
แม่สายฟื้นตัวจากอุทกภัย: การประปาฯ และหน่วยงานท้องถิ่นระดมช่วยเหลือประชาชน
เชียงราย, 24 พฤษภาคม 2568 – อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เผชิญสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันจากฝนตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงกลางดึกของวันที่ 23 พฤษภาคม 2568 ส่งผลให้แม่น้ำสายเอ่อล้นตลิ่ง ท่วมชุมชนและพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ อย่างไรก็ตาม ด้วยความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐและท้องถิ่น รวมถึงการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) สาขาแม่สาย ที่เริ่มทยอยจ่ายน้ำประปาให้ประชาชนได้ตั้งแต่เวลา 19.00 น. ของวันที่ 24 พฤษภาคม 2568 สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย พร้อมความหวังที่ชุมชนจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว การระดมกำลังจากกรมทรัพยากรน้ำ องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย และหน่วยงานในพื้นที่ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการบรรเทาความเดือดร้อนและปกป้องชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในยามวิกฤต
ฝนกระหน่ำและสายน้ำที่โหมกระพือ
ในช่วงค่ำของวันที่ 23 พฤษภาคม 2568 ท้องฟ้าเหนืออำเภอแม่สายเริ่มมืดครึ้มด้วยเมฆฝนหนาที่ยังคงเทน้ำลงมาอย่างต่อเนื่อง ชาวบ้านในชุมชนริมแม่น้ำสาย เช่น บ้านปิยะพร และชุมชนใกล้ตลาดสายลมจอย เริ่มสังเกตเห็นระดับน้ำในแม่น้ำที่สูงขึ้นอย่างผิดปกติ ฝนที่ตกหนักในพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำ รวมถึงในฝั่งเมียนมา ทำให้แม่น้ำสายรับน้ำปริมาณมหาศาลจนเกินกว่าพนังกั้นน้ำจะรับไหว ไม่นาน น้ำเริ่มล้นตลิ่ง ไหลเข้าท่วมถนน พื้นที่ลุ่มต่ำ และบ้านเรือนของประชาชนอย่างรวดเร็ว
สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงเมื่อน้ำท่วมขยายวงกว้าง ส่งผลกระทบต่อพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ เช่น ตลาดสายลมจอย และบริเวณด่านพรมแดนไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 ชาวบ้านจำนวนมากต้องเผชิญกับความสูญเสียทรัพย์สิน ขณะที่ระบบสาธารณูปโภค เช่น น้ำประปาและไฟฟ้า ถูกตัดขาดจากน้ำท่วมและตะกอนโคลนที่ไหลเข้าปิดกั้นระบบ การประปาส่วนภูมิภาคสาขาแม่สายต้องหยุดจ่ายน้ำชั่วคราว เนื่องจากน้ำดิบมีความขุ่นสูงเกินกว่าที่จะนำมาผลิตน้ำประปาได้ ความหวังของประชาชนในพื้นที่เริ่มริบหรี่ ขณะที่หลายครอบครัวต้องอพยพไปยังที่สูงเพื่อความปลอดภัย
เหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่แม่สายต้องเผชิญกับภัยพิบัติจากแม่น้ำสาย ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พื้นที่นี้เผชิญกับน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะในช่วงฤดูมรสุมที่ฝนตกหนักและน้ำจากลุ่มน้ำในเมียนมาไหลบ่าลงมา ชาวบ้านในชุมชนเริ่มตั้งคำถามถึงความพร้อมของโครงสร้างป้องกันน้ำท่วมและการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ ขณะที่หน่วยงานท้องถิ่นและรัฐบาลต้องเร่งหาทางแก้ไขเพื่อลดความเสียหายและฟื้นฟูความเชื่อมั่นของประชาชน
การระดมกำลังช่วยเหลือและฟื้นฟู
เมื่อสถานการณ์น้ำท่วมเริ่มรุนแรง หน่วยงานต่างๆ ในจังหวัดเชียงรายและระดับชาติไม่รอช้าที่จะลงมือปฏิบัติการช่วยเหลือทันที กรมทรัพยากรน้ำ ภายใต้การนำของนายธีระชุณ บุญสิทธิ์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ สั่งการให้สำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 1 จัดเตรียมเครื่องจักรและกำลังพลเพื่อเข้าสนับสนุนพื้นที่ประสบภัยในอำเภอแม่สาย โดยนายนิทัศน์ สุดดีพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 1 มอบหมายให้นายศิริศักดิ์ เกษารัตน์ ผู้อำนวยการส่วนการจัดสรรน้ำที่ 1 ลำปาง นำทีมเจ้าหน้าที่ 15 คน พร้อมเครื่องจักร ได้แก่ เครื่องสูบน้ำขนาด 12 นิ้ว 2 ชุด เครื่องสูบน้ำขนาด 3 นิ้ว 3 ชุด และรถบรรทุกน้ำขนาด 6,000 ลิตร 1 คัน เข้าติดตั้งเครื่องสูบน้ำในจุดวิกฤต เช่น ตลาดสายลมจอย ชุมชนบ้านปิยะพร และพื้นที่ลุ่มต่ำ เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่
ในขณะเดียวกัน องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย ภายใต้การนำของนางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย และรองผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย ระดมทรัพยากรเพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยมอบหมายให้นายสุธีระพงษ์ วันไชยธนวงศ์ รองนายก อบจ.เชียงราย พร้อมทีมงาน นำกระสอบทราย 9,000 ใบ รถบรรทุกน้ำ 4 คัน รวมถึงรถดับเพลิงที่บรรทุกน้ำได้ 12,000 ลิตร และเครื่องสูบน้ำ 4 ชุด เข้าสนับสนุนชุมชนในพื้นที่ประสบภัย นอกจากนี้ อบจ.เชียงรายยังส่งรถไถ 1 คัน เพื่อช่วยเคลียร์ตะกอนโคลนและสิ่งกีดขวางในพื้นที่น้ำท่วม
การประปาส่วนภูมิภาคสาขาแม่สาย ซึ่งเป็นหน่วยงานสำคัญในการจัดหาน้ำสะอาดให้ประชาชน ทำงานอย่างหนักเพื่อฟื้นฟูระบบน้ำประปา หลังจากน้ำดิบในแม่น้ำสายมีความขุ่นสูงจนไม่สามารถผลิตน้ำได้ในช่วงแรก เมื่อสถานการณ์น้ำเริ่มคลี่คลายและค่าความขุ่นลดลง ทีมงานของ กปภ.สาขาแม่สายสามารถเริ่มผลิตน้ำได้ในช่วงบ่ายของวันที่ 24 พฤษภาคม 2568 และทยอยจ่ายน้ำเข้าสู่ระบบท่อตั้งแต่เวลา 18.40 น. โดยคาดว่าจะสามารถให้บริการได้เต็มรูปแบบภายในเวลา 19.00 น. ของวันเดียวกัน กปภ.สาขาแม่สายออกแถลงการณ์ขออภัยในความไม่สะดวกและยืนยันความมุ่งมั่นในการฟื้นฟูการให้บริการโดยเร็วที่สุด
นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายบริเวณด่านพรมแดนไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 ร่วมกับนายสุธีระพงษ์ วันไชยธนวงศ์ และทีมงาน พบว่าระดับน้ำในแม่น้ำสายสูงเกินพนังกั้นน้ำ ส่งผลให้น้ำล้นผ่านกระสอบทรายแบบบิ๊กแบ็กที่กั้นไว้ใต้สะพาน ไหลเข้าท่วมชุมชนริมน้ำอย่างรวดเร็ว ผู้ว่าฯ สั่งการให้ทุกหน่วยงานในพื้นที่ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อเร่งระบายน้ำและป้องกันความเสียหายเพิ่มเติม พร้อมขอความร่วมมือจากประชาชนให้ติดตามข่าวสารและแจ้งเหตุฉุกเฉินผ่านหน่วยงานท้องถิ่น
การทำงานร่วมกันของหน่วยงานต่างๆ ไม่เพียงมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า แต่ยังรวมถึงการวางแผนป้องกันน้ำท่วมในระยะยาว เทศบาลตำบลแม่สายได้รับการสนับสนุนกระสอบทรายและเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมจาก อบจ.เชียงราย เพื่อใช้ในการบริหารจัดการน้ำในระดับชุมชน ขณะที่กรมทรัพยากรน้ำเตรียมประสานงานกับหน่วยงานข้ามพรมแดนในเมียนมา เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำสายและลดความเสี่ยงจากน้ำท่วมในอนาคต
ความหวังและการฟื้นตัวของชุมชน
เมื่อถึงช่วงเย็นของวันที่ 24 พฤษภาคม 2568 สถานการณ์ในอำเภอแม่สายเริ่มดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ระดับน้ำในแม่น้ำสายค่อยๆ ลดลง หลังจากฝนหยุดตกและเครื่องสูบน้ำทำงานอย่างต่อเนื่อง ชุมชนที่ได้รับผลกระทบ เช่น บ้านปิยะพร และพื้นที่ใกล้ตลาดสายลมจอย เริ่มเห็นน้ำลดลงจากถนนและบ้านเรือน การกลับมาของระบบน้ำประปาจาก กปภ.สาขาแม่สาย ช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงน้ำสะอาดสำหรับอุปโภคและบริโภคได้อีกครั้ง ซึ่งเป็นสัญญาณสำคัญของการฟื้นตัว
การสนับสนุนจาก อบจ.เชียงราย เช่น รถบรรทุกน้ำและกระสอบทราย ช่วยให้ชุมชนสามารถจัดการกับน้ำท่วมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นายสุธีระพงษ์ วันไชยธนวงศ์ รองนายก อบจ.เชียงราย กล่าวว่า “เราจะอยู่เคียงข้างพี่น้องประชาชนในทุกสถานการณ์ภัยพิบัติ และจะทำงานร่วมกับทุกหน่วยงานเพื่อให้แม่สายกลับสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุด” การลงพื้นที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดและทีมงานยังช่วยสร้างขวัญกำลังใจให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ
ในระยะยาว หน่วยงานต่างๆ มีแผนที่จะปรับปรุงโครงสร้างป้องกันน้ำท่วม เช่น การเสริมพนังกั้นน้ำและการขุดลอกลำน้ำ เพื่อลดความเสี่ยงจากน้ำท่วมในอนาคต การประสานงานข้ามพรมแดนกับเมียนมาเพื่อจัดการลุ่มน้ำสายอย่างบูรณาการก็เป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญ นอกจากนี้ ชุมชนในแม่สายจะได้รับการสนับสนุนด้านการฟื้นฟูเศรษฐกิจ เช่น การช่วยเหลือผู้ประกอบการในตลาดสายลมจอย เพื่อให้สามารถกลับมาเปิดร้านและดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ
ผลลัพธ์และความท้าทาย
การจัดการน้ำท่วมในอำเภอแม่สายครั้งนี้ประสบความสำเร็จในหลายด้าน ดังนี้:
- การตอบสนองอย่างรวดเร็ว การระดมเครื่องจักร กำลังพล และทรัพยากรจากกรมทรัพยากรน้ำ อบจ.เชียงราย และ กปภ.สาขาแม่สาย ช่วยลดผลกระทบและเร่งการฟื้นฟูได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การประสานงานระหว่างหน่วยงาน ความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐและท้องถิ่น รวมถึงการทำงานร่วมกับชุมชน สร้างความเข้มแข็งในการรับมือภัยพิบัติ
- การฟื้นฟูระบบสาธารณูปโภค การกลับมาของน้ำประปาภายใน 24 ชั่วโมงหลังน้ำท่วมแสดงถึงความพร้อมของ กปภ.สาขาแม่สายในการจัดการวิกฤต
- การสร้างขวัญกำลังใจ การลงพื้นที่ของผู้นำท้องถิ่นและผู้ว่าราชการจังหวัดช่วยให้ประชาชนรู้สึกได้รับการดูแลและสนับสนุน
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์นี้ยังเผยให้เห็นความท้าทายที่ต้องแก้ไข:
- โครงสร้างป้องกันน้ำท่วมที่ไม่เพียงพอ พนังกั้นน้ำและกระสอบทรายแบบบิ๊กแบ็กไม่สามารถต้านทานน้ำปริมาณมากได้ แสดงถึงความจำเป็นในการลงทุนพัฒนาโครงสร้างที่แข็งแรงกว่า
- การพึ่งพาน้ำจากลุ่มน้ำข้ามพรมแดนnน้ำท่วมส่วนหนึ่งเกิดจากฝนตกหนักในเมียนมา ซึ่งต้องมีการประสานงานข้ามชาติเพื่อบริหารจัดการน้ำ
- ความเปราะบางของชุมชนลุ่มต่ำ ชุมชนริมแม่น้ำสายยังคงเสี่ยงต่อน้ำท่วมซ้ำซาก ต้องมีการยกระดับที่อยู่อาศัยและวางแผนผังเมืองใหม่
- ผลกระทบทางเศรษฐกิจ ตลาดสายลมจอยและผู้ประกอบการในพื้นที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งอาจส่งผลต่อเศรษฐกิจท้องถิ่นในระยะสั้น
เพื่อรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ ควรมีการดำเนินการเพิ่มเติม ดังนี้:
- ลงทุนในโครงสร้างป้องกันน้ำท่วม สร้างเขื่อนหรือพนังกั้นน้ำที่ทนทาน และขุดลอกลำน้ำเพื่อเพิ่มความจุน้ำ
- พัฒนาระบบเตือนภัยล่วงหน้า ใช้เทคโนโลยี เช่น แอปพลิเคชันแจ้งเตือนน้ำท่วม เพื่อให้ประชาชนเตรียมตัวได้ทันท่วงที
- ประสานงานข้ามพรมแดน สร้างความร่วมมือกับเมียนมาในการบริหารจัดการลุ่มน้ำสาย เพื่อลดความเสี่ยงจากน้ำท่วม
- สนับสนุนการฟื้นฟูเศรษฐกิจ จัดตั้งกองทุนช่วยเหลือผู้ประกอบการและให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อฟื้นฟูธุรกิจ
สถิติและแหล่งอ้างอิง
เพื่อให้เห็นภาพความรุนแรงของน้ำท่วมและความสำคัญของการจัดการภัยพิบัติ ข้อมูลต่อไปนี้รวบรวมจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ:
- จำนวนครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในแม่สาย
- ในปี 2567 น้ำท่วมในอำเภอแม่สายส่งผลกระทบต่อครัวเรือนกว่า 51,865 ครัวเรือน โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มต่ำ
- แหล่งอ้างอิง: กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย. (2567). รายงานสถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดเชียงราย.
- ความเสียหายทางเศรษฐกิจ
- น้ำท่วมในแม่สายเมื่อปี 2567 สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจประมาณ 4,000 ล้านบาท โดยเฉพาะในพื้นที่ตลาดสายลมจอยและชุมชนริมน้ำ
- แหล่งอ้างอิง: หอการค้าไทย. (2567). รายงานผลกระทบน้ำท่วมต่อเศรษฐกิจจังหวัดเชียงราย.
- การสนับสนุนจากหน่วยงาน
- ในปี 2567 หน่วยงานท้องถิ่นและรัฐบาลใช้เครื่องสูบน้ำกว่า 50 ชุดและกระสอบทรายกว่า 100,000 ใบในการจัดการน้ำท่วมทั่วภาคเหนือ
- แหล่งอ้างอิง: กรมทรัพยากรน้ำ. (2567). รายงานการจัดการภัยพิบัติน้ำท่วมภาคเหนือ.
- ความถี่ของน้ำท่วมในแม่สาย
- อำเภอแม่สายเผชิญน้ำท่วมจากแม่น้ำสายเฉลี่ย 3–4 ครั้งต่อปีในช่วงฤดูมรสุม (กรกฎาคม–ตุลาคม)
- แหล่งอ้างอิง: สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ. (2567). รายงานสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำสา
เครดิตภาพและข้อมูลจาก :
- การประปาส่วนภูมิภาคสาขาแม่สาย
- กรมทรัพยากรน้ำ
- สำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 1
- องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย
- เทศบาลตำบลแม่สาย