Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

นักท่องเที่ยวจีนลด -35%! ไทยเสียจังหวะในเอเชีย ต้องสร้างเหตุผลใหม่ให้คนมาเยือน

วธ.เชียงรายเร่งค้นหา “UNSEEN THAI THAI” ปั้น Soft Power สู้ศึก Tourism War ดึงนักท่องเที่ยวคุณภาพระยะไกล

เชียงราย, 24 พฤศจิกายน 2568เชียงรายกำลังก้าวสู่สมรภูมิใหม่ของการท่องเที่ยว ที่ไม่ได้แข่งกันเพียงตัวเลขนักท่องเที่ยวอีกต่อไป หากแต่แข่งกันด้วย “เรื่องเล่า ประสบการณ์ และคุณค่าทางวัฒนธรรม” ท่ามกลาง “Tourism War” ที่ทำให้ประเทศไทยเสียจังหวะให้กับเพื่อนบ้านในเอเชีย สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย (วธ.ชร.) จึงเดินหน้าเร่งค้นหา “UNSEEN THAI THAI” เพื่อใช้ทุนทางวัฒนธรรมเป็นหัวหอกสำคัญในการยกระดับจังหวัดสู่เมืองท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตอบโจทย์ทั้งนักท่องเที่ยวไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มระยะไกลที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด

ศึก Tourism War เมื่อไทยเริ่มเสียจังหวะในสนามท่องเที่ยวเอเชีย

แม้ไทยจะยังเป็นหนึ่งในจุดหมายยอดนิยมของโลก แต่ตัวเลขช่วง 9 เดือนแรกปี 2568 สะท้อนภาพที่น่ากังวลอย่างชัดเจน จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติของไทย “หดตัวราว -8% เมื่อเทียบกับปีก่อน” ในขณะที่เวียดนามเติบโตถึง +22% และจีนเติบโตสูงถึง +27% เมื่อเทียบแบบปีต่อปี

ตลาดหลักอย่าง “นักท่องเที่ยวจีน” ซึ่งเคยเป็นฟันเฟืองสำคัญ กลับลดลงมากถึง -35% สวนทางกับประเทศคู่แข่งที่เร่งเสริมภาพลักษณ์ด้านความปลอดภัย ความทันสมัย และประสบการณ์ท่องเที่ยวใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน มูลค่าการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวในไทยยังมีทิศทางชะลอตัว ในขณะที่ประเทศคู่แข่งกลับมีมูลค่าการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนชัดว่า ไทยไม่สามารถพึ่ง “ชื่อเสียงเดิม” ได้อีกต่อไป หากต้องการฟื้นกลับมาเป็นผู้นำในภูมิภาค จำเป็นต้องสร้าง “เหตุผลใหม่” ให้คนเดินทางมาเยือน และต้องทำให้การมาเที่ยวไทยในวันนี้ “ลึกกว่า ถูกกว่า และดีกว่าเดิม” ผ่าน Soft Power และการสร้างประสบการณ์เชิงวัฒนธรรมที่แตกต่างจริง ๆ

นโยบาย “ไท ไทย” และแนวคิด UNSEEN THAI THAI  วัฒนธรรมที่มีชีวิตและสร้างมูลค่าได้

ภายใต้วิสัยทัศน์ของนางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นโยบาย “ไท ไทย” ถูกกำหนดขึ้นเพื่อ “ยกระดับความเป็นไทยดั้งเดิม (Traditional Thai) ให้ผสานกับความร่วมสมัย (Contemporary Thai)” เปลี่ยนจากการมองวัฒนธรรมเป็นเพียงของเก่า หรือพิธีกรรมที่อยู่ในกรอบ ไปสู่การมองว่า “วัฒนธรรมคือทุน” ที่สามารถสร้างทั้งคุณค่าทางจิตใจและมูลค่าทางเศรษฐกิจได้อย่างยั่งยืน

โครงการ “UNSEEN THAI THAI” จึงถูกออกแบบให้เป็นกลไกสำคัญในการค้นหา “ทุนทางวัฒนธรรมที่ยังไม่เคยถูกเปิดเผย ไม่เคยถูกมองเห็น หรือยังไม่เคยถูกเข้าใจในเชิงลึก” ไม่ใช่เพียงสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ แต่คือเรื่องราว ความหมาย และประสบการณ์ที่ซ่อนอยู่ใต้ผิวของวิถีชีวิตไทย เพื่อแปลงให้กลายเป็นแลนด์มาร์กวัฒนธรรมยุคใหม่ที่ทันสมัย เข้าถึงง่าย แต่ยังคงเคารพรากเหง้าอย่างแท้จริง

ลงพื้นที่บ้านห้วยน้ำกืน  จุดเริ่มต้นของการมองเชียงรายผ่านสายตาใหม่

เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ได้ลงพื้นที่บ้านห้วยน้ำกืน อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย เพื่อสำรวจและค้นหา “ทุนทางวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น” ภายใต้แนวคิด “UNSEEN THAI THAI” โดยเน้นทั้งวิถีชีวิต ภูมิปัญญา ความเชื่อ และศิลปะของชุมชน

บ้านห้วยน้ำกืนไม่ได้ถูกมองเพียงในฐานะหมู่บ้านชนบท หากแต่ถูกมองใหม่ในฐานะพื้นที่ที่เต็มไปด้วยเรื่องเล่า วิถีชีวิตดั้งเดิม และระบบความเชื่อที่สอดประสานกับธรรมชาติและภูมิประเทศ การลงพื้นที่ครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่การ “สำรวจเพื่อทำรายการ” แต่คือการฟังเสียงชุมชน ค้นหาอัตลักษณ์ที่ชุมชนภาคภูมิใจ และมองหาโอกาสในการต่อยอดให้กลายเป็นประสบการณ์ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่จับต้องได้

