Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

ผู้ว่าฯ เชียงราย สั่งจับคนอ้างเจ้าหน้าที่รัฐ ทีมงาน รมช.ชาดา ข่มขู่เรียกค่าคุ้มครอง

 

เมื่อวันที่ 7 ก.พ. 67 นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เปิดเผยถึงกรณีมีผู้แอบอ้างเป็นหนึ่งในคณะทำงานของนายชาดา ไทยเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยมีพฤติการณ์เรียกรับผลประโยชน์จากสถานบริการประเภทคาราโอเกะ เพื่อเป็นค่าคุ้มครองป้องกันไม่ให้ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยเข้าจับกุม ซึ่งจากเบาะแสทราบว่ามีการเรียกรับเงินในอัตรา 300,000 – 400,000 ต่อร้าน โดยข่มขู่ว่าหากไม่จ่ายเงินค่าคุ้มครองจะดำเนินการจับกุมสถานบริการ อีกทั้งยังอ้างถึงการประสานผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายหากไม่จ่ายเงินค่าคุ้มครองดังกล่าว

 

นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับแจ้งเบาะแสดังกล่าว ตนจึงได้ประสานงานไปยังคณะทำงานของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมสั่งการให้ที่ทำการปกครองจังหวัดเชียงราย นำโดยนายบัลลังก์ ไวทย์ศิริ ปลัดจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยนายอำเภอเมืองเชียงราย ปลัดอำเภอ สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงราย เข้าตรวจสอบบุคคลผู้แอบอ้างดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ได้วางแผนการล่อซื้อ ด้วยการให้สายลับเข้าทำการจ่ายเงินค่าคุ้มครองให้แก่ผู้แอบอ้างเป็นค่ามัดจำเงินสด จำนวน 100,000 บาท โดยมีการนัดหมายเพื่อจ่ายเงินกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงราย ซึ่งเมื่อเป้าหมายมาถึงเจ้าหน้าที่สายลับได้จ่ายเงินให้กับบุคคลผู้แอบอ้าง พร้อมทั้งแสดงตัวเข้าจับกุมและตรวจสอบบุคคลผู้แอบอ้างทันที ทราบชื่อคือ นายสุทธิรัตน์ฯ พร้อมกับธนบัตรเงินสดที่มีการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาแล้วนำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงรายดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

“จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า ผู้แอบอ้างได้มีการกล่าวอ้างถึงผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยจริง โดยกล่าวอ้างว่า นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ส่งให้มาเรียกค่าคุ้มครองจากสถานบริการหรือธุรกิจอื่น โดยเรียกอัตราค่าคุ้มครองตามขนาดของร้าน ในอัตรา 300,000 – 400,000 บาทต่อร้าน และหากร้านไหนจ่ายจะไม่ให้ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองเข้ามาจับกุม และหากคุยไม่ได้จะส่งรายชื่อสถานบริการที่จ่ายค่าคุ้มครองให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายเพื่อดำเนินการทันที โดยในด้านของคณะทำงานของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้การยืนยันว่าไม่มีผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยคนใดที่จะเรียกรับผลประโยชน์จากสถานบริการ หากมีบุคคลใดไปแอบอ้างคือเป็นการหลอกลวงทั้งสิ้น” นายพุฒิพงศ์ฯ กล่าวเพิ่มเติม

 

นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวในช่วงท้ายว่า ขอย้ำเตือนผู้ประกอบการทุกประเภทว่า “คนมหาดไทยไม่มีเรียกรับผลประโยชน์ ไม่มีคำว่าเคลียร์ใด ๆ ถ้าจะเคลียร์กับสิ่งผิดกฎหมาย คือ ต้องจับสถานเดียว ไม่มีละเว้น” พร้อมทั้งขอแจ้งไปยังพี่น้องประชาชน ตลอดจนผู้ประกอบการต่าง ๆ ต้องระมัดระวังมิจฉาชีพหรือผู้แอบอ้างชื่อผู้มีอำนาจของรัฐ เพื่อเรียกรับเงิน ซึ่งปัจจุบันมีกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นจำนวนมาก และมักจะมาหลากหลายวิธีการ หากท่านพบมีผู้กระทำการดังกล่าวอย่าหลงเชื่อเป็นอันขาด ถ้าทำได้ขอให้อัดเสียงกับโทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์อื่นใดที่อัดเสียงได้ บันทึกได้ แล้วนำหลักฐานแจ้งความทันที หรือสามารถขอรับคำปรึกษาและแจ้งเบาะแสที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย สายด่วน 1567 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กองสารนิเทศ สป.มท.

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เชียงราย ระดมทุนถวายผ้าป่า ช่วยผู้ได้รับความเดือดร้อนไฟป่าและ PM 2.5

 

เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 67 นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานพิธีถวายผ้าป่า “บวร.บรม.ครบ. เพื่อแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าให้ประเทศชาติและโลกใบนี้” และเป็นการระดมทุนสำหรับใช้ในการช่วยเหลือผู้ได้รับความเดือดร้อน หรือผู้ได้รับผลกระทบจากปัญหาหมอกควันไฟป่า และ PM 2.5 ณ วัดเจ็ดยอด พระอารามหลวง ตำบล้วียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย โดยมี พระพุทธิญาณมุนี เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย รอง ผอ.รมน.จังหวัดเชียงราย ปลัดจังหวัดเชียงราย นายอำเภอทุกอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานรํบวิสาหกิจ หอการค้าจังหวัดเชียงราย สภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงราย สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย ชมรมธนาคารจังหวัดเชียงราย และหน่วนงานที่เกี่ยวข้อง ประชาชนชาวจังหวัดเชียงราย เข้าร่วมพิธีถวายผ้าป่าในครั้งนี้ด้วย

 

นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า จังหวัดเชียงราย และคณะสงฆ์จังหวัดเชียงราย จัดพิธีทอดผ้าป่าเพื่อระดมทุนสำหรับใช้ในการช่วยเหลือผู้ได้รับความเดือดร้อนหรือผู้ได้รับผลกระทบจากปัญหาหมอกควันไฟป่า และ PM 2.5 ภายใต้ชื่อว่า “บวร. หมายถึง บ้าน วัด ราชการ โรงเรียน บรม. หมายถึง บ้าน ราชการ มัสยิด ครบ. หมายถึง คริสต์ ราชการ บ้าน และเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างคณะสงฆ์ ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคมให้มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการปัญหาหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 
 
 
โดยมีหน่วยงานราชการ ภาคเอกชน และประชาชน ได้ร่วมสมทบทุนถอดผ้าป่าในครั้งนี้ ยอดรวม 772,428.50 บาท และยังได้รับความเมตตาจาก พระไพศาลประชาทร (วิ) (พบโชค ติสสวังโส) เจ้าอาวาสวัดห้วยปลากั้ง ร่วมสมทบผ้าป่าจำนวน 100,000 บาท และวัดเจ็ดยอด จำนวน 10,000 บาท รวมยอดทั้งสิ้น 882,428.50 บาท
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI ECONOMY

เชียงราย พร้อมเปิดใช้ศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้า อำเภอเชียงของ

 

เมื่อวันจันทร์ที่ 15 มกราคม 2567 ที่ ห้องประชุมพญาพิภักดิ์ ชั้น2 ศาลากลางจังหวัดเชียงราย นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วย นางอุบลรัตน์ พ่วงภิญโญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน เข้าร่วมประชุม เพื่อรายงานความคืบหน้าโครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้า อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย และการเตรียมความพร้อมในการเปิดใช้ศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้า อำเภอเชียงของ อีกทั้งเพื่อรับทราบผลการดำเนินงานและปัญหาอุปสรรค พร้อมทั้งร่วมวิเคราะห์แนวทางในการเปิดใช้ศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้า อำเภอเชียงของ ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับการขยายตัวด้านการค้าชายแดน รวมทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจชายแดนของจังหวัดเชียงราย

 
 
สำหรับโครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้า อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ตั้งอยู่ ณ ตำบลเวียง อำเภอเชียงของ ติดกับด่านพรมแดนเชียงของ บริเวณสะพานมิตรภาพไทยลาว แห่งที่4 (เชียงของ – ห้วยทราย) มีเนื้อที่กว่า 335 ไร่ จัดตั้งขึ้นเพื่อปรับเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งระหว่างประเทศ ไปสู่ภายในประเทศ รองรับการเชื่อมต่อโครงการรถไฟทางคู่ สายเด่นชัย – เชียงราย – เชียงของ รองรับการขนส่งสินค้าผ่านเส้นทาง R3a (ไทย – ลาว – จีนฝั่งตะวันตก) และเป็นศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้าตู้คอนเทนเนอร์ อีกทั้งจะเป็นศูนย์ One Stop Service ดำเนินพิธีการที่เกี่ยวกับการนำเข้า-ส่งออก รวมไว้ในจุดเดียว
 
