Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

มอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุ ธนารักษ์เอื้อราษฎร์ เชียงใหม่-เชียงราย

 

เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2567 กระทรวงการคลังโดยกรมธนารักษ์จัดพิธีมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุ ประจำปี พ.ศ. 2567 ภายใต้โครงการธนารักษ์เอื้อราษฎร์ “สัญญาเช่าที่ดิน พลิกชีวิต” พร้อมขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ระหว่างวันที่ 3 – 4 สิงหาคม 2567 ณ จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดเชียงราย โดยในวันที่ 3 สิงหาคม 2567 มีพิธีมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุ ในแปลงหมายเลขทะเบียนที่ ชม. 1927 (บางส่วน) ตำบลขี้เหล็ก อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธี และวันที่ 4 สิงหาคม 2567 มีพิธีมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุ ในแปลงหมายเลขทะเบียนที่ ชร. 1154 (บางส่วน) ตำบลเวียงพาคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยมีนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธี โดยที่ผ่านมากรมธนารักษ์จัดให้เช่าที่ราชพัสดุไปแล้วกว่า 134,728 ราย ทั่วประเทศ

นายจำเริญ โพธิยอด อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า กรมธนารักษ์ เป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลังมีอำนาจหน้าที่ในการปกครองดูแลที่ราชพัสดุ และสนับสนุนที่ราชพัสดุเพื่อใช้ประโยชน์ในทางราชการตามภารกิจของหน่วยงาน รวมทั้งการดำเนินโครงการตามนโยบายของรัฐบาล โดยมีเจตนารมณ์ขับเคลื่อนการบริหารจัดการที่ราชพัสดุให้ผลสัมฤทธิ์สูงสุด และตระหนักถึงนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้น
การแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกิน ลดความเหลื่อมล้ำของสังคมและเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชน โดยพิจารณาที่ราชพัสดุจากหน่วยงานราชการต่าง ๆ ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ในราชการและปล่อยให้มีการบุกรุก มาสนับสนุนโครงการของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินให้แก่ประชาชน และจัดให้ประชาชนที่ถือครองที่ราชพัสดุอยู่ก่อนวันที่ 4 ตุลาคม 2546 เช่าที่ราชพัสดุในอัตราผ่อนปรน ผ่านกลไกการจัดให้เช่าของกรมธนารักษ์ ทำให้ประชาชนที่ยินยอมเช่าที่ราชพัสดุสามารถเข้าถึงสาธารณูปโภค ระบบสาธารณูปการ การบริการสาธารณะขั้นพื้นฐานของทางราชการ อีกทั้งเป็นการสร้างรายได้ สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ

สำหรับการมอบสัญญาเช่าให้แก่ราษฎรที่ถือครองที่ราชพัสดุในพื้นที่ครั้งนี้ มีผู้ได้รับสัญญาเช่าที่ราชพัสดุรวม 600 ราย ประกอบด้วย อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 100 ราย เนื้อที่ 281 – 1 – 77 ไร่ และอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย จำนวน 500 ราย เนื้อที่ 273 – 0 -76.90 ไร่ โดยในปี พ.ศ. 2567 ได้ดำเนินการจัดให้เช่าที่ราชพัสดุมาอย่างต่อเนื่อง 6 พื้นที่ ได้แก่ จังหวัดอุดรธานี จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดนครพนม จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดเชียงราย รวมจำนวน 1,750 ราย รวมเนื้อที่ 5,418 – 2 – 97.90 ไร่ แบ่งเป็นเพื่ออยู่อาศัย เนื้อที่ประมาณ 824-1-56.90 ไร่ และเพื่อการเกษตร เนื้อที่ประมาณ 4,553 – 1 – 93 ไร่ และจะมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องในอีก 5 พื้นที่ ประกอบด้วย จังหวัดนครสวรรค์ กาฬสินธุ์ ปัตตานี สุราษฎร์ธานี และราชบุรี ซึ่งจะมีผู้ได้รับสิทธิเพิ่มเติมประมาณ 829 ราย

อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวโดยสรุปว่า ที่ผ่านมากรมธนารักษ์ได้ตอบสนองนโยบายรัฐบาลในการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินให้แก่ประชาชน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม เพิ่มคุณภาพชีวิตด้านที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน โดยในปี พ.ศ. 2568 รัฐบาลมีนโยบายดำเนินการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินให้แก่ประชาชนอย่างต่อเนื่องภายใต้โครงการธนารักษ์เอื้อราษฎร์ “สัญญาเช่าที่ดิน พลิกชีวิตประชาชน” โดยตั้งเป้าหมายในการมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุให้แก่ประชาชนไม่น้อยกว่า 2,000 ราย ให้ครอบคลุมทั้งประเทศ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงการคลัง

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

แจกสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุเชียงราย 273 ไร่ – เชียงใหม่ 281 ไร่

 

เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 2567  นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.การคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลัง โดยกรมธนารักษ์ ได้เร่งดำเนินโครงการ “ธนารักษ์เอื้อราษฎร์ มอบสัญญาเช่าที่ดิน พลิกชีวิตประชาชน” ซึ่งเป็นโครงการที่ต้องการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินให้แก่ประชาชน เพื่อบริหารที่ดินราชพัสดุให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยในปีนี้มีแผนจัดสรรที่ราชพัสดุให้ประชาชนในพื้นที่ 9 จังหวัด กว่า 1,900 ราย พื้นที่กว่า 7,389 ไร่ ภายใน 6 เดือน ประกอบด้วยจังหวัดนครราชสีมา 248 ไร่, เชียงราย 273 ไร่, เชียงใหม่ 281 ไร่, นครสวรรค์ 1,120 ไร่, นครพนม 661 ไร่, กาฬสินธุ์ 1,174 ไร่, ปัตตานี 29 ไร่, ราชบุรี 1,500 ไร่ และสุราษฎร์ธานี 2,100 ไร่ พร้อมทั้งได้ตั้งเป้าหมายให้กรมธนารักษ์ ต้องจัดสรรที่ดินราชพัสดุให้ประชาชนรายย่อยไม่น้อยกว่า 2 พันรายต่อ1 ปี

 

ทั้งนี้ จากการสำรวจของกรมธนารักษ์ในปี 2561 พบว่า มีที่ราชพัสดุที่ถูกบุกรุกกว่า 6 แสนไร่ โดยในปีที่ผ่านมากรมธนารักษ์ได้จัดสรรทึ่ดินให้ประชาชน ผ่านโครงการธนารักษ์เอื้อราษฎร์ ไปแล้วกว่า 1.34 แสนราย เนื้อที่ 3.38 แสนไร่

 

สำหรับโครงการดังกล่าว จะคิดค่าเช่าในอัตราที่ผ่อนปรน โดยที่ดินเพื่อที่อยู่อาศัย หากไม่เกิน 100 ตารางวา อัตราเช่า 0.25 บาท/ตารางวา/เดือน หากเกิน 100 ตารางวา อัตราเช่า 0.50 บาท/ตารางวา/เดือน และหากเป็นที่ดินเพื่อประกอบการเกษตร เนื้อที่ไม่เกิน 50 ไร่ อัตราเช่า 20 บาท/ไร่/ปี และหากเกิน 50 ไร่ อัตราเช่า 30 บาท/ไร่/ปี เป็นสัญญาเช่าครั้งละ 3 ปี เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนการเช่าของกรมที่ดินให้กับประชาชน แต่สามารถขอเป็นสัญญาเช่า 30 ปีได้ หากผู้เช่าประสงค์จะนำไปเป็นหลักประกันขอสินเชือกับสถาบันการเงิน

เป็นสัญญาเช่าครั้งละ 3 ปี เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนการเช่าของกรมที่ดินให้กับประชาชน แต่สามารถขอเป็นสัญญาเช่า 30 ปีได้ หากผู้เช่าประสงค์จะนำไปเป็นหลักประกันขอสินเชื่อกับสถาบันการเงิน

นอกจากนี้ ในส่วนของเป้าหมายการหารายได้ของกรมธนารักษ์ ซึ่งในปีที่ผ่านมามีรายได้กว่า 1 หมื่นล้านบาท และตั้งเป้าหมายเพิ่มรายได้อีกปีละ 5% นั้น ส่วนใหญ่รายได้มาจากการให้เช่าที่ดินเชิงพาณิชย์กว่า 97%

