต่าง ๆ มาแล้วทั่วโลก ศิลปะกลางแจ้งของไมเคิลได้แรงบันดาลใจจาก ‘ลายผ้า’ ที่เป็นความทรงจำร่วมทางสังคมและอัตลักษณ์ท้องถิ่น
 
 
สําหรับเชียงราย ไมเคิลได้ทำงานชิ้นใหม่ตรงหน้าอาคารศาลากลางเก่า ซึ่งเป็นตัวแทนของความเป็นสมัยใหม่ ใช้ชื่อว่า Weekend เขาผสมลวดลายและสีสันของผ้าจากชาวเขาในบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ โดยผืนผ้า เปรียบเสมือนงานฝีมือที่รำลึกถึงสหภาพแรงงานและชุมชน มันคือการผสมผสานเสียงที่หลากหลาย รวมพลังที่ขัดแย้งระหว่าวผู้ปกครองจากส่วนกลาง และฝ่ายที่ถูกปกครองจากชายขอบ ผลงานชิ้นนี้แสดงถึงการเจรจา ต่อรอง และตั้งคําถามต่อบทบาทของศิลปะและวัฒนธรรมร่วมสมัย ที่มีความหลากหลายและสลับซับซ้อนของภูมิภาคนี้
 
 
ศาลากลางจังหวัดเชียงรายหลังเก่า สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2440 และเปิดดำเนินการเมื่อปี พ.ศ. 2443 เพื่อเป็นที่ทำงานของหน่วยงานรัฐบาลและข้าหลวงเมืองเชียงราย ตามนโยบายการปฏิรูปการปกครองเข้าสู่ศูนย์กลางของรัฐบาลสยาม เป็นศาลากลางที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทยที่ยังคงเหลืออยู่ ออกแบบโดยนายแพทย์วิลเลี่ยม เอ. บริกส์ มิชชันนารีชาวแคนาดา ที่เข้ามาเผยแพร่ศาสนาคริสต์ในจังหวัดเชียงราย ในนามคณะมิชชันนารีอเมริกันเพรสไบทีเรียนแห่งกรุงนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
 
 
อาคารศาลากลางหลังแรกจังหวัดเชียงราย เป็นสถาปัตยกรรมที่มีโครงสร้างก่ออิฐถือปูน เป็นอาคาร 3 ชั้น ขนาดกว้าง 15 เมตร ยาว 37 เมตร การก่อสร้างเป็นรูปแบบศิลปะแบบโคโลเนียล หลังคาทรงปั้นหยา ประดับด้วยมุขหน้าต่างหลังคา ด้านหน้าอาคารก่ออิฐเป็นรูปโค้ง (Arch) ช่องเปิดที่ระเบียงอาคารด้านล่างทำเป็นโครงสร้างคานโค้งครึ่งวงกลม 3 ชุดโค้งต่อเนื่อง และมีโถงทางเดินที่เชื่อมถึงกันโดยตลอด ประตูทำจากไม้สักแบบบานเปิดคู่ ทุกห้องมีช่องแสงเหนือประตู
อาคารศาลากลางจังหวัดเชียงรายหลังเก่าได้ขึ้นทะเบียนโบราณสถานของกรมศิลปากร เมื่อปี พ.ศ. 2520 และได้ยุติบทบาทในการเป็นอาคารศูนย์กลางการปกครองหัวเมืองเชียงรายมานานกว่าหนึ่งศตวรรษ ปัจจุบันไม่ได้เปิดทำการเนื่องจากกำลังปรับปรุง โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย
 
 
งานศิลปะที่เห็นในภาพ ไม่ได้เพ้นท์ลงบนตัวตึกแต่เป็นโครงสร้างประกอบภาพวาด เป็นโครงสร้างเหล็กไม่ได้ยึดตรงกับตัวตัวตึกแต่อย่างใด มีแผ่นเพลทโลหะ รับน้ำหนักที่พื้น และโครงสร้างที่ติดกับตัวอาคารใช้โครงไม้ประกบรองอีกหนึ่งชั้น
ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งจุดในการแสดงงานมหกรรมศิลปะนานาชาติระดับโลก ครั้งที่ 3 งานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 ภายใต้แนวคิด The Open World “เปิดโลก” การรับรู้ทางศิลปะ ผ่านผลงานของศิลปินจากทั่วโลก ที่จะมาร่วมเปิดมิติทางศิลปวัฒนธรรม เพื่อยกระดับเชียงรายสู่เมืองท่องเที่ยวเชิงเศรษฐกิจสร้างสรรค์ระดับโลก ระหว่างวันที่ 9 ธันวาคม 2566 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2567 ณ จังหวัดเชียงราย
Collateral Event : เทศกาลดนตรีชาติพันธุ์ “กวาคีลา : เป่า ร้อง กลอง รำ เปิดโลกวิถีวัฒนธรรมดนตรีชาติพันธุ์เมืองเชียงราย”
 
 
ศิลปิน : Michae Lin (ไมเคิล ลิน)
เปิดวันอังคาร – วันอาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) เวลา 09.00 – 17.30 น.
สถานที่ : ศาลากลางจังหวัดเชียงราย (หลังเก่า) ถนนสิงหไคล 
ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : https://www.thailandbiennale.org/venues/the-old-chiang-rai-city-hall/

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News