Categories
CULTURE

“หมู่บ้านรักษาศีล 5” ประจำหนเหนือ ณ ชุมชนคุณธรรม บ้านเมืองรวง

 
วันอาทิตย์ที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๖ เวลา ๑๓.๐๐ น. ณ วัดท่าไคร้ (บ้านเมืองรวง) ต.แม่กรณ์ อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ด้วยคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา “หมู่บ้านรักษาศีล ๕” จังหวัดเชียงราย ได้คัดเลือก “บ้านเมืองรวง” เป็นหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ต้นแบบของจังหวัดเชียงราย เพื่อเข้ารับการคัดเลือกเป็นหมู่บ้านรักษาศีล ๕” ประจำหนเหนือ โดยคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ หนเหนือ กำหนดลงพื้นที่เพื่อตรวจติดตามผลการดำเนินงาน ในวันพุธที่ ๒๓ สิงหาคม เวลา ๑๓.๐๐ น.
 
ในวันนี้ จึงได้มีการประชุมเตรียมความพร้อมรับการตรวจติดตามคณะกรรมการฯ หนเหนือ โดยพระพุทธิญาณมุนี เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย ได้มอบหมายให้พระภาวนาโกศลเถร วิ. รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย เป็นประธานการประชุมฯ พร้อมนี้มีผู้เข้าร่วมประชุม พระครูขันติพลาธร รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย เจ้าคณะอำเภอ คณะสงฆ์จังหวัดเชียงราย นายโสไกร ใจหมั้น ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงราย นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย นายสมาน เทพสุภา ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ ๕ บ้านเมืองรวง ผู้นำท้องที่ และผู้นำชุมชน พร้อมได้มีการตรวจเยี่ยมพื้นที่ในบริเวณบ้านเมืองรวงร่วมกัน
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สนง.วัฒนธรรม เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
CULTURE

ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากด้วย Soft Power ในมิติทางศาสนา

 
ในวันอาทิตย์ที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ ห้องนิทรรศการ ๕ อาคารหอศิลป์แห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม กรุงเทพมหานคร กรมการศาสนากระทรวงวัฒนธรรมจัดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการการ ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากด้วย Soft Power ในมิติทางศาสนา โดยผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Facebook LIVEกรมการศาสนา)โดยกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้บริหารหรือผู้แทนศูนย์ศึกษา พระพุทธศาสนาวันอาทิตย์และผู้แทนหน่วยเผยแพร่ศีลธรรมทางพระพุทธศาสนาของแต่ละจังหวัดเพื่อให้เกิดการบูรณาการการดำเนินงานด้านศาสนา ศิลปวัฒนธรรม ผ่านกลไก “พลังบวร” ซึ่งเป็น Soft Power ที่ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก สร้างความมั่นคงให้แก่ชุมชน ช่วยสนับสนุนให้เด็กเยาวชนและประชาชนใกล้ชิดกับพระพุทธศาสนาโดยการน้อมนำและปฏิบัติตามหลักธรรมคำสอนทางศาสนาในชีวิตประจำวัน โดยมีกิจกรรมสำคัญ ดังนี้
 
๑. รับชมวีดิทัศน์หน่วยงานภาคีเครือข่ายทางศาสนา
๒. การประชุมเชิงปฏิบัติการฯ หัวข้อ “การส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากด้วย Soft Power ในมิติศาสนา” ดำเนินรายการโดย นายยงจิรายุ อุปเสน ผู้จัดการสำนักส่งเสริมและขับเคลื่อนเครือข่ายทางสังคม ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน ซึ่งมีคณะวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ได้แก่
๒.๑ พระมหาศรายุทธ อคฺคธมฺโม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดศรีสามัคคีธรรม จังหวัดบึงกาฬ
๒.๒ ผู้แทน ศพอ.วัดพระเชตุพน กรุงเทพฯ
๒.๓ รองศาสตราจารย์ นพดล เนตรดี วิทยาลัยเพาะช่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์
๒.๔ คุณอัจฉรา แสงจันทร์ ชุมชนคุณธรรมวัดพระบรมธาตุ จังหวัดกำแพงเพชร
๓. กิจกรรมระดมความคิด เรื่อง การส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากด้วย Soft Power ในมิติทางศาสนา
 

ในโอกาสนี้จังหวัดเชียงรายโดยผู้บริหารและผู้แทนศูนย์พระพุทธ ศาสนาวันอาทิตย์และผู้แทนหน่วยเผยแพร่ศีลธรรมทางพระพุทธศาสนา จำนวน ๒๑ รูป/คน พร้อมด้วยนายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย นางพัชรนันท์ แก้วจินดา ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม นางสุภัสสร ประภาเลิศ นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ นางสายรุ้ง สันทะบุตร นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ นายสุพจน์ ทนทาน นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ นายอภิชาต กันธิยะเขียว นักวิชาการวัฒนธรรมปฏิบัติการ นายวรพล จันทร์คง นักวิชาการวัฒนธรรมปฏิบัติการ และนางสาวสุทธิดา ตราชื่นต้อง นักวิชาการวัฒนธรรมปฏิบัติการ ข้าราชการสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย เข้าร่วมโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการการส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก ด้วย Soft Power ในมิติทางศาสนา ในวันอาทิตย์ที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๖ เวลา ๐๘.๐๐ – ๑๕.๐๐ น. ณ ห้องประชุมเวียงกาหลง ชั้น ๓ ศาลากลางจังหวัดเชียงราย ตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย (ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ Facebook LIVE กรมการศาสนา)พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกให้แก่คณะสงฆ์และผู้นำ ศาสนาที่มาร่วมการประชุมฯ ดังกล่าว
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สนง.วัฒนธรรม เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
CULTURE

พช.เชียงราย ร่วมงานประกวดผ้าลายพระราชทาน “ผ้าลายดอกรักราชกัญญา”

 
วันที่ 19 สิงหาคม 2566 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย เป็นประธานการดำเนินกิจกรรมโครงการยกระดับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาผ้าไทยและงานหัตถกรรมชุมชน การประกวดผ้าลายพระราชทาน ผ้าลายดอกรักราชกัญญา และงานหัตถกรรม โดยมี นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายวรงค์ แสงเมือง รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นางจิณณารัชช์ สัมพันธรัตน์ ประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน นายกัมปนาท จักรวาล วิเวศ ศรีพุทธา หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรม คณะผู้บริหารกรมการพัฒนาชุมชน ร่วมงาน
 
ในการนี้ นายวิทยา ชุมภูคำ พัฒนาการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย นายปรีชา ปวงคำ ผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชน และเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน ได้เข้าร่วมงาน ดังกล่าว จังหวัดเชียงราย โดยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดเชียงราย ได้ประชาสัมพันธ์ ส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ส่งผลงานประเภทผ้าและงานหัตถกรรมเข้าร่วมการประกวดในครั้งนี้ จำนวนทั้งสิ้น 154 ชิ้น แยกเป็น ประเภทผ้า จำนวน 114 ผืน ประเภทงานหัตถกรรม จำนวน 40 ชิ้น
 
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า “นับเป็นความโชคดีของประชาชนคนไทย ที่ได้รับพระกรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่พระองค์ทรงมีความรักความเมตตาและความห่วงใย ทรงได้ทุ่มเทพระสติปัญญาและพระวรกายเพื่อที่จะ “สืบสาน รักษาและต่อยอด” พระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และสนองพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อทำให้ชีวิตของคนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น จึงได้สืบสานงานแบ่งเบาพระราชภาระ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการสืบสานและอนุรักษ์ผ้าไทย ที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 3 ปีที่ผ่านมา 
 
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงได้ “สืบสาน รักษา และต่อยอด” รื้อฟื้นอนุรักษ์ผ้าไทยให้กลับมาอีกครั้ง โดยการกระตุ้นให้ผู้ประกอบการผ้า ผู้ผลิตผ้า พัฒนาลายผ้าใหม่ ๆ ให้มีความทันสมัย เหมาะสมกับการสวมใส่ในทุกวัยและทุกโอกาส แสดงให้เห็นการฟื้นคืนชีพของผ้าไทยไปสู่ความรุ่งเรืองจนมาถึงปัจจุบัน ซึ่งปัจจัยสำคัญแห่งการขับเคลื่อนผ้าไทยที่พระองค์ได้พระราชทาน คือ “คน” ซึ่งประกอบไปด้วยข้าราชการ คณะทำงาน และพี่น้องประชาชน
 
กระทรวงมหาดไทย น้อมนำแนวพระดำริของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในการเป็นแฟชั่นที่ยั่งยืน (Sustainable Fashion) โดยสวมใส่ผ้าไทยที่ย้อมสีธรรมชาติ ร่วมกันรณรงค์อนุรักษ์โลก ลดภาวะโลกร้อน และอนุรักษ์ภูมิปัญญาผ้าไทย สวมใส่ได้ทุกโอกาส ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก ตามโครงการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก”
นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวต่ออีกว่า “สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงริเริ่มผลักดันผ้าไทยให้เกิดแฟชั่นใหม่ที่ยังคงภูมิปัญญาเดิมของคนไทย โดยการพระราชทานแบบลายผ้า “ลายขอสิริวัณณวรี” ให้ประชาชนคนไทยได้นำไปพัฒนาและออกแบบจนเกิดเป็นความนิยมเกิดขึ้นในประเทศไทย 
 
ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นเพียงแค่ในผ้า แต่ยังเกิดขึ้นในทุกผลิตภัณฑ์ จากนั้นต่อมาได้พระราชทาน “ลายขิดนารีรัตนราชกัญญา” “ลายดอกรักราชกัญญา” และลายบาติกพระราชทานอื่น ๆ อีกมากมาย ทรงแสดงให้เห็นว่าแฟชั่นลายใหม่นั้นทำให้เกิดเป็นที่นิยม เป็นที่ต้องการ สามารถสร้างรายได้สร้างอาชีพให้กับคนในชุมชน โดยเริ่มจากให้ผู้ผลิตผ้า ผู้ประกอบการผ้า ออกแบบใส่จินตนาการเพื่อให้เกิดชิ้นงานใหม่ ดังคำว่า “ต่อยอด” ตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยการพึ่งพาตนเองตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เริ่มตั้งแต่ต้นน้ำด้วยการปลูกฝ้าย ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ใช้สีธรรมชาติ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการส่งเสริม สนับสนุนให้มีความรู้ในการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกจากกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 
 
การคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ผ้าไทย เพื่อให้ได้รับการอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างความตระหนักให้รู้ถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับคนทอผ้า คนย้อมผ้า และอาจส่งไปถึงผู้สวมใส่หากใช้ สารเคมีในการย้อมผ้า อีกทั้งยังเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน
 
“การจัดประกวดลายพระราชทาน มีจุดประสงค์หลัก คือ การกระตุ้นให้ผู้ประกอบการผ้าได้มีการฝึกฝนพัฒนาทักษะในการทอผ้าอีกทั้งเป็นเวทีให้แสดงความเป็นศิลปหัตถกรรม สร้างความใส่ใจในผลิตภัณฑ์ชุมชน ส่งเสริมการแข่งขันและความเป็นเลิศ นำไปสู่การพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ผ้าไทยให้ดีขึ้นต่อไป ดังนั้นผู้ที่เป็นข้าราชการในฐานะข้าราชการที่ดีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวต้องทำหน้าที่เป็นคนเชื่อมโยงนำสิ่งที่ดีไปสู่พี่น้องประชาชน และช่วยผลักดันภารกิจหน้าที่ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้เกิดความสำเร็จ ด้วยการช่วยกันทำสิ่งที่ดี ด้วยความแน่วแน่มุ่งมั่นตั้งใจ มีแรงปรารถนา (Passion) ช่วยกันและกันนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Fashion) พร้อมส่งเสริมผลักดันร่วมกับภาคีเครือข่าย ทำให้ประชาชนเกิดความมั่นใจในการก้าวเดินร่วมกันต่อไปโดยเฉพาะงานหัตถศิลป์หัตถกรรม 
 
โครงการผ้าไทย เพราะเราอยากเห็นคนไทยทุกคนมีความสุข บนพื้นฐานของการพึ่งพาตนเอง พร้อมช่วยกันดูแลสังคมดูแลโลกใบนี้ ทำให้ประชาชนคนไทยได้อยู่ในชุมชนยั่งยืน เพื่อให้ 76 จังหวัด ในประเทศไทยทุกจังหวัดเป็นประเทศไทยที่ยั่งยืน” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าว
 
นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ กล่าวว่า กรมการพัฒนาชุมชน ได้ดำเนินโครงการประกวดผ้าลายพระราชทาน “ผ้าลายดอกรักราชกัญญา” โดยมีเป้าหมายกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ประเภทผ้าและเครื่องแต่งกาย ช่างทอผ้า และงานหัตถกรรม ทุกจังหวัด ทั่วประเทศ ร่วมโครงการฯ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาผ้าไทยและงานหัตถกรรมชุมชน โดยดำเนินการพัฒนาผ่านการประกวด ผ้าลายพระราชทาน แบ่งเป็น 4 กิจกรรม ประกอบด้วย 
 
1) กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ด้านผ้าไทย และงานหัตถกรรม (Coaching) “ผ้าลายดอกรักราชกัญญา” 
2) กิจกรรมประกวดผ้าลายพระราชทาน “ผ้าลายดอกรักราชกัญญา” และงานหัตถกรรม 
3) กิจกรรมบันทึกและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลงานผ้าและงานหัตถกรรมที่ได้รับการคัดเลือก 
และ 4) กิจกรรมสนับสนุนการพัฒนาผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ในการพัฒนาผ้าและงานหัตถกรรม 
 
โดยจะดำเนินการประกวดผ้าลายพระราชทาน “ผ้าลายดอกรักราชกัญญา” และงานหัตถกรรม ในพื้นที่ 4 ภูมิภาค ได้แก่ 
1) ภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 19 สิงหาคม 2566 ณ โรงแรมมีเลีย เชียงใหม่ ตำบลช้างคลาน อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 
2) ภาคกลาง จังหวัดราชบุรี ในวันที่ 26 สิงหาคม 2566 ณ โรงแรม ณ เวลา ตำบลดอนตะโก อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี 
3) ภาคใต้ จังหวัดสงขลา ในวันที่ 2 กันยายน 2566 ณ โรงแรมลากูน่า แกรนด์ โฮเทล แอนด์ สปา ตำบลพะวง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และ 
4) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดอุดรธานี ในวันที่ 10 – 11 กันยายน 2566
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กลุ่​มงาน​ส่งเสริม​การพัฒนา​ชุมชน​ สำนักงาน​พัฒนา​ชุมชน​จังหวัด​เชียงราย​

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
CULTURE

นับถอยหลังสู่การจัดงาน Thailand Biennale, Chiang Rai 2023

 

วันนี้ (17 สิงหาคม 66) เวลา 10.00-12.00 น. ณ The Jim Thompson Art Center กระทรวงวัฒนธรรม โดยสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย จัดพิธีแถลงข่าวโครงการการจัดมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale,Chiangrai Rai 2023 ครั้งที่ 2 โดยมีนายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเป็นประธาน นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นางโชติกา อัครกิจโสภากุล รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นายประสพ เรียงเงิน ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย นางสุภาพรรณ หมั่นเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม คณะอนุกรรมการ ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ และคณะภัณฑารักษ์ ศิลปินเครือข่ายจากจังหวัดเชียงราย สมาคมขัวศิลปเชียงราย และสื่อมวลชน เข้าร่วมแถลงข่าวฯ เปิดตัวศิลปิน รอบสอง 20 คน pavilions แสดงงานของกลุ่มศิลปินต่าง ๆ 10 Pavilions อาทิ Korean Paivilion,MOMA Warsaw,Production Zamia ,สล่าขิ่น,กลุ่มศิลปินสีน้ำนานาชาติ และกิจกรรมคู่ขนานต่างๆ เพื่อสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์โครงการการจัดมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale,Chiangrai Rai 2023 สู่สาธารณชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือและความก้าวหน้าของการดำเนินงานของโครงการ ดังกล่าว

ในการนี้ นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย นายสุวิทย์ ใจป้อม นายกสมาคมขัวศิลปเชียงราย ผู้แทนมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กลุ่มศิลปินเชียงราย ร่วมในพิธีแถลงข่าว
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สนง.วัฒนธรรม เชียงราย

พัชรนันท์ แก้วจินดา : รายงาน
ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย: ภาพ
อภิชาต กันธิยะเขียว :บรรณาธิการ
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
CULTURE

สุดยอดเที่ยวชุมชน ยลวิถี “เมนูเมืองรวง ต้องมาลอง อร่อย ไม่ลวงตา

 
วันจันทร์ที่ 7 สิงหาคม 2566 ณ ชุมชนคุณธรรมบ้านเมืองรวง ตำบลแม่กรณ์ อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย โดยนายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย มอบหมายให้นางสาวกฤษยา จันแดง ผู้อำนวยการกลุ่มกิจการพิเศษ นางกัลยา แก้วประสงค์ และนางสุพรรณี เตชะตน นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ ลงพื้นที่ขับเคลื่อนพัฒนาต่อยอดชุมชนคุณธรรมต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” บ้านเมืองรวง ตำบลแม่กรณ์ อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย จัดกิจกรรมคิดค้น พัฒนาเมนูอาหาร/เครื่องดื่ม สำหรับต้อนรับนักท่องเที่ยว ภายใต้แนวคิด “อร่อยตา อร่อยรส อร่อยใจ” โดยเน้นการใช้วัตถุดิบ ท้องถิ่น กรรมวิธี และรสมือที่เป็นอัตลักษณ์ของชุมชน ออกแบบเมนูอาหาร พัฒนาการจัดจาน
โดยในวันนี้เป็นการลงมือปฏิบัติพัฒนาเมนูอาหาร/เครื่องดื่ม โดยภูมิปัญญาด้านอาหารของชุมชนคุณธรรมบ้านเมืองรวง พร้อมดำเนินการถ่ายภาพ เพื่อจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์เมนูอาหารและเครื่องดื่มในแนวคิด “เมนูเมืองรวง ต้องมาลอง อร่อย ไม่ลวงตา” ดังนี้
1. ข้าวผัดเมืองรวง (ส่วนผสมจากน้ำพริกตาแดง และจิ๊นส้ม)
2. ชุดเครื่องดื่ม น้ำแสนดอก และขนมสองเกลอ (ขนมต้ม ข้าวต้มมัดน้อย)
3. ชุดเครื่องดื่ม กาแฟ/ชาร้อน และสติ๊กข้าวปุ๊ก
4. ชุดออเดิฟ “เมืองรวง บ่ลวงใค๋”
5. เมนู “นารีหลงไพร”
6. เมนู “หงอนพญานาคราช”
7. เมนู “โอ๊บ โอ๊บ ท่องไพร”
8. เมนู “มัฉฉายืนยง”
9. เมนู “ลาบเสียบบ้านเมืองรวง”
10. เมนู “รากขาวสาวพันปี”
11. เมนู น้ำพริกบะเขือส้ม
ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างเมนูอาหารคนเมือง กับเมนูอาหารชาติพันธ์อาข่า อย่างลงตัว ไว้สำหรับต้อนรับนักท่องเที่ยวที่อยากมาชิมรสชาติอาหารวิถีเมืองรวง บ่ลวงใค๋ และบรรยากาศที่สวยงานของชุมชนต่อไป
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สนง.วัฒนธรรม เชียงราย

กฤษยา จันแดง, กัลยา แก้วประสงค์, สุพรรณี เตชะตน : ภาพ/รายงาน
ChiangKhongTV : ภาพ
อภิชาต กันธิยะเขียว : บรรณาธิการ
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
CULTURE

ขับเคลื่อนวัฒนธรรมบ้านศรีดอนชัย พัฒนาต่อยอด 10 สุดยอดเที่ยวชุมชนยลวิถี

 
วันอาทิตย์ที่ 6 สิงหาคม 2566ณ ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านศรีดอนชัย อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย โดยนายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย มอบหมายให้นางสาวกฤษยา จันแดง ผู้อำนวยการกลุ่มกิจการพิเศษ พร้อมด้วยนางกัลยา แก้วประสงค์ นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ รับผิดชอบงานขับเคลื่อนเที่ยวชุมชน ยลวิถี และงานพัฒนาผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย และนางสุพรรณี เตชะตน นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการรับผิดชอบงานชุมชนวัฒนธรรมไทยสร้างเสริมเศรษฐกิจ (ตลาดวัฒนธรรม) ให้ลงพื้นที่ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านศรีดอนชัย ดำเนินการขับเคลื่อนงานวัฒนธรรม ดังนี้
 
ร่วมประชุมหารือแนวทางการดำเนินการจัด “กาดลื้อศรีดอนชัย” ภายใต้โครงการชุมชนวัฒนธรรมไทยสร้างเสริมเศรษฐกิจ ซึ่งได้รับสนับสนุนงบประมาณดำเนินการจากกรมส่งเสริมวัฒนธรรม โดยมีพระครูสุจิณวรคุณ เจ้าคณะตำบลศรีดอนชัย/เจ้าอาวาสวัดท่าข้ามศรีดอนชัย เป็นประธานปรึกษาหารือ ที่ประชุมเห็นพ้องกำหนดจัดกาดลื้อศรีดอนชัย ครั้งที่ 1 ในวันเสาร์ที่ 2 กันยายน 2566 ณ วัดท่าข้ามศรีดอนชัย
 
ปรึกษาหารือแนวทางการพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมไทย ของชุมชนคุณธรรมฯ บ้านศรีดอนชัย ร่วมกับนางแว่นแก้ว ภิรมย์พลัด ประธานกลุ่มสตรีทอผ้าศรีดอนชัย และนางผดุง สุทธิประทีป ประธานกลุ่มสัมมาชีพ
และติดตามการถ่ายทำสื่อวีดิทัศน์ “ข้ามทุกข์ พบสุข ที่วัดท่าข้ามศรีดอนชัย” กิจกรรมการนำอัตลักษณ์ชุมชน มาสร้างเสน่ห์ด้านการท่องเที่ยวการนำทุนทางวัฒนธรรม (5F/5F+) มาพัฒนาต่อยอดเป็นสินค้าและบริการทางวัฒนธรรม โดยการคิดค้นหรือพัฒนาจุดแข็งวัฒนธรรมใหม่ๆ สร้างโอกาสด้านการท่องเที่ยว ภายใต้โครงการพัฒนาศักยภาพและความพร้อมสุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” จังหวัดเชียงราย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สนง.วัฒนธรรม เชียงราย

กฤษยา จันแดง, กัลยา แก้วประสงค์, สุพรรณี เตชะตน : รายงาน/ภาพ
อภิชาต กันธิยะเขียว : บรรณาธิการ
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
CULTURE

การประชุมคณะสงฆ์จังหวัดเชียงราย สมัยสามัญ ครั้งที่ 4/2566

พระเดชพระคุณพระพุทธิญาณมุนี (ประเสริฐ ปญฺญาวชิโร) เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย เจ้าอาวาสวัดพระธาตุผาเงา อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย เป็นประธานการประชุมคณะสงฆ์จังหวัดเชียงราย สมัยสามัญ ครั้งที่ 4/2566 ระดับเจ้าคณะจังหวัด รองเจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะอำเภอ และเลขานุการ ในวันศุกร์ที่ 4 สิงหาคม 2566 เวลา 13.00 – 17.00 น. ณ ห้องประชุมชั้น 1 วิทยาลัยสงฆ์เชียงราย (ดอยจำปี) มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย โดยมีประเด็นสำคัญของการประชุมฯ ดังนี้
 
1. การดำเนินงานโครงการ “หมู่บ้านรักษาศีล 5” ในปี 2566
2. การดำเนินงานหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบล (อ.ป.ต.)
3. การดำเนินงานโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข ด้วยกิจกรรม 5 ส.
4. การบริหารจัดการพุทธมณฑลสมโภส 750 ปี เมืองเชียงราย
5. การบริหารจัดการวิทยาลัยสงฆ์เชียงราย (มจร.)
6. การสอบธรรมสนามหลวง ประจำปี 2566
7. การจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์และเจริญจิตตภาวนาถวายพระราชกุศล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2566
8. เจ้าภาพเสากลาง วิหารพระเจ้าเม็งราย
9. การจัดตั้งกองทุนฌาปนกิจสงเคราะห์คณะสงฆ์จังหวัดเชียงราย
10. การตรวจการคณะสงฆ์และประชุมพระสังฆาธิการ
11. กำหนดงานมุทิตาจิตแก่พระภิกษุสามเณรผู้สอบพระปริยัติธรรมแผนกบาลีได้ ประจำปี 2566
12. การอบรมนักธรรมก่อนสอบธรรมสนามหลวง ประจำปี 2566
13. โครงการอบรมบาลีก่อนสอบภาค 6 ปีที่ 1
14. นโยบายและแผนยุทธศาสตร์การปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนา คณะสงฆ์จังหวัดเชียงราย
 
ในโอกาสนี้ นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย มอบหมายให้ นายสุพจน์ ทนทาน นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ ข้าราชการสำนักวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย เข้าร่วมการประชุมฯ พร้อมทั้งแจ้งประเด็นสำคัญ ดังนี้
1. ขอความร่วมมือศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์จังหวัดเชียงราย 104 ศูนย์ จัดส่งรายงานประจำปี พ.ศ. 2566 เพื่อรวบรวม สรุป และส่งให้ กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม ต่อไป
2. แจ้งการโอนเงินอุดหนุนศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ รอบที่ 2 และรอบที่ 3
3. การติดตามประเมินผลศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ประจำปี พ.ศ. 2566
 
ทั้งนี้ การประชุมฯ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและบรรลุผลสำเร็จทุกประการ
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สนง.วัฒนธรรม เชียงราย

พัชรนันท์ แก้วจินดา , สุพจน์ ทนทาน : รายงาน 
สุพจน์ ทนทาน : ภาพ 
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
CULTURE

วัฒนธรรมเชียงราย ส่งเสริมการท่องเที่ยว เชิงสร้างสรรค์ อ.แม่สาย

เมื่อวันจันทร์ที่ 24 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา เวลา 13.00- 18.00 น. สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดเชียงรายดำเนินการทดสอบกิจกรรมการท่องเที่ยว โครงการการพัฒนากิจกรรมและการตลาด เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ กิจกรรมหลัก การพัฒนากิจกรรมและผลิตภัณฑ์เพื่อส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว กิจกรรมย่อย การพัฒนาสินค้าและบริการด้วยนวัตกรรมการออกแบบบริการ เพื่อต่อยอดชุมชนทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ จังหวัดเชียงราย ณ ชุมชนไตหย่า บ้านศาลาเชิงดอย ตำบลห้วยไคร้ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
 
วัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรมเพื่อทดสอบและพัฒนาต่อยอดสินค้า และบริการทางการท่องเที่ยวชุมชน โดยมีเส้นทางท่องเที่ยว ดังนี้
 
จุดที่ 1 ไหว้พระวัดศาลาเชิงดอย
จุดที่ 2 เรียนรู้วิถีชุมชนไตหย่า ณ คริสตจักรนทีธรรมบ้านน้ำบ่อขาว ได้แก่ การทอเสื่อกก, ทำขนมข้าวแหลก, การทำกระเป๋าใบเล็ก, ชมช็อปผลิตภัณฑ์ผ้าทอ เสื้อ กระเป๋าผ้า, ชิมชา ขนมไต่หย่า, ชมศิลปะการแสดง และรับประทานอาหารไต่หย่า
 
ในการนี้ นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย มอบหมายให้ นางพรทิวา ขันธมาลา ผอ.กลุ่มยุทธศาสตร์และเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม และนายเอกณัฏฐ์ กาศโอสถ นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ เข้าร่วมทดสอบกิจกรรมการท่องเที่ยวฯ และ ผอ.กลุ่มยุทธศาสตร์ฯ ได้ร่วมให้ข้อเสนอแนะเพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาให้เป็นชุมชนท่องเที่ยวในโอกาสต่อไปด้วย
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สนง.วัฒนธรรม เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
CULTURE

​เยาวชนเชื้อสายไทยคืนถิ่น เข้าพบนายกฯ-ครม. โชว์วัฒนธรรมไทย

 

เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2566 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ร่วมชมกิจกรรมเผยแพร่ส่งเสริมภาพลักษณ์ ความเป็นไทย ในโครงการเยาวชนเชื้อสายไทยคืนถิ่น ประจำปี 2566 โดยมีนายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นางสาวฐิต์ณัฐ สมบัติศิริ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่  วิทยากร และเยาวชนเชื้อสายไทยคืนถิ่น ให้การต้อนรับ ณ ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล 

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้ชมการแสดงความสามารถของเยาวชนผู้เข้าร่วมโครงการเยาวชนเชื้อสายไทยคืนถิ่น ด้วยการสาธิตศิลปวัฒนธรรม Nora Thai Fit (โนรา ไทยฟิต) โดยเป็นการผสมผสานนาฏศิลป์ไทยโนราเข้ากับการออกกำลังกาย ซึ่งเป็นการสร้างสรรค์ระหว่างศิลปะและวัฒนธรรมเข้ากับการปฏิบัติ เพื่อให้ศิลปวัฒนธรรมไทยเข้าใกล้กับวิถีคนในยุคปัจจุบันมากยิ่งขึ้น อีกทั้งท่าไทยฟิตที่ออกแบบจาก “โนรา” เป็นศิลปะการแสดงทางภาคใต้ของประเทศไทย ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ขององค์การยูเนสโก และได้พบปะพูดคุยกับเยาวชน รับฟังความประทับใจต่อโครงการฯ และความภาคภูมิใจที่เป็นเยาวชนเชื้อสายไทย จากตัวแทนเยาวชน พร้อมทั้งมอบหมายให้ นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง นำเยาวชนเชื้อสายไทยคืนถิ่นเข้าชมตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล 

นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า วธ.มีนโยบายพัฒนาความสัมพันธ์ด้านวัฒนธรรมกับต่างประเทศ ส่งเสริมบทบาททางวัฒนธรรมของไทยในเวทีโลก ตามแนวทางการทูตวัฒนธรรม (Cultural Diplomacy) โดยการแลกเปลี่ยน เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารด้านศิลปวัฒนธรรม และเชื่อมโยงเครือข่ายทางวัฒนธรรมทั่วโลก ช่วยสร้างรายได้และภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศ ก่อให้เกิดความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืนตามเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี วธ. จึงได้ดำเนินโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งกับเครือข่ายวัฒนธรรมไทยในต่างประเทศ ในการจัดกิจกรรมเยาวชนเชื้อสายไทยคืนถิ่นร่วมกับเครือข่ายวัฒนธรรมไทย ซึ่งได้จัดมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 จนถึงปัจจุบัน เพื่อให้เยาวชนไทยในต่างประเทศได้มีโอกาสกลับมาเยือนแผ่นดินของบรรพบุรุษ ตระหนักถึงความเป็นไทย เรียนรู้ประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม ประเพณีของไทยจากประสบการณ์ตรง สามารถเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทยให้กับเครือข่าย และขยายความร่วมมือด้านเครือข่ายในการเผยแพร่วัฒนธรรมไทยในต่างประเทศ เกิดภาพลักษณ์ ความเป็นไทย ที่ดีในหมู่ชาวต่างประเทศ ผ่านเยาวชนไทยที่เกิดหรือเติบโตและมีถิ่นพำนักในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งเปรียบเสมือนตัวแทนทูตวัฒนธรรมของประเทศไทย นำไปสู่การสื่อสารความรู้ความเข้าใจเรื่องศิลปวัฒนธรรมไทย ในระดับนานาชาติ

รมว.วธ. กล่าวด้วยว่า สำหรับโครงการเยาวชนเชื้อสายไทยคืนถิ่น ประจำปี 2566 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 17 – 20 กรกฎาคม 2566 มีเยาวชนเชื้อสายไทยที่มีถิ่นพำนักในต่างประเทศ จำนวน 40 คน จาก 11 ประเทศทั่วโลก ได้แก่ 
จีน ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส เมียนมาร์ เยอรมนี สวีเดน สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย เข้าร่วมกิจกรรมในรูปแบบต่างๆ  ประกอบด้วย กิจกรรมรับฟังคำบรรยาย ในหัวข้อ “เรียนรู้อย่างไทยในต่างแดน” 
กิจกรรมบรรยายพร้อมสาธิตและฝึกปฏิบัติการด้าน “ศิลปวัฒนธรรมไทย ภาพรวม-ดั้งเดิม-ร่วมสมัย-ไทยฟิต” 
การบรรยายและฝึกปฏิบัติการหัวข้อ “My Channel” รวมถึง วธ. ได้คัดสรรแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมในพื้นที่จังหวัดราชบุรี ให้เยาวชนเชื้อสายไทยได้ลงพื้นที่สาธิตและฝึกปฏิบัติด้านศิลปวัฒนธรรมไทย รวมถึงเรียนรู้วิถีชีวิตภูมิปัญญาของชุมชน อาทิ วิสาหกิจชุมชนบ้านช่างสกุลบายศรี, ศูนย์การเรียนรู้เรื่องโอ่ง, พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ราชบุรีและวัดมหาธาตุวรวิหาร ศูนย์วัฒนธรรมไทยทรงดำบ้านหัวเขาจีน รวมถึงมีกิจกรรมนันทนาการ และการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในลักษณะกิจกรรมกลุ่ม  

นายอิทธิพล กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดกิจกรรมเยาวชนเชื้อสายไทยคืนถิ่น นอกจากจะเป็นการฟื้นฟูจิตสำนึก
ความเป็นไทยและเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนไทยในต่างแดนแล้ว ยังส่งผลให้ชุมชนไทยในต่างแดนเหล่านี้ 
เป็นภาคส่วนหนึ่งของสังคมไทย ที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมไทยให้เป็นสังคมที่มีสันติสุข และเป็นตัวแทนที่ดี
ของชาวไทยในต่างแดน ที่สามารถสื่อสารความรู้ด้านวัฒนธรรมไทยไปสู่ประชากรในดินแดนที่ตนตั้งถิ่นฐาน 
อีกทั้งยังเป็นการบูรณาการความร่วมมือในการดำเนินงานในภารกิจของกระทรวงวัฒนธรรม ให้บรรลุผลสำเร็จ
ในการเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนไทยและเครือข่ายวัฒนธรรมไทยในต่างประเทศอีกด้วย

 
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงวัฒนธรรม

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
CULTURE

วธ.เตรียมเผยหนังสือหายาก“ปกีรณำพจนาดถ์และอนันตวิภาค””

 

นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการส่งเสริม สืบสาน และธำรงรักษาอัตลักษณ์ความเป็นไทยด้วยภาษาไทย เพื่อหารือเตรียมจัดกิจกรรมเนื่องในวันภาษาไทยแห่งชาติ ปี 2566 ว่า เนื่องในวันที่ 29 กรกฎาคม ของทุกปี เป็นวันภาษาไทยแห่งชาติ รัฐบาล โดยกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ได้ดำเนินการจัดงานเนื่องใน วันภาษาไทยแห่งชาติมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อน้อมนำพระบรมราโชบายและพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการทรงงาน เพื่อสืบสาน รักษาและต่อยอดแนวพระราชดำริ ด้านภาษาไทยของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รวมถึงเพื่อกระตุ้นให้เด็ก เยาวชน และประชาชนชาวไทย ตลอดจนสถาบันการศึกษา องค์กร หน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนตระหนักในความสำคัญของภาษาไทยและใช้ให้ถูกต้อง ร่วมทั้งอนุรักษ์ภาษาไทยซึ่งเป็นภาษาประจำชาติให้งดงามอย่างยั่งยืน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า สำหรับงานวันภาษาไทยแห่งชาติ พุทธศักราช 2566 กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนบูรณาการองค์ความรู้ และแนวคิดร่วมกันจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อส่งเสริมให้คนไทย ใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้อง เกิดความรักและหวงแหนความเป็นไทย ตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของภาษาไทย ในวันที่ 24 กรกฎาคม 2566 ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย โดยจะมีพิธีมอบโล่เกียรติยศและโล่รางวัลแก่หน่วยงานและผู้ได้รับรางวัลด้านภาษาไทย อาทิ รางวัลปูชนียบุคคลด้านภาษาไทย ผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่นชาวไทย ผู้ใช้ภาษาไทยถิ่นดีเด่น และผู้มีคุณูปการต่อการใช้ภาษาไทย พุทธศักราช 2566 ด้านการประกวดหรือแข่งขันทักษะทางภาษาไทย อาทิ รางวัลสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เนื่องในวันภาษาไทยแห่งชาติ พุทธศักราช 2566 หัวข้อ “มนต์รักษ์ภาษาไทย” รูปแบบคลิปวิดีโอเพลงแรป รางวัลเพชรในเพลง  รวมถึงรางวัลอ่านทำนองเสนาะ “สดับถ้อยร้อยกรองไทย ครั้งที่ 2” ที่จัดประกวดด้วยความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วประเทศ ตลอดจนการเผยแพร่วีดิทัศน์ส่งเสริมการใช้ภาษาไทยของสถานเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย โดยจะมีการมอบเกียรติบัตรให้แก่สถานเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทยที่ส่งเสริมการใช้ภาษาไทยด้วย

นายอิทธิพล กล่าวว่า นอกจากนี้ กรมศิลปากร ได้จัดพิมพ์หนังสือเก่าหายาก เรื่อง “ปกีรณำพจนาดถ์และอนันตวิภาค” (ปะ- กี- ระ -นำ- พด -จะ -นาด และ อะ- นัน.-ตะ -วิ พาก) จัดพิมพ์สูจิบัตร และกรมส่งเสริมวัฒนธรรมจัดพิมพ์หนังสือประวัติผลงานปูชนียบุคคลด้านภาษาไทย ผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่นชาวไทย ผู้ใช้ภาษาไทยถิ่นดีเด่น และผู้มีคุณูปการต่อการใช้ภาษาไทย พุทธศักราช 2566 และได้ร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดละครเพลงเรื่อง “หัวใจอภัยมณี” Heart of Stone The Musical รำลึกกวีเอก สุนทรภู่ สืบสานการใช้ภาษาไทย ในวันที่ 19 – 20 กรกฎาคม 2566 ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย นับได้ว่าผู้ที่ได้รับรางวัล ผู้ที่ร่วมงานทุกคน ตลอดจนหน่วยงานที่ในความร่วมมือร่วมจัดกิจกรรมวันภาษาไทยแห่งชาติ ปี 2566 มีส่วนสำคัญที่ได้ร่วมกันถ่ายทอดวัฒนธรรมภาษาไทยได้อย่างถูกต้องเหมาะสม และเป็นแบบอย่างที่ดีของการสร้างความตระหนักในคุณค่าของภาษาไทย

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงวัฒนธรรม

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News