Categories
NEWS UPDATE

ครม.ทุ่ม 2 พันล้าน ฟื้นฟู ‘ถนนเชียงราย’ พร้อม 16 จังหวัด

ครม.อนุมัติงบกลาง 2,049.69 ล้านบาท ฟื้นฟูถนนเสียหายจากอุทกภัย เน้นเชียงรายเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญ

เชียงราย, 6 พฤษภาคม 2568 – เวลา 11.35 น. ณ ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม. มีมติเห็นชอบอนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงินรวม 2,049.69 ล้านบาท เพื่อฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยและภัยพิบัติใน 17 จังหวัด โดยมีจังหวัดเชียงรายเป็นพื้นที่เป้าหมายสำคัญในการเร่งดำเนินการฟื้นฟู

การจัดสรรงบประมาณแบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ กรมทางหลวง 1,619.90 ล้านบาท และกรมทางหลวงชนบท 429.79 ล้านบาท เพื่อใช้ซ่อมแซมและปรับปรุงเส้นทางคมนาคมหลักและรองที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติในช่วงเดือนพฤษภาคม–ตุลาคม 2567 โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือและภาคใต้ที่ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง

เชียงราย จุดวิกฤตโครงข่ายถนนภาคเหนือ

จังหวัดเชียงรายได้รับการจัดสรรงบประมาณจากทั้งสองหน่วยงานรวมเป็นจำนวนมากที่สุดแห่งหนึ่ง เนื่องจากพบความเสียหายสะสมต่อเนื่องหลายระลอกจากพายุฤดูฝน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม ทำให้ถนนสายหลักอย่างแม่สรวย-เทิง และแม่จัน-เชียงแสน ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง รวมถึงสะพานขาดในหลายจุด

จากข้อมูลของกรมทางหลวง พบว่าในเดือนกันยายน 2567 อิทธิพลจากพายุ “ยางิ” ทำให้พื้นที่ 10 จุดในจังหวัดเชียงรายไม่สามารถสัญจรได้ ดินสไลด์และคอสะพานขาดหลายแห่ง โดยเฉพาะในอำเภอเมือง แม่สาย เวียงแก่นและเทิง ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชนและส่งผลต่อภาคขนส่งอย่างกว้างขวาง

กรมทางหลวงชนบทรายงานเพิ่มเติมว่าในปีเดียวกัน มีอย่างน้อย 9 สายทางในเชียงรายถูกน้ำกัดเซาะ ถนนทรุดตัว และสะพานพังเสียหาย ไม่สามารถใช้งานได้ รวมถึงทางเชื่อมไปยังพื้นที่ชายแดนที่มีบทบาททางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ เช่น จุดผ่านแดนถาวรแม่สาย

งบกลางฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานเพื่อประชาชน

สำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า การจัดสรรงบกลางครั้งนี้ มุ่งเน้นให้การซ่อมแซมถนนและสะพานเป็นไปอย่างเร่งด่วนภายในปีงบประมาณ 2568 โดยเบิกจ่ายในหมวดงบลงทุนค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้าง และดำเนินการฟื้นฟูในพื้นที่ 17 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ พะเยา ลำปาง แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย เลย ภูเก็ต ยะลา พิษณุโลก อุดรธานี หนองคาย และกาญจนบุรี

ภาพรวมความเสียหายทั่วประเทศ ปี 2567

ในช่วงกลางปี (ก.ค.–ส.ค.) ทช. รายงาน 7 สายทางได้รับผลกระทบในจังหวัดตาก กาญจนบุรี จันทบุรี และตราด โดย 6 สายทางไม่สามารถสัญจรได้ ขณะที่ทล. รายงานความเสียหาย 10 จุดในเชียงรายและแพร่ โดย 9 จุดไม่สามารถใช้งานได้

ช่วงปลายปี (ต.ค.–ธ.ค.) ความเสียหายขยายวงกว้างไปยังภาคใต้ โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา ปัตตานี นราธิวาส และยะลา ทล. รายงานว่า 63 จุดเสียหาย และมี 47 จุดไม่สามารถใช้งานได้ ส่วนทช. รายงาน 97 สายทางได้รับความเสียหายใน 6 จังหวัด โดย 66 สายทางใช้การไม่ได้

ปี 2568 ฟื้นฟูเพื่อป้องกันวิกฤตซ้ำซาก

รัฐบาลได้เตรียมการฟื้นฟูเชิงรุก โดย ครม. ยังอนุมัติงบกลางปี 2567 เพิ่มเติมอีก 3,017 ล้านบาท สำหรับซ่อมแซมความเสียหายในอีก 39 จังหวัดทั่วประเทศ นอกจากนี้ ยังมีแผนวางระบบบริหารความเสี่ยงและเตรียมพร้อมรับมือภัยธรรมชาติในปี 2568 โดยเน้นการเชื่อมโยงหน่วยงานภาครัฐส่วนกลางและส่วนท้องถิ่น

เชียงรายในฐานะศูนย์กลางฟื้นฟูภาคเหนือ

เชียงรายไม่เพียงได้รับผลกระทบรุนแรงจากภัยธรรมชาติในปีที่ผ่านมา แต่ยังเป็นจังหวัดที่มีบทบาทสำคัญด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจชายแดน การฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานในเชียงรายจึงเป็นประเด็นยุทธศาสตร์ที่ต้องดำเนินการควบคู่กับการส่งเสริมภาคการขนส่ง การท่องเที่ยว และการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก

สถิติที่เกี่ยวข้อง (ณ วันที่ 6 พฤษภาคม 2568)

  • จังหวัดเชียงราย ได้รับการจัดสรรงบรวมจาก ทล. และ ทช. เป็น 2 ใน 17 จังหวัด
  • ทล. รายงานความเสียหายในเชียงราย 10 จุด ในช่วง พ.ค.–ธ.ค. 2567
  • ทช. รายงานสายทางเสียหายในเชียงราย 9 สายทาง
  • งบกลางปี 2568 ฟื้นฟู 17 จังหวัด รวมวงเงิน 2,049.69 ล้านบาท (ทล. 1,619.90 ล้านบาท / ทช. 429.79 ล้านบาท)

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : 

  • สำนักนายกรัฐมนตรี (แถลงข่าว ครม. 6 พ.ค. 2568)
  • กระทรวงคมนาคม
  • กรมทางหลวง
  • กรมทางหลวงชนบท
  • สำนักงบประมาณ (สงป.)
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI ECONOMY

พัฒนาคมนาคม ‘เชียงราย’ เชื่อมรถไฟ-สนามบิน ลดจราจร

เชียงรายเดินหน้าพัฒนาโครงสร้างจราจรและคมนาคมแบบบูรณาการ ประชุมคณะอนุกรรมการจัดระบบการจราจรทางบกจังหวัดเชียงราย

เชียงราย,20 มีนาคม 2568 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมพญาพิภักดิ์ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดเชียงราย โดยมีนายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานการประชุม

ในครั้งนี้ มีคณะอนุกรรมการ ผู้แทนจากการรถไฟแห่งประเทศไทย และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม โดยมีการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ Webex Meeting เพื่อร่วมกำหนดแนวทางการพัฒนาและแก้ไขปัญหาการจราจรและขนส่งของจังหวัดให้มีประสิทธิภาพและปลอดภัยยิ่งขึ้น

ภารกิจหลักของคณะอนุกรรมการจราจร

คณะอนุกรรมการชุดนี้จัดตั้งตามคำสั่งของคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายเป็นประธาน และหัวหน้าสำนักงานจังหวัดเป็นเลขานุการ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง

หน้าที่หลักคือส่งเสริมการจัดทำแผนแม่บทจราจรและขนส่ง กำหนดมาตรการแก้ไขปัญหา และประสานแผนงานให้ดำเนินไปตามกรอบที่วางไว้ เพื่อยกระดับคุณภาพการจราจรในจังหวัด

โครงการรถไฟเด่นชัย – เชียงของ คืบหน้าแต่ยังล่าช้า

หนึ่งในหัวข้อสำคัญที่หารือ คือความคืบหน้าโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย – เชียงราย – เชียงของ ซึ่งดำเนินการโดยการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยมีความคืบหน้าร้อยละ 28.182 เมื่อเทียบกับแผนงานสะสมที่ร้อยละ 36.545 พบว่าล่าช้ากว่าแผนร้อยละ 8.363

คณะอนุกรรมการได้เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาและอุปสรรคที่พบระหว่างดำเนินโครงการ เพื่อลดผลกระทบต่อแผนงานในระยะยาว

แผนพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะเชียงราย

สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้นำเสนอการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะในจังหวัดเชียงราย โดยมีการศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลการเดินทางในเขตเมืองหลัก 11 จังหวัด

แผนนี้มีเป้าหมายเพื่อเชื่อมโยงระบบขนส่งในระดับภูมิภาค ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และสนับสนุนเศรษฐกิจในท้องถิ่นผ่านโครงข่ายขนส่งที่มีประสิทธิภาพ

พัฒนาและขยายท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย

ที่ประชุมยังได้รับฟังแผนพัฒนา “ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย” ในช่วงปี 2564–2578 โดยแบ่งเป็น 3 ระยะหลัก

  • ปี 2564–2568 ปรับปรุงและก่อสร้าง 10 รายการ
  • ปี 2568–2571 พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระยะที่ 1 รวม 12 รายการ
  • ปี 2571–2578 พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระยะที่ 2 อีก 5 รายการ

ปัจจุบันท่าอากาศยานสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 3 ล้านคนต่อปี และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอนาคตอันใกล้

ถนนเชื่อมรถไฟเชียงราย – สนามบิน: แกนหลักการขนส่ง

ประเด็นสำคัญอีกข้อ คือโครงการก่อสร้างถนนเชื่อมระหว่างสถานีรถไฟเชียงรายและท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุม

โดยมอบหมายให้กรมทางหลวงชนบท ศึกษาความเหมาะสมของโครงการ รวมถึงการเวนคืนที่ดินและขอรับงบประมาณสนับสนุนในลำดับถัดไป เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนและการขนส่งสินค้าที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต

ทิศทางการพัฒนาเมืองเชียงรายสู่อนาคต

การประชุมครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมของจังหวัดเชียงราย ทั้งยังสะท้อนเสียงจากภาคประชาชนผ่านคณะอนุกรรมการที่เป็นตัวแทนผู้ใช้ถนน

แผนต่างๆ ที่เสนอและรับฟัง จะเป็นพื้นฐานในการกำหนดทิศทางการพัฒนาเมืองในอนาคต เพื่อสร้างระบบขนส่งที่ยั่งยืน สะดวก ปลอดภัย และเป็นธรรมสำหรับทุกภาคส่วนในสังคม

สถิติที่เกี่ยวข้อง

  • โครงการรถไฟเด่นชัย – เชียงราย – เชียงของ คืบหน้า 28.182% (ข้อมูลจากการรถไฟแห่งประเทศไทย ปี 2568)
  • ความล่าช้าจากแผนสะสม 8.363%
  • ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย รองรับผู้โดยสารได้ 3,000,000 คน/ปี (ข้อมูลจาก บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ปี 2567)
  • แผนพัฒนาท่าอากาศยาน ระยะที่ 1 และ 2 รวม 27 โครงการ

ทัศนคติต่อประเด็นการพัฒนา

ฝ่ายสนับสนุนโครงการ มองว่าการพัฒนาเหล่านี้จะสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ เพิ่มความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกให้ประชาชนในระยะยาว โดยเฉพาะการเชื่อมโยงโครงข่ายขนส่งในพื้นที่

ขณะที่อีกฝ่ายเห็นว่าควรมีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่เวนคืนที่อาจได้รับผลกระทบ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและการพัฒนาอย่างยั่งยืน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย / การรถไฟแห่งประเทศไทย / สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) / บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) / ศาลากลางจังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI ECONOMY

แก้รถติด ‘สนามบินเชียงราย’ สร้างทางลอด 849 ล้าน เสร็จปี 70

กรมทางหลวงชนบทเร่งแก้รถติดหน้าสนามบินเชียงราย เสริมศักยภาพการเดินทาง

โครงการก่อสร้างทางลอดช่วยบรรเทาปัญหาการจราจร

กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ได้เดินหน้าโครงการก่อสร้างทางลอดบริเวณทางแยกศูนย์ราชการ ถนนสาย ชร.1023 อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด โดยเฉพาะบริเวณหน้าสนามบินนานาชาติแม่ฟ้าหลวง ซึ่งถือเป็นจุดคอขวดที่ส่งผลต่อการเดินทางของประชาชนและนักท่องเที่ยว โครงการนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2570

เสริมโครงสร้างพื้นฐาน เพิ่มขีดความสามารถในการเดินทาง

นายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เปิดเผยว่า ทช. ได้เริ่มดำเนินการปรับปรุงถนนและเตรียมก่อสร้างทางลอด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของโครงข่ายถนนให้สามารถรองรับปริมาณจราจรที่เพิ่มขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ โครงการนี้ไม่เพียงแต่ช่วยบรรเทาปัญหารถติด แต่ยังช่วยยกระดับเศรษฐกิจการค้าและการท่องเที่ยวของภาคเหนือตอนบนอีกด้วย

รายละเอียดโครงการก่อสร้างทางลอด

โครงการนี้ประกอบไปด้วย:

  • ก่อสร้างอุโมงค์ลอดทางแยก ขนาด 4 ช่องจราจร (ไป-กลับ) ความยาว 425.50 เมตร
  • ขยายสะพานข้ามแม่น้ำกก ให้มีความกว้างของช่องจราจรมากขึ้น ตลอดระยะทาง 410 เมตร
  • ปรับปรุงถนนบริเวณแยกศูนย์ราชการ รวมถึงติดตั้งระบบไฟฟ้าแสงสว่างและสาธารณูปโภคอื่น ๆ
  • ระยะทางดำเนินการทั้งหมด 1.635 กิโลเมตร
  • งบประมาณก่อสร้าง 849.800 ล้านบาท

ผลกระทบและมาตรการรองรับการก่อสร้าง

ในช่วงที่ดำเนินการก่อสร้าง ทช. ได้ติดตั้งมาตรการความปลอดภัยต่าง ๆ เช่น ป้ายเตือนลดความเร็ว และสัญญาณไฟกระพริบ เพื่อให้ประชาชนสามารถสังเกตเห็นได้ชัดเจน ทั้งนี้ ทช. ได้ขออภัยในความไม่สะดวกและจะรายงานความคืบหน้าของโครงการเป็นระยะ

การพัฒนาโครงข่ายถนนรองรับอนาคต

หลังจากโครงการแล้วเสร็จ จะสามารถแก้ไขปัญหาการจราจรที่แออัดหน้าสนามบินนานาชาติแม่ฟ้าหลวงได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังรองรับการขยายตัวของชุมชนและการพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงราย โดยการเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมหลักให้มีความสะดวกและปลอดภัยมากขึ้น

สถิติที่เกี่ยวข้องกับการจราจรในเชียงราย

  • จากข้อมูลของกรมทางหลวง พบว่า ปริมาณจราจรบริเวณหน้าสนามบินเชียงรายเพิ่มขึ้น กว่า 20% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
  • สนามบินนานาชาติแม่ฟ้าหลวงรองรับผู้โดยสารเฉลี่ย 2.5 ล้านคนต่อปี และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
  • ถนนสาย ชร.1023 เป็นเส้นทางหลักที่ใช้เชื่อมต่อสนามบินกับตัวเมืองเชียงราย โดยมีปริมาณรถยนต์ผ่านเข้า-ออกกว่า 30,000 คันต่อวัน

สรุปภาพรวมโครงการ

โครงการก่อสร้างทางลอดบริเวณหน้าสนามบินเชียงราย เป็นโครงการที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของจังหวัดเชียงราย ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาการจราจร เพิ่มศักยภาพการเดินทาง และเสริมสร้างเศรษฐกิจการค้าการท่องเที่ยวของพื้นที่ให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กรมทางหลวงชนบท กระทรวงคมนาคม

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

คืบหน้าสร้าง ถนน อ.เทิง-อ.จุน เชื่อม 2 จังหวัด เชียงรายและพะเยา

 

เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2567 นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เปิดเผยว่า กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ดำเนินโครงการก่อสร้างถนนทางหลวงชนบทสายแยก ทล.1020 – บ้านกิ่วแก้ว อำเภอเทิง, จุน จังหวัดเชียงราย, พะเยา โดยปัจจุบันโครงการมีความคืบหน้ากว่าร้อยละ 82 อยู่ระหว่างดำเนินงานชั้นโครงสร้างทาง งานก่อสร้าง

 
ผิวจราจรแอสฟัลท์ติกคอนกรีต งานก่อสร้างสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก และงานไฟฟ้าส่องสว่าง คาดว่าจะก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ในเดือนธันวาคม 2567 นี้ เมื่อก่อสร้างเสร็จจะสามารถใช้เป็นเส้นทางลัดจากอำเภอเชียงของมายังกรุงเทพมหานครโดยไม่ต้องผ่านตัวอำเภอภูซาง อำเภอเชียงคำ และอำเภอจุน ช่วยลดระยะทาง ได้ประมาณ 20 กิโลเมตร พร้อมสนับสนุนการเดินทางและการขนส่งภาคเหนือตอนบน ช่วยยกระดับการคมนาคม การท่องเที่ยวระหว่างประเทศ เนื่องจากจังหวัดพะเยาและจังหวัดเชียงรายมีเขตติดกับประเทศเมียนมา สปป.ลาว และสามารถเชื่อมต่อไปยังตอนใต้ของประเทศจีนได้ 
 
 
จึงใช้เป็นเส้นทางเชื่อมต่อการขนส่งลำเลียงสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังช่วยรองรับปริมาณการจราจรที่เพิ่มขึ้นจากการพัฒนาเขตสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ ตลอดจนประชาชนที่จะใช้เส้นทางผ่านสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 4 (เชียงของ – ห้วยทราย) และจากท่าเรือเชียงของได้อีกด้วย โครงการก่อสร้างถนนทางหลวงชนบทสายแยก ทล.1020 – บ้านกิ่วแก้ว อำเภอเทิง, จุน จังหวัดเชียงราย, พะเยา มีระยะทางรวม 43.709 กิโลเมตร 
 
 
ในการก่อสร้างแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือการปรับปรุงขยายถนนเดิมในบริเวณทับซ้อนถนนสาย พย.4025 เดิมช่วง กม.ที่ 5+000 – 11+900 และ กม.ที่ 13+000 – 15+500 ระยะทางประมาณ 9.4 กิโลเมตร และการก่อสร้างถนนใหม่ บริเวณ กม.ที่ 0+000 – 5+000, 11+900 – 13+000 และ 15+500 – 43+709 รวมระยะทาง 34.309 กิโลเมตร 
 
 
ซึ่งก่อสร้างเป็นถนนแอสฟัลท์ติกคอนกรีตขนาด 2 – 4 ช่องจราจร กว้างช่องละ 3.50 เมตร ไหล่ทางกว้าง 2.50 เมตร พร้อมก่อสร้างสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กขนาดใหญ่ข้ามแม่น้ำลาว 1 แห่ง สะพานคอนกรีตเสริมเหล็กขนาดเล็ก 12 แห่ง รวมถึงโครงสร้างระบายน้ำ อุปกรณ์อำนวยความปลอดภัย สัญญาณไฟจราจร และไฟฟ้าส่องสว่างตลอดสายทาง โดยใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 1,199 ล้านบาท
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กรมทางหลวงชนบท กระทรวงคมนาคม

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

คืบหน้า 85% ถนนโครงการหลวงห้วยโป่ง คาดเดือน ก.ค. 67 นี้ เชียงรายได้ใช้

 

 

เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2567กรมทางหลวงชนบท สร้างถนนสนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยโป่ง จ.เชียงราย กว่า 19 กิโลเมตร คืบหน้า 85% เพิ่มความสะดวกปลอดภัยในการเดินทางให้กับประชาชน พร้อมส่งเสริมเศรษฐกิจ สนับสนุนการขนส่งผลผลิตทางการเกษตรในพื้นที่และการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ

 

นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เปิดเผยว่า กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ได้ดำเนินโครงการก่อสร้างถนนทางหลวงชนบทสายแยก ทล.118 – บ้านทุ่งยาว (ช่วงที่ 1) อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย นับเป็นความภาคภูมิใจของ ทช. ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการได้รับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาท ในการสร้างเส้นทางสนับสนุนพื้นที่ของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยโป่ง อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชนในพื้นที่ สามารถขนส่งผลิตผลทางการเกษตรให้ออกสู่ตลาดได้ทันเวลา
 
 
โครงการก่อสร้างถนนทางหลวงชนบทสายแยก ทล.118 – บ้านทุ่งยาว (ช่วงที่ 1) อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย เป็นเส้นทางเชื่อมจาก ทล.118 (ถนนสายเชียงใหม่ – เชียงราย) จากบริเวณ กม.ที่ 76+100 ด้านซ้ายทาง เข้าสู่อุทยานแห่งชาติขุนแจ โดยผ่านอ่างเก็บน้ำดอยงู บ้านทุ่งยาว บ้านห้วยทราย บ้านปางมะกาด บ้านป่าเมี่ยงม่อนวัด บ้านห้วยคุณพระ และบ้านขุนลาว ประชาชนในพื้นที่ยังใช้เป็นเส้นทางขนส่งสินค้าทางการเกษตร ทช. จึงได้ดำเนินโครงการก่อสร้างถนนใหม่ผิวจราจรคอนกรีตเสริมเหล็ก และผิวจราจรแอสฟัลท์ติกคอนกรีต ขนาด 2 ช่องจราจร กว้างช่องจราจรละ 2 – 2.5 เมตร พร้อมก่อสร้างสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก
 
 
3 แห่ง ติดตั้งระบบระบายน้ำ เครื่องหมายจราจร และอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัย ตั้งแต่บริเวณช่วง กม.ที่ 2+750 ถึง กม.ที่ 37+702 เป็นช่วง ๆ รวมระยะทาง 19.800 กิโลเมตร ปัจจุบันโครงการดังกล่าวมีความคืบหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 85 ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างระบบระบายน้ำ งานชั้นโครงสร้างทาง โดยคาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จสมบูรณ์ภายในเดือนกรกฎาคม 2567 โดยเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะช่วยส่งเสริมการขนส่งระบบโลจิสติกส์ให้สมบูรณ์ตามยุทธศาสตร์ด้านคมนาคม ให้กับประชาชนในพื้นที่ให้สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกปลอดภัยในทุกฤดู และยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติในพื้นที่อุทยานแห่งชาติขุนแจได้อีกทางหนึ่ง

 

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

ทางหลวงแจง แท่งปูนห้อยบนถนน เทิง – เชียงคำ จากภาพที่ปรากฏในข่าว

 
เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2567 นายยงยุทธ์ เพ็งเมือง ผู้อำนวยการสำนักก่อสร้างทาง กรมทางหลวงชนบท ชี้แจงว่า โครงการก่อสร้างถนนสายแยก ทล.1020 – บ้านกิ่วแก้ว อำเภอเทิง, จุน จังหวัดเชียงราย, พะเยา อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างสะพาน Box Segment เพื่อข้ามถนน ทล.1021 จากภาพที่ปรากฏในข่าวเป็นการยก Box Segment จากกรณีสำนักข่าว นครเชียงรายนิวส์ได้มีการเผยแพร่ข่าว แท่งปูนห้อยต่องแต่งกลางถนน บริเวณถนนเทิง – เชียงคำ จนทำให้หลายคนตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะซ้ำรอยเหตุการณ์สะพานถล่มที่ถนนพระราม 2 นั้น
 
 

โดยออกหนังสือชี้แจงจากสำนักก่อสร้างทาง ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในข่าว ขอเรียนชี้แจงว่า โครงการก่อสร้างถนนสายแยก ทล.1020 – บ้านกิ่วแก้ว อำเภอเทิง, จุน จังหวัดเชียงราย, พะเยา อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างสะพาน Box Segment เพื่อข้ามถนน ทล.1021 จากภาพที่ปรากฏในข่าวเป็นการยก Box Segment ซึ่งสำนักก่อสร้างทางได้ทำการยกและจัดเรียงด้านซ้ายทางและขวาทาง เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2567 เวลา 13.00 น. จากนั้นได้ดำเนินการดึงลวดอัดแรง เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2567 เวลา 18.00 น. ระหว่างดำเนินการได้ประชาสัมพันธ์และจัดเจ้าหน้าที่เพื่ออำนวยความสะดวกและปลอดภัยให้กับประชาชน

 

โดยเริ่มดำเนินการด้านขวาทางของถนน ทล.1021 และได้ปิดการจราจรให้ใช้ทางเบี่ยงในระหว่างที่ยกและจัดเรียง Box Segment จนดึงลวดอัดแรงแล้วเสร็จ สำหรับด้านซ้ายทางของ ทล.1021 ไม่สามารถก่อสร้างทางเบี่ยงได้ เนื่องจากพื้นที่ไม่เพียงพอ จึงปิดให้ใช้ ทล.1021 ได้ 1 ช่องจราจร ซึ่งให้เจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในบริเวณดังกล่าว พร้อมทั้งได้ประสานงานเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ให้ปิดกั้นรถไม่ให้ผ่านในช่วงยกและจัดเรียง รวมถึงได้เปิดการจราจรให้ผู้ใช้เส้นทางสัญจรไปมาเป็นช่วง โดยโครงการได้มีมาตรการตรวจสอบความปลอดภัย ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยทางวิศวกรรม ปัจจุบันได้ดำเนินการแล้วเสร็จ และได้เปิดการจราจรให้ประชาชนใช้สัญจรได้ตามปกติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม สำนักก่อสร้างทาง มีความห่วงใยในความปลอดภัยของประชาชน และขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้

 

จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาให้ความอนุเคราะห์เผยแผร่ข้อเท็จจริงดังกล่าวให้ประชาชนได้รับทราบโดยทั่วกันและขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้“

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กรมทางหลวงชนบท

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News