เวทีคัดเลือก “UNSEEN THAI THAI” เชียงราย 18 อำเภอ 18 ทุนวัฒนธรรมหลากมิติ

วันนี้ (24 พฤศจิกายน 2568) ที่ห้องพวงแสด ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดเชียงราย นายประสงค์ หล้าอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคัดเลือก “UNSEEN THAI THAI” ประจำปีงบประมาณ 2569 จังหวัดเชียงราย โดยมีนายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงาน ภาคเอกชน และผู้ประกอบการ เข้าร่วมประชุมอย่างคึกคัก

การประชุมครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการคัดเลือกทุนทางวัฒนธรรมตามนโยบาย “ไท ไทย” ที่ปลัดกระทรวงวัฒนธรรมกำหนดแนวทางไว้ชัดเจนว่า “ทุนทางวัฒนธรรม” หมายถึงทรัพยากรทางวัฒนธรรมทั้งที่จับต้องได้และจับต้องไม่ได้ ซึ่งสะท้อนอัตลักษณ์ ภูมิปัญญา วิถีชีวิต ค่านิยม ความเชื่อ และศิลปะของชุมชน ที่สามารถสืบสาน อนุรักษ์ และต่อยอดให้เกิดมูลค่าในมิติเศรษฐกิจ สังคม และจิตใจได้อย่างยั่งยืน

สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงรายได้ประสานไปยังทุกอำเภอ ขอให้คัดเลือกทุนทางวัฒนธรรมอำเภอละอย่างน้อย 1 รายการ ส่งเข้าร่วมการคัดเลือกระดับจังหวัด ภายในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา ผลปรากฏว่า มีการส่งข้อมูลทุนทางวัฒนธรรมครอบคลุมทั้ง 18 อำเภอ เช่น

  • อำเภอเวียงป่าเป้า: วิถีชีวิตบ้านห้วยน้ำกืน
  • อำเภอเมืองเชียงราย: วิถีชีวิตบ้านลิไข่ และนาขั้นบันไดลิไข่
  • อำเภอเชียงแสน: พิธีบวงสรวงแกล้มเลี้ยงบรรพกษัตริย์ บรรพชน ไหว้อารักษ์ และพิธีกรรมสวดมนต์วัดร้าง
  • อำเภอเชียงของ: พิธีบวงสรวงเจ้าพ่อปลาบึก และการเล่นลูกข่าง
  • อำเภอแม่จัน: บิณฑบาตพระขี่ม้า ประเพณีเขาะจะเว และพิธีกิ๋นอ้อผญาล้านนา
  • อำเภอพาน: ผีย่าหม้อนึ่ง
  • อำเภอเวียงแก่น: พิธีถวายหนังแดง (วันผีกิ๋นวัว)
  • อำเภอเวียงชัย: การสรงน้ำพระพุทธรูปโบราณ วัดโบราณเวียงเดิม
  • อำเภอเวียงเชียงรุ้ง: พิธีสู่ขวัญควาย
  • อำเภอแม่ฟ้าหลวง: ประเพณีปอยส่างลอง ปอยออกหว่า และประเพณี “อายก”
  • อำเภอแม่ลาว: ตาพย่านาเจ่อ นาบทือ ย่าง (การไหว้หอเสื้อบ้าน)
  • อำเภอพญาเม็งราย: พิธีสู่ขวัญ และการอ่านค่าว
  • อำเภอแม่สาย: ข้าวแรมฟืน หรือข้าวฟืน
  • อำเภอขุนตาล: โจ๊วตะโป่ดั๊บ (ต้มเต้าหู้)
  • อำเภอแม่สรวย: หลามบอน (แกงบอน)
  • อำเภอเทิง: ค่าวธรรม
  • อำเภอป่าแดด: อักษรธัมม์ล้านนา
  • และทุนทางวัฒนธรรมที่ครอบคลุมทั้ง 18 อำเภอ: ตึ่งโนง (กองตึ่งโนงล้านนา)

รายชื่อเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า เชียงรายไม่ได้มีเพียงภูเขา หมอก และกาแฟ หากแต่มี “ชั้นเชิงทางวัฒนธรรม” ที่ลึกและหลากหลาย ตั้งแต่พิธีกรรม ความเชื่อ อาหารพื้นบ้าน ตัวอักษรโบราณ ไปจนถึงประเพณีเฉพาะถิ่นที่หาไม่ได้จากที่อื่น หากสามารถถอดรหัสและเล่าเรื่องได้อย่างน่าสนใจ ทุนเหล่านี้จะกลายเป็น Soft Power ที่ทรงพลังอย่างยิ่ง

Soft Power กับบทบาทของเชียงราย เมืองวัฒนธรรมในโครงสร้างใหม่ของการท่องเที่ยวไทย

ในบริบทที่ไทยกำลังเผชิญศึก Tourism War การใช้ Soft Power และการสร้าง Brand Image ที่เน้น “ประสบการณ์ลึกซึ้ง” ถูกมองเป็นกลยุทธ์สำคัญ แนวคิดอย่าง “5 Must Do” ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่เน้นกิจกรรมและประสบการณ์เฉพาะ เช่น ต้องกิน ต้องเที่ยว ต้องสัมผัสวิถีท้องถิ่น กลายเป็นกรอบสำคัญในการออกแบบสินค้าและเส้นทางท่องเที่ยวใหม่

