Categories
FEATURED NEWS

เซเว่น อีเลฟเว่น ส่งเสริมความกตัญญู ชวนคนไทยบอกรักพ่อ

เซเว่น อีเลฟเว่น ชวนคนไทยบอกรักพ่อผ่านหนังสั้น “ความกตัญญูทำได้ทุกวัน”

เซเว่น อีเลฟเว่น ร่วมส่งเสริมความกตัญญูในสังคมไทย เปิดตัวภาพยนตร์สั้นภายใต้แนวคิด “ความกตัญญูทำได้ทุกวัน” ชวนคนไทยแสดงความรักและความกตัญญูต่อพ่อและคนที่รัก โดยภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้เปิดให้รับชมพร้อมกันแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2567 ผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ทุกแพลตฟอร์มของเซเว่น อีเลฟเว่น

เนื้อหาที่สร้างแรงบันดาลใจ

ภาพยนตร์สั้นดังกล่าวเล่าเรื่องราวของความรักระหว่างพ่อที่ป่วยด้วยโรคอัลไซเมอร์ กับลูกชายที่ไม่เคยบอกรักพ่อตรงๆ แต่เมื่อถึงวันที่ลูกตัดสินใจแสดงความรัก พ่อกลับไม่สามารถรับรู้ได้เท่าเดิมแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการแสดงความรักและความกตัญญูต่อคนในครอบครัว ซึ่งไม่ควรรอให้ถึงวันที่สายเกินไป

ส่งเสริม DNA ความดี 24 ชั่วโมง

เซเว่น อีเลฟเว่น ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสร้างสังคมที่ดีตามค่านิยม 3 ประโยชน์ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ และนโยบายความยั่งยืน โดยไม่เพียงสนับสนุนให้คนไทยแสดงความกตัญญู แต่ยังส่งเสริมให้พนักงานทุกคนของเซเว่น อีเลฟเว่น และบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) มีส่วนร่วมในกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง เช่น

  • โครงการ “คนไทยใส่ใจผู้ป่วยสมองเสื่อม” ที่ร่วมมือกับ จส.100 และพันธมิตร เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับภาวะสมองเสื่อม รวมถึงช่วยเหลือผู้ป่วยอัลไซเมอร์พลัดหลงให้กลับคืนสู่ครอบครัวอย่างปลอดภัย

ชวนคนไทยร่วมแชร์ความประทับใจ

นอกเหนือจากการรับชมภาพยนตร์สั้นแล้ว เซเว่น อีเลฟเว่น ยังมีกิจกรรมมากมายที่ชวนให้คนไทยเข้าร่วม เช่น การแชร์เรื่องราวดีๆ ความทรงจำประทับใจ หรือการบอกรักพ่อผ่าน Facebook Fanpage 7-Eleven Thailand และแอปพลิเคชัน 7App เพื่อกระตุ้นให้สังคมไทยร่วมกันสร้างแรงบันดาลใจดีๆ ให้กับผู้อื่น

โครงการที่เน้นความยั่งยืน

ในอดีต เซเว่น อีเลฟเว่น ได้ร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ ในการสร้างสังคมที่เข้มแข็งและยั่งยืน เช่น โครงการที่สนับสนุนการช่วยเหลือสังคมในกรณีฉุกเฉิน การส่งเสริมความรู้เรื่องภาวะสมองเสื่อม และการมีส่วนร่วมในชุมชนในรูปแบบต่างๆ จนได้รับคำชื่นชมและการบอกต่อในสื่อสังคมออนไลน์อย่างต่อเนื่อง

ร่วมสร้างสังคมที่ดีไปด้วยกัน

เซเว่น อีเลฟเว่น ยังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมความกตัญญูและคุณค่าที่ดีในสังคมไทย พร้อมเชิญชวนทุกคนร่วมกันบอกรักพ่อ แสดงความกตัญญู และสร้างแรงบันดาลใจดีๆ ให้กับคนรอบตัว เพราะ “ความกตัญญูทำได้ทุกวัน”

สามารถติดตามภาพยนตร์สั้นและกิจกรรมที่น่าสนใจได้ผ่านช่องทางออนไลน์ของเซเว่น อีเลฟเว่น เพื่อร่วมสร้างสรรค์สังคมแห่งความอบอุ่นและความกตัญญูไปด้วยกัน.

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : บมจ.ซีพี ออลล์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

CPCRT มอบทุนการศึกษา หนุนโอกาสเด็กเชียงราย ปีที่ 18

เครือเจริญโภคภัณฑ์มอบโอกาสการศึกษาในโครงการ “น้ำใจนี้จากพี่สู่น้อง” ปีที่ 18

เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 ธุรกิจ CPCRT เครือเจริญโภคภัณฑ์ ดำเนินโครงการ “น้ำใจนี้จากพี่สู่น้อง” ปีที่ 18 เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและสร้างโอกาสทางการศึกษาสำหรับเด็กนักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ณ โรงเรียนบ้านห้วยสัก (ประชานุกูล) อำเภอขุนตาล จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

ในกิจกรรมครั้งนี้ คุณวุฒิชัย โวหารคล่อง ผู้จัดการทั่วไปศูนย์ฟาร์มโปรเชียงราย ธุรกิจพืชครบวงจร เป็นตัวแทนมอบทุนการศึกษา 10 ทุนให้แก่นักเรียนที่มีความประพฤติดีและมีจิตอาสา พร้อมทั้งพนักงานจิตอาสา CSR SPIRIT จากศูนย์ฟาร์มโปรเชียงราย ธุรกิจพืชครบวงจร ข้าวขนส่ง และบริการ ร่วมสนับสนุนด้วยการมอบเมล็ดพันธุ์ผักสวนครัวเพื่อส่งเสริมโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียน สนับสนุนอุปกรณ์กีฬาเพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ออกกำลังกายและพัฒนาทักษะด้านกีฬา

นอกจากนี้ คณะผู้บริหารและจิตอาสาได้ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านนักเรียนที่ได้รับทุนการศึกษา เพื่อติดตามชีวิตความเป็นอยู่และมอบกำลังใจในการใช้ชีวิตต่อไป โดยโครงการนี้ยังมุ่งเน้นการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชนรอบสถานประกอบการ

ในปี 2567 โครงการ “น้ำใจนี้จากพี่สู่น้อง” ดำเนินการมอบทุนการศึกษาในพื้นที่รอบสถานประกอบการ 23 แห่ง ใน 16 จังหวัด รวม 203 ทุน ซึ่งไม่เพียงแต่สนับสนุนการศึกษา แต่ยังสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้บริหารและพนักงานจิตอาสา พร้อมส่งเสริมให้เกิดการมีส่วนร่วมในชุมชน

การสร้างอนาคตผ่านการศึกษา

โครงการ “น้ำใจนี้จากพี่สู่น้อง” ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงแค่การมอบทุนการศึกษา แต่ยังรวมถึงการส่งเสริมทักษะชีวิตของนักเรียน ด้วยการสนับสนุนอุปกรณ์ที่จำเป็น เช่น อุปกรณ์กีฬา เมล็ดพันธุ์ผักสวนครัว เพื่อสร้างผลผลิตเข้าสู่โครงการอาหารกลางวัน ช่วยให้นักเรียนได้รับสารอาหารที่เพียงพอและเสริมสร้างสุขภาพที่ดี

ความมุ่งมั่นของเครือเจริญโภคภัณฑ์

ตลอดระยะเวลา 18 ปีที่ผ่านมา โครงการ “น้ำใจนี้จากพี่สู่น้อง” ได้สะท้อนถึงความตั้งใจของเครือเจริญโภคภัณฑ์ในการลดความเหลื่อมล้ำและสร้างโอกาสการศึกษาที่เท่าเทียม โครงการนี้ยังเป็นพื้นที่สำหรับพนักงานจิตอาสาในการมีส่วนร่วมกับชุมชน สร้างความสัมพันธ์ที่ดีและผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน

ทั้งนี้ เครือเจริญโภคภัณฑ์ยังคงเดินหน้าส่งมอบโอกาสและสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในสังคม ผ่านการสนับสนุนโครงการที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาและการพัฒนาชุมชนต่อไป

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

“Bath & Body Works” เปิดตัวสาขาใหม่ ที่ ‘เซ็นทรัลเชียงราย’

Bath & Body Works เปิดตัวสาขาใหม่ในเชียงราย พร้อมเผยกลยุทธ์ความสำเร็จระดับโลก

เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 Bath & Body Works แบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายและผลิตภัณฑ์ความหอมระดับโลก ได้เฉลิมฉลองการเปิดสาขาใหม่ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย โดยมี คุณสายัณห์ นักบุญ ผู้อำนวยการศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย ร่วมกับ คุณสุทธิกร งาคม Area Manager ของแบรนด์ พร้อมเหล่าเซเลบริตี้และกลุ่ม Top Spender เข้าร่วมงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการ

ประวัติศาสตร์แห่งความสำเร็จของ Bath & Body Works

Bath & Body Works ก่อตั้งขึ้นในปี 1990 โดยเริ่มจากร้านเล็ก ๆ ในเมืองบอสตัน รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา ก่อนที่จะเติบโตจนกลายเป็นหนึ่งในแบรนด์ชั้นนำระดับโลกที่มีเอกลักษณ์ในเรื่องของ “กลิ่น” ที่โดดเด่น

จากกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวธรรมดา ๆ Bath & Body Works ได้สร้างชื่อด้วยการใช้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ ความทรงจำในวัยเด็ก และประสบการณ์ส่วนตัวมาพัฒนากลิ่นใหม่ ๆ ที่มีเอกลักษณ์ จนทำให้แบรนด์มีรายได้มากกว่า 7 พันล้านดอลลาร์ต่อปี

