เมื่อวันที่ 9 ก.ค.2567 – ที่ศูนย์ปฎิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานการประชุมปราบปรามอาชญากรรมตามนโยบายสำคัญเร่งด่วน โดยมี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร.รรท.รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร., พร้อมด้วยผู้แทนหน่วยต่างๆ เข้าร่วมประชุม
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุม ว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีได้สั่งการเร่งด่วน 5 เรื่อง คือเรื่องยาเสพติด การลักลอบนำเข้าสุกร สินค้าหนีภาษีเข้ามาตาชายแดน การดำเนินธุรกิจสีเทาของต่างชาติ ในภูเก็ตชลบุรี และกทม. รวมถึงการลักลอบเล่นพนันออนไลน์ เพื่อให้เร่งรัดดำเนินการในไตรมาสสุดท้าย โดยทั้ง 5 เรื่องอยู่ในนโยบาย 11 ข้อของ ตร. และที่ผ่านมาตำรวจทำอยู่แล้ว มีการจับกุมดำเนินคดีเพิ่มมากขึ้นหากเทียบกับปีที่ผ่านมา แต่ประชาชนยังไม่พึงพอใจ โดยจากนี้จะต้องมีการประชาสัมพันธ์ผลการปฎิบัติทั้งหมดจนถึงชั้นตอนสุดท้าย คือคดีถึงที่สุดไปจนถึงยึดทรัพย์ให้ประชาชนรับทราบ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องกลับมาคิดและวางเป้าหมายว่าจะทำอย่างไร โดยเรื่องยาเสพติดเตรียมใช้ “ร้อยเอ็ดโมเดล” นำไปใช้แก้ไขปัญหาให้ยาเสพติดเป็นศูนย์เป็นพื้นที่สีขาวอย่างยั่งยืน ให้ประชาชนเกิดความมั่นใจว่ายาเสพติดจะไม่กลับมา
ส่วนเรื่องของการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ ย้ำว่ามีผลการจับกุมเยอะมากกว่าปีที่แล้วจะต้องทำให้ประชาชนเห็น เช่นเดียวกับแก๊งคอลเซนเตอร์ ทาง พล.ต.ท.ธัชชัย กำลังเร่งรัดดำเนินการอยู่ โดยเฉพาะศูนย์แจ้งเบอร์ที่เป็นของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ประชาชน เพื่อเป็นการป้องกันการตกเป็นเหยื่อ
ผบ.ตร. กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาเร่งด่วนทั้ง 5 เรื่อง จะต้องมีการบูรณาการร่วมกัน ไม่ใช่ตำรวจเพียงหน่วยงานเดียว ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กำชับสั่งการให้มีการบูรณาการกำลังทั้งฝ่าย ทหาร ตำรวจ ปกครองรวมหลายหน่วยควบคู่ไปกับการทุ่มงบประมาณลงไปอย่างมหาศาล เป็นสิ่งที่รัฐบาลทุ่มเท แต่อาจจะยังทำได้ไม่ทั่วถึงทุกพื้นที่ แต่หากมีการทำเป็นโมเดลแล้วก็จะขยายพื้นที่ต่อไปยังจังหวัดอื่น โดยจะพยายามทำให้ดีที่สุด เพื่อให้เห็นผลลัพท์อย่างเป็นรูปธรรม
ส่วนอายุราชการที่เหลืออยู่ตนเองพร้อมจะดำเนินการอย่างเต็มที่ และส่งต่อให้กับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนต่อไป เนื่องจากเป็นหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว จุดไหนที่เป็นจุดอ่อนช่องโหว่ก็ต้องแก้ไขปัญหา เพราะอาชญากรรมไม่เคยหมดไปจากโลก ต้องมีการป้องกันเตรียมพร้อมทั้งกำลังพลและอุปกรณ์ เครื่องไม้เครื่องมือให้มีความพร้อม โดยย้ำว่าตำรวจทำเต็มที่อยู่แล้ว แต่ถามว่าร้อยเปอร์เซ็นไหมคงไม่ร้อยเปอร์เซ็น ได้ 90% ก็ดีแล้ว เช่น มีผลการจับกุมผู้ค้าผู้เสพทั้งรายย่อยรายใหญ่ เพราะยาเสพติดเป็นพื้นฐานที่จะนำไปสู่การก่ออาชญากรรมต่างๆ
เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์