 
ปัจจุบันโครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าอำเภอเชียงของ มีการก่อสร้างระยะที่1 แล้วเสร็จและเปิดให้บริการ (Soft Opening) ตั้งแต่เดือนเมษายน 2064 และก่อสร้างระยะที่2 เริ่มดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน 2566 และจะมีการดำเนินการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน (PPP) ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาร่างสัญญาร่วมทุน ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบ ประกอบกับมติที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงราย ครั้งที่2 / 2567 ได้เห็นชอบให้แต่งตั้งคณะทำงานเตรียมพร้อมการกำหนดแนวทางในการเปิดใช้ศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งอำเภอเชียงของ เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการขยายตัวด้านการค้าชายแดน รวมทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจชายแดนของจังหวัดเชียงรายต่อไป
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

คนนับหมื่นร่วมมุทิตาสักการะครูบาอริยชาติ ในพิธีทำบุญอายุวัฒนมงคล 43 ปี

 

เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2567 ที่วัดแสงแก้วโพธิญาณ ต.เจดีย์หลวง อ.แม่สรวย จ.เชียงราย นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยนางสุภาเพ็ญ ศิริมาตย์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย และประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยประชาชนจากทั่วทุกสารทิศจำนวนมากต่างเดินทางไปกราบนมัสการพระภาวนารัตนญาณ วิ.หรือครูบาอริยชาติ อริยจิตโต ซึ่งเป็นพระเกจิที่มีชื่อเสียงโด่งดังเนื่องในโอกาสวัดคล้ายวันเกิดครูบาอริยาชาติ 43 ปี โดยทางวัดจัดให้มีกิจกรรมไถ่ชีวิตโค-กระบือ ทุกตัวที่พบเห็นโดยเฉพาะใน อ.แม่สรวย โดยมีการส่งทีมงานไปติดต่อตามโรงฆ่าสัตว์ทุกแห่งรวมทั้งมีกิจกรรมงานบุญอื่นๆ ภายในวัดด้วย

 
ครูบาอริยชาติ กล่าวว่าอานิสงฆ์การให้ชีวิตทำให้เรามีชีวิตและอายุยืนรวมทั้งมีอิสระจากสิ่งพันธนาการโดยพบโค-กระบือกี่ตัวก็เหมาซื้อมาทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีการปล่อยปลา 440,000 ตัวที่เขื่อนแม่สรวย รวมทั้งไปยังตลาดต่างๆ เพื่อซื้อปลา กุ้ง หอย เต่า ฯลฯ สัตว์ต่างๆ เพื่อนำไปปล่อยเพิ่มเติมอีกด้วยที่เหลือ ถ้าไม่พบก็ถือเป็นบาปกรรมเดิมของเขาต่อไป สำหรับภายในวัดมีการบวชพระภิกษุ เณรและชีพราห์ม โดยปี 2567 นี้มีพระภิกษุจำนวน 100 กว่ารูป เณร 10 กว่ารูปและชีพราห์ม 100 กว่าคน ปฏิบัติธรรมในวัดร่วม 300 รูป
 
 
ครูบาอริยชาติ กล่าวอีกว่าในโอกาสเดียวกันได้มีผู้ถวายพระรัตนมณีญาณเป็นพระแก้วประดับเครื่องทรงทองคำหนัก 5 กิโลกรัมกว่า อัญชมณีพลอย 900 กว่าเม็ด ให้กับวัดแสงแก้วโพธิญาณซึ่งจะนำประดิษฐานในหอพระแก้วเก้าภายในวัดต่อไป ขณะเดียวกัน “ต้อย เมืองนนท์” (พิศาล เตชะวิภาคอุปนายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย) ได้ถวายพระคันธาระ อายุราว 2,200 ปีซึ่งประมูลมาได้จากต่างประเทศให้กับทางวัดด้วย หลังจากแห่พระพุทธรูปและสมโภชน์แล้วจะมีการวางศิลาฤกษ์ ตอกเสาเข็ม 5 ต้นแรก เพื่อสร้างมหาเจดีย์ฐานกว้าง 3 ไร่กว่า ตัวองค์เจดีย์ 2 ไร่กว่า สูง 149 เมตรหรือเท่าตึก 50 ชั้น เพื่อเป็นพุทธบูชา ฯลฯ ต่อไป
 
