Categories
AROUND CHIANG RAI SPORT

วิ่งเลาะล้านนาตะวันออก เชื่อมสุขภาพ ท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ

กิจกรรมวิ่งเวียงหนองหล่ม เชื่อมล้านนาตะวันออก กระตุ้นการท่องเที่ยวเชิงกีฬา

เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2567 เวลา 06.30 น. ณ หนองมโนราห์ ตำบลจันจว้า อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย นายประสงค์ หล้าอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม “วิ่งเลาะเวียงล้านนาตะวันออก กิจกรรมวิ่งเวียงหนองหล่ม” ภายใต้โครงการบูรณาการการท่องเที่ยวของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 (พะเยา เชียงราย น่าน แพร่) โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนจากจังหวัดพะเยา เชียงราย และผู้เข้าร่วมงานกว่า 720 คนร่วมในพิธีเปิด

ส่งเสริมการท่องเที่ยวควบคู่สุขภาพ

กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sport Tourism) ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการสนับสนุนการออกกำลังกายและพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายกล่าวว่า การจัดกิจกรรมวิ่งครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการสร้างเสริมสุขภาพของผู้เข้าร่วมเท่านั้น แต่ยังเป็นการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ กระจายรายได้สู่ชุมชน และกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวม

“กิจกรรมด้านกีฬาเพื่อการท่องเที่ยวได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งสะท้อนถึงแนวโน้มที่ประชาชนหันมาใส่ใจสุขภาพและเลือกใช้กิจกรรมกีฬาร่วมกับการท่องเที่ยวเป็นสื่อกลางในการพัฒนาชุมชน” นายประสงค์กล่าว

การแข่งขันและรางวัล

การแข่งขันแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่

  1. มาราธอน ระยะทาง 42 กิโลเมตร (10 รุ่น)
  2. ฮาล์ฟมาราธอน ระยะทาง 21 กิโลเมตร (10 รุ่น)
  3. Fun Run ระยะทางไม่น้อยกว่า 5 กิโลเมตร (2 รุ่น)

ผู้ชนะเลิศอันดับ 1-3 ในประเภทมาราธอน (42 กิโลเมตร) และฮาล์ฟมาราธอน (21 กิโลเมตร) จะได้รับเงินรางวัลรวม 180,000 บาท โดยการแข่งขันสนามที่ 2 นี้ จัดขึ้นในวันที่ 8 ธันวาคม 2567 ที่หนองมโนราห์ และจะมีการแข่งขันสนามที่ 3 ที่เวียงสา จังหวัดน่าน ในวันที่ 15 ธันวาคม 2567 และสนามที่ 4 ที่เวียงโกศัย จังหวัดแพร่ ในวันที่ 22 ธันวาคม 2567

ประโยชน์ของกิจกรรมต่อพื้นที่

กิจกรรมครั้งนี้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนในอำเภอแม่จันและพื้นที่ใกล้เคียง โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งในและนอกจังหวัดได้ร่วมสัมผัสแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามและวิถีชีวิตท้องถิ่น การจัดงานครั้งนี้ยังช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากผ่านการจำหน่ายสินค้าชุมชน การจัดการท่องเที่ยวในลักษณะนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ แต่ยังสร้างความยั่งยืนด้านการพัฒนาชุมชนในระยะยาว

เส้นทางและความสำคัญของโครงการ

หนองมโนราห์ ตำบลจันจว้า ถือเป็นจุดสตาร์ทและเส้นชัยที่สำคัญของการแข่งขันในครั้งนี้ ด้วยทัศนียภาพที่งดงามและบรรยากาศที่เอื้ออำนวยต่อการจัดกิจกรรม ทั้งยังเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดล้านนาตะวันออกให้มีความโดดเด่นและเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น

สร้างสุขภาพดีและกระจายรายได้

การจัดกิจกรรมวิ่งเวียงหนองหล่มไม่เพียงแต่สร้างสุขภาพที่ดีให้กับผู้เข้าร่วม แต่ยังช่วยให้ชุมชนในพื้นที่ได้รับประโยชน์จากการท่องเที่ยวเชิงกีฬาอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ กลุ่มจังหวัดล้านนาตะวันออกจะยังคงมุ่

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
FOLLOW ME
MOST POPULAR
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เปิดสะพานบ้านดงเจริญ เชื่อมชุมชนเชียงราย เสริมพัฒนาคมนาคม

เปิดสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก บ้านดงเจริญ เชื่อมโยงชุมชนเชียงราย สร้างโอกาสการพัฒนา

เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2567 ณ บ้านดงเจริญ หมู่ที่ 17 ตำบลป่าอ้อดอนชัย อำเภอเมืองเชียงราย นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิดสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก บ้านดงเจริญ เชื่อมต่อบ้านป่าบง หมู่ที่ 10 ตำบลบัวสลี อำเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย โดยมีนายสะอาด ปัญญาดี สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย อำเภอเมืองเชียงราย เขต 4 เข้าร่วม พร้อมด้วยนายสุรพ์พลฎ์ ดุรงคชยานุรักษ์ นายกเทศมนตรีตำบลป่าอ้อดอนชัย คณะผู้บริหาร ปลัดเทศบาลตำบลป่าอ้อดอนชัย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น

ความสำคัญของโครงการสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก

องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมและการเชื่อมโยงชุมชน จึงได้สนับสนุนงบประมาณ พ.ศ. 2566 สำหรับการก่อสร้างสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กดังกล่าว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสัญจร ความสะดวกสบาย และความปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่ตำบลป่าอ้อดอนชัยและตำบลบัวสลี รวมถึงเป็นการยกระดับระบบการขนส่งและการคมนาคมของชุมชน

สะพานคอนกรีตเสริมเหล็กแห่งนี้เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างบ้านดงเจริญและบ้านป่าบง ซึ่งช่วยลดระยะเวลาการเดินทางของประชาชนในพื้นที่ ลดความยากลำบากในการขนส่งสินค้าเกษตร และเสริมสร้างโอกาสในการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนในระยะยาว

ผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชน

ประชาชนในพื้นที่ต่างแสดงความพึงพอใจต่อการก่อสร้างสะพานดังกล่าว ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความสะดวกในการเดินทางและการขนส่ง แต่ยังช่วยลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นบนเส้นทางที่ขาดความปลอดภัย นอกจากนี้สะพานแห่งนี้ยังเปิดโอกาสให้ชุมชนทั้งสองตำบลมีการเชื่อมโยงกันมากขึ้น สร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจและสังคมที่เข้มแข็งยิ่งขึ้น

นายสุรพ์พลฎ์ ดุรงคชยานุรักษ์ นายกเทศมนตรีตำบลป่าอ้อดอนชัย กล่าวว่า โครงการนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาชุมชนในท้องถิ่น การเชื่อมโยงตำบลป่าอ้อดอนชัยและตำบลบัวสลีช่วยลดช่องว่างทางการคมนาคม และเพิ่มโอกาสในการพัฒนาอย่างยั่งยืน

แผนพัฒนาต่อเนื่อง

นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ ได้กล่าวในพิธีเปิดว่า การพัฒนาสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กบ้านดงเจริญเป็นหนึ่งในโครงการที่สะท้อนถึงความตั้งใจขององค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงรายในการพัฒนาท้องถิ่น โดยจะมีการติดตามผลกระทบและการใช้งานสะพานอย่างใกล้ชิด เพื่อปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพให้ตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังมีแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมในพื้นที่อื่น ๆ ต่อไป เพื่อส่งเสริมการพัฒนาที่ครอบคลุมทุกมิติ

เสียงสะท้อนจากชุมชน

นายคำปัน ผู้ใหญ่บ้านดงเจริญ ได้กล่าวขอบคุณองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงรายสำหรับการสนับสนุนที่สำคัญนี้ ชาวบ้านรู้สึกดีใจที่มีสะพานเชื่อมโยงชุมชน ซึ่งช่วยให้การเดินทางสะดวกสบายมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่ผ่านมาซึ่งเส้นทางเดิมมักประสบปัญหาน้ำท่วมและเสื่อมโทรม

สะพานคอนกรีตเสริมเหล็กแห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์ของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน แต่ยังเป็นสะพานแห่งความหวังที่จะเชื่อมโยงชุมชนให้เข้มแข็งและเติบโตไปพร้อมกัน สะพานแห่งนี้จึงเป็นตัวอย่างของความร่วมมือที่สร้างสรรค์ระหว่างหน่วยงานภาครัฐและประชาชนในการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

เปิดงานมหัศจรรย์ 10 ชาติพันธุ์แม่สาย ปีที่ 10 สร้างสรรค์วัฒนธรรม

มหัศจรรย์ 10 ชาติพันธุ์แม่สาย ปีที่ 10 โชว์วิถีชีวิตและวัฒนธรรมชาติพันธุ์

เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2567 ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์น้ำมันเมล็ดคามีเลียและน้ำมันพืชอื่นๆ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงาน มหัศจรรย์ 10 ชาติพันธุ์แม่สาย ครั้งที่ 10 ประจำปี 2567 งานนี้จัดขึ้นเพื่อสนับสนุนการแสดงศิลปะ วัฒนธรรม อัตลักษณ์ ภูมิปัญญา และวิถีชีวิตอันดีงามของกลุ่มชาติพันธุ์ รวมทั้งฟื้นฟูเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมในแม่สายหลังเหตุการณ์อุทกภัยที่ผ่านมา

การรวมพลังชาติพันธุ์ 11 กลุ่ม และเพื่อนบ้านอาเซียน

ในโอกาสครบ 1 ทศวรรษ การจัดงานได้เชิญกลุ่มชาติพันธุ์ 11 กลุ่มในอำเภอแม่สาย ได้แก่

1. ไท-ยวน 2. ไทลื้อ 3. ไทเขิน 4. ไทใหญ่ 5. ไตหย่า 6. จีนยูนนาน 7. อาข่า 8. ลาหู่ 9. ดาราอั้ง 10. ลัวะ 11. คะฉิ่น

นอกจากนี้ ยังมีชาติพันธุ์เพื่อนบ้านจาก สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มาร่วมแสดงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมเฉพาะถิ่น เช่น ชาติพันธุ์ลาวบ้านท่าขันทอง และกลุ่มชาติพันธุ์บ้านม้งจาก 8 อำเภอในแม่ฟ้าหลวง

