Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

Traffy Fondue ช่วยภาครัฐ 4.0 “ผู้ว่าฯ” รับแจ้งปัญหาเชียงราย

เชียงรายเปิดอบรมพัฒนาประสิทธิภาพการจัดการเรื่องร้องเรียนประชาชน ผ่านแอปฯ Traffy Fondue

[วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุมราชพฤกษ์ โรงแรมทีค การ์เด้น สปา รีสอร์ท ตำบลบ้านดู่ อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย] นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการตามโครงการพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารจัดการเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์และปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ด้วยแอปพลิเคชัน Traffy Fondue เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดเชียงราย โดยมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย หัวหน้าสำนักงานจังหวัดเชียงราย หัวหน้าส่วนราชการ และผู้เข้าร่วมการฝึกอบรมกว่า 360 คน เข้าร่วม

ผู้ว่าฯ เชียงราย ชูความสำคัญการบริการภาครัฐที่เข้าถึงประชาชน

นายชรินทร์กล่าวว่า การพัฒนาประสิทธิภาพการให้บริการภาครัฐแก่ประชาชน โดยเฉพาะการรับแจ้งเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ และการบริหารจัดการปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่หน่วยงานภาครัฐต้องให้ความสำคัญ หน่วยงานภาครัฐต้องจัดให้มีเครื่องมือและช่องทางที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล จังหวัดเชียงรายจึงให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยี นวัตกรรม และดิจิทัล มาใช้ในการปฏิบัติงานรับแจ้งเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยประชาชนสามารถแจ้งเรื่องปัญหาความเดือดร้อนได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ง่าย และทันสมัย ทุกที่ทุกเวลา

เชียงรายเปิดอบรมพัฒนาประสิทธิภาพการจัดการเรื่องร้องเรียนประชาชน ผ่านแอปฯ Traffy Fondue

[วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุมราชพฤกษ์ โรงแรมทีค การ์เด้น สปา รีสอร์ท ตำบลบ้านดู่ อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย] นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการตามโครงการพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารจัดการเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์และปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ด้วยแอปพลิเคชัน Traffy Fondue เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดเชียงราย โดยมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย หัวหน้าสำนักงานจังหวัดเชียงราย หัวหน้าส่วนราชการ และผู้เข้าร่วมการฝึกอบรมกว่า 360 คน เข้าร่วม

ผู้ว่าฯ เชียงราย ชูความสำคัญการบริการภาครัฐที่เข้าถึงประชาชน

นายชรินทร์กล่าวว่า การพัฒนาประสิทธิภาพการให้บริการภาครัฐแก่ประชาชน โดยเฉพาะการรับแจ้งเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ และการบริหารจัดการปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่หน่วยงานภาครัฐต้องให้ความสำคัญ หน่วยงานภาครัฐต้องจัดให้มีเครื่องมือและช่องทางที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล จังหวัดเชียงรายจึงให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยี นวัตกรรม และดิจิทัล มาใช้ในการปฏิบัติงานรับแจ้งเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยประชาชนสามารถแจ้งเรื่องปัญหาความเดือดร้อนได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ง่าย และทันสมัย ทุกที่ทุกเวลา

สอดคล้องยุทธศาสตร์ชาติและนโยบายรัฐบาล

ผู้ว่าฯ เชียงราย กล่าวต่อว่า ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี พ.ศ. 2561 – 2580 ให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยี นวัตกรรม และดิจิทัล มาพัฒนาประเทศและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยกำหนดยุทธศาสตร์ชาติด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ มุ่งส่งเสริมการเป็นภาครัฐที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ตอบสนองความต้องการและให้บริการอย่างสะดวกรวดเร็ว มีระบบการบริหารจัดการ พัฒนา และปรับระบบวิธีการปฏิบัติราชการให้ทันสมัย เชื่อมโยงในการให้บริการสาธารณะต่างๆ ผ่านการนำเทคโนโลยี นวัตกรรม และดิจิทัล มาประยุกต์ใช้เพื่อให้สามารถติดต่อราชการได้โดยง่าย สะดวก รวดเร็ว โปร่งใส เสียค่าใช้จ่ายน้อย และให้เป็นภาครัฐของประชาชน

ทิศทางการพัฒนาประเทศไทยมุ่งพัฒนาตามแนวทางประเทศไทย 4.0 และการพัฒนาเมืองให้เป็นเมืองอัจฉริยะ หรือ Smart City เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการให้บริการและการบริหารจัดการเมือง และนโยบายรัฐบาลปัจจุบันมุ่งใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการให้บริการ มาเพิ่มประสิทธิภาพ ลดค่าใช้จ่าย และปรับปรุงการทำงานของภาครัฐให้เป็นรัฐบาลดิจิทัล ทำให้ประชาชนได้รับความสะดวกมากยิ่งขึ้น

การอบรมเชิงปฏิบัติการ: พัฒนาบุคลากรใช้แอปฯ Traffy Fondue

การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ มุ่งเน้นการพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถในการใช้แอปพลิเคชัน Traffy Fondue ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการรับแจ้งและจัดการเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ของประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยผู้เข้าร่วมการอบรมจะได้รับการฝึกฝนทักษะการใช้งานแอปพลิเคชัน การวิเคราะห์ข้อมูล และการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นายชรินทร์กล่าวว่า การอบรมครั้งนี้เป็นโอกาสอันดีสำหรับบุคลากรภาครัฐในการพัฒนาตนเองให้มีความพร้อมในการให้บริการประชาชนอย่างเต็มที่ และขอให้ผู้เข้ารับการอบรมตั้งใจศึกษาหาความรู้ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาจังหวัดเชียงรายให้เป็นเมืองที่น่าอยู่และประชาชนมีความสุขอย่างยั่งยืน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
FOLLOW ME
MOST POPULAR
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