 
สำหรับครูบาอริยชาติได้ถือกำเนิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 9 ม.ค.2524 ที่บ้านปิงน้อย อ.สารภี จ.เชียงใหม่ เป็นบุตรของโยมพ่อสุข โยมแม่จำนง อุ่นต๊ะ มีพี่น้องร่วมบิดามารดาด้วยกัน 3 คน เป็นผู้ชายทั้งหมด ครูบาอริยชาติบวชเป็นสามเณรเมื่อปี 2541 ที่วัดชัยมงคล ต.ประตูป่า อ.เมือง จ.ลำพูน และอุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดพัทธสีมาชัยมงคล (วังมุย) อ.เมือง จ.ลำพูน กระทั่งได้รับนิมนต์ของญาติโยมให้ไปอยู่ที่ อ.แม่สรวย และสร้างวัดแสงแก้วโพธิญาณจนถึงปัจจุบัน.
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ผู้ว่าฯ เชียงราย จัดพิธีทอดผ้าป่า เพื่อระดมทุนปัญหาหมอกควันไฟป่า และ PM 2.5

 
เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2567 ที่ ศูนย์ปฏิบัติการหมอกควันไฟป่า และ PM 2.5 จังหวัดเชียงราย ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดเชียงราย นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานการประชุมฯ เพื่อติดตามความคืบหน้า และผลการดำเนินงานป้องกันแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า และ PM 2.5 ที่ผ่านมาซึ่งเป็นช่วงของการรณรงค์ก่อนเกิดสถานการณ์ ของแต่ละหน่วยงานในสังกัดศูนย์ปฏิบัติการฯ ทั้งด้านงบประมาณ การประสานกับประเทศเพื่อนบ้าน เรื่องหมอกควันข้ามแดน การดำเนินการทางด้านสาธารณสุข ด้านการบริหารจัดการเชื้อเพลิงของแต่ละอำเภอ แนวทางวิธีการกำจัดเศษวัชพืช หรือซากวัสดุจากการเกษตร ด้านปศุสัตว์ และการนำมาตรการด้านการอนุรักษ์พลังงานมาใช้ในการแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า นอกจากนี้ยังได้ร่วมกันวางแนวทางการเตรียมการ ช่วงก่อน ระหว่าง และหลังเกิดสถานการณ์ ช่วงการประกาศห้ามเผา และด้านการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ การมีส่วนร่วมบริหารจัดการ และร่วมรับผิดชอบ ของทุกภาคส่วน ในการแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า และ PM 2.5 ของจังหวัดเชียงราย
 
 
ทั้งนี้ ในที่ประชุมฯ ได้หารือเรื่องที่จังหวัดเชียงราย และคณะสงฆ์จังหวัดเชียงราย จะจัดพิธีทอดผ้าป่า เพื่อระดมทุนสำหรับใช้ในการช่วยเหลือผู้ได้รับความเดือดร้อนหรือผู้ได้รับผลกระทบจากปัญหาหมอกควันไฟป่า และ PM 2.5 อีกทั้งยังเป็นการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างคณะสงฆ์จังหวัดเชียงราย หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ให้มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการปัญหาหมอกควันไฟป่า และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ภายใต้ชื่อ “บวร.บรม.ครบ. ผนึกกำลังกันเป็นสามัคคี เป็นพลังค้ำจุนแผ่นดินไทย เพื่อแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า ให้ประเทศชาติและโลกใบนี้” (บวร. หมายถึง บ้าน วัด ราชการ โรงเรียน / บรม. หมายถึง บ้าน ราชการ มัสยิส และ ครบ. หมายถึง คริสต์ ราชการ บ้าน)ร่วมคณะสงฆ์จังหวัดเชียงราย กำหนดจัดพิธีทอดผ้าป่า บวร. บรม. ครบ. แก้ปัญหาหมอกควันไฟป่า ของจังหวัดเชียงรายให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยกำหนดจัดขึ้นในวันจันทร์ที่ 22 มกราคม 2567ณ วัดเจ็ดยอด พระอารามหลวง ตำบลเวียงอำเภอเมืองเชียงราย ตั้งแต่เวลา 13:00 น. เป็นต้นไป
 
