Categories
SPORT

“วิว กุลวุฒิ” คว้าแชมป์ แบดมินตันไทยแลนด์โอเพ่นสมัย 2

วิว-กุลวุฒิ” คว้าแชมป์แบดมินตัน โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น 2025 สมัยที่ 2 อย่างยิ่งใหญ่ ตอกย้ำความเป็นเบอร์หนึ่งของไทย

ประเทศไทย, 18 พฤษภาคม 2568 – ศึกแบดมินตันระดับโลก โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น 2025” รายการในระดับ BWF World Tour Super 500 ชิงเงินรางวัลรวม 16 ล้านบาท ได้ปิดฉากลงอย่างสมศักดิ์ศรีเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2568 ณ อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ ท่ามกลางเสียงเชียร์กึกก้องของแฟนกีฬา ที่ร่วมเป็นสักขีพยานในการคว้าแชมป์ของนักแบดมินตันขวัญใจชาวไทย วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มือวางอันดับ 2 ของโลก ที่สามารถเอาชนะคู่ปรับคนสำคัญอย่าง แอนเดอร์ส แอนทอนเซ่น จากเดนมาร์ก มือวางอันดับ 3 ของโลก ไปอย่างสุดมันส์ 2-1 เกม

เส้นทางสู่แชมป์เกมที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดและสมบูรณ์แบบ

การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศประเภทชายเดี่ยวในวันนี้ถือเป็นการพบกันอีกครั้งของสองนักกีฬาระดับโลก “วิว” กุลวุฒิ และ แอนทอนเซ่น โดยทั้งคู่ต่างมีประสบการณ์ และผลงานในระดับนานาชาติที่ใกล้เคียงกัน

เกมแรก เปิดฉากด้วยการแลกแต้มกันอย่างสูสี “วิว” ใช้ความเร็วและจังหวะการเข้าทำที่เฉียบคมกว่า เบียดเอาชนะไปได้ในช่วงท้ายด้วยคะแนน 21-16

เกมที่สอง แอนทอนเซ่นปรับแผนการเล่นมาใช้การคุมจังหวะและบุกแบบกดดันมากขึ้น ส่งผลให้ “วิว” มีข้อผิดพลาดเล็กน้อยในช่วงท้ายเกม ก่อนจะพ่ายไปด้วยคะแนน 17-21

เกมตัดสิน คือจุดเปลี่ยนของการแข่งขัน “วิว” กลับมาด้วยสมาธิที่นิ่งกว่าเดิม ใช้เวลาไม่นานในการทำแต้มทิ้งห่างอย่างต่อเนื่อง และปิดเกมไปด้วยสกอร์ 21-9 ใช้เวลาในการแข่งขันทั้งหมด 1 ชั่วโมง 32 นาที พร้อมคว้าแชมป์รายการนี้ได้เป็น สมัยที่ 2

สถิติเสริมความแกร่ง ปีทองของ “วิว” กุลวุฒิ

ชัยชนะในครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการคว้าแชมป์รายการระดับ Super 500 เป็นครั้งที่ 2 เท่านั้น แต่ยังเป็นการเก็บแชมป์รายการที่ 3 ของปี 2568 ต่อจาก อินโดนีเซีย มาสเตอร์ส 2025 (เดือนมกราคม) และ เอเชีย แชมเปี้ยนชิพ 2025 (เดือนเมษายน)

สิ่งที่น่าสนใจคือ ทั้ง 3 รายการที่ “วิว” คว้าแชมป์ในปีนี้ ต่างเป็นการแข่งขันที่มีผู้เล่นระดับโลกเข้าร่วมอย่างคับคั่ง ทำให้ผลงานของเขาไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของโชคหรือฟอร์มดีชั่วคราว แต่เป็นผลจากการฝึกซ้อมอย่างหนัก และการเติบโตทางจิตใจที่มั่นคงมากขึ้นในฐานะนักกีฬาระดับโลก

เสียงสะท้อนจากสนาม กำลังใจจากคนไทยทั่วประเทศ

หลังจบการแข่งขัน “วิว” กุลวุฒิ กล่าวขอบคุณทีมงาน โค้ช ครอบครัว และแฟนกีฬาชาวไทยที่ให้การสนับสนุนมาโดยตลอด พร้อมระบุว่า “แชมป์รายการนี้มีความหมายมาก เพราะเป็นรายการที่จัดขึ้นในประเทศไทย และเป็นแรงผลักดันสำคัญในการเดินหน้าเพื่อคว้าตั๋วโอลิมปิกปีหน้าให้ได้”

บรรยากาศในสนามนิมิบุตรเต็มไปด้วยความยินดีและปลาบปลื้มใจจากแฟนแบดมินตันหลายพันคนที่มาร่วมเชียร์ ส่งเสียง “วิวสู้ๆ” ตลอดการแข่งขัน โดยเฉพาะในเกมสุดท้ายที่ “วิว” โชว์ฟอร์มได้เหนือความคาดหมาย

ภาพรวมการแข่งขัน Toyota Thailand Open 2025

รายการนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 14–18 พฤษภาคม 2568 เป็นการแข่งขันในระดับ BWF World Tour Super 500 โดยมีนักกีฬาแบดมินตันระดับแนวหน้าของโลกกว่า 250 คนจากกว่า 30 ประเทศเข้าร่วมชิงชัยใน 5 ประเภท ได้แก่ ชายเดี่ยว หญิงเดี่ยว ชายคู่ หญิงคู่ และคู่ผสม โดยมีเงินรางวัลรวมกว่า 16 ล้านบาท

การแข่งขันชายเดี่ยว ถือเป็นไฮไลต์สำคัญของรายการ เนื่องจากมีการจับตาการเผชิญหน้าระหว่าง 3 นักกีฬาระดับท็อปของโลก ได้แก่ โจว เทียนเฉิน (ไต้หวัน), แอนทอนเซ่น (เดนมาร์ก) และ “วิว” กุลวุฒิ ของไทย ซึ่งสุดท้ายแล้วนักแบดมินตันจากไทยก็สามารถแสดงศักยภาพเหนือคู่แข่งได้อย่างชัดเจน

วิเคราะห์ผลลัพธ์และแนวโน้ม

จากผลงานอันโดดเด่นของ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ในปี 2568 นี้ ทำให้เขาถูกยกให้เป็นหนึ่งในตัวเต็งสำหรับการแข่งขันในรายการใหญ่ระดับโลก เช่น World Championships 2025 และ Olympic Games 2026 ที่กำลังจะมาถึง

ความแข็งแกร่งของ “วิว” ในการดึงฟอร์มเก่งออกมาในช่วงเวลาสำคัญ เป็นคุณสมบัติของนักกีฬาระดับโลกที่สามารถคว้าแชมป์ต่อเนื่องได้ โดยเฉพาะการรับมือกับแรงกดดันและความคาดหวังจากสาธารณชนไทยอย่างมีสมดุล

ข้อมูลสถิติที่เกี่ยวข้อง

  • “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ เป็นนักแบดมินตันไทยคนแรกที่คว้าแชมป์รายการ Super 500 ได้ถึง 3 รายการในปีเดียว (ข้อมูลจาก BWF Rankings ณ เดือนพฤษภาคม 2568)
  • ปัจจุบัน (พฤษภาคม 2568) “วิว” มีคะแนนสะสมอยู่ที่ 96,300 คะแนน เป็นอันดับ 2 ของโลก และมีโอกาสขึ้นเป็นมือ 1 หากสามารถคว้าแชมป์รายการ Super 750 ในเดือนหน้า
  • รายการแข่งขัน Toyota Thailand Open 2025 มีผู้ชมในสนามรวมกว่า 42,000 คนตลอด 5 วัน และยอดผู้ชมออนไลน์ผ่านช่องทาง YouTube และ Facebook Live รวมกว่า 5.2 ล้านวิว (ข้อมูลจากสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย)

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : 

  • สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย
  • สหพันธ์แบดมินตันโลก (BWF)
  • กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
  • การกีฬาแห่งประเทศไทย
  • สื่อมวลชนกีฬาและแฟนคลับทั่วประเทศ
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SPORT

CopsCombat2025 ตำรวจไทยโชว์บู๊ ‘เชียงราย’ โชว์เหนือมีคว้าทองกลับบ้าน

ตำรวจเชียงรายคว้าชัย Cops Combat 2025 รุ่นน้ำหนักเกิน 85 กก.” สร้างชื่อเสียงในเวทีระดับประเทศ

ประเทศไทย, 8 พฤษภาคม 2568 – รายงานข่าวจากกรุงเทพมหานครระบุว่า การแข่งขันกีฬาศิลปะการต่อสู้ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในรายการ “Cops Combat 2025” ซึ่งจัดขึ้น ณ เวทีมวยราชดำเนิน เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา ได้รับความสนใจจากทั้งประชาชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจจากทั่วประเทศ โดยเฉพาะในรอบชิงชนะเลิศที่มีการประลองฝีมืออย่างเข้มข้นจากผู้เข้าแข่งขันหลากหลายสังกัด ซึ่งหนึ่งในไฮไลต์ของการแข่งขันคือชัยชนะของเจ้าหน้าที่ตำรวจจากจังหวัดเชียงราย

ตำรวจภูธรภาค 5 สร้างผลงานโดดเด่น

ในการแข่งขันครั้งนี้ ข้าราชการตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรภาค 5 จังหวัดเชียงราย ได้ส่งตัวแทนเข้าร่วมแข่งขันจำนวน 2 นาย ใน 2 รุ่นน้ำหนัก ได้แก่

  1. ส.ต.อ.เมธาสิทธิ์ กาวี ตำแหน่ง ผบ.หมู่ (ป.) สภ.เวียงชัย จังหวัดเชียงราย คว้าชัยชนะในรุ่นน้ำหนักเกิน 85 กิโลกรัม ได้อย่างสง่างาม
  2. ร.ต.อ.เขตต์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา รองสารวัตร นปพ. ภ.จว.เชียงราย ทำหน้าที่เป็นโค้ชผู้จัดการทีม และเข้าร่วมแข่งขันในรุ่นน้ำหนักไม่เกิน 56 กิโลกรัม

สำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดเชียงรายได้แสดงความยินดีต่อความสำเร็จของ ส.ต.อ.เมธาสิทธิ์ ที่สามารถสร้างชื่อเสียงให้แก่หน่วยงานในระดับประเทศ และได้ให้กำลังใจแก่ ร.ต.อ.เขตต์ ในการแข่งขันครั้งต่อไป

บรรยากาศการแข่งขันคึกคักท่ามกลางเสียงเชียร์

การแข่งขัน Cops Combat 2025 จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ณ เวทีมวยราชดำเนิน โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากหลากหลายสังกัด ทั้งชายและหญิง เข้าร่วมแข่งขันในรายการดังกล่าวจำนวนมาก การแข่งขันแบ่งออกเป็นทั้งหมด 16 รุ่นน้ำหนัก รวมกว่า 48 คู่แข่งขัน โดยการแข่งขันในแต่ละคู่ดำเนินไปในรูปแบบ 1 ยก ใช้เวลาชก 3 นาที เพื่อให้ผู้เข้าแข่งขันสามารถแสดงทักษะการต่อสู้ป้องกันตัวในเวลาจำกัด

บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความคึกคัก สนุกสนาน และเต็มเปี่ยมไปด้วยเสียงเชียร์จากเพื่อนร่วมอาชีพและประชาชนที่เดินทางมาร่วมชมอย่างเนืองแน่น โดยเฉพาะในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่เวลา 13.30 น. เป็นต้นไป ได้สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมอย่างยิ่ง

Cops Combat กีฬาที่พัฒนาทักษะพร้อมเสริมสร้างร่างกายและจิตใจ

โครงการ “Cops Combat” เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมกีฬาประจำปีของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีจุดมุ่งหมายหลักเพื่อส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทบทวนและฝึกฝนทักษะการต่อสู้ป้องกันตัว ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นในการปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะในการเผชิญเหตุการณ์ฉุกเฉิน การควบคุมสถานการณ์ และการรับมือกับผู้กระทำผิด

การแข่งขันยังเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมสุขภาพร่างกาย ความแข็งแรง และความมั่นใจในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งเสริมสร้างความสามัคคีในหมู่ตำรวจจากหลากหลายพื้นที่ทั่วประเทศ

ผู้เข้าแข่งขันจากทั่วประเทศรวมพลังในสนามเดียวกัน

ผู้มีสิทธิ์เข้าแข่งขันในรายการนี้ต้องเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดต่างๆ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติทั่วประเทศ อาทิ

  • กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9
  • กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.)
  • กองบัญชาการตำรวจสันติบาล (บช.ส.)
  • กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.)
  • กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (บช.ตชด.)
  • กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (บช.ทท.)
  • กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.)
  • โรงเรียนนายร้อยตำรวจ (รร.นรต.)
  • รวมถึงหน่วยงานอื่นๆ ภายใต้สำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

การรวมตัวกันของเจ้าหน้าที่จากหลากหลายสังกัดเช่นนี้ ส่งผลให้เกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และเป็นโอกาสในการเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างพื้นที่

ผบ.ตร.ร่วมเปิดการแข่งขัน มอบขวัญกำลังใจนักกีฬา

ในพิธีเปิดการแข่งขัน ได้รับเกียรติจาก พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาเป็นประธานในพิธี โดยกล่าวเปิดการแข่งขันอย่างเป็นทางการ พร้อมกล่าวชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทุ่มเทฝึกซ้อมและเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้

ทั้งนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ จะทำหน้าที่มอบเหรียญรางวัลให้กับผู้ชนะการแข่งขันในแต่ละรุ่น เพื่อเป็นเกียรติประวัติและเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานต่อไป

ตำรวจรุ่นใหม่กับความพร้อมรอบด้าน

การแข่งขัน Cops Combat ไม่ได้เป็นเพียงเวทีกีฬาธรรมดา แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มของการพัฒนาข้าราชการตำรวจไทยรุ่นใหม่ที่มุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพทั้งด้านร่างกายและจิตใจ พร้อมรับมือกับสถานการณ์ความไม่สงบในสังคมอย่างมืออาชีพ

ชัยชนะของตำรวจเชียงรายในครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงแค่เหรียญรางวัล แต่ยังสะท้อนถึงคุณภาพของกำลังพลและการฝึกฝนที่เข้มข้นในระดับพื้นที่ ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้หน่วยงานในภูมิภาคอื่นๆ เดินหน้าในการพัฒนาบุคลากรด้านทักษะการต่อสู้เชิงยุทธวิธีต่อไป

สถิติที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขัน

  • ผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดในรายการ Cops Combat 2025: 96 คน (ชาย/หญิง)
  • แบ่งการแข่งขันออกเป็น 16 รุ่นน้ำหนัก
  • แข่งขันแบบ 1 ยก 3 นาที จำนวน 48 คู่
  • รุ่นน้ำหนักเกิน 85 กก. มีผู้เข้าแข่งขัน 6 คน
  • ส.ต.อ.เมธาสิทธิ์ กาวี ชนะคะแนนแบบเอกฉันท์ในรอบชิงชนะเลิศ
  • ผู้ชมในเวทีมวยราชดำเนินประมาณ 1,200 คน
  • มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก 13 กองบัญชาการ และ 5 โรงเรียนตำรวจ เข้าร่วมการแข่งขัน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : 

  • สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

  • กองประชาสัมพันธ์ ตร.

  • ผู้สื่อข่าวสนามเวทีมวยราชดำเนิน

  • สำนักงานตำรวจภูธรภาค 5

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SPORT

เทควันโดเชียงรายพร้อม ชิงแชมป์ประเทศไทยที่พัทยา

นายก อบจ.เชียงราย พบปะให้กำลังใจนักกีฬาเทควันโดตัวแทนจังหวัด ก่อนลุยศึก G H Bank 2568

เชียงราย, 31 มีนาคม 2568 – นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย ได้ให้การต้อนรับและพบปะเพื่อให้กำลังใจแก่นักกีฬาเทควันโดตัวแทนจังหวัดเชียงราย ซึ่งเตรียมเข้าร่วมการแข่งขันกีฬา “G H Bank เทควันโดชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2568” ประเภทต่อสู้ โดยพิธีดังกล่าวจัดขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ 31 มีนาคม 2568 เวลา 10:00 น. ณ ห้องรับรองนายก อบจ.เชียงราย โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และตัวแทนจากสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทยเข้าร่วม

การแข่งขัน “G H Bank เทควันโดชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2568” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-8 เมษายน 2568 ณ อาคารกรีฑาในร่ม ศูนย์กีฬาแห่งชาติภาคตะวันออก จังหวัดชลบุรี เป็นรายการสำคัญที่เปิดโอกาสให้นักกีฬาเทควันโดทั่วประเทศได้แสดงศักยภาพและพัฒนาทักษะด้านกีฬา โดยนางอทิตาธรได้กล่าวชื่นชมน้อง ๆ นักกีฬาที่มีความมุ่งมั่นและตั้งใจฝึกซ้อมเพื่อเป็นตัวแทนของจังหวัดเชียงราย พร้อมทั้งเน้นย้ำถึงความสำคัญของการแข่งขันครั้งนี้ที่ไม่เพียงเป็นเวทีในการชิงชัย แต่ยังเป็นโอกาสในการสร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดและพัฒนานักกีฬาเยาวชนสู่ระดับชาติในอนาคต

ความสำคัญของการแข่งขันและการเตรียมความพร้อม

การแข่งขันกีฬาเทควันโดชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทยในครั้งนี้ จัดขึ้นโดยเมืองพัทยา ร่วมกับสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย ภายใต้การสนับสนุนของ G H Bank (ธนาคารอาคารสงเคราะห์) โดยมุ่งเน้นประเภทการแข่งขันแบบ “ต่อสู้” หรือ “เคียวรูกิ” ซึ่งเป็นรูปแบบที่เน้นทักษะการเคลื่อนไหว ความแข็งแกร่ง และกลยุทธ์ในการต่อสู้ ซึ่งเป็นที่นิยมและได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางในวงการกีฬาเทควันโด

นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ กล่าวในพิธีว่า “การที่นักกีฬาเยาวชนจากจังหวัดเชียงรายได้รับคัดเลือกให้เป็นตัวแทนเข้าร่วมการแข่งขันระดับชาติครั้งนี้ เป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจ และแสดงให้เห็นถึงความทุ่มเททั้งของตัวน้อง ๆ เองและทีมผู้ฝึกสอน อบจ.เชียงรายพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพื่อให้นักกีฬาของเรามีขวัญกำลังใจและความพร้อมในการแข่งขัน รวมถึงหวังว่าน้อง ๆ จะสามารถคว้าชัยชนะกลับมาเป็นเกียรติยศให้กับจังหวัดของเรา”

การแข่งขันครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้นักกีฬาเทควันโดทั่วประเทศได้มีเวทีในการแสดงความสามารถ พัฒนาทักษะกีฬาของตนเอง และใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ อีกทั้งยังเป็นโอกาสสำคัญในการคัดเลือกนักกีฬาที่มีศักยภาพเพื่อก้าวสู่การเป็นตัวแทนทีมชาติไทยในอนาคต นอกจากนี้ การจัดการแข่งขันยังมีเป้าหมายเพื่อยกระดับภาพลักษณ์ของเมืองพัทยาให้เป็น “เมืองแห่งกีฬา” และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา ซึ่งคาดว่าจะสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจท้องถิ่นในจังหวัดชลบุรี

ในการเตรียมความพร้อม ตัวแทนจากสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทยได้นำเสนอรูปแบบการจัดการแข่งขันในที่ประชุม ณ ศาลาว่าการจังหวัดชลบุรี โดยระบุว่า การแข่งขันครั้งนี้จะมีนักกีฬาและผู้ติดตามเข้าร่วมมากกว่า 3,000 คน ซึ่งถือเป็นจำนวนที่ค่อนข้างสูง สะท้อนถึงความนิยมและความสำคัญของรายการนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงได้วางแผนจัดการในด้านต่าง ๆ อย่างรอบคอบ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่จัดการแข่งขัน ที่พัก ความปลอดภัย และการอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เพื่อให้การแข่งขันดำเนินไปด้วยความเรียบร้อยและบรรลุวัตถุประสงค์ที่วางไว้

การสนับสนุนจาก อบจ.เชียงราย

นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ ยังได้กล่าวถึงบทบาทของ อบจ.เชียงรายในการสนับสนุนกีฬาเยาวชน โดยระบุว่า อบจ.ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนากีฬาในระดับท้องถิ่นมาอย่างต่อเนื่อง ผ่านการจัดสรรงบประมาณสำหรับการฝึกซ้อม อุปกรณ์กีฬา และการเดินทางไปแข่งขันในรายการต่าง ๆ ซึ่งการแข่งขัน G H Bank เทควันโดชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทยครั้งนี้ ถือเป็นหนึ่งในเวทีที่ อบจ.เชียงรายให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพื่อให้นักกีฬามีโอกาสพัฒนาศักยภาพและสร้างผลงานในระดับชาติ

“น้อง ๆ นักกีฬาเทควันโดเหล่านี้คืออนาคตของวงการกีฬาไทย และเป็นความหวังของจังหวัดเชียงราย เราเชื่อมั่นในความสามารถของน้อง ๆ และหวังว่าการแข่งขันครั้งนี้จะเป็นบันไดก้าวแรกสู่ความสำเร็จในระดับที่สูงขึ้นต่อไป” นายก อบจ.เชียงรายกล่าว

รายละเอียดการแข่งขัน

การแข่งขัน G H Bank เทควันโดชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2568 จะจัดขึ้น ณ อาคารกรีฑาในร่ม ศูนย์กีฬาแห่งชาติภาคตะวันออก เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ระหว่างวันที่ 4-8 เมษายน 2568 โดยแบ่งการแข่งขันออกเป็นรุ่นต่าง ๆ ตามน้ำหนักและเพศ ซึ่งนักกีฬาจากจังหวัดเชียงรายจะเข้าร่วมในประเภทต่อสู้ (เคียวรูกิ) ที่เน้นการใช้ทักษะการโจมตีและป้องกันตัวอย่างแม่นยำ

การแข่งขันครั้งนี้จะมีทั้งนักกีฬาเยาวชนและนักกีฬาทั่วไปจากทั่วประเทศเข้าร่วม ซึ่งคาดว่าจะเป็นเวทีที่เต็มไปด้วยการแข่งขันอันดุเดือดและน่าติดตาม โดยสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทยได้กำหนดมาตรฐานการตัดสินและกฎกติกาให้สอดคล้องกับการแข่งขันระดับสากล เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับนักกีฬาที่มีโอกาสก้าวไปสู่การแข่งขันในระดับนานาชาติต่อไป

ผลกระทบต่อเมืองพัทยาและชลบุรี

การจัดการแข่งขันครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นประโยชน์ต่อนักกีฬาเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อเมืองพัทยาและจังหวัดชลบุรีในภาพรวม ด้วยจำนวนผู้เข้าร่วมกว่า 3,000 คน ซึ่งรวมถึงนักกีฬา ทีมผู้ฝึกสอน ผู้ปกครอง และผู้ชม คาดว่าจะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นผ่านการใช้จ่ายในด้านที่พัก อาหาร และการท่องเที่ยว โดยเมืองพัทยาได้ตั้งเป้าหมายให้การแข่งขันครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างภาพลักษณ์ให้เป็น “เมืองแห่งกีฬา” ซึ่งจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวและนักกีฬาจากทั่วประเทศให้เข้ามาเยี่ยมชมและใช้บริการในอนาคต

ทัศนคติเป็นกลางต่อความเห็นทั้งสองฝ่าย

การแข่งขันครั้งนี้ได้เกิดการถกเถียงในหมู่ผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะในแง่ของการสนับสนุนนักกีฬาเยาวชน ฝ่ายหนึ่งมองว่า การที่ อบจ.เชียงรายและหน่วยงานท้องถิ่นให้การสนับสนุนนักกีฬาเทควันโดอย่างเต็มที่ เป็นสิ่งที่น่ายกย่องและช่วยสร้างโอกาสให้เยาวชนในจังหวัดได้พัฒนาทักษะและมีเวทีแสดงความสามารถ ซึ่งอาจนำไปสู่การเป็นนักกีฬามืออาชีพในอนาคต อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้เยาวชนหันมาใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ แทนการหมกมุ่นกับสิ่งที่ไม่เหมาะสม

ในทางกลับกัน อีกฝ่ายหนึ่งตั้งข้อสังเกตว่า การให้ความสำคัญกับกีฬาเทควันโดเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอต่อการพัฒนากีฬาในภาพรวมของจังหวัดเชียงราย โดยชี้ว่า งบประมาณที่ใช้ในการสนับสนุนควรกระจายไปยังกีฬาชนิดอื่น ๆ ด้วย เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมและครอบคลุมเยาวชนที่มีความสนใจหลากหลาย รวมถึงมองว่าการแข่งขันระดับชาติอาจสร้างความกดดันให้กับนักกีฬาเยาวชนมากเกินไป ซึ่งอาจส่งผลต่อสภาพจิตใจหากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม

จากมุมมองที่เป็นกลาง การสนับสนุนของ อบจ.เชียงรายมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมกีฬาและสร้างโอกาสให้เยาวชน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการพัฒนากีฬาของชาติ อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอแนะที่ให้มีการกระจายงบประมาณไปยังกีฬาชนิดอื่น ๆ ก็มีความสมเหตุสมผล เพื่อให้เกิดความหลากหลายและตอบสนองความต้องการของเยาวชนในวงกว้าง การตัดสินใจในเรื่องนี้ควรพิจารณาจากความพร้อมของทรัพยากรและความสนใจของเยาวชนในจังหวัด โดยไม่ควรตัดสินว่าฝ่ายใดถูกหรือผิด แต่ควรมองหาความสมดุลที่เหมาะสมในการพัฒนากีฬาทั้งระบบ

สถิติที่เกี่ยวข้อง

  1. จำนวนนักกีฬาเทควันโดในประเทศไทย: จากข้อมูลของสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย ในปี 2566 มีนักกีฬาเทควันโดที่ลงทะเบียนทั่วประเทศประมาณ 15,000 คน โดยร้อยละ 60 เป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี (ที่มา: สมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย, รายงานประจำปี 2566)
  2. การจัดการแข่งขันกีฬาระดับชาติ: สำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทยระบุว่า ในช่วงปี 2565-2567 มีการจัดการแข่งขันกีฬาระดับชาติ 85 รายการ โดยร้อยละ 40 จัดในจังหวัดที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยว เช่น ชลบุรี (ที่มา: การกีฬาแห่งประเทศไทย, สถิติการแข่งขัน 2567)
  3. ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยวเชิงกีฬา: กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารายงานว่า ในปี 2566 การท่องเที่ยวเชิงกีฬาสร้างรายได้ให้จังหวัดชลบุรีกว่า 2,500 ล้านบาท จากการจัดการแข่งขันและกิจกรรมกีฬาต่าง ๆ (ที่มา: กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, รายงานเศรษฐกิจกีฬา 2566)

สรุป

การพบปะและให้กำลังใจนักกีฬาเทควันโดตัวแทนจังหวัดเชียงรายของนางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย แสดงถึงความมุ่งมั่นในการสนับสนุนเยาวชนให้พัฒนาทักษะกีฬาและสร้างชื่อเสียงให้จังหวัด การแข่งขัน G H Bank เทควันโดชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย 2568 จะเป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้นักกีฬาได้แสดงศักยภาพ ขณะเดียวกันก็ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์เมืองพัทยาในฐานะเมืองแห่งกีฬาและการท่องเที่ยว

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • อบจ.เชียงราย
  • สมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย
  • การกีฬาแห่งประเทศไทย
  • กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SPORT

ปิงปองเชียงรายเดือด! แถลงการณ์ฟ้องคนปล่อยข่าวเท็จ

เชียงรายแจงข้อเท็จจริง ปมร้องเรียนสมาคมกีฬาเทเบิลเทนนิสไม่โปร่งใส

คำแถลงจากฝ่ายเทเบิลเทนนิสเชียงราย กรณีถูกกล่าวหาว่าทุจริต

เชียงใหม่, 22 มีนาคม 2568 – ฝ่ายเทเบิลเทนนิสสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดเชียงราย ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2568 ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีถูกกล่าวหาว่าดำเนินงานไม่โปร่งใส โดยเฉพาะเรื่องเบี้ยเลี้ยงและค่าเดินทางของนักกีฬาในการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติภาค 5 “ลำปางเกมส์”

ยืนยันความโปร่งใส ใช้งบโปร่งใสพร้อมเอกสารตรวจสอบได้

ฝ่ายเทเบิลเทนนิสฯ ได้เน้นว่ามีการจัดทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายไว้ครบถ้วน พร้อมตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน โดยใช้งบประมาณร่วมจากสมาคมกีฬาและผู้สนับสนุนหลักของฝ่าย มีการจัดหารถตู้รับ-ส่งนักกีฬา พักโรงแรมที่เหมาะสม และมอบชุดการแข่งขันอย่างครบถ้วนเพื่อสร้างขวัญกำลังใจแก่เยาวชนตัวแทนจังหวัดเชียงราย

เสียงขอบคุณจากนักกีฬาและผู้ปกครอง

ในการดำเนินการครั้งนี้ ได้รับคำชื่นชมจากทั้งนักกีฬาและผู้ปกครองเกี่ยวกับการดูแลอย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ ทั้งด้านความปลอดภัย การเดินทาง อาหารการกิน และการประสานงานต่างๆ ซึ่งแสดงถึงความตั้งใจและการบริหารจัดการที่ดีของฝ่ายเทเบิลเทนนิสสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดเชียงราย

ร้องเรียนไม่มีหลักฐาน ฝ่ายสมาคมยืนยันพร้อมตรวจสอบ

ฝ่ายเทเบิลเทนนิสฯ เผยว่า ได้รับหนังสือร้องเรียนกล่าวหาว่ามีการบริหารเบี้ยเลี้ยงไม่โปร่งใส ซึ่งทางสมาคมกีฬาจังหวัดเชียงรายได้พยายามติดต่อผู้ร้องเรียนเพื่อขอหลักฐานยืนยันถึงสองครั้ง แต่ไม่ได้รับการตอบกลับแต่อย่างใด จึงถือว่าเป็นการร้องเรียนโดยไม่มีหลักฐานชัดเจน อาจเข้าข่ายใส่ร้ายชื่อเสียง

เตรียมดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ร้องเรียน

เพื่อรักษาชื่อเสียงขององค์กร ทางฝ่ายเทเบิลเทนนิสฯ ขอดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ร้องเรียน รวมถึงจะใช้มาตรการตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ หากพบการเผยแพร่ข้อความเท็จในสื่อโซเชียลมีเดีย พร้อมย้ำว่าการกระทำดังกล่าวอาจส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของการกีฬาจังหวัดเชียงรายโดยรวม

แถลงในที่ประชุมใหญ่สมาคมกีฬาเชียงราย

การแถลงข้อมูลในครั้งนี้ ยังได้มีการนำเสนอในวาระประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2568 ของสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยมีผู้แทนจากหลายฝ่ายเข้าร่วมรับฟังและให้ความเห็นเพิ่มเติม

จุดยืนของฝ่ายเทเบิลเทนนิสเชียงรายต่อกรณีนี้

น.ต.ดร.สมชนก เทียมเทียบรัตน์ ประธานฝ่ายเทเบิลเทนนิสฯ เน้นย้ำถึงหลักธรรมาภิบาลในการดำเนินงาน พร้อมเปิดรับการตรวจสอบจากหน่วยงานภายนอก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชน และขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนไม่ให้ใช้การร้องเรียนเท็จเพื่อทำลายชื่อเสียงองค์กร

แนวทางต่อไป: เปิดเผยข้อมูล – สื่อสารชัดเจน – รับฟังด้วยเหตุผล

ฝ่ายเทเบิลเทนนิสสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดเชียงราย จะยังคงเน้นการสื่อสารอย่างโปร่งใส จัดเก็บเอกสารให้ตรวจสอบได้ และรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย โดยขอให้ทุกคนใช้ช่องทางร้องเรียนด้วยข้อเท็จจริง ไม่ใช้ความรู้สึกหรืออคติส่วนตัว เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อวงการกีฬาเยาวชน

สถิติที่เกี่ยวข้อง

  • จากรายงานของสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย ปี 2566 พบว่า ร้อยละ 92 ของสมาคมกีฬาในระดับจังหวัด มีการบริหารแบบโปร่งใสและมีการตรวจสอบได้
  • ศูนย์วิจัยด้านกีฬาแห่งชาติ (2567) ระบุว่า การร้องเรียนเกี่ยวกับงบประมาณในกีฬาระดับจังหวัดมีอัตราน้อยกว่า 5% ต่อปี
  • สำนักงานพัฒนากีฬาจังหวัดเชียงราย รายงานในปี 2566 ว่าการแข่งขันเยาวชนในระดับจังหวัดได้รับเสียงตอบรับด้านบวกจากผู้ปกครองมากถึง 89.7%

ความคิดเห็นทั้งสองฝ่าย: มุมมองที่ต่างแต่ร่วมอยู่ในระบบเดียวกัน

ฝ่ายเทเบิลเทนนิสสมาคมกีฬาเชียงราย: ยืนยันความบริสุทธิ์และพร้อมตรวจสอบทุกขั้นตอน ด้วยเอกสารและหลักฐานชัดเจน เชื่อว่าการกล่าวหานี้เกิดจากความเข้าใจผิดหรือเจตนาแอบแฝง

ผู้ร้องเรียน (ไม่เปิดเผยชื่อ): อาจมีความกังวลต่อความโปร่งใสของการใช้งบประมาณในกิจกรรมกีฬา ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรถูกหยิบยกขึ้นมาเพื่อให้เกิดการตรวจสอบเชิงระบบ แต่การไม่มีหลักฐานชัดเจนอาจเป็นปัญหาต่อกระบวนการยุติธรรมในสังคม

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : 

  • สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดเชียงราย
  • ฝ่ายเทเบิลเทนนิสสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดเชียงราย
  • สำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย
  • ศูนย์วิจัยด้านกีฬาแห่งชาติ
  • สำนักงานพัฒนากีฬาจังหวัดเชียงราย
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SPORT

วิ่ง-ปั่น ขึ้นดอยตุง 1000 คนร่วมใจ ไหว้สาพระธาตุ

เชียงรายจัดกิจกรรม “วิ่ง – ปั่น 2007 ปีสืบสาน สู่ลานพระธาตุดอยตุง” ส่งเสริมสุขภาพและอนุรักษ์วัฒนธรรม

กิจกรรมออกกำลังกายเชื่อมโยงประเพณีและความศรัทธา

เชียงราย,9 มีนาคม 2568 เวลา 07.00 น. จังหวัดเชียงรายจัดกิจกรรม วิ่ง – ปั่น 2007 ปีสืบสาน สู่ลานพระธาตุดอยตุง” เพื่อส่งเสริมสุขภาพและร่วมสืบทอดวัฒนธรรมท้องถิ่น โดยได้รับเกียรติจาก นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมด้วย นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ กล่าวรายงาน ณ สถานีขนส่งดอยตุง (ท่ารถม่วง) ตำบลแม่ไร่ อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย

ผู้เข้าร่วมกว่า 1,000 คน ร่วมสร้างบรรยากาศแห่งสุขภาพและศรัทธา

กิจกรรมครั้งนี้ได้รับความสนใจอย่างมากจากประชาชนในจังหวัดเชียงรายและพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงผู้เข้าร่วมจาก สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา โดยมีผู้สมัครเข้าร่วมทั้งสิ้น 1,000 คน แบ่งเป็น ประเภทปั่นจักรยาน 431 คน และประเภทวิ่ง 569 คน

จังหวัดเชียงรายเดินหน้าส่งเสริมประเพณีนมัสการพระธาตุดอยตุง

กิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของงาน “2007 ปี สืบมา หกเป็งล่องฟ้า ไหว้สาพระธาตุดอยตุง” ซึ่งเป็นประเพณีสำคัญของจังหวัดเชียงรายที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยมีกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับศาสนาและวัฒนธรรม เช่น การเดินจาริกแสวงบุญ พิธีสืบชะตาหลวงแบบล้านนา และพิธีสรงน้ำพระธาตุดอยตุง เพื่อให้ประชาชนและพุทธศาสนิกชนได้มีโอกาสร่วมทำบุญและแสดงความเคารพต่อพระธาตุดอยตุง

กำหนดการงานประเพณีนมัสการและสรงน้ำพระธาตุดอยตุง 2568

จังหวัดเชียงรายกำหนดจัดงานประเพณีนมัสการและสรงน้ำพระธาตุดอยตุง ประจำปี 2568 ระหว่างวันที่ 12-13 มีนาคม 2568วัดพระธาตุดอยตุง ตำบลห้วยไคร้ อำเภอแม่สาย โดยมีไฮไลท์สำคัญ ได้แก่:

  • พิธีสมโภชน้ำสรงพระราชทาน
  • พิธีบวงสรวงพระธาตุดอยตุง
  • กิจกรรมทำบุญตักบาตร
  • พิธีสืบชะตาหลวงแบบล้านนา

สถิติกิจกรรมและผลกระทบต่อสุขภาพชุมชน

จากการสำรวจพบว่า การจัดกิจกรรมลักษณะนี้ช่วยส่งเสริมสุขภาพประชาชนและลดอัตราการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ได้ถึง 30% จากสถิติของกระทรวงสาธารณสุข นอกจากนี้ ยังมีผลสำรวจจากสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงรายที่ระบุว่า กว่า 85% ของผู้เข้าร่วมกิจกรรม รู้สึกพึงพอใจและต้องการให้มีการจัดกิจกรรมต่อเนื่องในปีถัดไป

บทสรุป: กิจกรรมที่ควรค่าแก่การสืบสาน

กิจกรรม วิ่ง – ปั่น 2007 ปีสืบสาน สู่ลานพระธาตุดอยตุง” ไม่เพียงแต่ช่วยส่งเสริมสุขภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นการอนุรักษ์และสืบทอดวัฒนธรรมล้านนาให้คงอยู่ต่อไป การที่ภาครัฐและประชาชนให้ความร่วมมือกันในกิจกรรมลักษณะนี้ ถือเป็นแนวทางที่ดีในการพัฒนาเชียงรายให้เป็นเมืองแห่งสุขภาพและศรัทธาอย่างแท้จริง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
SPORT

ซีเกมส์ 2025 ไทยใช้สนามหลวงเปิดงาน เข้าชมฟรี เชียร์กีฬาให้สุดใจ!

ไทยยืนยันใช้สนามหลวงจัดพิธีเปิดซีเกมส์ 2025 เปิดให้ประชาชนเข้าชมฟรี

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาประชุมความพร้อม ยืนยันเปิดให้ชมฟรี ยกเว้นบางชนิดกีฬา

กรุงเทพฯ, 26 กุมภาพันธ์ 2568 – นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการจัดการแข่งขัน กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 พ.ศ. 2568 (SEA Games 2025) และ การแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 พ.ศ. 2568 ณ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยมีผู้บริหารระดับสูงและคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

ยืนยันใช้สนามหลวงจัดพิธีเปิด ราชมังคลากีฬาสถานเป็นสถานที่ปิดการแข่งขัน

ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้ สนามหลวงเป็นสถานที่จัดพิธีเปิด กีฬาซีเกมส์ 2025 เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมและสามารถชมพิธีเปิดได้ฟรี โดยพิธีปิดจะจัดที่ ราชมังคลากีฬาสถาน เนื่องจากความหลากหลายของพิธีการและความสะดวกด้านสถานที่

นายสรวงศ์ เทียนทอง กล่าวว่าการแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญของไทยในการสร้างกระแสการรับรู้เกี่ยวกับกีฬาให้กับประชาชน “เราต้องการให้คนไทยได้เรียนรู้เกี่ยวกับกฎ กติกา และวิธีการเล่นของกีฬาชนิดต่าง ๆ เพื่อให้สามารถรับชมการแข่งขันได้อย่างสนุกสนาน”

เพิ่มกีฬามิกซ์มาเชียลอาร์ท (MMA) เป็นกีฬาสาธิต

ที่ประชุมยังเห็นชอบให้ บรรจุกีฬามิกซ์มาเชียลอาร์ท (Mixed Martial Arts-MMA) เข้าเป็นกีฬาสาธิต โดยไม่คิดเหรียญรางวัล ซึ่งจะมีการแข่งขัน 4 ประเภท ได้แก่:

  1. ประเภท Modern ชาย
  2. ประเภท Modern หญิง
  3. ประเภท Traditional ชาย
  4. ประเภท Traditional หญิง

ตั้งศูนย์ ‘ไทยเฮาส์’ ดูแลนักกีฬา เพิ่มการอำนวยความสะดวกให้ผู้เข้าร่วมแข่งขัน

นายสรวงศ์เสนอแนวคิด สร้างศูนย์ ‘ไทยเฮาส์’ เพื่อดูแลนักกีฬาทั้งไทยและต่างชาติที่เข้าร่วมแข่งขัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริการด้านสุขภาพและความสะดวกสบายกับนักกีฬาทุกชาติที่มาเข้าร่วมการแข่งขัน ซึ่งอาจขยายการให้บริการไปยังนักกีฬาจากประเทศอื่น ๆ ด้วย

เปิดให้ประชาชนเข้าชมฟรี ยกเว้นบางชนิดกีฬา

หนึ่งในไฮไลท์ของซีเกมส์ครั้งนี้คือ ประชาชนสามารถเข้าชมการแข่งขันได้ฟรี โดยรัฐบาลต้องการให้ประชาชนมีส่วนร่วมและสนับสนุนกีฬาไทยให้มากที่สุด อย่างไรก็ตาม บางชนิดกีฬาที่ได้รับความนิยมสูง อาจต้องมีการจำหน่ายบัตรเข้าชม เพื่อบริหารจัดการจำนวนผู้เข้าชมให้เป็นระเบียบ

สถิติและข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับซีเกมส์ 2025

  • สนามหลวงเป็นสถานที่จัดพิธีเปิดครั้งแรกของกีฬาซีเกมส์
  • พิธีปิดจะจัดที่ราชมังคลากีฬาสถาน
  • มีกีฬาทั้งหมดกว่า 40 ชนิดในมหกรรมซีเกมส์ 2025
  • ประชาชนสามารถเข้าชมฟรี ยกเว้นกีฬายอดนิยมบางประเภทที่อาจมีค่าบัตรเข้าชม

การแข่งขันซีเกมส์ 2025 เป็นโอกาสสำคัญที่ไทยจะได้แสดงศักยภาพในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันระดับอาเซียน โดยมุ่งเน้นให้ประชาชนมีส่วนร่วม พร้อมยกระดับมาตรฐานการจัดการแข่งขันให้ดีที่สุด

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
SPORT

ซีเกมส์ ครั้งที่ 33 เคาะสังเวียน ฟุตบอลชายเตะเชียงใหม่-สงขลา

กีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 33 เคาะสนามแข่งขัน 3 จังหวัดหลัก กรุงเทพฯ-ชลบุรี-สงขลา

กรุงเทพฯ, 20 กุมภาพันธ์ 2568 – คณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ได้ข้อสรุปเกือบสมบูรณ์เกี่ยวกับสนามแข่งขัน โดยกรุงเทพฯ จะเป็นเจ้าภาพจัด 31 ชนิดกีฬา ชลบุรีจัด 15 กีฬา และสงขลาดูแล 10 กีฬา ขณะที่ฟุตบอลชายรอบแรกจะจัดแข่งที่เชียงใหม่และสงขลา ก่อนที่รอบรองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศจะกลับมาแข่งที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน

นายปรีชา ลาลุน รองผู้ว่าการฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการฝ่ายเทคนิคกีฬา ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย โดยมีตัวแทนสมาคมกีฬาต่างๆ เข้าร่วมเพื่อติดตามความคืบหน้าการจัดการแข่งขัน

สนามแข่งขันหลักในซีเกมส์ 33

  • กรุงเทพฯ และปริมณฑล (31 ชนิดกีฬา): กีฬาทางน้ำ, กรีฑา, บาสเกตบอล, มวยสากล, จักรยาน, อีสปอร์ตส์, เซปักตะกร้อ, เทควันโด และวอลเลย์บอล เป็นต้น
  • ชลบุรี (15 ชนิดกีฬา): ฟุตบอลหญิง, ขี่ม้า, ไตรกีฬา, ยิงปืน, ยกน้ำหนัก, บิลเลียด และเรือพาย เป็นต้น
  • สงขลา (10 ชนิดกีฬา): ฟุตบอลชาย, ยูโด, คาราเต้, ปันจักสีลัต, มวยปล้ำ และเรือใบ เป็นต้น

ปัญหาสนามแข่งขันที่ต้องเร่งแก้ไข

  • สนามแข่งขันฟุตซอลเดิมที่สงขลาไม่พร้อมใช้งาน และต้องหาทางเลือกใหม่ภายใน 3 จังหวัดเจ้าภาพ
  • สมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทยยังไม่ได้ข้อสรุปสนามแข่งขัน โดยต้องเลือกภายในจังหวัดเจ้าภาพ

นายปรีชา ลาลุน เผยว่า การประชุมร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาในวันที่ 26 ก.พ.นี้ จะช่วยสรุปความคืบหน้าของการแข่งขันก่อนที่มนตรีซีเกมส์จะเดินทางมาตรวจสนามแข่งขันในวันที่ 27 ก.พ.

การแข่งขันซีเกมส์ 33 และอาเซียนพาราเกมส์ 13

  • ซีเกมส์ ครั้งที่ 33: 9-20 ธันวาคม 2568 แข่งขัน 50 ชนิดกีฬา ชิง 574 เหรียญทอง
  • อาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13: 20-26 มกราคม 2569 แข่งขัน 19 ชนิดกีฬา ชิง 536 เหรียญทอง โดยทั้งหมดจัดที่นครราชสีมา

การแข่งขันครั้งนี้คาดว่าจะเป็นการยกระดับมาตรฐานการแข่งขันของภูมิภาค พร้อมเสริมศักยภาพกีฬาไทยในเวทีระดับนานาชาติ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : คณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SPORT

ปิดฉากยิ่งใหญ่ เชียงรายเกมส์ ส่งต่อราชบุรีจัดกรีฑาสูงอายุ

เชียงรายเกมส์ปิดฉาก ราชบุรีรับธงจัดกรีฑาสูงอายุครั้งต่อไป

เชียงราย, 16 กุมภาพันธ์ 2568 – พิธีปิดการแข่งขัน กรีฑาสูงอายุชิงชนะเลิศประเทศไทย ครั้งที่ 29 ประจำปี 2568 “นครเชียงรายเกมส์” ได้รับการจัดขึ้นอย่างเป็นทางการ โดยมีการส่งต่อหน้าที่เจ้าภาพให้แก่ จังหวัดราชบุรี ซึ่งจะเป็นสถานที่จัดการแข่งขันในปีถัดไป

เชียงรายปิดฉาก “นครเชียงรายเกมส์” เตรียมส่งไม้ต่อราชบุรี

เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568 นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้เป็นประธานในพิธีปิดการแข่งขัน กรีฑาสูงอายุชิงชนะเลิศประเทศไทย ครั้งที่ 29 ณ จังหวัดเชียงราย การแข่งขันนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-16 กุมภาพันธ์ 2568 โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับมาตรฐานกรีฑาสูงอายุของไทยให้ทัดเทียมนานาชาติ พร้อมทั้งส่งเสริมสุขภาพและสร้างแรงบันดาลใจให้ประชากรทุกวัยหันมาออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง

พิธีปิดมีบุคคลสำคัญเข้าร่วมมากมาย อาทิ นางสาววริษฐา สงวนเสริมศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี, นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย, นางรัตนา จงสุทธานามณี นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดเชียงราย, นายสินาด รุ่งจรูญ นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดราชบุรี ตลอดจนคณะผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ แขกผู้มีเกียรติ นักกีฬา และสื่อมวลชน

ประกาศรางวัลนักกีฬาและทีมยอดเยี่ยม

รางวัลนักกีฬาต้นแบบสุขภาพ (สสส.)

  • ชาย: พ.อ.นิพนธ์ สุดใจธรรม (ทีมลำปาง)
  • หญิง: นางกัลยา แก้วประเสริฐ (ทีมลำปาง)

รางวัลนักกีฬายอดเยี่ยม

  • ชาย: นายดี ใจจุมปา (รุ่นอายุ 95 – 99 ปี) ทีมกรีฑาผู้สูงอายุเทศบาลนครเชียงราย ได้ 6 เหรียญทอง และทำลายสถิติประเทศไทยในรายการ 400 เมตร
  • หญิง: นางสมสง่า บุญนอก (รุ่นอายุ 70-74 ปี) ทีมหนองบัวลำภู ได้ 7 เหรียญทอง ทำลาย สถิติเอเชีย 2 รายการ (กระโดดสูงและกระโดดไกล) และ สถิติประเทศไทย 3 รายการ (วิ่ง 100 เมตร, 200 เมตร, เขย่งก้าวกระโดด)

รางวัลประเภททีม

  • ผู้บริหารทีมกีฬาดีเด่น: ทีมกรีฑาผู้สูงอายุเทศบาลนครเชียงราย
  • ทีมชนะเลิศคะแนนรวม: อบจ.สงขลา (ทอง 74, เงิน 67, ทองแดง 58)
  • รองชนะเลิศอันดับ 1: อบจ.นครศรีธรรมราช (ทอง 48, เงิน 49, ทองแดง 39)
  • รองชนะเลิศอันดับ 2: ทีมกรีฑาผู้สูงอายุเทศบาลนครเชียงราย (ทอง 25, เงิน 15, ทองแดง 17)
  • รางวัลชมเชยอันดับ 1: ทีมชลบุรี (ทอง 24, เงิน 19, ทองแดง 9)
  • รางวัลชมเชยอันดับ 2: ทีมจังหวัดหนองบัวลำภู (ทอง 17, เงิน 2, ทองแดง 4)
  • รางวัลชมเชยอันดับ 3: ทีมจังหวัดนครราชสีมา (ทอง 14, เงิน 13, ทองแดง 5)
  • 1st International Team Total Score for TMAC: TEAM MALAYSIA

เชียงรายส่งต่อเจ้าภาพให้ราชบุรี เตรียมสู้ศึกปี 2569

หลังจากการแข่งขันที่เชียงรายประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี การแข่งขันกรีฑาสูงอายุชิงชนะเลิศประเทศไทย ครั้งที่ 30 จะจัดขึ้นที่ จังหวัดราชบุรี โดยมีเป้าหมายเพื่อสานต่อความสำเร็จและพัฒนาวงการกรีฑาสูงอายุไทยให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น

นครเชียงรายเกมส์” ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพของประเทศไทยในการจัดการแข่งขันกีฬาระดับประเทศ และแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการส่งเสริมสุขภาพและวิถีชีวิตที่กระฉับกระเฉงในทุกช่วงวัย” – นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ กล่าว

การแข่งขันกรีฑาสูงอายุไม่ได้เป็นเพียงแค่เวทีสำหรับนักกีฬา แต่ยังเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างแรงบันดาลใจให้กับประชาชนทุกช่วงวัยให้เห็นถึงความสำคัญของการออกกำลังกายและการดูแลสุขภาพ

ราชบุรีเตรียมพร้อมรับเป็นเจ้าภาพในปีหน้า การแข่งขันกรีฑาสูงอายุชิงชนะเลิศประเทศไทย ครั้งที่ 30 จะเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการพัฒนาวงการกีฬาไทย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SPORT

แบบปู่สว่าง 105 ปี แรงจริง ซิว 2 ทอง กรีฑาสูงอายุไทยใหม่

“ปู่สว่าง” วัย 105 ปี คว้า 2 ทอง เปิดศึกกรีฑาสูงอายุประเทศไทย

เชียงราย, 13 กุมภาพันธ์ 2568 – “ปู่สว่าง” หรือคุณตาสว่าง จันทร์พราหมณ์ วัย 105 ปี ยังคงสร้างความประทับใจให้กับวงการกีฬา หลังคว้าเหรียญทอง 2 รายการจากการแข่งขันกรีฑาสูงอายุชิงแชมป์ประเทศไทย ครั้งที่ 29 “นครเชียงรายเกมส์” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-16 กุมภาพันธ์ 2568 ณ สนามกีฬากลาง จังหวัดเชียงราย การแข่งขันครั้งนี้มีนักกีฬาสูงอายุจากทั่วประเทศและนานาชาติเข้าร่วมกว่า 2,000 คน

ปู่สว่างซิวทองในวัย 105 ปี

ปู่สว่างลงแข่งขัน 4 รายการ ได้แก่ ทุ่มน้ำหนัก, วิ่ง 100 เมตร, ขว้างจักร และพุ่งแหลน โดยประเดิมสนามเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ในรายการพุ่งแหลนและวิ่ง 100 เมตร และสามารถคว้าเหรียญทองทั้งสองรายการได้สำเร็จ

ไฮไลต์นักกีฬาอาวุโสและผลการแข่งขันสำคัญ

ณัฐพล นามกันหา อดีตนักกีฬาทีมชาติไทยจากสโมสรทหารอากาศโชว์ฟอร์มเยี่ยม คว้าแชมป์กระโดดไกลรุ่น 50-54 ปี ด้วยสถิติ 5.24 เมตร ตามมาด้วย ณพลเดช ภาพยนต์ จากบุรีรัมย์ 5.17 เมตร และ เซียว ฮัน เหวิน จากมาเลเซีย 4.45 เมตร

ในช่วงเย็นของวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 มีพิธีเปิดการแข่งขันอย่างเป็นทางการ โดยได้รับเกียรติจาก นายชรินทร์ ทองสุข เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นางรัตนา จงสุทธานามณี นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดเชียงราย, นายวิวัฒน์ วิกรานตโนรส นายกกิตติมศักดิ์สมาคมกรีฑาผู้สูงอายุไทย และ นางสาวจันทร พิมพ์สกุล กรรมการบริหารสมาคมกรีฑาผู้สูงอายุไทย

ผลการแข่งขันรายการอื่นๆ

เดิน 5,000 เมตร

  • รุ่น 90-94 ปีชาย: บรรยงค์ หวังศักราทิตย (อบจ.สงขลา) – 44.38 นาที

  • รุ่น 80-84 ปีชาย: เกียรทอง โนจิตร (น่าน) – 39.31 นาที

  • รุ่น 75-79 ปีชาย: นิพนธ์ สุดใจธรรม (ลำปาง) – 35.36 นาที

ทุ่มน้ำหนัก รุ่น 45-49 ปี

  • อาร์วินด์ ลาลนี – 7.01 เมตร

  • สรพงษ์ สุชาญา (อบจ.นครศรีธรรมราช) – 6.83 เมตร

  • อามร นวลพุ่ม (อุตรดิตถ์) – 5.77 เมตร

กระโดดค้ำ

  • รุ่น 85-89 ปีชาย: นิพันธ์ นพรัตน์ (อุตรดิตถ์) – 1.00 เมตร

  • รุ่น 75-79 ปีชาย: ไสว พิชญาภรณ์ (อบจ.สงขลา) – 2.00 เมตร

พุ่งแหลน รุ่น 80-84 ปีหญิง

  • รวิพร ชาญสมธิ (ส.กีฬาจังหวัดพิษณุโลก) – 13.29 เมตร

  • สว่างจิตร สุขเกษม (อบจ.อุดรธานี) – 12.13 เมตร

  • ลี เนีย ยอง (ซาบา มาสเตอร์) – 11.24 เมตร

กระโดดไกล รุ่น 45-49 ปีชาย

  • ประสงค์ อินคำ (ล้านนา) – 5.38 เมตร

  • กริธศักดิ์ รอดรัตน์ (อบจ.นครศรีธรรมราช) – 5.06 เมตร

บทสรุป

การแข่งขันกรีฑาสูงอายุชิงแชมป์ประเทศไทย ครั้งที่ 29 ที่เชียงราย สะท้อนให้เห็นถึงพลังและศักยภาพของนักกีฬาสูงวัย โดยเฉพาะปู่สว่าง จันทร์พราหมณ์ วัย 105 ปี ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับนักกีฬาทุกวัย การแข่งขันครั้งนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการออกกำลังกายและการแข่งขันกีฬาเพื่อสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สมาคมกรีฑาผู้สูงอายุไทย เพจหลัก

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SPORT

เชียงรายเปิดลานกีฬาเอ็กซ์ตรีมริมน้ำกก แลนด์มาร์คใหม่

เชียงรายเปิดตัวแลนด์มาร์คใหม่ ลานกีฬาเอ็กซ์ตรีมริมน้ำกก

เชียงราย, 6 กุมภาพันธ์ 2568 – นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย พร้อมด้วยส่วนงานที่รับผิดชอบ ได้ลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้าโครงการพัฒนาพื้นที่ริมน้ำกก ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร ตั้งแต่ฝายเชียงรายถึงหาดเชียงราย

การพัฒนาพื้นที่ริมน้ำกก

โครงการพัฒนาพื้นที่ริมน้ำกก เป็นโครงการที่เทศบาลนครเชียงรายให้ความสำคัญอย่างยิ่ง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาพื้นที่ริมน้ำกกให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจและสถานที่ออกกำลังกายสำหรับประชาชน ปัจจุบันโครงการได้ดำเนินการไปแล้ว 3-4 กิโลเมตร ประกอบด้วย สวนสาธารณะริมน้ำกก เลนวิ่ง เลนจักรยาน และลานกีฬาเอ็กซ์ตรีม

ลานกีฬาเอ็กซ์ตรีม เทศบาลนครเชียงราย

ลานกีฬาเอ็กซ์ตรีม เทศบาลนครเชียงราย บริเวณชุมชนร่องเสือเต้น เป็นหนึ่งในโครงการที่สำคัญของโครงการพัฒนาพื้นที่ริมน้ำกก หลังจากประสบปัญหาน้ำท่วมและดินโคนทับถม ปัจจุบันได้รับการฟื้นฟูและปรับปรุงใหม่ทั้งหมด เพื่อเปิดพื้นที่ให้นักกีฬาและประชาชนทั่วไปได้เข้ามาใช้พื้นที่ได้อย่างสะดวกและปลอดภัยมากขึ้น

นายกเทศมนตรีเน้นส่งเสริมกีฬา

นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย กล่าวว่า ลานกีฬาเอ็กซ์ตรีม เทศบาลนครเชียงราย แห่งนี้ ไม่ได้เน้นการแข่งขันอย่างเดียว แต่เน้นตั้งแต่เริ่มต้นเป็นนักกีฬาจนประสบความสำเร็จ และเป็นการกระตุ้นให้ออกกำลังกายมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อสุขภาพ

เชียงรายเมืองแห่งกีฬา

นายกเทศมนตรีกล่าวเพิ่มเติมว่า ผลงานหลายมิติที่ทำให้เชียงรายต้องขับเคลื่อนต่อไปด้านกีฬา และได้จัดกิจกรรมมากมายทางด้านกีฬารวมทั้งถนนสายกีฬา และเชื่อว่าอนาคตการจัดการแข่งขันกีฬาระดับประเทศจะทำให้นักท่องเที่ยวผู้ชื่นชอบกีฬาเข้ามาจังหวัดเชียงรายมากยิ่งขึ้น

สรุป

การพัฒนาพื้นที่ริมน้ำกกและลานกีฬาเอ็กซ์ตรีมในครั้งนี้ จะเป็นแลนด์มาร์คใหม่ของจังหวัดเชียงราย ที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยวและส่งเสริมให้ประชาชนหันมาออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดี

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : เทศบาลนครเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News