
เวียดนามฟีเวอร์! นักท่องเที่ยวทะลุ 7.6 ล้าน ไทยชะลอตัว-ตลาดจีนแห่เที่ยวเวียดนาม แซงไทยในตลาดหลักเอเชีย
ประทเศไทย, 1 มิถุนายน 2568 – การท่องเที่ยวเวียดนามกลายเป็นประเด็นร้อนของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติเวียดนามเปิดเผยสถิติชี้ว่า เวียดนามต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงถึง 7.67 ล้านคน ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2568 เพิ่มขึ้น 23.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา นับเป็นการขยายตัวที่น่าจับตา สะท้อนภาพเวียดนามในฐานะ “แม่เหล็ก” ดึงดูดนักท่องเที่ยวรายใหม่จากทั่วโลก
เวียดนามแรงแซงไทย นักท่องเที่ยวจีน-เกาหลีหันเป้าหมายใหม่
ข้อมูลล่าสุด (อัปเดต 12 พฤษภาคม 2568) ระบุว่า ตลาดนักท่องเที่ยวที่เข้าเยือนเวียดนามสูงสุดคือจีน 1.95 ล้านคน ตามด้วยเกาหลีใต้ 1.58 ล้านคน ขณะที่ไทย ซึ่งเคยเป็นจุดหมายหลักสำหรับตลาดทั้งสองกลุ่ม กลับถูกเวียดนามแซงหน้าอย่างชัดเจน โดยสถิติระบุว่า นักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้าไทยช่วงต้นปีมีเพียง 1.82 ล้านคน ส่วนกลุ่มเกาหลีใต้ ไทยมีนักท่องเที่ยวราว 600,000 คน ขณะที่เวียดนามดึงกลุ่มนี้ได้ถึง 1.58 ล้านคน หรือมากกว่าประมาณ 3 เท่า
ตลาดสำคัญอื่นๆ อาทิ ไต้หวัน สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และกัมพูชา ก็เติบโตต่อเนื่อง ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ฟิลิปปินส์ (+98.3%) กัมพูชา (+79.6%) และลาว (+44.7%) ต่างมีอัตราเติบโตสูง ส่วนไทย (+3.1%) และมาเลเซีย (+0.3%) กลับขยายตัวได้เพียงเล็กน้อย
แนวโน้มเปลี่ยนทิศทางการท่องเที่ยวในภูมิภาค
สถานการณ์ที่เวียดนามแซงหน้าไทยในกลุ่มตลาดหลักอย่างจีนและเกาหลีใต้ สะท้อนความเปลี่ยนแปลงสำคัญในภูมิทัศน์อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของภูมิภาค โดยในอดีต ไทยเคยเป็นจุดหมายหลักของนักท่องเที่ยวจีนและเกาหลีมาโดยตลอด แต่ปัจจุบันนักท่องเที่ยวทั้งสองชาติกลับเลือกเวียดนามเป็นปลายทางมากขึ้น เนื่องจากหลายปัจจัย เช่น นโยบายดึงดูดการท่องเที่ยวเชิงรุก การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่ตอบโจทย์นักเดินทางรุ่นใหม่
ไทยยังคงตัวเลขรวมสูงแต่แนวโน้มชะลอตัว
แม้ไทยจะยังมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมสูงกว่า โดยข้อมูลสะสมตั้งแต่ 1 ม.ค.–25 พ.ค. 2568 ไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวรวมกว่า 13 ล้านคน แต่สัปดาห์ล่าสุดกลับมีแนวโน้มชะลอตัวลง นักท่องเที่ยวลดลง 5.11% โดยเฉพาะกลุ่มจีน เกาหลีใต้ และมาเลเซีย ลดลง 8.26%, 1.72% และ 1.42% ตามลำดับ สะท้อนแรงกดดันด้านการแข่งขันจากเวียดนามและความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจในภูมิภาค
ตลาดจีนซึ่งเคยเป็น “หมุดทองคำ” ของไทย เริ่มแปรเปลี่ยนฐานความนิยม โดยจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เข้าเวียดนามสูงกว่าของไทยอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ กลุ่มนักท่องเที่ยวจากเกาหลีใต้ซึ่งถือเป็น “กำลังซื้อหลัก” ของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ก็เลือกเวียดนามเพิ่มขึ้นในอัตราที่รวดเร็ว
วิเคราะห์ปัจจัยสำคัญที่เปลี่ยนทิศการท่องเที่ยว
หนึ่งในปัจจัยหลักที่นักวิเคราะห์ชี้ชัด คือการที่เวียดนามใช้นโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ทั้งการพัฒนาเส้นทางบินตรง การเปิดเมืองใหม่ การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ รวมถึงราคาค่าครองชีพที่เหมาะสม ในขณะที่ประเทศไทยกำลังเผชิญกับปัญหาค่าเงินบาทแข็ง อัตราค่าครองชีพสูง รวมถึงความกังวลในเรื่องความปลอดภัยที่ถูกหยิบยกในสื่อระหว่างประเทศ
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้ความเห็นว่า สาเหตุหลักของการลดลงของจำนวนนักท่องเที่ยวจีน ญี่ปุ่น และต่างชาติส่วนหนึ่งมาจากความกังวลเรื่องความปลอดภัยและอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทที่แข็งค่า ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายท่องเที่ยวในไทยสูงขึ้น ทำให้เวียดนามกลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับกลุ่มนี้
ทิศทางการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน กลายเป็นความท้าทายของไทย
รายงานจาก Lao Tien Times ในงาน Thailand Tourism Forum 2025 เมื่อ 7 พฤษภาคม 2568 ชี้ว่า ไทยกำลังตกเป็นรองในด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยมีเพียง 109 โรงแรม หรือไม่ถึง 1% ของโรงแรมทั่วประเทศ ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานสากลด้านความยั่งยืน ขณะที่แพลตฟอร์มการจองและเทคโนโลยี AI เริ่มให้ความสำคัญกับสถานประกอบการที่มีใบรับรองมาตรฐานอย่างเข้มงวด ส่งผลให้โรงแรมไทยที่ไม่ผ่านมาตรฐานอาจถูกกันออกจากตลาดสำคัญ เช่น การเดินทางเพื่อธุรกิจและกลุ่ม MICE
อาลิสา ศิวายะธร CEO Sivatel Bangkok Hotel กล่าวในงานว่า กระแสความต้องการท่องเที่ยวเชิงรับผิดชอบกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ไม่ใช่แค่ “เทรนด์” อีกต่อไป แต่เป็น “มาตรฐานใหม่ของโลก” โดยเฉพาะนักเดินทางจากยุโรปที่มีการออกกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมเข้มข้นมากขึ้น
แม้ผู้บริโภคไทยจะมีความสนใจเรื่องสิ่งแวดล้อม โดยพบว่าในปี 2567-2568 มีโพสต์เกี่ยวกับการลดใช้พลาสติกและขยะกว่า 6,800 โพสต์บนโซเชียลมีเดีย และมีผู้มีส่วนร่วมมากกว่า 1.2 ล้านครั้ง ข้อมูลจากผลสำรวจระบุว่า 65% ของนักท่องเที่ยวไทยยินดีจ่ายเงินมากขึ้นเพื่อประสบการณ์ท่องเที่ยวที่ยั่งยืน และ 62% ยินดีจ่ายเพิ่มเพื่อเลี่ยงการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว แต่ราคายังเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ผู้บริโภคบางกลุ่มเลือกวิธีที่ประหยัดมากกว่าสิ่งแวดล้อม
ลาวโดดเด่นบนเวทีโลก ผลักดันเมืองหลวงพระบางสู่มาตรฐานโลก
ขณะที่ไทยกำลังดิ้นรนกับมาตรฐานความยั่งยืน ลาวกลับมีความคืบหน้าสำคัญ หลวงพระบางได้รับรางวัลอันดับ 3 ใน Green Destinations Top 100 Story Awards สาขาการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยว (Destination Management) ณ งาน ITB Berlin เมื่อเดือนมีนาคม 2568 นอกจากนี้ หลวงพระบางอยู่ระหว่างการเตรียมตัวขอรับรอง Green Destination Certification อย่างเป็นทางการ ซึ่งจะยกระดับภาพลักษณ์เมืองมรดกโลกให้สูงขึ้นไปอีกขั้น
สถิติล่าสุดระบุว่าในปีที่ผ่านมา หลวงพระบางมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวลาวและต่างชาติกว่า 2.3 ล้านคน สร้างรายได้มากกว่า 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เช่น น้ำตกกวงสี วัดเชียงทอง ภูสี และตลาดกลางคืน ยังคงเป็นแม่เหล็กสำคัญ
ทางออกและมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวไทย
นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่ารัฐบาลกำลังเร่งดำเนินมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวไทยอย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการ “สวัสดีหนีห่าว” ที่นำผู้ประกอบการและ KOL จากจีนเข้าร่วมงานโปรโมตประเทศไทย พร้อมขยายตลาด “Long haul” หรือกลุ่มเดินทางไกล ขณะที่ยังต้องรักษาตลาด “Short haul” หรือกลุ่มระยะใกล้ โดยมีมาตรการเสริมสร้างความเชื่อมั่นเรื่องความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกผ่านระบบ ตม.6
นางสาวฐาปนีย์ ยังยืนยันว่า ไทยมีศักยภาพขยายตลาดใหม่ พร้อมย้ำถึงมาตรการเชิงรุกที่จะทำให้ตลาดจีนและกลุ่มเป้าหมายสำคัญกลับมาเติบโตในครึ่งปีหลัง
วิเคราะห์แนวโน้ม อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยในปี 2568
สถานการณ์การแข่งขันของเวียดนามและไทยในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวปี 2568 สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นในการปรับกลยุทธ์ของไทย ทั้งในแง่ของการขยายตลาดใหม่ การยกระดับมาตรฐานความยั่งยืน และการเสริมสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยและประสบการณ์ท่องเที่ยว ตลอดจนการเน้นกลยุทธ์การตลาดที่สอดคล้องกับพฤติกรรมนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ ความคุ้มค่า และความรับผิดชอบต่อสังคม
สถิติสำคัญและแหล่งอ้างอิง
- เวียดนามมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 7.67 ล้านคน ช่วง 4 เดือนแรกของปี 2568 (+23.8%) (อ้างอิง: สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติเวียดนาม)
- ไทยมีนักท่องเที่ยวสะสมกว่า 13 ล้านคน (1 ม.ค.–25 พ.ค. 2568) (อ้างอิง: กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา)
- นักท่องเที่ยวจีนเยือนเวียดนาม 1.95 ล้านคน ไทย 1.82 ล้านคน (อ้างอิง: สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติเวียดนาม, กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา)
- นักท่องเที่ยวเกาหลีใต้เยือนไทย 600,000 คน ขณะที่เวียดนาม 1.58 ล้านคน (อ้างอิง: สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติเวียดนาม)
- ไทยมีโรงแรมที่ได้รับการรับรองมาตรฐานความยั่งยืนเพียง 109 แห่ง (<1%) (อ้างอิง: Siam Commercial Bank Economic Intelligence Center, Lao Tien Times)
- หลวงพระบาง ลาว มีนักท่องเที่ยว 2.3 ล้านคน รายได้ 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (อ้างอิง: กรมการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมลาว, ITB Berlin 2025)
เครดิตภาพและข้อมูลจาก :
- สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติเวียดนาม
- กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
- Siam Commercial Bank
- Economic Intelligence Center
- Lao Tien Times
- งาน ITB Berlin 2025