Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา ณ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เชียงราย

 
เมื่อวันอังคารที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 09.30 น. มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) จัดพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ประจำปีการศึกษา 2565 ที่หอประชุมสมเด็จย่า โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา ประจำปีการศึกษา 2565 โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มัชฌิมา นราดิศร อธิการบดี ทูลเกล้าฯ ถวายสูจิบัตร ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.วันชัย ศิริชนะ นายกสภามหาวิทยาลัย (อธิการบดีผู้ก่อตั้ง) กราบบังคมทูลสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
 
 
สำหรับปีนี้ผู้เข้ารับพระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ตามที่สภามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงมีมติอนุมัติ ได้แก่ ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง แก่ รองศาสตราจารย์ เภสัชกรหญิง ดร.พรรณวิภา กฤษฎาพงษ์ และปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาสังคมศาสตร์ แก่ รองศาสตราจารย์ นภาลัย สุวรรณธาดา และสำหรับผู้ได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติ ‘ตุงทองคำ’ คือ นายศิริชัย มาโนช และ รองศาสตราจารย์ ดร.สุริยพงศ์ วัฒนาศักดิ์
 
 
โดยผู้สำเร็จการศึกษาเข้ารับพระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิต มหาบัณฑิต และบัณฑิต เป็นจำนวน 2,169 คน จากสำนักวิชา แพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ นวัตกรรมสังคม จีนวิทยา การแพทย์บูรณาการ ศิลปศาสตร์ วิทยาศาสตร์ การจัดการ เทคโนโลยีสารสนเทศ อุตสาหกรรมเกษตร นิติศาสตร์ วิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง วิทยาศาสตร์สุขภาพ และพยาบาลศาสตร์ เป็นบัณฑิตชาวต่างชาติ จำนวน 60 คน ชาวต่างชาติที่สำเร็จการศึกษาในปีนี้ทั้งหมด 100 คน จากจีน เมียนมา ญี่ปุ่น มอริเชียส เกาหลีใต้ เยเมน อเมริกา บังกลาเทศ ฟิลิปปินส์ ลาว อัฟริกาใต้ ศรีลังกา ภูฏาน อังกฤษ ไนจีเรีย
 
 
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงเปิดสอน 69 หลักสูตร ใน 15 สำนักวิชา ทั้งระดับอนุปริญญา ปริญญาตรี โท และ เอก ในปีการศึกษา 2566 มีนักศึกษาทั้งสิ้น 14,488 คน จากทั่วทุกภาคของประเทศไทยและจากกว่า 47 ประเทศทั่วโลก จากนโยบายการจัดการเรียนการสอนโดยใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อกลาง และมีภาษาที่สองเป็นภาษาจีน ตลอดมานั้น ทำให้บัณฑิตที่จบจากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงมีทักษะและความสามารถ ที่จะร่วมพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้า การรับรู้ในวัฒนธรรมที่หลากหลาย เป็นพลเมืองโลกได้อย่างสมบูรณ์ โดยปัจจุบันมีผู้สำเร็จการศึกษาทั้งสิ้น 39,612 คน กระจายการทำงานอยู่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ.
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

มฟล. จัดอบรมเตรียมพร้อมสู่โลกอาชีพยุคใหม่ด้วย AI

 
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) โดย ส่วนจัดหางานและฝึกงานของนักศึกษา จัดกิจกรรมอบรม “เตรียมพร้อมสู่โลกอาชีพยุคใหม่ด้วย AI” (Ready for the New-Age Career with AI) เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมเตรียมความพร้อมให้แก่นักศึกษาในรายวิชาสหกิจศึกษาและฝึกประสบการณ์วิชาชีพ เพื่อหวังเป็นแนวทางในการ Upskill-Reskill ก่อนออกไปฝึกปฏิบัติงานและสำเร็จการศึกษา โดยมี อาจารย์ ดร.พฤทธิ์ พุฒจร อาจารย์ประจำสาขาวิชาเทคโนโลยีมัลติมีเดียและการสร้างภาพเคลื่อนไหว สำนักวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ มฟล. เป็นวิทยากร จัดอบรมในรูปแบบออนไลน์และออนไซต์ ณ ห้องประชุมประดู่แดง 1 อาคารพลเอกสำเภา ชูศรี (E4) มีนักศึกษาให้ความสนใจลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมออนไซต์มากกว่า 300 คน ทั้งนักศึกษาเตรียมฝึกปฏิบัติงานและนักศึกษาที่สนใจการทำงานด้วย Gen AI ซึ่งเป็นทักษะการทำงานในยุคใหม่ที่หลายคนให้ความสนใจว่าจะประยุกต์ใช้ AI เพื่อช่วยในการเรียนหรือการทำงานได้อย่างไร โดยการอบรมนรนี้ยังมีเวิร์คช้อปการใช้ AI ทำภาพประกอบ แต่งเนื้อเพลง และทำเพลงพร้อมเสียงร้องจาก AI อีกด้วย
 
 
อาจารย์ ดร.พฤทธิ์ พุฒจร กล่าวว่า ทักษะการใช้งาน Gen AI น่าจะเป็นประโยชน์ที่จะต้องมีติดตัวกับการทำงานในอนาคต
“มนุษย์เราเดินทางมาถึงยุคที่โลกกำลังเปลี่ยนแปลงอีกครั้งด้วย AI หรือปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) มีหลายคนเคยกังวลว่าต่อไป AI หรือหุ่นยนต์จะมาแย่งงานของมนุษย์หรือไม่ เราต้องปรับตัวอย่างไร แท้จริงแล้ว AI ยังไม่สามารถมาทำงานแทนมนุษย์ได้ทั้งหมด แต่มนุษย์จะถูกแทนที่ด้วยมนุษย์ที่ใช้งาน AI เป็น”
 
