Categories
AROUND CHIANG RAI ENVIRONMENT

เชียงราย: อบจ.ระดมพลช่วยประชาชน หลังแม่น้ำอิงล้นตลิ่ง ย้ำหลัก PDOSS เบ็ดเสร็จ

อบจ.เชียงรายผนึกกำลัง ลุยน้ำท่วม แม่น้ำอิงล้นตลิ่ง มอบความช่วยเหลือ บรรเทาทุกข์ประชาชน สะท้อนการบริหารจัดการภัยพิบัติแบบเบ็ดเสร็จ (PDOSS)

เชียงราย, 27 กรกฎาคม 2568 – ในยามที่สถานการณ์อุทกภัยจากน้ำในแม่น้ำอิงล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรในหลายอำเภอของจังหวัดเชียงรายยังคงน่าเป็นห่วง นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ หรือ “นายกฯ นก” นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย (อบจ.เชียงราย) ได้นำคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ประสบภัยอย่างเร่งด่วนเมื่อเช้าวันที่ 26 กรกฎาคม 2568 เพื่อเยี่ยมเยียน มอบความช่วยเหลือ และรับฟังปัญหาจากประชาชนผู้ประสบภัยอย่างใกล้ชิด สะท้อนถึงการบริหารจัดการสาธารณภัยเชิงรุกที่ยึดหลักการช่วยเหลือประชาชนเป็นศูนย์กลาง ภายใต้กรอบแนวคิดการบริหารจัดการสาธารณภัยแบบเบ็ดเสร็จ (PDOSS) ของประเทศไทย

ตลอดระยะเวลาหลายชั่วโมงของการลงพื้นที่ นางอทิตาธร พร้อมด้วยนายสุธีระพงษ์ วันไชยธนวงศ์ รองนายก อบจ.เชียงราย, เลขานุการนายก อบจ.เชียงราย, สมาชิกสภา อบจ.เชียงราย เขตอำเภอเทิง, หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ในสังกัด อบจ.เชียงราย ได้เข้าตรวจเยี่ยมและประเมินสถานการณ์ใน 3 อำเภอที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ได้แก่ อำเภอพญาเม็งราย อำเภอขุนตาล และอำเภอเทิง ซึ่งเป็นจุดที่เผชิญกับวิกฤตความเดือดร้อนมากที่สุด

ลงพื้นที่จริง มอบยา-สิ่งของจำเป็น พร้อมรับฟังปัญหาและวางแผนแก้ไขตรงจุด

การลงพื้นที่ของนายกฯ นก และคณะในครั้งนี้ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงการแจกจ่ายสิ่งของบรรเทาทุกข์เท่านั้น แต่ยังเป็นการเปิดโอกาสให้มีการรับฟังเสียงสะท้อนจากชาวบ้านโดยตรงในหลากหลายมิติ ทั้งปัญหาด้านสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นจากน้ำท่วมขัง การขาดแคลนน้ำสะอาดเพื่อการอุปโภคบริโภค การเข้าถึงอาหารและยารักษาโรค รวมถึงความเสียหายต่อผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งเป็นรายได้หลักของหลายครัวเรือนในพื้นที่ ข้อมูลที่ได้รับจากประชาชนโดยตรงนี้จะถูกนำกลับไปประมวลผลเพื่อเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม

ในระหว่างการเยี่ยมเยียน นายกฯ นก ได้มอบยาสามัญประจำบ้านและสิ่งของจำเป็นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น แสดงถึงความเอาใจใส่ต่อสุขภาวะและคุณภาพชีวิตของประชาชนในภาวะวิกฤต “ขอให้พี่น้องประชาชนทุกท่านเข้มแข็ง อบจ.เชียงรายจะอยู่เคียงข้างและไม่ทอดทิ้งกันแม้ในยามยากลำบากที่สุด” นายกฯ นก กล่าวให้กำลังใจชาวบ้าน ซึ่งสะท้อนถึงเจตนารมณ์อันแน่วแน่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการเป็นที่พึ่งของประชาชน

เบื้องหลัง “PDOSS” การบริหารจัดการสาธารณภัยแบบบูรณาการของไทย

สถานการณ์อุทกภัยในเชียงรายครั้งนี้ เป็นบทพิสูจน์ถึงประสิทธิภาพและกลไกการทำงานของระบบการบริหารจัดการสาธารณภัยของประเทศไทยที่เน้นการทำงานแบบเบ็ดเสร็จและบูรณาการ หรือที่รู้จักกันในกรอบแนวคิด “PDOSS” (Public Disaster Operation Single System) ซึ่งแม้จะไม่ได้เป็นชื่อหน่วยงานราชการโดยตรง แต่เป็นแนวทางเชิงระบบที่ครอบคลุมทุกขั้นตอนของวงจรภัยพิบัติ ตั้งแต่การป้องกัน การเตรียมความพร้อม การเผชิญเหตุ และการฟื้นฟูหลังภัยพิบัติ

โดยมี กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ภายใต้กระทรวงมหาดไทย เป็นศูนย์กลางประสานงานหลักในระดับชาติ ทำงานร่วมกับ ผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการปฏิบัติการสาธารณภัยในระดับจังหวัด และ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) อย่างเช่น อบจ.เชียงราย ที่เป็นแนวหน้าในการป้องกัน เฝ้าระวัง และให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบโดยตรง

สาระสำคัญของ “PDOSS” คือการวางรากฐานทางกฎหมายและนโยบายที่แข็งแกร่ง โดยมี พระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 เป็นกฎหมายแม่บท และมี แผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2558 และ 2564-2570 เป็นเข็มทิศแนวทางในการปฏิบัติงาน นอกจากนี้ ยังมีการประยุกต์ใช้หลักปฏิบัติสากลที่สำคัญ เช่น หลักปฏิบัติ 10 ประการเพื่อสร้างเมืองที่ยืดหยุ่น” และ กรอบเซนไดว่าด้วยการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติของสหประชาชาติ ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการนำแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดระดับโลกมาปรับใช้ เพื่อสร้างความยืดหยุ่นต่อภัยพิบัติในทุกระดับ

โครงสร้างการทำงานแบบบูรณาการนี้ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคประชาชน และภาคเอกชน ในการรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ร่วมกัน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งและความยืดหยุ่นให้กับชุมชน