ในช่วงปีแรก ๆ Bath & Body Works สามารถขยายสาขาจากร้านค้าเพียง 1 แห่งไปสู่ 500 แห่ง ภายในเวลาเพียง 6 ปี และปัจจุบันมีสาขากว่า 1,800 แห่งในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา รวมถึงแฟรนไชส์อีกกว่า 450 สาขาในตลาดต่างประเทศ

เปิดประสบการณ์ใหม่กับ Bath & Body Works เชียงราย

Bath & Body Works สาขาเซ็นทรัล เชียงราย นำเสนอผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภท อาทิ

  • ชาวเวอร์เจล
  • บอดี้โลชั่น
  • น้ำหอม
  • เครื่องหอมสำหรับบ้าน
  • เทียนหอม

พร้อมโปรโมชั่นฉลองเปิดร้านใหม่ที่น่าตื่นเต้น

  • ซื้อสินค้าใดก็ได้ 2 ชิ้น แถมฟรีอีก 2 ชิ้น
  • เมื่อซื้อสินค้าครบ 2,200 บาท รับส่วนลดเพิ่มอีก 10%

โปรโมชั่นพิเศษนี้มีระยะเวลาเพียง 4 วัน ตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน – 1 ธันวาคม 2567

กลยุทธ์การเติบโตที่สร้างความแตกต่าง

Bath & Body Works มีความโดดเด่นด้วยการพัฒนากลิ่นใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยใช้ทีมงานผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทน้ำหอมชั้นนำ เช่น Firmenich และ Givaudan ในการออกแบบและพัฒนากลิ่นที่สามารถดึงดูดใจลูกค้าได้อย่างยาวนาน

Gina Boswell ซีอีโอคนปัจจุบันของแบรนด์ ซึ่งเข้ารับตำแหน่งในปี 2022 ได้ผลักดันให้ Bath & Body Works ขยายตลาดเข้าสู่กลุ่มผู้ชายและผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เช่น น้ำยาซักผ้า และผลิตภัณฑ์สำหรับบ้าน โดยตั้งเป้าการเติบโตในกลุ่มลูกค้าชายเป็นตัวเลขสองหลัก

นอกจากนี้ Boswell ยังเน้นการสร้างคอลเล็กชันตามเทศกาลที่ตอบโจทย์ตลาดโลก โดยทีมงานได้เดินทางไปยังเมืองสำคัญต่าง ๆ เช่น ลอนดอน ปารีส และโตเกียว เพื่อศึกษาแนวโน้มและแรงบันดาลใจใหม่ ๆ

ความสำคัญของกลิ่นที่เหนือกว่า

หนึ่งในความสำเร็จของ Bath & Body Works คือการเข้าใจว่ากลิ่นสามารถสร้างประสบการณ์และความทรงจำให้กับผู้ใช้ โดยแบรนด์มุ่งเน้นการสร้างกลิ่นที่หลากหลาย ซึ่งบางกลิ่นได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ บางกลิ่นมาจากวัฒนธรรม หรือแม้แต่ความคิดถึงในวัยเด็ก

ผลิตภัณฑ์ยอดนิยม เช่น เทียนหอมและเครื่องหอมสำหรับบ้าน ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ผู้คนให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเองและสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย

สรุป: Bath & Body Works เซ็นทรัล เชียงราย

Bath & Body Works ไม่ใช่เพียงแบรนด์ผลิตภัณฑ์ความงาม แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมการดูแลตัวเองของผู้บริโภคทั่วโลก การเปิดสาขาที่เชียงรายในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่น แต่ยังเป็นการมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่พิเศษให้กับลูกค้าในภาคเหนือ

สำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสความหอมและผลิตภัณฑ์คุณภาพระดับโลก สามารถเยี่ยมชมได้ที่ Bath & Body Works ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

“สัมผัสความหอมที่แตกต่าง พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษที่คุณไม่ควรพลาด!”

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
FEATURED NEWS

สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ มอบรางวัลดิจิทัลยอดเยี่ยมปี 2567 สร้างอนาคตวงการสื่อ

สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ จับมือพันธมิตร จัดงานประกาศรางวัลข่าวดิจิทัลยอดเยี่ยม ครั้งที่ 10 ประจำปี 2567

เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 เวลา 13.00 – 16.30 น. ณ ห้องมรกต ชั้น 3 โรงแรมดิเอมเมอรัลด์ กรุงเทพฯ สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ ร่วมกับพันธมิตรชั้นนำจัดงาน “รางวัลข่าวดิจิทัลยอดเยี่ยม ครั้งที่ 10” (Digital News Excellence Awards 2024) โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมการพัฒนาวงการข่าวดิจิทัล สนับสนุนการผลิตข่าวที่มีคุณภาพและยึดมั่นในจริยธรรมวิชาชีพสื่อสารมวลชน

การร่วมมือเพื่อความสำเร็จของวงการข่าวดิจิทัล

กิจกรรมดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์, Cofact (ประเทศไทย), บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน), บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด, บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน), ธนาคารออมสิน และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

คุณสุภิญญา กลางณรงค์ ผู้ร่วมก่อตั้ง Cofact (ประเทศไทย) กล่าวว่า วิกฤตการณ์ในวงการสื่อยังคงเป็นโอกาสสำหรับการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ สื่อจำเป็นต้องพัฒนาทักษะการตรวจสอบข้อมูลอย่างแม่นยำ เพื่อรักษาความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจจากประชาชน

การเสวนาสร้างมุมมองใหม่ในวงการสื่อ

ภายในงานมีการจัดเวทีเสวนาภายใต้หัวข้อ “Thailand Digital Newsroom 2025” ซึ่งเน้นถึงการปรับตัวของวงการข่าวในยุคดิจิทัล รวมถึงบทบาทของ AI ในการสร้างเนื้อหาข่าว

คุณฤทธิกร มหาคชาภรณ์ บรรณาธิการบริหาร ไทยรัฐออนไลน์ กล่าวว่า หากย้อนกลับไป 10 ปีที่แล้ว วงการสื่อ เคยเผชิญกับดิจิทัล ดิสรัปชั่น ทำให้วงการสื่อเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก แต่สำหรับปีหน้าการมาของ AI ในฐานะคนทำข่าวต้องมีการเตรียมตัวให้พร้อมว่าจะเรียนรู้และใช้ AI อย่างไร เพื่อให้เกิดประโยชน์มากกว่าเป็นโทษ
 
“ในแง่มุมของประเด็นข่าว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมือง ภายในประเทศหรือต่างประเทศ ล้วนแต่มีกระทบวนกลับมาที่เรื่องเดียวกัน คือ เศรษฐกิจปากท้องของประชาชน และในปี 2568 เราพยายามมุ่งหน้าสู่ Quality Content เพื่อสร้างความตระหนักรู้ให้กับประชาชน เพื่อนำไปสู่การสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้น”
 
การมาของ AI จะต้องปลดคนอีกหรือไม่
คุณคณิศ บุณยพานิช บรรณาธิการบริหารด้านข่าวสืบสวน ThaiPBS กล่าวว่า การมาของ AI เราเห็นพัฒนาการที่เติบโตอย่างรวดเร็ว เริ่มมีการพูดถึงการใช้ให้ AI เขียนข่าว การผลิตภาพ ในฐานะเจ้าของกิจการอาจจะตั้งคำถามว่า การมาของ AI จะต้องปลดคนอีกหรือไม่ แต่ในฐานะคนทำข่าว เราอาจจะมีคำถามแตกต่างกันออกไป คือ เราจะวางแผนยืมมือ AI มาใช้อย่างไรให้เกิดประโยชน์กับการทำข่าวที่มีคุณภาพ
 
“การเกิดขึ้นของ AI อาจจะมาทดแทนพวกเราได้บางเรื่อง แต่เราก็สามารถนำนักข่าวไปทำในสิ่งที่ AI ทำไม่ได้ หรือทำเรื่องที่สื่อทั่วไปทำไม่ได้ เช่นการทำข่าวที่มีคุณภาพมากกว่าการนำเสนอข่าวอย่างฉาบฉวย ซึ่งอาจจะดีกว่าการหยิบคลิปไวรัลมานำเสนอข่าว ไม่เช่นนั้นเราอาจจะถึงคราวล่มสลายของคนทำสื่อ หากเราไม่ปรับตัว”
อนาคตเราปฏิเสธ AI ไม่ได้แน่ ๆ
คุณณัฏฐา โกมลวาทิน ผู้อำนวยการฝ่ายข่าว THE STANDARD กล่าวว่า ทิศทางในอนาคตเราปฏิเสธ AI ไม่ได้แน่ ๆ และเชื่อว่าวงการสื่อก็ไม่เคยต้องหยุดปรับตัว เพราะหลายครั้งเราเผชิญหน้ากับพายุที่โหมกระหน่ำใส่ตลอด การมาของ AI ก็เป็นพายุอีกลูกที่กำลังเข้ามากระแทกเราอย่างหนัก เป็นโจทย์ที่แต่ละองค์กรต้องศึกษาและปรับตัวให้ทัน
 
คุณณัฏฐา กล่าวอีกว่า ในปีที่กำลังจะถึงนี้ เราเริ่มวางแผนการทำงานในเชิงลึก ควบคู่ไปกับการพัฒนาทักษะการทำงานของนักข่าว หากดูพฤติกรรมของคนรับสื่อ อาจจะเห็นว่าคนสนใจข่าวชาวบ้าน ข่าวกระแสสังคม แต่ในทางกลับกันคนยังคาดหวังให้สื่อนำเสนอประเด็นข่าวที่สะท้อนปัญหา และสร้างแรงกระเพื่อมให้กับสังคม
 
“นอกจากการจับสัญญาณโลก สิ่งที่เราจับตาในปีหน้า คือ ตัวเลขหนี้ครัวเรือนและหนี้สาธารณะที่เพิ่มสูงขึ้น ในฐานะสื่อสารมวลชนต้องนำสิ่งเหล่านี้มานำเสนอให้ประชาชนรับรู้ในวงกว้าง ซึ่งต้องทำควบคู่ไปกับการหาวิธีนำเสนอให้เข้าถึงคนได้อย่างถูกต้อง”
ในอนาคตจะเป็น Niche Market มากขึ้น
รองศาสตราจารย์ พิจิตรา ศุภสวัสดิ์กุล นักวิจัย สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ปี 2568 อาจเป็นปีที่ไม่น่าสดใสของวงการสื่อ แต่เชื่อว่าพื้นที่สื่อออนไลน์ยังเป็นโอกาสที่สำคัญในการทำงาน และปัจจุบันคนต้องการสื่อที่มีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น
 
“คนทำข่าวอาจจะต้องตีโจทย์ให้ออกว่า คนอ่านข่าวของเราเป็นอย่างไร ในอนาคตจะเป็น Niche Market มากขึ้น เช่น ข่าวเศรษฐกิจที่เราพบว่ามีการเน้นเรื่องลงทุนมากขึ้น แต่สิ่งที่เราขาดอยู่คือ ประเด็นข่าวเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงกับนโยบาย ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะสร้างผลกระทบโดยตรงให้กับประชาชน”
รณรงค์ให้สื่อนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่มีความถูกต้อง
คุณสุภิญญา กลางณรงค์ ผู้ร่วมก่อตั้ง Cofact (ประเทศไทย) กล่าวว่า ท่ามกลางวิกฤตก็อาจจะมีโอกาส หากมีความคิดสร้างสรรค์และทำหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล เราเชื่อว่ายังเป็นโอกาสทองของคนทำสื่อในการครองใจคนที่เข้าถึงข้อมูลข่าวสาร ขณะเดียวกันเรามีองค์กรที่ต้องการสนับสนุนให้สื่อทำงานที่มีคุณภาพมากมาย เรื่องนี้เป็นโจทย์ขององค์กรสื่อที่อาจจะต้องออกแบบหน่วยงานให้รองรับทั้งการผลิตเพื่อธุรกิจ รวมถึงการรองรับหน่วยงานที่ยังทำหน้าที่สื่อสารมวลชนได้อย่างมีอิสระ
 
“อยากเอาใจช่วยคนทำสื่อทุกคนในวิกฤตที่กำลังเกิดขึ้น ขณะเดียวกันอยากรณรงค์ให้สื่อนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่มีความถูกต้อง นอกเหนือจากการนำเสนอข่าวสารความเคลื่อนไหว เราอยากให้เน้นเรื่องการตรวจสอบความถูกต้อง ซึ่งจะช่วยสร้างความแตกต่างระหว่างสื่อกับอินฟลูเอ็นเซอร์ได้อีกด้วย”
 

การประกาศรางวัลที่สะท้อนความมุ่งมั่น

รางวัลในปีนี้แบ่งออกเป็น 6 ประเภท ได้แก่

  1. ข่าวเชิงสืบสวนยอดเยี่ยม
  2. ข่าวจากประเด็นในสื่อสังคมออนไลน์ยอดเยี่ยม
  3. ข่าวส่งเสริมสังคมยอดเยี่ยม
  4. ข่าวในรูปแบบวิดีโอยอดเยี่ยม
  5. ข่าวในรูปแบบอินโฟกราฟิกยอดเยี่ยม
  6. ภาพข่าวออนไลน์ยอดเยี่ยม

ในปีนี้ยังมีรางวัลพิเศษสำหรับ “ผู้ผลิตข่าวดิจิทัลรุ่นเยาว์ยอดเยี่ยม” ซึ่งเปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษาได้แสดงศักยภาพด้านข่าวดิจิทัล

รางวัลประเภทผู้ผลิตข่าวดิจิทัลรุ่นเยาว์ ครั้งที่ 1 ประจำปี 2567
รางวัลชนะเลิศ 1 รางวัล
ชื่อข่าว: เดิมพันชีวิตติดพนันออนไลน์ (https://www.facebook.com/share/v/64f4ZLStCofm3Rmv/?mibextid=Ls6BEq)
ชื่อสถาบัน: มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี
 
รางวัลชมเชย 2 รางวัล
ชื่อข่าว: Carbon Credit ช่วยวิกฤตโลกเดือด เปลี่ยนต้นไม้เป็นรายได้! (https://www.facebook.com/share/v/VHSJYtbyvN5FFEoX/)
ชื่อสถาบัน: สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์
 
ชื่อข่าว: “วิกฤตบุหรี่ไฟฟ้า: เยาวชนไทยกำลังเผชิญอะไร”
ชื่อสถาบัน: มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร
 
รางวัลข่าวดิจิทัลยอดเยี่ยม ครั้งที่ 10 ประจำปี 2567 (Digital News Excellence Awards 2024) มีดังนี้
ประเภทข่าวหรือสารคดีเชิงข่าวออนไลน์เชิงสืบสวนยอดเยี่ยม
รางวัลยอดเยี่ยม 1 รางวัล
ชื่อข่าว: น้ำตาแห่งเมียนมา (https://www.youtube.com/watch?v=h4y5bByWw4k)
ชื่อองค์กร: บริษัท บางกอก มีเดีย แอนด์ บรอดคาสติ้ง จำกัด (PPTV HD36)
 
รางวัลชมเชย 2 รางวัล
ชื่อข่าว: Scam City นรกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อาชญากรรมที่เข้าถึงคนไทยได้ทุกหลังคาเรือน (https://www.youtube.com/watch?v=8kpsSn7IMW4&t=226s)
 
ชื่อองค์กร: บริษัท เดอะ สแตนดาร์ด จำกัด
ชื่อข่าว: ซีรีส์ผลงานงานสื่อ : ลอกคราบ ‘ไอโอ’ ชายแดนใต้ (https://www.the101.world/…/%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%81…/)
ชื่อองค์กร: บริษัท ดิ วันโอวัน เปอร์เซนต์ จำกัด
 
ประเภทข่าวออนไลน์จากประเด็นในสื่อสังคมออนไลน์ยอดเยี่ยม (News Development from Social Media Agenda)
 
รางวัลยอดเยี่ยม 1 รางวัล
ชื่อข่าว: “ขนมไทย…ถูกไปป้ะ ?” (https://theactive.net/data/value-of-thai-desserts/)
ชื่อองค์กร: องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือ ไทยพีบีเอส
 
รางวัลชมเชย 2 รางวัล
ชื่อข่าว: เหยียดนมโรงเรียน ทำไม? พฤติกรรม ที่ตอกย้ำความไม่เท่าเทียม (https://tnnthailand.com/news/tnnexclusive/164212/)
ชื่อองค์กร: บริษัท ไทย นิวส์ เน็ตเวิร์ค (ทีเอ็นเอ็น) จำกัด
 
ชื่อข่าว: ลิงโลกเก่าในเมืองใหม่: ลิงลพบุรี ปัญหา ‘ลิงแก้แห’ ที่ควรแก้ได้ (https://www.the101.world/the-monkeys-of-lopburi/)
ชื่อองค์กร: บริษัท ดิ วันโอวัน เปอร์เซนต์ จำกัด
 
ประเภทข่าวออนไลน์ส่งเสริมสังคมยอดเยี่ยม (Social Development News)
 
รางวัลยอดเยี่ยม 1 รางวัล
ชื่อข่าว: ชุดผลงาน Spotlight เรื่อง ‘เด็กนอกสายตา’ (https://www.the101.world/category/left-behind-children/)
ชื่อองค์กร: บริษัท ดิ วันโอวัน เปอร์เซนต์
 
รางวัลชมเชย 2 รางวัล
ชื่อข่าว: ราตรีสีนีออน กับกฎหมายสีเทาๆ: เปิดโลก Sex Workers สู่ความหวังที่จะได้รับการคุ้มครอง (https://thematter.co/social/lives-of-sex-workers/224672)
ชื่อองค์กร: บริษัท วิธิตา กรุ๊ป จำกัด (The Matter)
 
ชื่อข่าว: รีไซเคิลบนดิน-ความสูญสิ้นของสายน้ำ: ‘โรงงานรีไซเคิลคลองกิ่ว’ ความผิดแทบทุกตารางนิ้วที่กฎหมายกลายเป็นเศษกระดาษ (https://www.the101.world/recycle-factory-klong-kiew/)
ชื่อองค์กร: บริษัท ดิ วันโอวัน เปอร์เซนต์
 
ประเภทข่าวออนไลน์ที่นำเสนอในรูปแบบคลิปวิดีโอยอดเยี่ยม (Video Clip News)
 
รางวัลยอดเยี่ยม 1 รางวัล
ชื่อข่าว: Scam City นรกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อาชญากรรมที่เข้าถึงคนไทยได้ทุกหลังคาเรือน (https://www.youtube.com/watch?v=8kpsSn7IMW4&t=226s)
ชื่อองค์กร: บริษัท เดอะ สแตนดาร์ด จำกัด
 
รางวัลชมเชย 2 รางวัล
ชื่อข่าว: สารคดี”น้ำตาเมียนมา” (https://youtu.be/h4y5bByWw4k?si=_vPB6Pfp6qoZAOIC)
ชื่อองค์กร: บริษัท บางกอก มีเดีย แอนด์ บรอดคาสติ้ง จำกัด (PPTV HD36)
 
ชื่อข่าว: สรุปให้ จุดเริ่มต้นความขัดแย้งระหว่าง อิสราเอล กับ ปาเลสไตน์ ที่มีมานับพันปี (https://www.youtube.com/watch?v=FM4KJNsYpks)
ชื่อองค์กร: บริษัท เนชั่น กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) (Spring News)
 
ประเภทข่าวออนไลน์ที่นำเสนอในรูปแบบอินโฟกราฟิกยอดเยี่ยม (Infographic News)
 
รางวัลยอดเยี่ยม 1 รางวัล
ชื่อข่าว: เมื่อฉันดื่มชาเย็น 10 แบรนด์ 30 แก้วจนกลายเป็น Data (https://thematter.co/lifestyle/data-thai-tea/224340)
ชื่อองค์กร: บริษัท วิธิตา กรุ๊ป จำกัด (The Matter)
 
รางวัลชมเชย 2 รางวัล
ชื่อข่าว: คู่มือก่อนตาย: เพราะความตายไม่ใช่เรื่อง ‘น่ากลัว’ แต่เป็นเรื่อง ‘น่าเตรียม’ (https://teroasia.com/news/262881)
ชื่อองค์กร: บริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน)
 
ชื่อข่าว: หรือสาววายจะครองโลก? จิกหมอนฟินจนตาพร่ากับ DATA ซีรีส์วายในรอบ 10 ปี (https://thematter.co/entertainment/data-series-y/216129)
ชื่อองค์กร: บริษัท วิธิตา กรุ๊ป จำกัด (The Matter)
 
ประเภทภาพข่าวออนไลน์ยอดเยี่ยม (Photo Journalist)
รางวัลยอดเยี่ยม 1 รางวัล
ชื่อข่าว: โซ่ข้อกลาง (https://drive.google.com/open…)
ชื่อองค์กร: บริษัท บางกอก มีเดีย แอนด์ บรอดคาสติ้ง จำกัด (PPTV HD36)
 
รางวัลชมเชย 2 รางวัล
ชื่อข่าว: เอเลี่ยนคางดำ (https://drive.google.com/open…)
ชื่อองค์กร: บริษัท เดอะ สแตนดาร์ด จำกัด
ชื่อข่าว: สุดเอื้อม (https://drive.google.com/…/19KvOaWlumtFzO…/view…)
ชื่อองค์กร: บริษัท สี่พระยาการพิมพ์ จำกัด (เดลินิวส์ออนไลน์)

ความสำเร็จของงานและมุมมองจากคณะกรรมการ

คณะกรรมการตัดสินต่างเห็นพ้องถึงคุณภาพที่พัฒนาขึ้นของผลงานในปีนี้ เช่น อาจารย์ ดร.มานะ ตรีรยาภิวัฒน์ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า “ผลงานที่ส่งเข้าประกวดสะท้อนถึงความตั้งใจและความสามารถในการเจาะลึกประเด็นต่าง ๆ ของทีมข่าว”

ในด้านภาพข่าวและอินโฟกราฟิก คุณกล้า ตั้งสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไวซ์ไซท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “การเล่าเรื่องผ่านภาพและข้อมูลมีการพัฒนาอย่างน่าประทับใจ แต่ยังต้องปรับปรุงในแง่ของการนำเสนอที่เข้าใจง่าย”

ก้าวสู่อนาคตของวงการข่าวดิจิทัล

สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ยืนยันที่จะเดินหน้าสนับสนุนวงการข่าวให้พัฒนายิ่งขึ้น โดยเน้นการนำเสนอข่าวที่มีคุณภาพ สร้างสรรค์ และส่งเสริมจริยธรรม เพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในโลกดิจิทัลอย่างยั่งยืน

งานในครั้งนี้จึงเป็นมากกว่าการประกาศผลรางวัล แต่เป็นเวทีที่กระตุ้นความคิดและพลังสร้างสรรค์ให้กับคนทำสื่อในการปรับตัวและพัฒนาผลงานให้ตอบโจทย์คนยุคใหม่อย่างแท้จริง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

“SME Academy On Tour เชียงราย เสริมแกร่งธุรกิจยุคดิจิทัล”

สสว. จัด Roadshow “SME Academy On Tour” เชียงราย เสริมศักยภาพผู้ประกอบการยุคดิจิทัล

เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2567 สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) นำโดยนางสาวธนัฏฐ์ภร บุญธรธนาทรัพย์ ผู้อำนวยการฝ่ายสนับสนุนองค์ความรู้และระบบให้บริการ SMEs พร้อมคณะ จัดกิจกรรม “Roadshow SME Academy On Tour” ภายใต้โครงการ “เรียนรู้ธุรกิจฟรี กับ Academy 365” เพื่อเสริมศักยภาพให้กับผู้ประกอบการ SME ในยุคดิจิทัล ณ ห้องประชุมดอยตุง บอลรูม โรงแรม The Riverie by Katathani จังหวัดเชียงราย

เปิดงานโดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย

พิธีเปิดงานได้รับเกียรติจากนาย นรศักดิ์ สุจสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธาน พร้อมด้วยผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ผู้ประกอบการ และประชาชนจากจังหวัดเชียงรายและจังหวัดใกล้เคียงเข้าร่วมกิจกรรมอย่างคึกคัก

ส่งเสริมองค์ความรู้ผู้ประกอบการในยุคดิจิทัล

นางสาวธนัฏฐ์ภร บุญธรธนาทรัพย์ เปิดเผยว่า สสว. ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจในหลายมิติ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาและสนับสนุน SME ให้สามารถเข้าถึงบริการจากภาครัฐในรูปแบบที่หลากหลาย เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและเพิ่มโอกาสในการเติบโตของผู้ประกอบการ

“ปัจจุบัน สสว. พัฒนาองค์ความรู้และเครื่องมือต่าง ๆ ที่ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงข้อมูลและบริการของรัฐได้สะดวกขึ้นผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล เช่น SME CONNEXT+, SME ONE ID, SME Academy365, SME COACH, และ ระบบ BDS ซึ่งช่วยยกระดับธุรกิจและแก้ไขปัญหาให้ผู้ประกอบการสามารถแข่งขันในตลาดได้” นางสาวธนัฏฐ์ภร กล่าว

เทคโนโลยีเพื่อ SME ไทย

แพลตฟอร์มและเครื่องมือที่ สสว. พัฒนาขึ้น ได้แก่

  1. SME CONNEXT+: แอปพลิเคชันสำหรับการเข้าถึงข้อมูลและบริการของรัฐ
  2. SME Academy365: ศูนย์รวมองค์ความรู้เพื่อพัฒนาทักษะในการดำเนินธุรกิจ
  3. ระบบจัดซื้อจัดจ้าง THAI SME: สนับสนุนให้ SME มีโอกาสเข้าถึงตลาดของภาครัฐ

นอกจากนี้ สสว. ยังจัดให้มีบริการอบรมผ่านช่องทางออนไลน์และให้คำปรึกษาเฉพาะด้าน เพื่อช่วยผู้ประกอบการพัฒนาธุรกิจของตนเอง และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในยุคที่เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญ

กิจกรรมเพื่อการพัฒนาผู้ประกอบการ

กิจกรรมภายในงาน “SME Academy On Tour” ที่จังหวัดเชียงราย ประกอบด้วย

  • การให้คำปรึกษาเฉพาะด้านกับผู้เชี่ยวชาญ
  • การสัมมนาเชิงลึกเกี่ยวกับการปรับตัวในยุคดิจิทัล
  • การแนะนำเครื่องมือดิจิทัลที่สนับสนุนการทำธุรกิจ

งานนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญที่ผู้ประกอบการในพื้นที่จะได้เพิ่มพูนความรู้และทักษะ เพื่อนำไปปรับใช้ในการพัฒนาธุรกิจ พร้อมเชื่อมโยงเครือข่ายระหว่างผู้ประกอบการและหน่วยงานภาครัฐ

เสริมยุทธศาสตร์เศรษฐกิจไทย

นางสาวธนัฏฐ์ภร กล่าวเสริมว่า “การสร้างความเข้มแข็งให้กับ SME ไทยเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจประเทศ เราเชื่อมั่นว่าความร่วมมือระหว่างหน่วยงานรัฐและผู้ประกอบการจะช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจไทยในยุคดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน”

เสียงตอบรับดีเยี่ยม

ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมกิจกรรมแสดงความพึงพอใจกับโอกาสที่ได้รับ และมองว่าการเข้าถึงความรู้และเครื่องมือที่เหมาะสมผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล จะช่วยให้ธุรกิจของพวกเขาเติบโตอย่างมั่นคงและมีประสิทธิภาพ

การจัดงานครั้งนี้สะท้อนถึงความตั้งใจของ สสว. ในการผลักดันให้ SME ไทยสามารถเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมก้าวสู่การแข่งขันในตลาดโลก

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม:

สามารถติดตามกิจกรรมและบริการของ สสว. ได้ที่

  • เว็บไซต์: www.sme.go.th
  • แอปพลิเคชัน: SME CONNEXT+

สรุป

กิจกรรม “SME Academy On Tour” ที่จัดขึ้นในจังหวัดเชียงรายเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการพัฒนา SME ไทย ผ่านการส่งเสริมองค์ความรู้และการสนับสนุนเครื่องมือดิจิทัล เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงในยุคที่เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจโลก

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
FEATURED NEWS

One Stop Open House 2024 เปิดโอกาสการศึกษาแห่งอนาคต

งาน “One Stop Open House 2024” เปิดประตูสู่อนาคตการศึกษาและอาชีพ

“กระทรวง อว. รวมมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ เปิดโอกาสการศึกษาแห่งอนาคต”

เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดงาน “One Stop Open House 2024” ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ฮอลล์ 1-2 โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยนักเรียนและผู้ปกครองค้นหาเส้นทางการศึกษาที่เหมาะสมและตอบโจทย์โลกยุคดิจิทัล งานนี้รวบรวมมหาวิทยาลัยกว่า 70 แห่งจากทั่วประเทศ พร้อมนำเสนอนวัตกรรมการเรียนรู้ที่ทันสมัย หลักสูตรหลากหลาย และคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ ภายใต้แนวคิด “อนาคตของคุณเริ่มต้นที่นี่: การศึกษายุคใหม่เพื่ออาชีพในฝัน” (Your Future Begins Here: Modern Education for Dream Careers)

โลกการศึกษาในยุคใหม่

ในยุคที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว อาชีพที่เคยเป็นที่ต้องการอาจไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป ขณะเดียวกัน อาชีพใหม่ ๆ เช่น วิศวกรปัญญาประดิษฐ์ นักวิเคราะห์ข้อมูล และสายงานดิจิทัลอื่น ๆ กลายเป็นที่ต้องการ มหาวิทยาลัยจึงต้องปรับตัวสร้างหลักสูตรที่ตอบสนองความเปลี่ยนแปลง เช่น หลักสูตรด้านความยั่งยืน ธุรกิจดิจิทัล และวิทยาการข้อมูล

กิจกรรมเด่นภายในงาน

  • การพบปะผู้เชี่ยวชาญ: นักเรียนสามารถปรึกษาเรื่องการเลือกคณะ การพัฒนาทักษะ และวางแผนอาชีพ
  • เทคโนโลยี VR: สำรวจห้องเรียน ห้องปฏิบัติการ และชีวิตในมหาวิทยาลัยเสมือนจริง
  • ข้อมูลทุนการศึกษา: รวมทุนจากทั้งในและต่างประเทศ พร้อมแหล่งสนับสนุนจากรัฐและเอกชน
  • เวิร์กช็อป Upskill และ Reskill: พัฒนาทักษะในยุคดิจิทัล เตรียมตัวเข้าสู่ตลาดงาน
  • AI Faculty Matching: ระบบจับคู่คณะและสายอาชีพที่เหมาะสมตามความถนัด
  • 9D Cinema และเครื่องจำลองอาชีพ: สร้างประสบการณ์เสมือนจริงจากอาชีพในฝัน

มินิคอนเสิร์ตและกิจกรรมพิเศษ

เพื่อเติมเต็มบรรยากาศความสนุกสนาน งานนี้ยังจัดมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง เช่น ATLAS, PAPERPLANE, ทอม อิศรา, Diamond Laz1 และ PROXIE ที่จะสร้างแรงบันดาลใจและความทรงจำที่พิเศษให้กับผู้เข้าร่วม

เปิดโอกาสสำหรับทุกคน

งานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 พฤศจิกายน – 1 ธันวาคม 2567 เวลา 09.00 – 19.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยเปิดให้เข้าชมฟรี สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกเดินทาง สามารถรับคำปรึกษาผ่าน Line Official @OpenhousebyMhesi

งานนี้ไม่ใช่แค่นิทรรศการการศึกษา แต่เป็นพื้นที่ค้นพบตัวเองและออกแบบอนาคต อย่าพลาดโอกาสสำคัญนี้ พบกันในงาน “One Stop Open House 2024”!

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
FEATURED NEWS

กรุงเทพฯ เคาะงานกาชาดประจำปี 2567 11-22 ธันวาคมนี้ ณ สวนลุมพินี

 

สภากาชาดไทย เชิญร่วมสัมผัสประสบการณ์ Amazing ในงานกาชาดประจำปี 2567

เตรียมตัวให้พร้อมกับงานกาชาดสุดยิ่งใหญ่แห่งปี! สภากาชาดไทยขอเชิญทุกท่านร่วมสนุก อิ่มอร่อย และทำบุญในงาน กาชาดประจำปี 2567 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-22 ธันวาคม 2567สวนลุมพินี ตั้งแต่เวลา 11.00-22.00 น. และพิเศษในวันสุดท้าย ขยายเวลาความสุขจนถึง 23.00 น.

สำหรับผู้ที่ไม่สามารถเดินทางมาร่วมงานได้ ก็ยังสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมออนไลน์ได้ที่ www.iredcross.org ตลอด 24 ชั่วโมง

กิจกรรมไฮไลต์ในงานที่ไม่ควรพลาด:

  1. เฉลิมพระเกียรติฯ “ทศมราชา 72 พรรษา ถวายพระพร”
    ชมการแสดงแสงสีเสียงสุดตระการตา ที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยเทคโนโลยีและศิลปะอันวิจิตร

  2. ลุ้นเสี่ยงโชค พร้อมได้บุญ
    ร่วมสนุกกับกิจกรรมเสี่ยงทายที่ไม่เพียงแต่ให้คุณลุ้นโชคใหญ่ แต่ยังได้ร่วมทำบุญสนับสนุนกิจกรรมของสภากาชาดไทย

  3. อิ่มอร่อยกับสตรีทฟู้ดหลากหลาย
    ลิ้มรสอาหารจานเด็ดจากร้านอาหารสภากาชาดไทยและร้านสตรีทฟู้ดชื่อดัง รวมกว่า 100 ร้านค้า ตั้งแต่เมนูอาหารไทยพื้นบ้านไปจนถึงของหวานสุดฟิน

  4. สนุกสนานกับเกมการละเล่นและกิจกรรมบันเทิง
    พบกับเกมการละเล่นแบบไทยดั้งเดิมและกิจกรรมสนุกสนานที่จัดเตรียมไว้เพื่อทุกคนในครอบครัว พร้อมการแสดงดนตรีและศิลปะวัฒนธรรมสุดประทับใจ

พิเศษสำหรับผู้เข้าร่วมงานออนไลน์

ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน ก็สามารถเข้าร่วมกิจกรรมออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.iredcross.org ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพลิดเพลินกับการช้อปสินค้าออนไลน์ การร่วมประมูลของที่ระลึก และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย

เหตุผลที่คุณต้องไม่พลาดงานนี้:

  • ได้บุญ ได้สุข: งานกาชาดเป็นกิจกรรมที่มีเป้าหมายหลักเพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้และสนับสนุนกิจกรรมของสภากาชาดไทย
  • ความบันเทิงครบครัน: ทั้งการแสดง แสง สี เสียง และกิจกรรมสนุกๆ ที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย
  • อาหารเลิศรส: พบกับอาหารและขนมที่หาทานได้ยาก รวมถึงเมนูพิเศษเฉพาะในงาน

ติดตามกิจกรรมเพิ่มเติม:
อย่าลืมติดตามอัปเดตความสนุกและเบื้องหลังการจัดงานได้ที่ TikTok: @redcrossfair

มาร่วมสร้างความทรงจำสุดประทับใจไปด้วยกันในงานกาชาดปี 2567 ทั้งที่สวนลุมพินีและออนไลน์

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สภากาชาดไทย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

เทศกาลสีสันกาสะลอง 2024 สุดยิ่งใหญ่ ที่เซ็นทรัลเชียงราย

เปิดงานเทศกาลสีสันกาสะลอง 2024 ที่เชียงราย ต้นคริสต์มาสหมอกพันวาแห่งเดียวในไทย

วันที่ 21 พฤศจิกายน 2567 ที่ลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย จังหวัดเชียงราย ได้เปิดตัวเทศกาลสีสันกาสะลอง 2024 อย่างยิ่งใหญ่ ภายใต้คอนเซปต์ “Chiang Rai The Sense of Art” ซึ่งปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 โดยมีจุดเด่นที่ ต้นคริสต์มาสหมอกพันวา” ขนาดความสูง 15 เมตร สัญลักษณ์แห่งเทศกาลปีใหม่ที่รังสรรค์จากภูมิปัญญาท้องถิ่น ผสมผสานเสน่ห์วัฒนธรรมตะวันตกและตะวันออกอย่างลงตัว ซึ่งเทศกาลนี้จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและฟื้นฟูเศรษฐกิจในช่วงฤดูหนาวของจังหวัดเชียงราย โดยเน้นการนำเสนอศิลปวัฒนธรรมล้านนาและการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ชุมชนในพื้นที่

ไฮไลต์สำคัญในเทศกาล

  1. ต้นคริสต์มาสหมอกพันวา
    ต้นคริสต์มาสนี้เป็นงานคราฟต์มาสเตอร์พีซที่ออกแบบร่วมกับมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง โดยนำดอกไม้เมืองหนาวจากดอยตุงและพื้นที่ใกล้เคียงจำนวน 9 สายพันธุ์ เช่น ดอกรองเท้านารีดอยตุง ดอกกุหลาบพันปี ดอกนางพญาเสือโคร่ง ดอกกาแฟ และดอกวนิลา มาประดับตกแต่งต้นคริสต์มาสด้วยวัสดุธรรมชาติ เช่น ผ้าดิบย้อมสีธรรมชาติ และลูกสนที่ทำจากทางมะพร้าว สะท้อนถึงความงดงามของธรรมชาติและภูมิปัญญาท้องถิ่น
  2. การแสดง “The Legendary of Flower”
    โชว์พิเศษที่ผสมผสานดนตรี Lanna Music & Orchestra พร้อมบทเพลงที่แต่งขึ้นเฉพาะสำหรับเทศกาลนี้
  3. กิจกรรมพิเศษ 5 Senses Experience
    มอบประสบการณ์ครบทุกประสาทสัมผัส ทั้งการสัมผัสดอกไม้เมืองหนาว การชิมอาหารที่รังสรรค์จากดอกไม้ การฟังดนตรีพื้นบ้าน และการร่วมกิจกรรมสนุก ๆ เช่น Workshop จัดดอกไม้ และ Face Paint
  4. สีสันกาสะลองไนท์มาร์เก็ต
    ตลาดกลางคืนที่เต็มไปด้วยอาหารพื้นเมืองล้านนา เมนูดอกไม้จากพี่น้องชาติพันธุ์ และงานฝีมือจากชุมชน

ความร่วมมือจากหลายภาคส่วน

การจัดงานในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากทั้งภาครัฐและเอกชน ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย ร่วมกับ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ (โครงการพัฒนาดอยตุง), จังหวัดเชียงราย, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงราย, การท่องเที่ยวและกีฬาเชียงราย, องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย, เทศบาลนครเชียงราย, กระทรวงวัฒนธรรม, วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย, ขัวศิลปะ และ สิงห์เลม่อนโซดา พร้อมพันธมิตรอีกมากมาย โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างภาพลักษณ์ของเชียงรายให้เป็น ดินแดนแห่งศิลปะและดอกไม้” ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

นอกจากนี้ จังหวัดเชียงรายยังได้รับการยกย่องจาก UNESCO ในปี 2566 ให้เป็น เมืองสร้างสรรค์ด้านการออกแบบ” (Creative City of Design) ทำให้เทศกาลนี้เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่สะท้อนพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์และอัตลักษณ์ท้องถิ่นของจังหวัด

ตอกย้ำความเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก

เทศกาลสีสันกาสะลองไม่ได้เป็นเพียงกิจกรรมทางวัฒนธรรม แต่ยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่นอย่างยั่งยืน โดยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ชุมชน เช่น งานฝีมือดอกไม้เมืองหนาวที่ปลูกบนดอยตุงและดอยช้างมูบ ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจมูลค่าสูงของจังหวัดเชียงราย

นักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมงานได้ตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน 2567 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2568 โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่มีกิจกรรมเฉลิมฉลองอย่างหลากหลาย

ประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและชุมชน

นอกจากการสร้างความสุขให้กับนักท่องเที่ยว เทศกาลนี้ยังสร้างรายได้ให้กับชุมชนท้องถิ่น โดยเฉพาะเกษตรกรและผู้ผลิตงานฝีมือจากพื้นที่ใกล้เคียง ทั้งนี้ การสนับสนุนจากนักท่องเที่ยวยังช่วยส่งเสริมให้ชาวเขาและกลุ่มชาติพันธุ์สามารถรักษาและพัฒนาวัฒนธรรมของตนได้อย่างยั่งยืน

งานคราฟต์มาสเตอร์พีซหนึ่งเดียวในไทยอย่าง “ต้นคริสต์มาสหมอกพันวา”

เป็นผลงาน “ต้นคริสต์มาสหมอกพันวา” ดเป็นการร่วมมือและได้รับการออกแบบโดย มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ (โครงการพัฒนาดอยตุง) ภายใต้คอนเซปต์ ang Rai The Sense of Art” เชียงราย ดินแดนแห่งดอกไม้และศิลปะ โดยหยิบแรงบันดาลใจ มาจากอัตลักษณ์ท้องถิ่นของจังหวัดเชียงราย พร้อมคัดสรรดอกไม้เมืองหนาว 9 สายพันธุ์  ได้แก่ ดอกรองเท้านารีดอยตุง, ดอกรองเท้านารีพริ้นเชสสังวาลย์, ดอกกุหลาบพันปี, เสี้ยวดอกขาว หรือเสี้ยวป่า, ดอกกาแฟ, ดอกนางพญาเสือโคร่ง หรือซากุระเมืองไทย, พวงแสด,ดอกวนิลา และดอกชาน้ำมัน มาเนรมิตตกแต่งในรูปแบบ Local Handicraft บนต้นคริสต์มาส ที่เต็มไปด้วยความหมาย

  • ดอกรองเท้านารีดอยตุง : ดอกไม้ท้องถิ่นใกล้สูญพันธุ์โดยสมสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชนนี (สมเด็จย่า) ทรงมีพระราชดำริให้เพาะเลี้ยงและปลูกคืนปีเมื่อปี พ.ศ. 2537 โครปัจจุบัน ได้ขยายไปทั่วทั่งป่าดอยตุง
  • ดอกรองเท้านารีพริ้นเซสสังวาลย์ : ดอกไม้พันธุ์ผสมระหว่างดอกรองเท้านารีอ่างทอง เป็นพันพันธุ์ดอกไม้ที่สมเด็จย่าได้พระราชดำริให้นำมาผสมกัมกับดอกรองเท้านารีดอยตุง
  • ดอกกุหลาบพันปี: นางเอกประจำถิ่นบนดอยตุง ที่ออกดอกเฉพาะช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์
  • เสี้ยวดอกขาวหรือเสี้ยวป่า: ดอกไม้ป่าที่ออกดอกเฉพาะบนพื้นที่ดอยสูงจากระดับน้ำทะเล 500-1,200 เมตร
  • ดอกนางพญาเสือโคร่ง หรือซากุระเมืองไทย: ดอกไม้ที่ออกดอกเฉพาะบนพื้นที่ดอยสูงจากระดับน้ำทะเล 1,500-2,000 เมตร
  • ดอกกาแฟ: มีลักษณะเป็นพวงสีขาวและเป็นพืชเศรษฐกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ทำให้เกิดเศรษฐกิจที่ดี ชาวเขามีรายได้ และหันมาปลูกกาแฟมากขึ้น
  • พวงแสด: ดอกไม้ประจำจังหวัดเชียงราย ลักษณะเป็นเถาเลื้อยขนาดใหญ่ ออกดอกเป็นพวงสีส้มอมเหลือง
  • ดอกวนิลา: พืชเศรษฐกิจที่มีมูลค่าสูงของดอยตุง สร้างงานและสร้างรายได้เป็นจำนวนมากให้กับชาวเขา
  • ดอกชาน้ำมัน: พืชที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงดำริให้มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงและมูลนิธิชัยพัฒนา ศึกษาวิจัยและนำมาปลูกเพื่อทำเป็นพืชเศรษฐกิจ ดำริให้มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงและมูลนิธิชัยพัฒนา ศึกษาวิจัยและนำมาปลูกเพื่อทำเป็นพืชเศรษฐกิจ

ข้อมูลการเข้าร่วมงาน

เทศกาลนี้จัดขึ้นที่ลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย และเปิดให้เข้าชมฟรี สำหรับสมาชิก The1 ที่ช้อปสินค้าภายในศูนย์ครบ 10,000 บาทขึ้นไป จะได้รับของที่ระลึกสุดพิเศษ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์เซ็นทรัลพัฒนา

มาร่วมสัมผัสบรรยากาศแห่งความสุขในเทศกาลสีสันกาสะลอง 2024 แล้วสร้างความทรงจำพิเศษในหน้าหนาวนี้ไปด้วยกัน!

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
FEATURED NEWS

“สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์” เชิญร่วมงานประกาศผล “รางวัลข่าวดิจิทัลยอดเยี่ยม ประจำปี 2567”

 

 “สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์” จัดโครงการประกวด “รางวัลข่าวดิจิทัลยอดเยี่ยม ประจำปี 2567” (Digital News Excellence Awards 2024) เพื่อส่งเสริมสื่อมวลชนออนไลน์ ที่มีความทุ่มเทในการทำงาน สร้างสรรค์และพัฒนาวงการข่าวออนไลน์ โดยการผลิต “ข่าวดิจิทัลคุณภาพ” ตรงกับมาตรฐานวิชาวารสารศาสตร์ จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ ซึ่งจะจัดให้มีงานประกาศผลรางวัลพร้อมด้วยโล่เกียรติยศ ทั้งนี้ จำนวนผลงานประกวด “รางวัลข่าวดิจิทัลยอดเยี่ยม ประจำปี 2567” โดยในปีนี้มีผลงานส่งเข้าประกวดจำนวนทั้งสิ้น  176 ผลงาน 

โดยแบ่งออกเป็น 6 ประเภทข่าว ประกอบด้วย

1. ข่าวหรือสารคดีออนไลน์เชิงข่าวสืบสวนยอดเยี่ยม (Investigative News & News Feature) (จำนวน 22 ผลงาน)
2. ข่าวออนไลน์จากประเด็นในสื่อสังคมออนไลน์ยอดเยี่ยม (News Development from Social Media Agenda) ซึ่งเป็นการพัฒนาข่าวจากวาระข่าวสารในสื่อสังคมออนไลน์ (จำนวน 28 ผลงาน)
3. ข่าวออนไลน์ส่งเสริมสังคมยอดเยี่ยม (Social Development News) (จำนวน 31 ผลงาน)
4. ข่าวออนไลน์ที่นำเสนอในรูปแบบคลิปวิดีโอยอดเยี่ยม (Video Clip News) (จำนวน 27 ผลงาน)
5. ข่าวออนไลน์ที่นำเสนอในรูปแบบอินโฟกราฟิกยอดเยี่ยม (Infographic News) (จำนวน 37 ผลงาน)
6. ภาพข่าวออนไลน์ยอดเยี่ยม (Photojournalist) (จำนวน 31 ผลงาน)

โดยได้รับเกียรติจากคณะกรรมการตัดสิน

  1. อาจารย์ ดร.มานะ ตรีรยาภิวัฒน์ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
  2. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สกุลศรี ศรีสารคาม รองคณบดี ด้านวิชาการ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  3. อาจารย์ไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์
  4. คุณ น.รินี เรืองหนู นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
  5. คุณระวี ตะวันธรงค์ ที่ปรึกษา สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์
  6. คุณอภิศิลป์ ตรุงกานนท์ Chief Product Officer, Pantip.com
  7. คุณกล้า ตั้งสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไวซ์ไซท์ (ประเทศไทย) จำกัด
  8. คุณวสันต์ วณิชชากร ช่างภาพ สำนักข่าวต่างประเทศ

และในปีนี้จัดให้มี รางวัลพิเศษ รางวัล “ผู้ผลิตข่าวดิจิทัลรุ่นเยาว์ยอดเยี่ยม” (Young Digital News Providers Award) เป็นการต่อยอดจากโครงการประกวดและอบรมเชิงปฏิบัติการผู้ผลิตข่าวดิจิทัลรุ่นเยาว์ ที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาร่วมโครงการได้นำความรู้ ประสบการณ์ กลับไปพัฒนาสร้างสรรค์ผลงานสกู๊ปข่าวออนไลน์ ส่งเข้าร่วมประกวดรางวัลดังกล่าวเป็นปีแรก

 

รวมทั้งเวทีเสวนา หัวข้อ Thailand Digital Newsroom 2025 การปรับตัว อนาคตห้องข่าวดิจิทัล ความท้าทาย ก้าวต่อไปของวงการสื่อไทย โดยมีผู้ร่วมเสวนา คุณฤทธิกร มหาคชาภรณ์ บรรณาธิการบริหาร ไทยรัฐออนไลน์, คุณคณิศ บุณยพานิช บรรณาธิการบริหารด้านข่าวสืบสวน ThaiPBS, รองศาสตราจารย์ พิจิตรา ศุภสวัสดิ์กุล นักวิจัย สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, คุณสุภิญญา กลางณรงค์ ผู้ร่วมก่อตั้ง Cofact (ประเทศไทย), คุณณัฏฐา โกมลวาทิน ผู้อำนวยการฝ่ายข่าว THE STANDARD ดำเนินรายการโดย คุณรังสิมา ศฤงคารนฤมิตร ผู้ประกาศข่าว อมรินทร์ ทีวี

 โดยงานจะจัดขึ้นในวันพุธที่ 27 พฤศจิกายน 2567 เวลา 13.00 – 16.30 น. ณ ห้องมรกต ชั้น 3 โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ กรุงเทพฯ

สำหรับงานประกาศผลรางวัลในครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและองค์กรเอกชนชั้นนำ ที่ร่วมสนับสนุนอุตสาหกรรมสื่อออนไลน์ ยกระดับคุณภาพ ให้คุณค่าข่าวดิจิทัล ส่งเสริมสื่อมวลชนออนไลน์ ที่มีความทุ่มเทในการทำงาน

โดยได้ให้การสนับสนุนรางวัล รวมทั้งการจัดงาน ได้แก่  กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์, โคแฟค ประเทศไทย (Cofact Thailand), บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน), บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด, บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน), บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน), บริษัท คอนโทรล ดาต้า (ประเทศไทย) จำกัด, ธนาคารออมสิน, ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และบริษัท ที.เอช.นิค จำกัด

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

เชียงรายร่ายมนต์ “มหกรรมไม้ดอกอาเซียน 2024” กระตุ้นเศรษฐกิจ-ฟื้นฟูชุมชน

เชียงรายพร้อมร่ายมนต์ “มหกรรมไม้ดอกอาเซียน 2024” สร้างสรรค์ความงามและกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น

เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 เวลา 17.00 น. ณ ลานธรรม ลานศิลป์ ถิ่นพญามังราย อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ได้มีการจัดงานแถลงข่าว “มหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงราย 2024” (Chiang Rai Flower and Art Festival 2024) โดยมีนายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธาน พร้อมด้วยนายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย และผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าร่วม

งานนี้จัดโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย (อบจ.) นำโดยนางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย พร้อมนำเสนอแนวคิด “The Magical Garden” เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีใหม่ที่ผสมผสานวัฒนธรรมล้านนา ความคิดสร้างสรรค์ และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

เปิดตัววิดีทัศน์และกิจกรรมสุดอลังการ

ในงานมีการเปิดตัววิดีทัศน์ประชาสัมพันธ์ “Chiang Rai Flower and Art Festival 2024” ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 ธันวาคม 2567 ถึง 5 มกราคม 2568 ณ สวนไม้งามริมน้ำกก ตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย ภายในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย อาทิ

  • โซนสวนไม้งาม 4 โซนวิเศษ
    1. ลูกแก้ววิเศษ
    2. คาถาวิเศษ
    3. ดอกไม้วิเศษ
    4. สัตว์วิเศษ
  • การแสดงแสง สี เสียง และการแสดงจากเยาวชนในกิจกรรม “Chiang Rai Talent”
  • นิทรรศการวิถีชีวิตล้านนาและชาติพันธุ์ จาก 17 ชาติพันธุ์
  • การจำหน่ายชา กาแฟ อาหารพื้นถิ่น และผลิตภัณฑ์ชุมชน

เสริมสร้างเศรษฐกิจท้องถิ่นด้วยการท่องเที่ยววิถีใหม่

งานมหกรรมนี้ยังเน้น “Social Impact Tourism” หรือการท่องเที่ยวที่สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชน โดยเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวมีส่วนร่วมในการสนับสนุนสินค้าท้องถิ่นและร่วมกิจกรรมที่ช่วยฟื้นฟูชุมชนจากมหาอุทกภัยที่ผ่านมา

กิจกรรมพิเศษที่แม่สาย

นอกจากสวนไม้งามริมน้ำกก ยังมีการจัดกิจกรรม “ฮีลใจแม่สาย เหนือสุดในสยาม” ระหว่างวันที่ 14 ธันวาคม 2567 ถึง 5 มกราคม 2568 ณ วัดถ้ำเสาหินพญานาค และบริเวณหน้าด่านพรมแดนไทย-เมียนมา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย

พิธีเปิดงานยิ่งใหญ่

พิธีเปิดงานจะจัดขึ้นในวันที่ 15 ธันวาคม 2567 โดยได้รับเกียรติจากทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จเป็นองค์ประธาน

เชิญชวนร่วมงานมหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงราย

องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงรายขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วมสัมผัสความงดงามของหมู่มวลดอกไม้ และช่วยฟื้นฟูชุมชนในงาน “มหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงราย 2024” พร้อมร่วมนำเชียงรายสู่ความยั่งยืนในทุกมิติ

การเสวนาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นในพิกัดอาเซียน

รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย, นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์, ได้เปิดเผยวิสัยทัศน์ของที่ประชุมการเสวนาครั้งนี้ มุ่งเน้นไปที่การปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ของเชียงรายจากการเป็นเมืองที่ประสบปัญหาภัยพิบัติเป็นจุดหมายท่องเที่ยวชั้นนำที่มีศักยภาพในการดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยความสวยงามของผืนป่าและความเป็นมาทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย การฟื้นฟูให้นักท่องเที่ยวเต็มที่ในช่วงไฮซีซันกลางหนาวนี้ถือเป็นจุดเน้นหลัก

ดอกไม้ภายใต้ความชื่นมื่นและความเข้มแข็ง” การแสดงทางวัฒนธรรมและศิลปะความหลากหลาย”

งานมหกรรมไม้ดอกอาเซียน เชียงราย 2024 ซึ่งจะจัดขึ้นในฤดูหนาวปีหน้า ถูกจัดแสดงโดย นายวิสูตร บัวชุม, ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งชาติสำนักงานเชียงราย การจัดมหกรรมไม้ดอกครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการแสดงความงามของธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างเครือข่ายและการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ที่ทำให้เชียงรายเป็นจุดลงของนักท่องเที่ยวระดับบริเวณและระหว่างประเทศ

นวัตกรรมและการเปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับนักท่องเที่ยว

ส่วนหนึ่งของการแถลงข่าวคือการแนะนำนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่จะนำมาใช้ในการจัดงานท่องเที่ยว รวมถึงการใช้เทคโนโลยีเพื่อเสริมสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยว จากส่วนราชการได้แสดงถึงความพร้อมในการจัดงานที่มีคุณภาพโดยมีการติดตั้งระบบเทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว

นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวถึงความพร้อมและศักยภาพของจังหวัด

ในการสัมมนาเสวนาเชียงรายบนเวที “มหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงราย 2024” (Chiang Rai Flower and Art Festival 2024)  นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้กล่าวถึงความพร้อมของจังหวัดเชียงรายในการต้อนรับนักท่องเที่ยวรวมถึงการตอบสนองต่อสถานการณ์วิกฤติอุทกภัยที่ผ่านมา นายนรศักดิ์ ได้แสดงความมั่นใจว่าจังหวัดเชียงรายมีการรับมืออย่างแข็งขันและเรียบร้อย โดยได้รับความร่วมมือทั้งจากภาคเอกชน, สมาคมต่างๆ, ประชาชน และส่วนราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ภาคีส่วนต่างๆได้เข้ามาประสานงานช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่ การกู้วิกฤตในระยะ 30 วันที่ผ่านมาได้ประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง ทำให้พื้นที่นี้พร้อมที่จะกลับมาคึกคักโดยเร็วที่สุด

นอกจากนี้ นายนรศักดิ์ ยังได้พูดถึงการเตรียมงานสำคัญที่จะมีขึ้นในจังหวัดเชียงราย เกี่ยวกับมหกรรมไม้ดอกอาเซียนซึ่งจัดขึ้นที่เชียงรายเป็นประจำทุกปี โดยกล่าวว่าการจัดงานนี้มีความสำคัญที่จะทำให้เชียงรายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวหลักของประเทศและเอเชีย การจัดงานนี้จะเน้นแสดงความงามทางธรรมชาติและวัฒนธรรมของจังหวัดให้โลกได้เห็น ซึ่งจะช่วยเรียกนักท่องเที่ยวจำนวนมากมายมายังจังหวัดในช่วงฤดูหนาวที่เป็นช่วงไฮซีซั่นของจังหวัดเชียงราย

ทั้งนี้พลังงานและความมุ่งมั่นของภาคส่วนต่างๆ ในเชียงรายในการฟื้นฟูและเตรียมพร้อมสำหรับการท่องเที่ยวครั้งใหม่นี้เป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดเจน ทั้งนี้เพื่อให้การท่องเที่ยวของเชียงรายกลับมาคึกคักและเป็นที่จดจำของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกได้อีกครั้ง

การฟื้นฟูการท่องเที่ยวเชียงราย: จากวิกฤตสู่ความหวังใหม่

นายวิสูตร บัวชุม ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติ (ททท.) จังหวัดเชียงราย ได้เปิดเผยถึงความมุ่งมั่นของจังหวัดในการฟื้นฟูและพัฒนาภาคการท่องเที่ยว โดยเฉพาะหลังจากประสบกับอุทกภัยครั้งใหญ่ ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจและสาธารณูปโภคของจังหวัดเชียงราย

จากการที่จังหวัดเชียงรายเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวหลักและมีสถานที่สวยงามมากมาย ผู้อำนวยการแห่ง ททท.เชียงรายได้ชี้แจงว่า “การท่องเที่ยวคือตัวจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดเรา” เขาได้กล่าวเสริมว่า “แม้จะเผชิญกับวิกฤตใหญ่อย่างอุทกภัย การร่วมมือจากทุกภาคส่วนรวมถึงจิตอาสาทั่วประเทศได้ช่วยให้เชียงรายสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว”

ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 เชียงรายได้เริ่มต้นเดินหน้าปรับภาพลักษณ์จากความเสียหายสู่ความงามของจังหวัด โดยมุ่งหวังให้การท่องเที่ยวกลับมาเป็นไปตามปกติ ตัวเลขการเดินทางและการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวในจังหวัดกำลังฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ และคาดว่าจะเห็นผลเต็มที่ในช่วงเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม ที่ช่วงไฮซีซันครั้งใหม่ของเชียงราย

นอกจากนี้ งานกิจกรรมต่างๆที่จัดขึ้นโดยภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะงานมหกรรมไม้ดอกอาเซียน เชียงราย ตามข้อมูลจากนายวิสูตร บัวชุม เปิดเผยว่าการตอบรับจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศในปีนี้ค่อนข้างสูง โดยตัวเลขนักท่องเที่ยวที่คาดหมายจะมาเพื่อการเดินทางในงานนี้อยู่ที่หลายแสนคน ซึ่งสะท้อนถึงความมั่นใจและความตั้งใจของนักท่องเที่ยวที่ต้องการเยี่ยมชมเชียงราย

เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นทางสำนักงาน ททท.เชียงรายได้เปิดแคมเปญการท่องเที่ยวยิ่งใหญ่ภายใต้ชื่อ “เหนือ..พร้อมเที่ยว เชียงรายพร้อม” ซึ่งแคมเปญนี้ไม่เพียงแต่เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างความมั่นใจว่าเชียงรายพร้อมและปลอดภัยสำหรับการเข้ามาเยี่ยมชมของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

กลยุทธ์และแคมเปญต่างๆ เหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อดึงดูดผู้คนให้เดินทางมาเยือนเชียงรายและเพลิดเพลินกับสภาพอากาศและธรรมชาติที่งดงามของเชียงรายในช่วงฤดูหนาว ต่างประเทศต่างก็หันมาสนใจเชียงรายอย่างต่อเนื่อง และข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวได้กำหนดเป็นวาระสำคัญในการประชุมส่วนภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกที่จะมีขึ้นในเดือนตุลาคมนี้

การฟื้นฟูและพัฒนาการท่องเที่ยวของเชียงรายในปัจจุบันไม่เพียงแต่เป็นตัวดำเนินการทางเศรษฐกิจ เชียงรายกำลังพลิกโฉมใหม่ โดยเริ่มจากการท่องเที่ยวและจึงยืนยันถึงศักยภาพที่แท้จริงของจังหวัดเชียงราย

คุณนิทัศน์ ศรีรัตนประสิทธิ์มุ่งสร้างเศรษฐกิจชีวิตใหม่ให้เชียงรายผ่านกลยุทธ์แบรนด์และนวัตกรรม

คุณนิทัศน์ ศรีรัตนประสิทธิ์ ประธานกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่จังหวัดเชียงรายและหัวหน้า Young Entrepreneur Chamber of Commerce (YEC Chiang Rai) กล่าวในงานแถลงข่าวบนเวทีว่าได้เดินหน้าโครงการที่จะกระจายพลังศักยภาพของเชียงรายไปยังสายตาชาวโลกผ่านเครือข่ายดิจิทัลและโซเชียลมีเดียที่แข็งแกร่ง

ผู้นำภาคธุรกิจรุ่นใหม่ได้กล่าวถึงโครงการ TikTok ชวนเที่ยวเชียงราย “ฮีลใจ ฮีลเชียงราย” ซึ่งเป็นแคมเปญที่ตั้งใจจะกระตุ้นการท่องเที่ยวโดยใช้แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นที่ได้รับความนิยมอย่าง TikTok แคมเปญนี้ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากครีเอเตอร์ทั่วประเทศที่ส่งคลิปมาร่วมแข่งขัน ด้วยยอดวิวรวมเกิน 10 ล้านครั้ง แสดงให้เห็นว่าเชียงรายกลายเป็นที่สนใจของชาวโซเชียลอย่างกว้างขวาง

ในแคมเปญนี้ ผู้เข้าร่วมสามารถชิงรางวัลมูลค่ากว่า 10,000 บาท รวมถึงตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ที่พักสองคืน เพื่อสนับสนุนไม่เพียงแต่การมาเยือนเชียงรายเท่านั้นแต่ยังรวมถึงการพัฒนากระแสการท่องเที่ยวในจังหวัด

คุณนิทัศน์ยังได้เล่าถึงการส่งเสริมการแบรนด์เพื่อเฟ้นสร้างศักยภาพให้กับผู้ประกอบการชาวเชียงราย โดยมีการจัดงาน “The Power of Branding” ที่นำเสนอการสร้างแบรนด์และสร้างธุรกิจที่มีผู้เข้าร่วมกว่าหลายร้อยคน เน้นย้ำถึงการต้องปรับตัวและใช้นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อเติบโตในยุคดิจิทัล การสัมมนาดังกล่าวได้เชิญผู้เชี่ยวชาญระดับแนวหน้ามากระตุ้นแรงบันดาลใจและเรียนรู้เทคนิคการแบรนด์ที่ถูกต้อง

การขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยการท่องเที่ยวและการสร้างแบรนด์จากคุณนิทัศน์และทีมงาน YEC เป็นส่วนสำคัญในการฟื้นฟูและส่งเสริมการท่องเที่ยวของเชียงราย อีกทั้งยังทำให้เห็นว่าจังหวัดเชียงรายมีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวแห่งเอเชียนอกเหนือจากความงามทางธรรมชาติ ณ ปัจจุบันและอนาคต

นายกนก อทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย กล่าวถึงความงามและศักยภาพของเชียงรายในการเป็นเมืองท่องเที่ยวหลัก

นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ได้กล่าวบนเวทีแถลงข่าวในครั้งนี้เกี่ยวกับเอกลักษณ์และศักยภาพของจังหวัดเชียงรายในการเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวชั้นนำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านศิลปะ ธรรมชาติ และวัฒนธรรมที่หลากหลาย ซึ่งสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกให้เข้ามาสัมผัสและประทับใจได้ไม่รู้ลืม

“เชียงรายของเรามีทุกอย่างที่นักท่องเที่ยวต้องการ: ธรรมชาติอันงดงาม ศิลปะความเป็นเลิศ และความเป็นมิตรของผู้คน” นางอทิตาธรกล่าว ระบุเสริมว่าเทศกาลและกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นในเชียงรายได้ส่งเสริมให้เชียงรายกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจยิ่งขึ้นไม่เพียงแค่สำหรับการท่องเที่ยวอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการเรียนรู้และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมอีกด้วย

หลังจากเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19, องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงรายได้ใช้โอกาสนี้เป็นการปรับปรุงและพัฒนาการจัดการท่องเที่ยวของจังหวัดให้ดีขึ้น เช่นการนำระบบเทคโนโลยี AI มาช่วยในการตรวจจับและสนับสนุนการเข้าพักที่ปลอดภัยของนักท่องเที่ยว นวัตกรรมเหล่านี้ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวว่าเชียงรายเป็นจุดหมายปลายทางที่ปลอดภัยและน่ามาเยือน

ไฮไลต์ของการกล่าวถึงคือ การจัดงานมหกรรมไม้ดอกอาเซียน ซึ่งเป็นงานเทศกาลที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมายังจังหวัดเชียงรายหลายแสนคนอย่างต่อเนื่องทุกปี ตั้งแต่การเริ่มต้นในปี 2021 ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงรายได้ให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อให้แน่ใจว่างานเทศกาลจะสามารถดำเนินไปได้โดยปลอดภัยและเป็นที่ประทับใจของผู้เข้าร่วมงาน

“เราได้ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆในการอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว พร้อมทั้งให้ความมั่นใจว่าพวกเขาจะได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด” นางอทิตาธรกล่าวเสริม การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีไม่เพียงแต่ในการตรวจสอบอุณหภูมิและการคัดกรองเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการใช้แสงสีและศิลปะในการสร้างบรรยากาศและกิจกรรมที่น่าตื่นตาตื่นใจ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากนักท่องเที่ยวและชุมชนท้องถิ่น

ด้วยการจัดงานที่เน้นไปที่ความปลอดภัยและการสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจ จังหวัดเชียงรายได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นมากกว่าเมืองท่องเที่ยว แต่เป็นสถานที่ที่สามารถสร้างความเชื่อมั่นและสร้างความสุขให้กับทุกคนที่มาเยือน นับเป็นแบบอย่างที่ดีที่ผสานความงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมเข้ากับนวัตกรรมและเทคโนโลยีได้อย่างลงตัว

การแถลงข่าวครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเปิดตัวโครงการสำคัญของจังหวัดเชียงรายเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับชาวเชียงรายในการพัฒนาภาคเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวไปสู่ระดับที่สามารถแข่งขันกับเมืองท่องเที่ยวชั้นนำของโลก ที่สำคัญคือการเพิ่มศักยภาพการรับนักท่องเที่ยวในฤดูการท่องเที่ยว

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News