Categories
NEWS SOCIETY & POLITICS

เชียงราย ถอดบทเรียนปัญหาหมอกควันไฟป่า และ PM2.5 เพื่อแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน

เชียงราย ถอดบทเรียนปัญหาหมอกควันไฟป่า และ PM2.5 เพื่อแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน

Facebook
Twitter
Email
Print

เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2566 ผศ.ดร.นิอร ศิริมงคลเลิศกุล คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลเชียงราย ผศ.ดร.จิราพร ขุนศรี คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ผศ.ดร.นพชัย ฟองอิสสระ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ดร.อภิญญา ดิสสะมาน สถาบันพระปกเกล้า ได้เป็นวิทยากรในการ ถอดบทเรียน การเผาและการจัดการเชื้อเพลิงกับปัญหาไฟและฝุ่นในชุมชน ด้วยวิธี “การประชาเสวนา” (Citizen Dialogue) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการวิจัย “การยกระดับการบริหารเชื้อเพลิงหรือการชิงเผาด้วยนวัตกรรม Burn Check ในชุมชนเสี่ยงต่อการเผา” ซึ่งได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยโดย หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) โดยมี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาเชียงราย เป็นหัวหน้าโครงการ

ในการถอดบทเรียนในครั้งนี้ ได้มี นายอุดม ปกป้องบวรกุล นายอำเภอแม่สรวย ได้นำคณะวิจัย พบปะกับ ผู้บริหาร ผู้นำชุมชนในพื้นที่ องค์การบริหารส่วนตำบลท่าก๊อ และองค์การบริหารส่วนตำบลแม่พริก อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เพื่อร่วมกันถอดบทเรียนการเกิดปัญหาหมอกควันไฟป่า ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM2.5 ในพื้นที่ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เพื่อเป็นการนำข้อมูลที่ได้มานำเสนอเป็นนโยบายในการแก้ไขปัญหาในปีต่อไปอย่างเป็นรูปธรรม และถาวร

นายอุดม ปกป้องบวรกุล กล่าวว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้สั่งการให้ทุกตำบลให้ไปถอดบทเรียนว่าไฟป่ามันเกิดจากอะไรแล้วยังมีวิธีจัดการหรือแก้ไขปัญหายังไงในเบื้องต้น จึงได้ชวน สถาบันการศึกษาในพื้นที่มาถอดบทเรียน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีข้อมูลการเกิดจุดความร้อนหรือฮอตปอตในพื้นที่ ตำบลท่าก๊อ ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ถึง 30 เมษายน ซึ่งมากกว่าทุกตำบลในแม่สรวย และช่วงบ่ายก็จะไปถอดบทเรียนในพื้นที่ตำบลแม่พริกซึ่งมีข้อมูลการเกิดฝุ่นความร้อนน้อยที่สุดของทั้งอำเภอแม่สรวย ซึ่งบริบทของ อำเภอแม่สรวย อยู่ในเขตป่าไม้ 9-18.6% เหลือพื้นที่ที่ไม่ได้อยู่ในเขตป่าไม่ถึง 2% หรือประมาณ 14,000 ไร่ แต่ข้อมูลการออกโฉนดมีมากกว่า เพราะบางพื้นที่อาจจะมีการออกโฉนดทับซ้อนที่ในป่าสงวน บางพื้นที่มีการยึดถือครอบครองทำประโยชน์มาก่อนแล้ว ไม้เข้ามาประกาศทีหลังอันนี้เป็นประเด็นที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นประเด็นที่สำคัญ การแก้ไขปัญหาจึงขึ้นกับบริบทแต่ละพื้นที่เพราะฉะนั้น จึงได้มีการเชิญนักวิชาการจาก 3 สถาบัน มาทำวิจัยเรื่องการบริหารจัดการเชื้อเพลิงผ่านระบบแอปพลิเคชั่นเบิร์นเช็ค โดยจะนำความคิดเห็นของประชาชนมาประกอบ เป็น 5 เหตุปัญหาการแก้ไขปัญหาและก็การกระบวนการในอนาคตของภาพรวมทั้ง อำเภอแม่สรวยและเราก็จะนำความเห็นเหล่านี้ไปนำเสนอ ผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนจังหวัดให้ได้พิจารณา

นายชยพล สุกิจยา หน.ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบต.ท่าก๊อ กล่าวว่า ที่ผ่านมาการจัดการและป้องกันการเกิดปัญหาไฟป่า เจ้าหน้าที่มีหน้าที่ตัดสินใจใช้อำนาจอย่างเด็ดขาดเกินบทบาทของท้องถิ่น และได้พยายามได้ประสานส่วนงานที่เกี่ยวข้อง ในปีนี้ทางอำเภอ และทางฝ่ายอุทยานที่เกี่ยวข้องเข้าได้เข้ามาเพื่อแก้ไขปัญหา ซึ่งปีนี้อาจจะไม่ทันแต่ปีหน้าต้องมาวางแผนกันใหม่ ซึ่งปัญหามันเกิดขึ้นภาพรวมเป็นวงกว้างแต่การบริหารจัดการคือต่างคนต่างทำโดยที่ไม่ได้มาสรุปกันว่าเราจะทำยังไง เช่นถ้าขาดแคลนการปฏิบัติหน้าที่กำลังด้านงบประมาณท้องถิ่นจะสนับสนุนอะไร ฝ่ายปกครองจะสนับสนุนอะไร ป่าไม้อุทยานมีหน้าที่โดยตรงมีการสนับสนุนด้านกำลังคนหรืองบประมาณก็นำมาหารือกันเพื่อวางแผนแล้วก็แบ่งหน้าที่การทำงาน

“วิธีแก้ไขแนวทางระยะยาวในพื้นที่ของตำบลท่า คือให้ทุกหน่วยงานมาวางแผนร่วมกันและหาหามาตรการวิธีการในการป้องกันปัญหาไฟป่าทำเป็นระยะยาวนะครับไม่ใช่ว่ามาสถานการณ์ไปป่าหมอกควันครั้งหนึ่งอยากให้มีการขับเคลื่อนเป็นภาพรวมขับเคลื่อนไปตลอดทั้งปี”หน.ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบต.ท่าก๊อ

ด้าน ว่าที่ร้อยตรี ชลิต ศรีจันทร์แก้ว รองปลัด อบต.แม่พริก กล่าวว่า ในส่วนของอบตแม่พริกได้มีการระดมความร่วมมือภาคส่วนในการแก้ไขปัญหา ซึ่งจุดเด่นของตำบลแม่พริกที่สามารถบริหารจัดการไฟป่าได้ประสบผลสำเร็จในระดับหนึ่งนั่นก็คือผู้นำท้องถิ่นผู้นำท้องที่แล้วก็รวมถึงประชาชนทุกภาคส่วนร่วมในพื้นที่ ดังนั้นเมื่อมีนโยบายจากภาครัฐในการสั่งการในเรื่องการจัดการป้องกันไฟฟ้าในพื้นที่ก็จะสามารถระดมความร่วมมือบูรณาการได้อย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ทางอบตแม่พริกก็ยังมีการกำหนดหลักเกณฑ์ในเรื่องของการจัดการพื้นที่ป่า ชุมชนใดมีการตัดไม้ทำลายป่าหรือว่าเผาป่าก็จะถูกปรับ 

โดยงบประมาณในการพัฒนาพื้นที่หมู่บ้านก็เป็นข้อตกลงร่วมกันระหว่าง อบต.ผู้นำท้องถิ่น ท้องที่และประชาชน ซึ่งถือว่าเป็นมาตรการที่เกิดจากการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนและมีการถือปฏิบัติจนถึงทุกวันนี้ ในส่วนบทบาทของท้องถิ่นในการป้องกันปัญหาไฟป่าก็คงจะเหมือนกับท้องถิ่นอื่นๆแต่ในส่วนของตำบลแม่พริกที่เรามีการสนับสนุนส่งเสริมที่อาจจะแตกต่างจากพื้นที่อื่นคือเราได้มีการส่งเสริมในเรื่องของการให้มีอาชีพในชุมชน เพื่อที่เขาจะสามารถลดความเหลื่อมล้ำในสังคมและก็ลดความเหลื่อมล้ำทางอาชีพ เราได้มีการประสานไปยังโครงการหลวงประสานไปยังหน่วยงานภาครัฐต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเป็นสำนักงานพลังงานจังหวัดเชียงราย รวมไปถึงหน่วยงานต่างๆ ได้เข้าไปบูรณาการทำงานร่วมกันในพื้นที่ในการสร้างอาชีพให้กับคนในชุมชนแต่ปัญหาที่เกิดขึ้นในไฟป่า ปัญหาไฟป่าที่เกิดขึ้นในตำบลมีการลักลอบตัดแล้วก็มีการเผาป่าเพื่อวัตถุประสงค์อย่างอื่น เช่นการบริโภคในครัวเรือนหรือการขายซึ่งตรงนี้ปัจจัยสำคัญที่เป็นสาเหตุนั่นก็คือความยากจนถ้าเราสามารถแก้ปัญหาคนกลุ่มเหล่านี้ได้เราก็จะสามารถให้เขามีอาชีพที่ไม่ต้องไปเผาป่าอีกต่อไป
 
“ข้อเสนอในเชิงนโยบายอยากจะให้ภาครัฐได้ให้ความสำคัญในเรื่องของการนำองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีมาใช้โดยเปลี่ยนจากการเผาป่าให้พืชให้ผลิตไม้ต่างๆมีมูลค่าในการทำรายได้ให้กับคนในชุมชน อยากจะเสนอในเชิงนโยบายในเรื่องของการให้มีนวัตกรรมมีเทคโนโลยีที่เหมาะสมในพื้นที่แต่ละชุมชนเพราะว่าในแต่ละชุมชนก็จะมีปัญหาที่เกิดจากไฟป่าไม่เหมือนกัน จึงอยากจะขอเสนอให้ทางมหาวิทยาลัยได้จัดให้มีการลงพื้นที่โดยนักศึกษาร่วมกันแล้วก็กำหนดเป็นแนวทางเป็นนวัตกรรมที่เหมาะสมก็จะสามารถได้เทคโนโลยีที่สอดคล้องกับสภาพในพื้นที่แล้วปัจจัยตรงนี้จะช่วยให้สิ่งที่ชาวบ้านมองว่าเป็นขยะเป็นสิ่งที่ไม่มีค่าให้เป็นมูลค่ามีรายได้ในชุมชนเขาก็จะไม่เผาป่าเพราะเขามองว่าสิ่งที่เขาเผาป่ามันคือสิ่งที่มีมูลค่ามีรายได้ให้กับเขา”รองปลัด อบต.แม่พริก

นายสรวิชญ์ ธิวงศ์ ผญบ.บ้านโฮ่ง ม.10 ต.แม่พริก กล่าวว่า หลังจากได้ร่วมให้ข้อมูลกับทางทีมวิจัยในวันนี้ก็ได้สรุปปัญหาที่ในชุมชนตำบลในพริกได้ดำเนินการมา แต่ก็ในบริบทของตำบลในพริกมีการบริหารจัดการเรื่องการเผาหรือว่าการป้องกันถือว่าอยู่ในระดับที่ระดับที่ดีในการที่จะส่งเสริมหรือสนับสนุนในการใช้งานงบประมาณหรือว่านวัตกรรมใหม่ๆที่เกี่ยวกับการดับไฟหรือว่าป้องกันภัยที่ดีที่สุดที่ผ่านมานี่พี่น้องประชาชนเข้าใจเข้าใจในกฎระเบียบของชุมชนไม่ว่าจะเป็นของทางภาครัฐ หรือว่าทางตำบล
Facebook
Twitter
Email
Print

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
NEWS SOCIETY & POLITICS

เทศบาลนครเชียงรายส่งทีมป้องกันไข้เลือดออกจากยุงลาย

เทศบาลนครเชียงรายส่งทีมป้องกันไข้เลือดออกจากยุงลาย

Facebook
Twitter
Email
Print

  เทศบาลนครเชียงรายป้องกันไข้เลือดออกจากยุงลาย นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย มอบหมายให้นางพรทิพย์ จันทร์ตระกูล รก.ผอ.กองการแพทย์เทศบาลนครเชียงราย ออกรณรงค์ป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก เพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักถึงโรคไข้เลือดออกซึ่งมาจากยุงลาย ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม เป็นต้นมา โดยให้ความรู้ ให้คำแนะนำ และออกฉีดพ่นหมอกควัน กำจัดลูกน้ำยุงลาย เพื่อให้ครอบคลุมทั้ง 65 ชุมชมในเขตเทศบาลนครเชียงราย โดยร่วมกับ อสม. แกนนำประชาชนทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย แจกสื่อประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ประชาชนปราศจากโรคภัย

  ทั้งนี้ งานเวชกรรมสังคม กองการแพทย์เทศบาลนครเชียงราย การใช้สารเคมีป้องกันควบคุมยุงพาหะนำโรค เช่น พ่นสารเคมีกำจัดยุงตัวเต็มวัย มีความจำเป็นในการหยุดการแพร่ระบาดของโรคไม่ให้กระจายเป็นวงกว้าง และป้องกันไม่ให้ยุงมีเชื้อไปกัดและแพร่โรคให้คนอื่นต่อการพ่นสารเคมี ต้องดำเนินการให้ถูกต้อง ทันท่วงที และได้มาตรฐาน ในขอบเขตการระบาด นอกจากนี้ การพ่นต้องเลือกใช้สารเคมีและความเข้มข้นตามที่องค์การอนามัยโลกแนะนำ และได้รับการขึ้นทะเบียนจาก อย. ไม่พ่นบ่อยครั้งโดยไม่จำเป็น เพื่อป้องกันการดื้อของยุงต่อสารเคมี

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : เทศบาลนครเชียงราย

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
NEWS SOCIETY & POLITICS

มทบ.37 จัดกำลังพลสนับสนุน บ้านธารทอง สร้างอาคารโรงผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์

มทบ.37 จัดกำลังพลสนับสนุน บ้านธารทอง สร้างอาคารโรงผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์

Facebook
Twitter
Email
Print

เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 66 เวลา 09.00 น. ร.ต. ไพบูลย์ สายหงษ์ หน.ชป.ประสานงานและคุ้มครองป้องกันชุมชน สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูง ตามพระราชดำริ บ.ธารทอง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย พร้อมด้วยกำลังพล สนับสนุนเจ้าหน้าที่เกษตรในพระองค์ ทำการก่อสร้างอาคารโรงผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับใช้ในสำนักงานโครงการ สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูง ตามพระราชดำริ บ.ธารทอง ต.แม่เงิน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
NEWS SOCIETY & POLITICS

น่าชื่นชม “มทบ.37” เชียงราย ลุยพื้นที่ มอบของให้ประชาชนในพื้นที่ต่างอำเภอ

น่าชื่นชม “มทบ.37” เชียงราย ลุยพื้นที่ มอบของให้ประชาชนในพื้นที่ต่างอำเภอ

Facebook
Twitter
Email
Print

เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 66 เวลา 09.00 น. ร.อ.จรัญ นาคจาด นายทหารประสานงานศอป.โครงการ พมพ.แม่ฟ้าหลวง – แม่จัน พร้อมด้วยกำลังพล มอบผ้าห่มให้กับราษฎรผู้ยากไร้ นายลีตู่ อู่ยื่อ และนางละตะ อู่ยื่อ เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชนและสร้างความสัมพันธ์ที่ดี ณ บ้านเทอดไทย ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย

ต่อมามทบ.37 จัดกำลังพล นำข้าวสารแจกจ่ายใเวลา 10.30 น.  ร.ต. วชิรศักดิ์ ตันชัยสิริมณีกุล หน.ชป.ประสานงานและคุ้มครองป้องกันชุมชน สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูง ตามพระราชดำริ บ.ห้วยหยวกป่าโซ ต.แม่สลองใน อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย พร้อมด้วยกำลังพล นำข้าวสารแจกจ่ายให้กับราษฎรบ้านเล่าลิ่ว หมู่ที่ 14 ต.แม่สลองใน นางบู่ผะ ยูสึ อายุ 74 ปี และ นางอาแม มาเยอะ อายุ 48 ปี เพื่อช่วยเหลือราษฎรที่ขาดแคลนคุณทรัพย์

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
NEWS SOCIETY & POLITICS

“วันดีดี วันแห่งความสุขที่ได้แบ่งปัน ครั้งที่ 2” โชว์รูม โตโยต้า เชียงราย

“วันดีดี วันแห่งความสุขที่ได้แบ่งปัน ครั้งที่ 2” โชว์รูม โตโยต้า เชียงราย

Facebook
Twitter
Email
Print

เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 66 เวลา 09.00 น. ศอ.จอส.พระราชทาน มทบ.37 ร่วมกับเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย จัดกำลังพลจิตอาสา ร่วมกิจกรรมบริจาคโลหิต “วันดีดี วันแห่งความสุขที่ได้แบ่งปัน ครั้งที่ 2” ณ โชว์รูม โตโยต้าเชียงราย สำนักงานใหญ่ อ.เมืองเชียงราย จว.ช.ร. เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการสำรองโลหิตให้กับผู้ป่วยที่จำเป็นต้องใช้โลหิตในการรักษา ในการบริจาคโลหิตครั้งนี้ ศอ.จอส.พระราชทาน มทบ.37 จัดกำลังพลจิตอาสา ร่วมกิจกรรมบริจาคโลหิต ได้ปริมาณโลหิต จำนวน 3,150 ซีซี

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
NEWS SOCIETY & POLITICS

แพทย์อาสาเฉลิมพระเกียรติ พระเจ้าอยู่หัว-ราชินี รพ.พระปกเกล้า จันทบุรี สำเร็จตามเป้า

แพทย์อาสาเฉลิมพระเกียรติ พระเจ้าอยู่หัว-ราชินี รพ.พระปกเกล้า จันทบุรี สำเร็จตามเป้า

Facebook
Twitter
Email
Print

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 21 พฤษภาคม 2566  ณ โรงพยาบาลพระปกเกล้า จังหวัดจันทบุรี ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์สมศักดิ์  โล่ห์เลขา รองประธานมูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์

เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการหน่วยแพทย์อาสาเฉพาะทางร่วมใจเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ครั้งที่ 8 ประจำปี 2566  ซึ่งมีมูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์ แพทยสภา สถาบันพระปกเกล้า และนักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรธรรมาภิบาลทางการแพทย์ สำหรับผู้บริหารระดับสูง รุ่นที่ 10 (ปธพ.10) เป็นผู้จัดโครงการ ระหว่างวันที่ 19 – 21 พฤษภาคม 2566 ณ โรงพยาบาลพระปกเกล้า จังหวัดจันทบุรี โดยมีนายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี นายแพทย์ณรงค์ สายวงศ์  รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิงสมศรี เผ่าสวัสดิ์ นายกแพทยสภา  พลอากาศโท นายแพทย์อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการมูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์และเลขาธิการแพทยสภา ศาสตราจารย์คลินิก  นพ.วิศิษฎ์ วามวาณิชย์ ประธานนักศึกษา ปธพ.10 นายแพทย์ธีรพงศ์ ตุนาค  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระปกเกล้า พร้อมด้วยคณะนักศึกษาหลักสูตร ปธพ.รุ่นที่ 1-10 แพทย์ และประชาชนจิตอาสาจากทุกสาขาอาชีพร่วมโครงการฯอย่างพร้อมเพรียง

สำหรับโครงการหน่วยแพทย์อาสาเฉพาะทางร่วมใจเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ครั้งที่ 8 ประจำปี 2566  ได้มีขึ้นระหว่างวันที่ 19 – 21 พฤษภาคม 2566 ณ โรงพยาบาลพระปกเกล้า จังหวัดจันทบุรี  สามารถตรวจรักษาผู้ป่วย ประชาชน พระสงฆ์ ช่วยเหลือผู้พิการ  ได้กว่า 30,000 ราย  โดยเปิดบริการคลินิกแพทย์เฉพาะทางสาขาต่างๆ จำนวน 28 คลินิก ระดมกำลังแพทย์กว่า 200 คนจากทั่วประเทศ เหล่าจิตอาสากว่า 2,000 คน  พร้อมอุปกรณ์ทางการแพทย์กว่า 100 ล้านบาท รองรับประชาชนและภิกษุ สามเณร ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี สระแก้ว ตราดและ ระยอง โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด

ทั้งนี้ โครงการฯ ได้เปิดบริการคลินิกแพทย์เฉพาะทางสาขาต่างๆ จำนวน 28 คลินิก อาทิ คลินิกแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนจีน, คลินิกเด็ก, คลินิกคัดกรองโรคปอด, คลินิกตรวจเลือดและสุขภาพพระสงฆ์, คลินิกรถเข็นพระราชทาน, คลินิกบริการแขน-ขาเทียมเคลื่อนที่สถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ, คลินิกสุขภาพจิต, คลินิกหูคอจมูก และผ่าตัดไซนัส, คลินิกเวชศาสตร์ฟื้นฟู, คลินิกส่องกล้องคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก, คลินิกผิวหนังและเลเซอร์, คลินิกคัดกรองโรคทางตา  วัดแว่นเด็ก และผ่าตัดต้อกระจก, คลินิกคัดกรองสารเคมีในเลือด, คลินิกหัวใจและหลอดเลือด, คลินิกคัดกรองไวรัสตับอักเสบบีและสุขภาพตับ, คลินิกคัดกรองมะเร็งเต้านม, คลินิกกระดูกและข้อ คัดกรองกระดูกพรุน, คลินิกป้องกันมะเร็งปากมดลูกด้วยวัคซีน ในเด็กและวัยรุ่น, คลินิกโรคสมองเสื่อม, คลินิกทันตกรรม, คลินิกศัลยกรรมทางเดินปัสสาวะ, คลินิกทำเส้นเลือดสำหรับล้างไต เป็นต้น

พล.อ.ท.นพ.อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการมูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์และเลขาธิการแพทยสภา กล่าว่า การจัด โครงการหน่วยแพทย์อาสาเฉพาะทางร่วมใจเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีครั้งนี้ เป็นโอกาสพิเศษอันสำคัญยิ่งที่ได้รับพระราชทานพระราชานุญาต หลังจากที่มูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์ ได้ออกหน่วยแพทย์อาสา ในโครงการหน่วยแพทย์อาสา
ประสบความสำเร็จต่อเนื่องมา 5 ปี ติดต่อกันดูแลผู้ป่วยกว่า 40,000 ราย คนไปแล้ว

          “การออกหน่วยแพทย์อาสาดังกล่าวเป็นกิจกรรมหลักของหลักสูตรประกาศนียบัตรธรรมาภิบาลทางการแพทย์ฯ ที่มูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์ เป็นเจ้าภาพร่วมกับหลายหน่วยงาน มีการดำเนินการติดต่อกันมาทุกปี  ซึ่งการจัดโครงการแพทย์อาสาจะหมุนเวียนออกหน่วยไปยังจังหวัดต่างๆทั่วประเทศ เพื่อกระจายโอกาสเข้าถึงการรักษาในระดับตติยภูมิแก่ประชาชนในต่างจังหวัด ดูแลรักษาผู้ป่วยที่เป็นโรคซับซ้อนที่ต้องใช้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางโดยเริ่มจากการสำรวจ คัดกรอง ผู้ป่วยในพื้นที่ เพื่อหาผู้ป่วยที่ตกค้าง และส่งทีมแพทย์เข้าไปให้การรักษา”

          เลขาธิการแพทยสภากล่าวด้วยว่า โครงการนี้ยังเป็นการซ้อมจัดโรงพยาบาลสนามขนาดใหญ่ที่มีความร่วมมือจากแพทย์ทุกภาคส่วนเพื่อเตรียมพร้อมกรณีเกิดความจำเป็นในอนาคต เช่น การเกิดภัยพิบัติ ตลอดจนเป็นการถ่ายทอดความรู้จากราชวิทยาลัยฯ โดยแพทย์เฉพาะทางไปยังโรงพยาบาลในต่างจังหวัดโดยตรงการให้ความรู้กับ อสม. พระสงฆ์ จิตอาสา ในการช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR)

สำหรับการออกหน่วยแพทย์อาสาเฉพาะทางร่วมใจเฉลิมพระเกียรติฯ ดำเนินการไปแล้ว 10 แห่ง
ได้แก่ จ.พระนครศรีอยุธยา จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.กาญจนบุรี จ.นครราชสีมา จ.ปราจีนบุรี จ.ลพบุรี จ. เพชรบุรี จ.สุโขทัย จ.จังหวัดราชบุรี และ จ.จันทบุรี ส่วนการจัดโครงการหน่วยแพทย์อาสาฯ ครั้งต่อไปจะจัดขึ้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยาในปี 2567

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : แพทย์อาสาเฉลิมพระเกียรติ

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
NEWS NEWS UPDATE SOCIETY & POLITICS

วันสุดท้าย รีบแจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิ เลือกตั้งได้ทั้งเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน

วันสุดท้าย รีบแจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิ เลือกตั้งได้ทั้งเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน

Facebook
Twitter
Email
Print
 

เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2566นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ย้ำเตือนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ที่มีเหตุจำเป็นที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สามารถแจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งวันนี้วันสุดท้าย (21 พฤษภาคม 2566 )

 

นางสาวรัชดา กล่าวว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถแจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ โดยทำเป็นหนังสือยื่นต่อนายทะเบียนอำเภอ หรือนายทะเบียนท้องถิ่น ที่ตนเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งด้วยตนเอง หรือมอบหมายให้บุคคลอื่นไปยื่นแทนหรือจัดส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน รวมไปถึงการแจ้งผ่านเว็บไซต์สำนักบริหารการทะเบียน stat.bora.dopa.go.th หรือทางแอปพลิเคชัน Smart Vote

 

สำหรับผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ที่ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง และไม่แจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้ง หรือแจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งแล้วแต่เหตุนั้นไม่ใช่เหตุอันสมควร จะถูกจำกัดสิทธิ ดังต่อไปนี้

1. สิทธิในการยื่นคำร้องคัดค้าน การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

2. สิทธิในการสมัครรับเลือกตั้ง เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น หรือสมัครรับเลือกเป็นสมาซิกวุฒิสภา

3. สิทธิในการสมัครรับเลือกเป็นกำนัน และผู้ใหญ่บ้าน

4. ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง และข้าราซการรัฐสภาฝ่ายการเมือง

5. ดำรงตำแหน่งรองผู้บริหารท้องถิ่น เลขานุการผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยเลขานุการ ผู้บริหารท้องถิ่น ประธานที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น ที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น หรือคณะที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น

 

” การจำกัดสิทธิ มีกำหนดเวลาครั้งละ 2 ปี นับแต่วันเลือกตั้งครั้งที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งและหากในการเลือกตั้งครั้งต่อไปไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งอีก ให้นับเวลาการจำกัดสิทธิจากวันที่ไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งใหม่” นางสาวรัชดา ย้ำ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักนายกรัฐมนตรี

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
NEWS SOCIETY & POLITICS

เฝ้าระวังป้องกันโรคไข้เลือดออกช่วงหน้าฝน ย้ำช่วยกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์

เฝ้าระวังป้องกันโรคไข้เลือดออกช่วงหน้าฝน ย้ำช่วยกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์

Facebook
Twitter
Email
Print

โฆษกรัฐบาลเตือนประชาชน เฝ้าระวังป้องกันโรคไข้เลือดออกช่วงหน้าฝน ย้ำช่วยกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในบริเวณบ้าน-ชุมชน-สถานศึกษา หากพบอาการเข้าข่ายสงสัยป่วยโรคไข้เลือดออก ให้รีบพบแพทย์ทันที

 

เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2566 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ช่วงนี้เข้าสู่ฤดูฝนทำให้หลายพื้นที่ของประเทศไทยเริ่มมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดน้ำขังตามภาชนะและวัสดุต่าง ๆ ซึ่งเป็นปัจจัยและแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายที่เป็นพาหะนำเชื้อไวรัสเดงกี (dengue virus) ที่ทำให้เกิดโรคไข้เลือดออกมาสู่คน โดยมักระบาดในช่วงฤดูฝนของทุกปี จึงขอเตือนให้ประชาชนป้องกันตนเองและครอบครัวจากโรคไข้เลือดออก โดยร่วมกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในบริเวณบ้าน โรงเรียน และชุมชน โดยยึดหลัก 3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค ตามข้อแนะนำของกรมควบคุมโรค คือ เก็บบ้าน เก็บขยะ และเก็บน้ำ ซึ่งจะทำให้สามารถป้องกันโรคไข้เลือดออกได้ รวมถึงป้องกันโรคไข้ปวดข้อยุงลาย และโรคติดเชื้อไวรัสซิกาด้วย 


นายอนุชากล่าวต่อไปว่า โดยเฉพาะขณะนี้เป็นช่วงของการเปิดภาคเรียนของประเทศไทย ทำให้เกิดการรวมตัวของกลุ่มเด็กนักเรียนในสถานศึกษา และบางพื้นที่เริ่มมีฝนตก จึงขอให้สถานศึกษา ศูนย์เด็กในชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันในการจัดสถานศึกษา ศูนย์เด็กเล็กในชุมชนให้มีความปลอดภัย ปราศจากแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายอันเป็นต้นเหตุของโรคไข้เลือดออก รวมทั้งขอให้ผู้ปกครองสังเกตอาการของบุตรหลานและคนในครอบครัว หากพบมีอาการไข้สูงเฉียบพลัน ร่วมกับปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว อาจมีจุดแดงเล็ก ๆ ขึ้นตามลำตัว แขน ขา คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง และเบื่ออาหาร โดยหากอาการไข้สูงเกิน 2 วัน เช็ดตัวหรือทานยาลดไข้แล้วไข้ไม่ลดลง ให้สันนิษฐานอาจป่วยด้วยโรคไข้เลือดออก ไม่ควรซื้อยาลดไข้ในกลุ่มแอสไพริน ไอบูโพรเฟน และไดโคลฟีแนค มารับประทาน และให้รีบนำผู้ป่วยไปพบแพทย์หรือสถานบริการสาธารณสุขที่อยู่ใกล้บ้าน เพื่อให้ได้รับการรักษาที่ถูกต้องรวดเร็ว จะช่วยลดโอกาสการเสียชีวิตได้

“ข้อมูลจากกรมควบคุมโรค รายงานสถานการณ์โรคไข้เลือดออกในประเทศไทย ในสัปดาห์ที่ 19 ระหว่างวันที่ 7 – 13 พฤษภาคม 2566 พบผู้ป่วยสะสมจำนวน 14,811 ราย มีผู้เสียชีวิต 13 ราย โดยกรมควบคุมโรคได้แนะนำวิธีการป้องกันโรคไข้เลือดออกด้วยการช่วยกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในบริเวณบ้าน และในชุมชน โดยใช้มาตรการ 3 เก็บป้องกัน 3 โรค คือ 1) เก็บบ้าน ให้สะอาดไม่ให้ยุงลายเข้ามาเกาะพัก 2) เก็บขยะ ภายในบริเวณบ้านและชุมชนให้เรียบร้อย ไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย และ 3) เก็บน้ำ เก็บภาชนะกักเก็บน้ำให้มิดชิดป้องกันยุงลายไปวางไข่ สำรวจแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายทุกสัปดาห์ ขัดล้างภาชนะก่อนเปลี่ยนน้ำใหม่เพื่อกำจัดไข่ยุงที่เกาะอยู่ภายในภาชนะ และใส่ทรายกำจัดลูกน้ำ ทายากันยุง และนอนในมุ้งหรือห้องที่มีมุ้งลวดกันยุงเพื่อป้องกันโรคไข้เลือดออก โรคติดเชื้อไวรัสซิกา และโรคไข้ปวดข้อยุงลาย ทั้งนี้ หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422” นายอนุชา กล่าว

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักนายกรัฐมนตรี

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
NEWS SOCIETY & POLITICS

ข่าวปลอมออมสินปล่อยสินเชื่อเพื่อคุณ ปลอดดอกเบี้ย ติดอันดับหนึ่ง

ข่าวปลอมออมสินปล่อยสินเชื่อเพื่อคุณ ปลอดดอกเบี้ย ติดอันดับหนึ่ง

Facebook
Twitter
Email
Print

 กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอสออกโรงเตือนประชาชนระวังโจรไซเบอร์   หลังข่าวปลอมสัปดาห์ล่าสุด ประชาชนแห่สนใจเรื่องการกู้เงินออนไลน์ให้วงเงินสูง ปลอดดอกเบี้ย หลังมิจฉาชีพปลอมตัวเป็นธนาคารออมสินปล่อยสินเชื่อเงินกู้ฉุกเฉิน ขณะที่ข่าวปลอมครมอนุมัติถอนเงินชราภาพได้ก่อน 30% กดรับสิทธิ์ผ่านลิงก์ ขึ้นแท่นข่าวปลอมที่คนสนใจสุงสุด ย้ำต้องมีสติ ตรวจสอบข้อมูลให้ครบทุกด้าน อย่าหลงเชื่อจนตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ

 

           ดร.เวทางค์ พ่วงทรัพย์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอสและโฆษกกระทรวงฯ ฝ่ายข้าราชการประจำ กล่าวถึง ผลการมอร์นิเตอร์และรับแจ้งข่าวปลอมของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ระหว่างวันที่  12 – 18 พฤษภาคม 2566 พบข้อความที่เข้ามาทั้งหมด 3,189,887ข้อความ โดยมีข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ(Verify) ทั้งสิ้น 274 ข้อความ ทั้งนี้ช่องทางที่มีการพบเบาะแสมากที่สุด คือ ข้อความที่มาจาก Social listening จำนวน 240 ข้อความ ตามมาด้วยการแจ้งเบาะแสผ่าน Line Official จำนวน 34 ข้อความ รวมเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบทั้งหมด 189 เรื่อง และจากการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับผลการตรวจสอบกลับมาแล้ว 85 เรื่อง 

 

            ทั้งนี้ ดีอีเอส ได้แบ่งข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจเป็น 4 กลุ่ม ประกอบด้วย

กลุ่มที่ 1 : นโยบายรัฐบาล ข่าวสารทางราชการ ความสงบเรียบร้อยของสังคมขัดศีลธรรมอันดีและความมั่นคงภายในประเทศ จำนวน 92 เรื่อง อาทิ หีบบัตรเลือกตั้งที่เก็บรักษาไว้ในห้องเก็บรักษาหีบบัตรเลือกตั้งสูญหายไปจากสถานที่เก็บรักษา,คณะทูตจากหลายประเทศ เชิญตัวแทนพรรคการเมืองไทยคุยจัดตั้งรัฐบาลใหม่ เป็นต้น

กลุ่มที่ 2 : ผลิตภัณฑ์สุขภาพ วัตถุอันตราย เครื่องสำอาง รวมถึงสินค้าและบริการที่ผิดกฎหมาย จำนวน 61 เรื่อง อาทิห้ามทำสีผมช่วงมีประจำเดือน อาจแพ้สารเคมีได้ดื่มน้ำน้อย ทำให้มีเลือดคั่งที่ตา และสูญเสียการมองเห็นได้ เป็นต้น

กลุ่มที่ 3 : ภัยพิบัติ จำนวน 12 เรื่อง อาทิ ร้อนอีกช่วง 16-18 .อุณหภูมิสูงสุดทะลุ 40 องศาฯ เป็นต้น

กลุ่มที่ 4 : เศรษฐกิจ จำนวน 24 เรื่อง อาทิ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดให้นักลงทุนหารายได้ โดยการเล่นหุ้นออมสินปล่อยสินเชื่อ SMEs เต็มสุขเต็มสิบ ผ่านเพจ ออมสินมายโม เป็นต้น

ทั้งนี้ ประเด็นข่าวที่เกี่ยวกับโควิด-19  จำนวน 2 เรื่อง

 

             อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจลำดับต้นๆ ในสัปดาห์ล่าสุดนี้ พบว่าส่วนใหญ่เป็นข่าวด้านนโยบายรัฐบาล ข่าวสารทางราชการ รองลงมากลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและกลุ่มเศรฐกิจ ตามลำดับ

 

             สำหรับข่าวที่ได้รับความสนใจและประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม (Engagement) มากที่สุด 10 อันดับ ได้แก่

อันดับที่ 1 : ออมสินปล่อยสินเชื่อเพื่อคุณ ผ่านเพจ Aomsin Plus

อันดับที่ 2 : ครมอนุมัติถอนเงินชราภาพได้ก่อน 30% กดรับสิทธิ์ผ่านลิงก์

อันดับที่ 3 : ออมสินปล่อยกู้ เงินฉุกเฉิน ผ่านเพจ สินเชื่อออมสิน

อันดับที่ 4 :  คลื่นความถี่ทางอารมณ์ต่ำ ทำให้ติดเชื้อโควิด 19 ได้ง่าย

อันดับที่ 5 : กรมการขนส่งฯ เปิดเพจชื่อบริการสอนขับ และทำใบ ครบวงจร เพื่อทำใบขับขี่ออนไลน์

อันดับที่ 6 : กรมการขนส่งออนไลน์ เปิดทำใบขับขี่ออนไลน์สำหรับบุคคลที่ไม่เคยมีใบขับขี่มาก่อน

อันดับที่ 7 : พายุหมาเหล่าเข้าไทย ทำฝนตกหนักทั่วประเทศ

อันดับที่ 8 : หีบบัตรเลือกตั้งที่เก็บไว้ในห้องเก็บรักษาได้หายไป

อันดับที่ 9 : ผลิตภัณฑ์อัญญา พญายอ พลูคาว ครีม ช่วยรักษาเชื้อรา กลากเกลื้อน ผื่นคัน งูสวัด และสะเก็ดเงินได้

อันดับที่ 10: กรมการจัดหางาน เปิดรับสมัครงานสร้างรายได้เสริมให้ชาวไทย วันละ 1,500 – 3,500 บาท

 

            “ดีอีเอส ติดตามความเคลื่อนไหวข้อความที่ปิดปกติในทุกช่องทางอย่างต่อเนื่อง หากท่านได้รับการแจ้งข้อมูลที่ผิดปกติ ผ่านเอสเอ็มเอส หรือทางโทรศัพท์ เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น และขอให้ท่านตระหนักรู้เท่าทันข่าวปลอมที่ถูกแพร่กระจายอยู่บนโซเชียลมีเดีย และออนไลน์ โดยท่านสามารถติดตามและแจ้งเบาะแสข่าวปลอม ได้ผ่านช่องทางต่างๆ ของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ดังนี้ ไลน์ @antifakenewscenter เว็บไซต์https://www.antifakenewscenter.com/ ทวิตเตอร์ https://twitter.com/AFNCThailand และช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 ทั้งนี้ดีอีเอส ได้มีการติดตามการกระทำผิดอย่างต่อเนื่องเพื่อปกป้องประชาชนจากมิจฉาชีพในทุกรูปแบบ” ดร.เวทางค์  กล่าว

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส)

 
Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
NEWS SOCIETY & POLITICS

ป.ป.ช. เชียงราย ลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์ ITA และเก็บข้อมูล EIT จากประชาชน

ป.ป.ช. เชียงราย ลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์ ITA และเก็บข้อมูล EIT จากประชาชน

Facebook
Twitter
Email
Print
ระหว่างวันที่ 18 – 19 พฤษภาคม 2566 นายเนติพล ชุมยวง ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดเชียงราย มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กลุ่มงานป้องกันการทุจริต ลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์การประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (ITA) แก่ประชาชน พร้อมทั้งเก็บข้อมูลผู้มีส่วนได้เสียภายนอก (EIT) ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 8 หน่วยงาน ได้แก่ องค์การบริหารส่วนตำบลแม่เปา อำเภอพญาเม็งราย / องค์การบริหารส่วนตำบลผางาม อำเภอเวียงชัย / องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านต้า เทศบาลตำบลป่าตาล อำเภอขุนตาล / องค์การบริหารส่วนตำบลจอมสวรรค์ เทศบาลตำบลจันจว้า อำเภอแม่จัน / เทศบาลตำบลห้วยไคร้ และองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยไคร้ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
 
โดยการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (ITA) มีจุดประสงค์เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐเปิดเผยข้อมูลปฏิบัติราชการอย่างมีคุณธรรม และมีความโปร่งใส และส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งผลของการประเมินจะนำมาใช้เป็นข้อมูลในการพัฒนาการดำเนินงานของหน่วยงานต่อไป

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดเชียงราย

 
Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE