Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เชียงรายจ่ายแล้วเงินล้างโคลนท่วม ครัวเรือนละหมื่น

จังหวัดเชียงรายจ่ายเงินค่าล้างโคลนให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วม หลังคาเรือนละ 10,000 บาท

เชียงราย – 26 มีนาคม 2568 ที่อาคารเจียงแสน ศูนย์ประชุมนครเชียงราย (GMS) นายประสงค์ หล้าอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางมาตรวจความเรียบร้อยและร่วมแจกจ่ายเงินค่าล้างโคลนจำนวนครอบครัวละ 10,000 บาท ให้แก่ประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในเขตเทศบาลนครเชียงราย โดยมีผู้ได้รับการช่วยเหลือทั้งสิ้น 7,483 ครัวเรือน

การสนับสนุนงบประมาณเพื่อการฟื้นฟู

จากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่เมื่อปลายปี 2567 จังหวัดเชียงรายได้ยื่นขอการสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมจากรัฐบาลเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย ซึ่งได้รับการอนุมัติเงินทดรองราชการในอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด วงเงินรวม 300 ล้านบาท สำหรับใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพ และค่าล้างทำความสะอาดดินโคลน รวมถึงซากวัสดุในที่อยู่อาศัย

ทั้งนี้ การจัดสรรงบประมาณแบ่งเป็น 134,776,273 บาท สำหรับอำเภอแม่สาย และ 157,370,976 บาท สำหรับอำเภอเมืองเชียงราย รวมทั้งสิ้น 292,143,249 บาท โดยจะดำเนินการแจกจ่ายให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 2 เมษายน 2568

เสียงจากฝ่ายปกครองและการดำเนินการต่อเนื่อง

นายประสงค์ หล้าอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่าการช่วยเหลือครั้งนี้ถือเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น แม้ว่าจังหวัดเชียงรายจะได้รับงบประมาณช่วยเหลือก่อนหน้านี้แล้วกว่า 100 ล้านบาท แต่ยังไม่เพียงพอเนื่องจากมีจำนวนผู้ได้รับผลกระทบมาก

ด้าน นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย กล่าวว่า เทศบาลนครเชียงรายได้ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในหลายด้าน ทั้งการฟื้นฟูและการเยียวยาเบื้องต้น แต่เนื่องจากงบประมาณท้องถิ่นมีจำกัด การได้รับการสนับสนุนเงินจากจังหวัดครั้งนี้จะช่วยให้การฟื้นฟูดำเนินไปได้อย่างรวดเร็วขึ้น

นอกจากนี้ เทศบาลยังมีแผนการป้องกันระยะยาว โดยเตรียมโครงการก่อสร้างแนวตลิ่งตลอดแม่น้ำกก ระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำและป้องกันน้ำท่วมในอนาคต

ขั้นตอนการขอรับเงินค่าล้างโคลน

ประชาชนที่ได้รับสิทธิ์สามารถยื่นขอรับเงินได้โดยใช้เอกสารดังนี้:

  • บัตรประชาชนตัวจริงและสำเนาบัตรประชาชนที่รับรองสำเนาถูกต้อง
  • กรณีมอบอำนาจ ต้องมีสำเนาบัตรประชาชนของผู้มีสิทธิ์และผู้รับมอบอำนาจ พร้อมหนังสือมอบอำนาจที่ลงลายมือชื่อครบถ้วน
  • เอกสารทั้งหมดต้องยื่นต่อเจ้าหน้าที่ ณ จุดบริการที่กำหนด

ความเห็นที่เป็นกลางจากทั้งสองฝ่าย

  • ฝ่ายประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ : ประชาชนส่วนใหญ่แสดงความขอบคุณต่อการสนับสนุนจากภาครัฐที่สามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนได้ทันเวลา อย่างไรก็ตาม หลายครัวเรือนยังคงกังวลเกี่ยวกับการฟื้นฟูในระยะยาว เนื่องจากการทำความสะอาดบ้านเรือนและการซ่อมแซมโครงสร้างยังคงต้องใช้เวลาและทรัพยากรเพิ่มเติม
  • ฝ่ายหน่วยงานรัฐ : ฝ่ายราชการยืนยันว่าพร้อมให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ทั้งด้านการฟื้นฟูที่อยู่อาศัยและการเตรียมโครงการป้องกันน้ำท่วมในอนาคต นอกจากนี้ ยังเตรียมการขอรับงบประมาณเพิ่มเติมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดหาเครื่องใช้ในครัวเรือนและอุปกรณ์จำเป็นให้แก่ผู้ประสบภัยต่อไป

สถิติที่เกี่ยวข้องและแหล่งข้อมูล

  • จำนวนผู้ได้รับการช่วยเหลือในเขตเทศบาลนครเชียงราย: 7,483 ครัวเรือน (สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย)
  • งบประมาณที่ใช้ในการช่วยเหลือ: 292,143,249 บาท (สำนักงบประมาณจังหวัดเชียงราย)
  • ความเสียหายที่เกิดขึ้นในพื้นที่อำเภอเมืองและอำเภอแม่สาย: มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 500 ล้านบาท (กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย)

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
AROUND CHIANG RAI WORLD PULSE

คุมเข้มชายแดน อ.แม่สาย ไทย-เมียนมาประชุม กำแพง-ขุดลอก

ไทย-เมียนมา ประสานงานสร้างกำแพงป้องกันตลิ่งแม่น้ำสาย หวังลดผลกระทบฤดูน้ำหลาก

เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงไทย-เมียนมา ลงพื้นที่สำรวจพิกัดแนวกำแพงป้องกันตลิ่ง

เชียงราย, 11 มีนาคม 2568 – เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ร่วมกับโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดเชียงราย และหน่วยประสานงานชายแดนไทย-เมียนมา ประจำพื้นที่ 1 (TBC) กรมแผนที่ทหาร ลงพื้นที่ตรวจสอบตำแหน่งค่าพิกัดแนวกำแพงหินคอนกรีตป้องกันตลิ่งในพื้นที่ชุมชนปงถุน และชุมชนท่าล้อ จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ซึ่งตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำสายและอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยมีการกำหนดพื้นที่ดำเนินการก่อสร้าง 3 จุด ได้แก่:

  1. จุดก่อสร้างกำแพงหินคอนกรีตป้องกันตลิ่งตรงข้ามสะพานข้ามแม่น้ำสายแห่งที่ 1
  2. จุดก่อสร้างกำแพงหินคอนกรีตป้องกันตลิ่งใต้สะพานข้ามแม่น้ำสายแห่งที่ 1
  3. จุดก่อสร้างกำแพงหินคอนกรีตป้องกันตลิ่งบริเวณหลังโรงแรมอารัว

การดำเนินงานดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่างไทยและเมียนมา เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการกำหนดพิกัดแนวเขตแดน หลังจากฝ่ายเมียนมาได้ดำเนินการปรับพื้นที่ริมฝั่งเพื่อเตรียมสร้างกำแพงป้องกันน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง ก่อนฤดูฝนปีนี้

การประชุมความร่วมมือ ไทย-เมียนมา เพื่อพัฒนาแนวป้องกันแม่น้ำสาย

นายประสงค์ หล้าอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยนายวรายุทธ ค่อมบุญ นายอำเภอแม่สาย และคณะ ได้เดินทางไปร่วมประชุมกับฝ่ายจังหวัดท่าขี้เหล็ก ณ โรงแรมวันจีวัน โดยมีนายประสงค์เป็นประธานฝ่ายไทย และนายซอ วิน ผู้อำนวยการทรัพยากรน้ำและการพัฒนาระบบแม่น้ำ เป็นประธานฝ่ายเมียนมา

การประชุมดังกล่าวเป็นเวทีหารือเกี่ยวกับผลการสำรวจแนวเขตลำน้ำสาย-แม่น้ำรวก ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในการป้องกันน้ำท่วมของทั้งสองประเทศ โดยมีการหารือเกี่ยวกับแนวทางการขุดลอกแม่น้ำสาย-แม่น้ำรวก เพื่อป้องกันการตื้นเขินและเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในช่วงฤดูฝน

ที่ประชุมมีมติให้รายงานผลการประชุมไปยัง คณะกรรมการร่วมไทย-เมียนมา (JCR) เกี่ยวกับเส้นเขตแดนคงที่ช่วงแม่น้ำสาย-แม่น้ำรวก เพื่อขอความเห็นชอบในการดำเนินการขุดลอกแม่น้ำอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป อย่างไรก็ตาม จนถึงปัจจุบันยังไม่มีการขุดลอกแม่น้ำสาย-แม่น้ำรวก แม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะมีความคาดหวังให้ดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคม 2568 ก่อนเข้าสู่ฤดูฝน

แนวโน้มและผลกระทบจากการก่อสร้างกำแพงป้องกันตลิ่ง

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

  • ลดความเสียหายจากน้ำท่วม – กำแพงป้องกันตลิ่งสามารถช่วยลดผลกระทบจากการกัดเซาะของน้ำในช่วงฤดูฝน ทำให้ชุมชนริมแม่น้ำมีความปลอดภัยมากขึ้น
  • เสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ – โครงการนี้เป็นการทำงานร่วมกันของไทยและเมียนมา ซึ่งช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสองประเทศ
  • พัฒนาแนวเขตแดนที่ชัดเจนขึ้น – การกำหนดพิกัดแนวกำแพงป้องกันตลิ่งจะช่วยให้มีการจัดการเขตแดนระหว่างสองประเทศที่เป็นระบบมากขึ้น

ข้อกังวลจากบางฝ่าย

  • ผลกระทบต่อระบบนิเวศ – นักอนุรักษ์บางกลุ่มกังวลว่าการก่อสร้างแนวกำแพงอาจส่งผลต่อกระแสน้ำและระบบนิเวศของแม่น้ำสาย รวมถึงสัตว์น้ำที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าว
  • ความล่าช้าของโครงการขุดลอกแม่น้ำ – แม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะเห็นพ้องต้องกันว่าควรขุดลอกแม่น้ำสายและแม่น้ำรวก แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินงานจริง ซึ่งอาจส่งผลให้การระบายน้ำในฤดูฝนไม่ได้ผลตามที่คาดการณ์ไว้

สถิติที่เกี่ยวข้อง

  • ข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยา (2567) ระบุว่า เชียงรายมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 1,800 มิลลิเมตรต่อปี และคาดการณ์ว่าปี 2568 ปริมาณฝนอาจเพิ่มขึ้น 10% ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดน้ำหลากในพื้นที่เสี่ยง
  • สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย รายงานว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีเหตุการณ์น้ำท่วมในอำเภอแม่สายถึง 8 ครั้ง โดย 3 ครั้งเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความเสียหายรุนแรง
  • ข้อมูลจากหน่วยประสานงานชายแดนไทย-เมียนมา (TBC) ระบุว่า โครงการก่อสร้างกำแพงป้องกันตลิ่งในพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา มีอัตราความสำเร็จเฉลี่ย 75% และคาดว่าโครงการปัจจุบันจะแล้วเสร็จภายใน 2 ปี

ข้อสรุป

โครงการสร้างกำแพงป้องกันตลิ่งบริเวณแม่น้ำสายเป็นความร่วมมือระหว่างไทยและเมียนมา ที่มีเป้าหมายเพื่อป้องกันปัญหาน้ำหลากและการกัดเซาะริมฝั่ง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อกังวลด้านผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและความล่าช้าของโครงการขุดลอกแม่น้ำ ซึ่งต้องได้รับการพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อให้การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานนี้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อทั้งสองประเทศ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กรมอุตุนิยมวิทยา (2567) / สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย / หน่วยประสานงานชายแดนไทย-เมียนมา (TBC)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE