Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

เชียงแสนสุดม่วน มหาสงกรานต์รับนักท่องเที่ยวทั่วโลก

เชียงแสนเปิดงานยิ่งใหญ่ “ยล เยือน เมืองเชียงแสน มหาสงกรานต์บ้านฉัน” เผยแพร่วัฒนธรรมล้านนาสู่สากล

พิธีเปิดสุดอลังการสืบสานสงกรานต์เชียงแสน

เชียงราย,วันที่ 17 เมษายน 2568 – ณ ลานริมโขง (หน้าวัดปงสนุก) อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย นายสถาพร เที่ยงธรรม ผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรม ได้รับมอบหมายจากปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “ยล เยือน เมืองเชียงแสน : มหาสงกรานต์บ้านฉัน สีสันวิถีถิ่นวิถีไทย สุขไกลทั่วโลก” โดยมี นายรุจติศักดิ์ รังษี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวต้อนรับ และนางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ในการจัดงานครั้งนี้

แขกผู้มีเกียรติร่วมงานคับคั่ง

ภายในพิธีเปิดได้รับเกียรติจากบุคคลสำคัญมากมาย ได้แก่ สส.ดร.พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1, สส.ดร.เทอดชาติ ชัยพงษ์ สส.พรรคเพื่อไทย เขต 5 จังหวัดเชียงราย, สส.ละออง ติยะไพรัช, สส.ปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช, นายคฑาสิทธิ์ เนื่องหล้า นายอำเภอเชียงแสน และนางสินีนาฏ ทองสุข นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย พร้อมทั้งหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน คณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัดเชียงราย สภาวัฒนธรรมอำเภอทั้ง 18 อำเภอ ประชาชน และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ เข้าร่วมงานอย่างเนืองแน่น

กิจกรรมหลากหลายสะท้อนวิถีล้านนา

ภายในงานประกอบด้วยกิจกรรมที่แสดงถึงเอกลักษณ์วัฒนธรรมล้านนา อาทิ การแสดงศิลปะและวัฒนธรรมฟ้อนแสนปี “อุ่นเมืองเชียงราย” ขบวนแห่สระเกล้าดำหัว พิธีส่งเคราะห์แบบล้านนา สรงน้ำพระพุทธรูป พิธีสระเกล้าดำหัวผู้อาวุโสและผู้มีเกียรติ การแสดงแสงสีเสียง “เล่าเรื่องเมืองเชียงแสน” กิจกรรมถนนวัฒนธรรมสายน้ำ 3 แผ่นดิน การแสดงดนตรีจากศิลปินล้านนา นิทรรศการมีชีวิต ตลาดวัฒนธรรมวิถีชุมชนเมืองเชียงแสน บูธแสดงสินค้าทางวัฒนธรรม (CPOT) และกิจกรรมการประกวดเทพบุตรเจียงแสนหลวง ประจำปี 2568

สืบสานคุณค่าสงกรานต์ล้านนา

นายสถาพร เที่ยงธรรม กล่าวย้ำว่า งานนี้จัดขึ้นเพื่ออนุรักษ์ สืบทอด และเผยแพร่ประเพณีสงกรานต์ล้านนา ซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่มีคุณค่าต่อครอบครัว ชุมชน และสังคมไทย โดยเน้นการสร้างความรักความอบอุ่นในครอบครัว ความสามัคคีในชุมชน และส่งเสริมเศรษฐกิจในพื้นที่ผ่านกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่างๆ ที่จัดขึ้น

การจัดงานภายใต้แนวคิดสงกรานต์ระดับโลก

สำหรับปีนี้ กระทรวงวัฒนธรรม กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดงาน “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์” ทั่วประเทศ ภายใต้แนวคิด “สงกรานต์บ้านฉัน สีสันแบบไทย สุขไกลทั่วโลก Once in a Lifetime : Experience Songkran in Thailand” เพื่อยกระดับประเพณีสงกรานต์ให้เป็นงานระดับโลก ซึ่งจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมายังประเทศไทย

ความร่วมมือทุกภาคส่วนสู่ความสำเร็จ

งานนี้เกิดขึ้นจากการบูรณาการความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชนในจังหวัดเชียงราย ส่งผลให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ ช่วยให้ชุมชนมีรายได้เพิ่มขึ้นและสร้างความยั่งยืนทางวัฒนธรรมท้องถิ่น

นายสถาพร เที่ยงธรรม ได้กล่าวปิดท้ายงานว่า ประเพณีสงกรานต์ไม่ได้เป็นเพียงแค่เทศกาลแห่งความสนุกสนานเท่านั้น แต่ยังเป็นการสะท้อนถึงรากฐานของสังคมไทยในการเคารพผู้อาวุโส ความสามัคคีในชุมชน และความยั่งยืนของวัฒนธรรมที่สืบทอดมายาวนาน

สถิติที่เกี่ยวข้องและข้อมูลอ้างอิง

จากข้อมูลของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ปีที่ผ่านมา งานสงกรานต์สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าร่วมงานทั่วประเทศมากกว่า 3 ล้านคน สร้างรายได้ทางเศรษฐกิจกว่า 20,000 ล้านบาท และคาดว่าปีนี้นักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 15% (ที่มา: การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, 2567)

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย
  • การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานวัฒนธรรมเชียงราย
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

ศักดิ์สิทธิ์ เชียงรายอัญเชิญ “พระสิงห์” สรงน้ำสงกรานต์

เชียงรายจัดพิธีอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ สืบสานประเพณี “ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง” เสริมสิริมงคลรับสงกรานต์ 2568

ประชาชน-นักท่องเที่ยวหลั่งไหลร่วมพิธีตักบาตร พร้อมสรงน้ำพระพุทธสิหิงค์ บนราชรถบุษบกล้านนา สืบสานวัฒนธรรมอันงดงามของล้านนา

เชียงราย, 13 เมษายน 2568 – ณ บริเวณลานอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช เทศบาลนครเชียงราย ได้จัดพิธีอัญเชิญ “พระพุทธสิหิงค์” หรือที่ชาวล้านนาเรียกว่า “พระสิงห์” ขึ้นบนราชรถบุษบกล้านนา ศิลปะแบบแพร่ เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ร่วมสรงน้ำตามประเพณี “ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานเทศกาลสงกรานต์ที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่และต่อเนื่องเป็นประจำทุกปีในจังหวัดเชียงราย

ประวัติความเป็นมาของพระพุทธสิหิงค์

“พระพุทธสิหิงค์” เป็นพระพุทธรูปสำคัญที่มีประวัติยาวนาน สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นเมื่อประมาณพุทธศักราช 700 เดิมประดิษฐานอยู่ในแถบลังกา ก่อนจะถูกอัญเชิญมาสู่แผ่นดินสยาม และประดิษฐานในดินแดนล้านนา อาทิ เชียงราย เชียงใหม่ และนครลำปาง โดยพระพุทธสิหิงค์องค์ที่ประดิษฐานอยู่ ณ วัดพระสิงห์ เชียงใหม่ เป็นองค์ที่ได้รับการอัญเชิญจากเชียงราย โดยประดิษฐานในเชียงใหม่นานถึง 255 ปี

สำหรับในจังหวัดเชียงราย ปัจจุบันได้มีการสร้างพระพุทธสิหิงค์จำลองขึ้นและประดิษฐานภายในพระวิหารแก้ว หรือหอพระสิงห์ วัดพระสิงห์ เทศบาลนครเชียงราย เพื่อให้ประชาชนได้กราบไหว้บูชา เป็นสิริมงคลและเป็นศูนย์รวมทางจิตใจของชาวเชียงราย

พิธีอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ บนราชรถบุษบก สืบสานศิลปะล้านนา

ในช่วงเช้าของวันที่ 13 เมษายน 2568 เทศบาลนครเชียงราย นำโดย พันจ่าอากาศเอก อัษฎางค์ วิเศษวงศ์ษา ปลัดเทศบาล ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีนครเชียงราย พร้อมคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่เทศบาล ได้ร่วมกันอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ ขึ้นประดิษฐานบนราชรถบุษบกศิลปะล้านนา เพื่อเคลื่อนขบวนผ่านถนนสายหลักในตัวเมืองเชียงราย โดยมีประชาชนชาวเชียงรายและนักท่องเที่ยวร่วมสรงน้ำตลอดสองข้างทางอย่างเนืองแน่น

ราชรถบุษบกที่ใช้ในพิธีมีลวดลายละเอียด ประณีต อ่อนช้อย สะท้อนเอกลักษณ์งานศิลป์ของช่างฝีมือท้องถิ่น และเป็นสัญลักษณ์แห่งความเคารพศรัทธาอันลึกซึ้งที่ประชาชนมีต่อองค์พระพุทธสิหิงค์

พิธีทำบุญตักบาตร รับปีใหม่เมืองอย่างสงบและงดงาม

ภายหลังจากการอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ ได้มีการจัดพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ ซึ่งได้รับเมตตาจากพระเดชพระคุณ พระรัตนมุนี ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย วัดพระแก้ว พระอารามหลวง นำคณะพระภิกษุสงฆ์ออกบิณฑบาต โดยมี นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมด้วย นางสินีนาฎ ทองสุข นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ประชาชน และนักท่องเที่ยว ร่วมกันทำบุญตักบาตร เพื่อความเป็นสิริมงคลในการเริ่มต้นปีใหม่

บรรยากาศของพิธีเป็นไปด้วยความสงบ เรียบง่าย แต่เปี่ยมไปด้วยความศรัทธา สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตและความผูกพันที่ชาวเชียงรายมีต่อพระพุทธศาสนาอย่างแนบแน่น

การมีส่วนร่วมของประชาชนและบทบาทของเทศบาลในการอนุรักษ์วัฒนธรรม

งานประเพณีปี๋ใหม่เมืองครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนในสังกัดเทศบาลนครเชียงราย หน่วยงานวัฒนธรรม ภาคประชาชน และภาคเอกชน ที่ร่วมกันจัดกิจกรรมอนุรักษ์วัฒนธรรมล้านนาอย่างครบถ้วน ทั้งการประดับตุงแบบโบราณ การจัดขบวนแห่ การแสดงฟ้อนรำ และการสรงน้ำพระในวัดต่าง ๆ

เทศบาลนครเชียงรายยังได้ร่วมกับโรงเรียนในสังกัดจัดกิจกรรมเรียนรู้ประเพณีปี๋ใหม่เมืองให้แก่เยาวชน ส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนมีความเข้าใจในรากเหง้าทางวัฒนธรรม และเกิดความภาคภูมิใจในอัตลักษณ์ท้องถิ่น

วัฒนธรรมล้านนาคือหัวใจของสงกรานต์เชียงราย

แม้ในปัจจุบันเทศกาลสงกรานต์ในหลายพื้นที่ของประเทศไทยจะถูกมองว่าเป็นเพียงเทศกาลเล่นน้ำและการท่องเที่ยว แต่จังหวัดเชียงรายยังคงรักษา “หัวใจ” ของเทศกาลนี้ไว้ได้อย่างมั่นคง ผ่านพิธีกรรม พุทธศาสนา และประเพณีท้องถิ่นที่ลึกซึ้ง

“ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง” ไม่เพียงแต่เป็นการเฉลิมฉลองปีใหม่แบบล้านนาเท่านั้น แต่ยังเป็นช่วงเวลาแห่งการทบทวนตนเอง การอธิษฐาน การแสดงความเคารพต่อผู้ใหญ่ และการขอขมาลาโทษซึ่งกันและกัน ตลอดจนการสืบสานมรดกภูมิปัญญาที่ส่งต่อมาหลายร้อยปี

ข้อมูลสถิติที่เกี่ยวข้อง และแหล่งอ้างอิง

  • จากรายงานของสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ปี 2567 ระบุว่า ในเทศกาลสงกรานต์มีประชาชนร่วมกิจกรรมสรงน้ำพระพุทธสิหิงค์ ณ เทศบาลนครเชียงรายกว่า 12,000 คน
  • ข้อมูลจากกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ปี 2566 พบว่า จังหวัดเชียงรายเป็น 1 ใน 5 จังหวัดที่มีการจัดกิจกรรมอนุรักษ์ประเพณีสงกรานต์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในภาคเหนือ
  • สำนักงานสถิติแห่งชาติ รายงานว่า ช่วงสงกรานต์ปี 2567 เชียงรายมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามากว่า 97,000 คน สร้างรายได้รวมกว่า 238 ล้านบาท

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

เทิง 113 ปี สืบสานภูมิปัญญา “ข่วงผญ๋า ห้าก้อนเส้า”

อำเภอเทิงจัดยิ่งใหญ่ “ข่วงผญ๋า ห้าก้อนเส้า” ครั้งที่ 1 ฉลอง 113 ปีแห่งการก่อตั้ง พร้อมสืบสานภูมิปัญญาลุ่มน้ำลาว หงาว อิง

เชียงราย, 2 เมษายน 2568 — อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย จัดงานสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น “ข่วงผญ๋า ห้าก้อนเส้า” ลุ่มน้ำลาว หงาว อิง ครั้งที่ 1 อย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสครบรอบ 113 ปี แห่งการก่อตั้งอำเภอเทิง โดยมีหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาชน และภาคเอกชนร่วมมือกันจัดกิจกรรมอันเปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางวัฒนธรรม เพื่อน้อมรำลึกถึงรากเหง้าอัตลักษณ์ของชาวเมืองเทิงและพัฒนาพื้นที่ให้เป็นแหล่งเรียนรู้เชิงประวัติศาสตร์

พิธีเปิดสมเกียรติ – รวมพลังประชาชนสืบสานรากเหง้าเมืองเทิง

เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2568 ณ ที่ว่าการอำเภอเทิง (หลังเก่า) ตำบลเวียง อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิดงาน โดยมี นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เข้าร่วมในฐานะแขกผู้มีเกียรติ พร้อมด้วย นายเอนก ปันทะยม นายอำเภอเทิง หน่วยงานราชการ สภาวัฒนธรรม พุทธสมาคม ชมรมผู้สูงอายุ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาชนเข้าร่วมงานอย่างคึกคัก

งานในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของการจัด “ข่วงผญ๋า ห้าก้อนเส้า” ซึ่งเปรียบเสมือนศูนย์กลางแห่งภูมิปัญญา วิถีชีวิต และวัฒนธรรมของชุมชนริมลุ่มน้ำลาว หงาว และอิง ที่หล่อหลอมให้เกิดความเข้มแข็งและความภาคภูมิใจในถิ่นฐานของตน

กิจกรรมหลากหลาย สะท้อนอัตลักษณ์ล้านนาแท้

ภายในงานได้มีการจัดกิจกรรมที่สะท้อนถึงรากเหง้าทางวัฒนธรรมของเมืองเทิง อาทิ

  • พิธีเจริญพระพุทธมนต์ และสืบชะตาเมืองเทิง เพื่อความเป็นสิริมงคลและความเจริญรุ่งเรืองของชุมชน
  • พิธีทำบุญถวายผ้าป่า 10 ตำบล เพื่อความสามัคคีและการรวมพลังของท้องถิ่น
  • เขียนชื่อบนผ้าห่มพระธาตุจอมจ้อ อันเป็นพุทธบูชาสำคัญของชาวเมืองเทิง
  • บูชาชะตา ฮอมบุญขันตั้งสืบชะตา ตามประเพณีล้านนาที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน
  • มอบเกียรติบัตรผู้สูงอายุดีเด่นระดับหมู่บ้าน เพื่อยกย่องคุณค่าของผู้สูงวัยในสังคม
  • นิทรรศการศิลปวัฒนธรรม และของดีแต่ละตำบล
  • นิทรรศการผลงานศิลปินท้องถิ่น
  • การแสดงพื้นบ้าน 10 ตำบล ภายใต้แนวคิด “เมืองเทิงมีดีอยู่ตี้ 10 ตำบล”
  • ขันโตก “ฮอมบุญ” อาหารพื้นบ้าน 100 โตก ที่แสดงออกถึงการแบ่งปันและความเป็นหนึ่งเดียวของชุมชน

เป้าหมายเพื่ออนุรักษ์และพัฒนาแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์

หนึ่งในวัตถุประสงค์หลักของการจัดงาน “ข่วงผญ๋า ห้าก้อนเส้า” คือการระดมทุนเพื่อ ปรับปรุงอาคารที่ว่าการอำเภอเทิง (หลังเก่า) ให้กลายเป็น พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เมืองเทิง ซึ่งจะกลายเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ของคนรุ่นใหม่ และจุดหมายด้านวัฒนธรรมของนักท่องเที่ยว ทั้งในระดับจังหวัดและภูมิภาค

เสียงสะท้อนจากชุมชน – เสียงจากสองมุมมอง

ฝ่ายหนึ่ง โดยเฉพาะผู้นำชุมชนและภาควัฒนธรรมท้องถิ่น เห็นว่าการจัดกิจกรรมนี้เป็นการ “สร้างรากฐานทางวัฒนธรรม” ที่มั่นคงและยั่งยืน ถือเป็นแบบอย่างให้กับพื้นที่อื่น ๆ ในการนำทุนวัฒนธรรมมาพัฒนาเป็นทุนทางเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงกับการท่องเที่ยว

อีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งรวมถึงกลุ่มนักพัฒนาในพื้นที่ แสดงความเห็นว่า แม้กิจกรรมจะดี แต่ควรมีการติดตามและประเมินผลเชิงประจักษ์ เช่น จำนวนผู้เข้าชมพิพิธภัณฑ์ รายได้ที่เกิดจากกิจกรรมวัฒนธรรม หรือความต่อเนื่องของโครงการ เพื่อให้การลงทุนในด้านนี้ตอบโจทย์ด้านสังคมและเศรษฐกิจจริง

สถิติเกี่ยวกับการพัฒนาวัฒนธรรมท้องถิ่น

จากรายงานของ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ปี 2566 และข้อมูลจาก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม พบว่า:

  • จังหวัดเชียงรายมี หมู่บ้านวัฒนธรรมกว่า 160 แห่ง
  • มีโครงการอนุรักษ์วัฒนธรรมเชิงพื้นที่มากกว่า 80 โครงการต่อปี
  • อำเภอเทิงมีแหล่งวัฒนธรรมที่ขึ้นทะเบียนแล้ว 15 แห่ง และแหล่งภูมิปัญญาท้องถิ่นกว่า 30 รายการ
  • องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเชียงรายจัดสรรงบส่งเสริมวัฒนธรรมเฉลี่ย 12 ล้านบาท/ปี
  • โครงการแปลงศูนย์ราชการเก่าเป็นพิพิธภัณฑ์ในประเทศไทยได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นกว่า 25% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

(ที่มา: สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย, กรมส่งเสริมวัฒนธรรม, สำนักงานสถิติแห่งชาติ)

ข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน

  • ควรจัดให้มี “ฐานข้อมูลกลาง” ด้านภูมิปัญญาท้องถิ่นในแต่ละตำบล
  • ขยายผลกิจกรรม “ข่วงผญ๋า” ไปยังโรงเรียน เพื่อปลูกฝังความภาคภูมิใจตั้งแต่ระดับเยาวชน
  • ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาคประชาชน ภาครัฐ และภาคเอกชน ในการบริหารจัดการพิพิธภัณฑ์
  • พัฒนาช่องทางสื่อสารสมัยใหม่ เช่น Virtual Museum และ QR Code สำหรับนิทรรศการ
  • ประเมินผลกิจกรรมวัฒนธรรมด้วยเครื่องมือที่สามารถวัดผลด้านเศรษฐกิจและสังคมได้

สรุปภาพรวมอย่างเป็นกลาง

งาน “ข่วงผญ๋า ห้าก้อนเส้า” ครั้งที่ 1 นับเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการรื้อฟื้นและสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวอำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย โดยมีเป้าหมายในการอนุรักษ์วัฒนธรรม พร้อมทั้งพัฒนาอาคารประวัติศาสตร์ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ร่วมสมัย

ในมุมหนึ่ง ประชาชนต่างภาคภูมิใจและยินดีที่ชุมชนได้มีเวทีแสดงออกถึงอัตลักษณ์ของตน ในขณะที่อีกมุมหนึ่ง เสนอให้มีกลไกตรวจสอบ ประเมินผล และต่อยอดโครงการให้ยั่งยืนในระยะยาว

การพัฒนาวัฒนธรรมจึงควรเป็น “งานร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมรับผิดชอบ” ของทุกภาคส่วน เพื่อให้คุณค่าแห่งภูมิปัญญาท้องถิ่นมิได้หยุดอยู่เพียงในงานเฉลิมฉลอง แต่ยังคงสืบทอดเป็นมรดกให้คนรุ่นหลังต่อไป

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

สงกรานต์เชียงราย 2025 มรดกโลก จัดเต็มทั้งเดือน

เชียงรายจัดใหญ่ “สงกรานต์ ปี๋ใหม่เมือง 2568” ดึงนักท่องเที่ยวทั่วโลก หลังยูเนสโกขึ้นทะเบียนมรดกโลก

ททท. เดินหน้ายกระดับ “สงกรานต์” สู่ Soft Power สากล

เชียงราย,วันที่ 1 เมษายน 2568-การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เดินหน้าสนองนโยบายรัฐบาล ในการยกระดับประเทศไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี ภายใต้แคมเปญ “Amazing Thailand Grand Tourism & Sports Year 2025” โดยในช่วงเดือนเมษายน 2568 ซึ่งตรงกับเทศกาลสงกรานต์ หรือ “ปี๋ใหม่เมือง” ของภาคเหนือ ททท. ได้ผนึกกำลังกับภาครัฐและเอกชน จัดกิจกรรมเชิงวัฒนธรรมอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ของจังหวัดเชียงราย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นและเผยแพร่มรดกทางวัฒนธรรมสู่สายตานานาชาติ