ผลลัพธ์และบทเรียนจากวิกฤต มุ่งสู่การฟื้นฟูที่ยั่งยืน

การทำงานของ อบจ.เชียงราย ภายใต้การนำของนายกฯ นก ในครั้งนี้ เป็นภาพสะท้อนของการ บริหารจัดการเชิงรุก” ในภาวะวิกฤต ที่ไม่ใช่เพียงแค่การแจกจ่ายถุงยังชีพหรือให้กำลังใจเท่านั้น แต่ยังรวมถึงกระบวนการสำคัญในการเก็บข้อมูลปัญหา การวิเคราะห์ และการวางแผนฟื้นฟูอย่างรอบด้าน ซึ่งครอบคลุมถึง:

  • การฟื้นฟูสาธารณูปโภค: ซ่อมแซมระบบสาธารณูปโภคที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม เพื่อให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ
  • การฟื้นฟูสุขภาพจิต: ให้การสนับสนุนด้านสุขภาพจิตแก่ผู้ประสบภัย ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งหลังเผชิญเหตุการณ์วิกฤต
  • การเร่งเยียวยาเกษตรกร: วางแผนมาตรการช่วยเหลือและเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากความเสียหายของผลผลิตทางการเกษตร
  • การลงทุนเสริมสร้างความแข็งแกร่งของระบบแจ้งเตือนภัยล่วงหน้า: รวมถึงการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น ระบบ Cell Broadcast และระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) ในการประเมินความเสี่ยงและแจ้งเตือนภัยได้อย่างแม่นยำและทันเวลา เพื่อลดความสูญเสียในอนาคต

แม้ระบบ PDOSS และแผนรับมือภัยพิบัติของไทยจะได้รับคำชื่นชมในเวทีสากล โดยมีตัวอย่างที่โดดเด่นจากการรับมือเหตุการณ์สึนามิปี 2547 และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อสื่อสารและประเมินความเสี่ยงได้อย่างทันท่วงที แต่ก็ยังมีโจทย์สำคัญที่ต้องเร่งพัฒนาและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ได้แก่:

  • ประสิทธิภาพของการฟื้นฟูในระยะยาว: การฟื้นฟูที่ซับซ้อนและใช้ระยะเวลานานยังคงเป็นความท้าทายที่ต้องได้รับการสนับสนุนทรัพยากรและการจัดการที่มีประสิทธิภาพ
  • การเสริมสร้างขีดความสามารถของชุมชนท้องถิ่น: การลงทุนในการสร้างความรู้และทักษะให้กับชุมชนในการเฝ้าระวังและรับมือภัยพิบัติด้วยตนเอง
  • การสร้างฐานข้อมูลที่เป็นมาตรฐาน: การจัดเก็บข้อมูลภัยพิบัติและการประเมินความเสียหายอย่างเป็นระบบและมีมาตรฐาน เพื่อเป็นข้อมูลที่แม่นยำในการวางแผนเยียวยาและฟื้นฟู รวมถึงรองรับภัยพิบัติรูปแบบใหม่ที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ

ข้อเสนอแนะและทิศทางในอนาคตสร้าง “ชุมชนเข้มแข็ง เมืองปลอดภัย”

เพื่อเสริมสร้างความยืดหยุ่นของชุมชนและประสิทธิภาพของการบริหารจัดการสาธารณภัยในระยะยาว ควรพิจารณาข้อเสนอแนะและกำหนดทิศทางในอนาคตดังนี้:

  • การมีส่วนร่วมของชุมชนที่เข้มแข็ง: เนื่องจากภัยพิบัติมีความซับซ้อนมากขึ้น การใช้พลังของชุมชนและเครือข่ายอาสาสมัครจะเข้ามาช่วยลดช่องว่างของภาครัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัย การให้ความรู้ และการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง
  • การสร้างมาตรฐานฐานข้อมูลที่เป็นระบบ: การลงทุนในการพัฒนาระบบฐานข้อมูลการประเมินความเสียหายและความต้องการของประชาชนหลังภัยพิบัติอย่างเป็นระบบและสามารถบูรณาการข้อมูลได้ จะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการวางแผนเยียวยาและฟื้นฟูได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพ
  • การพัฒนาและขยายการใช้เทคโนโลยีเตือนภัย: ควรมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องและขยายการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น ระบบเตือนภัย Cell Broadcast และระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) ในการวิเคราะห์และประเมินความเสี่ยง เพื่อให้สามารถแจ้งเตือนภัยได้อย่างแม่นยำและทันท่วงที
  • การเสริมสร้างศักยภาพองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น: การจัดสรรงบประมาณและการพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการบริหารจัดการภัยพิบัติได้อย่างยั่งยืน และเป็นแกนหลักในการสร้างความยืดหยุ่นในระดับชุมชน

การลงพื้นที่ของนายกฯ นกและทีม อบจ.เชียงรายในครั้งนี้ ถือเป็นต้นแบบของการบริหารจัดการสาธารณภัยที่ไม่ทอดทิ้งใครไว้ข้างหลัง และเป็นบทพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของท้องถิ่นไทยในการสร้าง ชุมชนเข้มแข็ง เมืองปลอดภัย” ที่ไม่ว่าจะเผชิญวิกฤตครั้งใด ก็ยังคงเดินหน้าต่อไปได้ด้วยหัวใจแห่งการแบ่งปันและความร่วมมือ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย: ข้อมูลการลงพื้นที่และแนวทางการปฏิบัติงานของ อบจ.เชียงราย
  • กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย: ข้อมูลเกี่ยวกับกรอบ PDOSS, บทบาทหน้าที่, และแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ
  • แผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2564-2570: เอกสารนโยบายหลักในการบริหารจัดการภัยพิบัติของประเทศไทย
  • รายงานสถานการณ์อุทกภัยจังหวัดเชียงราย: ข้อมูลสถานการณ์ล่าสุดในพื้นที่
  • กรอบเซนไดเพื่อการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ สหประชาชาติ (Sendai Framework for Disaster Risk Reduction): กรอบแนวคิดและหลักปฏิบัติสากลที่ประเทศไทยนำมาประยุกต์ใช้
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

นายกฯ อบจ.เชียงรายไม่ทิ้งใคร เร่งช่วยน้ำท่วมแม่เปา มอบน้ำ-ถุงยังชีพ

นายก อบจ.เชียงราย นำทีมลงพื้นที่น้ำป่าแม่เปา ฟื้นฟูพื้นที่-ดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิด

เชียงราย, 29 มิถุนายน 2568 – ในช่วงหลังจากเกิดเหตุการณ์น้ำป่าไหลหลากรุนแรงในพื้นที่ตำบลแม่เปา อำเภอพญาเม็งราย จังหวัดเชียงราย นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย พร้อมด้วยทีมบริหารและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ไม่ได้นิ่งนอนใจ เร่งนำทีมลงพื้นที่ทันทีเพื่อสำรวจความเสียหาย ฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐาน และเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง

ลงพื้นที่ช่วยเหลือ-ประชุมวางแผนฟื้นฟู

นางอทิตาธร พร้อมนายวสันต์ วงศ์ดี ผู้อำนวยการสำนักช่าง อบจ.เชียงราย, นางสาวปราณปรียา โพธิเลิศ ผอ.กองป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย, พันจ่าเอกทวีป เชี่ยวสุวรรณ หัวหน้าฝ่ายป้องกันฯ และเจ้าหน้าที่ ได้ประชุมหารือร่วมกับผู้นำท้องถิ่นที่ศูนย์เฉพาะกิจฯ ต.แม่เปา เพื่อติดตามรายงานสถานการณ์ ค้นหาผู้สูญหาย ซ่อมแซมคอสะพาน และเร่งฟื้นฟูพื้นที่ให้กลับมาใช้งานได้อย่างรวดเร็ว โดยได้เน้นย้ำให้เร่งซ่อมแซมสะพานและเส้นทางสัญจรที่ได้รับความเสียหาย เพื่อป้องกันอุบัติเหตุและอำนวยความสะดวกให้กับชาวบ้าน

ลงพื้นที่แจกถุงยังชีพ-สร้างขวัญกำลังใจ

จากนั้น คณะได้เดินทางต่อไปยังบ้านขุนห้วย ตำบลแม่เปา สำรวจจุดที่ได้รับผลกระทบ พร้อมมอบน้ำดื่ม 700 แพ็ค และถุงยังชีพ 65 ชุดให้ประชาชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น โดยมีนายฐิติพันธ์ เข็มขาว นายก อบต.แม่เปา ให้การต้อนรับและร่วมลงพื้นที่

นางอทิตาธร ได้เน้นย้ำว่าทุกชีวิตคือความสำคัญ อบจ.เชียงรายจะเร่งสนับสนุนทั้งทรัพยากร งบประมาณ และกำลังคน เพื่อดูแลประชาชนอย่างรอบด้าน พร้อมวางแผนฟื้นฟูระยะยาวในประเด็นโครงสร้างพื้นฐานและการป้องกันเหตุซ้ำในอนาคต พร้อมทั้งประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทุกระดับเพื่อสนับสนุนเครื่องมือ อุปกรณ์ และความรู้ด้านการบริหารจัดการภัยพิบัติในระยะต่อไป

ความสำเร็จและเป้าหมายการฟื้นฟู

การดำเนินการครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งภาพสะท้อนการทำงานร่วมกันของหน่วยงานท้องถิ่นและจังหวัด ที่เห็นถึงความสำคัญของความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตของประชาชนเป็นหลัก ทั้งในช่วงเกิดเหตุและหลังเหตุการณ์ ผ่านการบูรณาการความร่วมมือกับ อบต., กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน และภาคประชาชน

สำหรับแผนฟื้นฟูต่อจากนี้ อบจ.เชียงรายจะเร่งสำรวจความเสียหายทั้งโครงสร้างพื้นฐาน ถนน สะพาน ระบบประปา รวมถึงวางแนวทางในการพัฒนาระบบเตือนภัยและการฟื้นฟูพื้นที่เกษตรกรรมที่ได้รับผลกระทบ เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตตามปกติและเตรียมพร้อมต่อการรับมือภัยพิบัติในอนาคต

ข้อคิดและวิเคราะห์สถานการณ์

เหตุการณ์น้ำป่าไหลหลากครั้งนี้ เป็นเครื่องเตือนใจทุกภาคส่วนว่าการเฝ้าระวังและรับมือภัยพิบัติยังคงเป็นความท้าทายสำคัญของจังหวัดเชียงราย การมีผู้นำท้องถิ่นที่กระตือรือร้น ลงพื้นที่จริงจัง พร้อมขับเคลื่อนการแก้ไขและฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว ถือเป็นจุดแข็งสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างขวัญกำลังใจและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในระยะยาว

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย
  • ศูนย์เฉพาะกิจฯ ตำบลแม่เปา
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

นายกฯ ขึ้นเชียงราย เร่งช่วยน้ำท่วม ย้ำฟื้นฟูยั่งยืน พร้อมรับฟังประชาชน

นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่เชียงราย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เร่งช่วยเหลือ-เยียวยา เดินหน้าฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย

เชียงราย, 28 มิถุนายน 2568 – นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐมนตรีและผู้บริหารระดับสูง เดินทางถึงท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ท่ามกลางการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มมวลชนเสื้อแดงที่มาให้กำลังใจและแสดงความหวังใจต่อผู้นำรัฐบาล ก่อนนายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยในอำเภอพญาเม็งรายและพื้นที่ประสบภัยอื่น ๆ ของจังหวัด

รับฟังรายงานและสำรวจพื้นที่จริง

นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้รายงานสถานการณ์ล่าสุดให้กับนายกรัฐมนตรีและคณะทราบ โดยเหตุอุทกภัยที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ส่งผลกระทบต่อ 5 อำเภอ 10 ตำบล 32 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับผลกระทบถึง 4,405 ครัวเรือน ถนนเสียหาย 3 จุด สถานพยาบาล 2 แห่ง และพื้นที่เกษตรกรรม โดยเฉพาะนาข้าว ได้รับความเสียหายกว่า 500 ไร่

จังหวัดเชียงรายได้บูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานราชการ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อเร่งอพยพประชาชนจากพื้นที่เสี่ยงเข้าสู่ศูนย์พักพิงชั่วคราว พร้อมจัดส่งถุงยังชีพ สิ่งของจำเป็น และให้หน่วยงานด้านการเกษตรสำรวจความเสียหายเพื่อดำเนินการช่วยเหลือต่อไป

ลงพื้นที่พบปะ-มอบถุงยังชีพ สร้างพลังใจ

นายกรัฐมนตรีและคณะได้ลงพื้นที่บ้านสบเปา ตำบลแม่เปา อำเภอพญาเม็งราย เพื่อพบปะประชาชนผู้ประสบภัย มอบถุงยังชีพ และกล่าวให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และจิตอาสาที่ปฏิบัติงานอย่างใกล้ชิด โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า

“ดิฉันเดินทางมาในวันนี้เพื่อให้กำลังใจพี่น้องประชาชน เพราะปีนี้ฝนตกมากกว่าปกติ หลายพื้นที่ไม่เคยประสบเหตุลักษณะนี้มาก่อน ธรรมชาติที่แปรปรวนได้สร้างสถานการณ์ยากลำบาก แต่ขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลจะไม่เพิกเฉยต่อความเดือดร้อนของประชาชน จะเร่งฟื้นฟูและช่วยเหลือทุกคนให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด”

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้ชื่นชมการร่วมแรงร่วมใจของชาวบ้านในการฟื้นฟูพื้นที่ และเน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเยียวยาและส่งความช่วยเหลือให้ถึงมือประชาชนโดยเร็ว พร้อมกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ปฏิบัติงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด

วางแผนระยะสั้น-กลาง-ยาว เพื่อรับมือภัยพิบัติซ้ำซาก

จากสถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนรับมือทั้งระยะสั้น กลาง และยาว เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นซ้ำ โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นของระบบเตือนภัยล่วงหน้า การจัดเตรียมศูนย์พักพิงที่มีประสิทธิภาพ การบริหารจัดการน้ำ การฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐาน และการสนับสนุนเกษตรกรในระยะยาว

ทั้งนี้ การบูรณาการระหว่างหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และท้องถิ่น ถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการเร่งสำรวจ เยียวยา และฟื้นฟูผู้ประสบภัยให้กลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติ โดยไม่ละเลยกลุ่มเปราะบาง เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยติดเตียง

ประชาชนสะท้อนปัญหาและข้อเสนอแนะต่อผู้นำรัฐบาล

ในระหว่างภารกิจลงพื้นที่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้พูดคุย สอบถามความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่อยู่อาศัย น้ำดื่ม อาหาร เครื่องใช้จำเป็น รวมถึงเงินเยียวยาจากเหตุอุทกภัยครั้งก่อนที่บางครอบครัวยังไม่ได้รับ พร้อมทั้งรับฟังข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการฟื้นฟูศูนย์เด็กเล็กที่ถูกน้ำท่วม ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการแก้ไขโดยไม่ให้ประชาชนต้องรอนาน

บรรยากาศอบอุ่น สะท้อนพลังใจคนเชียงราย

บรรยากาศการลงพื้นที่ตลอดทั้งวันเป็นไปอย่างอบอุ่นและเป็นกันเอง โดยเฉพาะการต้อนรับจากประชาชนที่สนามบินแม่ฟ้าหลวงและบ้านสบเปา หลายคนสวมเสื้อแดงและนำดอกกุหลาบ พวงมาลัยมาให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี รวมทั้งร่วมถ่ายภาพเซลฟี่และส่งเสียงเชียร์ “สู้ๆ นะเจ้า” อย่างต่อเนื่อง นายกรัฐมนตรีตอบรับด้วยรอยยิ้มและถ้อยคำให้กำลังใจกลับไป

ภารกิจในพื้นที่ยังรวมถึงการเดินทางไปยังวัดสันติคีรี อำเภอพญาเม็งราย เพื่อมอบถุงยังชีพและให้กำลังใจประชาชน พร้อมย้ำว่าวิกฤตนี้จะผ่านพ้นไปด้วยความร่วมมือและพลังใจจากทุกฝ่าย

วิเคราะห์ผลลัพธ์และทิศทางการเยียวยา

การลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ เน้นย้ำบทบาทของรัฐบาลและหน่วยงานทุกระดับในการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยอย่างจริงจัง ทั้งการแจกจ่ายถุงยังชีพ การดูแลกลุ่มเปราะบาง การวางแผนฟื้นฟูและจัดสรรงบประมาณเพื่อเยียวยาในระยะยาว ขณะเดียวกันยังเป็นเวทีรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะโดยตรงจากประชาชน เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงการบริหารจัดการภัยพิบัติและเยียวยาให้ดียิ่งขึ้นในอนาคต

“ขอมาให้กำลังใจให้ทุกคนและหวังเป็นอย่างยิ่งวันนี้ได้พบปะกันจะมีกำลังใจกันมากขึ้นและหวังว่าวิกฤตนี้จะผ่านไปได้อย่างรวดเร็ว รัฐบาลเห็นความสำคัญของประชาชนเสมอ วันนี้มาให้กำลังใจมาพูดคุย ขอให้ทุกคนทำตัวสบายๆ ถ่ายรูปเจอกันได้ อย่างน้อยๆให้เป็นช่วงเวลาดีๆที่ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ดิฉันมาที่นี่ก็ได้กำลังใจจากพี่น้องประชาชนเช่นกันตั้งแต่ที่สนามบินแล้ว รู้สึกอบอุ่นใจมากๆขอมาเป็นกำลังใจและขอรับกำลังใจจากประชาชนด้วย” นายกรัฐมนตรีกล่าวในช่วงท้าย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย
  • ข่าวประชาสัมพันธ์ทำเนียบรัฐบาล
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

นายกฯ อบจ.เชียงรายไม่นิ่งนอนใจ ระดมสรรพกำลังช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม

อบจ.เชียงราย เร่งระดมกำลังเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำป่าไหลหลาก มอบน้ำอุปโภคบริโภค-ถุงยังชีพ พร้อมลุยฟื้นฟูพื้นที่แม่เปา หลังวิกฤตน้ำท่วมหนัก

เชียงราย, 27 มิถุนายน 2568 – หลังเกิดเหตุการณ์น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงในพื้นที่ตำบลแม่เปา อำเภอพญาเม็งราย จังหวัดเชียงราย ส่งผลให้บ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง รวมถึงระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานได้รับผลกระทบอย่างหนัก องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย (อบจ.เชียงราย) ภายใต้การนำของนางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย และรองผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย ได้แสดงจุดยืน “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” เร่งระดมทรัพยากรและกำลังเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยอย่างเร่งด่วน

อบจ.เชียงราย” เดินหน้าเคียงข้างชาวบ้าน ลุยทุกจุดเสี่ยง

การลงพื้นที่ในครั้งนี้ มีนายจิราวุฒิ แก้วเขื่อน รองนายก อบจ.เชียงราย นายรามิล พัฒนมงคลเชฐ ปลัด อบจ.เชียงราย นายชัยสิทธิ์ ชัยเนตร เลขานุการนายก อบจ. นายอาทิตย์ รู้ทำนอง สมาชิกสภา อบจ. อำเภอเทิง เขต 1 นายสุชัด เสนคำ สมาชิกสภา อบจ. อำเภอเทิง เขต 2 นายสุใจ เชื้อเมืองพาน สมาชิกสภา อบจ. อำเภอพญาเม็งราย เขต 1 ตลอดจนบุคลากรจากกองป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กองสาธารณสุข และหน่วยงานในพื้นที่ ร่วมปฏิบัติการในทุกจุดเสี่ยง

บ้านเรือนพัง-ประปาเสียหาย ชาวบ้านขาดน้ำใช้ อบจ.จัด “รถน้ำ-ถุงยังชีพ” กระจายความช่วยเหลือ

ผลกระทบจากน้ำป่าที่ไหลหลากฉับพลัน ไม่เพียงสร้างความเสียหายแก่บ้านเรือน แต่ยังส่งผลต่อระบบประปาหมู่บ้าน ทำให้ประชาชนจำนวนมากต้องขาดแคลนน้ำสะอาด ทั้งในการอุปโภคบริโภคและทำความสะอาดบ้านที่เต็มไปด้วยโคลน อบจ.เชียงรายจึงระดม “รถน้ำขนาดใหญ่” ตระเวนแจกจ่ายน้ำสะอาดในทุกพื้นที่ประสบภัย พร้อมจัดชุดถุงยังชีพที่ประกอบด้วยสิ่งของจำเป็นและน้ำดื่มสะอาด แจกจ่ายถึงมือประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น

ลงพื้นที่-เยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมประเมินวางแผนฟื้นฟูหลังน้ำลด

นอกจากการจัดส่งทรัพยากร อบจ.เชียงราย ยังส่งบุคลากรลงพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่อย่างใกล้ชิด เพื่อเยี่ยมเยียน ให้กำลังใจ สำรวจความเสียหาย วางแผนการฟื้นฟูและซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน สะพาน ระบบประปา เพื่อให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติให้เร็วที่สุด

มุ่งบรรเทาทุกข์ระยะสั้น-ฟื้นฟูระยะยาว คืนคุณภาพชีวิตแก่ประชาชน

การให้ความช่วยเหลือในครั้งนี้มุ่งเน้นทั้งการบรรเทาทุกข์ในเบื้องต้นและการฟื้นฟูในระยะต่อไป โดยอบจ.เชียงรายประกาศยืนยันจะไม่ทอดทิ้งพี่น้องประชาชนที่ประสบภัย พร้อมเดินหน้าอย่างเต็มกำลังในการสนับสนุนทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และจิตอาสา เพื่อร่วมกันผ่านวิกฤตนี้ไปให้ได้

เสียงแห่งความหวังจาก อบจ.เชียงราย

นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย กล่าวให้กำลังใจว่า “ขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องประชาชนทุกคน อบจ.เชียงรายขอประกาศเจตนารมณ์อย่างมั่นคงว่า จะเดินหน้าให้การช่วยเหลือ สนับสนุน และฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยอย่างเต็มกำลัง จนกว่าทุกชีวิตจะกลับมาอยู่ในสภาพปกติอีกครั้ง”

สรุป

วิกฤตน้ำป่าไหลหลากครั้งนี้ แม้สร้างบาดแผลให้กับชาวบ้านแม่เปาอย่างหนัก แต่ด้วยความร่วมมือของ อบจ.เชียงราย หน่วยงานท้องถิ่น และจิตอาสา เชื่อมั่นว่าความเข้มแข็งและความช่วยเหลือที่รวดเร็วจะช่วยฟื้นฟูคุณภาพชีวิตและสร้างรอยยิ้มคืนสู่ทุกครัวเรือนอีกครั้ง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย
  • ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เชียงรายหนัก น้ำป่าถล่ม 5 อำเภอ ทหารเร่งช่วย-ตั้งครัวสนาม

เชียงรายวิกฤต! น้ำป่าไหลหลาก 5 อำเภอ 32 หมู่บ้านจมบาดาล บ้านเรือนเสียหายกว่า 4,400 ครัวเรือน ทหาร-หน่วยงานรัฐระดมช่วยเหลือ เตือนเฝ้าระวังต่อเนื่อง

เชียงราย, 27 มิถุนายน 2568 – จังหวัดเชียงรายกำลังเผชิญกับสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ หลังเกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องตลอดสัปดาห์ ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ 5 อำเภอ 10 ตำบล รวม 32 หมู่บ้าน บ้านเรือนราษฎรกว่า 4,405 ครัวเรือน ถนนสายหลัก 3 จุด และสถานบริการสาธารณสุข 2 แห่ง ได้รับผลกระทบโดยตรง ขณะที่พื้นที่เกษตรโดยเฉพาะนาข้าวถูกน้ำท่วมเสียหายกว่า 500 ไร่ และยังมีความเสียหายอื่นๆ อยู่ระหว่างการสำรวจเพิ่มเติม

ฝนถล่มต่อเนื่อง – สถานการณ์ยังไม่สิ้นสุด

ข้อมูลรายงานเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 27 มิถุนายน 2568 ระบุว่า จังหวัดเชียงรายยังคงมีฝนตกต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ส่งผลให้สถานการณ์น้ำท่วมยังไม่คลี่คลาย กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงรายได้แจ้งเตือนทุกอำเภอให้เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งอย่างต่อเนื่อง พร้อมเตรียมเครื่องมือ อุปกรณ์ เครื่องจักรกล ยุทโธปกรณ์ รวมถึงกำลังพลเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง

พื้นที่ประสบภัยหนัก ครอบคลุม 5 อำเภอ

  • อำเภอพญาเม็งราย
    1. ต.ตาดควัน หมู่ 4 น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมโรงเรียนและบ้านเรือน 200 ครัวเรือน สะพานขาดการสัญจร
    2. ต.แม่เปา หมู่ 1, 2, 3, 6, 11, 12, 14, 16, 20 น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมขุนห้วยแม่เปา บ้านเรือน 3,705 ครัวเรือน รพ.สต.แม่เปาได้รับผลกระทบ 1 แห่ง ถนนขาด
    3. ต.แม่ต๋ำ หมู่ 2, 7, 8, 10 น้ำท่วมบ้านเรือน 500 ครัวเรือน
  • อำเภอเวียงชัย
    1. ต.ผางาม หมู่ 1, 3, 7, 13 น้ำป่าเข้าท่วมพื้นที่เกษตรและถนนสายหลัก ทล.1326 รถสัญจรไม่ได้
    2. ต.ดอนศิลา หมู่ 10 น้ำท่วมนาข้าว 500 ไร่
  • อำเภอเชียงแสน
  1. ต.บ้านแซว หมู่ 4, 11, 12 น้ำท่วมถนน เส้นทางถูกตัดขาด
  • อำเภอเวียงเชียงรุ้ง
    1. ต.ทุ่งก่อ หมู่ 6, 7, 15
    2. ต.ป่าซาง หมู่ 5, 6, 7, 10, 14
    3. ต.ดงมหาวัน หมู่ 4 น้ำท่วมโรงพยาบาลเวียงเชียงรุ้ง พื้นที่เกษตร บ้านเรือนได้รับผลกระทบบางส่วน
  • อำเภอเทิง
    1. ต.เวียง หมู่ 20 น้ำเข้าท่วมถนนหน้าโรงพยาบาลเทิง

ทหาร-หน่วยงานรัฐลงพื้นที่ช่วยเหลือเต็มกำลัง

พลตรีจักรวีร์ เสนีย์วรยุทธ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 (มทบ.37) นำกำลังพล พร้อมยุทโธปกรณ์ รถยกสูงและเรือยาง เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ตำบลแม่เปา อ.พญาเม็งราย โดยเน้นช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้ป่วยติดเตียง เด็กและผู้สูงอายุ ลำเลียงออกจากพื้นที่เสี่ยงไปยังศูนย์พักพิงปลอดภัย ขณะเดียวกันยังจัดตั้ง “ครัวสนาม” สำหรับปรุงอาหารแจกจ่ายผู้ประสบภัย เริ่มตั้งแต่มื้อเย็นวันที่ 27 มิ.ย.นี้ ผลิตได้ 3,000 กล่องต่อมื้อ พร้อมรับการสนับสนุนวัตถุดิบประกอบอาหารอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ กรมการทหารช่างยังจัดส่งกำลังพล เรือยางติดเครื่อง เรือท้องแบน และรถ FTS ยกสูง เพื่ออำนวยความสะดวกในการลำเลียงผู้ประสบภัยออกจากพื้นที่ที่ถูกตัดขาด โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในบ้านเรือนริมห้วยหรือในพื้นที่ต่ำ

มาตรการรับมือและแนวโน้มสถานการณ์

กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย ได้ประสานและสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหายและดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบอย่างรวดเร็ว พร้อมแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ติดตามสถานการณ์น้ำและฝนฟ้าอากาศจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง

จากแนวโน้มฝนตกหนักต่อเนื่อง คาดว่าสถานการณ์ยังไม่คลี่คลายใน 1-2 วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำและบริเวณใกล้ลำห้วยที่มีความเสี่ยงสูง ประชาชนควรเฝ้าระวังเป็นพิเศษ และเตรียมการขนย้ายสิ่งของจำเป็นให้พร้อมกรณีต้องอพยพฉุกเฉิน

วิเคราะห์ผลกระทบ – จัดการน้ำและฟื้นฟูระยะยาว

สถานการณ์อุทกภัยครั้งนี้สะท้อนความเปราะบางของโครงสร้างพื้นฐานในชนบท ทั้งด้านสะพาน ถนน และการเข้าถึงสถานพยาบาลที่อาจต้องได้รับการปรับปรุงและยกระดับในระยะยาว ทั้งนี้การตั้ง “ครัวสนาม” และการระดมทรัพยากรทั้งทหารและหน่วยงานพลเรือนถือเป็นมาตรการเร่งด่วนที่ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนในเบื้องต้น

อย่างไรก็ดี ภาคการเกษตรโดยเฉพาะนาข้าวในพื้นที่กว่า 500 ไร่ที่ได้รับความเสียหาย อาจส่งผลต่อเศรษฐกิจท้องถิ่นในฤดูกาลนี้ จำเป็นต้องมีมาตรการเยียวยาและฟื้นฟูทั้งภาคการผลิตและโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงการจัดการน้ำแบบบูรณาการเพื่อป้องกันเหตุการณ์ซ้ำซากในอนาคต

สรุป

เชียงรายกำลังเผชิญวิกฤตน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ เจ้าหน้าที่รัฐ ทหาร และจิตอาสาเร่งให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ในทุกด้าน พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสถานการณ์ต่อเนื่อง ขณะนี้การช่วยเหลือกำลังดำเนินอย่างเข้มข้นจนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย
  • มณฑลทหารบกที่ 37 (มทบ.37)
  • กรมการทหารช่าง
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

ฝนถล่มเชียงราย น้ำป่าหลาก-สะพานขาด รัฐบาลชูแผนบริหารจัดการน้ำรับมือ

เชียงรายเผชิญน้ำท่วมฉับพลัน หลังฝนตกหนักต่อเนื่อง นายกรัฐมนตรีสั่งระดมทุกหน่วยงานเร่งช่วยเหลือ ย้ำต้องจัดการน้ำอย่างยั่งยืน

เชียงราย, 27 มิถุนายน 2568 – รายงานข่าวจากหลายพื้นที่ของจังหวัดเชียงรายเปิดเผยว่า เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงกลางดึกจนถึงเช้าวันนี้ ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลันในเขตอำเภอพญาเม็งรายและอำเภอเวียงชัย โดยชาวบ้านจำนวนมากต้องรีบขนย้ายทรัพย์สินขึ้นที่สูงเพื่อความปลอดภัย พร้อมมีการเร่งระดมเจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ หลังปริมาณน้ำฝนสะสมที่วัดได้บางจุดสูงถึง 298.5 มิลลิเมตร

สถานการณ์น้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลากรุนแรงในพื้นที่เสี่ยง

นายอำเภอพญาเม็งรายได้สั่งการให้ปลัดอำเภอ ประสานการทำงานร่วมกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในพื้นที่ เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบในทันที โดยความเสียหายเบื้องต้นพบว่าสะพานเชื่อมต่อระหว่างหมู่ 4 ตำบลตาดควัน ไปยังหมู่ 1, 5, 16, 17 ตำบลแม่เปา ถูกกระแสน้ำตัดขาด ขณะเดียวกันพื้นที่อยู่อาศัยของประชาชนที่ติดลำห้วยขุนแม่เปาก็ได้รับความเสียหายจำนวนมาก

ขณะที่ปริมาณน้ำฝนที่จุดวัด ณ วนอุทยานน้ำตกตาดสายรุ้ง บ้านป่าสา ตำบลป่าซาง อำเภอเวียงเชียงรุ้ง ในวันนี้ วัดได้ถึง 195 มิลลิเมตร ซึ่งถือเป็นปริมาณที่สูงผิดปกติเมื่อเทียบกับสถิติในรอบหลายปี สร้างความกังวลถึงความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำ

ผู้ว่าราชการจังหวัด-ภาครัฐทุกหน่วยงานลงพื้นที่ช่วยเหลือ

นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่จากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เขตเชียงราย ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เร่งลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือแก่ประชาชนอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการอพยพผู้ที่ติดอยู่ในจุดเสี่ยงออกไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว การแจกจ่ายถุงยังชีพ อาหาร น้ำดื่ม และอุปกรณ์ยังชีพที่จำเป็น ขณะเดียวกันได้จัดชุดแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเตรียมพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อดูแลผู้ได้รับผลกระทบ โดยมีการประกาศเตือนภัยผ่านทุกช่องทาง รวมถึง Cell Broadcast และการแจ้งข่าวจากในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

นายกรัฐมนตรีสั่งการด่วน-บูรณาการทุกกระทรวงรับมือ

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ยืนยันการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมสั่งการให้กระทรวงกลาโหม ประสานความร่วมมือช่วยเหลือด้านกำลังพลและอุปกรณ์กับผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เร่งช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงที พร้อมขอให้ อปท. และปภ. เตรียมสิ่งของอุปโภคบริโภค และให้กระทรวงสาธารณสุขเตรียมบุคลากรทางการแพทย์ให้พร้อมรับมือ 24 ชั่วโมง ขณะที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยเฉพาะกรมอุตุนิยมวิทยา เร่งประเมินสถานการณ์และแจ้งข้อมูลให้ประชาชนทราบเป็นระยะ

นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า รัฐบาลจะดูแลทุกชีวิตอย่างดีที่สุด พร้อมยืนยันว่าการจัดการน้ำอย่างเป็นระบบเพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากนั้นเป็นสิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการ โดยรัฐบาลมีแผนงานไว้แล้ว และขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด

วิเคราะห์ปัจจัย-โครงสร้างและแนวโน้มในอนาคต

สถานการณ์น้ำท่วมเชียงรายครั้งนี้ สะท้อนถึงความเปราะบางด้านโครงสร้างพื้นฐานในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะการตัดขาดของสะพานและเส้นทางคมนาคมหลัก ซึ่งสร้างความลำบากให้ประชาชนในการเข้าถึงความช่วยเหลือและการเคลื่อนย้ายสิ่งของ นอกจากนี้ ปริมาณน้ำฝนที่มากผิดปกติอาจเป็นผลจากสภาพอากาศแปรปรวนและภาวะโลกร้อนที่ทวีความรุนแรงขึ้นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

การจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ และการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรับมือกับน้ำท่วมจึงกลายเป็นภารกิจสำคัญของจังหวัดและรัฐบาลกลาง ซึ่งหากดำเนินการได้อย่างเป็นรูปธรรม ย่อมช่วยลดความเสียหายและความเสี่ยงในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เตือนภัยประชาชน-เฝ้าระวังสถานการณ์ต่อเนื่อง

หน่วยงานด้านอุตุนิยมวิทยายังคงแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงให้เฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน และดินโคลนถล่มในช่วงนี้ พร้อมขอความร่วมมือในการติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างต่อเนื่อง เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย
  • กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
  • กรมอุตุนิยมวิทยา
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. ครั้งที่ 8 เปิดให้บริการประชาชนเชียงราย

กิจกรรมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. ครั้งที่ 8 ประจำปี 2568 จังหวัดเชียงราย

เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2568 ที่ตลาดกลางเทศบาลตำบลป่าก่อดำ อำเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย นายประสงค์ หล้าอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้เป็นประธานเปิดกิจกรรม “หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. ครั้งที่ 8 ประจำปี 2568” ซึ่งจัดขึ้นเพื่อให้บริการด้านสุขภาพแก่ประชาชนในจังหวัดเชียงราย โดยกิจกรรมครั้งนี้มีการรวมกลุ่มของคณะบุคลากรทางการแพทย์และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อให้บริการด้านสุขภาพที่ครอบคลุมและเข้าถึงประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มผู้ด้อยโอกาสและกลุ่มเปราะบางในชุมชน

การจัดกิจกรรมครั้งนี้ถือเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีและความมุ่งมั่นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสนองพระปณิธานในการรักษาพยาบาล ฟื้นฟูสุขภาพ และส่งเสริมสุขภาพแก่ประชาชนในจังหวัดเชียงราย ซึ่งจะส่งผลให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดีขึ้นและลดปัญหาสุขภาพในระยะยาว

การเปิดกิจกรรมและความร่วมมือจากทุกภาคส่วน

ในกิจกรรมนี้มีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก รวมทั้งนางวนิดา หล้าอ่อน รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย, นายแพทย์คงศักดิ์ ชัยชนะ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย, นายรุ่งโรจน์ ตันวุฒิ นายอำเภอแม่ลาว, หัวหน้าส่วนราชการ, ทหาร, ตำรวจ, ผู้นำท้องที่ท้องถิ่น และอาสาสมัคร พอ.สว. พร้อมประชาชนในตำบลป่าก่อดำ ที่ให้ความร่วมมือในกิจกรรมอย่างดี

การจัดกิจกรรมครั้งนี้เน้นการให้บริการทางการแพทย์ต่างๆ ทั้งการตรวจสุขภาพเบื้องต้น การให้คำแนะนำด้านสุขภาพ และการรักษาพยาบาลทั่วไป รวมถึงการมอบสิ่งของและเครื่องมือทางการแพทย์ให้กับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ

บูรณาการลงพื้นที่เยี่ยมบ้านผู้ป่วยติดเตียงและผู้สูงอายุ

นอกจากนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย, รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัด, รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย, ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์, นายอำเภอแม่ลาว และหัวหน้าส่วนราชการยังได้ร่วมลงพื้นที่เยี่ยมบ้านผู้ป่วยติดเตียงและผู้สูงอายุ จำนวน 5 ราย ในพื้นที่ตำบลป่าก่อดำ โดยมอบความช่วยเหลือและดูแลสุขภาพให้แก่ผู้ที่ต้องการการดูแลพิเศษ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการเสริมสร้างสุขภาพที่ดีให้กับประชาชนในท้องถิ่น

การบริการที่เข้าถึงชุมชน

กิจกรรมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. ครั้งที่ 8 เป็นกิจกรรมที่ได้รับความสนใจและความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการให้บริการที่เข้าถึงประชาชนในทุกกลุ่ม ทั้งในด้านการดูแลสุขภาพที่จำเป็นและการให้คำแนะนำในการป้องกันโรค รวมถึงการฟื้นฟูสุขภาพหลังการเจ็บป่วยหรือจากภาวะที่ต้องการการดูแลอย่างต่อเนื่อง

การให้บริการทางการแพทย์ที่ครอบคลุมนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของประชาชนเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนโดยรวม ซึ่งทำให้ประชาชนรู้สึกถึงความห่วงใยจากภาครัฐและหน่วยงานต่างๆ

ความสำคัญของการสนับสนุนและการดูแลจากภาครัฐ

การจัดกิจกรรมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ในครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จที่เกิดจากการบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในจังหวัดเชียงราย โดยเฉพาะจากหน่วยงานทางการแพทย์และองค์กรต่างๆ ที่ให้การสนับสนุนการให้บริการในด้านสุขภาพ ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางการแพทย์ในพื้นที่ห่างไกล แต่ยังช่วยให้ประชาชนมีโอกาสเข้าถึงบริการสุขภาพที่มีคุณภาพ

บทสรุป

การเปิดกิจกรรม “หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. ครั้งที่ 8 ประจำปี 2568” ในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งการดำเนินงานของภาครัฐในการให้บริการด้านสุขภาพแก่ประชาชน โดยเฉพาะผู้ด้อยโอกาสและกลุ่มเปราะบางในชุมชน เพื่อส่งเสริมสุขภาพและลดปัญหาสุขภาพในระยะยาว โดยกิจกรรมดังกล่าวได้รับการตอบรับจากประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างดีและได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนอย่างเต็มที่

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

ศปช. ย้ำข่าวน้ำท่วมแม่สายซ้ำไม่จริง เตือนเฝ้าระวังฝนใต้

ศปช.ย้ำข่าวลือ “ฝนหนักต้นน้ำแม่สายอาจท่วมซ้ำ” ไม่จริง ยืนยันสภาพอากาศแห้งแล้ว

เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปช.) ย้ำว่า ข่าวลือเรื่องฝนหนักต้นน้ำแม่สายจะทำให้เกิดน้ำท่วมซ้ำในพื้นที่นั้นไม่เป็นความจริง แม้ว่าจะมีฝนตกบ้างตามสภาพอากาศที่แปรปรวน แต่เนื่องจากเข้าสู่ฤดูหนาวและปริมาณน้ำในลำน้ำต่าง ๆ อยู่ในระดับต่ำ จึงไม่ส่งผลกระทบหนัก นอกจากนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศเตือนอากาศแปรปรวนในประเทศไทยตอนบนไปจนถึงวันที่ 6 พฤศจิกายน โดยในภาคเหนืออาจมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส พร้อมเตือนประชาชนในพื้นที่ดูแลสุขภาพและระวังอัคคีภัยที่อาจเกิดจากสภาพอากาศแห้งและลมแรง

ข่าวลือฝนตกหนักที่แม่สาย ยืนยันไม่มีผลกระทบน้ำท่วมซ้ำ

ข่าวลือที่ว่าลมฝ่ายตะวันตกจะทำให้เกิดฝนตกหนักในต้นน้ำของอำเภอแม่สาย และอาจทำให้เกิดน้ำท่วมซ้ำรอยนั้น กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า แม้ในช่วงนี้จะยังคงได้รับอิทธิพลจากลมตะวันตกอยู่บ้าง แต่มีลมตะวันออกเฉียงเหนือเข้ามาปกคลุม ซึ่งไม่ก่อให้เกิดฝนหนักถึงขั้นน้ำท่วม การทดสอบแบบจำลองสภาพอากาศพบว่าโอกาสที่จะเกิดฝนตกหนักนั้นน้อยมากและไม่ส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำในลุ่มน้ำต้นน้ำแม่สาย

ฝนตกหนักในภาคใต้ เฝ้าระวังดินถล่มและน้ำป่าใน 13 จังหวัด

ขณะที่สถานการณ์ในภาคใต้ยังคงต้องเฝ้าระวังฝนตกหนักในหลายพื้นที่ เช่น จ.ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และอื่น ๆ รวม 13 จังหวัด โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าพื้นที่พร้อมติดตั้งป้ายเตือนประชาชนที่สัญจรในเส้นทางที่มีความเสี่ยง

แผนช่วยเหลือและโอนเงินเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำ ศปช. ระบุว่า การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยมีกำหนดโอนเงินเยียวยาผ่านระบบพร้อมเพย์ในวันพุธที่ 6 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งจะครอบคลุมกว่า 3 หมื่นครัวเรือน รวมเป็นเงินช่วยเหลือที่ได้รับอนุมัติแล้ว 1,695,653,000 บาท

เตรียมรับมือภัยแล้งตั้งแต่เนิ่นๆ รัฐบาลเร่งแผนการจัดการน้ำ

ในด้านการรับมือกับภัยแล้ง นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุมเพื่อวางแผนการเตรียมพร้อมรับมือฤดูแล้งปี 2567/68 ในจังหวัดนครราชสีมา โดยรัฐบาลได้วาง 8 มาตรการเพื่อเฝ้าระวังและลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น อาทิ การสำรวจแหล่งน้ำสำรอง การจัดการน้ำในอ่างลำตะคอง และการสร้างความเข้าใจกับประชาชนในการใช้น้ำอย่างมีคุณค่า

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE