
ธุรกิจโรงเรียนนานาชาติไทยโตแรง รายได้รวมทะลุ 7.3 พันล้านบาท สะท้อนพลังตลาดกลุ่มผู้ปกครองรายได้สูง
ภาพรวมธุรกิจโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทย
ธุรกิจโรงเรียนนานาชาติในไทยกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านรายได้และกำไร เห็นได้จากข้อมูลล่าสุดปี 2566 ที่มีรายได้รวมกว่า 7,327 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 28% จากปีก่อน และมีกำไรรวมสูงถึง 1,600 ล้านบาท การเติบโตนี้เกิดจากความนิยมของผู้ปกครองกลุ่มรายได้สูง นักธุรกิจ และเจ้าหน้าที่องค์กรระหว่างประเทศที่เข้ามาทำงานในไทย พร้อมครอบครัว ซึ่งต่างเลือกส่งบุตรหลานเข้าเรียนในโรงเรียนนานาชาติ เนื่องจากเชื่อมั่นในคุณภาพการศึกษามาตรฐานสากล
จุดแข็งของโรงเรียนนานาชาติไทยที่ตอบโจทย์ผู้ปกครอง
โรงเรียนนานาชาติในไทยมีจุดเด่นชัดเจนหลายด้าน อาทิ หลักสูตรที่หลากหลายและทันสมัย สัดส่วนครูต่อนักเรียนที่เหมาะสม เฉลี่ย 1:8 ซึ่งเอื้อต่อการดูแลอย่างใกล้ชิดและคุณภาพการสอนที่สูงขึ้น ผู้ปกครองจึงไว้วางใจเลือกให้ลูกหลานเข้าเรียน นอกจากนี้ สถานะทางสังคมก็เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ ผู้ปกครองรายได้สูงต้องการสร้างเครือข่ายและเสริมสร้างโอกาสในอนาคตให้แก่บุตรหลาน
ตลาดโรงเรียนนานาชาติขยายตัวต่อเนื่องทั้งในกรุงเทพฯและหัวเมืองหลัก
การวิเคราะห์จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า โรงเรียนนานาชาติ 80% กระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ชลบุรี และภูเก็ต ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีชาวต่างชาติอาศัยอยู่มาก ค่าเทอมของโรงเรียนนานาชาติชั้นนำอยู่ระหว่าง 905,300-1,109,400 บาทต่อปี โรงเรียนในจังหวัดเชียงรายก็ไม่น้อยหน้า เช่น One Hope International School, Chiang Rai International Christian School และ Chiang Rai International School ต่างมีค่าเทอม K1 เริ่มต้นที่ 160,000-175,000 บาทต่อปี
ปัจจัยผลักดันความนิยมและโอกาสการขยายตัว
ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้โรงเรียนนานาชาติได้รับความนิยม คือ ความต้องการของผู้ปกครองกลุ่ม High Net Worth ที่มองหา “ความพิเศษ” และเครือข่ายสากล โรงเรียนเหล่านี้มีหลักสูตรเฉพาะทาง เช่น STEM, Coding, AI ซึ่งตอบโจทย์ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 สร้างโอกาสสู่ตลาดแรงงานโลก นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มขยายสาขาไปยังจังหวัดท่องเที่ยวและเมืองที่มีชาวต่างชาติอยู่จำนวนมาก เช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ และพัทยา
โครงสร้างธุรกิจโรงเรียนนานาชาติและการลงทุนต่างชาติ
ข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ณ 30 เมษายน 2568 ระบุว่า มีธุรกิจการศึกษาในประเทศไทย 7,511 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 50,633.46 ล้านบาท โดยธุรกิจขนาดเล็ก (S) มีสัดส่วนสูงถึง 98.02% ทุนรวม 33,159.56 ล้านบาท ธุรกิจขนาดกลาง (M) มี 122 ราย ทุน 11,239.55 ล้านบาท และขนาดใหญ่เพียง 27 ราย ทุน 6,234.35 ล้านบาท ส่วนการลงทุนของต่างชาติก็โดดเด่น อังกฤษถือหุ้น 30% ของมูลค่าการลงทุน รองลงมาคือจีนและสิงคโปร์ รวมมูลค่าการลงทุนสูงถึง 5,732.96 ล้านบาท
แนวโน้มการเติบโตของธุรกิจการศึกษาไทยในช่วง 5 ปี
ย้อนดูช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2563-2567) ธุรกิจการศึกษาในไทยเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ปี 2563 มี 502 ราย ทุน 1,012.18 ล้านบาท ปี 2564 เพิ่มเป็น 512 ราย (+1.99%) ทุน 719.10 ล้านบาท ปี 2565 เพิ่มเป็น 616 ราย (+1.99%) ทุน 1,496.04 ล้านบาท ปี 2566 เพิ่มเป็น 889 ราย (+44.32%) ทุน 1,733.03 ล้านบาท ปี 2567 เพิ่มเป็น 979 ราย (+10.12%) ทุน 1,875.37 ล้านบาท เฉพาะมกราคม-เมษายน 2568 มี 319 รายใหม่ ทุน 610.34 ล้านบาท
ผลประกอบการและกำไรเติบโตอย่างมั่นคง
ข้อมูลรายได้รวม 3 ปีหลัง (2564-2566) ชี้ชัดว่าธุรกิจโรงเรียนนานาชาติเติบโตต่อเนื่อง ปี 2564 รายได้ 33,126.88 ล้านบาท ปี 2565 รายได้ 39,033.54 ล้านบาท (+17.83%) ปี 2566 รายได้ 46,290.96 ล้านบาท (+18.59%) ด้านกำไร ปี 2564 อยู่ที่ 1,491.08 ล้านบาท ปี 2565 เพิ่มเป็น 3,368.36 ล้านบาท (+126%) และปี 2566 พุ่งขึ้นเป็น 5,785.58 ล้านบาท (+71.76%)
การแข่งขันและความท้าทายต่อเนื่อง
แม้ภาพรวมธุรกิจโรงเรียนนานาชาติจะสดใส แต่ยังมีความท้าทายรออยู่ อาทิ อัตราเกิดประชากรที่ลดลง อาจส่งผลต่อจำนวนนักเรียนใหม่ในอนาคต ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นค่าครูหรือการบำรุงรักษาสิ่งอำนวยความสะดวก ตลอดจนการแข่งขันจากโรงเรียนต่างชาติในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เข้มข้นขึ้น
โอกาสการเติบโตและการปรับตัวของโรงเรียนนานาชาติ
โอกาสการเติบโตยังคงมีอีกมาก โรงเรียนสามารถขยายตลาดผ่านการพัฒนาหลักสูตรที่ตรงกับทักษะโลกอนาคต เช่น STEM, Coding และ AI รวมถึงตอบสนองความต้องการของกลุ่มนักเรียนต่างชาติ และการขยายไปยังเมืองที่มีศักยภาพอย่างต่อเนื่อง กลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ เช่น ผู้ปกครองรุ่นใหม่ที่เน้นประสบการณ์การเรียนรู้และโอกาสสู่ตลาดโลก ยังคงเป็นกลุ่มที่โรงเรียนเหล่านี้ต้องให้ความสำคัญ
บทสรุปและแนวโน้มอนาคต
ธุรกิจโรงเรียนนานาชาติในไทยยังเป็นดาวรุ่งและน่าจับตามองในอนาคต กลุ่มผู้ปกครองรายได้สูงยังคงขยายตัว และความต้องการการศึกษาคุณภาพสูงไม่เคยลดลง อย่างไรก็ตาม การแข่งขันและปัจจัยภายนอกอาจกระทบในระยะยาว โรงเรียนที่ปรับตัวและพัฒนาหลักสูตรอย่างต่อเนื่อง ย่อมรักษาความได้เปรียบในตลาดนี้
สถิติสำคัญจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้
- โรงเรียนนานาชาติในประเทศไทยปี 2566 มีรายได้รวม 7,327 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% (DBD DataWarehouse+)
- กำไรรวมปี 2566 สูงถึง 1,600 ล้านบาท (กรมพัฒนาธุรกิจการค้า)
- มีธุรกิจการศึกษาในประเทศไทย 7,511 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 50,633.46 ล้านบาท (กรมพัฒนาธุรกิจการค้า)
- โรงเรียนนานาชาติ 80% ตั้งใน กทม., เชียงใหม่, ชลบุรี, ภูเก็ต (กรมพัฒนาธุรกิจการค้า)
- การลงทุนจากอังกฤษสูงสุด 30% ของเงินลงทุนต่างชาติในธุรกิจนี้ (กรมพัฒนาธุรกิจการค้า)
เครดิตภาพและข้อมูลจาก :
- กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
- DBD DataWarehouse+
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
- One Hope International School
- Chiang Rai International Christian School
- Chiang Rai International School