เชียงรายเร่งอบรมดูแลสุขภาพจิต ผู้ใช้ยา รับมือปัญหาชุมชน

เชียงรายเปิดอบรมดูแลสุขภาพจิตผู้ใช้สารเสพติดในชุมชน เสริมศักยภาพบุคลากรรับมือปัญหา

เชียงราย, 7 กุมภาพันธ์ 2568 –    โรงแรม เอ็ม บูทีค รีสอร์ท เชียงราย นายญาณาฤทธิ์ หนสมสุข รองปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย รักษาราชการแทนปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมการดูแลสุขภาพจิตสำหรับผู้ใช้สารเสพติดในชุมชนอย่างเหมาะสม ภายใต้โครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรเพื่อการปฏิบัติงานในศูนย์คัดกรองยาเสพติด โดยมีบุคลากรผู้รับผิดชอบงานยาเสพติดและสุขภาพจิตจากสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในพื้นที่จังหวัดเชียงรายเข้าร่วม

ปัญหายาเสพติดในเชียงราย: ความท้าทายที่ต้องรับมือ

นายญาณาฤทธิ์กล่าวว่า สถานการณ์ปัญหายาเสพติดในจังหวัดเชียงรายยังคงเป็นเรื่องสำคัญ โดยปัจจุบันมีจำนวนผู้ใช้ยาเสพติดมากกว่าผู้ติดยาเสพติด ซึ่งเมื่อมีการเสพยาเสพติดในปริมาณมากและต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดอาการประสาทหลอน คลุ้มคลั่ง ขาดสติ หวาดระแวง และไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ซึ่งอาจนำไปสู่การทำร้ายตัวเองและผู้อื่น

อบจ.เชียงราย มุ่งมั่นแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างบูรณาการ

องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย (อบจ.เชียงราย) ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของปัญหายาเสพติด จึงมีนโยบายในการส่งเสริมการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง โดยได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) โครงการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น หน่วยงานทางการแพทย์ สถานพยาบาล หน่วยงานทางปกครอง หน่วยงานท้องถิ่น และหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด เพื่อให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและครอบคลุม

อบจ.เชียงราย มุ่งเน้นการดูแลสุขภาพผู้ป่วยแบบบูรณาการ โดยคำนึงถึงสิทธิมนุษยชนอย่างครอบคลุม เพื่อให้เกิดความสงบสุขแก่ประชาชน การอบรมบุคลากรที่ดูแลสุขภาพจิตสำหรับผู้ใช้สารเสพติดในชุมชนในครั้งนี้ ถือเป็นส่วนสำคัญในการติดตามดูแลผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง และให้การช่วยเหลือหลังการบำบัดรักษา โดยการประคับประคอง ให้คำแนะนำ คำปรึกษา เสริมสร้างกำลังใจและสร้างแรงจูงใจ ทั้งผู้ป่วยและครอบครัว ให้สามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างปกติ

การอบรม: เพิ่มศักยภาพบุคลากรดูแลผู้ใช้สารเสพติดในชุมชน

การอบรมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถในการดูแลสุขภาพจิตสำหรับผู้ใช้สารเสพติดในชุมชนอย่างเหมาะสม โดยจะมีการให้ความรู้เกี่ยวกับการวิเคราะห์จำแนกระดับความรุนแรงของผู้ป่วย การวางแผนการดูแล หรือการส่งต่อที่เหมาะสม รวดเร็ว และปลอดภัย รวมถึงการเพิ่มศักยภาพสำหรับบุคลากรในการปฏิบัติงานในศูนย์คัดกรองยาเสพติด

การอบรมนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเพิ่มพูนความรู้และทักษะให้กับบุคลากร แต่ยังเป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดูแลผู้ป่วยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยลดปัญหาการกลับไปเสพยาเสพติดซ้ำ ก่อความรุนแรงซ้ำ รวมถึงปัญหาด้านสังคมที่เกี่ยวข้องกับการติดยาเสพติด และสร้างความสงบสุขให้แก่ชุมชน

อบจ.เชียงราย หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การอบรมในครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อบุคลากรที่ปฏิบัติงานด้านการดูแลสุขภาพจิตผู้ใช้สารเสพติดในชุมชน และเป็นก้าวสำคัญในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในจังหวัดเชียงรายอย่างยั่งยืน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

เชียงรายเร่งเครื่องพัฒนาบุคลากร สู่การทำงานมืออาชีพรับใช้ประชาชน

เชียงรายเร่งพัฒนาบุคลากร เสริมศักยภาพการทำงานสู่มืออาชีพ

เชียงราย, 7 กุมภาพันธ์ 2568 –   ณ ห้องประชุมธรรมปัญญา ชั้น 2 อบจ.เชียงราย] นายรามิล พัฒนมงคลเชฐ ปลัด อบจ.เชียงราย ปฏิบัติหน้าที่ นายก อบจ.เชียงราย มอบหมายให้นางฐิรญาภัทร์ ธีติโรจนกาญจน์ ผอ.กองการเจ้าหน้าที่ อบจ.เชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการพัฒนาศักยภาพการทำงานอย่างมืออาชีพ ประจำปีงบประมาณ 2568 โดยมีคณะวิทยากรและผู้เข้าอบรมจากหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วมโครงการ

การบรรยายช่วงเช้า: แผนพัฒนาท้องถิ่นและการบริหารสัญญา

ในช่วงเช้าของการอบรม นายสุกรรณ์ คำภู ผอ.กลุ่มงานส่งเสริมและพัฒนาท้องถิ่น ได้บรรยายในหัวข้อ “การจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่น และการจัดทำโครงการ” โดยเน้นถึงความสำคัญของการวางแผนพัฒนาที่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน และการจัดทำโครงการที่สามารถนำไปปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม

ต่อมา นางฐิรญาภัทร์ ธีติโรจนกาญจน์ ผอ.กองการเจ้าหน้าที่ อบจ.เชียงราย ได้บรรยายในหัวข้อ “สังเกตการบริหารสัญญา การลดความเสี่ยงของงานก่อสร้าง” โดยให้ความรู้เกี่ยวกับการบริหารสัญญาอย่างมีประสิทธิภาพ และการลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในงานก่อสร้าง

การบรรยายช่วงบ่าย: การบริหารสัญญาและการใช้เงินสำรองจ่าย

ในช่วงบ่าย ผอ.กองคลัง อบจ.เชียงราย ได้บรรยายในหัวข้อต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารสัญญาและการเงิน ได้แก่

  1. การบริหารสัญญา
  2. การแจ้งหยุดงาน การแจ้งเข้างาน การแก้ไขสัญญาจ้าง
  3. การตรวจรับโครงการ
  4. แนวทางการใช้เงินสำรองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินและความจำเป็นเร่งด่วน

โดยเน้นถึงความสำคัญของการบริหารสัญญาอย่างถูกต้อง โปร่งใส และเป็นไปตามระเบียบ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่น และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ทางราชการและประชาชน

อบจ.เชียงราย มุ่งพัฒนาบุคลากรให้เป็นมืออาชีพ

อบจ.เชียงราย เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขนาดใหญ่ ที่มีภารกิจในการพัฒนาครอบคลุมทั้งจังหวัดเชียงราย การจัดบริการสาธารณะและกิจกรรมสาธารณะให้เกิดการตอบสนองความต้องการของประชาชน บุคลากรจึงเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนภารกิจขององค์กรให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนด

ดังนั้น อบจ.เชียงราย จึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีทักษะ ความรู้ ประสบการณ์ และขีดความสามารถในการทำงานที่ทันต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยมีเป้าหมายที่จะพัฒนาบุคลากรให้ครอบคลุมทุกประเภท ทุกระดับ ให้ทำงานอย่างมืออาชีพ มีความรู้ความเชี่ยวชาญในวิชาชีพ ปฏิบัติงานได้ตามมาตรฐานอย่างถูกต้อง สามารถประกันคุณภาพของงานที่ทำได้ รวมทั้งมีไหวพริบในการจัดการ แก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ และทำงานอย่างจริงจังโดยมุ่งมั่นตั้งใจให้เกิดผลงานที่ดีที่สุด

โครงการพัฒนาศักยภาพการทำงานอย่างมืออาชีพในครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งโครงการที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ อบจ.เชียงราย ในการพัฒนาบุคลากร เพื่อยกระดับการทำงานขององค์กรให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างดีที่สุด

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

มฟล. จัดวันนวัตกรรม โชว์ศักยภาพวิจัย เปิดตัว Maker Space

มฟล. จัดงาน MFU Innovation Day 2025 โชว์ศักยภาพวิจัย เปิดตัว COSMETIC MAKER SPACE

เชียงราย, 6 กุมภาพันธ์ 2568 –  มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) จัดงาน MFU Innovation Day 2025 อย่างยิ่งใหญ่ แสดงศักยภาพด้านการวิจัยและนวัตกรรม พร้อมเปิดตัว MFU COSMETIC MAKER SPACE และ COSMETIC LAB โดยมีนางสาวสุณีย์ เลิศเพียรธรรม หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานในพิธี

มฟล. โชว์ศักยภาพด้านวิจัยและนวัตกรร

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มัชฌิมา นราดิศร อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กล่าวว่า งาน MFU Innovation Day 2025 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-7 กุมภาพันธ์ 2568 ณ อาคาร E-Park และ I-Park มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ประกอบด้วยกิจกรรมสำคัญหลายส่วน ได้แก่

  • MFU IGNITE 2025 Pitching Showcase: นำเสนอแผนธุรกิจจากผลงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อต่อยอดสู่เชิงพาณิชย์
  • นิทรรศการใน 3 โซนหลัก:
    • MFU INNOVATION PLAYGROUND: แสดงผลงานและกิจกรรมของนักศึกษา
    • INNO JUMP MARKET 2025: รวบรวมสินค้านวัตกรรมจากผู้ประกอบการ
    • นิทรรศการวิชาการ: แสดงผลงานวิจัยและนวัตกรรม

เปิดตัว MFU COSMETIC MAKER SPACE และ COSMETIC LAB

ไฮไลท์สำคัญของงานคือการเปิดตัว MFU COSMETIC MAKER SPACE และ COSMETIC LAB ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกระทรวง อว. เพื่อยกระดับการให้บริการด้านสุขภาพและความงามแบบครบวงจร โดย มฟล. มีความโดดเด่นด้านองค์ความรู้และบุคลากรผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้ ซึ่งสอดคล้องกับโอกาสทางการตลาดที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

ปาฐกถาพิเศษจากหัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวง อว.

นางสาวสุณีย์ เลิศเพียรธรรม หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวง อว. ได้กล่าวในปาฐกถาพิเศษถึงนโยบายและผลงานสำคัญของกระทรวง อว. ภายใต้นโยบาย “เรียนดี มีความสุข มีรายได้” และ “วิจัย-นวัตกรรมดี ตอบโจทย์ ตรงความต้องการ” โดยมีเป้าหมายสำคัญ “2 ลด 2 เพิ่ม” คือ ลดภาระ ลดความเหลื่อมล้ำ เพิ่มทักษะ และเพิ่มโอกาส พร้อมผลักดัน 12 แผนงานสำคัญในปี 2568 รวมถึงการปฏิรูปอุดมศึกษาด้วยเทคโนโลยี AI และการผลักดันให้ไทยเป็น Education Hub

ส่งเสริมอุตสาหกรรมเครื่องสำอางไทย

นางสาวสุณีย์ยังกล่าวถึงการจัดตั้ง COSMETIC MAKER SPACE และ COSMETIC LAB ว่าจะช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมเครื่องสำอางของไทยให้มีคุณภาพมาตรฐาน ทันสมัย และปลอดภัย พร้อมผลักดันให้ไทยก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านการผลิตเครื่องสำอางในอาเซียน โดยใช้จุดแข็งด้านวัตถุดิบธรรมชาติที่เป็น “ขุมทรัพย์ความงามระดับโลก” ซึ่งจะช่วยพัฒนานวัตกรรมด้านสุขภาพและความงามจากผลิตผลทางการเกษตรที่เป็นอัตลักษณ์ของท้องถิ่น

กิจกรรมต่อเนื่องและรางวัล MFU INNO Prize 2025

ภายในงานยังมีการมอบรางวัล MFU INNO Prize 2025 และกิจกรรมต่อเนื่องในวันที่สอง อาทิ Workshop การทำน้ำหอมสูตรเฉพาะ กิจกรรม Flash Sale และ Business Matching & Consulting เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการในภูมิภาค

มฟล. ศูนย์กลางพัฒนานวัตกรรมและสนับสนุนผู้ประกอบการ

งาน MFU Innovation Day 2025 สะท้อนความมุ่งมั่นของ มฟล. ในการเป็นศูนย์กลางการพัฒนานวัตกรรมและการสนับสนุนผู้ประกอบการในภาคเหนือ ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่อย่างยั่งยืน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
HEALTH

“มะเร็งรักษาทุกที่” กลับสู่แนวทางเดิม ไม่ต้องใช้ใบส่งตัว

“มะเร็งรักษาทุกที่” กลับสู่แนวทางเดิม ผู้ป่วยไม่ต้องใช้ใบส่งตัว

กุมภาพันธ์ 2568 –  นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้ยกเลิกประกาศหลักเกณฑ์ “มะเร็งรักษาทุกที่” ฉบับใหม่แล้ว และกลับไปใช้ประกาศฉบับเดิม ทำให้ผู้ป่วยมะเร็งสามารถเข้ารับการรักษาได้ที่โรงพยาบาลที่มีศักยภาพ โดยไม่จำเป็นต้องมีใบส่งตัว

การแก้ไขปัญหา “มะเร็งรักษาทุกที่”

จากกรณีที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ได้สั่งการให้ สปสช. ดำเนินการแก้ไขปัญหากรณีการเข้ารับบริการตามนโยบาย “มะเร็งรักษาทุกที่” นั้น ล่าสุด นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช. ได้รายงานว่าได้ดำเนินการแก้ไขปัญหานี้เรียบร้อยแล้ว

ผู้ป่วยมะเร็งรับบริการได้ตามแนวทางเดิม

ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป รวมถึงวันที่ 1 เมษายน 2568 ผู้ป่วยมะเร็งสามารถเข้ารับบริการตามนโยบาย “มะเร็งรักษาทุกที่” ได้ตามแนวทางบริการเดิมที่โรงพยาบาลที่มีศักยภาพดูแลผู้ป่วยมะเร็ง โดยไม่จำเป็นต้องใช้ใบส่งตัวรับรองสิทธิในการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายจากหน่วยบริการประจำ

สปสช. รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเช่นเดิม

สปสช. ยังคงรับผิดชอบดูแลการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายตามนโยบายเช่นเดิม หน่วยบริการสามารถเบิกได้ทั้งค่ารังสีรักษา ยาเคมีบำบัด การผ่าตัด โรคแทรกซ้อนของมะเร็ง และโรคอื่นที่คนไข้มะเร็งเป็นร่วม

ระบบส่งข้อมูลผู้ป่วย

สำหรับการส่งข้อมูลผู้ป่วยนั้น มีระบบอิเล็กทรอนิกส์ TCB Plus ของสถาบันมะเร็ง กรมการแพทย์ และ Health Link ของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อใช้ลงทะเบียน รับส่งต่อและดูข้อมูลผู้ป่วยอยู่แล้ว โดยทางโรงพยาบาลรับส่งต่อสามารถดูข้อมูลผู้ป่วยผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวนี้ได้

ยกเลิกประกาศฉบับใหม่ กลับไปใช้ฉบับเดิม

เลขาธิการ สปสช. ได้ลงนามคำสั่งยกเลิกประกาศหลักเกณฑ์ “มะเร็งรักษาทุกที่” ฉบับใหม่ ที่จะบังคับใช้ 1 เมษายน 2568 แล้ว ซึ่งจะมีผลทำให้กลับไปใช้ประกาศหลักเกณฑ์ฯ ฉบับเดิม ปี 2566-2567 และได้ส่งหนังสือแจ้งเวียนหน่วยบริการทั่วประเทศรับทราบแล้ว

รัฐบาลใส่ใจสุขภาพประชาชน

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า รัฐบาลมีความใส่ใจอย่างยิ่งต่อภาวะเจ็บป่วยของประชาชน โดยมะเร็งเป็นโรคที่มีภาวะร้ายแรงต่อสุขภาพ การเข้ารับการรักษาโดยเร็วที่สุดจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อเพิ่มโอกาสการรักษาและลดความรุนแรงของโรค รวมถึงลดการเสียชีวิตลงได้ จึงนำมาสู่นโยบายมะเร็งรักษาทุกที่ โดยมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งยืนยันว่า ณ วันนี้รัฐบาลและหน่วยงานต่างๆ ซึ่งรวมถึง สปสช. ยังคงยืนยันหลักการนี้เช่นเดิม

สรุป

การกลับไปใช้ประกาศหลักเกณฑ์ “มะเร็งรักษาทุกที่” ฉบับเดิม ทำให้ผู้ป่วยมะเร็งสามารถเข้าถึงการรักษาได้ง่ายยิ่งขึ้น และได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องจากโรงพยาบาลที่มีศักยภาพ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
TOP STORIES

ปภ.ช. เอาจริง! ขึ้นบัญชีดำเกษตรกรเผา แก้ฝุ่นควันพิษ

ปภ.ช. สั่งเอาจริง! ขึ้นบัญชีดำเกษตรกรดื้อเผา แก้ปัญหาฝุ่นควัน

กุมภาพันธ์ 2568 – กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ปภ.ช.) ยกระดับมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นควัน สั่งเอาจริงกับเกษตรกรที่ยังดื้อดึงเผาพืชผลทางการเกษตร พร้อมขึ้นบัญชีดำผู้กระทำผิด

ปภ.ช. เร่งแก้ปัญหาฝุ่นควัน สั่งคุมเข้มห้ามเผา

น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ปภ.ช. ติดตามสถานการณ์ฝุ่นควันอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการคุมเข้มสั่งห้ามเผา และการตรวจจับดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด

กระทรวงเกษตรฯ เตรียมขึ้นบัญชีดำเกษตรกรดื้อเผา

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รายงานแนวทางและขั้นตอนการแจ้งเตือนและป้องปรามเกษตรกรไม่ให้เผา พร้อมส่งเสริมวิธีกำจัดเศษวัสดุทางการเกษตรแบบใหม่ เช่น การไถกลบตอซัง การใช้จุลินทรีย์และอินทรียวัตถุ

แม้จะได้รับความร่วมมือจากเกษตรกรส่วนใหญ่ แต่ยังมีบางส่วนที่ไม่ปฏิบัติตาม จึงเตรียมขึ้นบัญชีดำเกษตรกรที่ถูกตัดสิทธิ์และไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ซึ่งจะประกาศในเร็วๆ นี้

กรมป่าไม้เผยข้อมูลไฟป่าและจุดความร้อน

กรมป่าไม้ รายงานการจัดการไฟในพื้นที่ป่า พบว่า จังหวัดกำแพงเพชรเกิดไฟป่ามากที่สุด และพบจุดความร้อน (hotspots) สะสมในภาคเหนือมากที่สุด

กรมโรงงานฯ เผยข้อมูลโรงงานรับอ้อยเผา

กรมโรงงานอุตสาหกรรม รายงานจำนวนโรงงานรับอ้อยเผาเข้าหีบแต่ละภาคยังมีมาก แม้ภาพรวมปีนี้จะลดลงจากปีก่อน แต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคมของทุกปี เป็นช่วงที่เกษตรกรผู้ปลูกอ้อยจะเร่งเก็บผลผลิต ทำให้ยังคงมีการเผาอ้อยในหลายพื้นที่

ปภ.ช. สั่งทุกจังหวัดทำงานเชิงรุกแก้ปัญหาจุดความร้อน

ปภ.ช. มอบหมายทุกจังหวัด นำโดยผู้ว่าราชการจังหวัด ประสานงานกับกระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ทำงานเชิงรุก ตรวจสอบและแก้ไขปัญหาจุดความร้อนสูง โดยเฉพาะในจังหวัดเพชรบูรณ์และชัยภูมิ

สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 มีแนวโน้มกลับมาสูงอีกครั้ง

กรมควบคุมมลพิษคาดการณ์ว่า สถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 จะบรรเทาลงเล็กน้อยในช่วงวันที่ 4-5 กุมภาพันธ์ 2568 แต่หลังจากนั้น ค่าฝุ่นจะมีแนวโน้มกลับมาสูงอีกครั้ง โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคเหนือตอนล่าง

ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวควรเฝ้าระวังสถานการณ์จนถึงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2568 เนื่องจากสภาพอากาศที่นิ่งและจมตัว ทำให้การระบายอากาศต่ำ ประกอบกับลมที่แปรปรวนและข้อมูลจุดความร้อนที่ยังพบการเผาในหลายพื้นที่

มาตรการระยะยาว

นอกจากการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดแล้ว ปภ.ช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำลังพิจารณามาตรการระยะยาวเพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นควันอย่างยั่งยืน เช่น การส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การปรับปรุงระบบการจัดการพื้นที่เกษตร และการสร้างความตระหนักให้ประชาชนเห็นถึงผลกระทบของการเผาต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม

สรุป

ปภ.ช. สั่งเอาจริงกับเกษตรกรที่ยังดื้อดึงเผาพืชผลทางการเกษตร พร้อมขึ้นบัญชีดำผู้กระทำผิด เพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นควันอย่างจริงจัง ขณะเดียวกัน กรมควบคุมมลพิษคาดการณ์ว่าสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 จะกลับมาสูงอีกครั้ง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ปภ.ช.)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE

กรมวังผู้ใหญ่ประจำพระองค์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ติดตามการดำเนินงานตามโครงการราชทัณฑ์ปันสุขฯ ที่จังหวัดเชียงราย

Categories
AROUND CHIANG RAI SPORT

เชียงรายเปิดลานกีฬาเอ็กซ์ตรีมริมน้ำกก แลนด์มาร์คใหม่

เชียงรายเปิดตัวแลนด์มาร์คใหม่ ลานกีฬาเอ็กซ์ตรีมริมน้ำกก

เชียงราย, 6 กุมภาพันธ์ 2568 – นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย พร้อมด้วยส่วนงานที่รับผิดชอบ ได้ลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้าโครงการพัฒนาพื้นที่ริมน้ำกก ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร ตั้งแต่ฝายเชียงรายถึงหาดเชียงราย

การพัฒนาพื้นที่ริมน้ำกก

โครงการพัฒนาพื้นที่ริมน้ำกก เป็นโครงการที่เทศบาลนครเชียงรายให้ความสำคัญอย่างยิ่ง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาพื้นที่ริมน้ำกกให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจและสถานที่ออกกำลังกายสำหรับประชาชน ปัจจุบันโครงการได้ดำเนินการไปแล้ว 3-4 กิโลเมตร ประกอบด้วย สวนสาธารณะริมน้ำกก เลนวิ่ง เลนจักรยาน และลานกีฬาเอ็กซ์ตรีม

ลานกีฬาเอ็กซ์ตรีม เทศบาลนครเชียงราย

ลานกีฬาเอ็กซ์ตรีม เทศบาลนครเชียงราย บริเวณชุมชนร่องเสือเต้น เป็นหนึ่งในโครงการที่สำคัญของโครงการพัฒนาพื้นที่ริมน้ำกก หลังจากประสบปัญหาน้ำท่วมและดินโคนทับถม ปัจจุบันได้รับการฟื้นฟูและปรับปรุงใหม่ทั้งหมด เพื่อเปิดพื้นที่ให้นักกีฬาและประชาชนทั่วไปได้เข้ามาใช้พื้นที่ได้อย่างสะดวกและปลอดภัยมากขึ้น

นายกเทศมนตรีเน้นส่งเสริมกีฬา

นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย กล่าวว่า ลานกีฬาเอ็กซ์ตรีม เทศบาลนครเชียงราย แห่งนี้ ไม่ได้เน้นการแข่งขันอย่างเดียว แต่เน้นตั้งแต่เริ่มต้นเป็นนักกีฬาจนประสบความสำเร็จ และเป็นการกระตุ้นให้ออกกำลังกายมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อสุขภาพ

เชียงรายเมืองแห่งกีฬา

นายกเทศมนตรีกล่าวเพิ่มเติมว่า ผลงานหลายมิติที่ทำให้เชียงรายต้องขับเคลื่อนต่อไปด้านกีฬา และได้จัดกิจกรรมมากมายทางด้านกีฬารวมทั้งถนนสายกีฬา และเชื่อว่าอนาคตการจัดการแข่งขันกีฬาระดับประเทศจะทำให้นักท่องเที่ยวผู้ชื่นชอบกีฬาเข้ามาจังหวัดเชียงรายมากยิ่งขึ้น

สรุป

การพัฒนาพื้นที่ริมน้ำกกและลานกีฬาเอ็กซ์ตรีมในครั้งนี้ จะเป็นแลนด์มาร์คใหม่ของจังหวัดเชียงราย ที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยวและส่งเสริมให้ประชาชนหันมาออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดี

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : เทศบาลนครเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE

กรมวังผู้ใหญ่ประจำพระองค์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ติดตามการดำเนินงานตามโครงการราชทัณฑ์ปันสุขฯ ที่จังหวัดเชียงราย

Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

เตรียมรับเสด็จฯ สมเด็จพระเทพฯ ณ วัดหมื่นพุทธเมตตาคุณาราม

การประชุมเตรียมการรับเสด็จฯ สมเด็จพระเทพฯ ณ วัดหมื่นพุทธเมตตาคุณาราม

อำเภอแม่จัน เชียงราย, 5 กุมภาพันธ์ 2568 –  เวลา 10.30 น. ณ วัดหมื่นพุทธเมตตาคุณาราม อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ได้มีการประชุมเตรียมการรับเสด็จ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชทานดินบรรจุศพ พระมหาคณาจารย์จีนธรรมสมาธิวัตร (เย็นเต็ก) ณ วัชระเจดีย์บรรจุสรีระ วัดหมื่นพุทธเมตตาคุณาราม อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย 

การประชุมเตรียมความพร้อม

การประชุมในครั้งนี้มีพระคณาจารย์จีนธรรมชิรานุวัตร ปลัดขวาจีนนิกาย เจ้าอาวาสวัดมังกรกมลาวาส และนายรุจติศักดิ์ รังษี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานร่วมในการประชุม พร้อมด้วย พล.ท. ฉกาจ ประสงค์ ราชองครักษ์ประจำพระองค์ นายทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ ตำรวจวัง เจ้าหน้าที่กองพระราชพิธี เจ้าหน้าที่กรมโยธาธิการและผังเมือง หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง

บทบาทของสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย

นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยนายพิพัฒน์ สุ่มมาตย์ นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ นายสานุพงศ์ สันทราย นักวิชาการวัฒนธรรมปฏิบัติการ และเจ้าหน้าที่ของสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ได้เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงรายได้รับมอบหมายภารกิจในการสนับสนุนการปฏิบัติงานพิธีของกองพระราชพิธี ในระหว่างวันที่ 23 – 24 กุมภาพันธ์ 2568

วาระการประชุม

วาระสำคัญของการประชุมในวันนี้ คือการเตรียมความพร้อมในทุกด้านสำหรับการรับเสด็จฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยมีการหารือในรายละเอียดต่างๆ อาทิ การจัดเตรียมสถานที่ การอำนวยความสะดวกแก่ผู้มาร่วมงาน การรักษาความปลอดภัย การจราจร และการประชาสัมพันธ์ นอกจากนี้ ยังมีการประสานงานระหว่างหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติ

ความสำคัญของวัดหมื่นพุทธเมตตาคุณาราม

วัดหมื่นพุทธเมตตาคุณาราม เป็นวัดที่มีความสำคัญในพื้นที่อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย การเสด็จพระราชดำเนินของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของพระพุทธศาสนาและการสืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของไทย

การเตรียมงานอย่างรอบคอบ

การประชุมเตรียมการรับเสด็จฯ ในวันนี้ แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจและความมุ่งมั่นของทุกฝ่ายในการทำงานร่วมกัน เพื่อให้การรับเสด็จฯ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สมพระเกียรติ และเป็นที่ประทับใจของผู้มาร่วมงานทุกท่าน การเตรียมงานอย่างรอบคอบในครั้งนี้ จะส่งผลให้การจัดงานเป็นไปด้วยความราบรื่นและประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้

การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน

การประชุมในวันนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมืออันดีระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนในพื้นที่ ที่ร่วมกันทำงานเพื่อเตรียมการรับเสด็จฯ การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนนี้ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การจัดงานเป็นไปด้วยความสมบูรณ์และบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

สรุป

การประชุมเตรียมการรับเสด็จฯ ในครั้งนี้ เป็นการเตรียมความพร้อมในทุกด้านสำหรับการเสด็จพระราชดำเนินของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี การทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วนจะทำให้การจัดงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สมพระเกียรติ และสร้างความประทับใจแก่ผู้มาร่วมงาน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE

กรมวังผู้ใหญ่ประจำพระองค์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ติดตามการดำเนินงานตามโครงการราชทัณฑ์ปันสุขฯ ที่จังหวัดเชียงราย

Categories
SOCIETY & POLITICS

ม.พะเยา สืบสานสายใย เก็บดอกฝ้ายหลวง อนุรักษ์ฝ้ายพื้นเมือง

มหาวิทยาลัยพะเยาจัดกิจกรรม “สืบสานสายใย เก็บดอกฝ้ายหลวง” อนุรักษ์ฝ้ายพื้นเมืองและสืบสานประเพณี

พะเยา, 5 กุมภาพันธ์ 2568 –  มหาวิทยาลัยพะเยาจัดกิจกรรม “สืบสานสายใย เก็บดอกฝ้ายหลวง” ณ “สวนฝ้ายหลวง มหาวิทยาลัยพะเยา” โดยมีรองศาสตราจารย์ ดร.สุภกร พงศบางโพธิ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยพะเยา เป็นประธานในพิธีเปิดป้าย “สวนฝ้ายหลวง มหาวิทยาลัยพะเยา” และร่วมเก็บดอกฝ้ายกับคณะผู้บริหาร บุคลากร นิสิต และเครือข่ายฝ้ายหลวง

ความร่วมมือในการอนุรักษ์ฝ้ายหลวง

กิจกรรม “สืบสานสายใย เก็บดอกฝ้ายหลวง” จัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างกองกิจการนิสิต และโครงการวิจัย “โครงการวิจัยและพัฒนาฝ้ายหลวงเพื่อสร้างรายได้และความยั่งยืนสู่ชุมชน” ซึ่งได้รับทุนวิจัยจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ประจำปี พ.ศ. 2567 โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพันธุ์ฝ้ายหลวง ซึ่งเป็นฝ้ายพื้นเมืองประเภทฝ้ายยืนต้นในภาคเหนือ เพื่อรวบรวมอนุรักษ์พันธุ์ฝ้ายหลวง ตลอดจนส่งเสริมพัฒนายกระดับฝ้ายหลวงสู่เศรษฐกิจฐานรากของชุมชนท้องถิ่น

การเก็บดอกฝ้ายเพื่อสืบสานประเพณี

กิจกรรม “สืบสานสายใย เก็บดอกฝ้ายหลวง” เป็นการเก็บดอกฝ้ายที่กำลังออกผลผลิตเต็มที่ตามฤดูกาล เพื่อส่งมอบให้กับเครือข่ายวิจัยฝ้ายหลวงจาก 10 กลุ่มชุมชน นำไปจัดทำเป็น “ต้นฝ้ายหลวงปูรณฆฏะ” อันเป็นเครื่องสักการะที่จะใช้ในพิธีสรงน้ำและห่มผ้าพระธาตุเจ้าจอมทอง เวียงพะเยา เนื่องในประเพณีไหว้พระธาตุเดือนหกเป็งต่อไป

ประเพณีไหว้พระธาตุเดือนหกเป็ง

ประเพณีสรงน้ำและห่มผ้าพระธาตุจอมทอง ถือเป็นประเพณีที่ดีงามและเก่าแก่ของเมืองพะเยา จัดขึ้นในเดือน ๖ เป็ง (ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖) ตามปฏิทินของล้านนา ขบวนแห่เครื่องสักการะและผ้าห่มองค์พระธาตุ จะถูกนำขึ้นไปเพื่อสักการะองค์พระธาตุจอมทอง ซึ่งเป็นองค์พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดพะเยา มีอายุมากกว่า 700 ปี

ความสำคัญของดอกฝ้ายคำหรือดอกสุพรรณิการ์

ดอกฝ้ายคำ หรือดอกสุพรรณิการ์ มีถิ่นกำเนิดจากทวีปอเมริกาใต้ ดอกจะบานในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ของทุกปี มีความเชื่อกันว่า หากปลูกต้นสุพรรณิการ์ไว้ประจำบ้าน จะช่วยทำให้ผู้ปลูกได้รับความเจริญรุ่งเรืองทางด้านเงินทองและโภคทรัพย์

สรุป

กิจกรรม “สืบสานสายใย เก็บดอกฝ้ายหลวง” เป็นกิจกรรมที่สำคัญในการอนุรักษ์ฝ้ายหลวง ซึ่งเป็นฝ้ายพื้นเมืองของภาคเหนือ และเป็นการสืบสานประเพณีอันดีงามของเมืองพะเยา นอกจากนี้ ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและสร้างรายได้ให้กับชุมชนอีกด้วย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : งานสื่อสารองค์กร ม.พะเยา

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE

กรมวังผู้ใหญ่ประจำพระองค์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ติดตามการดำเนินงานตามโครงการราชทัณฑ์ปันสุขฯ ที่จังหวัดเชียงราย

Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

“คาราวานมาเหนือ” กระตุ้นท่องเที่ยว 4 จังหวัดภาคเหนือตอนบน 2

“คาราวานมาเหนือ” เปิดตัวยิ่งใหญ่ กระตุ้นท่องเที่ยว 4 จังหวัดภาคเหนือตอนบน 2

เชียงราย, 5 กุมภาพันธ์ 2568 –  โรงแรมเดอะ ริเวอร์รี บาย กะตะธานี จังหวัดเชียงราย สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ “คาราวานมาเหนือ” อย่างเป็นทางการ โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนบูรณาการส่งเสริมการท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ประจำปี 2568 โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการเดินทางเชื่อมโยงในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย พะเยา แพร่ และน่าน

ความพร้อมของเชียงรายในการรองรับนักท่องเที่ยว

นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวถึงความพร้อมของจังหวัดเชียงรายในการรองรับนักท่องเที่ยวว่า เชียงรายเป็นจังหวัดเหนือสุดของประเทศไทย มีพรมแดนติดกับสองประเทศ ได้แก่ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ภูมิประเทศของจังหวัดเต็มไปด้วยเทือกเขาสลับกับที่ราบลุ่มแม่น้ำ อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่งดงามและสมบูรณ์ พร้อมทั้งมีแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและธรรมชาติที่หลากหลาย อาทิ วัดร่องขุ่น วัดมิ่งเมือง วัดร่องเสือเต้น วัดห้วยปลากั้ง และจุดชมวิวสำคัญอย่างสามเหลี่ยมทองคำ ดอยตุง และภูชี้ฟ้า ที่นักท่องเที่ยวสามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศหนาวเย็นและวิวทิวทัศน์อันตระการตา นอกจากนี้ เชียงรายยังเป็นจังหวัดที่มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ โดยมีชนเผ่ากว่า 30 กลุ่ม เช่น อาข่า ม้ง กะเหรี่ยง ไทลื้อ และไทใหญ่ ส่งผลให้มีเอกลักษณ์ทางศิลปะ วัฒนธรรม อาหาร และวิถีชีวิตที่เป็นเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก จังหวัดเชียงรายพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม ด้วยระบบขนส่งที่สะดวกสบาย โรงแรมที่พัก ร้านอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน การจัดคาราวานในครั้งนี้คาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่น และส่งเสริมภาพลักษณ์ของเชียงรายให้เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางสำคัญของนักเดินทางทั่วโลก

รายละเอียดของกิจกรรม “คาราวานมาเหนือ”

นางวิภาวี ลีไพบูลย์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ ผู้แทนท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า โครงการ “คาราวานมาเหนือ” เป็นกิจกรรมสำคัญที่ช่วยกระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวจากจังหวัดต่าง ๆ เข้าสู่พื้นที่ภาคเหนือตอนบน 2 ผ่านเส้นทางท่องเที่ยว โดยมีการออกแบบกิจกรรมให้เหมาะสมกับศักยภาพของแต่ละจังหวัด ทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรม และอัตลักษณ์ท้องถิ่น กิจกรรม “คาราวานมาเหนือ” จะจัดขึ้นตลอดเดือนมีนาคม 2568 ครอบคลุมทั้ง 4 จังหวัด โดยมีอินฟลูเอนเซอร์และนักเดินทางชื่อดังร่วมเดินทางในเส้นทางต่าง ๆ ได้แก่

  • น่าน – แพร่ (7-9 มีนาคม 2568): นำโดย คุณลีโอ พุฒิ, คุณต้า เผ่าพล และคุณเร แม็คโดแนลด์ (รายการเร่ร่อน)
  • เชียงราย – พะเยา (14-16 มีนาคม 2568): นำโดย คุณเร แม็คโดแนลด์
  • เชียงราย – พะเยา (21-23 มีนาคม 2568): นำโดย คุณภูริ หิรัญพฤกษ์ (วิวไฟน์เดอร์)
  • น่าน – แพร่ (28-30 มีนาคม 2568): นำโดย คุณเบนซ์ ถาวร ภัสสรสิริกุล (เบนซ์ไกจิน – แบกเป้เที่ยวคนเดียว)

ทั้งนี้ คาราวานจะเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยว ร้านค้า และร้านอาหารสำคัญในพื้นที่ พร้อมเผยแพร่ข้อมูลการท่องเที่ยวผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อสร้างการรับรู้และส่งเสริมการเดินทางของนักท่องเที่ยวในอนาคต

การส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

นายสุขสันต์ เพ็งดิษฐ์ ผู้จัดการสำนักงานพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเชียงราย กล่าวว่า สำนักงานพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเชียงราย (อพท.) เดินหน้าส่งเสริมการท่องเที่ยวเชียงราย ผ่านกิจกรรมคาราวานเชื่อมโยงเส้นทางสร้างสรรค์ เชียงรายในฐานะเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ด้านการออกแบบของยูเนสโก (UCCN) มีศักยภาพโดดเด่นด้านวัฒนธรรม วิถีชีวิต และสถาปัตยกรรมล้านนา ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของ อพท. ที่มุ่งพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยใช้เกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก (GSTC) เป็นแนวทางในการพัฒนา อีกหนึ่งกิจกรรมสำคัญภายใต้โครงการนี้ คือ การศึกษาเส้นทางสร้างสรรค์ในกรุงเทพมหานครและจังหวัดเพชรบุรี ระหว่างวันที่ 15-18 มกราคม 2568 ซึ่งช่วยให้กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ได้เรียนรู้เพิ่มเติมถึงแนวทางการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน

สรุป

โครงการ “คาราวานมาเหนือ” เป็นความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างโอกาสทางการตลาดให้กับผู้ประกอบการในพื้นที่ โดยมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย ตั้งแต่คาราวานท่องเที่ยว เส้นทางสร้างสรรค์ จนถึงกิจกรรมส่งเสริมการตลาดแบบครบวงจร ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : คาราวานมาเหนือ หรือโทร 053 716 434

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE

กรมวังผู้ใหญ่ประจำพระองค์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ติดตามการดำเนินงานตามโครงการราชทัณฑ์ปันสุขฯ ที่จังหวัดเชียงราย