Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

อบจ.เชียงรายลุย Big Cleaning Day เตรียมพร้อมมหกรรมไม้ดอก

อบจ.เชียงราย จัด Big Cleaning Day เตรียมพร้อมมหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงราย

เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2567 เวลา 13.00 น. องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย (อบจ.เชียงราย) ได้จัดกิจกรรมทำความสะอาด Big Cleaning Day บริเวณโดยรอบสวนไม้งามริมน้ำกก ตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย โดยมีหัวหน้าส่วนราชการและบุคลากรจากทุกสำนักและกองของ อบจ.เชียงราย เข้าร่วมทำความสะอาดอย่างพร้อมเพรียง

กิจกรรมครั้งนี้มีการเก็บกวาดใบไม้ ขยะ และสิ่งสกปรกต่างๆ พร้อมทั้งล้างทำความสะอาดบริเวณพื้นถนนรอบพื้นที่สวนไม้งามริมน้ำกก เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการจัดงาน มหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงราย ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 ธันวาคม 2567 ถึงวันที่ 5 มกราคม 2568 ณ สวนไม้งามริมน้ำกก อบจ.เชียงราย ตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย และงานมหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงรายโซนอำเภอแม่สาย ระหว่างวันที่ 14 ธันวาคม 2567 ถึงวันที่ 5 มกราคม 2568 ณ วัดถ้ำเสาหินพญานาค ตำบลโป่งงาม และบริเวณหน้าด่านพรมแดนไทย-เมียนมา ตำบลแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย

กระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการท่องเที่ยว Social Impact Tourism

นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ กล่าวถึงการจัดงานมหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงรายว่า งานดังกล่าวนอกจากจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวแล้ว ยังมุ่งเน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ภายใต้แนวคิด “Social Impact Tourism เที่ยวเชียงราย…ช่วยเชียงราย” ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างการส่งเสริมการท่องเที่ยวกับการช่วยพัฒนาท้องถิ่น โดยมุ่งเน้นให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชนและเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างยั่งยืน

มหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงราย: ไฮไลต์ที่น่าสนใจ

งานมหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงรายปีนี้จะมีการจัดแสดงความสวยงามของดอกไม้นานาพันธุ์ที่ตกแต่งอย่างประณีต พร้อมการจัดสวนแบบธีมที่สะท้อนอัตลักษณ์ของเชียงรายและประเทศในอาเซียน กิจกรรมเด่นในงาน ได้แก่

  • การประกวดจัดสวนไม้ดอกไม้ประดับ
  • นิทรรศการเกี่ยวกับพันธุ์ไม้หายาก
  • การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน
  • ตลาดนัดสินค้าเกษตรและงานฝีมือจากชุมชน
  • การแสดงดนตรีและกิจกรรมบันเทิงต่างๆ

ในส่วนของโซนอำเภอแม่สาย งานจะจัดขึ้นบริเวณวัดถ้ำเสาหินพญานาค ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความโดดเด่นด้านศิลปะและวัฒนธรรม รวมถึงบริเวณหน้าด่านพรมแดนไทย-เมียนมา เพื่อส่งเสริมการเชื่อมโยงด้านการท่องเที่ยวข้ามพรมแดน

เป้าหมายการพัฒนาและภาพลักษณ์จังหวัดเชียงราย

การจัดงานครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญที่ช่วยสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้กับจังหวัดเชียงรายในฐานะแหล่งท่องเที่ยวคุณภาพ โดยมุ่งเน้นการยกระดับมาตรฐานการท่องเที่ยวให้เทียบเท่าสากล พร้อมส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

อบจ.เชียงราย เชื่อมั่นว่ามหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงรายจะเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมความน่าสนใจของเชียงราย และสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่มาเยือน

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในมหกรรมแห่งสีสันและความสวยงามของไม้ดอกได้ตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม 2567 ถึงวันที่ 5 มกราคม 2568 นี้ แล้วพบกันที่เชียงราย!

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
FOLLOW ME
MOST POPULAR
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เปิดสะพานบ้านดงเจริญ เชื่อมชุมชนเชียงราย เสริมพัฒนาคมนาคม

เปิดสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก บ้านดงเจริญ เชื่อมโยงชุมชนเชียงราย สร้างโอกาสการพัฒนา

เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2567 ณ บ้านดงเจริญ หมู่ที่ 17 ตำบลป่าอ้อดอนชัย อำเภอเมืองเชียงราย นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิดสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก บ้านดงเจริญ เชื่อมต่อบ้านป่าบง หมู่ที่ 10 ตำบลบัวสลี อำเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย โดยมีนายสะอาด ปัญญาดี สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย อำเภอเมืองเชียงราย เขต 4 เข้าร่วม พร้อมด้วยนายสุรพ์พลฎ์ ดุรงคชยานุรักษ์ นายกเทศมนตรีตำบลป่าอ้อดอนชัย คณะผู้บริหาร ปลัดเทศบาลตำบลป่าอ้อดอนชัย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น

ความสำคัญของโครงการสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก

องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมและการเชื่อมโยงชุมชน จึงได้สนับสนุนงบประมาณ พ.ศ. 2566 สำหรับการก่อสร้างสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กดังกล่าว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสัญจร ความสะดวกสบาย และความปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่ตำบลป่าอ้อดอนชัยและตำบลบัวสลี รวมถึงเป็นการยกระดับระบบการขนส่งและการคมนาคมของชุมชน

สะพานคอนกรีตเสริมเหล็กแห่งนี้เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างบ้านดงเจริญและบ้านป่าบง ซึ่งช่วยลดระยะเวลาการเดินทางของประชาชนในพื้นที่ ลดความยากลำบากในการขนส่งสินค้าเกษตร และเสริมสร้างโอกาสในการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนในระยะยาว

ผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชน

ประชาชนในพื้นที่ต่างแสดงความพึงพอใจต่อการก่อสร้างสะพานดังกล่าว ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความสะดวกในการเดินทางและการขนส่ง แต่ยังช่วยลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นบนเส้นทางที่ขาดความปลอดภัย นอกจากนี้สะพานแห่งนี้ยังเปิดโอกาสให้ชุมชนทั้งสองตำบลมีการเชื่อมโยงกันมากขึ้น สร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจและสังคมที่เข้มแข็งยิ่งขึ้น

นายสุรพ์พลฎ์ ดุรงคชยานุรักษ์ นายกเทศมนตรีตำบลป่าอ้อดอนชัย กล่าวว่า โครงการนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาชุมชนในท้องถิ่น การเชื่อมโยงตำบลป่าอ้อดอนชัยและตำบลบัวสลีช่วยลดช่องว่างทางการคมนาคม และเพิ่มโอกาสในการพัฒนาอย่างยั่งยืน

แผนพัฒนาต่อเนื่อง

นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ ได้กล่าวในพิธีเปิดว่า การพัฒนาสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กบ้านดงเจริญเป็นหนึ่งในโครงการที่สะท้อนถึงความตั้งใจขององค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงรายในการพัฒนาท้องถิ่น โดยจะมีการติดตามผลกระทบและการใช้งานสะพานอย่างใกล้ชิด เพื่อปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพให้ตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังมีแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมในพื้นที่อื่น ๆ ต่อไป เพื่อส่งเสริมการพัฒนาที่ครอบคลุมทุกมิติ

เสียงสะท้อนจากชุมชน

นายคำปัน ผู้ใหญ่บ้านดงเจริญ ได้กล่าวขอบคุณองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงรายสำหรับการสนับสนุนที่สำคัญนี้ ชาวบ้านรู้สึกดีใจที่มีสะพานเชื่อมโยงชุมชน ซึ่งช่วยให้การเดินทางสะดวกสบายมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่ผ่านมาซึ่งเส้นทางเดิมมักประสบปัญหาน้ำท่วมและเสื่อมโทรม

สะพานคอนกรีตเสริมเหล็กแห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์ของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน แต่ยังเป็นสะพานแห่งความหวังที่จะเชื่อมโยงชุมชนให้เข้มแข็งและเติบโตไปพร้อมกัน สะพานแห่งนี้จึงเป็นตัวอย่างของความร่วมมือที่สร้างสรรค์ระหว่างหน่วยงานภาครัฐและประชาชนในการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ป๊ะ ปุ๊ แป๋ง เปี๊ยะ ปี 2 เชียงราย สุขก๋าย ม่วนใจ๋

กิจกรรม “ป๊ะ ปุ๊ แป๋ง เปี๊ยะ ปี 2” สร้างพื้นที่สร้างสรรค์ ลดผลกระทบแอลกอฮอล์ในเชียงราย

เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2567 ณ บ้านสิงหไคล (มูลนิธิมดชนะภัย) ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย นายราชัน มีน้อย รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรม “ป๊ะ ปุ๊ แป๋ง เปี๊ยะ ปี 2” ภายใต้แนวคิด “จับเข่าเล่าเรื่องเพื่อคนเจียงฮาย สุขก๋าย ม่วนใจ๋” โดยกิจกรรมนี้มุ่งเน้นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แชร์ โชว์ เชื่อม และกำหนดแนวทางการพัฒนาร่วมกันผ่านเวทีเสวนา โดยมีหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชน และเครือข่ายต่าง ๆ เข้าร่วมอย่างคับคั่ง

เป้าหมายและที่มา

นายณรงค์ฤทธิ์ หน่อแหวน ผู้ประสานงานประชาคมงดเหล้าจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า จังหวัดเชียงรายมีอัตราการดื่มสุราในกลุ่มประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไป สูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศ โดยในปีงบประมาณ 2566 จากการคัดกรองประชากรจำนวน 300,059 ราย พบว่ามีผู้ดื่มสุราร้อยละ 32.03 และมีผู้ที่อยู่ในความเสี่ยงระดับสูงร้อยละ 0.72

กิจกรรมในปีนี้ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) เพื่อมุ่งเน้นการลด ละ เลิก การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในกลุ่มนักดื่มทั้งเก่าและใหม่ และส่งเสริมแนวคิด “เลิกเหล้า สร้างอาชีพ” เพื่อสร้างโอกาสและพัฒนาคุณภาพชีวิตในชุมชน

กิจกรรมภายในงาน

กิจกรรมในงาน “ป๊ะ ปุ๊ แป๋ง เปี๊ยะ ปี 2” มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของแกนนำในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่

  1. อำเภอเวียงชัย
  2. อำเภอเทิง
  3. อำเภอแม่จัน
  4. อำเภอพาน
  5. อำเภอเวียงป่าเป้า
  6. อำเภอแม่สาย
  7. อำเภอเชียงแสน

ผู้เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 150 คน ประกอบด้วยกลุ่มเป้าหมายจากเครือข่ายเยาวชน YSDN เชียงราย ชมรมคนหัวใจเพชร กลุ่มพลังหญิง เครือข่ายโรงเรียนพระโพธิสัตว์น้อย รวมถึงประชาคมงดเหล้าจังหวัดเชียงราย

กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย

  • การนำเสนอผลการดำเนินงานประจำปี 2566/67
  • เวทีเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
  • การแสดงนิทรรศการผลงานและกิจกรรมสร้างสรรค์ที่ส่งเสริมการสื่อสารและการแสดงออกในกลุ่มเยาวชน
  • การจัดแสดงผลงานชุมชนปลอดเหล้า
  • พื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก เยาวชน และครอบครัว

ผลลัพธ์และความสำเร็จ

กิจกรรมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแผนการพัฒนาเพื่อสร้างชุมชนเชียงรายที่ปราศจากปัจจัยเสี่ยง โดยใช้ชุมชนเป็นฐานในการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น พชอ. ภาคีเครือข่ายในพื้นที่ เครือข่ายพระสงฆ์ และสถานศึกษา

นายณรงค์ฤทธิ์ หน่อแหวน กล่าวเสริมว่า การจัดงานในครั้งนี้ไม่เพียงแต่สร้างความตระหนักรู้ถึงปัญหาการบริโภคแอลกอฮอล์เท่านั้น แต่ยังเป็นเวทีสำคัญที่ช่วยเชื่อมโยงเครือข่ายต่าง ๆ และสร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับการแสดงออกและพัฒนาศักยภาพของเด็กและเยาวชน

ป๊ะ ปุ๊ แป๋ง เปี๊ยะ” ในปีนี้จึงถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จในการขับเคลื่อนนโยบายสู่การพัฒนาชุมชนที่ยั่งยืน เพื่อสร้างสรรค์เชียงรายให้เป็นพื้นที่ที่สุขกาย ม่วนใจ๋ อย่างแท้จริง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เชียงรายจัดสัมมนาพัฒนาเศรษฐกิจยั่งยืน รองนายกฯ ร่วมผลักดัน

เชียงรายขับเคลื่อนเศรษฐกิจยั่งยืน รองนายกฯ ร่วมสัมมนาพัฒนานครเชียงรายในอนาคต

เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2567 นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย เพื่อเข้าร่วมการสัมมนาวิชาการภายใต้โครงการ “เสริมสร้างความยั่งยืนของการพัฒนาและนครเชียงรายในอนาคต” ณ โรงแรม เลอ เมอริเดียน เชียงราย รีสอร์ท โดยมีผู้ร่วมงานสำคัญ ได้แก่ ร.ต.อ.ธนรัช จงสุทธานามณี เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย หัวหน้าส่วนราชการ ผู้ประกอบการธุรกิจในพื้นที่ และสื่อมวลชน

วัตถุประสงค์และเป้าหมายของการสัมมนา

กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนในจังหวัดเชียงราย โดยมุ่งเน้นการสร้างแนวทางพัฒนาที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) และยกระดับจังหวัดเชียงรายให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญในภูมิภาค

การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน

การสัมมนาได้เปิดพื้นที่ให้ผู้แทนจากภาครัฐ ภาคเอกชน นักวิชาการ และภาคประชาชน ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับศักยภาพของจังหวัดเชียงรายในด้านต่างๆ เช่น

  • การส่งเสริมการท่องเที่ยว
  • การพัฒนาการค้าชายแดน
  • การเชื่อมโยงความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง

โดยมีเป้าหมายให้เชียงรายเป็นเมืองต้นแบบที่สมดุลในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม พร้อมพัฒนาศักยภาพเขตเศรษฐกิจพิเศษให้รองรับความต้องการของประชาชนในระยะยาว

แผนฟื้นฟูหลังอุทกภัยและการพัฒนาที่ยั่งยืน

นอกจากนี้ยังมีการหารือถึงแนวทางในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสภาพพื้นที่ของจังหวัดเชียงรายภายหลังการเกิดอุทกภัยที่ผ่านมา โดยการบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ประกอบการในพื้นที่ เพื่อกำหนดแนวทางในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และเสนอแผนงานต่อจังหวัดเชียงรายและรัฐบาล

แนวทางพัฒนานครเชียงรายในอนาคต

การสัมมนาเน้นย้ำความสำคัญของการพัฒนาเชียงรายในฐานะเมืองต้นแบบที่มีการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการพัฒนาที่สมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม อาทิ

  • การพัฒนาการค้าชายแดนและการเชื่อมโยงในระดับภูมิภาค
  • การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน
  • การจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน

ข้อเสนอและความร่วมมือ

ข้อเสนอที่ได้จากการสัมมนาจะถูกนำไปพิจารณาและดำเนินการเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงรายในระยะยาว โดยคำนึงถึงความต้องการของประชาชนและการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

การสัมมนาครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการวางแผนพัฒนาเชียงรายให้เติบโตเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญในภูมิภาค และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาคส่วนต่างๆ เพื่อสร้างอนาคตที่มั่นคงและยั่งยืนสำหรับชาวเชียงราย.

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : เทศบาลนครเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

เชียงรายจัดงานปีใหม่ไตย ครั้งที่ 28 สืบสานวัฒนธรรมไทยใหญ่

เชียงรายจัดยิ่งใหญ่ งานอนุรักษ์วัฒนธรรมปีใหม่ไตย ครั้งที่ 28 เสริมสร้างความสามัคคี-กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน

เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 เวลา 18.30 น. นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “โครงการอนุรักษ์วัฒนธรรมปีใหม่ไตย” ประจำปี 2567 ครั้งที่ 28 ณ ลานสนามกลางบ้านเทอดไทย หมู่ 1 ตำบลเทอดไทย อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย โดยมีนายเสน่ห์ ปัญญาดี ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ นายก อบจ.เชียงราย ร่วมในพิธี พร้อมด้วยนายเชิดชาย ชาลี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเทอดไทย ผู้กล่าวรายงานการจัดงาน นอกจากนี้ยังมีนายอานนท์ ขันคำ ปลัดอาวุโส อำเภอแม่ฟ้าหลวง นายปิติ อ่วยยื่อ กำนันตำบลเทอดไทย รวมถึงหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมอย่างคับคั่ง

เผยแพร่วัฒนธรรมไตย-ส่งเสริมการท่องเที่ยว

งานอนุรักษ์วัฒนธรรมปีใหม่ไตยครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 28 เพื่อสืบสานและเผยแพร่ประเพณี วัฒนธรรม และวิถีชีวิตดั้งเดิมของพี่น้องชาวไทยใหญ่ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ทั้งในกลุ่มประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และสร้างรายได้ให้กับชุมชนอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังเป็นการเสริมสร้างความสามัคคีในชุมชน รวมถึงสานสัมพันธ์อันดีระหว่างชนเผ่าต่างๆ ในพื้นที่และบริเวณใกล้เคียง

เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

โครงการนี้ยังมีจุดมุ่งหมายเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ โดยเป็นการส่งเสริมวัฒนธรรมอันดีงามของชาวไทยใหญ่ให้คงอยู่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญต่อไป

กิจกรรมภายในงาน

งานอนุรักษ์วัฒนธรรมปีใหม่ไตยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 3 ธันวาคม 2567 โดยภายในงานมีกิจกรรมหลากหลายที่สะท้อนวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวไทยใหญ่ เช่น

  • การแสดงวัฒนธรรมกลุ่มชาติพันธุ์ 7 ชนเผ่า
  • การแสดงชุดชนเผ่าไทยใหญ่
  • นิทรรศการภูมิปัญญาท้องถิ่นและวิถีชีวิตชนเผ่าไทยใหญ่
  • การแข่งขันกีฬาพื้นเมือง
  • การแสดงดนตรีพื้นบ้านไทยใหญ่
  • การแสดงรำนก-รำโต
  • การแสดงจากนักร้องชนเผ่าไทยใหญ่

กิจกรรมทั้งหมดจัดขึ้น ณ ลานสนามกลางบ้านเทอดไทย หมู่ 1 ตำบลเทอดไทย อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงรายได้สนับสนุนงบประมาณเพื่อการจัดงานครั้งนี้ให้สำเร็จลุล่วง

เป้าหมายสำคัญ: อนุรักษ์วัฒนธรรมและสร้างรายได้ชุมชน

นางอทิตาธรกล่าวในพิธีเปิดว่า งานนี้เป็นส่วนหนึ่งของการอนุรักษ์และส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณีไทยใหญ่ ให้คงอยู่คู่ชุมชนไทยใหญ่ และยังช่วยสร้างรายได้ให้กับชุมชนจากการท่องเที่ยวและการจัดกิจกรรมต่างๆ ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน

งานอนุรักษ์วัฒนธรรมปีใหม่ไตยไม่เพียงเป็นโอกาสสำหรับชาวไทยใหญ่ในการเฉลิมฉลองปีใหม่ แต่ยังเป็นพื้นที่แห่งการรวมตัวของคนในชุมชนเพื่อแสดงออกถึงความภาคภูมิใจในมรดกวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า.

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

นายกฯ มอบบัตรประชาชน 72 ชาติพันธุ์ เชียงราย ลดขั้นตอนเหลือ 5 วัน

นายกรัฐมนตรีมอบบัตรประชาชนให้กลุ่มชาติพันธุ์ 72 ราย ชูความสำเร็จในการเร่งกระบวนการลดปัญหาสถานะทางทะเบียน

เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2567 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ได้เดินทางไปยังศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ GMS เชียงราย ต.ริมกก อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย เพื่อเป็นประธานในพิธีมอบบัตรประจำตัวประชาชนให้แก่ตัวแทนบุคคลที่มีปัญหาสถานะทางทะเบียน ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์จำนวน 72 ราย โดยมีประชาชนเข้าร่วมเป็นสักขีพยานกว่า 2,000 คน

ในงานนี้มีผู้บริหารระดับสูงของจังหวัดเชียงรายเข้าร่วม ได้แก่ นายประเสริฐ จิตพลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย รวมถึงผู้แทนจากองค์การสหประชาชาติ เช่น UNHCR และองค์การยูนิเซฟ ที่ให้การสนับสนุนการจัดงานครั้งนี้ด้วย

นโยบายให้สัญชาติ: ความหวังของกลุ่มชาติพันธุ์

นายกรัฐมนตรีกล่าวในพิธีว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาสถานะทางทะเบียนของกลุ่มชาติพันธุ์และผู้ที่ไม่มีบัตรประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มดำเนินการสำรวจและขึ้นทะเบียนกลุ่มเป้าหมายมาตั้งแต่ปี 2527 ตามมติคณะรัฐมนตรีในขณะนั้น โดยมีหลักเกณฑ์สำคัญ เช่น บุคคลต้องมีชื่อในทะเบียนบ้าน มีเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก พำนักอยู่ในประเทศไทยไม่น้อยกว่า 15 ปี และไม่มีประวัติอาชญากรรมร้ายแรง

“วันนี้เป็นก้าวสำคัญที่พี่น้องชาติพันธุ์ทั้ง 72 คน ได้รับบัตรประชาชน และขอแสดงความยินดีกับทุกคนที่รอคอยมานาน รัฐบาลจะยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหานี้อย่างต่อเนื่อง และจะจัดสรรทรัพยากรเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานในทุกด้าน” น.ส.แพทองธารกล่าว

การลดขั้นตอนการขอสัญชาติ: ความเปลี่ยนแปลงที่จับต้องได้

ในอดีต กระบวนการขอสัญชาติและบัตรประชาชนของผู้ที่ไม่ได้เกิดในประเทศไทยใช้เวลานานถึง 270 วัน ขณะที่ผู้ที่เกิดในประเทศไทยต้องรอประมาณ 180 วัน แต่ปัจจุบัน คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหลักเกณฑ์ใหม่ที่ลดระยะเวลาดำเนินการเหลือเพียง 5 วัน เพื่อสร้างความหวังให้กับกลุ่มชาติพันธุ์และลดความซับซ้อนของกระบวนการ

“มาตรการใหม่นี้ไม่ได้ลดเพียงขั้นตอน แต่ยังเพิ่มกลไกตรวจสอบความปลอดภัย เพื่อให้กระบวนการเป็นธรรมและโปร่งใสมากขึ้น” นายกรัฐมนตรีกล่าวเสริม

บรรยากาศในงาน: ความหวังและความสุขของผู้ได้รับบัตร

บรรยากาศในงานเต็มไปด้วยความสุขและความตื่นเต้นของกลุ่มชาติพันธุ์ที่ได้รับบัตรประชาชนครั้งแรก ตัวแทนกลุ่มชาติพันธุ์ที่ได้รับบัตรในครั้งนี้มาจากหลายเผ่า เช่น ไทใหญ่ อาข่า ลาหู่ และลีซู พวกเขาแสดงความขอบคุณต่อรัฐบาลที่ช่วยให้พวกเขาได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานในฐานะพลเมืองไทย

หนึ่งในตัวแทนผู้ได้รับบัตรกล่าวว่า “วันนี้เป็นวันที่รอคอยมานาน ผมดีใจที่ในที่สุดก็ได้รับบัตรประชาชน เพราะมันหมายถึงความเท่าเทียมในฐานะคนไทยและอนาคตที่มั่นคงขึ้น”

ปัญหาที่รอการแก้ไข: เป้าหมายต่อไปของรัฐบาล

แม้จะมีความคืบหน้าในครั้งนี้ แต่ยังมีกลุ่มชาติพันธุ์อีกเกือบ 500,000 คน ที่ยังไม่ได้รับบัตรประชาชนและยังอยู่ในกระบวนการพิจารณา นายกรัฐมนตรีได้ย้ำถึงความตั้งใจของรัฐบาลที่จะเร่งรัดการแก้ไขปัญหานี้ โดยเน้นการทำงานร่วมกันของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

“รัฐบาลจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้คนไทยทุกคนได้รับสิทธิที่พึงมี และจะเร่งผลักดันให้ปัญหานี้หมดไปโดยเร็วที่สุด” น.ส.แพทองธารกล่าว

ความสำคัญของการให้สัญชาติ

นายกรัฐมนตรีได้กล่าวปิดท้ายว่า การมอบสัญชาติไทยและบัตรประชาชนไม่ได้เป็นเพียงการให้สิทธิขั้นพื้นฐานแก่บุคคล แต่ยังส่งเสริมให้พวกเขามีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจของประเทศในฐานะประชาชนที่มีความภาคภูมิใจ

“สัญชาติไทยคือกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่โอกาสใหม่ๆ ทั้งในด้านการศึกษา การทำงาน และการมีส่วนร่วมในชุมชน เราจะทำให้ทุกคนรู้สึกว่าพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของประเทศนี้” นายกรัฐมนตรีกล่าวอย่างมั่นใจ

ในอนาคต การดำเนินงานด้านนี้ยังต้องการการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน เพื่อให้เกิดความยั่งยืนและความเท่าเทียมในสังคมไทยอย่างแท้จริง.

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

อบจ.เชียงรายส่งมอบบ่อบาดาลแรกแก้ปัญหาน้ำ ต.วาวี สำเร็จ

อบจ.เชียงรายทำสำเร็จ! เจาะบ่อบาดาลแห่งแรก ต.วาวี อ.แม่สรวย พร้อมใช้จริง

เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 เวลา 16.00 น. นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยนายจิราวุฒิ แก้วเขื่อน เลขานุการนายก อบจ.เชียงราย นายสรายุธ ฟูวงศ์ สมาชิกสภา อบจ.เชียงราย อำเภอแม่สรวย เขต 1 และนายสมัคร กันจีนะ สมาชิกสภา อบจ.เชียงราย อำเภอแม่สรวย เขต 2 ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลดอยช้าง ดำเนินการส่งมอบบ่อบาดาลแห่งแรกในพื้นที่ดอยช้าง ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย

บ่อบาดาลดังกล่าวมีความลึก 100 เมตร ใช้เครื่องจักรกลขององค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย โดยบูรณาการความร่วมมือระหว่างองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงรายและองค์การบริหารส่วนตำบลวาวี เพื่อช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคของประชาชนในพื้นที่ หลังจากที่ชาวบ้านดอยช้างประสบปัญหาขาดแคลนน้ำมาอย่างต่อเนื่อง

ความสำเร็จที่ไม่ง่าย

การขุดเจาะบ่อบาดาลในครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เจ้าหน้าที่พบอุปสรรคระหว่างการดำเนินการ เช่น ความลึกของชั้นหินและลักษณะดินในพื้นที่ แต่ด้วยความร่วมมือของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญจาก อบจ.เชียงราย และ อบต.วาวี ปัญหาทั้งหมดได้รับการแก้ไขอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งสามารถขุดเจาะบ่อบาดาลสำเร็จ ชาวบ้านในพื้นที่จะสามารถใช้น้ำสะอาดเพื่อการอุปโภคบริโภคได้อย่างเพียงพอ

ชาวบ้านวาวีขอบคุณด้วยความยินดี

ในพิธีส่งมอบบ่อบาดาล นายศรชัย โฆษิตรัตนากร รองประธานสภา อบต.วาวี และนายทวีศักดิ์ อภิเดชกุล ผู้ใหญ่บ้านดอยช้างลีซู เป็นตัวแทนประชาชนรับมอบบ่อบาดาล พร้อมแสดงความยินดีและขอบคุณทีมงานจาก อบจ.เชียงรายที่ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค จนสามารถแก้ปัญหาใหญ่ที่ประชาชนเผชิญมายาวนาน

อนาคตของระบบน้ำในดอยช้าง

หลังจากการส่งมอบบ่อบาดาลนี้แล้ว จะมีการดำเนินการจัดทำระบบน้ำเพิ่มเติมเพื่อกระจายน้ำไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ของตำบลวาวีให้ครอบคลุมมากที่สุด โดยจะมีการวางแผนเชื่อมโยงระบบน้ำประปาเพื่อให้ประชาชนในพื้นที่สามารถเข้าถึงน้ำสะอาดได้อย่างยั่งยืน

นายก อบจ.เชียงรายชื่นชมความร่วมมือทุกฝ่าย

นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย กล่าวขอบคุณทุกหน่วยงานที่ร่วมมือกันจนบรรลุผลสำเร็จ พร้อมย้ำว่า อบจ.เชียงรายจะยังคงมุ่งมั่นดำเนินโครงการเพื่อแก้ไขปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

บ่อบาดาลแห่งแรกของตำบลวาวีนี้ไม่เพียงแต่เป็นความสำเร็จเชิงโครงสร้างพื้นฐาน แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือและความตั้งใจของทุกภาคส่วนในการแก้ปัญหาเพื่อประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริง ชาวดอยช้างและพื้นที่โดยรอบจะได้รับประโยชน์จากน้ำสะอาดสำหรับการอุปโภคบริโภคที่รอคอยมานานในที่สุด

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

“เชียงราย” จัดประชุมสำคัญ พร้อมเปิดตัว ‘มหกรรมไม้ดอก’

การประชุมกรมการจังหวัดเชียงรายครั้งที่ 11/2567 พร้อมประชาสัมพันธ์มหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงราย 2024

เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 ณ ห้องประชุมจอมกิตติ ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดเชียงราย ตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย นายราชัน มีน้อย รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานการประชุมกรมการจังหวัดเชียงรายและหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดเชียงราย ครั้งที่ 11/2567 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานต่าง ๆ เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง

พิธีมอบโล่เกียรติคุณเชิดชูเกียรติ

ในช่วงก่อนเริ่มการประชุม มีพิธีมอบโล่เกียรติคุณและเข็มกลัดเชิดชูเกียรติ “รางวัลหม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร บุคคลสำคัญของโลก” ประจำปี 2567 ให้แก่นางสาวเทียนรุ่ง เครือนพรัตน์ จากโรงเรียนเทศบาล 6 นครเชียงราย โดยมีนายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และหัวหน้าส่วนราชการเข้าร่วมแสดงความยินดี

การแนะนำผู้บริหารและหัวหน้าส่วนราชการใหม่

ในที่ประชุมมีการแนะนำผู้บริหารและหัวหน้าส่วนราชการที่เพิ่งย้ายมาดำรงตำแหน่งใหม่ในจังหวัดเชียงราย ได้แก่ นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ตำแหน่งเดิมผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร และผู้บริหารอื่น ๆ รวมถึงหัวหน้าหน่วยงานที่สำคัญในจังหวัด

การหารือเรื่องสำคัญในที่ประชุม

ในที่ประชุมมีการรายงานและพิจารณาเรื่องสำคัญ ดังนี้:

  • การเตรียมต้อนรับนายกรัฐมนตรี: นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีกำหนดลงพื้นที่ตรวจราชการที่จังหวัดเชียงรายในวันที่ 1 ธันวาคม 2567
  • พิธีวันสำคัญ: การจัดพิธีวางพานพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะเนื่องในวันพ่อแห่งชาติ วันที่ 5 ธันวาคม 2567 และพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ วันที่ 7 ธันวาคม 2567
  • การประชาสัมพันธ์งานเชียงรายดอกไม้งาม ครั้งที่ 21 และมหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงราย 2024: งานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 ธันวาคม 2567 – 5 มกราคม 2568 ในธีม “The Magical Garden” เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและฟื้นฟูเศรษฐกิจ
  • การส่งเสริมผลิตภัณฑ์ OTOP: ประชาสัมพันธ์การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP ในรูปแบบกระเช้าของขวัญสำหรับเทศกาลปีใหม่
  • การรายงานภาวะเศรษฐกิจ: สรุปรายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังและการค้าชายแดนของจังหวัดเชียงราย

ประชาสัมพันธ์มหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงราย 2024

นายญาณาฤทธิ์ หนสมสุข รองปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ได้กล่าวในที่ประชุมว่า มหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงราย 2024 จะจัดขึ้นในธีม “The Magical Garden” เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ โดยงานนี้จะแบ่งเป็น 2 โซนหลัก ได้แก่:

  1. สวนไม้งามริมน้ำกก อ.เมืองเชียงราย ระหว่างวันที่ 16 ธันวาคม 2567 – 5 มกราคม 2568
  2. พื้นที่อำเภอแม่สาย ได้แก่ วัดถ้ำเสาหินพญานาคและหน้าด่านพรมแดนไทย-เมียนมา ระหว่างวันที่ 14 ธันวาคม 2567 – 5 มกราคม 2568

งานนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงราย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย และส่งเสริมการท่องเที่ยวในรูปแบบ “Social Impact Tourism” ภายใต้แนวคิด “เที่ยวเชียงราย ช่วยเชียงราย”

การรณรงค์หยุดความรุนแรงในครอบครัว

บริเวณด้านหน้าห้องประชุม มีการตั้งบูทรณรงค์หยุดความรุนแรงต่อเด็กและสตรีในครอบครัว โดยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงราย หวังสร้างความตระหนักรู้และส่งเสริมความรักในครอบครัว

สรุป

การประชุมในครั้งนี้เป็นการติดตามความคืบหน้าของงานในจังหวัดเชียงราย พร้อมวางแผนการดำเนินงานในช่วงเดือนธันวาคม 2567 ที่มีกิจกรรมสำคัญหลากหลาย เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่อย่างยั่งยืน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE TOP STORIES

รมช.เกษตรฯ หนุนส่งออกโคเนื้อ เชียงรายสู่ตลาดโลก

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ เยี่ยมชมท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน พร้อมตรวจเยี่ยมโครงการส่งเสริมการเลี้ยงโคเนื้อเชียงราย

เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 เวลา 10.30 น. ณ ท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน จังหวัดเชียงราย นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ ลงพื้นที่เยี่ยมชมการดำเนินงานของท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน ซึ่งเป็นศูนย์กลางการส่งออกสินค้าปศุสัตว์และผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์ที่สำคัญของประเทศไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และสหภาพเมียนมา

การสนับสนุนการส่งออกปศุสัตว์ไทย

ปัจจุบันท่าเรือพาณิชย์เชียงแสนมีบทบาทสำคัญในการส่งออกโค กระบือ และสุกร โดยในช่วงเดือนมกราคม-ตุลาคม 2567 มีการส่งออกโคจำนวน 424 ตัว กระบือ 95 ตัว สุกร 42,894 ตัว และลูกสุกร 8,055 ตัว รวมถึงซากสุกร 919,553 กิโลกรัม ซากไก่ 573,942 กิโลกรัม และซากโค 1,400 กิโลกรัม

นายอิทธิ ได้กล่าวชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่มีส่วนร่วมในการผลักดันการส่งออกสัตว์และผลิตภัณฑ์ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล พร้อมทั้งฝากถึงเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ให้ใส่ใจดูแลสุขภาพสัตว์ ฉีดวัคซีนให้ครบถ้วน และหลีกเลี่ยงการใช้สารเร่งเนื้อแดง

เยี่ยมชมเครือข่ายโคเนื้อล้านนา

ในช่วงบ่าย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ พร้อมคณะ ได้เดินทางไปยัง สวนลุงดี อำเภอเมืองเชียงราย เพื่อเยี่ยมชมการดำเนินงานของเครือข่ายโคเนื้อล้านนา ซึ่งริเริ่มโดยนายนเรศ รัศมีจันทร์ ประธานเครือข่ายฯ โดยเครือข่ายฯ มีเป้าหมายในการพัฒนาสายพันธุ์โคเนื้อบีฟมาสเตอร์ให้มีคุณภาพสูง เพื่อสนับสนุนการเลี้ยงโคเนื้อในจังหวัดเชียงราย

เครือข่ายฯ ได้ดำเนินการพัฒนาสายพันธุ์โคเนื้อตั้งแต่การนำตัวอ่อนพันธุ์บีฟมาสเตอร์จากต่างประเทศ มาย้ายฝากและเลี้ยงดูจนได้พ่อพันธุ์ที่เหมาะสม นอกจากนี้ ยังมีการรีดน้ำเชื้อแจกจ่ายให้เกษตรกรในเครือข่ายกว่า 800 รายในพื้นที่ภาคเหนือ

นายนเรศ ได้กล่าวถึงความสำเร็จในการสร้างตลาดรองรับโคขุน โดยการจัดตั้งคอกกลางเพื่อรับซื้อโคจากสมาชิกเครือข่ายในราคารับประกัน ก่อนนำไปขุนและแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เนื้อโคขุนคุณภาพในแบรนด์ ลานนาบีฟ ซึ่งจำหน่ายทั่วประเทศ รวมถึงในร้านอาหาร “สวนลุงดี”

ปัญหาและแนวทางแก้ไขในอุตสาหกรรมโคเนื้อ

นายนเรศ ระบุว่า อุตสาหกรรมโคเนื้อในประเทศไทยยังคงเผชิญปัญหาหลายประการ เช่น การแข่งขันที่ไม่เท่าเทียมกับเนื้อโคนำเข้า การขาดมาตรฐานและการตรวจสอบย้อนกลับ ต้นทุนการผลิตสูง และการสนับสนุนจากภาครัฐที่ไม่เพียงพอ

เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ เครือข่ายฯ ได้เสนอแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน เช่น

  1. การพัฒนาพันธุกรรมและการเลี้ยงดูที่มีประสิทธิภาพ
  2. การสร้างระบบผลิตเนื้อกล่อง (Boxed Beef)
  3. การจัดทำระบบตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability System)
  4. การส่งเสริมการรวมกลุ่มเกษตรกร
  5. การกระตุ้นการบริโภคเนื้อโคในประเทศ

นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้รับทราบสถานการณ์และราคาเนื้อโคในปัจจุบันซึ่งน่าเห็นใจผู้เลี้ยงโคและผู้ประกอบการ ขอให้กำลังใจส่วนปัญหาต่างๆที่นำเสนอ จะได้นำไปปรึกษาเพื่อช่วยกันแก้ไขต่อไป

ตรวจเยี่ยมด่านกักกันสัตว์เชียงราย

จากนั้น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ พร้อมคณะ ได้เดินทางไปยังด่านกักกันสัตว์เชียงราย ตำบลครึ่ง อำเภอเชียงของ เพื่อรับฟังข้อมูลและตรวจเยี่ยมโครงการสถานกักกันสัตว์สำหรับส่งออกไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน ด่านกักกันสัตว์แห่งนี้มีความสามารถในการกักสัตว์ชนิดโค-กระบือจำนวน 200-300 ตัว และเป็นจุดพ่นยาฆ่าเชื้อยานพาหนะขนส่งสัตว์

นายอิทธิ  ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า วันนี้มาดูสถานที่กักกันสัตว์ เพื่อดูสถานที่ที่จะก่อสร้างที่กักกันสัตว์ ก่อนที่จะส่งออก และฝากถึงผู้เลี้ยงโคกระบือ ช่วยดูแลโค กระบือ ไม่ให้เกิดโรค ต้องพยายามฉีดวัคซีนให้ครบ และอย่าใช้สารเร่งเนื้อแดง พร้อมขอบคุณเกษตรกรผู้เลี้ยงโค กระบือ และสุกรที่ให้ความร่วมมือกับทางกรมปศุสัตว์ด้วย สินค้าส่งออกที่สำคัญของท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน ได้แก่ เมล็ดถั่วและธัญพืช  เบียร์  สินค้าอุปโภค บริโภคและรถยนต์  สำหรับการส่งออกสัตว์และซากสัตว์ ตั้งแต่เดือนมกราคม – ตุลาคม 2567 มีการส่งออกสัตว์ ได้แก่ โค  424  ตัวกระบือ 95 ตัว สุกร  42,894 ตัว ลูกสุกร 8,055 ตัว การส่งออกซากสัตว์ สุกร 919,553 กิโลกรัม  ไก่ 573,942 กิโลกรัม และโค 1,400 กิโลกรัม

ปัจจุบัน ด่านกักกันสัตว์เชียงรายมีแผนการขยายพื้นที่เพื่อสร้างสถานกักกันสัตว์ปลอดโรคเพิ่มเติม โดยมีพื้นที่ขออนุญาตใช้ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน (สปก.) ประมาณ 37 ไร่ เพื่อรองรับการส่งออกสัตว์ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน

สรุปและข้อเสนอแนะ

นายอิทธิ ศิริลัทธยากร กล่าวปิดท้ายว่า การพัฒนาการส่งออกสัตว์และผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์ถือเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างรายได้ให้เกษตรกร พร้อมยืนยันว่าจะผลักดันแนวทางแก้ไขปัญหาที่ได้รับฟังจากเกษตรกรในพื้นที่ เพื่อส่งเสริมความยั่งยืนของอุตสาหกรรมปศุสัตว์ไทยต่อไป

สำหรับด่านกักกันสัตว์เชียงราย มีสถานที่ปฏิบัติงานจำนวน 3 แห่ง ได้แก่ ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย ปฏิบัติงานด้านสารบัญ อำนวยการ และการตรวจสอบสินค้าปศุสัตว์เข้า – ออก เขตด่านศุลกากรแม่สาย และท่าปศุสัตว์เชียงแสน ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน เป็นจุดตรวจสอบส่งออกสัตว์มีชีวิต ชนิด โค กระบือ สุกร และเป็นที่ตั้งของจุดทำความสะอาดยานพาหนะขนส่งสัตว์ และด่านกักกันสัตว์เชียงราย ตำบลครึ่ง อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ใช้เป็นสถานที่กักกันสัตว์ซึ่งสามารถกักสัตว์ชนิด โค – กระบือ ได้จำนวน 200 ถึง 300 ตัว ซึ่งที่อำเภอเชียงของ สามารถส่งออก โค กระบือ สุกร และแพะมีชีวิต ซากสัตว์ และอาหารสัตว์ ผ่านทางสะพานมิตรภาพแห่งที่ 4 เชียงของ – ห้วยทราย และส่งออกสัตว์ปีก ซากสัตว์ และอาหารสัตว์ ไปยังสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ผ่านทางท่าเรือผาถ่าน ตำบลเวียง 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

เชียงรายผลักดันการท่องเที่ยวคาร์บอนนิวทรัล สู่ตลาดสากลอย่างยั่งยืน

เชียงรายผลักดันท่องเที่ยวแนวใหม่ สู่มาตรฐานระดับสากล ด้วยแนวคิดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2567 เพจ Chiangrai Geopark-อุทยานธรณีเชียงราย รายงานถึงความสำเร็จของกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวขององค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย (อบจ.เชียงราย) ภายใต้โครงการ “ฝึกอบรมทดสอบเส้นทางการท่องเที่ยวและประชาสัมพันธ์” (Famtrip) ที่จัดขึ้นในปีงบประมาณ 2567 เพื่อผลักดันเชียงรายเข้าสู่ตลาดการท่องเที่ยวระดับสากล ด้วยแนวคิดการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และยั่งยืน

ท่องเที่ยวครบ 5 เส้นทางในจังหวัดเชียงราย

กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นใน 5 เส้นทางการท่องเที่ยวหลัก ครอบคลุมพื้นที่หลายอำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองเชียงราย อำเภอแม่จัน อำเภอแม่สาย อำเภอเชียงแสน อำเภอแม่ฟ้าหลวง และอำเภอเชียงของ โดยเน้นส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวในชุมชนท้องถิ่นที่มีความหลากหลาย ทั้งในเชิงวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และธรรมชาติ

ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน

กิจกรรมนี้ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากหลายหน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงราย สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย สมาคมมัคคุเทศก์จังหวัดเชียงราย รวมถึงสื่อมวลชนและอินฟลูเอ็นเซอร์ในพื้นที่

เข้าสู่การประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ มุ่งสู่การท่องเที่ยวคาร์บอนนิวทรัล

ผลจากการดำเนินกิจกรรมอย่างเป็นรูปธรรม ทำให้ อบจ.เชียงราย ได้รับการประสานงานจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ TGO เพื่อนำเส้นทางการท่องเที่ยวเข้ารับการประเมินผ่านระบบคาร์บอนนิวทรัล ด้วยเครื่องมือคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของ TGO เบื้องต้นกิจกรรมดังกล่าวผ่านการประเมินในระดับที่ดีเยี่ยม พร้อมเข้าสู่ขั้นตอนขยายกลุ่มเป้าหมายการท่องเที่ยวสู่ตลาดต่างประเทศ

ผลักดันเชียงรายสู่ตลาดการท่องเที่ยวระดับโลก

อบจ.เชียงราย วางเป้าหมายให้โครงการนี้เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของจังหวัด ด้วยการสร้างเส้นทางการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและตอบสนองต่อกระแสการท่องเที่ยวแนวใหม่ในปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังเตรียมขยายความร่วมมือกับพันธมิตรในระดับประเทศและระดับสากล เพื่อสร้างความยั่งยืนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของเชียงราย

อบจ.เชียงรายแสดงความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาจังหวัดให้เป็นต้นแบบของการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ที่ไม่เพียงแต่สนับสนุนเศรษฐกิจในพื้นที่ แต่ยังช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมในระยะยาวอีกด้วย

ข้อมูลสำคัญของข่าว

  • โครงการ: ฝึกอบรมทดสอบเส้นทางการท่องเที่ยวและประชาสัมพันธ์ (Famtrip)
  • พื้นที่ดำเนินการ: 5 อำเภอในจังหวัดเชียงราย
  • ผลการประเมิน: ผ่านมาตรฐานคาร์บอนนิวทรัลโดย TGO
  • เป้าหมาย: การขยายตลาดการท่องเที่ยวสู่ระดับสากล

เชียงรายจึงไม่เพียงเป็นจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย แต่ยังพร้อมเป็นต้นแบบการท่องเที่ยวแนวใหม่ที่ตอบสนองต่อเทรนด์การเดินทางที่เปลี่ยนแปลงในยุคปัจจุบัน.

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : Chiangrai Geopark-อุทยานธรณีเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News