 
ร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าฯ ตามกำลังศรัทธา โดยโอนเงินผ่านธนาคารกรุงไทย สาขาเชียงราย
ชื่อบัญชี กองทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัย ที่ทำการปกครองจังหวัดเชียงราย เลขที่บัญชี 504-3-14827-6
สอบถามรายละเอียดได้ที่ 06-1517-8591 หรือ 08-9969-6728
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ขานรับนโยบายผู้ว่าฯ เชียงราย ทุกหน่วยงานพร้อมรับมือ PM 2.5

 
จากสถานการณ์ไฟป่าหมอกควัน และ PM 2.5 ของจังหวัดเชียงราย ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องทุกปี นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้สั่งการให้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการหมอกควันไฟป่า และ PM 2.5 
 
เพื่อเป็นศูนย์บูรณาการการทำงานร่วมกับทั้งคน งบประมาณ การบริหารจัดการ การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ซึ่งจังหวัดเชียงราย มีความห่วงใย 4 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็กเล็ก สตรีมีครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว ซึ่งขณะนี้ทางจังหวัดเชียงราย โดยการนำของผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้เน้นย้ำให้ทุก 18 อำเภอ ของจังหวัดเชียงราย 
 
 
เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์หมอกควัน ไฟป่า และPM 2.5 โดยให้ดำเนินการจัดเตรัยมห้องปลอดฝุ่นให้กับศูนย์พัฒนาเด็กเล็กองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งมีทั้งหมด 460 แห่ง ดำเนินการแล้ว 206 แห่ง อยู่รัหว่างดำเนินการ 51 แห่ง ยังไม่ดำเนินการ 149 แห่ง และกำชับและเร่งรัดให้ทุกอำเภอบูรณาการร่วมกับ อปท.ในพื้นที่ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เพื่อดำเนินการให้ครบทั้ง 18 อำเภอ 100% โดยเร็ว
 
 
โดยในวันนี้ 3 ธันวาคม 2566 นายอุดม ปกป้องบวรกุล นายอำเภอแม่สรวย ได้ดำเนินการเตรียมความพร้อมรับมือภายใต้ชื่อว่า “ ไฟป่า ฝุ่นควัน การป้องกันสุขภาพ” ร่วมกับ โรงพยาบาลแม่สรวย อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย เตรียมความพร้อมในการป้องกัน PM 2.5 อันเนื่องมาจากปัญญาไฟป่า ฝุ่นควัน โดยการเตรียมห้องปลอดฝุ่น เครื่องฟอกอากาศ เติมอากาศ สำหรับเจ้าหน้าที่ และประชาชนที่มารับบริการ การรับรักษาพยาบาล ค่อนข้างจะเกือบ 100 % ตามนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เชียงราย ติดตามการดำเนินงาน “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ตามพระดำริ

 
วันที่ 25 ตุลาคม 2566 เวลา 13.30 น. นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยนางสุภาเพ็ญ ศิริมาตย์ ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเชียงราย ลงพื้นที่อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ติดตามการดำเนินงาน “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ตามพระดำริ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ณ ศูนย์เรียนรู้สมุมไพรกลุ่มไทยเฮิร์ปแอทเชียงราย อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย โดยนายวิรุฬห์ สิทธิวงศ์ นายอำเภอเชียงของ นางพรรณี ราชคม นักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการ รักษาราชการแทนพัฒนาการอำเภอเชียงของ ผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้านในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอเชียงของ ให้การต้อนรับและรายงานผลการดำเนินงาน
 
 
ในการนี้ นายวิทยา ชุมภูคำ พัฒนาการจังหวัดเชียงราย มอบหมายให้ นายปรีชา ปวงคำ ผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชน และนางสาวแสงวรรณ สมปาน นักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดเชียงราย ร่วมติดตามสนับสนุนการดำเนินงานด้วย
 
 
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเชียงราย และคณะได้เยี่ยมชมการแปรรูปเส้นใยสับปะรด เส้นใหญ่สมุนไพรธรรมชาติและการย้อมสีธรรมชาติ ตามแนวทาง BCG คือการพัฒนาเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
ในการนี้ นางสุภาเพ็ญ ศิริมาตย์ ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเชียงราย ได้ทดลองย้อมผ้าใย สับปะรดสีธรรมชาติจากไม้ฝาง และอุดหนุนสินค้าที่ผลิตจากใยสับปะรด ซึ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กลุ่​มงาน​ส่งเสริม​การพัฒนา​ชุมชน​ สำนักงาน​พัฒนา​ชุมชน​จังหวัด​เชียงราย​

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

รวมพลังน้ำใจน้องพี่สีชมพูเชียงราย ร่วมปลูกต้นจามจุรี (ทรงปลูก) 23 ต้น

 
วันนี้(23 ต.ค.) ที่บริเวณพื้นที่สาธารณะบ้านห้วยเกี๋ยง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยนางสุภาเพ็ญ ศิริมาตย์ นายกสมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จ.เชียงราย เป็นประธานโครงการรักษ์จามจุรี (ทรงปลูก) นำหัวหน้าส่วนราชการในอำเภอเชียงแสน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จิตอาสาพระราชทาน นิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกันปลูกต้นจามจุรี จำนวน 23 ต้น เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความภักดี และร่วมสืบสานพระราชปณิธานในหลวงรัชกาลที่ 9
 
 
.
เนื่องด้วยเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2505 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้เสด็จพระราชดำเนิน ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พระราชทานต้นจามจุรีและทรงปลูกด้วยพระองค์เอง จำนวน 5 ต้น ทางชมรมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปีการศึกษา 2518 หรือ CU18 จึงจัดทำโครงการ “รักษ์จามจุรีทรงปลูก” เพื่อให้ต้นจามจุรี (ทรงปลูก) คงอยู่ เป็นเครื่องเตือนใจตลอดกาล โดยการขยายพันธุ์ต้นลูกจามจุรีทรงปลูก ให้แผ่กระจายออกไปสร้างความร่มเย็นทั่วราชอาณาจักร โดยได้ขอความร่วมมือหน่วยงาน องค์การ สถาบันการศึกษา ในทุกจังหวัด สนับสนุนการปลูกต้นจามจุรี (เพาะจากเมล็ดพันธุ์ต้นทรงปลูก) ในพื้นที่ที่เหมาะสมให้ต้นจามจุรีงอกงามเติบโตสูงใหญ่แผ่กิ่งก้านสร้างความร่มเย็นเป็นสุขแก่ประชาชนทั่วไป
 
.
ทั้งนี้จังหวัดเชียงรายได้สนับสนุนโครงการรักษ์จามจุรี (ทรงปลูก) ร่วมปลูกต้นจามจุรี จำนวน 23 ต้น ที่ได้มาจากเมล็ดพันธุ์ของต้นจามจุรี (ทรงปลูก) เพื่อร่วมสืบสาน พระปณิธานของในหลวงรัชกาลที่ 9 และด้วยความตระหนักในคุณค่าความสำคัญของการปลูกต้นไม้เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม ดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ ช่วยแก้ปัญหาโลกร้อน และเป็นการเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ รวมถึงส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอีกด้วย
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

“พุฒิพงศ์” ระดมความคิดภาครัฐและเอกชน ขับเคลื่อนเชียงรายเมืองแห่งสุขภาพ

 
วันนี้ (18 ต.ค.66) ที่ห้องธรรมลังกา ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดเชียงราย นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานการประชุมคณะทำงานขับเคลื่อนเชียงราย เป็นเมืองแห่งสุขภาพ โดยมีคณะทำงาน ประกอบด้วย ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเชียงราย หัวหน้าส่วนราชการ สถาบันการศึกษา หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม
 
 
ด้วยจังหวัดเชียงราย ได้เริ่มการขับเคลื่อนเชียงรายเป็นเมืองสุขภาวะ โดยร่วมมือกับภาครัฐและเอกชน เพื่อพัฒนา แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลในด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพตามยุทธศาสตร์ในการพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (นโยบาย Medical Hub) ระยะเวลา 10 ปี อีกทั้งยังเป็นการเตรียมความพร้อมให้จังหวัดเชียงรายให้เป็นพื้นที่พิเศษในการพัฒนาอุตสาหกรรม Wellness และเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID 19) โดยมีเป้าหมายหลักให้จังหวัดเชียงราย เป็นเมืองแห่งสุขภาพ คนเชียงรายและผู้มาเยือนมีสุขภาพดี อยู่แล้วมีความสุข ซึ่งทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้ระดมความคิดจัดทำแนวทางแผนการพัฒนาในหลากหลายด้าน อาทิ ด้าน Wellness food การพัฒนาเชียงรายสู่เมืองแห่งเกษตรปลอดภัยเพื่อสุขภาพ ด้าน Health Care การพัฒนาบริการ การแพทย์แผนปัจจุบันแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก รวมถึงการบูรณาการ เพื่อยกระดับคุณภาพด้านการรักษาโรค การส่งเสริมให้เชียงรายเป็นศูนย์กลางด้านวิชาการ การวิจัย นวัตกรรม และด้าน Wellness Tourism การพัฒนาและส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ รวมถึงการส่งเสริมการตลาด การประชาสัมพันธ์อีกด้วย
 
.
ทั้งนี้นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า จังหวัดเชียงรายจะเป็นเมืองแห่งสุขภาพไม่ได้ หากทุกภาคส่วนไม่ร่วมมือกัน ทั้งนี้ได้ให้มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงเป็นศูนย์กลาง ในการขยายผลออกไปยังวงกว้างทั้งผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องและประชาชนทั่วไป ตลอดจนการส่งเสริมพัฒนางานวิชาการ การวิจัยและนวัตกรรม รวมทั้งการพัฒนาองค์ความรู้จากภูมิปัญญาเพื่อสนับสนุนการบริการและอุตสาหกรรมและบริการด้านดูแลรักษาและส่งเสริมสุขภาพ และการส่งเสริมการถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อยกระดับมาตรฐาน ผลิตภัณฑ์และการบริการสู่ศาสตร์การแพทย์แห่งอนาคต ต่อไป
 
 
ท้ายนี้สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย ขอเชิญชวนทุกภาคส่วน เข้าร่วม Kick – Off โครงการ “เชียงราย” เมืองแห่งสุขภาพ (Chiang Rai Wellness City) ในวันที่ 30 ตุลาคม 2566 เวลา 08.30 – 12.00 น. ที่หอประชุมสมเด็จย่า อาคาร C4 มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
 
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ลงนามใช้หลักศาสนาขยายผลสู่ “หมู่บ้านศีลธรรม” ในเชียงราย

 

เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 66 ที่ผ่านมา นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีและร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงการขับเคลื่อนโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ฯ ที่ห้องประชุมพญาภิภักดิ์ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดเชียงราย โดยมี พระพุทธิญาณมุนี เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย หัวหน้าส่วนราชการ ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงระหว่าง สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย สำนักงานจังหวัดเชียงราย พัฒนาการจังหวัดเชียงราย ท้องถิ่นจังหวัดเชียงราย นายอำเภอ 18 อำเภอ และผู้นำศาสนาต่างๆ ในจังหวัดเชียงราย เพื่อขับเคลื่อนโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักศาสนาขยายผลสู่ “หมู่บ้านศีลธรรม” ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย

 
ทั้งนี้ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางศาสนา ขยายผลสู่หมู่บ้านศีลธรรม ในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกกลุ่มไม่ว่าจะนับถือศาสนาใด ทั้งพุทธ คริสต์ อิสลาม ศาสนาอื่น หรือความเชื่ออื่นได้มีความปรองดองสมานฉันท์ ลดปัญหาความขัดแย้ง สร้างความมั่นคง ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ใช้หลักทางศาสนาที่เคารพนับถือ โดยยึดหลักศาสนา และนำมาปฏิบัติจนเป็นวิถีชีวิต ตลอดจนเพื่อสร้างวัฒนธรรมการอยู่ร่วมกันด้วยความปรองดอง สมานฉันท์ก่อให้เกิดสันติสุข ในหมู่บ้าน/ชุมชน พัฒนาไปสู่หมู่บ้านศีลธรรม ภายใต้ภารกิจของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีพันธกิจ ที่เกี่ยวข้องกับประซาชน สมดังพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ที่หวังให้ “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขในสิ่งผิด สืบสานในพระราชปณิธาน ภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง”
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News