 
“เราต้องเปลี่ยนแนวคิดจาก AI ปัญญาประดิษฐ์ เป็น IA (Intelligence Assistance) ผู้ช่วยทางปัญญา มีงานวิจัยออกมาว่า ถ้ามนุษย์มีทักษะในการใช้งาน AI เป็น เราจะฉลาดขึ้น แต่ถ้ามนุษญ์ใช้งาน AI ไม่เป็นก็จะโง่ลง ดังนั้นคนยุคใหม่อาจจำเป็นต้องมีทักษะในการใช้งาน AI แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะเชื่อคำตอบจาก AI ได้ทั้งหมด ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจการทำงานของมัน ประเมินคำตอบที่ได้ ตรวจหาหลักฐาน จากนั้นจึงนำไปใช้งาน เช่นคำตอบจาก ChatGPT เป็นต้น และอย่าลืมว่าการใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือที่ช่วยข้ามข้อจำกัดของมนุษย์ ที่ต้องใช้ควบคู่กับการมีจริยธรรมด้วย” อาจารย์ ดร.พฤทธิ์ พุฒจร กล่าว.
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
All

วิชาการศรีเกิด เปิดวัฒนธรรมจีน ครั้งที่ 17 สอนเด็กนักเรียนรู้ตรุษจีน

 

เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567 นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย มอบหมายให้ นายณรงค์ศักดิ์ เตือนสกุล รองนายกเทศมนตรีนครเชียงราย นางบังอร มะลิดิน รองนายกเทศมนตรีนครเชียงราย ร่วมเปิดกิจกรรม “วิชาการศรีเกิด เปิดวัฒนธรรมจีน ครั้งที่ 17 ที่โรงเรียนเทศบาล 1 ศรีเกิด โดยมี พระไพศาลประชาทร วิ. (หลวงพ่อพบโชค) เจ้าอาวาสวัดห้วยปลากั้ง เข้าร่วมในกิจกรรมด้วย

โรงเรียนเทศบาล 1 ศรีเกิด เป็นหนึ่งในโรงเรียนในสังกัด เทศบาลนครเชียงราย และ นางสาวศิริภัส ขัติยะ ผู้อำนวยการสถานศึกษา ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาล 1 ศรีเกิด นำคณะครูอาจารย์และนักเรียนเข้าร่วม โดยพิธีจัดให้มีกิจกรรมแสดงศิลปวัฒนธรรมจีน ในรูปแบบต่าง ๆ รวมทั้งจัดพิธีสักการะพระโพธิสัตว์กวนอิม เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ผู้เข้าร่วมงานในโอกาสเทศกาลตรุษจีน โดยมีผู้ปกครองเด็กนักเรียน เดินทางมาร่วมในกิจกรรมจำนวนมาก
 
 
ทั้งนี้การจัดกิจกรรมดังกล่าว ทางเทศบาลนครเชียงราย ได้ให้ความสำคัญกับภาษาจีน รวมทั้งวัฒนธรรมจีน ที่มีบทบาทสำคัญต่อประชาคมโลกและประเทศไทย เทศบาลนครเชียงรายนำโดยนายกเทศมนตรีได้ตระหนักและให้ความสำคัญเกี่ยวกับภาษาและวัฒนธรรมจีนมาโดยตลอด จึงมีกิจกรรมระหว่างเทศบาลนครเชียงรายและประเทศจีนอย่างหลากหลาย เช่น โครงการความร่วมมือทางการศึกษาแก่ครูและนักเรียนด้วยการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านภาษาและวัฒนธรรมจีน อีกทั้งความร่วมมือจากสถาบันขงจื่อ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงและมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ซึ่งกิจกรรมที่จัดขึ้นในครั้งนี้ถือเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพการจัดการศึกษาตามการพัฒนาดังกล่าว
 
 
นางสาวศิริภัส ขัติยะ ผู้อำนวยการสถานศึกษา ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาล 1 ศรีเกิด กล่าวว่าโรงเรียนเทศบาล 1 ศรีเกิด ได้จัดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับปฐมวัยถึงระดับประถมศึกษาปีที่ 6 ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยเพิ่มเติมวิชาภาษาจีนกลางมาตั้งแต่ปี 2548 ปัจจุบันได้พัฒนาหลักสูตรโดยเน้นการเรียนการสอนด้วยภาษาจีนอย่างเข้มข้น โดยได้รับความร่วมมือจากสถาบันขงจื่อ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงและมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย การจัดงานครั้งนี้จึงเพื่อให้ผู้เรียนได้แสดงศักยภาพทางภาษาและวัฒนธรรมจีน ซึ่งกิจกรรมดังกล่าว จะทำให้นักเรียนทุกคนได้เข้าถึงวัฒนธรรมจีน ในช่วงตรุษจีน รวมทั้งได้ความรู้อื่น ๆ ควบคู่ไปด้วยการมีรประสบการณ์นอกห้องเรียน
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : โรงเรียนเทศบาล 1 ศรีเกิด

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

มฟล.พัฒนาพลิกโฉมสมุนไพรไทย ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน

 

เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ห้องคำมอกหลวง อาคาร M-Square มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.วันชัย ศิริชนะ นายกสภามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มัชฌิมา นราดิศร อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง พร้อมด้วยผู้บริหาร ร่วมต้อนรับคณะคณะทำงานสนับสนุนข้อมูลการวิจัยทางคลินิกและการจัดการข้อมูลการใช้สมุนไพรในคน ในคณะกรรมาธิการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม วุฒิสภา โดยมี พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง ประธานกรรมาธิการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม วุฒิสภา เป็นประธานในการประชุมเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาสมุนไพร ภายใต้โครงการศูนย์กลางความรู้ต้นแบบด้านสมุนไพรเพื่อการใช้ประโยชน์ทางสุขภาพอย่างยั่งยืน Hub of Knowledge: Herbs for sustainable health and well-being 

 

เพื่อให้เกิดการพัฒนาและพลิกโฉมสมุนไพรไทยอย่างเป็นรูปธรรม โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 100 คน ประกอบด้วย คณะกรรมาธิการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม วุฒิสภา คณะทำงานสนับสนุนข้อมูลการวิจัยทางคลินิกและการจัดการข้อมูลการใช้สมุนไพรในคน ในคณะกรรมาธิการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม วุฒิสภา ผู้เชี่ยวชาญจากกรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก เครือข่ายโรงพยาบาล สถาบันการศึกษา/สถาบันวิจัย ที่มีผลงานวิจัยและนวัตกรรมด้านสมุนไพร รวมถึงผลิตวัตถุดิบต้นทาง หน่วยงานสนับสนุนทุนวิจัย องค์การเภสัชกรรม สมาคม/สมาพันธ์ มูลนิธิขับเคลื่อนงานด้านสมุนไพร และเครือข่ายภาคเอกชนมากกว่า 40 หน่วยงาน

 

สำหรับการพัฒนาและพลิกโฉมสมุนไพรไทยนั้น มีความจำเป็นต้องพัฒนาศูนย์กลางความรู้ด้านการวิจัยและพัฒนาสมุนไพร โดยการจัดตั้งเครือข่าย (Consortium) ที่รวบรวมผู้เชี่ยวชาญที่มีองค์ความรู้ด้านการวิจัยสมุนไพร และพัฒนากลไกที่ส่งเสริม และสนับสนุนให้เกิดกระบวนการทำวิจัยร่วมกันตลอดจนการพัฒนารูปแบบ (Template) การเก็บรวบรวมข้อมูลองค์ความรู้ งานวิจัย โครงสร้างพื้นฐาน ข้อมูลบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษ เพื่อนำไปสู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ และนำไปสู่การพัฒนาฐานข้อมูลสมุนไพรใน Knowledge Hub ที่มีรูปแบบเดียวกัน 
 
 
เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง และการวิเคราะห์ช่องว่างของการวิจัยและพัฒนางานด้านสมุนไพร (Gap analysis) ที่เป็นสมุนไพรเป้าหมายตามแผนปฏิบัติการด้านสมุนไพรแห่งชาติ ฉบับที่ 2 พ.ศ.2566-2570 เพื่อส่งเสริมให้เกิด Hub of Knowledge ที่ทำงานร่วมกับนักวิจัยที่มีความเชี่ยวชาญในระดับนานาชาติ และประชาสัมพันธ์ Hub of Knowledge ด้านสมุนไพรของประเทศไทย
 
 
นอกจากนี้ภายในงานมีการจัดแสดงนิทรรศการงานวิจัยด้านสมุนไพร และบูธผลิตภัณฑ์สมุนไพรจากเครือข่ายภาคเอกชน เพื่อแสดงให้เห็นถึงการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันที่สูงขึ้นตลอดห่วงโซ่คุณค่าของพืชสมุนไพรและผลิตภัณฑ์อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

‘บก.ลายจุด’รับสับสนหลายเรื่อง หลัง มฟล. แถลงการณ์ ‘ดร.เค็ง’

 
วันที่ 4 ธ.ค. 2566 วันที่ 4 ธ.ค.2566 กระแสความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับกรณีของ ดร.เค็ง นักเรียนทุนปริญญาเอกที่ป่วยจิตเวชจนต้องลาออกจากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงที่เชียงราย แต่ต่อมาพบว่าทางมหาลัยได้ดำเนินการยื่นเรื่องฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับทาง ดร.เค็ง ถึง 16 ล้านบาท จนต่อมาเรื่องราวนี้ถูกเผยแพร่รายละเอียดมาต่อเนื่อง โดยการโพสต์ผ่านสื่อโซเชียลของสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ “บก.ลายจุด” หลังมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง แถลงการณ์เรื่องการยื่นฟ้องคดีกับอาจารย์เพื่อให้ชดใช้ทุนการศึกษาตามที่ปรากฏข่าวสารในสื่อสังคมออนไลน์
 
โดยได้โพสต์ก่อนอื่นขอขอบคุณ ม.แม่ฟ้าหลวง ที่ออกมาสื่อสารกับสังคมในเรื่องนี้ หลังจากที่ดร.เค็งพยายามติดต่อเพื่อขอพูดคุยแต่ไม่เคยได้รับการตอบสนอง นอกจากหมายศาล
 
 
โดย นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก. ลายจุด โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กรวมของแถลงการณ์ดังกล่าวคือ ทุกสิ่งอย่างเจอกันที่ศาล โดยอ้างว่าไม่สามารถไกล่เกลี่ยพูดคุยกันได้ ทั้งๆที่ความเป็นจริงคดีทางปกครองสามารถไกล่เกลี่ยกันได้ ผมไม่มั่นใจว่าแถลงการณ์ดังกล่าวผ่านนิติกรของ ม.แม่ฟ้าหลวงด้วยหรือเปล่า แต่ถ้าผ่านฝ่ายกฎหมายมา ผมขอโต้แย้ง และขอให้ทางผู้รู้ทั้งหลายช่วยโต้แย้งในจุดนี้
เรื่องใบลาออก ดร เค็งยืนยันว่าไม่ได้เซ็นใบลาออก ถ้ามฟล.ยืนยันว่าเขียนใบลาออกผมขอดูเอกสารดังกล่าวในแถลงการณ์ฉบับต่อไป อยากให้ลองสืบค้นมานำเสนอ
 
 
กรณีชี้ว่า ดร เค็ง ไม่ได้นำใบรับรองแพทย์ที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐมายืนยันการเจ็บป่วยนั้น ไม่มีข้อโต้แย้งเพราะ ดร เค็ง ตกอยู่ในสถานะที่ป่วยจิตเวชและไ่ม่ได้เข้ารับการรักษาอยู่หลายปี แต่อย่างไรก็ตามทาง มฟล ไม่ทราบเลยหรือว่าตอนที่ผู้รับทุนและเป็นบุคคลากรของหน่วยงานไปศึกษาอยู่ใน ตปท ได้ประสบปัญหาเรื่องการเจ็บป่วยทางจิตเวชถึงขนาดถูกบังคับรักษาอยู่ใน รพ ที่ีอังกฤษถึง 28 วัน และพฤติกรรมการส่ง email หรือแม้แต่ข้อความที่อยู่ใน email ที่สื่อปัญหาอาการหูแว่วของ ดร เค็ง ในขณะนั้น มฟล ไม่รับทราบหรือวิเคราะห์หรือแสดงความเมตตาที่จะทำความเข้าใจในอาการเหล่านั้น และจะต้องเป็นภาระของพนักงานในองค์กรที่เจ็บป่วยต้องพิสูจน์ด้วยตนเองโดยลำพังเท่านั้น
ผมอ่านแถลงการณ์ของ มฟล แล้วทำให้ผมสับสนทั้งหลักกฎหมาย หลักการบริหารองค์กร และ หลักเมตตาธรรม
 
 
 
 
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

ม.แม่ฟ้าหลวง’ แถลงการณ์ แจงเหตุยื่นฟ้อง ‘ดร.เค็ง’

 
วันที่ 4 ธ.ค. 2566 มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง แถลงการณ์เรื่องการยื่นฟ้องคดีกับอาจารย์เพื่อให้ชดใช้ทุนการศึกษาตามที่ปรากฏข่าวสารในสื่อสังคมออนไลน์ว่า มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงได้ยื่นฟ้อง ดร.เค็ง ซึ่งเป็นอาจารย์ที่เรียนจบในระดับปริญญาเอกที่ขอลาออกในขณะที่ยังไม่ครบเงื่อนไขการชดใช้ทุน โดยให้ชดใช้ทุนการศึกษานับสิบล้านบาท ทั้งที่ ดร.เค็ง เจ็บป่วยด้วยโรคจิตเวช นั้น มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงขอชี้แจงในกรณีนี้ ดังนี้
 
 
1. ดร.เค็ง เป็นพนักงานมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ตำแหน่งอาจารย์ สังกัดสำนักวิชาการจัดการ ได้เริ่มปฏิบัติงานที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค.2548 และต่อมาได้รับทุนรัฐบาลจากกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงให้ไปศึกษาในระดับปริญญาเอก ณ University of Kent ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 17 ก.ย.2551

 

2. ดร.เค็ง ได้กลับมาปฏิบัติงานที่มหาวิทยาลัยเมื่อวันที่ 2 ส.ค.2556 และในระหว่างปฏิบัติงานได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นพนักงานของมหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 19 ส.ค.2557โดยให้ มีผลเป็นการลาออกในวันที่ 1 ก.ย. 2557 ซึ่งในการขอลาออกเป็นการแสดงเจตนาโดยสมัครใจของ ดร.เค็ง และเมื่อ ดร.เค็ง ยังคงแสดงเจตนาเดิมในการขอลาออกโดยได้รับทราบเงื่อนไขของการชดใช้ทุนแล้ว มหาวิทยาลั ยจึงได้ อนุญาตให้ลาออกตามความประสงค์ แต่ด้วยเงื่อนไขของสัญญาและระเบียบของกระทรวงการคลัง เมื่อ ดร.เค็ง ปฏิบัติงานเพื่อชดใช้ทุนการศึกษาไม่ครบถ้วนกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และมหาวิทยาลัย จึงมีความจำเป็นต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของสัญญา เพื่อเรียกให้ชดใช้ทุนการศึ กษา ของกระทรวงวิทย์ ฯ จำนวน 630,207.46 บาท กับอีก 194,730 ปอนด์ และของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงจำนวน 726,305.94  บาท

 

3. ตามเงื่อนไขของสัญญารับทุน และหลักเกณฑ์ปฏิบัติของกระทรวงการคลัง กำหนดให้สิทธิผู้รับทุนที่ไม่ต้องรับผิดชดใช้เงินทุนตามสัญญาเมื่อเป็นบุคคลวิกลจริต จิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ แต่ต้องแสดงหลักฐานทางการแพทย์จากโรงพยาบาลในสังกัดของรัฐ โดยให้แพทย์ผู้ทาการรักษาระบุว่าเหตุวิกลจริต และจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบดังกล่าว ทาให้ผู้ผิดสัญญาไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้แต่ทั้งนี้ ในระหว่างปฏิบัติงานให้กับมหาวิทยาลัยจนกระทั่งยื่นหนังสือลาออก ดร.เค็ง ไม่เคยจัดส่งเอกสารหลักฐานทางการแพทย์ว่าไม่สามารถปฏิบัติงานต่อไปได้ให้กับมหาวิทยาลัยได้รับทราบเลย โดย ดร.เค็ง ได้ยื่นเอกสารทางการแพทย์ต่างๆ ในชั้นพิจารณาของศาลปกครองเชียงใหม่แต่ล่วงเลยระยะเวลาตามที่กำหนดไว้ในสัญญาไปแล้วศาลปกครองเชียงใหม่จึงได้พิจารณาและพิพากษาให้ ดร.เค็ง ชดใช้ทุนการศึกษาตามเงื่อนไขของสัญญา

 

4. ดร.เค็ง ได้ยื่นอุทธรณ์คดีต่อศาลปกครองสูงสุด เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 2566  แต่เมื่อคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด การไกล่เกลี่ยในชั้นศาลนี้ไม่อาจทำได้ มหาวิทยาลัยจึงไม่อาจดำเนินการใด ๆ ในขณะนี้ได้

 

5. มหาวิทยาลัยได้ปฏิบัติต่อ ดร.เค็ง ด้วยเมตตาธรรมและคุณธรรมมาโดยตลอดโดยได้สนับสนุนและส่งเสริมให้ ดร.เค็ง ได้รับโอกาสไปศึกษาวิชาการในต่างประเทศตามที่ ดร.เค็ง ตั้งใจและขอยืนยันว่าในการพิจารณาเรื่องราวของ ดร.เค็ง มหาวิทยาลัยได้ดำเนินการภายใต้ขั้นตอนและหลักเกณฑ์ของกฎหมาย และระเบียบของทางราชการ แต่อย่างไรก็ดีหากศาลปกครองสูงสุดได้พิจารณาพิพากษาเป็นประการใด มหาวิทยาลัยก็พร้อมที่จะปฏิบัติตามคาพิพากษาของศาลทุกประการ

 

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
SOCIETY & POLITICS

ทันตแพทย์ มฟล. บริการแบบครบวงจร สุขภาพช่องปากพระสงฆ์สามเณร

 

เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2566 ผศ.ดร.มัชฌิมา นราดิศร อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และ ผศ. (พิเศษ) ทพ.ไพศาล กังวลกิจ คณบดี สำนักวิชาทันตแพทยศาสตร์ พร้อมด้วยผู้บริหาร แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ จัดพิธีทำบุญสำนักวิชาทันตแพทย์ศาสตร์ และเปิดการดำเนินโครงการส่งเสริมและฟื้นฟูสุขภาพช่องปากพระสงฆ์ ที่ห้องประชุมวันชัย ศิริชนะ อาคารสำนักวิชาทันตแพทย์ศาสตร์ ชั้น 5 ภายในศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ตำบลท่าสุด อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย โดยมี นายสมหวัง บุญระยอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พระพุทธิญาณมุนี เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย และพระพุทธิวงศ์วิวัฒน์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย ตลอดจน พระเถระผู้ใหญ่ เจ้าคณะอำเภอ ร่วมพิธีในครั้งนี้ด้วย 
 
โดยจัดให้มีพิธีทางศาสนาพระสงฆ์ 9 รูป เจริญพระพุทธมนต์ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ผู้บริหาร แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่หลังจากนั้น นายสมหวัง บุญระยอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ผศ.ดร.มัชฌิมา นราดิศร อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และ ผศ. (พิเศษ) ทพ.ไพศาล กังวลกิจ คณบดี สำนักวิชาทันตแพทยศาสตร์ พระพุทธิญาณมุนี เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย และพระพุทธิวงศ์วิวัฒน์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย ได้ร่วมกันเปิดดำเนินโครงการส่งเสริมและฟื้นฟูสุขภาพช่องปากพระสงฆ์ ซึ่งเป็นการดำเนินโครงการของสำนักวิชาทันตแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ที่ได้เล็งเห็นความสำคัญเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากของพระสงฆ์ ให้มีความรู้ มีเจตคติและปฏิบัติตนอย่างถูกต้องในการดูแลสุขภาพช่องปาก ซึ่งจะนำไปสู่การมีสุขภาพช่องปากที่ดี
 
ผศ.(พิเศษ) ทันตแพทย์ ไพศาล กังวลจิต คณบดี สำนักวิชาทันตแพทยศาสตร์ม หาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กล่าวว่า เป็นที่ทราบกันดีว่าสุขภาพอนามัยที่เป็นองค์ประกอบที่สำคัญและจำเป็นของชีวิต ปัญหาสุขภาพช่องปากทั้งโลกฟันผุ โรคเหงือกอักเสบ รวมถึงโรคปริทันต์ และโรคติดเชื้อในช่องปาก เป็นโรคที่ส่งผลต่อสุขภาพร่างกายโดยรวมและมีผลต่อการรักษาโรคร้ายแรงหลายโรค เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน ซึ่งจากการสำรวจพบว่า พระสงฆ์และสามเณรจำนวนมากมีปัญหาสุขภาพในช่องปาก ทั้งโรคฟันผุ โรคปริทันต์ โรคติดเชื้อต่างๆ นอกจากทำให้เกิดความเจ็บปวดทรมานและนำไปสู่การสูญเสียฟันก่อให้เกิดปัญหาต่อการบดเคี้ยวอาหาร และส่งผลต่อสุขภาพ
 
นอกจากนี้ยังพบว่า กลุ่มพระสงฆ์เป็นกลุ่มที่เข้าถึงบริการรักษาทางทันตกรรมในอัตราที่ต่ำ ทำให้โรคในช่องปากไม่ได้รับการรักษาตั้งแต่แรกเริ่ม จึงทำให้โรคลุกลามไปจนถึงขั้นติดเชื้อที่รุนแรง และสูญเสียฟัน ส่งผลกระทบต่อปัญหาสุขภาพ เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติศาสนกิจ ดังนั้นเพื่อให้พระสงฆ์ได้มีความรู้และปฏิบัติตนอย่างถูกต้องในการดูแลสุขภาพช่องปากตนเอง และเพื่อให้พระสงฆ์ได้รับบริการทางทันตกรรมที่ถูกต้องเหมาะสมอย่างครบวงจร เป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพระสงฆ์ควบคู่ไปกับกิจกรรมส่งเสริมทันตสุขภาพ โดยการออกหน่วยทันตกรรมเคลื่อนที่เพื่อให้บริการตรวจ วินิจฉัย การอุดรักษาฟัน การขุดหินปูน รักษาโรคเหงือกอักเสบ และโรคปริทันต์ รวมทั้งการถอนฟันที่วัด ให้ทันตสุขศึกษาควบคู่ไปกับการรักษาทางทันตกรรมเพื่อให้พระสงฆ์และสามเณรสามารถดูแลสุขภาพช่องปากตนเองได้อย่างเหมาะสมในกรณีที่เป็นโรคที่รุนแรง จำเป็นต้องได้รับการรักษาเป็นพิเศษ หรืออาศัยทันตแพทย์เฉพาะทาง เช่น การรักษาโรคปริทันต์อักเสบที่รุนแรง การรักษาคลองรากฟัน การรักษาโรคติดเชื้อ เนื้องอกต่างๆ ในช่องปากและกระดูกขากรรไกร รวมทั้งการใส่ฟันปลอมจะส่งตัวมารับการรักษาที่สำนักวิชาทันตแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ซึ่งโครงการนี้ได้ตั้งเป้าหมายให้บริการแก่พระสงฆ์และสามเณร ที่วัดต่างๆ ในจังหวัดเชียงราย จำนวน 300 รูป ระยะเวลาดำเนินการเริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน ถึงเดือนตุลาคม 2566 ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากมูลนิธิ โสภณพาณิชย์ อีกด้วย
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงอุตสาหกรรม

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
FEATURED NEWS

มฟล. ร่วมชุมชนปลูกป่าเชิงนิเวศ ฟื้นฟูแหล่งต้นน้ำชุมชน

 
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) โดยโครงการสวนพฤกษศาสตร์ฯ ได้ดำเนินการโครงการรักษ์ดิน รักษ์น้ำ รักษ์ป่า ซึ่งเป็นโครงการทางด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 และเนื่องในวันต้นไม้แห่งชาติประจำปี 2566 ซึ่งปีนี้ตรงกับวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ถือเป็นโอกาสดีในการจัดกิจกรรมปลูกป่าเชิงนิเวศ ในพื้นที่อนุรักษ์ เพื่อฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากไฟป่าซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำที่ชุมชนใช้ประโยชน์ อีกทั้งยังเป็นการสร้างความรู้ ความเข้าใจ ปลูกฝังให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ได้แก่ นักศึกษา บุคลากร มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง บุคลากรเทศบาลตำบลนางแล และประชาชนทั่วไปในชุมชนตำบลนางแล ให้มีความรู้สึกรัก และหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติ โดยมีอาจารย์วิทยาศักดิ์ รุจิวรกุล รักษาการแทนรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) พร้อม ดร.จันทรารักษ์ โตวรานนท์ หัวหน้าโครงการสวนพฤกษศาสตร์ฯ นำบุคลากรและนักศึกษาเข้าร่วมกิจกรรม เมื่อวันพุธที่ 31 พฤษภาคม 2566 เวลา 08.00-14.00 น. ณ ที่พื้นที่อนุรักษ์บ้านนางแลใน – บ้านร่องปลาค้าว ตำบลนางแล อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
 
ทั้งนี้กิจกรรมที่โครงการรักษ์ดิน รักษ์น้ำ รักษ์ป่า โดยโครงการสวนพฤกษศาสตร์ฯ ได้ดำเนินการแล้ว ได้แก่ การปลูกต้นไม้ การสร้างฝาย โดยนักศึกษา บุคลากรของมหาวิทยาลัย โดยมีเป้าหมายพัฒนาสภาพแวดล้อมมหาวิทยาลัยให้ร่มรื่น ผลักดันมหาวิทยาลัยสู่การเป็น Green & Clean Campus และส่งเสริมการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กิจกรรมในครั้งนี้หวังที่จะทำให้พื้นที่ป่าได้รับการฟื้นฟู มีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้น สามารถเพิ่มความหลายหลายทางชีวภาพภายในพื้นที่มหาวิทยาลัยได้มากขึ้น สร้างจิตสำนึกรักทรัพยากรธรรมชาติให้แก่นักศึกษาและบุคลากรตลอดจนประชาชนทั่วไปได้ เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผืนป่าทำให้ระบบนิเวศดีขึ้น และทำให้ไม้ยืนต้นเจริญเติบโตมากขึ้น ทดแทนไผ่ป่า ลดอัตราการเกิดไฟป่าได้
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
FEATURED NEWS

มฟล. จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ ความปลอดภัยทางชีวภาพ

 
มฟล. จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ ความปลอดภัยทางชีวภาพและการรักษาความปลอดภัยทางชีวภาพ หวังสร้างมาตรฐานการวิจัยระดับสากล
 
ส่วนบริหารงานวิจัย สถาบันวิจัยและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) จัดการอบรมอบรมเชิงปฏิบัติการ ความปลอดภัยทางชีวภาพและการรักษาความปลอดภัยทางชีวภาพ (Biosafety and Biosecurity Training Course) หลักสูตรอบรมภาคภาษาอังกฤษ ระหว่างวันที่ 8-9 มิถุนายน 2566 ณ ห้องประชุมคำมอกหลวง อาคาร M-Square มฟล. โดยมี นายกานต์กุญช์ บำรุงชาติ หัวหน้าส่วนบริหารงานวิจัย กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมการอบรมทั้งที่เป็นนักศึกษานานาชาติ อาจารย์และนักวิจัยของมหาวิทยาลัย และได้รับเกียรติจากวิทยากร ดร.ฉายสุรีย์ ศุภวิไล ข้าราชการบำนาญ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ บรรยายเรื่อง กฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับคามปลอดภัยทางชีวิภาพ (Biosafety) และการรักษาความปลอดภัยทางชีวภาพ (Biosecurity) ผศ. ดร.วีระชัย ทิตภากร อาจารย์ประจำวิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติจุฬาภรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ บรรยายเรื่อง หลักการด้านความปลอดภัยทางชีวภาพและการรักษาความปลอดภัยทางชีวภาพ ดร.บุญเฮียง พรมดอนกอย นักวิจัยอาวุโส ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ บรรยายเรื่อง การจัดการความเสี่ยงทางชีวภาพ (Biorisk Management) และอีกหลายหัวข้อที่เกี่ยวข้อง
 
นายกานต์กุญช์ บำรุงชาติ หัวหน้าส่วนบริหารงานวิจัย กล่าวว่า มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ร่วมมือกับ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (National Center for Genetic Engineering and Biotechnology: BIOTEC) จัดหลักสูตรอบรมภาคภาษาอังกฤษเรื่อง “ความปลอดภัยทางชีวภาพและการรักษาความปลอดภัยทางชีวภาพ” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างให้เกิดความรู้และความเข้าใจแก่นักวิจัย นักศึกษาต่างชาติ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในห้องปฏิบัติการชีวภาพ เพื่อสามารถปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้องและมีความปลอดภัย โดยได้รับเกียรติจากวิทยากร 3 ท่านคือ ดร.บุญเฮียง พรมดอนกอย และ ผศ. ดร.วีระชัย ทิตภากร รวมทั้ง ดร.ฉายสุรีย์ ศุภวิไล ซึ่งเป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการความปลอดภัยทางชีวภาพของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงอีกด้วย
 
ทั้งนี้ การวิจัย ถือเป็นหนึ่งในภารกิจหลักของคณาจารย์ของมหาวิทยาลัย เพื่อสร้างองค์ความรู้นำมาใช้ในการเรียนการสอน การพัฒนาประเทศ และพัฒนาคุณภาพในด้านวิชาการของมหาวิทยาลัย ในปัจจุบันการทำงานวิจัยที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีชีวภาพสมัยใหม่หรือพันธุวิศวกรรม มีจำนวนที่เพิ่มขึ้นและมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ในการสร้างประโยชน์ด้านอุตสาหกรรม การแพทย์ การเกษตร และด้านอื่นที่เกี่ยวข้อง 
 
โดยตามหลักสากลในการดำเนินงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีสมัยใหม่ ต้องมีการดูแลความปลอดภัยของห้องปฏิบัติการ ซึ่งประกอบด้วยมาตรฐานการควบคุมความปลอดภัยทางชีวภาพ และมาตรฐานความปลอดภัยทางห้องปฏิบัติการ เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าการวิจัยการทดลองนั้น มีความปลอดภัยต่อผู้ที่เกี่ยวข้องและสิ่งแวดล้อมในทุกด้าน จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่นักวิจัยและผู้ปฏิบัติงาน จะต้องมีความรู้ มีความเข้าใจ ในเรื่องความปลอดภัยทางชีวภาพและการรักษาความปลอดภัยทางชีวภาพที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะส่งผลให้ผลงานวิจัยที่ได้มีมาตรฐานในระดับสากล และเป็นที่ยอมรับในวงกว้างต่อไป
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
FEATURED NEWS

มฟล. ขึ้นทะเบียนหลักสูตรพุทธศิลปกรรม รุ่น 3 สร้างศิลปินมืออาชีพรุ่นต่อรุ่น

 
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) โดย ศูนย์บริการวิชาการ จัดการรายงานตัวและขึ้นทะเบียนผู้เรียนหลักสูตรระยะสั้น สาขาวิชาพุทธศิลปกรรม รุ่นที่ 3 พ.ศ. 2566 ณ อาคารพลเอกสำเภา ชูศรี มฟล. มีรายชื่อผู้รายงานตัวจำนวน 60 รูป/คน โดยได้รับเกียรติจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มัชฌิมา นราดิศร อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กล่าวแสดงความยินดี และมอบเข็มกลัดที่ระลึกของหลักสูตรฯ ให้แก่ผู้เรียน ดร.ณัฐวุฒิ ยอดสุวรรณ ผู้อำนวยการศูนย์บริการวิชาการ บรรยายภาพรวมของหลักสูตร รองศาสตราจารย์ ดร.พลวัฒ ประพัฒน์ทอง อาจารย์ประจำหลักสูตร แนะนำหลักสูตร แนวทางการสอน การวัดและการประเมินผล รวมทั้งชี้แจงรายละเอียดสัญญาการจัดการสิทธิและการจัดสรรผลประโยชน์ทรัพย์สินทางปัญญาภายใต้การศึกษาในหลักสูตรฯ พร้อมทั้งคณาจารย์ประจำหลักสูตรให้ข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอน ได้แก่ อาจารย์ทองเดช ทิพย์ทอง อาจารย์วาทิตย์ เสมบุตร อาจารย์ขจรเดช หนิ้วหยิ่น อาจารย์วัชระ กว้างไชย์ และ อาจารย์กาญจนา ชลศิริ
 
ในโอกาสนี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มัชฌิมา นราดิศร อธิการบดี มฟล. กล่าวแสดงความยินดีกับผู้รายงานตัวเป็นผู้เรียนของหลักสูตรว่า ในนามของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ขอแสดงความยินดีเป็นอย่างยิ่งกับผู้เรียนทุกท่าน ที่ได้ผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มข้นในการเข้าศึกษาในหลักสูตรระยะสั้น สาขาวิชาพุทธศิลปกรรมของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ซึ่งรุ่นนี้นับเป็นรุ่นที่ 3 รวมผู้เรียนทั้งสิ้นจำนวน 60 รูป/คน
 
ขอแสดงความชื่นชมหลักสูตรระยะสั้นนี้ ที่ได้มีการบริหารจัดการหลักสูตร ในการจัดการเรียนการสอนให้กับพระภิกษุ สามเณร และบุคคลทั่วไปที่มีความสนใจในด้านพุทธศิลปกรรม ให้ได้มีโอกาสในการศึกษาเรียนรู้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในการศึกษา โดยดำเนินการมาแล้ว 3 รุ่น โดยรุ่นที่ 1 ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2564 เป็นต้นมา
 
หลักสูตรนี้เป็นความคิดริเริ่มจากผู้ก่อตั้ง 3 ท่าน คือ พระเมธีวชิโรดม หรือที่เรารู้จักในนาม ท่าน ว.วชิรเมธี ที่ท่านเป็นผู้อำนวยการศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน ท่านที่ 2 คือ ศาสตรเมธี ดร.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ท่านเป็นศิลปินแห่งชาติ และท่านที่ 3 คือ ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.วันชัย ศิริชนะ ท่านเป็นอธิการบดีผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และในปัจจุบันท่านเป็นนายกสภามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง โดยท่านทั้ง 3 ได้มีแนวคิดร่วมกัน ในการที่จะก่อตั้งให้มีหลักสูตรนี้ขึ้นมา เพื่อเป็นการพัฒนาองค์ความรู้ด้านสุนทรียศาสตร์ ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติแบบเข้มข้น ที่สร้างความรู้ความเข้าใจในด้านพุทธศิลปกรรมได้อย่างลึกซึ้ง ตลอดจนการเผยแพร่งานพุทธศิลปกรรมให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณะ และส่งเสริมให้งานพุทธศิลปกรรมให้คงอยู่ตลอดไป
 
สำหรับหลักสูตรระยะสั้น สาขาวิชาพุทธศิลปกรรมนี้ ได้ดำเนินการในลักษณะแบบบูรณาการพันธกิจร่วมกัน ระหว่างการบริการวิชาการแก่สังคม และการทำนุบำรุงศิลปะวัฒนธรรม ซึ่งได้ดำเนินการโดยการทำงานของศูนย์บริการวิชาการของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จะเป็นลักษณะของการดำเนินการที่เป็นโครงการบริการที่ไม่มีรายได้ โดยได้รับงบประมาณสนับสนุนจากกองทุนพุทธศิลปการแห่งมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากผู้จิตศรัทธา และรายได้จำนวนร้อยละ 40 จากการจำหน่ายผลงานสร้างสรรค์ของอาจารย์ประจำหลักสูตรและผลงานของผู้เรียน
 
หลักสูตรนี้ได้แบ่งการศึกษาออกเป็น 3 ระดับ คือ ระดับที่ 1 พุทธศิลป์พื้นฐาน ระดับที่ 2 พุทธศิลป์สร้างสรรค์ และระดับที่ 3 พุทธศิลป์สร้างสรรค์ขั้นสูง โดยการดำเนินการสอนโดยผู้ทรงคุณวุฒิ และคณาจารย์ประจำหลักสูตรที่มีความรู้ความสามารถ จัดการเรียนการสอนทุกวันเสาร์และอาทิตย์ ในระยะเวลา 1 ปี โดยที่ผู้ที่จะสำเร็จการศึกษาตามแผนการสอนในแต่ระดับ จะได้รับประกาศนียบัตรสำเร็จการศึกษา ที่รับรองโดยพระเมธีวชิโรดม ศาสตรเมธี ดร.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ และ ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.วันชัย ศิริชนะ ซึ่งทั้ง 3 ท่านเป็นผู้ก่อตั้งหลักสูตรนี้
 
หลักสูตรหลักสูตรระยะสั้น สาขาวิชาพุทธศิลปกรรม นับเป็นหลักสูตร Master Class อย่างแท้จริง ด้วยเป็นหลักสูตรที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงมีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง สุดท้ายนี้ก็ขอแสดงความยินดีกับผู้เรียนทุกท่านอีกครั้ง ซึ่งถือว่าตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ท่านเป็นผู้เรียนในหลักสูตรระยะสั้น สาขาวิชาพุทธศิลปกรรมของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงรุ่นที่ 3 ปี พ.ศ 2566 ซึ่งจะได้พัฒนางานด้านพุทธศิลป์ออกไปในวงกว้าง และก่อประโยชน์อย่างมีประสิทธิผลในสังคมไทยและสังคมโลกได้อย่างยั่งยืนต่อไป” อธิการบดี มฟล. กล่าว
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News