โดยมอบนโยบายให้พิจารณาเรื่องการคิดค่าเช่าที่เชิงพาณิชย์ตามศักยภาพของที่ดิน โดยคิดอัตราค่าตอบแทนต่อสินทรัพย์ (ROA) ไม่น้อยกว่า 3% และยังเปิดให้เช่า 30 ปี หรือทบทวนได้หากมีการต่อสัญญาใหม่

 

ส่วนกรณีที่ราชพัสดุหมอชิต ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรมธนารักษ์ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ (รฟม.) และสำนักนโยบายและแผนขนส่งจราจร (สนข.) ทบทวนศักยภาพที่ดิน องค์ประกอบต่าง ๆ ว่ามีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ เพื่อหาข้อสรุปบนกรอบกฎหมายและต้องถูกต้องตามสัญญา คาดว่าจะมีการประชุมในต้นเดือนหน้า ส่วนเรื่องการขอคืนที่ราชพัสดุคืนจากส่วนราชการ ทางกรมธนารักษ์ ได้ทำหนังสือถึงส่วนราชการว่ามีการใช้ประโยชน์ที่ดินตามที่ได้เสนอขอหรือไม่ และมีผู้บุกรุกที่ดินดังกล่าวหรือไม่ เพื่อนำไปสู่การทำข้อตกลงเพื่อขอที่ดินคืนจากส่วนราชการต่าง ๆ เพื่อนำกลับมาใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงการคลัง โดยกรมธนารักษ์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
NEWS UPDATE

กรมธนารักษ์เปิดจ่ายแลกเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 130 ปี องค์กรอัยการ

วันนี้ (27 กรกฎาคม 2566) ณ กรมธนารักษ์ นายจำเริญ โพธิยอด อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง จัดทำเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 130 ปี องค์กรอัยการ เพื่อเป็นการน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว    ที่พระองค์ทรงนำระบบอัยการในประเทศภาคพื้นยุโรป และอังกฤษมาปฏิรูประบบกฎหมายและการศาลของไทย รวมทั้งเพื่อเป็นที่ระลึก และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลงานของสำนักงานอัยการสูงสุดให้หน่วยงาน องค์กร ประชาชนทั่วไปได้รับทราบ โดยจัดทำเป็นเหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล) ชนิดราคา 20 บาท ประเภทธรรมดา มีลวดลาย

ด้านหน้า กลางเหรียญมีพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์ชุดสากล ภายในวงขอบเหรียญเบื้องล่างมีข้อความว่า “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว”

ด้านหลัง กลางเหรียญมีรูปเครื่องหมายราชการของสำนักงานอัยการสูงสุด ภายในวงขอบเหรียญเบื้องบนมีข้อความว่า “๑๓๐ ปี องค์กรอัยการ ๑ เมษายน ๒๕๖๖” เบื้องล่างมีข้อความว่า “ประเทศไทย” ด้านขวามีเลขบอกราคาว่า “๒๐” ด้านซ้ายมีข้อความว่า “บาท”

ผู้ที่ประสงค์จะขอแลกเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกดังกล่าว สามารถติดต่อขอแลกได้ตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม 2566 เป็นต้นไป ตามช่องทางดังนี้
ส่วนกลาง
• กองบริหารเงินตรา ถนนพหลโยธิน จังหวัดปทุมธานี โทร. 0 2565 7944
• หน่วยรับและจ่ายแลกเหรียญกษาปณ์ ถนนจักรพงษ์ กรุงเทพมหานคร โทร. 0 2282 4109
• หน่วยจ่ายแลกเหรียญกษาปณ์ ถนนพระรามที่ 6 กรุงเทพมหานคร โทร. 0 2618 6340
ส่วนภูมิภาค
• สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ทั่วประเทศ
ช่องทางออนไลน์
• www.treasury.go.th (บริการออนไลน์ระบบบริการอิเล็กทรอนิกส์ด้านเหรียญ)
โดยการสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ ผู้สั่งซื้อเป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่ายในการจัดส่ง
ทั้งนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่กองบริหารเงินตรา โทร. 0 2565 7944 และCall Center กรมธนารักษ์ โทร. 0 2059 4999

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กรมธนารักษ์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
FEATURED NEWS NEWS

กรมธนารักษ์เปิดจ่ายแลกเหรียญกษาปณ์ ที่ระลึก 90 ปี กรมธนารักษ์

กรมธนารักษ์เปิดจ่ายแลกเหรียญกษาปณ์ ที่ระลึก 90 ปี กรมธนารักษ์

Facebook
Twitter
Email
Print

กรมธนารักษ์จัดทำเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 90 ปี กรมธนารักษ์ เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และเผยแพร่พระเกียรติคุณพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวให้แผ่ไพศาลไปทั้งภายในประเทศประเทศ และเป็นที่ระลึก

กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง จัดทำเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 90 ปี กรมธนารักษ์ เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และเผยแพร่พระเกียรติคุณพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร  มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวให้แผ่ไพศาลไปทั้งภายในประเทศและนานาประเทศ และเป็นที่ระลึก รวมทั้งเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ภารกิจของกรมธนารักษ์ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายทั่วไป
    
วันนี้ (18 พฤษภาคม 2566) ณ กรมธนารักษ์ นายจำเริญ โพธิยอด อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสครบ 90 ปี กรมธนารักษ์ ในวันที่ 23 พฤษภาคม 2566 กระทรวงการคลังได้อนุมัติให้กรมธนารักษ์จัดทำเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 90 ปี กรมธนารักษ์ โดยจัดทำ จำนวน 2 ประเภท ดังนี้
• เหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล) ชนิดราคา 20 บาท ประเภทขัดเงา ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 32 มิลลิเมตร น้ำหนัก 15 กรัม จำนวนผลิตไม่เกิน 100,000 เหรียญ ราคาจำหน่ายเหรียญละ 200 บาท พร้อมตลับ ใบรับรองและกล่อง
• เหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล) ชนิดราคา 20 บาท ประเภทธรรมดา ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 32 มิลลิเมตร น้ำหนัก 15 กรัม จำนวนผลิตไม่เกิน 1,000,000 เหรียญ ราคาจ่ายแลกเหรียญละ 20 บาท พร้อมตลับ

โดยมีลวดลายของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกในโอกาสดังกล่าว ดังนี้
ด้านหน้า กลางเหรียญมีพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์ชุดสากล ทรงประดับเหรียญที่ระลึกในการเสด็จพระราชดำเนินเยือนสหรัฐอเมริกาและทวีปยุโรป ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพล อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ภายในวงขอบเหรียญเบื้องล่าง       มีข้อความว่า “พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว”
ด้านหลัง กลางเหรียญมีรูปเครื่องหมายราชการของกรมธนารักษ์ ภายในวงขอบเหรียญเบื้องบนมีข้อความว่า “๙๐ ปี กรมธนารักษ์ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๖๖” เบื้องล่างมีข้อความบอกราคาว่า “๒๐ บาท” และข้อความว่า “ประเทศไทย” โดยมีลายไทยประดิษฐ์คั่นระหว่างข้อความเบื้องบนกับเบื้องล่างทั้งสองข้าง

ผู้ที่ประสงค์จะขอแลกเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกดังกล่าว สามารถติดต่อขอแลกได้ตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคม 2566 เป็นต้นไป ตามช่องทางดังนี้
ส่วนกลาง
• กองบริหารเงินตรา ถนนพหลโยธิน จังหวัดปทุมธานี โทร. 0 2565 7944
• หน่วยรับและจ่ายแลกเหรียญกษาปณ์ ถนนจักรพงษ์ กรุงเทพมหานคร โทร. 0 2282 4109
• หน่วยจ่ายแลกเหรียญกษาปณ์ ถนนพระรามที่ 6 กรุงเทพมหานคร โทร. 0 2618 6340
ส่วนภูมิภาค
• สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ทั่วประเทศ
ช่องทางออนไลน์
• www.treasury.go.th (บริการออนไลน์ระบบบริการอิเล็กทรอนิกส์ด้านเหรียญ) โดยการสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ ผู้สั่งซื้อเป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่ายในการจัดส่งทั้งนี้

สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่กองบริหารเงินตรา โทร. 0 2565 7944 และ Call Center กรมธนารักษ์ โทร. 0 2059 4999

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กรมธนารักษ์

 
Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE