Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

มิจฉาชีพอ้างตำรวจเชียงราย หลอกขอข้อมูลเหยื่อคอลเซ็นเตอร์ซ้ำ

เชียงรายเตือนภัย! แก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นตำรวจ หลอกผู้เสียหายซ้ำ ตำรวจเร่งประชาสัมพันธ์ป้องกันตกเป็นเหยื่อ

เชียงราย, 25 มิถุนายน 2568 –สถานีตำรวจภูธรเชียงของ จังหวัดเชียงราย ออกประกาศเตือนภัยเร่งด่วนแก่ประชาชน หลังได้รับแจ้งว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ใช้แผนใหม่แอบอ้างชื่อตำรวจในพื้นที่ติดต่อไปยังผู้เสียหายจากกรณีถูกหลอกโอนเงิน ก่อนหน้า เพื่อหวังตบตาให้เหยื่อหลงเชื่อและส่งข้อมูลส่วนตัว หรือเรียกร้องค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ด้านตำรวจยืนยัน “ไม่ติดต่อขอข้อมูลส่วนตัว-เงินผ่านโทรศัพท์” แนะประชาชนอย่าหลงเชื่อ หรือโอนเงินเด็ดขาด

เปิดกลยุทธ์ใหม่ แก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างชื่อเจ้าหน้าที่-ใช้รูปโปรไฟล์ปลอม

จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเพจเฟซบุ๊กของ สภ.เชียงของ ได้เผยแพร่ประกาศเตือนภัย หลังได้รับแจ้งจากประชาชนหลายรายในพื้นที่ต่างจังหวัดว่ามีผู้โทรศัพท์ติดต่อโดยแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเชียงราย โดยเฉพาะ “ว่าที่ พ.ต.ต.บัญชา ศรีกันชัย สว.กก.สส.ภ.จว.เชียงราย” อ้างว่ากำลังดูแลคดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์และต้องการข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้เสียหาย อาศัยข้อมูลจริงบางส่วน เช่น ชื่อตำรวจ รูปโปรไฟล์ และภาพสถานีตำรวจ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ

ว่าที่ พ.ต.ต.บัญชา ศรีกันชัย เปิดเผยว่า เพิ่งทราบว่ามีผู้อ้างชื่อและตำแหน่งของตน ติดต่อไปยังผู้เสียหายในหลายจังหวัด เช่น ลำพูน สุรินทร์ และชลบุรี โดยระบุว่าตนเป็นพนักงานสอบสวน สภ.เชียงของ อ้างว่าสามารถช่วยติดตามเงินหรือประสานงานจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ พร้อมทั้งสอบถามข้อมูลส่วนตัวของผู้เสียหายและรายละเอียดคดี แต่ยังไม่ได้ขอให้โอนเงินในทันที อย่างไรก็ดี ผู้เสียหายบางรายเกิดความสงสัย จึงติดต่อสอบถามกลับไปที่ สภ.เชียงของ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบเรื่องและรีบประกาศเตือนผ่านทุกช่องทาง

ตำรวจขอความร่วมมือประชาชน “อย่าหลงเชื่อ–อย่าโอนเงิน–แจ้งสถานีใกล้บ้าน”

ด้าน พ.ต.อ.เกรียงศักดิ์ ตงศิริ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเชียงของ สั่งการให้ทุกฝ่ายเร่งประชาสัมพันธ์ข่าวสารผ่านสื่อสังคมออนไลน์และช่องทางต่าง ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้มีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อเพิ่มเติม พร้อมระบุว่า ตำรวจจะไม่มีการโทรศัพท์ไปขอข้อมูลส่วนตัว เอกสาร หรือเงินจากประชาชนในลักษณะนี้โดยเด็ดขาด หากได้รับการติดต่อควรแจ้งหรือสอบถามกับสถานีตำรวจที่ใกล้ที่สุดทันที

ว่าที่ พ.ต.ต.บัญชา ศรีกันชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้มีข้อมูลว่าคนร้ายได้โทรศัพท์ไปหาผู้เสียหายอย่างน้อย 5-6 รายทั่วประเทศ โดยใช้รูปโปรไฟล์และข้อมูลตำแหน่งที่อาจค้นหาจากสื่อหรืออินเทอร์เน็ตมาแอบอ้าง หากประชาชนได้รับการติดต่อให้สงสัยไว้ก่อนเสมอ และอย่ารีบให้ข้อมูลหรือโอนเงินไม่ว่าในกรณีใด ๆ ทั้งสิ้น

มิจฉาชีพดัดแปลงข้อมูล–ล่อลวงซ้ำซ้อน หวั่นขยายขบวนการ

ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ระบุว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์มีการพัฒนาแผนการล่อลวงตลอดเวลา จากเดิมที่หลอกโอนเงินตรง ๆ ปัจจุบันกลับมุ่งเน้นใช้ข้อมูลของเหยื่อที่เคยแจ้งความมาแล้วมาเป็นเครื่องมือ โดยเฉพาะการอ้างว่าช่วยเหลือหรือดำเนินการกับคดีเก่าเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ เช่น แอบอ้างว่าได้จับกุมคนร้ายได้แล้ว ต้องการสอบถามข้อมูลหรือเรียกเก็บค่าดำเนินการเพิ่มเติม ทั้งยังใช้รูปโปรไฟล์เจ้าหน้าที่ตำรวจและสถานที่ราชการเพื่อหลอกลวง

ที่สำคัญ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เตือนประชาชนที่เปิดบัญชีรับโอนเงิน (บัญชีม้า) ให้กับขบวนการเหล่านี้ว่า ถือเป็นการกระทำผิดกฎหมาย มีโทษรุนแรงและจะถูกดำเนินคดีเป็นกลุ่มแรก ก่อนขยายผลไปยังผู้มีส่วนเกี่ยวข้องรายอื่น ๆ ต่อไป

ผลกระทบ–ข้อเสนอแนะและแนวทางป้องกัน

สถานการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงการปรับตัวของกลุ่มมิจฉาชีพที่ใช้เทคโนโลยีและข้อมูลข่าวสารมาแสวงหาผลประโยชน์บนความเดือดร้อนของประชาชน ทางตำรวจแนะนำให้ผู้เสียหายหรือประชาชนทั่วไปที่ได้รับการติดต่อแปลก ๆ ในลักษณะนี้ ควรตรวจสอบกับสถานีตำรวจในพื้นที่ หรือสายด่วน 191 และหลีกเลี่ยงการตอบกลับหรือส่งข้อมูลส่วนตัวในทันที

ภาครัฐควรเร่งรัดพัฒนากลไกการสื่อสาร แจ้งเตือนภัยอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงรณรงค์ผ่านทุกช่องทางให้ประชาชนตระหนักถึงรูปแบบใหม่ ๆ ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อซ้ำซ้อน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

เชียงรายร่วมมือหลายฝ่าย หาทางป้องกันวัยรุ่นทะเลาะวิวาท

การประชุมหลายฝ่ายป้องกันปัญหากลุ่มวัยรุ่นทะเลาะวิวาท ต.แม่กรณ์ เชียงราย

เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2567 ที่องค์การบริหารส่วนตำบลแม่กรณ์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย พ.ต.อ.โสภณ ม่วงเฟื่อง ผกก.สภ.เมืองเชียงราย มอบหมายให้ พ.ต.ท.ฉันทฤทธิ์ เหล่าไพโรจน์จารีย์ รอง ผกก.ป. สภ.เมืองเชียงราย เป็นประธานในการประชุมหลายฝ่าย เพื่อหาแนวทางป้องกันและควบคุมปัญหากลุ่มวัยรุ่นทะเลาะวิวาทในพื้นที่ตำบลแม่กรณ์ โดยมีตัวแทนจากหลายภาคส่วนร่วมประชุม ได้แก่ องค์การบริหารส่วนตำบลแม่กรณ์ บริษัท สิงห์ปาร์คเชียงราย จำกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเชียงราย สำนักงานสรรพสามิตจังหวัดเชียงราย ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 327 และผู้นำหมู่บ้านในพื้นที่

เหตุการณ์และปัญหาที่เกิดขึ้น

การประชุมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อตอบสนองต่อเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทที่เกิดขึ้นต้นเดือนธันวาคม ในระหว่างงานเทศกาลที่จัดขึ้นในพื้นที่ตำบลแม่กรณ์ หลังจากการแสดงดนตรีเสร็จสิ้น มีกลุ่มวัยรุ่นทะเลาะวิวาทกันจนทำให้มีผู้บาดเจ็บหนัก เหตุการณ์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย สร้างผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดเชียงราย

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงราย ได้ตรวจสอบพบว่าสาเหตุของเหตุการณ์เกิดจากความขัดแย้งระหว่างกลุ่มวัยรุ่นที่มีปัญหากันมาก่อนและบังเอิญพบกันในงานเทศกาล ขณะนี้ผู้ก่อเหตุได้ติดต่อขอมอบตัว และทางตำรวจได้ดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติม

มาตรการจากหน่วยงานและชุมชน

  1. การจัดการด้านความปลอดภัยภายในงาน
    ตัวแทนจากผู้จัดงานชี้แจงว่า การจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในงานเป็นไปตามกฎหมาย โดยผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีจะได้รับการประทับตราที่ริสแบนด์เพื่อป้องกันการซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และมีมาตรการคัดกรองผู้เข้าร่วมงานอย่างเคร่งครัด
  2. บทบาทของชุมชนในการมีส่วนร่วม
    ผู้นำชุมชนได้เสนอให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบและดูแลความเรียบร้อยในช่วงที่มีการจัดกิจกรรม เพื่อช่วยเสริมสร้างความปลอดภัยและลดความเสี่ยงของเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทในอนาคต
  3. มาตรการด้านการศึกษา
    นายณรงค์ คำสุขุม รอง ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเชียงราย กล่าวว่า ทาง สพม.เชียงราย ได้มีศูนย์ความปลอดภัยและเจ้าหน้าที่ส่งเสริมความประพฤติของนักเรียน (พสน.) เพื่อดูแลนักเรียนในช่วงที่มีกิจกรรมในพื้นที่ พร้อมส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมในโรงเรียน เพื่อป้องกันปัญหาการทะเลาะวิวาท

ความร่วมมือในอนาคต

นายชวาล ผู้จัดการทั่วไปของผู้จัดงานในพื้นที่ กล่าวว่า ทางผู้จัดงานมีแผนที่จะเพิ่มการจัดงานประจำปีจาก 5-6 ครั้งต่อปี เป็น 10 ครั้งในปีหน้า และจะเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชนในทุกกระบวนการ ตั้งแต่การวางแผนงานจนถึงการจัดกิจกรรม เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว ทั้งในด้านความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวก

นอกจากนี้ ยังมีแผนพัฒนาระบบการจราจรภายในงาน ซึ่งปัจจุบันใช้เวลาเคลียร์พื้นที่หลังงานจบประมาณ 1-2 ชั่วโมง การมีส่วนร่วมของชุมชนจะช่วยลดปัญหาการจราจรและเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดงาน

สรุปผลการประชุม

การประชุมครั้งนี้ได้ข้อสรุปว่าการแก้ไขปัญหาต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชุมชน และผู้จัดงาน เพื่อสร้างระบบการจัดการที่มีประสิทธิภาพ ป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับจังหวัดเชียงรายในฐานะเมืองท่องเที่ยวที่ปลอดภัยและยั่งยืน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สภ.เมืองเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ตำรวจเชียงรายทลายแก๊งอันธพาล ก่อเหตุป่วนเมืองเสียหาย

ตำรวจเชียงรายทลายแก๊งอันธพาล ก่อเหตุป่วนเมือง ทำร้ายทรัพย์สินและประชาชน

ทลายแก๊งวัยรุ่นอันธพาล ก่อเหตุรุนแรงกลางเชียงราย

เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2567 ตำรวจจังหวัดเชียงรายทลายแก๊งอันธพาลที่ก่อเหตุรุนแรง โดยกลุ่มวัยรุ่นรวมตัวขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ต่ำกว่า 20 คัน ขับป่วนเมือง ทำลายทรัพย์สินและขว้างปาวัตถุเสียงดังบริเวณถนนพหลโยธิน ตั้งแต่แยกบ้านเด่นถึงทางเลี่ยงเมืองเชียงราย

เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบและจับกุม หัวหน้าแก๊งวัยรุ่น

หลังเหตุเกิดที่หน้าโรงเรียนเม็งรายมหาราช เมื่อเวลา 00.45 น. วันที่ 24 ต.ค. พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผบก.ภ.จว.เชียงราย ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.อานันท์จักร์ กนกนพวัชร์ ผกก.สภ.บ้านดู่ และ พ.ต.ต.ณัฐวุฒิ แก้วสืบ สว.สส.สภ.บ้านดู่ เข้าติดตามกลุ่มผู้ก่อเหตุจนพบหัวหน้าแก๊ง นายเวฟ (นามสมมุติ) เยาวชนอายุ 15 ปี จากหมู่บ้านท่าสาย ต.ท่าสาย อ.เมือง จ.เชียงราย

ตรวจค้นอาวุธ อุปกรณ์อันตรายในบ้านพัก

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจค้นบ้านพักที่มีการรวมตัวของกลุ่มวัยรุ่น พบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก สนับมือ 1 อัน และมีดจำนวนมากซุกซ่อนอยู่ภายในบ้าน จึงควบคุมตัวนายเวฟและเพื่อนอีก 2 คน พร้อมของกลาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

ตำรวจเชิญผู้ปกครองอบรมปรับทัศนคติ

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญผู้ปกครองและกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุเข้าร่วมการอบรมและปรับทัศนคติเพื่อป้องกันการกระทำผิดซ้ำ และทำประวัติ พร้อมกำชับให้ผู้ปกครองช่วยดูแลพฤติกรรมของเยาวชน

ความผิดทางกฎหมายที่กลุ่มวัยรุ่นเผชิญ

สำหรับความผิดที่พบในเบื้องต้น ได้แก่ การทำลายทรัพย์สิน ทำร้ายร่างกายผู้อื่น สร้างความรบกวนเสียงดังในที่สาธารณะ และพกพาอาวุธในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร นอกจากนี้ ยังผิดตามพระราชบัญญัติความสะอาด และพระราชบัญญัติจราจรทางบก โดยจะติดตามผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ประชาชนที่พบเห็นการกระทำผิดสามารถแจ้งตำรวจภูธรจังหวัดเชียงรายได้ที่สายด่วน 191

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News