เชียงรายในฐานะเมืองรองที่มีทั้งพื้นที่ภูเขา ชนเผ่าพื้นถิ่น พุทธศิลป์ล้านนา และวิถีชีวิตชายแดน มีศักยภาพสูงที่จะต่อยอดสู่การเป็น “เมืองประสบการณ์เชิงลึก” โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้ต้องการเพียงภาพสวย ๆ แต่ต้องการเข้าไป “ใช้ชีวิตร่วมกับชุมชน” ผ่านกิจกรรมอย่าง Wellness, Micro-Retirement หรือการท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้แบบเรียลจริง

การพัฒนา UNSEEN THAI THAI ในเชียงรายจึงเป็นมากกว่าการสร้างแหล่งเช็คอินใหม่ หากแต่เป็นการเตรียม “ภาษาวัฒนธรรม” ให้พร้อมใช้สื่อสารกับโลก ผ่านเรื่องเล่า แพลตฟอร์มดิจิทัล และประสบการณ์ตรงที่นักท่องเที่ยวจะนำกลับไปเล่าต่ออีกครั้ง

ตลาด Long Haul พุ่งทำสถิติใหม่  โอกาสทองของเมืองรองและชุมชนวัฒนธรรม

นางจิระวดี คุณทรัพย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป อเมริกา ตะวันออกกลาง และแอฟริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผยภาพรวมที่น่าสนใจเกี่ยวกับตลาดนักท่องเที่ยวระยะไกล (Long Haul) ในช่วงปี 2567–2569 ว่ากำลัง “ฟื้นตัวแรงกว่าช่วงก่อนโควิด” และสร้างสถิติใหม่ในหลายด้าน

ในปี 2567 มีนักท่องเที่ยวจากยุโรป อเมริกา ตะวันออกกลาง และแอฟริกา เดินทางมาไทยรวม 9,790,056 คน เพิ่มขึ้น 8.6% เมื่อเทียบกับปี 2562 ก่อนโควิด พร้อมสร้างรายได้กว่า 588,632 ล้านบาท ซึ่งทำลายสถิติเดิมของปี 2562 ที่เคยเป็นปีดีที่สุด ตัวเลขนี้สะท้อนการกลับมาของ “กำลังซื้อระดับพรีเมียม” ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพประสบการณ์มากกว่าราคาที่ถูกเพียงอย่างเดียว

ททท.คาดว่าในปี 2568 นักท่องเที่ยวระยะไกลจะเพิ่มขึ้นเป็น 11,096,052 คน เติบโต 13% จากปี 2567 และสร้างรายได้ราว 668,885 ล้านบาท ขณะที่ปี 2569 คาดว่าจะเพิ่มเป็นประมาณ 11,666,600 คน และสร้างรายได้รวมกว่า 700,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอีกราว 10%

ข้อมูลจาก Expedia ยังระบุว่า “ความต้องการที่พักนอกเมืองท่องเที่ยวหลักเพิ่มขึ้นถึง 18%” ในปีที่ผ่านมา เมืองรองและชุมชนท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวจึงเริ่มได้รับความสนใจมากขึ้นอย่างชัดเจน กรณีศึกษาของเกาะสมุยที่ได้รับแรงส่งจากซีรีส์ต่างประเทศอย่าง White Lotus ทำให้ดีมานด์ของนักท่องเที่ยวอเมริกันเพิ่มขึ้น ก็เป็นตัวอย่างหนึ่งของการใช้สื่อและ Soft Power เชื่อมโยงกับพื้นที่ปลายทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ททท.จึงเสนอแนวคิดพัฒนา “เมืองรองแบบคลัสเตอร์” แทนการทำงานแบบเมืองเดี่ยว เช่น การเชื่อมโยง นครศรีธรรมราช–สุราษฎร์ธานี–สมุย–ขนอม โดยใช้สุราษฎร์ฯ เป็นฮับหลัก ซึ่งแนวคิดลักษณะนี้สามารถต่อยอดประยุกต์ใช้กับภาคเหนือได้เช่นกัน หากเชียงรายถูกออกแบบให้อยู่ในคลัสเตอร์เมืองวัฒนธรรม–ธรรมชาติร่วมกับจังหวัดรอบข้าง จะยิ่งเพิ่มศักยภาพในการดึงดูดนักท่องเที่ยวระยะไกลที่ต้องการเส้นทางใหม่ ๆ และประสบการณ์ที่ลึกกว่าเดิม

จากข้อมูลสู่การตัดสินใจเชิงนโยบาย  ทำไมเชียงรายต้องรีบ “ค้นหา” ก่อนถูกแซง

เมื่อนำภาพรวม Tourism War ตัวเลขการเติบโตของตลาด Long Haul และศักยภาพของทุนวัฒนธรรมเชียงรายมาพิจารณาร่วมกัน จะเห็นชัดว่า “เวลา” เป็นปัจจัยสำคัญ หากเชียงรายไม่เร่งแปรทุนทางวัฒนธรรมให้กลายเป็นสินค้าและประสบการณ์ท่องเที่ยวที่จับต้องได้ เมืองอื่นที่ขยับตัวเร็วกว่าอาจช่วงชิงความสนใจจากตลาดโลกไปก่อน

การจัดตั้งคณะกรรมการคัดเลือก “UNSEEN THAI THAI” ระดับจังหวัด การเชิญทุกอำเภอส่งทุนวัฒนธรรมเข้าร่วม และการประชุมร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชนในวันนี้ จึงเป็นก้าวแรกในการ “จัดระเบียบทรัพยากรวัฒนธรรม” ให้ชัดเจนว่าเชียงรายมีอะไร อยู่ที่ไหน มีเรื่องเล่าอย่างไร และสามารถต่อยอดเป็นสินค้า หรือกิจกรรมท่องเที่ยวแบบไหนได้บ้าง

ในมุมของชุมชน การถูกมองเห็นในฐานะ “ทุนทางวัฒนธรรม” ยังช่วยสร้างความภาคภูมิใจ และเปิดเวทีให้คนรุ่นใหม่กลับมาสนใจรากเหง้าของตนเองมากขึ้น ขณะเดียวกัน หากมีการออกแบบระบบกระจายรายได้ที่เป็นธรรม ชุมชนจะสามารถยืนอยู่ได้บนฐานเศรษฐกิจของตนเองอย่างยั่งยืน ไม่ต้องพึ่งพาเพียงการเกษตรหรือแรงงานรับจ้างเพียงทางเดียว

เชียงรายบนเส้นทางจากเมืองชายแดน สู่เมืองประสบการณ์เชิงวัฒนธรรมระดับนานาชาติ

เมื่อมองภาพรวมทั้งหมด เชียงรายกำลังยืนอยู่บนจุดตัดสำคัญของการพัฒนาเมืองในยุคที่การท่องเที่ยวโลกแข่งขันกันด้วย “ประสบการณ์และเรื่องเล่า” มากกว่าจำนวนสถานที่ท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว

  • ฝั่งหนึ่ง โลกกำลังเปิดกว้างให้กับเมืองรองและชุมชนที่มีวัฒนธรรมลึกซึ้ง
  • อีกฝั่งหนึ่ง ไทยกำลังถูกท้าทายจากทั้งเวียดนามและจีนในศึก Tourism War
  • พร้อมกันนั้น ตลาดนักท่องเที่ยวระยะไกลที่มีกำลังซื้อสูงกำลังเติบโต และมองหาเป้าหมายใหม่ที่ให้ความหมายมากกว่าการท่องเที่ยวผิวเผิน

ท่ามกลางสมการที่ซับซ้อนนี้ การที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงรายเร่งเดินหน้าโครงการ “UNSEEN THAI THAI” ลงพื้นที่สำรวจชุมชนอย่างบ้านห้วยน้ำกืน เปิดเวทีให้ 18 อำเภอส่งทุนวัฒนธรรมเข้าพิจารณา และจัดประชุมคณะกรรมการระดับจังหวัดอย่างเป็นระบบ จึงไม่ใช่เพียง “งานเอกสารของราชการ” แต่คือการปักหมุดอนาคตเชียงรายบนแผนที่การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของเอเชีย

หากเชียงรายสามารถนำทุนทางวัฒนธรรมเหล่านี้ มาผสานกับแนวคิด Soft Power กลยุทธ์เมืองรองแบบคลัสเตอร์ และการเชื่อมโยงกับตลาด Long Haul ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องได้สำเร็จ เมื่อนั้นเชียงรายจะไม่ใช่แค่ “เมืองเหนือที่สวยงาม” แต่จะกลายเป็น “เมืองประสบการณ์เชิงวัฒนธรรม” ที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาเพื่อ “เข้าใจ รู้สึก และจดจำ” มากกว่ามาเพียงเพื่อถ่ายรูปแล้วจากไป

สำนักข่าวนครเชียงรายนิวส์

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย
  • สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย
  • กระทรวงวัฒนธรรม (นโยบาย “ไท ไทย” และแนวทางคัดเลือก “UNSEEN THAI THAI”)
  • บันทึกข้อมูลการประชุมคณะกรรมการคัดเลือก “UNSEEN THAI THAI” ประจำปีงบประมาณ 2569 จังหวัดเชียงราย ณ ศาลากลางจังหวัดเชียงราย
  • การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) – ข้อมูลตลาดนักท่องเที่ยวระยะไกล (ยุโรป อเมริกา ตะวันออกกลาง และแอฟริกา) ปี 2567–2569 และทิศทางการพัฒนาเมืองรองแบบคลัสเตอร์
  • ข้อมูลเชิงสถิติพฤติกรรมการท่องเที่ยวจากแพลตฟอร์มออนไลน์ (Expedia) เกี่ยวกับแนวโน้มที่พักนอกเมืองท่องเที่ยวหลัก
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME
Categories
ECONOMY

ททท.เปิดยุทธศาสตร์ Amazing 5-Economy เปลี่ยนการท่องเที่ยวจากปริมาณสู่คุณค่า

ททท.เดินหน้า “Amazing 5-Economy” ปรับทิศทางท่องเที่ยวไทยจาก “ปริมาณ” สู่ “คุณค่า” ชูเหนือเป็นสนามทดสอบ โยงเศรษฐกิจมหภาค สนามบิน ซอฟต์พาวเวอร์ หนุนไทยมุ่ง Premium Destination

เชียงราย, 24 พฤศจิกายน 2568 – การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดแผน “Amazing 5-Economy” เพื่อยกระดับประเทศไทยจาก “ดินแดนแห่งรอยยิ้ม” สู่ “ดินแดนแห่งความหมาย” (Value over Volume) เน้นเพิ่ม “คุณค่าและการใช้จ่ายต่อทริป” แทนการไล่ตัวเลขจำนวนนักท่องเที่ยวอย่างเดียว โดยหยิบ 5 เศรษฐกิจเป้าหมาย Wellness, Subculture, Night, Tax-free, Prompt Pay มาประกอบเป็นสถาปัตยกรรมใหม่ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ขณะที่ข้อมูลสนับสนุนจากภาคการบินและสถาบันวิจัยเอกชนชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่า “การเติบโตเชิงคุณภาพ” คือคำตอบ หากไทยต้องการรักษาขีดความสามารถในการแข่งขันท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกผันผวนและพฤติกรรมนักเดินทางที่เปลี่ยนไป

รายงานนี้ถอด “แผน 5-Economy” ให้อยู่ในบริบทกว้างขึ้น ตั้งแต่ภาพรวมการเดินทางทางอากาศของภาคเหนือ, สัญญาณจากศูนย์วิจัยกสิกรไทยเกี่ยวกับรายได้ต่อทริป, ไปจนถึงพิมพ์เขียวเศรษฐกิจมหภาคของธนาคารโลก เพื่อชี้ว่าการยกระดับสู่ Premium Destination ไม่ใช่เพียงแคมเปญการตลาด แต่เป็นยุทธศาสตร์โครงสร้างที่ต้องเดินพร้อมกันทั้งนโยบาย การลงทุน โครงสร้างพื้นฐาน และทักษะแรงงาน

ไฮไลต์สำคัญ

  • ททท. วาง 5 เศรษฐกิจเป้าหมายเป็น “โครงใหม่” ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ: Wellness / Subculture / Night / Tax-free / Prompt Pay
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ชี้การกลับไปถึงจำนวนนักท่องเที่ยวก่อนโควิดทำได้ยาก ต้องหันมาเพิ่ม ค่าใช้จ่ายต่อทริป ผ่าน MICE, คอนเสิร์ตระดับโลก, กีฬาโลก, Medical & Wellness
  • ดัชนีภาคการบินภาคเหนือ สะท้อนศักยภาพรองรับดีขึ้น: ปีงบประมาณ 2025–2026 ยอดผู้โดยสารรวม ท่าอากาศยานเชียงใหม่ อยู่ที่ 10.20 ล้านคน (+6.87%) และ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย 2.13 ล้านคน (+3.54%) ตามตารางสรุปในเอกสารประกอบ
  • ธนาคารโลก แนะไทยต้องยกระดับผลิตภาพ (TFP) และเร่งลงทุน R&D ดิจิทัล บริการมูลค่าสูง (สุขภาพ/เวลเนส เศรษฐกิจสร้างสรรค์) เพื่อผลักดันเศรษฐกิจเติบโตเฉลี่ย ≥5% มุ่งเป้าประเทศรายได้สูงปี 2580

เรื่องเล่าจากพฤติกรรมนักเดินทาง จาก “ไปถึง” สู่ “เข้าถึงความหมาย”

ในทศวรรษที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ “เลือกประเทศจากความหมายที่สถานที่นั้นมอบให้” มากกว่าการปักหมุดแลนด์มาร์ก ต้องการประสบการณ์ที่ปลอดภัย เข้าถึงง่าย สอดคล้องวิถีดิจิทัล และสะท้อนตัวตนผ่านวัฒนธรรมร่วมสมัย การวางทิศทาง Value over Volume ของททท. จึงมิใช่เพียงสโลแกน หากเป็นการเคลื่อนจาก Mass Tourism ไปสู่ Quality Tourism ที่ทุนมนุษย์ ทุนวัฒนธรรม และทุนดิจิทัล ทำงานร่วมกันเป็นวงจรเดียว

แผน Amazing 5-Economy จึงตอบโจทย์ “ความหมาย” 5 มิติที่นักท่องเที่ยวตามหา สุขภาพกายใจ (Wellness), อัตลักษณ์ร่วมสมัย (Subculture), ประสบการณ์กลางคืนที่ปลอดภัย (Night), ประสบการณ์ช้อปปลอดภาษี (Tax-free) และ การจ่ายเงินไร้รอยต่อ (Prompt Pay) ซึ่งล้วนเชื่อมกับ ค่าใช้จ่ายต่อทริป โดยตรง

หลักฐานเชิงข้อมูล ท่าอากาศยานภาคเหนือบอกอะไรเรา

สัญญาณจากผู้โดยสารทางอากาศช่วยยืนยันผลของการเชื่อมต่อ (Connectivity) และความพร้อมรองรับ (Capacity) ซึ่งเป็นฐานของการสร้างรายได้คุณภาพสูง โดยข้อมูลสรุปปีงบประมาณ 2025/2026 ของภาคเหนือที่จัดทำประกอบข่าวชิ้นนี้ระบุว่า

  • ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (CNX):
    • ปีงบฯ 2025 ผู้โดยสารรวม (Grand Total) 9,383,719 คน (+6.37%)
    • ปีงบฯ 2026 ระหว่างปีสะสม (YTD) 820,382 คน (+12.96%)
    • รวมสองปี (Total) 10,204,101 คน (+6.87%)
  • ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (CEI):
    • ปีงบฯ 2025 ผู้โดยสารรวม 1,947,014 คน (+2.47%)
    • ปีงบฯ 2026 ระหว่างปีสะสม 187,654 คน (+16.09%)
    • รวมสองปี (Total) 2,134,668 คน (+3.54%)

ตัวเลขดังกล่าวสะท้อน 3 ประเด็นสำคัญ

  1. โครงสร้างพื้นฐานพร้อมรับ   สนามบินเชียงใหม่และเชียงรายยังเป็น “สองประตูหลักของเหนือบน” ที่รองรับเที่ยวบินเชื่อมกรุงเทพฯ ภูมิภาค และเส้นทางต่างประเทศ ทำให้เส้นทางคุณภาพ (คอนเสิร์ต กีฬาโลก MICE เวลเนส) มีฐานผู้โดยสารรองรับ
  2. โอกาสของเมืองรอง   แรงดึงจากกิจกรรม/อีเวนต์ใหญ่ในพะเยา น่าน แพร่ หรือเชียงราย สามารถ “อาศัย” ศักยภาพสนามบินสองแห่งนี้ในการกระจายตัวนักท่องเที่ยวสู่เมืองรอง สอดรับเป้าหมายของททท. ที่ต้องการกระจายความหนาแน่นและรายได้
  3. ภารกิจเพิ่มรายได้ต่อทริป   แม้ผู้โดยสารเติบโตในอัตรา “บวกอย่างมั่นคง” แต่ความท้าทายคือ การแปลงทุกการเดินทางเป็นการใช้จ่ายมูลค่าสูง ผ่าน 5-Economy ไม่ใช่เพียงจำนวนคน

สนามบินพร้อม แต่รายได้จะโตยั่งยืน ต้องให้ปลายทาง ‘มีความหมาย’ พอให้คนยอมจ่ายแพงขึ้น/อยู่นานขึ้น” – สาระหลักที่ททท. และนักวิจัยเอกชนเห็นพ้อง

มุมมองนักเศรษฐศาสตร์ท่องเที่ยว เมื่อ “จำนวน” เริ่มชนเพดาน

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่าในปี 2569 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยราว 34.1 ล้านคน (+4% YoY) ยัง “ต่ำกว่าศักยภาพก่อนโควิด” และ “ค่าใช้จ่ายต่อทริปยังต่ำ” ขณะที่การแข่งขันด้านการท่องเที่ยวรุนแรงขึ้นจากประเทศคู่แข่งในภูมิภาค เอเชีย ตะวันออกกลาง ยุโรป

บทสรุปเชิงนโยบายของสถาบันวิจัยชี้ชัดว่า ประเทศไทยต้องเพิ่มค่าใช้จ่ายต่อทริป ผ่านสินค้า/ประสบการณ์ที่มี Ticket Size สูง เช่น MICE, คอนเสิร์ตศิลปินโลก, กีฬาโลก, Medical & Wellness พร้อมผลักดัน “เมืองรอง” ด้วยอัตลักษณ์ท้องถิ่น (เช่น GI) และระบบนิเวศการใช้จ่าย (Tax-free, e-Payment) ที่ไร้รอยต่อ ซึ่งสอดรับกับ 5-Economy แทบทุกข้อ

5-Economy ลงในพื้นที่: ทำอย่างไรให้ “คนยอมอยู่นาน จ่ายเพิ่ม”

1) Wellness Economy – จาก “เช็คอิน” สู่ “พักฟื้นและป้องกัน”

ไทยมีทุนเดิมด้านแพทย์ สปา อาหารสุขภาพ และธรรมชาติ การต่อยอดสู่ Medical & Wellness Hub ต้องยกระดับบริการเฉพาะทาง (Longevity / Preventive Care / Rehabilitation) เชื่อมกับ ออนเซ็น/น้ำพุร้อน/สปา คุณภาพสูง และ ดิจิทัลเฮลธ์ (นัดหมาย ชำระเงิน เวชระเบียนสุขภาพบนคลาวด์) ให้ไร้รอยต่อ เพื่อยืดระยะพำนักและค่าใช้จ่ายต่อหัว

2) Subculture Economy – เมืองที่ “มีชีวิต”

ดนตรี แฟชั่น ศิลปะ เกม/คอมมูนิตี้ คือภาษากลางของนักเดินทางเจนใหม่ เมืองเหนือสามารถจัด เทศกาลดนตรี/Arts Week/Street Culture ในช่วง Low Season เพื่อเบี่ยงฤดูกาลท่องเที่ยวและเพิ่ม “เหตุผลใหม่ในการมา” นอกเหนือจากธรรมชาติสวย

3) Night Economy – ชั่วโมงเศรษฐกิจที่มองไม่เห็น

มาตรการ “ความปลอดภัย ความเป็นมิตร ทางเลือกหลากหลาย” สำหรับย่านกลางคืน ทำให้ธุรกิจอาหาร ดนตรี ตลาดค่ำ และศิลปะกลางคืน กลายเป็น เครื่องจักรเพิ่ม ASV (Average Spending per Visit) สำคัญ โดยเฉพาะในเมืองรองที่กลางวันเงียบ

4) Tax-free Economy – ให้การช้อปเป็นประสบการณ์

ห่วงโซ่ Tax-free Ecosystem ตั้งแต่ดิวตี้ฟรีเมือง การคืน VAT   การเชื่อมระบบกับ e-Payment ช่วยดึงกลุ่มกำลังซื้อสูง และทำให้ “การช้อป” กลายเป็นเหตุผลของการเดินทาง

5) Prompt Pay Economy – ปลายทางดิจิทัลที่เป็นมิตร

มาตรฐาน Payment Experience ที่จ่ายได้ทุกที่ ทุกสกุลเงิน (เชื่อม QR Cross-border) ช่วยลดแรงเสียดทานนักท่องเที่ยวต่างชาติ และสร้างภาพลักษณ์ Digital-friendly Destination

เชื่อมโยงเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารโลก–BCG+ และเป้าหมายประเทศรายได้สูง

ภาพใหญ่ของเศรษฐกิจไทยตามรายงาน ธนาคารโลก สะท้อนความเร่งด่วน: อัตราเติบโตเศรษฐกิจเฉลี่ยเพียง 2–2.5% ต่ำกว่าที่จำเป็นต้องรักษา ≥5% เพื่อบรรลุ “ประเทศรายได้สูง ปี 2580” ปัญหาอยู่ที่ ผลิตภาพรวม (TFP) ลดลง, การลงทุนภาคเอกชนชะลอ และกำลังแรงงานทักษะใหม่ยังไม่พอ

ข้อเสนอของธนาคารโลกจึงมุ่ง “ยกเครื่องโครงสร้าง” ด้วยสามขีดความสามารถ (สีเขียว ดิจิทัล บริการ) และห้าเสาอุตสาหกรรมอนาคต ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและความยั่งยืน ตรงกับ “Wellness Economy” ของททท. แทบจะพอดี

ประเด็นสำคัญ คือ การลงทุนและความสอดคล้องเชิงนโยบาย (Policy Alignment)

  • เร่งอัตราการลงทุนรวม (รัฐ+เอกชน) ใกล้ 40% ของ GDP พร้อมผูกพัน R&D นวัตกรรม
  • จัดตั้งกลไกธรรมาภิบาลดิจิทัล รวมศูนย์การประสานงานข้อมูลและ PDPA เพื่อบริการสุขภาพ/ท่องเที่ยวดิจิทัลที่จริงจัง
  • ฝากความยืดหยุ่นต่อภูมิอากาศไว้ในงบประมาณ (BCG+) เพราะน้ำ/อากาศ/ป่า คือสินทรัพย์การท่องเที่ยวโดยตรง

กล่าวอีกอย่าง: 5-Economy จะกลายเป็นเครื่องยนต์การเติบโตได้จริง ก็ต่อเมื่อ “ภาคท่องเที่ยว ดิจิทัล การแพทย์ สิ่งแวดล้อม” เดินพร้อมกันในระดับนโยบายและงบประมาณ

ภาคเหนือคือ “สนามทดสอบ” ที่ดีที่สุด

ทำไมต้องภาคเหนือ โดยเฉพาะ เชียงใหม่–เชียงราย–เมืองรองรอบกว๊านพะเยา/พาน/แพร่/น่าน

  1. ทางอากาศพร้อม – สนามบินเชียงใหม่และเชียงรายรองรับมากกว่า 12 ล้านคน รวมสองปีงบประมาณล่าสุดในภาพรวม (CNX 10.20 ล้าน, CEI 2.13 ล้าน) เป็นฐานพัฒนาเส้นทาง Premium (MICE–Concert–Sports–Wellness) ได้ทันที
  2. สินทรัพย์ทางธรรมชาติ–วัฒนธรรมหนาแน่น   จากน้ำพุร้อน/ภูเขา/ลำน้ำ ไปจนถึงชุมชนชาติพันธุ์ กาแฟ ชา อาหารเหนือ ซึ่งเชื่อมตรงกับ Wellness / Subculture / Night / Gastronomy (ใน Tax-free & PromptPay ช่วยเสริมการใช้จ่าย)
  3. สามารถกระจายสู่เมืองรองได้จริง – ด้วยการเชื่อมถนนดีขึ้นและอีเวนต์ใหญ่ในพะเยา น่าน แพร่ ที่ช่วย “ดึงคนนอนค้าง” นอกเมืองหลัก

เส้นเรื่องสู่ Premium Destination จากสนามบิน…ถึงเงินในกระเป๋าชุมชน

ฉากที่ 1 – เครื่องลงเชียงใหม่
นักท่องเที่ยวต่างชาติลง CNX ด้วยตั๋วคอนเสิร์ตศิลปินโลก + แพ็กเกจสปาพรีเมียม 3 คืน (Wellness + Night) ระบบชำระเงินไร้เงินสดรองรับได้ทุกใบ
ผลลัพธ์: ค่าใช้จ่ายต่อทริปสูงขึ้นโดยธรรมชาติ

ฉากที่ 2 – ต่อรถไปเชียงราย
ผู้โดยสารบินเชื่อม CEI เพื่อร่วมงานวิ่งเทรล/จักรยานทางไกล + รีทรีตสุขภาพบนภูเขา มีเวชระเบียนดิจิทัลเชื่อมโรงพยาบาลเอกชน (Digital Health)
ผลลัพธ์: อยู่ยาวขึ้น ค่าใช้จ่ายโรงแรม อาหาร กิจกรรม เพิ่มขึ้น

ฉากที่ 3   ยืนยิ้มในตลาดค่ำเมืองรอง
คืนสุดท้าย เลือกนอน พะเยา/พาน/แพร่/น่าน เพื่อเที่ยว ตลาดกลางคืน คาเฟ่วิวทะเลสาบ แกลเลอรี พร้อมซื้อสินค้าท้องถิ่นแบบ Tax-free / e-Payment
ผลลัพธ์: รายได้หยดลงชุมชน “เมืองรอง” ได้ส่วนแบ่งจริง

ความท้าทายและความเสี่ยง สิ่งที่ต้องระวังระหว่างทาง

  1. ค่าใช้จ่ายต่อทริปยังต่ำ – หากไม่เร่ง “คอนเทนต์ที่แพงอย่างมีเหตุผล” (MICE–Concert–Sports–Wellness) ASV จะไม่ขยับ
  2. ฝุ่นควัน/น้ำท่วม/ภาวะอากาศ – กระทบฤดูกาลท่องเที่ยว จำเป็นต้องตลาด “ฤดูสีเขียว” และลงทุน BCG+ จริงจัง
  3. ทักษะบริการ–ดิจิทัล – ถ้าแรงงานหน้าบ้าน หลังบ้านยังไม่พร้อม (ภาษา/สุขภาพ/ดิจิทัล/PDPA) จะรับพรีเมียมดีมานด์ไม่ได้
  4. ความสอดคล้องเชิงสถาบัน – หากหน่วยงานเดินไม่พร้อม “5-Economy” จะติดคอขวดที่กฎ งบ ดาต้าเชื่อมกันไม่เสร็จ

ข้อเสนอเชิงนโยบาย/ปฏิบัติการ (เน้นทำได้ทันที)

  1. ตั้ง “Northern Premium Route Board” ระดับภูมิภาค เชื่อมสนามบิน ททท. จังหวัด เอกชน เพื่อจัดพอร์ตอีเวนต์/แพ็กเกจ Premium ข้ามเมือง (Concert–MICE–Sports–Wellness) พร้อมตารางบินและ Campaign ร่วม
  2. Tax-free & PromptPay @ เมืองรอง จัดเขตทดลองคืน VAT/ดิวตี้ฟรีเมือง + Cross-border QR รองรับสกุลเงินหลักในย่านท่องเที่ยว ตลาดค่ำ
  3. Wellness Playbook สำหรับผู้ประกอบการเหนือ: มาตรฐานคลินิก สปา อาหารสุขภาพ + บันไดเชื่อมโรงพยาบาล (นัดหมาย จ่าย เวชระเบียนออนไลน์)
  4. กองทุนย่อย Subculture สนับสนุนเทศกาลศิลปะ ดนตรี ดีไซน์ เชื่อมชุมชน/มหาวิทยาลัย สร้างปฏิทินเมืองที่ “มีชีวิต” ตลอดปี
  5. Green-Season Guarantee สร้างแพ็กเกจรับฤดูฝน (ส่วนลด คอนเทนต์ กิจกรรมธรรมชาติ) พร้อมแผนสื่อสารความปลอดภัยอากาศ เส้นทาง
  6. คน ดิจิทัล ภาษา เปิด Micro-credentials 3 เดือน สำหรับพนักงานท่องเที่ยว: ภาษาอังกฤษจีน/การชำระเงินดิจิทัล/มาตรฐานสุขภาพ PDPA ให้จบแล้ว “ทำงานได้จริง”
  7. ดัชนี ASV รายจังหวัด เผยแพร่รายไตรมาส วัดผล 5-Economy แบบโปร่งใส (ค่าใช้จ่ายเฉลี่ย/คืนพัก/กิจกรรมพรีเมียม) เพื่อขับการแข่งขันเชิงคุณภาพ

เมื่อ “ความหมาย” แปลงเป็น “มูลค่า”

ข้อมูลจากสนามบินภาคเหนือยืนยันว่าระบบรองรับกำลังกลับมาแข็งแรง แต่โจทย์ต่อไปคือการทำให้ทุกเที่ยวบินส่งผลเป็น การใช้จ่ายที่มีความหมาย ผ่าน 5-Economy ของททท. ในขณะเดียวกัน เสียงเตือนจากนักเศรษฐศาสตร์และธนาคารโลกชี้ว่าหากไทยต้องการก้าวสู่ประเทศรายได้สูง การท่องเที่ยวต้องเป็น “เครื่องยนต์บริการมูลค่าสูง” ทำงานประสานกับดิจิทัล สุขภาพ สิ่งแวดล้อม ทักษะคน

กล่าวให้กระชับ  Value over Volume ไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็น ทางรอดและทางรุ่ง ของการท่องเที่ยวไทยในทศวรรษหน้า ภาคเหนือในฐานะสนามทดลองเชื่อมอากาศ ธรรมชาติ วัฒนธรรม สุขภาพ จึงพร้อมจะเป็น “เวที” ให้ไทยพิสูจน์ตนว่า Premium Destination สำหรับโลกยุคใหม่ มีอยู่จริงบนผืนแผ่นดินนี้

ภาคผนวกข้อมูล (สรุปตารางผู้โดยสารสนามบินภาคเหนือ ปีงบประมาณ 2025–2026)

แหล่งข้อมูลภาพ/ตารางประกอบข่าว: The Northern Report – “ยอดผู้โดยสารท่าอากาศยานปีงบประมาณ 2025/2026”

ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (CNX)

  • 2025: Grand Total 9,383,719, %Change +6.37%
  • 2026 (ระหว่างปีสะสม): Grand Total 820,382, %Change +12.96%
  • รวม: 10,204,101, %Change +6.87%

ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (CEI)

  • 2025: Grand Total 1,947,014, %Change +2.47%
  • 2026 (ระหว่างปีสะสม): Grand Total 187,654, %Change +16.09%
  • รวม: 2,134,668, %Change +3.54%
สำนักข่าวนครเชียงรายนิวส์

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
  • ธนาคารโลก (World Bank)
  • สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI)
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
  • นโยบายดิจิทัลภาครัฐ/PDPA
  • แผนยุทธศาสตร์ท่องเที่ยว–สุขภาพดิจิทัล
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME