Categories
AROUND CHIANG RAI TRAVEL

‘อ.เชียงแสน’ เปิดสวนสาธารณะใหม่ ลานกิจกรรมธรรมชาติ-จุดพักผ่อน

 

การอัปเดตข่าวสารเกี่ยวกับสวนสาธารณะเมืองเชียงแสน ที่กำลังได้รับการพัฒนาให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ และสถานที่ออกกำลังกายของชาวเชียงแสน เป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาสาธารณูปโภคที่สำคัญในจังหวัดเชียงราย ซึ่งความคืบหน้าล่าสุดบอกได้เลยว่าสวยงามมาก สวนสาธารณะแห่งนี้มีทั้งลานกิจกรรม ลานสเก็ต และพื้นที่สีเขียวสำหรับการออกกำลังกาย ทำให้เป็นพื้นที่ที่เหมาะสำหรับคนทุกวัยที่จะมาพักผ่อนและทำกิจกรรมต่างๆ โดยสวนสาธารณะแห่งนี้ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองเชียงแสน ที่มีประวัติศาสตร์และวิวทิวทัศน์ธรรมชาติที่งดงาม

เชียงแสน อำเภอหนึ่งในจังหวัดเชียงราย ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของจังหวัด ล้อมรอบด้วยแม่น้ำโขงและภูเขาสูงทั้งทางฝั่งไทยและลาว ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อทางวัฒนธรรมและการค้าระหว่างไทย ลาว และพม่า โดยเฉพาะบริเวณ “สามเหลี่ยมทองคำ” ที่มีชื่อเสียงมากในการท่องเที่ยวและการขนส่งสินค้าในภาคเหนือของประเทศไทย

 

เชียงแสนยังเป็นแหล่งโบราณคดีสำคัญ มีซากโบราณสถานมากมายที่บอกเล่าเรื่องราวความรุ่งเรืองในอดีตของเมืองนี้ และเป็นจุดที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่สนใจในประวัติศาสตร์และธรรมชาติ เนื่องจากเมืองนี้เป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์จากแม่น้ำโขงไหลผ่าน ทำให้มีการทำการเกษตรและการค้าขายที่เจริญเติบโตมาตั้งแต่สมัยโบราณ

สวนสาธารณะแห่งใหม่ที่กำลังพัฒนาในเชียงแสนไม่เพียงแค่เป็นพื้นที่สีเขียวสำหรับการออกกำลังกายและพักผ่อน แต่ยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้กับเชียงแสน ซึ่งเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน โดยสถานที่ตั้งของสวนสาธารณะนี้อยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่งในเชียงแสน เช่น ซากเมืองโบราณและแม่น้ำโขง ทำให้สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาพักผ่อนและท่องเที่ยวในพื้นที่ใกล้เคียงได้ง่ายขึ้น

พื้นที่เชียงแสนมีอาณาเขตที่ติดต่อกับอำเภอแม่สาย รัฐฉานของประเทศพม่า และแขวงบ่อแก้วของประเทศลาว ซึ่งสร้างโอกาสในการพัฒนาเศรษฐกิจและการค้าข้ามชาติ ทำให้เชียงแสนกลายเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศในภาคเหนือของประเทศไทย

 

 

สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบธรรมชาติและประวัติศาสตร์ เชียงแสนถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาด ด้วยวิวทิวทัศน์ที่งดงามและความเป็นมาอันยาวนาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาในปัจจุบันที่ทำให้เชียงแสนมีความทันสมัยมากขึ้น แต่ยังคงรักษาเสน่ห์ของเมืองโบราณไว้อย่างดี

สำหรับการเดินทางมาท่องเที่ยวในเชียงแสน นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาได้สะดวกทั้งทางรถยนต์ส่วนตัวและรถโดยสารจากตัวเมืองเชียงราย การท่องเที่ยวที่นี่ไม่เพียงแค่ได้สัมผัสกับธรรมชาติอันงดงาม แต่ยังได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่หลากหลายของพื้นที่นี้

สุดท้ายนี้ ขอเชิญชวนทุกท่านที่สนใจมาเที่ยวชมสวนสาธารณะเมืองเชียงแสน และสำรวจเมืองประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่แห่งนี้ ที่ยังคงความเป็นธรรมชาติและเสน่ห์ทางวัฒนธรรมไว้อย่างดี

เครดิตข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

ภาพโดย : Kho RachaSit

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME
Categories
AROUND CHIANG RAI FOOD

Triple C คาเฟ่ริมน้ำกกเชียงราย พร้อมสู้ครั้งใหม่ หลังน้ำท่วมใหญ่

 

คาเฟ่ใต้ต้นฉำฉายักษ์ ริมแม่น้ำกก กับ Triple C Campsite & Cafe ฟื้นตัวหลังน้ำท่วมหนัก

เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2567 ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์ได้ลงพื้นที่สำรวจร้าน Triple C Campsite & Cafe (ทริปเปิ้ล ซี แคมป์ไซต์ แอนด์ คาเฟ่) คาเฟ่บรรยากาศดี ริมแม่น้ำกกในตัวเมืองเชียงราย ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยน้ำท่วมเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2567

คาเฟ่แห่งนี้ตั้งอยู่ในทำเลที่แสนสงบร่มรื่น มีสนามเด็กเล่น บ่อทรายขนาดเล็ก และพื้นที่กว้างขวางที่เหมาะกับครอบครัวและเด็กๆ นอกจากนี้ยังมีวิวแม่น้ำกกที่สวยงามและบรรยากาศสดชื่น แต่ด้วยสถานการณ์น้ำกกล้นตลิ่งจากฝนตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน ส่งผลให้ระดับน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและเข้าท่วมพื้นที่คาเฟ่

 

ทางทีมข่าวได้พูดคุยกับ คุณฟ้า เจ้าของร้าน Triple C Campsite & Cafe เธอเล่าให้ฟังว่า “น้ำเริ่มเข้ามาตั้งแต่วันที่ 11 กันยายน คืนนั้นเทศบาลมีการเปิดไซเรนเตือนภัย แต่ตอนนั้นระดับน้ำยังดูไม่น่ากลัวมากนัก วันนั้นเป็นวันหยุดของร้านพอดีเลยไม่มีพนักงานช่วยขนของ ฉันเองก็ท้องแก่ เลยทำอะไรไม่ค่อยได้ ทำได้แค่พาแมว 9 ตัว กับกระต่าย 2 ตัวออกมาเท่านั้น”

คุณฟ้าเล่าต่อว่า ระดับน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในคืนนั้น น้ำบนถนนหน้าร้านท่วมถึงอก ส่วนในร้านน้ำสูงประมาณต้นขา แม้ว่าร้านจะยกพื้นสูงกว่าถนน แต่ก็ยังไม่พ้นที่จะได้รับความเสียหาย เครื่องใช้ไฟฟ้าเกือบทั้งหมดในร้านเสียหาย รวมถึงเปียโนอายุกว่า 100 ปี และรถคลาสสิคอย่าง Land Rover และ Ford Transit ก็จมไปครึ่งคัน มูลค่าความเสียหายโดยประมาณอยู่ที่ 400,000-500,000 บาท

 

หลังน้ำลดลง ร้านก็เริ่มทำการฟื้นฟูพื้นที่และสวนทันที คุณฟ้าเล่าให้ฟังเพิ่มเติมว่า “วันนี้ (25 กันยายน 2567) เราเริ่มลงสวนใหม่แล้วค่ะ เพราะอยากเปิดร้านให้เร็วที่สุด เราคาดว่าวันที่ 27 กันยายน 2567 จะทดลองเปิดขายเฉพาะเครื่องดื่ม และเปิดให้นั่งได้ในโซนภายในอาคาร ส่วนโซนนอกอาคารและสวนจะต้องใช้เวลาอีกนิด แต่เราหวังว่าจะพร้อมให้บริการเต็มรูปแบบในวันที่ 15 ตุลาคม 2567 โดยจะมีทั้งอาหาร เครื่องดื่ม เค้ก และเบเกอรี่เหมือนเดิม”

นอกจากการฟื้นฟูร้าน Triple C Campsite & Cafe ยังได้มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือชุมชนที่ประสบภัยด้วยการบริจาคอุปกรณ์ทำความสะอาดให้กับชาวบ้าน คุณฟ้ากล่าวว่า “ครั้งนี้หนักมากค่ะ หลายๆ ร้านในเชียงรายก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน หวังว่าช่วงหน้าไฮซีซั่นที่กำลังจะมาถึงจะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจและค้าขายในพื้นที่ได้บ้าง”

 

ร้าน Triple C Campsite & Cafe เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 09:00-17:00 น. โดยจะหยุดทุกวันพุธ ยกเว้นวันพุธที่ตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์ ร้านตั้งอยู่ใกล้สะพานขัวพญามังราย หากเดินทางจากแยก สภ.เมืองเชียงราย มุ่งหน้าสู่ตลาดบ้านใหม่ ให้ลงสะพานขัวพญามังรายแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยบ้านใหม่ ซอย 21 ขับเข้ามาตามป้ายร้าน

คุณฟ้าทิ้งท้ายด้วยความหวังว่า “ตอนนี้กังวลเรื่องค่าใช้จ่ายและสภาพเศรษฐกิจหลังจากนี้ค่ะ เพราะก่อนน้ำท่วมหลายร้านในเชียงรายก็เงียบอยู่แล้ว หวังว่าการฟื้นตัวของร้านจะกลับมาได้ไวๆ และขอเชิญชวนลูกค้าทุกท่านแวะมาพักผ่อนที่ร้านของเรา เมื่อเรากลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งค่ะ”

 

การเดินทางมายังร้าน Triple C Campsite & Cafe

  • ร้านใกล้สะพานขัวพญามังราย, ซอยบ้านใหม่ 21, เชียงราย
  • พิกัด : https://g.co/kgs/4vPhzZT 
  • เปิดบริการ: ทุกวัน 09:00-17:00 น. (หยุดวันพุธ)
  • เบอร์โทรศัพท์: 091-594-6669

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI FOOD

Polar เชียงราย ฟื้นตัวหลังน้ำท่วม ชวนอุดหนุนอีกหนึ่งร้านดังในท้องถิ่น

 

ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์ได้มีโอกาสพูดคุยกับร้าน Polar Boulangerie and Patisserie (โพลาร์ บูแลงเกอรี่ แอนด์ พาทิซเซอรี่) เชียงราย หลังจากที่ประสบอุทกภัยจากน้ำท่วมในช่วงวันที่ 11 กันยายน 2567 ซึ่งน้ำจากแม่น้ำกกได้ไหลเข้าท่วมบริเวณสะพานหนองด่าน สะพานข้ามแม่น้ำกก บ้านป่าอ้อ-บ้านหนองด่าน เป็น 1 ใน 6 สะพานข้ามแม่น้ำกกในบริเวณตัวเมืองเชียงราย  ที่เจอปัญหาเดียวกัน คือ น้ำเอ่อล้นตลิ่ง ทำให้เชิงลาดสะพานน้ำท่วม รถผ่านไม่ได้

 

และอีกหนึ่งร้านที่อยู่ติดประเวณสะพานคือ Polar Boulangerie and Patisserie (โพลาร์ บูแลงเกอรี่ แอนด์ พาทิซเซอรี่) เชียงราย ร้านได้รับผลกระทบอย่างหนัก คุณเอ๋ เจ้าของร้านให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวว่า “น้ำท่วมเริ่มตั้งแต่วันที่ 11 กันยายน โดยไม่มีสัญญาณเตือนใดๆ เราหาข่าวเองจากโซเชียล ตอนนั้นเก็บของทันแค่บางส่วน วัตถุดิบในตู้เย็นเสียทั้งหมด รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่เตรียมขายก็เสียหาย แต่โชคดีที่น้องๆ พนักงานช่วยกันเก็บของและทยอยนำไปเก็บที่อื่น หลังจากที่น้ำเริ่มลดลงในวันที่ 14 กันยายน ทีมงานร้านก็เริ่มล้างโคลนและฟื้นฟูพื้นที่ แต่จุดที่หนักที่สุดคือบริเวณสต๊อกสินค้าและโกดังเก็บบรรจุภัณฑ์ที่น้ำท่วมสูงถึงระดับเอว ส่งผลให้ความเสียหายรวมประมาณ 500,000 – 700,000 บาท

 

 
“ตอนนี้ร้านกลับมาเปิดให้บริการแล้ว แต่ยังไม่ 100% เพราะยังต้องซ่อมแซมบริเวณที่นั่งภายนอกและลานจอดรถ ส่วนในร้านที่ท่วมสูงถึงหน้าแข้งก็ทำความสะอาดไปได้ครึ่งทาง เหลือโคลนในบางจุดที่ยังไม่สามารถเคลียร์ได้ และเป็นกังวลเกี่ยวกับเงินทุนหมุนเวียนที่ต้องหาแหล่งเงินทุนเพิ่มเติม เพื่อมาใช้ในการซ่อมแซมร้านและซื้อวัตถุดิบที่เรียกได้ว่าเสียหายมากที่สุด”  คุณเอ๋กล่าวเพิ่มเติม
 

ทางสำนักข่าวนครเชียงรายอยากเชิญชวนให้ นักท่องเที่ยวมาอุดหนุนร้านในช่วงฟื้นฟูนี้ เพื่อให้ร้าน Polar Boulangerie and Patisserie ยังคงเป็นหนึ่งในร้านเบเกอรี่ที่ดีของเชียงราย”

 

 ร้าน Polar Boulangerie and Patisserie เป็นร้านเบเกอรี่เล็กๆ แต่คุณภาพสูง ด้วยเมนูขนมอบหลากหลาย ทั้งจากวัตถุดิบในประเทศและต่างประเทศ อาหารทุกชนิดปลอดสารกันเสีย นอกจากนี้ยังมีเมนูกาแฟอาราบิก้าคุณภาพดีที่ปลูกและคั่วในเชียงรายเอง บรรยากาศของร้านเงียบสงบ อบอุ่นเหมือนนั่งจิบกาแฟอยู่ในบ้านส่วนตัว
 

พิกัดร้านเปิดทุกวัน
https://g.co/kgs/1Kef6EU
ที่ตั้ง: 266 หมู่ 1 ตำบลรอบเวียง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
โทรศัพท์: 087-366-9366
เวลาเปิด-ปิด :  08:00 – 16:30 น.

เชิญชวนทุกท่านมาช่วยอุดหนุนร้านเพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูร้านเบเกอรี่ที่ได้รับรางวัล USER’S CHOICE ติดต่อกันหลายปี

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI FOOD

‘ร้านชีวิตธรรมดา’ เชียงราย กับวันที่ต้องรับมือแบบ ‘ไม่ธรรมดา’

 

เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าว “สำนักข่าว นครเชียงรายนิวส์” ได้รายงานสถานการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ในพื้นที่เศรษฐกิจของอำเภอเมืองเชียงรายและอำเภอแม่สาย ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 10 – 13 กันยายน 2567 น้ำท่วมครั้งนี้ได้สร้างความเสียหายต่อธุรกิจหลายแห่ง รวมถึงร้านอาหารและร้านกาแฟชื่อดังในพื้นที่ หนึ่งในร้านที่ได้รับผลกระทบหนักคือ “ชีวิตธรรมดา คอฟฟี่เฮาส์ บิสโทร บาร์” ร้านอาหารและร้านกาแฟยอดนิยมที่ตั้งอยู่ริมน้ำกก จังหวัดเชียงราย

ร้านชีวิตธรรมดาเป็นที่รู้จักในฐานะร้านอาหารและร้านกาแฟที่มีบรรยากาศไม่ธรรมดาเหมือนชื่อร้าน ด้วยการตกแต่งสไตล์วินเทจแบบบ้านไม้สีขาว ร่มรื่นด้วยต้นไม้เขียวขจีและสวนอังกฤษ พื้นที่ภายในร้านกว้างขวางและหลากหลายโซน ทั้งห้องแอร์ โอเพ่นแอร์ โซนสวน ห้องกระจก ห้องสมุด และระเบียงริมน้ำ ร้านนี้กลายเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวที่มาเยือนเชียงราย

 อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากน้ำท่วมในครั้งนี้ทำให้ร้านชีวิตธรรมดาเสียหายอย่างหนัก โดยมีน้ำท่วมสูงถึงเมตรครึ่ง พื้นที่ภายในร้านส่วนใหญ่ถูกปกคลุมด้วยดินโคลน เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ต่างๆ ภายในร้านเสียหายไปหลายรายการ แม้ว่าทางร้านจะพยายามย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง แต่ระดับน้ำที่ไหลเข้ามาอย่างรวดเร็วทำให้ไม่สามารถป้องกันความเสียหายได้ทัน พนักงานในร้านกว่า 100 ชีวิตต้องรีบอพยพหนีออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัย
 

จากการสัมภาษณ์กับทางร้าน ทางร้านชีวิตธรรมดาเปิดเผยว่า “ตอนนี้ทางร้านกำลังเร่งฟื้นฟูและทำความสะอาดพื้นที่ รวมถึงการเคลื่อนย้ายดินโคลนที่หนาและเหนียวออกจากพื้นที่ ทั้งในร้านและที่พักพนักงาน แม้จะได้รับความเสียหายอย่างหนัก แต่ทางร้านยังคงมีความตั้งใจที่จะเปิดโซนเล็กๆ ก่อน เพื่อให้พนักงานสามารถทำงานและได้รับเงินเดือนเต็มจำนวน” ทางร้านยังคาดหวังว่าจะสามารถเปิดให้บริการบางส่วนได้ในวันที่ 25 กันยายนนี้

ในเชิงเศรษฐกิจ น้ำท่วมครั้งนี้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อธุรกิจร้านอาหารและคาเฟ่ริมแม่น้ำกกหลายแห่ง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของเชียงราย การปิดให้บริการชั่วคราวและการฟื้นฟูที่ต้องใช้เวลาย่อมส่งผลต่อการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ร้านชีวิตธรรมดายังคงมุ่งมั่นฟื้นฟูธุรกิจของตนและคาดหวังว่าจะกลับมาเปิดให้บริการได้ในอนาคตอันใกล้

สำหรับลูกค้าที่ต้องการเยี่ยมเยียนร้านชีวิตธรรมดา ร้านตั้งอยู่ที่ 179 หมู่ 2 ซอยร่องเสือเต้น 3 ตำบลริมกก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย 57100 สามารถเดินทางโดยข้ามสะพานแม่น้ำกก เมื่อเจอแยกไฟแดงแรกให้เลี้ยวซ้าย ร้านเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 08:00 น. ถึง 21:00 น. และสามารถติดต่อสอบถามได้ที่เบอร์โทร 081-984-2925 หรือ 053-166-967
 

ผลกระทบที่เกิดขึ้นนี้เป็นเครื่องเตือนใจให้ธุรกิจในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมต้องวางแผนรับมือกับเหตุการณ์ธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต การมีแผนป้องกันและการเตรียมความพร้อมของชุมชนในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้สามารถฟื้นฟูธุรกิจและเศรษฐกิจของท้องถิ่นได้อย่างรวดเร็ว และลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจและสังคมในระยะยาว

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI FOOD

ล้านนาตะวันออก สวรรค์ของเมืองกาแฟ Eastern Lanna Coffee Fest 2024

 

เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2567  ณ ลานกิจกรรมชั้น G ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเชียงราย นางสุภาพรรณ หมั่นเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานเปิดงาน “เทศกาลกาแฟล้านนาตะวันออก สวรรค์ของเมืองกาแฟ Eastern Lanna Coffee Fest 2024” กิจกรรม ส่งเสริมการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์กาแฟ และพัฒนาเชื่อมโยงตลาดเมล็ดกาแฟคุณภาพ โครงการเพิ่มขีดในการแข่งขันการเกษตรระดับภูมิภาค โดยมีเกษตรและสหกรณ์จังหวัดเชียงราย  ผู้อำนวยการส่วนจัดการทรัพย์สินทางปัญญาและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ประชาชน และสื่อมวลชนเข้าร่วมงาน
.
นายอดิศร จันทรประภาเลิศ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดเชียงราย กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ จัดขึ้นตามนโยบายและทิศทางการพัฒนาของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 (เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน) ตามประเด็นการพัฒนา ส่งเสริมการผลิตและพัฒนานวัตกรรม เพื่อยกระดับสินค้าเกษตรเชิงสร้างสรรค์ ภายใต้แนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาบรรจุภัณฑ์ สร้างตราสินค้ากาแฟ ตลอดจนประชาสัมพันธ์ และนำเสนอกาแฟคุณภาพของเกษตรกรที่ได้รับการพัฒนาต่อผู้บริโภค และเชื่อมโยงตลาดเมล็ดกาแฟคุณภาพ
.
ซึ่งสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดเชียงราย ร่วมกับมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ร่วมกันดำเนินการยกระดับเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟ จำนวน 27 ราย จาก 4 จังหวัด โดยการอบรมให้ความรู้ด้านการทดสอบรสชาติของกาแฟ หรือ cupping และประเมินคุณภาพเมล็ดกาแฟโดย Q grader ตามมาตรฐานการรับรองของสมาคมกาแฟพิเศษแห่งสหรัฐอเมริกา หรือ SCAA พร้อมทั้งให้เกษตรกรแบ่งผลผลิตมาผลิตเป็นกาแฟพิเศษ (Specialty Coffee) เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ซึ่งปกติเกษตรกรที่ปลูกกาแฟอินทรีย์ส่วนใหญ่จะจำหน่ายเป็นแบบเชอรี่ ในราคา 29-40 บาท/กก. หากมีการผลิตแบบประณีตยกระดับเป็นกาแฟพิเศษแล้ว จะสามารถเพิ่มมูลค่าขึ้นได้มากกว่า 1,000 บาท/กก. อีกทั้งการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะสม และสร้างตราสินค้า พร้อมทั้งนำเสนอกาแฟคุณภาพให้แก่ผู้บริโภค โดยงานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-18 สิงหาคม 2567 ณ ลานกิจกรรมชั้น G ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเชียงราย 

สำหรับกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย การออกบูธประชาสัมพันธ์ จัดแสดง และจำหน่ายผลิตภัณฑ์กาแฟคุณภาพของจังหวัดเชียงราย พะเยา แพร่ และน่าน และบูธของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนากาแฟ รวม 30 บูธ การเจรจาธุรกิจ และมีกิจกรรม workshop สาธิตให้ความรู้ด้านกาแฟ การทำสครับกาแฟ เทคนิคการชงกาแฟให้ได้รสชาติที่ดี และชิมกาแฟคุณภาพจากเกษตรกรผู้ปลูกที่คัดสรรมาจาก 4 จังหวัด ที่จะสลับสับเปลี่ยนมาให้ผู้ร่วมงานได้ชิมรสชาติกันทุกวัน พร้อมกิจกรรมการแสดงดนตรี ศิลปวัฒนธรรม และการร่วมสนุกเล่นเกมส์รับของรางวัลด้วย
.
นางสุภาพรรณ หมั่นเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 มีพื้นที่ปลูกกาแฟร้อยละ 30.36 ของพื้นที่ปลูก ทั้งประเทศ โดยเฉพาะจังหวัดเชียงราย ที่มีพื้นที่ปลูกกาแฟอาราบิก้ามากที่สุดในภาคเหนือ รองลงมาเป็นจังหวัดน่าน แพร่ และพะเยา โดยกาแฟของแต่ละจังหวัดจะมีเอกลักษณ์และความโดดเด่นต่างกัน เนื่องจากด้วยพื้นที่ปลูกและกระบวนการแปรรูป สถิติพื้นที่ปลูกกาแฟตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แสดงให้เห็นถึงการขยายตัวของอุตสาหกรรมกาแฟในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 จะเห็นว่ากาแฟเป็นพืชเศรษฐกิจที่สร้างมูลค่าให้กลุ่มจังหวัด ไม่ต่ำกว่า 721 ล้านบาทต่อปีแล้ว ยังมีส่วนช่วยอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในระบบเกษตรกรรมแบบยั่งยืน ด้วยการปลูกร่วมกับไม้ผลและป่าธรรมชาติ จึงเรียกได้ว่าเป็นกาแฟรักษาป่า สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาของภาคเหนือและกลุ่มจังหวัดที่ว่า “ท่องเที่ยวบนพื้นฐานวัฒนธรรมร่วมสมัย ยกระดับคุณภาพสินค้าเกษตร สิ่งแวดล้อมยั่งยืน สู่เศรษฐกิจมั่นคง” 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI AUTOMOTIVE

Tesla พับแผนตั้งโรงงาน ‘ไทย-มาเลย์-อินโด’ หลังไม่สามารถแข่งขันกับรถอีวีจากจีนได้

 

เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2567 นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซียเปิดเผยว่า “เทสลา อิงค์” (Tesla) ได้ตัดสินใจยกเลิกแผนการสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในประเทศไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย เนื่องจากความท้าทายจากการแข่งขันที่ดุเดือดจากประเทศจีนและสถานการณ์ที่บริษัทเผชิญอยู่

เว็บไซต์เดอะสเตรทไทม์สในสิงคโปร์รายงานว่า นายกรัฐมนตรีอันวาร์ได้กล่าวถึงเหตุผลที่เทสลาตัดสินใจเปลี่ยนแผน โดยระบุว่า ซาฟรุล อาซิส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการลงทุน การค้า และอุตสาหกรรมของมาเลเซีย ได้รับข้อมูลตรงจากแหล่งข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันของเทสลาว่า บริษัทไม่สามารถแข่งขันกับรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนได้

อันวาร์อธิบายว่า ซาฟรุลได้รับข้อมูลล่าสุดซึ่งแสดงถึงความเพลี่ยงพล้ำของเทสลาในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า และการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงจากรถอีวีที่ผลิตในจีน ซึ่งทำให้บริษัทไม่สามารถดำเนินการตามแผนที่วางไว้ได้ นอกจากนี้ เขายังระบุว่า ข้อมูลที่ได้รับเป็นการรายงานโดยตรง ไม่ใช่จากสื่อ

นายกรัฐมนตรีอันวาร์ยังกล่าวด้วยว่าแผนการลงทุนในมาเลเซียยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น และตอนนี้เทสลามีเพียงการตั้งสำนักงานขายและโชว์รูมในประเทศไทยและมาเลเซียเท่านั้น

เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สำนักนายกรัฐมนตรีไทยได้เปิดเผยว่ามีการเจรจาเบื้องต้นกับเทสลาสำหรับการสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ซึ่งรัฐบาลไทยได้เสนอแผนการใช้พลังงานสีเขียว 100% ในโรงงานเพื่อดึงดูดการลงทุนจากเทสลา

ทางด้านซาฟรุล อาซิสได้ชี้แจงว่ากระทรวงการลงทุน การค้า และอุตสาหกรรมของมาเลเซียไม่เคยประกาศอย่างเป็นทางการว่าเทสลาจะเปิดโรงงานในประเทศมาเลเซีย และเทสลาก็ไม่เคยประกาศแผนการตั้งโรงงานในประเทศนี้เช่นกัน

ซาฟรุลยังกล่าวถึงรายงานล่าสุดที่เทสลาพับแผนการลงทุนในอาเซียนว่าไม่ได้มาจากแถลงการณ์อย่างเป็นทางการจากเทสลา แต่เป็นข้อมูลจากแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยชื่อที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

การแข่งขันในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าปัจจุบันมีความรุนแรงมากขึ้นจากการที่ผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศจีนสามารถเสนอราคาและเทคโนโลยีที่แข่งขันได้อย่างดุเดือด ซึ่งส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของบริษัทต่างชาติในการลงทุนในภูมิภาคอาเซียน ขณะที่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของจีนยังคงเติบโตอย่างรวดเร็วและสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างกว้างขวาง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : เว็บไซต์เดอะสเตรทไทม์สในสิงคโปร์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TRAVEL

เปิดโลกอุทยานธรณีให้เชียงราย เป็นหมุดหมายของนักท่องเที่ยว

 

เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2567 ที่โรงแรมไชยนารายณ์ ริเวอร์ไซด์ อำเภอเมืองเชียงราย นายธิติพันธ์ จูจันทร์โชติ รองอธิบดีกรมทรัพยากรธรณี นายบุญเกิด ร่องแก้ว ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดเชียงราย นายญาณาฤทธิ์ หนสมสุข รองปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ร่วมกันแถลงข่าวเตรียมความพร้อมจัดงานมหกรรมเปิดโลกอุทยานธรณี เพื่อการท่องเที่ยว จังหวัดเชียงราย ตอน “ธรณีมหัศจรรย์ สร้างสรรค์อัตลักษณ์เชียงราย” ในวันที่ 13 – 15 สิงหาคม 2567 ณ หอประวัติเมืองเชียงราย 750 ปี จังหวัดเชียงราย 

โดยกรมทรัพยากรธรณี ร่วมกับ จังหวัดเชียงราย องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงรายและภาคีเครือข่าย จัดงานมหกรรมเปิดโลกอุทยานธรณีเพื่อการท่องเที่ยว จังหวัดเชียงราย ตอน “ธรณีมหัศจรรย์สร้างสรรค์อัตลักษณ์เชียงราย” เพื่อส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวชิงธรณีในพื้นที่แหล่งมรดกธรณี หรืออุทยานธรณี ผ่านนิทรรศการและกิจกรรม รวมทั้งเปิดโอกาสให้ชุมชนท้องถิ่นหรือหน่วยงานที่ร่วมพัฒนาแหล่งมรดกธรณีหรืออุทยานธรณี 

ได้มีพื้นที่นำเสนอกิจกรรมการให้บริการ และผลิตภัณฑ์ด้านการท่องเที่ยวที่เกี่ยวกับอุทยานธรณี อีกทั้งยังเป็นการสร้างการรับรู้ ด้านคุณค่าความสำคัญของแหล่งมรดกธรณี อุทยานธรณี รวมถึงเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงธรณีของจังหวัดเชียงราย ให้จังหวัดเชียงรายเป็นหมุดหมายของนักท่องเที่ยว ส่วนด้านรูปแบบและกิจกรรมภายในงาน จะมีการนำเสนอนิทรรศการและกิจกรรมต่าง ๆ ได้ความรู้ เนื้อหาสาระ เช่น นิทรรศการอุทยานธรณีประเทศไทย “What is geopark – Geopark is People” นิทรรศการเส้นทางท่องเที่ยวเชิงธรณี จังหวัดเชียงราย “Chiang Rai Geotrail” นิทรรศการ ตรวจสอบอัญมณีและวัตถุทางธรณีสายมู “หมอดูหิน” นิทรรศการ Dark sky “พาเธอมาดูดาว” นิทรรศการจากหน่วยงานพันธมิตร กิจกรรม Food & Products Market กิจกรรม Show case “Geofood” สับปะรดภูแล ข้าวเหนียวเขี้ยวงู และกิจกรรมบนเวทีลุ้นรับของรางวัลมากมาย

สำหรับจังหวัดเชียงรายมีแหล่งทางธรรมชาติที่สวยงาม วัฒนธรรม ประเพณี และเรื่องราวของชุมชนที่โดดเด่น มีแหล่งธรณีวิทยาในพื้นที่อุทยานธรณี อาทิ ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน และ ถ้ำเสาหินพญานาค อำเภอแม่สาย น้ำพุร้อนป่าตึง และเวียงหนองหล่ม อำเภอแม่จัน ซึ่งพื้นที่เหล่านี้สามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว รูปแบบใหม่ที่เน้นการใช้แหล่งธรณี เชื่อมโยงกับวัฒนธรรม และเรื่องราวของชุมชน เป็นเครื่องมือในการสร้างงานสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนต่อไป

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE TRAVEL

‘บ้านดอยดินแดง’ ศักยภาพเชียงราย สู่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชิงศิลปะ

 

เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2567 นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมลงพื้นที่เยี่ยมชมบ้านอาจารย์สมลักษณ์ ปันติบุญ (บ้านดอยดินแดง) ในการติดตามผลการดำเนินโครงการกิจกรรมของกระทรวงวัฒนธรรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 – 2568 ระหว่างวันที่ 3 – 4 สิงหาคม 2567 ณ จังหวัดเชียงราย โดยมี นางสาวพลอย ธนิกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม นายสถาพร เที่ยงธรรม ผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรม นายโกวิท ผกามาศ ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรม วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย นายวิเชียร สุขสร้อย เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงราย หัวหน้าและส่วนราชการ ผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าร่วม

ในการนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมได้ติดตามโครงการเปิดบ้านศิลปินภายหลังการจัดงาน Thailand Biennale Chiang Rai 2023 และการเตรียมความพร้อมพัฒนาศักยภาพจังหวัดเชียงรายให้กลายเป็นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชิงศิลปะ และเป็นหมุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก
 
ทั้งนี้ อาจารย์สมลักษณ์ ปันติบุญ เป็นศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงานปั้นเซรามิกและภาพจิตรกรรมอันเกิดจากดินและสีผสม นำเสนอผลงานศิลปะอันเป็นนามธรรม โดยได้รับอิทธิพลทางความคิดและการทำงานจากศาสนาพุทธนิกายเซน (Zen) มีประสบการณ์ทำงานให้กับสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ โดยร่วมงานกับพระนิกายเซน ทำหน้าที่สอนศิลปะให้กับผู้ลี้ภัยสงครามสัญชาติลาวและเขมรที่ค่ายอพยพลี้ภัยในเมืองไทย ต่อมาได้ไปประเทศญี่ปุ่นเพื่อศึกษาศิลปะการทำเครื่องปั้นดินเผา
 
อาจารย์สมลักษณ์เป็นศิลปินที่ได้รับรางวัลมากมาย เช่น ในปี พ.ศ. 2540 และ พ.ศ. 2543 ได้รับรางวัลที่สองจาก Asian ART & Crafts Exhibition และในปี พ.ศ.2541 ได้รับรางวัล Award of Merit ประเทศนิวซีแลนด์ หลังจากนั้นสมลักษณ์ เดินทางกลับประเทศไทยและก่อตั้งโรงปั้นดินเผา “ดอยดินแดง” ที่จังหวัดเชียงราย สร้างเครือข่ายศิลปินเชียงรายเพื่อทำกิจกรรมทางศิลปะ ได้รับเลือกเป็นนายกสมาคมคนแรกของขัวศิลปะเชียงราย (Art Bridge Chiang Rai) และได้สร้างสรรค์ผลงานศาลาสวนประติมากรรม (Sculpture Garden Pavilion) หนึ่งในผลงานอันโดดเด่นของงานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Chiang Rai 2023
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TRAVEL

น่าท่องเที่ยว 9 – 15 สิงหาคม 2567 ห้ามพลาด! เมืองสร้างสรรค์เชียงราย

 

สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA ในฐานะหน่วยงานร่วมขับเคลื่อนเมืองสร้างสรรค์ เชียงราย ภายใต้เครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ยูเนสโก (UNESCO Creative Cities Network: UCCN) ร่วมจัดงาน “Chiang Rai Sustainable Design Week 2024” หรือ “เทศกาลเชียงรายเมืองออกแบบเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน 2567” ซึ่งจัดเป็นครั้งที่ 3 ภายใต้แนวคิด “Chiang Rai Creature” หรือ “สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าเมือง” ระหว่างวันที่ 9 – 15 สิงหาคม 2567 ณ ศาลากลางหลังแรก จังหวัดเชียงราย และพื้นที่สร้างสรรค์ทั่วเมือง 

โดย CEA ได้ร่วมมือกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เทศบาลเมืองเชียงราย มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง นักสร้างสรรค์ และหน่วยงานเครือข่ายภาคเอกชนในจังหวัดเชียงราย สร้างสรรค์กิจกรรมเพื่อส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนในพื้นที่ พร้อมทั้งผลักดัน “เชียงราย” ในฐานะเมืองสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโก ในสาขาการออกแบบ (Chiang Rai City of Design) โดยร่วมกับพันธมิตรอย่าง FabCafe, 69 องศา และ MAYDAY! จัด 3 กิจกรรมที่ส่งเสริมการใช้ความคิดสร้างสรรค์และการออกแบบเพื่อส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนในพื้นที่ มุ่งผลักดันเชียงรายใน 3 มิติ ให้เป็นทั้งเมืองน่าอยู่ น่าลงทุน และน่าท่องเที่ยว  ได้แก่

1.เมืองน่าอยู่ – SMOG I ธุลีกาศ โดย CEA ร่วมกับ FabCafe กิจกรรมเสวนาและเวิร์กช็อปที่ชวนผู้สนใจมาทดสอบแนวคิดการใช้งานออกแบบเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตจังหวัดเชียงราย ที่เล็งเห็นความสำคัญในการจัดการกับปัญหาไฟป่า ต้นเหตุฝุ่น PM2.5 ในจังหวัดเชียงราย ที่ก่อให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่ ด้วยแนวคิดการใช้วัสดุเหลือจากการเกษตร (Agriculture Waste) มาออกแบบใหม่พร้อมด้วยนวัตกรรม เพื่อให้เป็นอีกหนึ่งแนวทางการลดวัสดุที่ทำให้เกิดไฟป่า และนำมาสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ที่ตอบโจทย์ตลาด ช่วยสร้างรายได้ให้คนในพื้นที่ เช่น การนำเศษวัสดุมาปรับเป็นเฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ เป็นต้น รวมทั้งสร้างการรับรู้ปัญหาเรื่องฝุ่นควัน ด้วยงานสร้างสรรค์ร่วมกับผู้ประกอบการในพื้นที่ผ่านอาหาร

2.เมืองน่าลงทุน – Chiang Rai Specialty Coffee Showcase I สล่ากาแฟ โดย CEA ร่วมกับ 69 องศา และเครือข่ายธุรกิจกาแฟ ส่งเสริมธุรกิจท้องถิ่นและโอกาสในการลงทุนของสินทรัพย์วัฒนธรรมกาแฟของเชียงราย นำเสนอโชว์เคส “กาแฟพิเศษ” ที่ผ่านกระบวนการผลิตคุณภาพสูง ตั้งแต่การเพาะปลูกจนถึงการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าและรสชาติ นำไปสู่การส่งเสริมนวัตกรรมสินค้าเกษตรมูลค่าสูง 

โดยยังคงรักษาไว้ซึ่งวัฒนธรรมล้านนาและสมดุลธรรมชาติ ส่งเสริมความเป็นอยู่ของชาวเชียงราย และพิเศษสุด! พบกับเสวนาหัวข้อ “กาแฟไทย ก้าวอย่างไรให้ยั่งยืน” ในวันที่ 9 สิงหาคม เวลา 13.00 – 15.30 น. และ “ออกแบบอนาคตกาแฟเชียงราย” ในวันที่ 12 สิงหาคม 13.00 – 15.30 น. โดยกลุ่มคนรักกาแฟเชียงราย นอกจากนี้ยังมีเวิร์กช็อปกาแฟฟรี ทั้งการเลือกเมล็ด การชิม และการชง พร้อมสนุกไปกับดนตรีจากโบ๊ทแฮนด์แพน มิวสิคเจอร์นี่ โดย จุ๋ย จุ๋ยส์ และอะคูสติกแจ๊ส ที่จะมาร่วมสร้างความบันเทิง เพิ่มอรรถรสให้ Coffe Lover ได้ฟินกับโลกของกาแฟมากยิ่งขึ้น 

3. เมืองน่าเที่ยว – Chiang Rai MOVE I วน “เวียง” เจียงฮาย โดย CEA ร่วมกับ MAYDAY! องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เทศบาลเมืองเชียงราย และสถาบันการศึกษาในจังหวัดเชียงราย เปิดโอกาสให้นักออกแบบรุ่นใหม่ร่วมคิดค้นระบบขนส่งสาธารณะที่ช่วยลดมลพิษ เพื่อการท่องเที่ยวและพัฒนาเมือง ช่วยเพิ่มทางเลือกในการเดินทางและกระตุ้นการเข้าถึงธุรกิจรายย่อยในย่าน ซึ่งจะช่วยสร้างแรงกระเพื่อมด้านเศรษฐกิจในพื้นที่ โดยเป็นการจัดแสดงผลงานต่าง ๆ จากกิจกรรมทดสอบแนวคิดระบบการเดินทางสาธารณะของนักสร้างสรรค์รุ่นใหม่ (Academic Program) ดันเชียงรายให้เป็นเมืองที่ผู้คนและนักท่องเที่ยวสามารถ MOVE ไปตามพื้นที่ต่าง ๆ ได้สะดวกยิ่งขึ้น 

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมสร้างสรรค์ต่าง ๆ เช่น นิทรรศการผลงานออกแบบ (Showcase & Exhibition) ตลาดสินค้าสร้างสรรค์ (Design Market) ที่รวมงานสินค้าดีไซน์ท้องถิ่นสอดคล้องชีวิตยั่งยืน ในรูปแบบ Green Market – พืชและสวน และ Local Spa – นวดเพื่อสุขภาพ รวมถึงการแสดงดนตรี การเสวนาและเวิร์กช็อปที่จะสร้างแรงบันดาลใจตลอดงาน

มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งออกแบบเมืองเชียงรายให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ น่าลงทุน และน่าท่องเที่ยว ผ่านการนำเสนอผลงานจาก CEA ใน “Chiang Rai Sustainable Design Week 2024” หรือ “เทศกาลเชียงรายเมืองออกแบบเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน 2567” ในวันที่ 9 – 15 สิงหาคม 2567 เวลา 13.00 – 21.00 น. ณ ศาลากลางหลังแรก จังหวัดเชียงราย 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : Chiang Rai Sustainable Design Week

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TRAVEL

งานวัฒนธรรมสัมพันธ์ลุ่มน้ำโขง 26-28 ก.ค. 67 หาดนครเชียงราย

 

เมื่อวันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม 2567 ณ สวนสาธารณะหาดนครเชียงราย นางอุบลรัตน์ พ่วงภิญโญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้เป็นประธานในพิธีเปิดงานวัฒนธรรมสัมพันธ์ลุ่มน้ำโขง โดยมี นายเสริฐ ไชยยานันตา ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย นางรัตนา จงสุทธานามณี ที่ปรึกษาของรองนายกรัฐมนตรี (นายภูมิธรรม เวชยไชย) พร้อมหัวหน้าส่วนราชการและคณะผู้แทนจากประเทศอนุภาคภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ได้แก่ ประเทศไทย สปป.ลาว สาธารณรัฐประชาชนจีน และเมียนมาร์ รวมถึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศร่วมในพิธีเปิดอย่างคึกคัก

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้บูรณาการร่วมกับภาคการท่องเที่ยวและภาคีเครือข่ายจังหวัดเชียงราย เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว การแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรม เศรษฐกิจ และการค้ากับกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงตอนบน โดยมีสาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และประเทศไทยร่วมงานนี้ จังหวัดเชียงรายเป็นประตูสู่การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และการคมนาคมขนส่งของประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ซึ่งเป็นที่ตั้งที่สำคัญในการเชื่อมโยงทั้ง 4 ประเทศ

งานวัฒนธรรมสัมพันธ์ลุ่มน้ำโขงจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26-28 กรกฎาคม 2567 ณ สวนสาธารณะหาดนครเชียงราย ภายใต้ธีม “ดอกไม้ในสายฝน” ซึ่งเป็นงานเชียงรายดอกไม้งามที่ท่ามกลางดอกไม้นับล้านดอกที่บานสะพรั่ง ตลอดระยะเวลาการจัดงานจะมีการแสดงศิลปวัฒนธรรมจากทั้ง 4 ประเทศ ได้แก่ การแสดงจากประเทศไทย สปป.ลาว สาธารณรัฐประชาชนจีน และเมียนมาร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแสดงดนตรีและการเต้นรำที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์และความงดงามของแต่ละประเทศ

นอกจากนี้ ทุกคืนยังมีมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดังอย่าง ไก่ พรรณนิภา และ เต๋า ภูศิลป์ ที่จะมาสร้างความบันเทิงและความสนุกสนานให้กับผู้เข้าร่วมงาน นอกจากการแสดงศิลปวัฒนธรรมแล้ว ยังมีการจัดแสดงสินค้าและอาหารพื้นเมืองผู้เข้าร่วมงานสามารถเดินชมและลิ้มลองอาหารท้องถิ่นที่มีความหลากหลายและอร่อย

การจัดงานวัฒนธรรมสัมพันธ์ลุ่มน้ำโขงในครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีและการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ซึ่งจะนำไปสู่ความเข้าใจและความร่วมมือที่ดีในอนาคต การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมยังเป็นการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของภูมิภาคโดยรวม

งานนี้ไม่มีค่าใช้จ่าย ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมงานได้ฟรี และร่วมสัมผัสกับบรรยากาศแห่งความสนุกสนานและความอบอุ่นจากการแสดงศิลปวัฒนธรรมของทั้ง 4 ประเทศ ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้เรียนรู้และเข้าใจวัฒนธรรมของเพื่อนบ้านอย่างใกล้ชิด ทางจังหวัดเชียงรายขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วมงานและเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง

การจัดงานครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการส่งเสริมการท่องเที่ยวและการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างประเทศ ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนในอนาคต ทางจังหวัดเชียงรายหวังว่า งานวัฒนธรรมสัมพันธ์ลุ่มน้ำโขงจะเป็นงานที่สร้างความประทับใจและความทรงจำที่ดีให้กับผู้เข้าร่วมงานทุกคน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News