Categories
TOP STORIES VIDEO

(มีคลิป) รวบไตเติ้ล นักถ่ายใต้กระโปรง ทำมาแล้ว 7 ปี พบเหยื่อกว่า 430 ราย

 

“ไตเติ้ล แอบถ่ายใต้กระโปรง” ภัยสำหรับสาวชอบนุ่งกระโปรง แฝงตัวตามห้างสรรพสินค้า สะพานลอย ในพื้นที่กรุงเทพฯ คัดเหยื่อหญิงสาวหุ่นดีและนุ่งกระโปรง ก่อนเดินประกบแล้วแอบใช้โทรศัพท์ถ่ายภาพใต้กระโปรง พร้อมใบหน้า ล่าสุดถูกชุด “สืบนครบาล” และ “PCT5” จับกุมตัวได้ในบ้านพักและขยายผลในโทรศัพท์ทำให้ชุดจับกุมถึงกับอึ้ง พบคลิปแอบถ่ายใต้กระโปรงพร้อมใบหน้าเหยื่อกว่า 430 ราย!!! ตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา เจ้าตัวยอมจำนนต่อหลักฐานสารภาพกับ “ผู้การจ๋อ” ทำไปเพราะชอบความตื่นเต้น เมื่อทำสำเร็จรู้สึกได้ปลดปล่อย ยิ่งกว่าการมีเซ็กส์ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. สั่งเร่งขยายผลกู้ข้อมูลในคอมพิวเตอร์โดยเร็วที่สุด

เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2566 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.พัชรดนัย การินทร์ ผกก.กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.ธนากร อ่อนทองคำ ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.ปรีชากรณ์ เหมาอำพมาตร์ รอง ผกก.สส.สน.ปทุมวัน , พ.ต.ท.มาโนชย์ ทองแก้ว , พ.ต.ท.ปกป้อง ฟองเลา , พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ สืบนครบาล และชุด PCT5 ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัว

นายทรรศน์ เสมอภาค หรือ ไตเติ้ล อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.902/2566 ลงวันที่ 15 ก.ย.2566

ในข้อหา “กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะไม่สามารถขัดขืนได้ โดยได้บันทึกภาพหรือเสียงการกระทำอนาจารนั้นไว้เพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบสำหรับตนเองหรือผู้อื่นและกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการรังแก หรือข่มเหงผู้อื่น หรือกระทำให้ผู้อื่นได้รับความอับอาย หรือเดือดร้อนรำคาญในที่สาธารณสถาน”

ตรวจยึดของกลาง 2 รายการ
1.โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง (กู้ข้อมูลพบคลิปแอบถ่ายใต้กระโปรงกว่า 873 ภาพ ใบหน้าเหยื่อ 430 ราย)
2.คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง (พบข้อมูลการฝึกแอบถ่ายใต้กระโปรง-รอกู้ข้อมูล)

พฤติการณ์ กล่าวคือ “ไตเติ้ล นักแอบถ่ายใต้กระโปรง” ภัยเมืองกรุงของเหล่าเด็กสาว เมื่อได้เกิดกลุ่มลับที่พวกชายสายหื่นที่ชื่นชอบเสพสื่อลามกประเภทของการ “แอบถ่ายใต้กระโปรง“ แล้วนำคลิปมาแชร์มาเสพกันในกลุ่ม โดยแผนประทุษกรรมจะหาเหยื่อตามห้างดัง และสะพานลอย ในพื้นที่ จ.กรุงเทพฯ จากนั้นจะคัดเลือกเหยื่อที่เป็นเด็กหญิงที่ ”สวมกระโปรง” จากนั้นจะเดินสะกดรอยติดตามเยี่ยงคนโรคจิต จากนั้นเมื่อสบโอกาสก็จะใช้โทรศัพท์ถ่ายคลิปวีดิโอใต้กระโปรงเหยื่อ โดยเหยื่อเกือบทุกรายจะ ”ไม่รู้ตัว“ หรือบางรายรู้ตัว คนร้ายก็จะเดินหลบหนีไป ล่าสุดโคตรนักมุดรายนี้ได้ลงมือก่อเหตุในห้างดังย่านสามย่าน โดยก่อเหตุอย่างอุกอาจชนิดที่ไม่เกรงกลัวกล้องวงจรปิด เพราะมั่นใจว่าเหยื่อไม่รู้ตัว แต่แล้วได้มีพลเมืองดีแจ้งให้กับเหยื่อทราบว่าถูกแอบถ่าย จึงพากันเข้าแจ้งความดำเนินคดี ชุดสืบสวนของ สืบนครบาลตรวจสอบแผนประทุษกรรมพบพยานหลักฐานว่าคนร้ายรายนี้ก่อเหตุมาอย่างโชกโชน ซึ่งต่อมาได้สืบทราบว่าคนร้ายรายนี้คือ นายทรรศน์ฯ หรือ ไตเติ้ล อายุ 29 ปี ซึ่งได้ถูกออกหมายจับในเวลาต่อมา เรื่องนี้ถึงหู พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. , พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ได้สั่งการ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ให้ส่งชุดสืบสวนนครบาลมือดีสืบสวนติดตามจับกุมตัว ซึ่งต่อมาได้ติดตามจับกุมตัวได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่ง ย่านงามวงศ์วาน เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 66 ซึ่งจากการขยายผลในบ้านพักดังกล่าวพบหลักฐาน โทรศัพท์ และ คอมพิวเตอร์ ของคนร้ายซึ่งมีคลิปที่แอบถ่ายใต้กระโปรงลักษณะนี้อีกกว่า 873 ภาพ!! พร้อมภาพใบหน้าเหยื่อกว่า 430 ราย ทำเอาทั้งชุดสืบสวนถึงกับอึ้ง ซึ่งเจ้าตัวยอมจำนนต่อหลักฐานและรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่อย่างหมดเปลือก
ในชั้นจับกุม นายทรรศน์ฯ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ตนเองเป็นคนที่มีฐานะทางครอบครัวดี จบชั้นปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านดินแดง โดยจบมาแล้วก็เริ่มก่อเหตุ โดยจุดเริ่มต้นเกิดจากที่ตนเองมีรสนิยมในการเสพหนังโป๊แนวพิสดาร เช่น แนวมีเพศสัมพันธ์กับหญิงสูงวัย หรือแนวที่มีเพศสัมพันธ์พิเศษ และในช่วงที่ตนเองว่างงานรู้สึกเบื่อจึงอยากหาความท้าทาย จึงเริ่มเรียนรู้โดยศึกษาการแอบถ่ายใต้กระโปรงหญิงสาว หรือการแอบถ่ายหญิงสาวเข้าห้องน้ำจากทางอินเตอร์เน็ท จนเริ่มลงมือก่อเหตุจริง โดยตนเองทำมาต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่า 7 ปี โดยจะทำเป็นช่วงๆ พักเป็นช่วงๆ ทำมาเรื่อยๆเป็นร้อยๆราย โดยตนจะชอบหาเหยื่อในพื้นที่ห้างดังต่างๆ และตามสะพานลอยในเส้นทางที่ตนเองเดินทาง โดยจะคัดเหยื่อที่เป็นหญิงสาวที่สวมกระโปรงและหุ่นดี และการก่อเหตุจะดูสถานการแวดล้อมในจุดที่คนน้อยเช่น ร้านเครื่องเขียน ร้านค้าในห้าง และที่ถนัดที่สุดคือบริเวณบันไดเลื่อนจะสามารถก่อเหตุได้ง่ายที่สุด ซึ่งตนเองไม่กลัวกล้องวงจรปิด เพราะมั่นใจว่าฝีมือเก่งก่อเหตุได้แบบเหยื่อไม่รู้ตัวแน่นอน โดยเข้าใจว่าทำแค่ร้อยราย แต่พอมาดูผลงานจริงๆพบว่า 430 ราย ตกใจเหมือนกัน ขอโทษเหยื่อที่เคยก่อเหตุมา ต่อจากนี้จะให้เกียรติและเป็นลูกผู้ชายมากขึ้น” หลังจับกุมตัว ได้นำตัวพร้อมของกลางที่ตรวจยึดส่งพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. (ผู้การจ๋อ) กล่าวว่า “เรายังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา เพราะเราพบพยานหลักฐานที่ได้จากการกู้ข้อมูล พบคลิปการแอบถ่ายลักษณะนี้กว่า 873 คลิป ซึ่งปรากฏผู้เสียหายกว่า 430 ราย ซึ่งเป็นเด็กนักเรียนกว่า 160 คน และเชื่อว่ายังมีอีกไม่น้อย ซึ่ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ได้สั่งการให้กู้ข้อมูลในคอมพิวเตอร์โดยเร็วที่สุด เพราะว่าหากภาพเหล่านี้หลุดออกไปจะทำลายชีวิตของหญิงสาวหลายร้อยชีวิตให้ตายทั้งเป็น จึงขอประชาสัมพันธ์ถึงพ่อแม่ผู้ปกครองให้ระมัดระวังบุตรหลานของท่าน มิจฉาชีพเหล่านี้แฝงตัวตามห้างสรรพสินค้าและเลือกก่อเหตุในจุดที่ง่ายต่อการแอบถ่าย และผู้ที่เคยตกเป็นเหยื่อคนร้ายรายนี้ ให้แจ้งมาที่เฟสบุ๊คเพจ สืบสวนนครบาล IDMB เรามีเจ้าหน้าที่ประสานงานตลอด 24 ชั่วโมง เพราะเป็นคดีสร้างความเสียหายกับผู้หญิงเป็นอย่างมากตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.”

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สืบนครบาล

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE VIDEO

ชุดการแสดง “ดนตรีเทพเจ้า”

จุดเริ่มต้นของ “พิณ เปี๊ยะ” เครื่องดนตรีพื้นเมืองล้านนา อาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ได้ยินเสียง  “พิณ เปี๊ยะ”  ที่โรงละครโอเปรา ประเทศเดนมาร์ก เมื่อปี พ.ศ.2513 เป็นครั้งแรกของการได้ยิน ได้ฟังดนตรีชิ้นนี้ เป็นความประทับใจ หลังจากได้กลับมาที่ประเทศไทยอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ได้ตามหาคนที่เล่น “พิณ เปี๊ยะ” ในครั้งนั้น แต่ทราบมาว่าท่านนั้นได้เสียชีวิตไปแล้ว ต่อมาได้พยายามค้นหาจึงพบว่ามีอีกท่านที่เล่นได้ดีมากๆ คือ พ่ออุ๊ย เปียโนจัง หรือ อุ๊ยคำแปง เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2444 ซึ่งอาศัยอยู่ที่เวียงเชียงราย และเลิกเล่น “พิณ เปี๊ยะ” กว่า 70 ปีแล้ว โดยหัว “พิณ เปี๊ยะ” ก็เอาไปเก็บไว้ใต้เตียง ส่วนตัวของ “พิณ เปี๊ยะ” ตัวลูกเองก็เอาไปทำเป็นด้ามมีด

               อาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ยื่นข้อเสนอจะตอบแทนค่าเสียเวลาให้ พร้อมจะดูแล อุ๊ยคำแปง ถ้ากลับมาเล่น “พิณ เปี๊ยะ”

ให้เสียงกลับมามีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง หลังจากพ่ออุ๊ย เปียโนจัง หรือ อุ๊ยคำแปง กลับมาสืบสาน กระทรวงวัฒนธรรมได้ให้ความสำคัญยกย่องพ่ออุ๊ย เปียโนจัง เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดงดนตรีพื้นบ้าน “พิณ เปี๊ยะ”  

               ไม่แปลกที่เราจะเห็นเครื่องดนตรี “พิณ เปี๊ยะ”  ในพิพิธภัณฑ์บ้านดำ ถือเป็นของรักของหวงของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ถือเป็นงานศิลปะที่ทรงคุณค่า โดยหัว “พิณ เปี๊ยะ”  นิยมทำมาจาก งาช้าง เขาสัตว์ หรือโลหะเป็นรูปหัวสัตว์ พิณเปี๊ยะมีคันทวนยาวประมาณ 1 เมตรเศษ ตอนปลายคันทวนทำด้วยเหล็กทองเหลืองเรียกว่าหัวพิณเปี๊ยะ สำหรับใช้เป็นที่พาดสาย ใช้สายทองเหลืองเป็นพื้น สายทองเหลืองนี้จะพาดผ่านสลักตรงกะลาแล้วต่อไปผูกกับสลักตรงด้านซ้าย สายของพิณเปี๊ยะมีทั้ง 2 สายและ 4 สาย กะโหลกของพิณเปี๊ยะทำด้วยเปลือกน้ำเต้าตัดครึ่งหรือกะลามะพร้าว ก็ได้เวลาดีด

ซึ่งชุดการแสดงนี้ทาง ผศ.ดร.ณัฐวุฒิ ดอนลาว ผู้มากความสามารถด้านศิลปวัฒนธรรมพื้นเมืองเหนือ ทั้งดนตรีพื้นเมือง ลีลาชั้นเชิง “เจิง” และอักขระภาษาล้านนา ได้นำเสนอผลงานบรรเลงพิณเปี๊ยะ พร้อมประกอบด้วยการแสดงจากศิลปินกลุ่มเดอะไทยส์ และได้รับเกียรติจากพิชญ์ บุษเนียร ศิลปินการแสดง จ.เชียงราย ควบคุมการแสดง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : พิพิธภัณฑ์บ้านดำ

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE VIDEO

ชุดการแสดง “ป้าดก๊อง ฟ้อน ฮ่ำ วันทาครู”

 

ชุดการแสดง “ป้าดก๊อง ฟ้อน ฮ่ำ วันทาครู” แสดงในงานวันถวัลย์ไม่ใช่เพื่อถวัลย์ แต่จัดขึ้นเพื่อสร้างแรงสะเทือนเฟือนไหวให้วงการศิลปะ ในวันที่ 27 กันยายน ของทุกปี ถือเป็น “วันถวัลย์ ดัชนี” เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นและเป็นศูนย์รวมของผู้ที่รักในศิลปะและอาจารย์ถวัลย์ ได้มาร่วมกันประกอบกิจกรรม เพื่อส่งเสริม สร้างสรรค์ และ สืบสานปณิธาน และอุดมการณ์ของท่านสืบต่อไป 

อ่านต่อ : https://nakornchiangrainews.com/thawan-duchanee-27-sept-baan-dam-museum/

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : พิพิธภัณฑ์บ้านดำ 

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE VIDEO

วันถวัลย์ไม่ใช่เพื่อถวัลย์ 27 ก.ย. พิพิธภัณฑ์บ้านดำ

 

 

เมื่อวันที่ 27 กันยายน พิพิธภัณฑ์บ้านดำ ตำบลนางแล อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย เป็นวันคล้ายวันเกิดของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินผู้ได้สมญานาม “จักรพรรดิบนผืนผ้าใบ“ ศิลปินคนสำคัญด้านจิตรกรรมร่วมสมัยของไทย  ผู้มุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีจิตวิญญาณตะวันออก แต่ถ่ายทอดในแบบตะวันตก จนเป็นที่ยอมรับ และยกย่องในระดับสากล  การดำเนินงานโครงการศิลปินรำลึก เนื่องในวันถวัลย์ ดัชนี ประจำปีเพื่อเป็นการส่งเสริมยกย่องเชิดชูเกียรติศิลปินแห่งชาติ ท่านอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี

ได้จัดงานวันถวัลย์ไม่ใช่เพื่อถวัลย์ แต่จัดขึ้นเพื่อสร้างแรงสะเทือนเฟือนไหวให้วงการศิลปะไทยให้เกิดเป็นแรงกระฉอกระรอกกระเพื่อมให้เรือใบไม้ที่เอาไว้พริ้วคลื่นในโมงยามของอาจารย์ถวัลย์ที่ได้สร้างทิ้งไว้ให้โลกใบนี้ได้ถึงฝั่งฝัน เป็นพาหนะนำทางจิตวิญญาณจากรุ่นสู่รุ่นไปยังประตูวิหารแห่งศิลปะ

ซึ่งภายในงานมีการมอบรางวัล Thawan  Duchanee Arts and Culture Prize รางวัลที่จัดสร้างขึ้น เพื่อสนับสนุน ส่งเสริม และให้กำลังใจแก่ศิลปิน ตลอดจนบุคลากรทางด้านศิลปวัฒนธรรม ผู้มีส่วนขับเคลื่อน และสร้างคุณูปการต่อแผ่นดิน เป็นรางวัลที่นำเอาลวดลายผลงานของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี “กนกเปลวนาคราช” มาใช้ในการออกแบบ และถูกรังสรรค์ขึ้นจากช่างยอดฝีมือของพิพิธภัณฑ์บ้านดำ ผู้ได้รับการคัดเลือกจากอาจารย์ถวัลย์ ผู้ฝึกฝนเคี่ยวกรำนานกว่า 30 ปี จนเป็นยอดสล่าแห่งบ้านดำ เป็นผู้จำหลักลายบนบานประตูมหาวิหาร แกะสลักรางวัลอย่างวิจิตรบรรจงลงบนไม้สักทองเพียงท่อนเดียว ใช้เวลาสร้างนับปี เพื่อให้เหมาะสมควรค่าแก่ผู้รับรางวัลอันทรงเกียรติทุกท่าน

ในพิธีมอบรางวัล Thawan Arts and Culture Prize โดยท่านเสริมศักดิ์  พงษ์พาณิช รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม มอบหมาย  ดร.ยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร  ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลฯ พร้อมด้วย นายโกวิท ผกามาศ  อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม นายประสพ เรียงเงิน ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย นางสาววราพรรณ ชัยชนะศิริ รองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม แม่ครูบัวเรียว รัตนมณีภรณ์ ศิลปินแห่งชาติ นางสลักจฤฎดิ์  ติยะไพรัช ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย นางสาวมนุพร เหลืองอร่าม นายอังกฤษ อัจฉริยะโสภณ ภัณฑรักษ์ พร้อมข้าราชการในสังกัดและคณะกรรมการกองทุนส่งเสริมงานวัฒนธรรม ประกอบด้วย  นางสาวปรานิสา เตียวพิพิธพร ผู้เชี่ยวชาญด้านเครือข่ายและชุมชน  นายอนุกูล ใบไกล ผู้อำนวยการกองทุนส่งเสริมงานวัฒนธรรม  นางพรนิภา บัวพิมพ์ ผู้อำนวยการกลุ่มสวัสดิการฯ กองทุนส่งเสริมงานวัฒนธรรม นางสาวธิคำพร อดทน ผู้อำนวยการกลุ่มยกย่องเชิดชูเกียรติฯ กองทุนส่งเสริมงานวัฒนธรรม นางสลักจิตร ศรีชัย ผู้อำนวยการกลุ่มสืบสานวัฒนธรรม นางมณฑิรา สวัสดิรักษา หัวหน้ากลุ่มคลังข้อมูลกองทุนฯ  นางสาวกิ่งทอง มหาพรไพศาล นายช่างภาพชำนาญงาน นางลักขณา คุณาวิชยานนท์ กรรมการกองทุนส่งเสริมงานวัฒนธรรม  เข้าร่วมพิธีดังกล่าว

โดยครั้งนี้ ดร.ดอยธิเบศร์ ดัชนี ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์บ้านดำ ได้แจ้งให้ผู้รับรางวัล Thawan Duchanee Arts and Culture Prize สาขา Culture Prize ครบรอบปีที่ 9  ทั้งหมด 5 รางวัลได้แก่

  1. พระไพศาลประชาทร วิ. (พระอาจารย์ พบโชค ติสฺสวํโส) เจ้าอาวาสวัดห้วยปลากั้ง จังหวัด เชียงราย
  2. พระครูโสภณศิลปาคม เจ้าอาวาสวัดมิ่งเมือง เจ้าคณะตำบลเวียง เขต ๑ จังหวัด เชียงราย
  3. ท่านโกวิท ผกามาศ อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม
  4. คุณบุญชัย คิวสุวรรณ ผู้ก่อตั้งร้านไม้มุงเงิน ผู้ส่งเสริมภูมิปัญญาสล่าแกะไม้แห่งล้านนา
  5. สล่าคำจันทร์ ยาโน สล่าเก๊าผู้สลักเสลาชีวิตลงบนน้ำบวย ผู้สืบสานตำนาน พ่ออุ๊ยแสง ลือสุวรรณ แห่งบ้านถ้ำผาตอง

ในการมอบรางวัล ครบรอบปีที่ 9 ในครั้งนี้ ทางพิพิธภัณฑ์บ้านดำ และคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิได้พิจารณาร่วมกัน และมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า ทุกท่านที่ได้รับรางวัลมิใช่เป็นเพียงทรัพยากรบุคอันทรงคุณค่าที่สร้างคุณูปการต่อส่วนรวมจนเป็นที่ยอมรับเท่านั้น แต่ทุกท่านคือผู้เสียสละ ทุ่มเททำงานอย่างหนัก เพื่อวงการศิลปวัฒนธรรม จนประสบผลสำเร็จ นอกจากนี้ท่านยังเป็นแบบอย่างที่ดีงาม เป็นผู้ชี้แนะแนวทางต่างๆ พร้อมช่วยเหลือสนับสนุนวงการศิลปวัฒนธรรม ให้เดินหน้าต่อไปอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน

แม้ในวันนี้ ร่างกายท่านอาจจะไม่คงอยู่แล้ว แต่จิตวิญญาณและลมหายใจของท่านจะยังคงอยู่ในผลงานศิลปะของท่านตลอดไป และเป็นที่เห็นพ้องต้องกันว่าในวันที่  27 กันยายน ของทุกปี ถือเป็น “วันถวัลย์ ดัชนี” เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นและเป็นศูนย์รวมของผู้ที่รักในศิลปะและอาจารย์ถวัลย์ ได้มาร่วมกันประกอบกิจกรรม เพื่อส่งเสริม สร้างสรรค์ และ สืบสานปณิธาน และอุดมการณ์ของท่านสืบต่อไป

          และนายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย มอบหมาย นางพัชรนันท์ แก้วจินดา ผอ.กลุ่มส่งเสริมศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม นางพรทิวา ขันธะมาลา ผอ.กลุ่มยุทธศาสตร์และเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม นางสาวกฤษยา จันแดง ผอ.กลุ่มกิจการพิเศษ พร้อมด้วยข้าราชการสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย สนับสนุนและร่วมพิธีทางศาสนา ทำบุญตักบาตรและพิธีบำเพ็ญกุศลทักษิณานุปทาน กิจกรรมแสดงทางศิลปวัฒนธรรม นิทรรศการศิลปกรรม และการออกร้านตลาดนัดศิลปะ “กาดหมั้วคัวศิลป์”

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : พิพิธภัณฑ์บ้านดำ

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
SOCIETY & POLITICS VIDEO

นายกฯ สักการะครูบาเจ้าศรีวิชัย พร้อมภารกิจเยือนจังหวัดเชียงใหม่

นายกฯ สักการะครูบาเจ้าศรีวิชัย เป็นสิริมงคลในโอกาสเยือนจังหวัดเชียงใหม่ และได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

วันนี้ (17 ก.ย. 66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ได้เดินทางไปถวายเครื่องสักการะและกราบไหว้อนุสาวรีย์ครูบาเจ้าศรีวิชัย บริเวถนนทางขึ้นดอยสุเทพ ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อความเป็นสิริมงคลในโอกาสเยือนจังหวัดเชียงใหม่ และได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยมี นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นายชัชวาลย์ ปัญญา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ประชาชนชาวจังหวัดเชียงใหม่ และพี่น้องชนเผ่าที่มารอให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น

หลังจากนั้นได้ก่อนเดินทางขึ้นไปปฏิบัติภารกิจต่อที่หอประชุมเทศบาลเมืองแม่เหียะ ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วย นายสุริยะ  จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายประเสริฐ  จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล นายสมพงศ์  อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) ลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นประชาชน ในกรณีการขยายเวลารับเที่ยวบินเป็น 24 ชั่วโมง ของท่าอากาศยานเชียงใหม่ โดยมี นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยนายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ส่วนราชการ ให้การต้อนรับ และมีประชาชนชาวจังหวัดเชียงใหม่กว่า 400 คน เข้าร่วมรับฟังความคิดเห็น

 

นายกฯ ยืนยันรัฐบาลตั้งใจเดินหน้า สร้างสนามบินเชียงใหม่แห่งที่ 2

ในที่ประชุม ตัวแทนประชาชน ได้เสนอความคิดเห็น ปัญหาและผลกระทบจาก การขึ้นลงของเครื่องบินสนามบินเชียงใหม่ ทำให้ประชนได้รับผลกระทบทั้งปัญหาเรื่องฝุ่นควัน หลังคาร่วง และปัญหาเรื่องเสียง โดยประชาชนได้รับผลกระทบมาโดยตลอด ทำให้มีความกังวลต่อการเพิ่มเที่ยวบินหลังเที่ยงคืนว่าอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนมากขึ้น รวมถึงขอให้รัฐบาลแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และที่ดินทำกินของประชาชน

โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวตอบข้อเสนอแนะและเรื่องร้องเรียนของประชาชน ว่า จะให้ AOT เร่งเยียวยาและช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบทันที โดยการขยายสนามบินเชียงใหม่เป็นเรื่องสำคัญที่จะกระตุ้นให้เกิดรายได้จากการท่องเที่ยว และทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวในระยะสั้น ซึ่งรัฐบาลมีความตั้งใจที่จะเดินหน้าโครงการก่อสร้างสนามบินเชียงใหม่แห่งที่ 2 ในอนาคต และจะแก้ปัญหาให้กับประชาชนอย่างเต็มความสามารถ

ขณะที่ นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) ระบุว่า AOT มีมาตรการชดเชยพื้นที่ให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบ ซึ่งปัจจุบัน สนามบินเชียงใหม่มีเที่ยวบินหลังเวลา 20:00 น ประมาณ 30 เที่ยวบิน โดยการขยายเพิ่มจำนวนเที่ยวบินช่วงหลังเที่ยงคืน เป็นเที่ยวบินบินยาวระหว่างประเทศ จะทำให้ส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจ แต่จะมีการควบคุมปริมาณเที่ยวบิน เพื่อให้กระทบกับประชาชนน้อยที่สุด ซึ่งแนวทางดังกล่าวจะเป็นการศึกษาข้อมูล เพื่อการก่อสร้างสนามบินเชียงใหม่แห่งที่ 2 โดยจะต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 5-7 ปีในการศึกษาข้อมูล

นายกฯ หารือการขยายเวลาและเพิ่มเที่ยวบินของท่าอากาศยานเชียงใหม่ รองรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น

โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ได้เดินทางมาที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ เพื่อพูดคุยและหารือร่วมกับ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการเพิ่มเที่ยวบิน  รวมถึงการขยายเวลาและเพิ่มเที่ยวบินหลังเที่ยงคืนของท่าอากาศยานเชียงใหม่ สำหรับการรองรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
SOCIETY & POLITICS VIDEO

ปฏิบัติการพญางำเมือง จับ 2 จุด กลางเมืองพะเยา

 

วันที่ 17 กันยายน 2566 เวลา 00.30 น. นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง สั่งการให้ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง โดย นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการ ศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง พร้อมสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดน กว่า 40 นาย

นำกำลังเข้าจับกุมสถานบริการขนาดใหญ่ในพื้นที่ อ.เมืองพะเยา จ.พะเยา “ฮอลลีวูด ผับ” เปิดให้บริการเกินเวลากว่าที่กฎหมายกำหนด ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เด็กและปล่อยปละละเลยให้เด็กเข้าใช้บริการจำนวนมาก พบนักเที่ยวเด็ก อายุต่ำกว่า 20 ปี จำนวน 143 ราย อายุต่ำสุดเพียง 17 ปี!

ในเวลาเดียวกันชุดช่วยเหลือสนับสนุน ได้เข้าช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ณ โรงแรมภูทองเพลส ในตัวเมืองพะเยา เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ถูกร้านคาราโอเกะนำมาแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศ รับส่วนแบ่งเงินจากการค้าประเวณี อ้างเป็นค่าเวลาของร้าน คิดเป็นรายชั่วโมง โดยสามารถช่วยเหลือผู้เสียหายได้ 2 คน เด็กมีอายุต่ำสุดเพียง 14 ปี เจ้าพนักงานชุดช่วยเหลือได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง เก็บรวบรวมพยานหลักฐาน และร้องทุกข์กล่าวโทษกับเจ้าของร้านคาราโอเกะที่นำเด็กมาค้ามนุษย์ด้วยแสวงหาผลประโยชน์จากการค้าประเวณีต่อไป

ความเชื่อมโยงของปฏิบัติการดังกล่าว เริ่มต้นจากกมูลนิธิอิมมานูเอล ลงพื้นที่สืบสวนข้อเท็จจริง และพบว่ามีการค้ามนุษย์ นำเด็กมาค้าประเวณี ณ ร้านคาราโอเกะ แห่งหนึ่ง ในตัวเมืองพะเยา โดยสามารถให้เด็กออกมาขายบริการเพศให้แก่ลูกค้า แต่จะต้องเสียค่าเวลาให้แก่ร้านเป็นส่วนแบ่งที่เด็กออกมาให้บริการทางเพศ และเด็กได้มีการชักชวนทีมงานชุดสืบสวนให้มาเที่ยวต่อยังผับในตัวเมืองพะเยา โดยเป็นที่รู้กันว่าเปิดดึก เด็กอายุไม่ถึง 20 ปี สามารถเข้าใช้บริการได้ จากข้อมูลดังกล่าวจึงเป็นที่มาของการสืบสวนการกระทำผิดของสถานบริการ ฮอลลีวูด ผับ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้รับใบอนุญาตตั้งสถานบริการว่า ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ซึ่งมิได้ทำงานในสถานบริการนั้นเข้าไปในสถานบริการระหว่างเวลาทำการ, เปิดทำการเกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด, จำหน่ายสุราให้แก่บุคคลอายุต่ำกว่า 20 ปี, จำหน่ายสุราเกินกว่าเวลาที่กฎหมายบัญญัติ, ความผิดฐานโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือแสดงชื่อหรือเครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อันเป็นการอวดอ้างสรรพคุณหรือชักจูงใจให้ผู้อื่นดื่มโดยตรงหรือโดยอ้อม, ส่งเสริมหรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร, จำหน่ายสุราแก่เด็ก และยังเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 22/2558 เรื่อง มาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในทางและการควบคุมสถานบริการหรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ ข้อ 4 (1)-(4) ทั้งนี้ เจ้าพนักงานฝ่ายปกครองชุดจับกุม จะได้เสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยาออกคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตสถานบริการดังกล่าว และห้ามมิให้มีการเปิดสถานบริการในสถานที่ดังกล่าวอีกเป็นเวลา 5 ปี ต่อไป

นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการ กรมการปกครอง ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง ฝากเตือนไปยังผู้ประกอบการสถานบันเทิง ควรประกอบธุรกิจด้วยความมีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม ไม่ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ที่ 22/2558 ห้ามมิให้ผู้ประกอบกิจการสถานบริการหรือสถานประกอบการใดที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ กระทำการใดที่ห้ามไว้ตามคำสั่งดังกล่าว

สรุปให้จำง่ายๆ “ห้ามเด็ก การพนัน ค้ามนุษย์ อาวุธ ยาเสพติด ปิดเกินเวลา ถูกจับแล้วโดนปิดแน่นอน” จึงควรประกอบกิจการโดยมีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อความสงบเรียบร้อยของสังคม ไม่ฝ่าฝืนข้อห้ามข้างต้น นายรณรงค์ กล่าวปิดท้ายฯ

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กรมการปกครอง

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
SOCIETY & POLITICS VIDEO

“นายกเศรษฐา” เผยกระตุ้นเศรษฐกิจเชียงใหม่ เตรียมเพิ่มจำนวนประเทศที่ยกเว้นวีซ่า

 

วันนี้ (16 ก.ย. 66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะ ได้เดินทางมายังศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยมี นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นายชัชวาลย์ ปัญญา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ คณะเจ้าหน้าที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ ฯ และกลุ่มสตรีอำเภอดอยสะเก็ด ให้การต้อนรับ มอบดอกไม้และพวงมาลัย อย่างอบอุ่น

โดยนายกรัฐมนตรี ได้รับฟังการบรรยายสรุปการดำเนินงานของศูนย์ ด้านการแก้ไขปัญหาที่ดิน และการพัฒนาการปลูกพืชตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกร จากนั้นได้นั่งรถรางเพื่อเยี่ยมชมพื้นที่และเส้นทางธรรมชาติของศูนย์ รวมถึงได้ร่วมกันปลูกต้นยางนา ปล่อยไก่ป่า เพื่อประโยชน์ทางนิเวศด้วย

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน เปิดเผยว่า การบริหารจัดการน้ำของภาคเหนือ ยังคงน่าเป็นห่วงแต่เชื่อว่าจะมีปริมาณน้ำเพียงพอต่อการอุปโภค-บริโภค ส่วนการกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่นั้น หลังจากการประกาศยกเว้นวีซาให้กับนักท่องเที่ยวจีน พบว่ามีการบุ๊กกิ้งการเดินทางเพิ่มมากขึ้น และยังมีแผนเพิ่มจำนวนประเทศอื่นๆ ที่ยกเว้นวีซ่าเพิ่มเติมอีกด้วย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูล ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กำชับไปยังตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้กวดขันด้านความปลอดภัย อำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่

ขณะเดียวกัน ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่เป็นปัญหาใหญ่สำหรับประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ ทางรัฐบาลได้มีแผนจะเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านเรื่องการเผาป่าเพื่อแก้ปัญหาแล้ว คาดว่าจะสามารถบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนได้ นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวเพิ่มเติม ถึงการปรับลดราคาน้ำมันเบนซิน ว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาแต่ยืนยันว่าจะหาแนวทางการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้ได้มากที่สุด

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
VIDEO

เศรษฐา vs. รังสิมันต์’ โตๆ กันแล้ว อย่าด้อยค่ากัน

 

เมื่อวันที่ 12 กันยายน ที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) แถลงนโยบายต่อรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 162 เป็นวันที่สอง 

นายเศรษฐา ลุกขึ้นชี้แจงว่า ฟังมาแล้ว 2 วันเต็ม  ฟังแล้วก็หดหู่ใจ แต่ต้องยอมรับ เพราะเป็นการด้อยค่าภาคส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองด้วยกันเอง ทั้งที่เขายังไม่ได้เข้าบริหารราชการ ไม่ว่าจะเป็นทหารอันทรงเกียรติ ยืนยันว่าทุกสถาบัน ทุกหน่วยงานรัฐมีทั้งคนดีและไม่ดี

การที่เราเลือกตั้งไปเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา ก็เป็นจุดเริ่มต้นในการที่เราจะเข้ามาช่วยกันแก้ไขปัญหาที่สะสมหมักหมมกันมายาวนาน เป็นปัญหาใหญ่ เป็นเรื่องที่ไม่เข้าใจกัน เป็นเรื่องของช่องว่างระหว่างกัน ซึ่งประเด็นที่ท่านยกมาอภิปรายเป็นเรื่องทหารและประชาชน ยืนยันว่าเป็นรัฐบาลของประชาชนภายใต้การนำของตน ตนใช้คำว่าพัฒนาก่อน เชื่อว่าความหมายใกล้เคียงกัน ผลลัพธ์ออกมาอาจจะแตกต่างกันบ้างตามกาลที่เปลี่ยนไป ตามขีดจำกัด ตามผลลัพธ์ที่อยากเห็น สังคมเดินไปข้างหน้าได้ ลดความขัดแย้ง การใช้วาทกรรมที่มีการด้อยค่ากันในสภาอันทรงเกียรตินี้

“เมื่อสักครู่ฟังไปเห็นใบหน้ายิ้มแย้ม หัวเราะเยาะกันไปกับตัวอย่าง หลายอย่างอาจจะเป็นตัวอย่างที่ดีและเป็นตัวอย่างที่จริงบ้าง หรือต้องการการพิสูจน์ เข้าใจครับ แต่วิธีการนำเสนอ คำพูดต่างๆ แทนที่จะทำให้บรรยากาศในการทำงานร่วมกันในการเจรจา ในการพัฒนาสถาบันทหารควบคู่ไปกับการมีชีวิตที่ดีขึ้นกับพี่น้องประชาชนจะลำบากขึ้น ผมในฐานะผู้นำรัฐบาลมีความเป็นห่วงจริงๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เป็นการบังคับกันไม่ได้เรื่องการใช้วาทกรรมด้อยค่ากัน

“ขอเวลาหน่อยครับ วันนี้เพิ่งเข้ามาทำงาน ไม่อยากได้ยินการด้อยค่าของกันและกัน เตือนกันนิดนึง โตๆ กันแล้ว เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ เข้าใจครับ ตระหนักดีครับ” นายเศรษฐากล่าว

นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประท้วงว่านายกรัฐมนตรีใช้ข้อความเสียดสี ด้วยความเคารพ หากเราโตๆ กันแล้วท่านเป็นนายกรัฐมนตรีกรุณาอย่าใช้ข้อความเสียดสีกันเลย เราอภิปรายด้วยเหตุผล ฉะนั้น หากท่านรู้สึกว่าพวกเราเสียดสีท่าน สิ่งที่ท่านต้องทำสิ่งแรกคืออย่าเสียดสีกลับ

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
TRAVEL VIDEO

กาแฟอุ่นๆ บนยอดดอยของเชียงราย พร้อม สัมผัสอากาศหนาวที่ “ดอยผาฮี้”

กาแฟอุ่นๆ บนยอดดอยของเชียงราย พร้อม สัมผัสอากาศหนาวที่ “ดอยผาฮี้”

Facebook
Twitter
Email
Print
จากสภาพอากาศที่มีความหนาวเย็นลงอย่างต่อเนื่อง ในพื้นที่ทางภาคเหนือ โดยอุณภูมิในช่วงกลางคืนและข่วงเช้าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 9-15 องศาเซลเซียส ทำให้นักท่องเที่ยวพากันทยอยหลั่งไหลเดินทางไปสัมผัสอากาศหนาวกันอย่างคึกคัก โดยเฉพาะที่บ้านผาฮี้ ตำบลโป่งงาม อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ได้มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศพากันไปสัมผัสอากาศหนาว ท่ามกลางสายหมอกเจือบางๆจนเห็นทัศนีภาพของชุมชนหมูบ้านที่อยู่เบื้องล่างอย่างสวยงาม
 
โดยนักท่องเที่ยวหลายคนบอกว่ารู้สึกประทับที่ได้มาเที่ยวในพื้นที่ของจังหวัดเชียงราย เพราะยังคงธรรมชาติและมีสันเขาสูงหลายแห่งที่มีทัศนยีภาพที่สวยงาม อย่างเช่นที่จุดชมวิวบ้านผาฮี้แห่งนี้เป็นอีกจุดหนี่งที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวตลอดทั้งปีเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังได้สัมผัสกับหมอกเย็นๆลอยมากระทบผิวกาย และยังคลายหนาวด้วยชา กาแฟอุ่นๆ บนยอดดอย ที่ร้านกาแฟแต่ละร้านมีการจัดทิวทัศน์ของร้านกาแฟให้เข้ากับบรรยากาศของขุนเขาท่ามกลางธรรมชาติได้อย่างงดงาม โดยทำเป็นระเบียงไม้มั่นคงแข็งแรงยื่นไปกลางอากาศเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้จิบกาแฟถ่ายภาพได้อย่างลงตัว สร้างความตื่นเต้นและประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง
 
ยิ่งหากนักท่องเที่ยวได้ไปสัมผัสบรรยากาศช่วงเช้าๆก็จะได้เห็นทะเลหมอกที่มีความงดงามไม่แพ้สถานที่อื่นใดอีกด้วย ทำให้นักท่องเที่ยวที่ได้มาสัมผัสบรรยากาศที่บ้านผาฮี่แห่งนี้ ต่างประทับใจในความสวยงาม หอบเอาความสุขด้วยรอยยิ้มกลับไปอีกด้วย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย 

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
TRAVEL VIDEO

ดอกบัวตองบานแล้วที่ ต.ไม้ยา อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย เดินทางจากตัวเมืองเชียงรายแค่ 30 นาที

ดอกบัวตองบานแล้วที่ ต.ไม้ยา อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย เดินทางจากตัวเมืองเชียงรายแค่ 30 นาที

Facebook
Twitter
Email
Print

NEWS l ดอกบัวตองบานแล้วที่ ต.ไม้ยา อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย เดินทางจากตัวเมืองเชียงรายแค่ 30 นาที

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย 

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News