กิจกรรมในงาน

งานแบ่งเป็นหลายโซนที่เน้นการจัดแสดงวิถีชีวิตและประเพณี ได้แก่

  • โซนหมู่บ้านจำลองชาติพันธุ์ จัดแสดงวิถีชีวิต การละเล่น วัฒนธรรม และสินค้าหัตถกรรม
  • โซนอาหารสี่ภาค และ สินค้า OTOP
  • โซนลานขันโตก มีการแสดงกลางแจ้งจากกลุ่มชาติพันธุ์
  • การสาธิตภูมิปัญญาท้องถิ่น เช่น การแพทย์แผนโบราณ การทำอาหารประจำชาติพันธุ์

งานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-11 ธันวาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น.

การส่งเสริมเศรษฐกิจและการพัฒนาอย่างยั่งยืน

นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย กล่าวในพิธีเปิดว่า การจัดงานมหัศจรรย์ 10 ชาติพันธุ์แม่สาย ครั้งนี้เป็นตัวอย่างของการรวมพลังร่วมมือระหว่างหน่วยงานหลายภาคส่วนในพื้นที่ เพื่อส่งเสริมวัฒนธรรม สร้างรายได้ให้ชุมชน และกระตุ้นการท่องเที่ยว

นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวต้อนรับผู้ร่วมงาน พร้อมย้ำถึงความสำคัญของการอนุรักษ์วัฒนธรรมให้ยั่งยืน พร้อมสนับสนุนการพัฒนาพื้นที่แม่สายให้กลับมามีชีวิตชีวาหลังอุทกภัยที่ผ่านมา

งานมหัศจรรย์ 10 ชาติพันธุ์แม่สายครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นเวทีแสดงวัฒนธรรมและภูมิปัญญาของชาติพันธุ์ แต่ยังเป็นการสร้างความภาคภูมิใจและการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างชุมชนและผู้มาเยือน เป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาแม่สายให้เป็นพื้นที่ที่น่าอยู่และเต็มไปด้วยความหลากหลายทางวัฒนธรรม

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

มหกรรมการท่องเที่ยว 4 จังหวัดล้านนา ยกระดับชุมชนอย่างยั่งยืน

งานมหกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนสร้างสรรค์ 4 จังหวัดล้านนาตะวันออก เปิดยิ่งใหญ่ที่เชียงราย

เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2567 เวลา 18.00 น. ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย ชั้น G ลาน Grand Hall นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานเปิดงานมหกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนสร้างสรรค์ 4 จังหวัดล้านนาตะวันออก ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวชุมชนที่มีอัตลักษณ์ ยกระดับคุณภาพและมาตรฐานการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ และสร้างความยั่งยืนให้แก่ชุมชน

งานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-11 ธันวาคม 2567 มีชุมชนท่องเที่ยวจาก 4 จังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ได้แก่ เชียงราย พะเยา แพร่ และน่าน ร่วมออกบูธรวม 40 บูธ โดยจังหวัดเชียงรายมีจำนวน 20 บูธ จังหวัดพะเยา 2 บูธ จังหวัดแพร่ 6 บูธ และจังหวัดน่าน 12 บูธ

พิธีมอบรางวัลสุดยอดเส้นทางท่องเที่ยวชุมชนสร้างสรรค์ล้านนาตะวันออก
ในพิธีเปิดงานมีการมอบรางวัลการประกวดสุดยอดเส้นทางท่องเที่ยวชุมชนสร้างสรรค์ 4 ประเภท ได้แก่

  1. Responsible & Sustainable Tourism
  • ชนะเลิศ: ชุมชนบ้านศรีบุญเรือง จ.น่าน
  • รองชนะเลิศอันดับ 1: ชุมชนบ้านทุ่งศรี จ.แพร่
  • รองชนะเลิศอันดับ 2: วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวตำบลนางแล จ.เชียงราย
  • รางวัลชมเชย: ท่องเที่ยวชุมชนโป่งแดง จ.เชียงราย
  1. Art & Craft
  • ชนะเลิศ: ชุมชนไทยลื้อบ้านศรีดอนชัย จ.เชียงราย
  • รองชนะเลิศอันดับ 1: วิสาหกิจชุมชนบ้านโคมคำม่วงตื้ด จ.น่าน
  • รองชนะเลิศอันดับ 2: ชุมชนสันป่าเหียง จ.เชียงราย
  • รางวัลชมเชย: ชุมชนบ้านสันทางหลวง จ.เชียงราย
  1. Life and Culture
  • ชนะเลิศ: วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเมืองเชียงแสน จ.เชียงราย
  • รองชนะเลิศอันดับ 1: ชุมชนท่องเที่ยวอีสาน-ล้านนา บ้านจำไก่ จ.พะเยา
  • รองชนะเลิศอันดับ 2: วิสาหกิจชุมชนโฮมสเตย์บ้านท่าขันทอง จ.เชียงราย
  • รางวัลชมเชย: ชุมชนท่องเที่ยววิถีไทยพวน ต.ทุ่งโฮ้ง จ.แพร่
  1. Diversity and Color of Life
  • ชนะเลิศ: บ้านบ่อสวก จ.น่าน
  • รองชนะเลิศอันดับ 1: ชุมชนบ้านดอนทราย จ.แพร่
  • รองชนะเลิศอันดับ 2: ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี บ้านหาดบ้าย จ.เชียงราย
  • รางวัลชมเชย: ศูนย์การเรียนรู้ฮัก อาข่า โฮม จ.เชียงราย

กิจกรรมเสริมสร้างความยั่งยืนและพัฒนาชุมชน
กิจกรรมดังกล่าวไม่เพียงแต่เน้นการส่งเสริมการตลาด แต่ยังเป็นการสร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการของชุมชน ส่งเสริมอาชีพและการกระจายรายได้อย่างยั่งยืน พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ชุมชนแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แชร์ประสบการณ์ และสร้างเครือข่ายระหว่างชุมชนท่องเที่ยวในพื้นที่

งานนี้ได้รับความสนใจจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไป ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสำคัญที่ช่วยยกระดับการท่องเที่ยวชุมชนใน 4 จังหวัดล้านนาตะวันออกอย่างยั่งยืน

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

ชาวบ้านเชียงรายค้านเขื่อนปากแบง หวั่นน้ำเท้อกระทบชีวิตและสิ่งแวดล้อม

กลุ่มชาวบ้าน 3 อำเภอเชียงรายรวมพลังคัดค้านเขื่อนปากแบง หวั่นกระทบวิถีชีวิตและสิ่งแวดล้อม

เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2567 ณ โฮงเฮียนแม่น้ำของ อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ชาวบ้านจาก 3 อำเภอริมแม่น้ำโขง ได้แก่ อำเภอเชียงแสน อำเภอเชียงของ และอำเภอเวียงแก่น รวมตัวประมาณ 150 คน ประกอบด้วยตัวแทนชุมชน ผู้นำสตรี ผู้นำท้องถิ่น ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน และนายกเทศมนตรี เพื่อแสดงออกถึงความไม่เห็นด้วยต่อโครงการสร้างเขื่อนปากแบง (Pak Beng Dam) ในประเทศลาว ที่ห่างจากพรมแดนไทยด้านอำเภอเวียงแก่นเพียง 96 กิโลเมตร โดยโครงการดังกล่าวมีการลงนามซื้อไฟฟ้าระหว่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กับบริษัทเอกชนผู้พัฒนาโครงการแล้ว แต่การศึกษาผลกระทบข้ามพรมแดนยังไม่มีความชัดเจน

ความกังวลของชุมชนริมโขง

นายนิวัฒน์ ร้อยแก้ว หรือ “ครูตี๋” ประธานกลุ่มรักษ์เชียงของ กล่าวว่า การสร้างเขื่อนปากแบงจะซ้ำเติมปัญหาน้ำโขงเท้อเข้าสู่แม่น้ำสาขา เช่น แม่น้ำอิงและแม่น้ำกก ซึ่งเกิดอุทกภัยใหญ่ในปีนี้จนสร้างความเสียหายแก่พื้นที่เกษตรและชุมชน เขาย้ำว่าหากโครงการดำเนินต่อไปจะก่อให้เกิดความเสียหายที่แก้ไขได้ยาก โดยเฉพาะพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญ เช่น แก่งผาได ในอำเภอเวียงแก่น ซึ่งเป็นสถานที่จัดกิจกรรมและแหล่งพักผ่อนของประชาชน รวมถึงหาดบ้านดอนมหาวัน ในอำเภอเชียงของ ที่จะจมหายไปหากมีการสร้างเขื่อน

นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่เกษตรริมโขงที่ชาวบ้านพึ่งพาในช่วงฤดูแล้ง เช่น สวนส้มโอในอำเภอเวียงแก่น ที่ถือเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญ หากเกิดน้ำท่วมจากการสร้างเขื่อน ชาวบ้านจะสูญเสียรายได้และต้องเริ่มต้นใหม่จากศูนย์

เสียงสะท้อนจากผู้นำชุมชนและท้องถิ่น

นายอภิธาร ทิตตา นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลม่วงยาย กล่าวว่า การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานไม่จำเป็นต้องสร้างเขื่อนเสมอไป โดยเสนอทางเลือกอื่น เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมแสดงความกังวลว่าข้อมูลผลกระทบยังไม่ชัดเจน ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถวางแผนการเกษตรได้

นายประยุทธ โพธิ กำนันตำบลเวียง กล่าวว่า รายได้จากการท่องเที่ยวในพื้นที่จะหายไป เช่น รายได้จากหาดบ้านดอนมหาวัน ที่เคยสร้างรายได้นับแสนบาทต่อปี พร้อมวิพากษ์ว่าการเยียวยาที่เสนอมักไม่ครอบคลุมหรือเพียงพอ

นายหาญณรงค์ เยาวเลิศ ที่ปรึกษามูลนิธิเพื่อบูรณาการน้ำ เสนอให้หยุดโครงการและศึกษาผลกระทบข้ามพรมแดนอย่างจริงจังก่อน เพราะเขื่อนปากแบงจะมีผลกระทบต่อพื้นที่ในประเทศไทย โดยเฉพาะน้ำเท้อจากแม่น้ำโขงที่อาจทำลายพื้นที่เกษตรกรรมและชุมชนริมแม่น้ำ

ข้อเสนอแนะจากชุมชน

ชาวบ้านเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาและเผยแพร่ข้อมูลอย่างโปร่งใส รวมถึงผลักดันทางเลือกพลังงานที่ยั่งยืน นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกหรือเลื่อนโครงการจนกว่าจะมีข้อมูลที่เพียงพอ เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยมีพลังงานไฟฟ้าสำรองเพียงพอ และการสร้างเขื่อนจะสร้างผลกระทบต่อชุมชนทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิต

นางประกายรัตน์ ตันดี ผู้ใหญ่บ้านทุ่งงิ้ว อำเภอเชียงของ กล่าวว่า การสร้างเขื่อนปากแบงจะกระทบกลุ่มผู้หญิงริมโขงที่พึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติ เช่น การเก็บไกและปลูกถั่วงอกเพื่อเลี้ยงชีพ เธอเรียกร้องให้ทุกคนร่วมกันเป็นพลังต่อต้านโครงการนี้

ข้อสรุป

ชาวบ้านและผู้นำชุมชนจาก 3 อำเภอริมแม่น้ำโขงในจังหวัดเชียงรายแสดงจุดยืนชัดเจนต่อการคัดค้านโครงการสร้างเขื่อนปากแบง โดยมุ่งเน้นการปกป้องสิ่งแวดล้อม วิถีชีวิต และทรัพยากรธรรมชาติ พร้อมเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ข้อมูลที่โปร่งใสและพัฒนาทางเลือกที่ยั่งยืนแทนการสร้างเขื่อน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : โฮงเฮียนแม่น้ำของ

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

กอ.รมน.เชียงราย แจกผ้าห่มกันหนาว พร้อมสร้างสามัคคีในเทอดไทย

กอ.รมน.เชียงรายจัดกิจกรรมมอบไออุ่นและเสวนาสร้างความสามัคคีในพื้นที่ อบต.เทอดไทย

เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2567 เวลา 08.30 น. กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเชียงราย (กอ.รมน.จังหวัด ช.ร.) ร่วมกับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 35 (นพค.35) องค์การบริหารส่วนตำบลเทอดไทย (อบต.เทอดไทย) ผู้ประกอบการภาคเอกชน คณะพัฒนาความมั่นคงภายในจังหวัดเชียงราย รุ่นที่ 2 และภาคีเครือข่าย จัดกิจกรรมบริจาคผ้าห่มกันหนาวเพื่อส่งมอบความอบอุ่นให้แก่ประชาชนในพื้นที่ตำบลเทอดไทย อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย

กิจกรรมส่งมอบไออุ่น

จุดที่ 1: หอประชุม อบต.เทอดไทย จำนวน 300 ผืน
จุดที่ 2: หอประชุมบ้านปางมะหัน จำนวน 200 ผืน
จุดที่ 3: หอประชุมบ้านเล่าลิ่ว จำนวน 100 ผืน

การมอบผ้าห่มในครั้งนี้ มี พ.อ.จักรวีร์ เสนีย์วรยุทธ์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเชียงราย (ท.) พร้อมด้วยกำลังพลจาก กอ.รมน. และตัวแทนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนร่วมดำเนินการ

กิจกรรมสานเสวนาส่งเสริมความสามัคคี

เวลา 09.30 น. กอ.รมน.จังหวัดเชียงราย ได้จัดกิจกรรมสานเสวนาภายใต้โครงการพัฒนาด้านการเมืองและการสร้างความรักความสามัคคีของคนในชาติ ณ ศูนย์การเรียนรู้ระดับตำบลเทอดไทย โดยมีผู้เข้าร่วมจำนวน 20 คน

กิจกรรมประกอบด้วย:

  1. การบรรยายพิเศษ
    • การสร้างความรัก ความสามัคคี และปรองดองของคนในชาติ
    • การปลูกฝังจิตสำนึกความเป็นพลเมืองตามระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
  2. การสานเสวนาและรับฟังปัญหาในพื้นที่
    • การระดมความคิดเห็นเพื่อแก้ไขปัญหาชุมชน
    • การส่งเสริมและสนับสนุนกลุ่มอาชีพ โดยเฉพาะการผลิตยาสมุนไพร เช่น ยานวดบรรเทาปวด ยาหม่องน้ำ และยาแก้ปวดฟัน พร้อมมอบปัจจัยการผลิต

ผลตอบรับจากชุมชน

กิจกรรมครั้งนี้ได้รับการตอบรับอย่างดีจากชาวบ้านและกลุ่มอาชีพในพื้นที่ ตอกย้ำถึงความสำเร็จในการสร้างความรักและสามัคคีของคนในชาติ พร้อมทั้งส่งเสริมการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ กอ.รมน.จังหวัดเชียงราย ยืนยันว่าจะดำเนินการจัดกิจกรรมในลักษณะนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชน และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่อย่างยั่งยืน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ป๊ะ ปุ๊ แป๋ง เปี๊ยะ ปี 2 เชียงราย สุขก๋าย ม่วนใจ๋

กิจกรรม “ป๊ะ ปุ๊ แป๋ง เปี๊ยะ ปี 2” สร้างพื้นที่สร้างสรรค์ ลดผลกระทบแอลกอฮอล์ในเชียงราย

เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2567 ณ บ้านสิงหไคล (มูลนิธิมดชนะภัย) ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย นายราชัน มีน้อย รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรม “ป๊ะ ปุ๊ แป๋ง เปี๊ยะ ปี 2” ภายใต้แนวคิด “จับเข่าเล่าเรื่องเพื่อคนเจียงฮาย สุขก๋าย ม่วนใจ๋” โดยกิจกรรมนี้มุ่งเน้นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แชร์ โชว์ เชื่อม และกำหนดแนวทางการพัฒนาร่วมกันผ่านเวทีเสวนา โดยมีหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชน และเครือข่ายต่าง ๆ เข้าร่วมอย่างคับคั่ง

เป้าหมายและที่มา

นายณรงค์ฤทธิ์ หน่อแหวน ผู้ประสานงานประชาคมงดเหล้าจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า จังหวัดเชียงรายมีอัตราการดื่มสุราในกลุ่มประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไป สูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศ โดยในปีงบประมาณ 2566 จากการคัดกรองประชากรจำนวน 300,059 ราย พบว่ามีผู้ดื่มสุราร้อยละ 32.03 และมีผู้ที่อยู่ในความเสี่ยงระดับสูงร้อยละ 0.72

กิจกรรมในปีนี้ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) เพื่อมุ่งเน้นการลด ละ เลิก การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในกลุ่มนักดื่มทั้งเก่าและใหม่ และส่งเสริมแนวคิด “เลิกเหล้า สร้างอาชีพ” เพื่อสร้างโอกาสและพัฒนาคุณภาพชีวิตในชุมชน

กิจกรรมภายในงาน

กิจกรรมในงาน “ป๊ะ ปุ๊ แป๋ง เปี๊ยะ ปี 2” มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของแกนนำในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่

  1. อำเภอเวียงชัย
  2. อำเภอเทิง
  3. อำเภอแม่จัน
  4. อำเภอพาน
  5. อำเภอเวียงป่าเป้า
  6. อำเภอแม่สาย
  7. อำเภอเชียงแสน

ผู้เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 150 คน ประกอบด้วยกลุ่มเป้าหมายจากเครือข่ายเยาวชน YSDN เชียงราย ชมรมคนหัวใจเพชร กลุ่มพลังหญิง เครือข่ายโรงเรียนพระโพธิสัตว์น้อย รวมถึงประชาคมงดเหล้าจังหวัดเชียงราย

กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย

  • การนำเสนอผลการดำเนินงานประจำปี 2566/67
  • เวทีเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
  • การแสดงนิทรรศการผลงานและกิจกรรมสร้างสรรค์ที่ส่งเสริมการสื่อสารและการแสดงออกในกลุ่มเยาวชน
  • การจัดแสดงผลงานชุมชนปลอดเหล้า
  • พื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก เยาวชน และครอบครัว

ผลลัพธ์และความสำเร็จ

กิจกรรมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแผนการพัฒนาเพื่อสร้างชุมชนเชียงรายที่ปราศจากปัจจัยเสี่ยง โดยใช้ชุมชนเป็นฐานในการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น พชอ. ภาคีเครือข่ายในพื้นที่ เครือข่ายพระสงฆ์ และสถานศึกษา

นายณรงค์ฤทธิ์ หน่อแหวน กล่าวเสริมว่า การจัดงานในครั้งนี้ไม่เพียงแต่สร้างความตระหนักรู้ถึงปัญหาการบริโภคแอลกอฮอล์เท่านั้น แต่ยังเป็นเวทีสำคัญที่ช่วยเชื่อมโยงเครือข่ายต่าง ๆ และสร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับการแสดงออกและพัฒนาศักยภาพของเด็กและเยาวชน

ป๊ะ ปุ๊ แป๋ง เปี๊ยะ” ในปีนี้จึงถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จในการขับเคลื่อนนโยบายสู่การพัฒนาชุมชนที่ยั่งยืน เพื่อสร้างสรรค์เชียงรายให้เป็นพื้นที่ที่สุขกาย ม่วนใจ๋ อย่างแท้จริง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
ECONOMY

พาณิชย์เข้มแก้ปัญหานอมินี คุ้มครองธุรกิจไทยทั่วประเทศ

พาณิชย์ลุยแก้ปัญหานอมินี เดินหน้าบังคับใช้กฎหมายเข้ม

เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้แสดงความห่วงใยในปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าว หรือ “นอมินี” ซึ่งบางส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายธุรกิจผิดกฎหมายและอาชญากรรมทางออนไลน์ รัฐบาลจึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย โดยมีนายพิชัย เป็นประธาน และได้ตั้งคณะอนุกรรมการ 2 คณะ เพื่อจัดการปัญหาอย่างเป็นระบบ

การลงมือปฏิบัติการและแผนงานในอนาคต

เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 กระทรวงพาณิชย์โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อเชื่อมโยงระบบข้อมูลนิติบุคคลกับฐานข้อมูลตำรวจกลาง (Big Data) โดยตั้งเป้าปราบปรามบัญชีม้านิติบุคคลและธุรกิจนอมินีให้หมดสิ้น ล่าสุด มีการเปิดปฏิบัติการตรวจค้น 46 จุดทั่วประเทศ พบการกระทำผิดของนิติบุคคล 442 บริษัท รวมทุนจดทะเบียน 1,189 ล้านบาท และความเสียหายกว่า 3,600 ล้านบาท

ธุรกิจที่กระทำผิดรวมถึงร้านค้า ร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต โกดังสินค้า ร้านรับแลกเงินตราต่างประเทศ และการถือครองอสังหาริมทรัพย์โดยผิดกฎหมาย บางบริษัทไม่มีการดำเนินกิจการจริง และใช้บัญชีม้านิติบุคคลรับโอนเงินจากกลุ่มมิจฉาชีพ

การประชุมครั้งสำคัญและเป้าหมายในอนาคต

ในวันที่ 9 ธันวาคมนี้ กระทรวงพาณิชย์จะเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างชาติที่ฝ่าฝืนกฎหมาย เพื่อเร่งออกมาตรการระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม

นายพิชัย ยังสั่งการให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเพิ่มความเข้มงวดในการจดทะเบียนธุรกิจ ป้องกันการใช้บัญชีม้านิติบุคคลเพื่อหลอกลวงประชาชน พร้อมเฝ้าระวังและตรวจสอบนิติบุคคลกลุ่มเสี่ยงที่อาจเป็นนอมินี โดยร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอย่างใกล้ชิด

แนวทางการป้องกันและผลลัพธ์ที่คาดหวัง

เป้าหมายสำคัญของการดำเนินการครั้งนี้คือการปกป้องผู้ประกอบการไทย ลดปัญหาทางสังคม และป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจไทยเสียหายจากธุรกิจนอมินีและบัญชีม้านิติบุคคล พร้อมทั้งสร้างความเชื่อมั่นในระบบธุรกิจไทยให้มั่นคงและโปร่งใสในระยะยาว

กระทรวงพาณิชย์ยังคงเดินหน้าประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มาตรการต่าง ๆ บรรลุผลและสร้างความเป็นธรรมแก่ผู้ประกอบการไทยทุกกลุ่ม

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงพาณิชย์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
TRAVEL

ตำบลบ่อสวก น่าน คว้ารางวัลชุมชนท่องเที่ยวยอดเยี่ยมโลก 2024

ตำบลบ่อสวก น่าน คว้ารางวัลชุมชนท่องเที่ยวยอดเยี่ยมโลก Best Tourism Village 2024

เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2567 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เปิดเผยข่าวดีว่า องค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (UN Tourism) ได้มอบรางวัล Best Tourism Village 2024 ให้แก่ชุมชนตำบลบ่อสวก จังหวัดน่าน ถือเป็นรางวัลชุมชนท่องเที่ยวยอดเยี่ยมโลกแห่งแรกของประเทศไทย สะท้อนความสำเร็จของการพัฒนาการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนโดยชุมชน

นายจิรายุระบุว่า ตำบลบ่อสวกมีจุดเด่นด้านวัฒนธรรม วิถีชีวิต และแหล่งโบราณคดี โดยเฉพาะเตาเผาเครื่องปั้นโบราณที่มีชื่อเสียง รวมถึงงานหัตถกรรมพื้นบ้านและภูมิปัญญาท้องถิ่นที่หลากหลาย นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสประสบการณ์เรียนรู้วัฒนธรรมชุมชน พร้อมทั้งเพลิดเพลินกับการทำกิจกรรมร่วมกับคนในพื้นที่

“ความสำเร็จครั้งนี้เป็นผลมาจากการบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และชุมชน รวมถึงการสนับสนุนจากภาคีเครือข่ายต่างๆ” นายจิรายุกล่าว พร้อมย้ำว่ารางวัลนี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของหมู่บ้านและตำบลในประเทศไทยที่สามารถก้าวขึ้นเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก หากได้รับการสนับสนุนอย่างเหมาะสม

โครงการประกวดรางวัล Best Tourism Villages by UN Tourism เริ่มขึ้นในปี 2563 มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการพัฒนาชุมชนสู่มาตรฐานสากล ลดความเหลื่อมล้ำ สนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศ และใช้เทคโนโลยีเพื่อการพัฒนา โดยมีเกณฑ์การประเมิน 9 ด้าน เช่น การจัดการทรัพยากรธรรมชาติ การส่งเสริมวัฒนธรรม การพัฒนาศักยภาพเศรษฐกิจชุมชน และการดูแลสุขภาพและความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว

นายจิรายุยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “รัฐบาลขอเชิญชวนผู้นำท้องถิ่นค้นหาสิ่งดีๆ ในชุมชนของตน เพื่อแสดงศักยภาพและเผยแพร่ความงดงามของประเทศไทยสู่สายตาชาวโลก” ทั้งนี้ ประเทศไทยมีหมู่บ้านกว่า 74,000 แห่งและอำเภอมากกว่า 800 แห่งที่รอการพัฒนาสู่แหล่งท่องเที่ยวระดับโลก

รางวัล Best Tourism Village 2024 ไม่เพียงช่วยยกระดับตำบลบ่อสวกให้เป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวระดับนานาชาติ แต่ยังตอกย้ำถึงศักยภาพของการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและความยั่งยืนในประเทศไทยอีกด้วย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น / น่าน บันดาลใจ

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
LIFESTYLE

เรื่องราวของ ‘ผอ.เขตฯ’ ครูดีในดวงใจ สร้างแรงบันดาลใจให้ศิษย์

เรื่องราวประทับใจจากห้องเรียน: ความทรงจำที่ไม่มีวันลืมกับครูดีในดวงใจ

เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2567 นางนัฑวิภรณ์ จันต๊ะพรมมา ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาน่าน ได้โพสต์เรื่องราวที่สร้างความประทับใจในเพจ “นัฑวิภรณ์ จันต๊ะพรมมา สหายใบไผ่” เกี่ยวกับการตรวจเยี่ยมโรงเรียนน่านนคร พร้อมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างการเยี่ยมชมห้องเรียนที่สะท้อนถึงความสำคัญของครูในดวงใจ และแรงบันดาลใจที่ไม่มีวันเลือน

นางนัฑวิภรณ์เล่าว่า เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ได้ไปตรวจเยี่ยมโรงเรียนน่านนครเพื่อติดตามการดำเนินนโยบาย “เรียนดีมีความสุขสู่ห้องเรียน” ขณะที่เดินผ่านอาคารเรียนเพื่อขึ้นห้องประชุมชั้นสอง ได้ยินเสียงหัวเราะและเสียงการสอนที่อบอุ่นของครูในห้องเรียน จึงตัดสินใจแวะเข้าไปดู และได้พบกับครูเรืองฤทธิ์ ดวงภูเมฆ ซึ่งเคยเป็นครูสอนของเธอเองเมื่อครั้งยังเป็นนักเรียนที่อำเภอสันติสุข

ครูในดวงใจ: ผู้สร้างแรงบันดาลใจให้กับนักเรียน

ครูเรืองฤทธิ์กำลังสอนนักเรียนเกี่ยวกับการสร้างแรงบันดาลใจ โดยใช้ภาพที่แสดงผ่านโปรเจ็กเตอร์เป็นภาพของนางนัฑวิภรณ์ และครูกณิศา ซึ่งเป็นครูอีกท่านหนึ่งที่เคยสอนเธอ ครูเรืองฤทธิ์กล่าวกับนักเรียนด้วยความภาคภูมิใจว่า “นี่คือตัวอย่างของคนที่มุ่งมั่นตั้งใจ และไม่เคยย่อท้อต่ออุปสรรค” คำพูดนี้สร้างความซาบซึ้งในใจของทุกคนในห้องเรียน

เมื่อครูมอบไมโครโฟนให้นางนัฑวิภรณ์พูดกับนักเรียน เธอได้กล่าวถึงความสำคัญของครูในชีวิต พร้อมขอบคุณครูเรืองฤทธิ์ที่อบรมสั่งสอนตลอด 6 ปี ทำให้เธอมีวันนี้ นักเรียนทุกคนในห้องต่างซาบซึ้งจนเงียบไปชั่วขณะ มีนักเรียนคนหนึ่งกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “ผมไม่ทันตั้งตัวเลยครับ เพราะมันเร็วเกินไป” เมื่อครูบอกว่ากำลังจะเกษียณในอีก 10 เดือน ทุกคนในห้องน้ำตาซึม รวมถึงครูเรืองฤทธิ์เองที่สะท้อนความรักและผูกพันต่อศิษย์

ความประทับใจที่ไม่มีวันเลือน

นางนัฑวิภรณ์กล่าวปิดท้ายว่า “ขอบคุณความบังเอิญที่ทำให้ได้พบครูในวันนี้ และขอบคุณครูที่ได้อบรมสั่งสอนตลอดมา” เธอเน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของครูที่ไม่เพียงแต่ถ่ายทอดความรู้ แต่ยังเป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจและความหวังในชีวิตของศิษย์

ครูเรืองฤทธิ์ ดวงภูเมฆ: ครูดีในดวงใจ

ครูเรืองฤทธิ์ ดวงภูเมฆ คือภาพแทนของครูที่มีหัวใจทุ่มเทเพื่อศิษย์ เขาเป็นตัวอย่างของความเสียสละ ความรัก และความมุ่งมั่นในอาชีพครู การสอนของครูเรืองฤทธิ์ไม่เพียงแต่เน้นการให้ความรู้ แต่ยังส่งเสริมคุณค่าของการเป็นคนดี การมีความมุ่งมั่น และการไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค

เรื่องราวนี้สะท้อนถึงความสำคัญของครูในชีวิตของนักเรียน และความผูกพันที่เกิดขึ้นระหว่างครูและศิษย์ เป็นสิ่งที่ยืนยันว่า “ครู” ไม่ใช่เพียงผู้ถ่ายทอดความรู้ แต่คือผู้สร้างรากฐานชีวิตและแรงบันดาลใจที่ไม่มีวันลบเลือน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : นัฑวิภรณ์ จันต๊ะพรมมา สหายใบไผ่ / สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาน่าน

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News