ยูเนสโกยกย่อง ‘สงกรานต์ไทย’ มรดกโลกวัฒนธรรม

การจัดงานในปีนี้มีความพิเศษยิ่งขึ้น หลังจากที่องค์การยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียน “สงกรานต์ในประเทศไทย” เป็น มรดกโลกทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ เมื่อเดือนธันวาคม 2566 ซึ่งนับเป็นแรงผลักดันให้รัฐบาลและ ททท. เร่งพัฒนาเทศกาลนี้สู่ระดับสากล โดยใช้ Soft Power ด้านวัฒนธรรมเป็นเครื่องมือในการดึงดูดนักท่องเที่ยว

กิจกรรมหลากหลายทั่วจังหวัด สะท้อนอัตลักษณ์ล้านนา

นายวิสูตร บัวชุม ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานเชียงราย เปิดเผยว่า จังหวัดเชียงรายได้จัดกิจกรรมมากมายตลอดเดือนเมษายน – พฤษภาคม เพื่อเฉลิมฉลองประเพณีสงกรานต์และขยายผลสู่เทศกาลวัฒนธรรมอื่นๆ ได้แก่:

  • สงกรานต์ตานตุง กลางเวียงเชียงราย (1–30 เม.ย. 2568) ณ วัดกลางเวียง อ.เมือง
    • สรงน้ำพระเจ้าฝนแสนห่า
    • สรงน้ำเสาสะดือเมือง
    • ปักตุงทราย 12 นักษัตร
    • ทำบุญไหว้พระ สักการะเสาหลักเมือง
  • ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง (12–16 เม.ย.) ณ ถนนคนม่วน เทศบาลนครเชียงราย
  • สงกรานต์ถนนสันโค้งคนเล่นน้ำ ณ ถนนสันโค้งน้อย
  • Chiangrai Songkran Festival 2025 (13–15 และ 19 เม.ย.) ณ ลานกาสะลอง เซ็นทรัลพลาซ่า เชียงราย
  • มหาสงกรานต์อำเภอเชียงของ (13 เม.ย.) ณ ลานข่วงวัฒนธรรมเมืองเชียงของ
  • สงกรานต์เมืองเชียงแสน (12, 16–18 เม.ย.) ณ หน้าที่ว่าการอำเภอเชียงแสน
  • ปี๋ใหม่เมืองตำบลโฮงจ้าง (19–20 เม.ย.) ณ บ้านโป่งศรีนคร อ.ป่าแดด
  • PANGKHON-ROMYEN TO DOICHANG TRAIL (3–4 พ.ค.) ณ บ้านปางขอน
  • เดือน 8 เช้า เดือน 9 ออก (23–29 พ.ค.) ณ วัดกลางเวียง

ความพร้อมรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

ททท. ระบุว่า การจัดกิจกรรมเช่นนี้ นอกจากจะเป็นการสืบสานประเพณีไทย ยังเป็นการแสดงศักยภาพของจังหวัดเชียงราย ในการรองรับนักท่องเที่ยวจากนานาประเทศ โดยมีการประเมินว่าปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติหลั่งไหลเข้าร่วมกิจกรรมสงกรานต์ในเชียงรายไม่น้อยกว่า 60,000 คน ตลอดเดือนเมษายน – พฤษภาคม ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่ธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และการค้าท้องถิ่นอย่างมีนัยสำคัญ

เสียงสะท้อนจากภาคประชาชนและเอกชน

ประชาชนในพื้นที่และผู้ประกอบการส่วนใหญ่แสดงความยินดีและสนับสนุนการจัดกิจกรรมอย่างเต็มที่ เพราะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด-19 โดยเฉพาะในหมู่บ้านท่องเที่ยวและชุมชนเมืองเก่าที่ได้ประโยชน์จากการเดินทางของนักท่องเที่ยวโดยตรง

อย่างไรก็ตาม ยังมีเสียงจากภาคประชาสังคมที่เสนอข้อห่วงใยเกี่ยวกับปริมาณขยะและมลภาวะทางเสียงจากการจัดกิจกรรม ซึ่งอาจกระทบต่อวิถีชีวิตของคนในชุมชน โดยเรียกร้องให้มีแนวทางควบคุมและบริหารจัดการอย่างเหมาะสม

การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนคือเป้าหมายหลัก

นายวิสูตร เน้นย้ำว่า ททท. ตระหนักถึงความสำคัญของ การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Sustainable Tourism) โดยจะดำเนินกิจกรรมตามหลักความรับผิดชอบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนให้ร่วมกันอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่น และใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า

การส่งเสริม ‘ปี๋ใหม่เมือง’ เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ชาติ

การจัดงานสงกรานต์ปี 2568 เป็นส่วนหนึ่งของแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ ที่เน้นการใช้วัฒนธรรมเป็นฐานเศรษฐกิจผ่าน “Soft Power” โดยรัฐบาลไทยมีเป้าหมายให้รายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และกระจายไปยังภูมิภาค โดยเฉพาะภาคเหนือที่มีต้นทุนทางวัฒนธรรมเข้มแข็ง

ข้อมูลสถิติการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย

จากรายงานของสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย ปี 2566 ระบุว่า:

  • เชียงรายมีนักท่องเที่ยวรวม 2.9 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 28
  • รายได้รวมจากการท่องเที่ยวประมาณ 13,200 ล้านบาท
  • นักท่องเที่ยวต่างชาติคิดเป็นร้อยละ 17 ของนักท่องเที่ยวทั้งหมด
  • อัตราการเข้าพักเฉลี่ยของโรงแรมอยู่ที่ร้อยละ 52 ตลอดปี
  • งานเทศกาลสงกรานต์มีนักท่องเที่ยวเฉพาะเดือนเมษายนกว่า 58,000 คน

สรุปมุมมองเชิงนโยบายแบบเป็นกลาง

จากมุมมองของผู้สนับสนุน กิจกรรม “ปี๋ใหม่เมืองเชียงราย” เป็นก้าวสำคัญในการยกระดับวัฒนธรรมไทยสู่ระดับนานาชาติ โดยสร้างรายได้และกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างเป็นรูปธรรม อีกทั้งยังสร้างความภาคภูมิใจให้แก่ประชาชนในท้องถิ่น

ในขณะที่อีกมุมมองหนึ่งของนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและชุมชนเมืองเก่า เห็นว่าการจัดกิจกรรมในบางจุดอาจต้องพิจารณาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิตท้องถิ่นมากขึ้น เพื่อให้การส่งเสริมการท่องเที่ยวไม่กลายเป็นภาระของชุมชน

ดังนั้น ความสมดุลระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจและการรักษาวัฒนธรรมท้องถิ่น จึงเป็นหัวใจของการจัดงานสงกรานต์ในยุคใหม่ ที่ต้องใส่ใจทั้งภาพลักษณ์และความยั่งยืนอย่างแท้จริง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : 

  • สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย, รายงานประจำปี 2566
  • การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงราย
  • UNESCO, Representative List of the Intangible Cultural Heritage of Humanity (2023)
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

เล่นสงกรานต์เชียงราย ปักตุง 12 นักษัตร สรงน้ำเสาสะดือเมือง

เชียงรายเปิดกิจกรรม “สงกรานต์ ตานตุง กลางเวียง” กระตุ้นท่องเที่ยวตลอดเดือนเมษายน 2568

พิธีเปิดยิ่งใหญ่ สงกรานต์ล้านนาใจกลางเมืองเชียงราย

จังหวัดเชียงรายจัดกิจกรรม “สงกรานต์ ตานตุง กลางเวียงเชียงราย” อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2568 ณ วัดกลางเวียง อำเภอเมืองเชียงราย โดยมีนายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน และประชาชนร่วมงานอย่างคึกคัก ท่ามกลางบรรยากาศที่เปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายวัฒนธรรมล้านนา

จัดเต็มกิจกรรมตลอดเมษา หนุนเศรษฐกิจท่องเที่ยว

กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 – 30 เมษายน 2568 โดยความร่วมมือระหว่างจังหวัดเชียงราย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงราย และวัดกลางเวียง มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงฤดูร้อน ซึ่งถือเป็นช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว

ภายในงานมีกิจกรรมที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์ของชาวล้านนาอย่างลึกซึ้ง อาทิ

  • พิธีสรงน้ำพระเจ้าฝนแสนห่า พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ของวัดกลางเวียง
  • พิธีสรงน้ำเสาสะดือเมืองเชียงราย อันเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเมือง
  • การปักตุงทราย 12 นักษัตร ตามแบบประเพณีล้านนา
  • กิจกรรมถ่ายภาพเช็คอินเพื่อรับของที่ระลึก
  • การละเล่นพื้นบ้าน และการแสดงศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น

สร้างกระแสตลอดเดือน ขยายผลสู่พื้นที่โดยรอบ

กิจกรรมสงกรานต์ครั้งนี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะพื้นที่วัดกลางเวียง แต่ยังเป็นการจุดประกายให้เกิดกิจกรรมในพื้นที่อื่นของจังหวัด อาทิ

  • เขตเทศบาลนครเชียงราย
  • อำเภอเชียงของ
  • อำเภอเชียงแสน
  • อำเภอแม่จัน และอำเภออื่น ๆ

โดยทุกพื้นที่จะมีการจัดงานป๋าเวณีปี๋ใหม่เมืองในรูปแบบที่แตกต่างกัน แต่ยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรมดั้งเดิมผสานความร่วมสมัย ซึ่งสะท้อนความพร้อมของจังหวัดในการรองรับนักท่องเที่ยวได้อย่างทั่วถึง

ททท. เชียงราย ตั้งเป้า 3,000 คนตลอดเดือน

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงราย คาดการณ์ว่า กิจกรรม “สงกรานต์ ตานตุง กลางเวียงเชียงราย” จะมีนักท่องเที่ยวเข้าร่วมไม่ต่ำกว่า 3,000 คนตลอดทั้งเดือน โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาวและวันสงกรานต์ระหว่างวันที่ 13-15 เมษายน ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงที่มีนักท่องเที่ยวหนาแน่นที่สุด

การกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงนอกฤดูกาลเช่นนี้ ยังเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ของ ททท. ในการกระจายรายได้ ลดความแออัดในเมืองท่องเที่ยวยอดนิยม และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน

เสียงสะท้อนจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง

ฝั่งผู้ประกอบการท่องเที่ยวในตัวเมืองเชียงราย ให้ความเห็นว่า การจัดกิจกรรมสงกรานต์ตลอดเดือนมีส่วนอย่างมากในการเพิ่มยอดผู้เข้าพักโรงแรม ร้านอาหาร และการใช้จ่ายโดยรวม โดยเฉพาะการจัดงานในพื้นที่ที่มีความสำคัญทางวัฒนธรรมอย่างวัดกลางเวียง ถือเป็นจุดขายที่ทรงพลัง

ในขณะเดียวกัน มีบางฝ่ายที่แสดงความเป็นห่วงเกี่ยวกับการรักษาความสะอาดในพื้นที่จัดงาน และปัญหาการจราจรที่อาจเกิดขึ้นในบางช่วงเวลา พร้อมเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มมาตรการรองรับ

การมีส่วนร่วมของชุมชนคือหัวใจสำคัญ

กิจกรรมในครั้งนี้นอกจากจะส่งเสริมการท่องเที่ยวแล้ว ยังเน้นการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน ไม่ว่าจะเป็นพระสงฆ์ ชาวบ้าน กลุ่มเยาวชน และผู้ประกอบการท้องถิ่น ที่มาช่วยกันจัดตกแต่งสถานที่ สร้างสรรค์กิจกรรม และให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยรอยยิ้มและความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมของตน

บรรยากาศโดยรวมของกิจกรรมเป็นไปอย่างอบอุ่นและมีชีวิตชีวา สะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือที่เข้มแข็งระหว่างหน่วยงานรัฐและภาคประชาชน

ข้อมูลสถิติการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย

จากรายงานของสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย ปี 2566 พบว่า

  • เชียงรายมีนักท่องเที่ยวรวมกว่า 2.3 ล้านคน ตลอดทั้งปี
  • รายได้จากการท่องเที่ยวรวมประมาณ 11,700 ล้านบาท
  • ช่วงไฮซีซั่น (พ.ย. – ม.ค.) เป็นช่วงที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุด
  • ช่วงโลว์ซีซั่น (เม.ย. – มิ.ย.) นักท่องเที่ยวน้อยลงราว 40%

กิจกรรม “สงกรานต์ ตานตุง กลางเวียงเชียงราย” จึงถือเป็นโครงการนำร่องสำคัญที่ช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจในช่วงที่นักท่องเที่ยวลดลงตามฤดูกาล

บทสรุป: ประเพณีสงกรานต์คือพลังของการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

กิจกรรม “สงกรานต์ ตานตุง กลางเวียงเชียงราย” เป็นตัวอย่างของการนำประเพณีท้องถิ่นมาผสานกับแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างสร้างสรรค์ ช่วยยกระดับมูลค่าทางวัฒนธรรมและเศรษฐกิจในพื้นที่อย่างมีนัยสำคัญ

จากมุมมองผู้สนับสนุน กิจกรรมนี้ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยว สร้างรายได้ กระจายความเจริญ และสืบสานวัฒนธรรมที่ใกล้เลือนหาย

ในขณะที่ฝั่งที่มีความกังวล ก็ต้องการให้มีการบริหารจัดการที่ดีขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่

ในภาพรวม กิจกรรมในลักษณะนี้จึงควรดำเนินไปด้วยความสมดุล ระหว่างการส่งเสริมเศรษฐกิจ การอนุรักษ์วัฒนธรรม และความยั่งยืนของชุมชน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

ศิลปากรสัญจรครั้งที่ 5 เชียงราย เชื่อมวัฒนธรรมล้านนา

นายพลภพ มานะมนตรีกุล นายกเทศมนตรีตำบลเวียง ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมร่วมกิจกรรม “ศิลปากรสัญจรครั้งที่ 5” เชียงแสน เชียงราย

เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2567 นายพลภพ มานะมนตรีกุล นายกเทศมนตรีตำบลเวียง มอบหมายให้ นายกำแพง จันทกุล รองนายกเทศมนตรีตำบลเวียง และพันจ่าเอก อาทิตย์ บุญน้อม รองปลัดเทศบาลตำบลเวียง พร้อมด้วยฝ่ายประชาสัมพันธ์เทศบาลตำบลเวียง เข้าร่วมกิจกรรม “ศิลปากรสัญจรครั้งที่ 5” ภายใต้หัวข้อ “อาบหมอก แอ่วเมือง รุ่งเรืองอาราม เวียงงามล้านนา” โดยมีเป้าหมายเพื่ออนุรักษ์และส่งเสริมวัฒนธรรมล้านนาในจังหวัดเชียงราย พะเยา และแพร่

การเปิดงานอย่างเป็นทางการ

พิธีเปิดกิจกรรมจัดขึ้นที่ โบราณสถานวัดป่าสัก อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย โดยมี นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วม

ไฮไลต์กิจกรรม

ในกิจกรรมดังกล่าว ผู้เข้าร่วมได้เดินทางโดยรถรางเยี่ยมชมสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีของเมืองเชียงแสน ซึ่งเป็นแหล่งประวัติศาสตร์สำคัญของวัฒนธรรมล้านนา เช่น วัดป่าสัก วัดเจดีย์หลวง และวัดพระธาตุจอมกิตติ ที่สะท้อนเอกลักษณ์ทางศิลปะและวัฒนธรรมโบราณของชาวล้านนา

นอกจากนี้ ยังมีการจัดเลี้ยงขันโตกเพื่อรับรองแขกผู้เข้าร่วม โดยเป็นอาหารพื้นบ้านล้านนา เช่น น้ำพริกหนุ่ม แกงฮังเล และไส้อั่ว พร้อมการแสดงศิลปะพื้นบ้านที่สะท้อนถึงความวิจิตรงดงามของวัฒนธรรมล้านนา

ความสำคัญของกิจกรรม

กิจกรรม “ศิลปากรสัญจรครั้งที่ 5” มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม สร้างความตระหนักในคุณค่าของมรดกทางวัฒนธรรมในกลุ่มคนรุ่นใหม่ และเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชนในการอนุรักษ์และพัฒนาวัฒนธรรมล้านนา

เสียงสะท้อนจากผู้เข้าร่วม

นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า “กิจกรรมนี้นับเป็นโอกาสดีที่ประชาชนในพื้นที่จะได้เรียนรู้และภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ของตนเอง พร้อมทั้งสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการอนุรักษ์วัฒนธรรมล้านนาให้คงอยู่สืบไป”

ความร่วมมือในอนาคต

เทศบาลตำบลเวียงได้วางแผนที่จะสานต่อความร่วมมือกับกรมศิลปากรและวัฒนธรรมจังหวัดเชียงรายในการจัดกิจกรรมลักษณะนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และเสริมสร้างเศรษฐกิจชุมชนให้เติบโตอย่างยั่งยืน

กิจกรรมดังกล่าวเป็นตัวอย่างของความสำเร็จในการอนุรักษ์และส่งเสริมวัฒนธรรมพื้นบ้านล้านนา สะท้อนถึงความงดงามของมรดกทางวัฒนธรรมที่คนไทยทุกคนควรภาคภูมิใจและร่วมกันรักษาไว้ให้ยั่งยืนต่อไป

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

อบจ.เชียงราย จัดพิธีสืบชะตาเมือง ฟื้นฟูใจหลังภัยพิบัติ

เชียงรายเตรียมจัดพิธีสืบชะตาเมือง เบิกฟ้าฟื้นใจ สร้างขวัญกำลังใจให้ประชาชนหลังภัยพิบัติ

เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย (อบจ.เชียงราย) ได้จัดการประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมในการจัด โครงการพิธีสืบชะตาเมืองเชียงราย เบิกฟ้าฟื้นใจเมือง โดยมี นางปัทมา สมประสงค์ หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม เป็นผู้ดำเนินการประชุม ทั้งนี้ได้รับมอบหมายจาก นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เพื่อจัดเตรียมแผนงานให้พร้อมสำหรับการจัดงานที่กำหนดจะมีขึ้นในวันที่ 3 ธันวาคม 2567 ณ วัดดอยงำเมือง วัดพระแก้ว และลานพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ศาลากลางจังหวัดหลังแรก)

ฟื้นฟูจิตใจและสร้างขวัญกำลังใจให้ชาวเชียงราย

พิธีสืบชะตาเมืองเชียงรายครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อ สร้างขวัญกำลังใจ ให้กับประชาชนชาวเชียงรายที่ได้รับผลกระทบจาก อุทกภัยและดินโคลนถล่ม ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อ อนุรักษ์และส่งเสริมภูมิปัญญาและประเพณีท้องถิ่น ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชาวล้านนา โดยการจัดงานในครั้งนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่างคณะสงฆ์จังหวัดเชียงราย หน่วยงานราชการ ภาคเอกชน และประชาชนในพื้นที่

พิธีบวงสรวงและขอขมาพระบรมอัฐิพญามังรายมหาราช

พิธีในช่วงเช้ามืดของวันที่ 3 ธันวาคม จะเริ่มต้นด้วย การบวงสรวงสักการะและขอขมาพระบรมอัฐิพญามังรายมหาราช ณ วัดดอยงำเมือง ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองเชียงราย โดยพิธีบวงสรวงนี้จัดขึ้นเพื่อขอความเป็นสิริมงคลและปัดเป่าสิ่งอัปมงคลตามความเชื่อดั้งเดิมของชาวล้านนา

พิธีทำบุญตักบาตรและเจริญพระพุทธมนต์

หลังจากพิธีบวงสรวงเสร็จสิ้น จะมี พิธีทำบุญตักบาตร โดยมีพระสงฆ์จำนวน 62 รูป รับบิณฑบาตเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชาวเชียงราย จากนั้นจะมีการเจริญพระพุทธมนต์และ พิธีทำบุญสืบชะตาเมืองเชียงราย ณ ลานพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ศาลากลางจังหวัดหลังแรก) เพื่อสร้างความสงบสุขและความเจริญรุ่งเรืองให้กับบ้านเมือง

การสืบชะตาเมือง: พิธีกรรมเพื่อความเป็นสิริมงคล

พิธีสืบชะตาเมือง ถือเป็นพิธีกรรมสำคัญที่ชาวล้านนาใช้ในการขจัดปัดเป่าเคราะห์ร้ายและเสริมสิริมงคลให้กับเมือง เป็นพิธีที่สะท้อนถึงความเชื่อในการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อขอพรให้เมืองเชียงรายปลอดภัยจากภัยพิบัติและวิกฤตต่างๆ การจัดพิธีในครั้งนี้นอกจากจะช่วยฟื้นฟูจิตใจของประชาชนแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของจังหวัดเชียงรายอีกด้วย

ความร่วมมือของหน่วยงานและชุมชน

นางปัทมา สมประสงค์ หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม กล่าวว่า การจัดพิธีสืบชะตาเมืองครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากทั้ง หน่วยงานราชการ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ทุกภาคส่วน ร่วมมือกันในการเตรียมความพร้อมเพื่อให้พิธีดำเนินไปอย่างราบรื่นและมีความหมาย

นายโสไกร ใจหมั้น ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงราย ยังได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการอนุรักษ์วัฒนธรรมล้านนา และการฟื้นฟูประเพณีอันดีงามที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน

การเตรียมการเพื่อความสำเร็จของพิธี

การประชุมเตรียมความพร้อมในครั้งนี้ยังได้หารือเกี่ยวกับ การจัดการสถานที่และการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ที่จะเข้าร่วมงาน โดยมีการเตรียมแผนการจัดการด้านความปลอดภัย การจราจร และการบริการประชาชน เพื่อให้การจัดงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและราบรื่นที่สุด

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News