Categories
WORLD PULSE

วิกฤตแรงงานฝีมือสหรัฐฯ สร้างโอกาสใหม่ Gen Z และกลุ่มแรงงานฝีมือ

สหรัฐฯ เผชิญวิกฤตแรงงานฝีมือ ขาดแคลนหนัก กลุ่มอาชีพรายได้สูงเริ่มเป็นที่สนใจ

รายงานเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2567
ผลการวิจัยล่าสุดจาก McKinsey & Co. เผยว่าสหรัฐฯ กำลังประสบกับวิกฤตการขาดแคลนแรงงานที่มีฝีมืออย่างหนัก โดยเฉพาะในกลุ่มที่ไม่ได้เน้นการศึกษาระดับปริญญาตรี เนื่องจากแรงงานรุ่นเก่าเริ่มเข้าสู่วัยเกษียณ และกลุ่มคนรุ่นใหม่ทั้งชายและหญิงมีแนวโน้มเลือกอาชีพสายแรงงานลดลง เช่น งานก่อสร้าง การประปา และการขนส่ง วิกฤตนี้รุนแรงขึ้นหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคธุรกิจและอัตราค่าจ้างแรงงานที่มีทักษะสูง ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 20%

ความต้องการแรงงานเพิ่มสูง

ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแรงงานของสหรัฐฯ ระบุว่า ตั้งแต่ปี 2024 ถึง 2032 จะมีตำแหน่งงานใหม่ในตลาดแรงงานกว่า 1.5 ล้านตำแหน่ง โดย 35% ของงานที่เติบโตเร็วที่สุดอยู่ในสายแรงงานที่เน้นทักษะ ไม่เน้นวุฒิปริญญาตรี Nathan Soto ผู้เชี่ยวชาญด้านอาชีพจาก Resume Genius ระบุว่า “คนรุ่นใหม่มองหางานที่รายได้ดีโดยไม่ต้องมีปริญญา” ส่งผลให้สายงานด้านการผลิต การบิน และพลังงาน กลายเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยม

5 อาชีพรายได้สูงที่ตลาดต้องการ

มีการเปิดเผย 5 สาขาอาชีพที่ตลาดแรงงานในสหรัฐฯ ต้องการสูง โดยบางอาชีพไม่จำเป็นต้องใช้วุฒิปริญญาตรี แต่สามารถมีรายได้สูงถึง 100,000 เหรียญสหรัฐฯ ต่อปี ได้แก่:

  1. ช่างเทคนิคลิฟต์และบันไดเลื่อน

    • ดูแลและซ่อมแซมอุปกรณ์ลิฟต์และบันไดเลื่อน
    • วุฒิการศึกษาระดับมัธยมปลายและใบอนุญาต
    • รายได้เฉลี่ย 102,420 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 3.5 ล้านบาทต่อปี)
  2. พนักงานโรงไฟฟ้า

    • ควบคุมหม้อไอน้ำและเครื่องกำเนิดไฟฟ้า
    • วุฒิการศึกษาระดับมัธยมปลายและใบอนุญาต
    • รายได้เฉลี่ย 100,890 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 3.4 ล้านบาทต่อปี)
  3. พนักงานควบคุมการจราจรทางอากาศ

    • ควบคุมการจราจรเครื่องบินทั้งบนอากาศและพื้นดิน
    • ต้องมีวุฒิปริญญาตรีหรือใบรับรอง AT-CTI และผ่านการฝึกอบรม FAA
    • รายได้เฉลี่ย 137,380 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 4.7 ล้านบาทต่อปี)
  4. ช่างเทคนิคนิวเคลียร์

    • ทำงานร่วมกับนักฟิสิกส์และวิศวกรเพื่อผลิตพลังงานนิวเคลียร์
    • วุฒิการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์และฝึกงาน
    • รายได้เฉลี่ย 101,740 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 3.5 ล้านบาทต่อปี)
  5. ผู้บังคับบัญชาแนวหน้าตำรวจและนักสืบ

    • จัดการงานและประสานงานสืบสวน
    • ต้องมีประสบการณ์ด้านตำรวจหรือการสืบสวน
    • รายได้เฉลี่ย 101,750 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 3.5 ล้านบาทต่อปี)

แรงงาน Gen Z ปรับตัว

กลุ่มคนรุ่นใหม่เริ่มหันมามองอาชีพที่ให้รายได้สูงโดยไม่เน้นปริญญาตรีมากขึ้น สายงานที่เกี่ยวข้องกับการผลิต พลังงาน และการบิน ถูกมองว่าให้ผลตอบแทนคุ้มค่าเทียบเท่ากับงานออฟฟิศ โดย Nathan Soto เสริมว่า “การพัฒนาทักษะและการปรับตัวของแรงงานในสายอาชีพเหล่านี้ ถือเป็นอนาคตของตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่ต้องการแรงงานคุณภาพสูง”

วิกฤตแรงงานฝีมือในสหรัฐฯ ไม่เพียงสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในตลาดแรงงาน แต่ยังชี้ให้เห็นถึงโอกาสที่กลุ่ม Gen Z จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจในอนาคตอีกด้วย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : McKinsey & Co.

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
FEATURED NEWS

One Stop Open House 2024 เปิดโอกาสการศึกษาแห่งอนาคต

งาน “One Stop Open House 2024” เปิดประตูสู่อนาคตการศึกษาและอาชีพ

“กระทรวง อว. รวมมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ เปิดโอกาสการศึกษาแห่งอนาคต”

เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดงาน “One Stop Open House 2024” ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ฮอลล์ 1-2 โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยนักเรียนและผู้ปกครองค้นหาเส้นทางการศึกษาที่เหมาะสมและตอบโจทย์โลกยุคดิจิทัล งานนี้รวบรวมมหาวิทยาลัยกว่า 70 แห่งจากทั่วประเทศ พร้อมนำเสนอนวัตกรรมการเรียนรู้ที่ทันสมัย หลักสูตรหลากหลาย และคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ ภายใต้แนวคิด “อนาคตของคุณเริ่มต้นที่นี่: การศึกษายุคใหม่เพื่ออาชีพในฝัน” (Your Future Begins Here: Modern Education for Dream Careers)

โลกการศึกษาในยุคใหม่

ในยุคที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว อาชีพที่เคยเป็นที่ต้องการอาจไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป ขณะเดียวกัน อาชีพใหม่ ๆ เช่น วิศวกรปัญญาประดิษฐ์ นักวิเคราะห์ข้อมูล และสายงานดิจิทัลอื่น ๆ กลายเป็นที่ต้องการ มหาวิทยาลัยจึงต้องปรับตัวสร้างหลักสูตรที่ตอบสนองความเปลี่ยนแปลง เช่น หลักสูตรด้านความยั่งยืน ธุรกิจดิจิทัล และวิทยาการข้อมูล

กิจกรรมเด่นภายในงาน

  • การพบปะผู้เชี่ยวชาญ: นักเรียนสามารถปรึกษาเรื่องการเลือกคณะ การพัฒนาทักษะ และวางแผนอาชีพ
  • เทคโนโลยี VR: สำรวจห้องเรียน ห้องปฏิบัติการ และชีวิตในมหาวิทยาลัยเสมือนจริง
  • ข้อมูลทุนการศึกษา: รวมทุนจากทั้งในและต่างประเทศ พร้อมแหล่งสนับสนุนจากรัฐและเอกชน
  • เวิร์กช็อป Upskill และ Reskill: พัฒนาทักษะในยุคดิจิทัล เตรียมตัวเข้าสู่ตลาดงาน
  • AI Faculty Matching: ระบบจับคู่คณะและสายอาชีพที่เหมาะสมตามความถนัด
  • 9D Cinema และเครื่องจำลองอาชีพ: สร้างประสบการณ์เสมือนจริงจากอาชีพในฝัน

มินิคอนเสิร์ตและกิจกรรมพิเศษ

เพื่อเติมเต็มบรรยากาศความสนุกสนาน งานนี้ยังจัดมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง เช่น ATLAS, PAPERPLANE, ทอม อิศรา, Diamond Laz1 และ PROXIE ที่จะสร้างแรงบันดาลใจและความทรงจำที่พิเศษให้กับผู้เข้าร่วม

เปิดโอกาสสำหรับทุกคน

งานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 พฤศจิกายน – 1 ธันวาคม 2567 เวลา 09.00 – 19.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยเปิดให้เข้าชมฟรี สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกเดินทาง สามารถรับคำปรึกษาผ่าน Line Official @OpenhousebyMhesi

งานนี้ไม่ใช่แค่นิทรรศการการศึกษา แต่เป็นพื้นที่ค้นพบตัวเองและออกแบบอนาคต อย่าพลาดโอกาสสำคัญนี้ พบกันในงาน “One Stop Open House 2024”!

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

เชียงรายผลักดันการท่องเที่ยวคาร์บอนนิวทรัล สู่ตลาดสากลอย่างยั่งยืน

เชียงรายผลักดันท่องเที่ยวแนวใหม่ สู่มาตรฐานระดับสากล ด้วยแนวคิดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2567 เพจ Chiangrai Geopark-อุทยานธรณีเชียงราย รายงานถึงความสำเร็จของกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวขององค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย (อบจ.เชียงราย) ภายใต้โครงการ “ฝึกอบรมทดสอบเส้นทางการท่องเที่ยวและประชาสัมพันธ์” (Famtrip) ที่จัดขึ้นในปีงบประมาณ 2567 เพื่อผลักดันเชียงรายเข้าสู่ตลาดการท่องเที่ยวระดับสากล ด้วยแนวคิดการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และยั่งยืน

ท่องเที่ยวครบ 5 เส้นทางในจังหวัดเชียงราย

กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นใน 5 เส้นทางการท่องเที่ยวหลัก ครอบคลุมพื้นที่หลายอำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองเชียงราย อำเภอแม่จัน อำเภอแม่สาย อำเภอเชียงแสน อำเภอแม่ฟ้าหลวง และอำเภอเชียงของ โดยเน้นส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวในชุมชนท้องถิ่นที่มีความหลากหลาย ทั้งในเชิงวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และธรรมชาติ

ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน

กิจกรรมนี้ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากหลายหน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงราย สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย สมาคมมัคคุเทศก์จังหวัดเชียงราย รวมถึงสื่อมวลชนและอินฟลูเอ็นเซอร์ในพื้นที่

เข้าสู่การประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ มุ่งสู่การท่องเที่ยวคาร์บอนนิวทรัล

ผลจากการดำเนินกิจกรรมอย่างเป็นรูปธรรม ทำให้ อบจ.เชียงราย ได้รับการประสานงานจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ TGO เพื่อนำเส้นทางการท่องเที่ยวเข้ารับการประเมินผ่านระบบคาร์บอนนิวทรัล ด้วยเครื่องมือคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของ TGO เบื้องต้นกิจกรรมดังกล่าวผ่านการประเมินในระดับที่ดีเยี่ยม พร้อมเข้าสู่ขั้นตอนขยายกลุ่มเป้าหมายการท่องเที่ยวสู่ตลาดต่างประเทศ

ผลักดันเชียงรายสู่ตลาดการท่องเที่ยวระดับโลก

อบจ.เชียงราย วางเป้าหมายให้โครงการนี้เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของจังหวัด ด้วยการสร้างเส้นทางการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและตอบสนองต่อกระแสการท่องเที่ยวแนวใหม่ในปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังเตรียมขยายความร่วมมือกับพันธมิตรในระดับประเทศและระดับสากล เพื่อสร้างความยั่งยืนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของเชียงราย

อบจ.เชียงรายแสดงความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาจังหวัดให้เป็นต้นแบบของการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ที่ไม่เพียงแต่สนับสนุนเศรษฐกิจในพื้นที่ แต่ยังช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมในระยะยาวอีกด้วย

ข้อมูลสำคัญของข่าว

  • โครงการ: ฝึกอบรมทดสอบเส้นทางการท่องเที่ยวและประชาสัมพันธ์ (Famtrip)
  • พื้นที่ดำเนินการ: 5 อำเภอในจังหวัดเชียงราย
  • ผลการประเมิน: ผ่านมาตรฐานคาร์บอนนิวทรัลโดย TGO
  • เป้าหมาย: การขยายตลาดการท่องเที่ยวสู่ระดับสากล

เชียงรายจึงไม่เพียงเป็นจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย แต่ยังพร้อมเป็นต้นแบบการท่องเที่ยวแนวใหม่ที่ตอบสนองต่อเทรนด์การเดินทางที่เปลี่ยนแปลงในยุคปัจจุบัน.

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : Chiangrai Geopark-อุทยานธรณีเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
NEWS

Gen Z เลี่ยงโทรศัพท์ แชทดีกว่า เพิ่มความสบายใจ

“ทำไม Gen Z และ Millennials ถึงหลีกเลี่ยงการรับสายโทรศัพท์?”

เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2567 BBC News รายงานว่าคนรุ่นใหม่ในกลุ่ม Gen Z และ Millennials มีแนวโน้มหลีกเลี่ยงการรับสายโทรศัพท์อย่างมาก การสำรวจโดย Uswitch พบว่า 1 ใน 4 ของคนอายุ 18-34 ปีไม่เคยรับสายโทรศัพท์ และเกือบ 70% ของคนในช่วงอายุนี้ชอบส่งข้อความมากกว่า โดยมองว่าสายที่ไม่ได้คาดหมายมักหมายถึงข่าวร้าย หรือเป็นสายจากมิจฉาชีพ

พฤติกรรมการสื่อสารที่เปลี่ยนไป

ในอดีต คนรุ่นก่อนใช้โทรศัพท์บ้านพูดคุยกับเพื่อนและครอบครัว แต่ Gen Z และ Millennials เติบโตมากับเทคโนโลยีที่เน้นการส่งข้อความ ตั้งแต่การส่ง SMS ในยุคแรก ๆ จนถึงการแชทในแอปพลิเคชันเช่น Instagram หรือ Snapchat การพูดโทรศัพท์กลายเป็นสิ่งที่ไม่คุ้นเคยและสร้างความวิตกกังวล เพราะต้องตอบโต้ทันทีและหลีกเลี่ยงความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น

นักจิตวิทยา ดร.เอเลนา ทูโรนี อธิบายว่าคนรุ่นใหม่ไม่คุ้นเคยกับการพูดโทรศัพท์ตั้งแต่เด็ก ทำให้เกิดความรู้สึกแปลกเมื่อถูกโทรหา ขณะที่จิตบำบัดวิทยา เอลอยส์ สกินเนอร์ กล่าวว่า ความกังวลเรื่องการรับสายมาจากความเชื่อมโยงกับข่าวร้าย หรือความคาดหวังที่ต้องจัดการทันที

การทำงานและผลกระทบในที่ทำงาน

ในที่ทำงาน ความวิตกเกี่ยวกับการรับสายอาจกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงาน เฮนรี เนลสัน-เคส นักกฎหมายและคอนเทนต์ครีเอเตอร์ บอกว่าการพูดโทรศัพท์มีความรู้สึกเปิดเผยและเป็นส่วนตัวมากกว่า ขณะที่ ดันยา เรลิค นักกฎหมายอีกรายระบุว่าการโทรศัพท์ใช้เวลามากและขัดจังหวะงานที่กำลังทำ

ความคิดเห็นจากคนต่างวัย

เจมส์ โฮลตัน นักธุรกิจวัย 64 ปี กล่าวว่า พนักงานรุ่นใหม่มักไม่รับสาย และหันไปใช้ข้อความหรืออีเมลแทน ขณะที่เซียรา โบรดี ผู้จัดการซูเปอร์มาร์เก็ต วัย 25 ปี กลับมองว่าการโทรศัพท์จากหัวหน้าเป็นสิ่งที่แสดงถึงความใส่ใจและช่วยสร้างความเชื่อมโยงระหว่างการทำงานจากที่บ้าน

การปรับตัวในยุคใหม่

การสื่อสารผ่านข้อความหรือเสียงในรูปแบบอื่น ๆ เช่น Voice Notes กลายเป็นตัวเลือกที่คนรุ่นใหม่ชื่นชอบ เนื่องจากสามารถตอบสนองได้ตามเวลาที่สะดวก อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าหากแนวโน้มนี้ยังคงดำเนินต่อไป อาจสูญเสียความเชื่อมโยงทางอารมณ์ที่เกิดจากการสื่อสารด้วยเสียง

ในยุคที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว สิ่งสำคัญคือการปรับตัว การสื่อสารผ่านข้อความไม่ใช่การหลีกเลี่ยง แต่เป็นการพัฒนารูปแบบการสื่อสารที่ตอบโจทย์วิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป เช่นเดียวกับที่เราทิ้งเครื่องแฟกซ์ในอดีต การสื่อสารแบบใหม่อาจเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารในอนาคต.

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : BBC

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

นายกแม่ยาวลงพื้นที่ช่วยผู้ป่วย-พัฒนาถนน เชื่อมชุมชน

นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลแม่ยาวลงพื้นที่เยี่ยมผู้ป่วยและสำรวจโครงการพัฒนาถนน

เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2567 เวลา 10.30 น. นายอภิรักษ์ อินต๊ะวัง นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลแม่ยาว พร้อมด้วยทีมบริหาร เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และผู้ใหญ่บ้าน พร้อมด้วยกลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) จากบ้านพนาสวรรค์ หมู่ที่ 13 ร่วมกันลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจผู้ป่วยติดเตียงและผู้ยากไร้ในพื้นที่ พร้อมนำสิ่งของจำเป็นไปมอบให้ผู้ป่วยเพื่อช่วยเหลือในเบื้องต้น

ในช่วงบ่าย เวลา 13.00 น. คณะทำงานได้เดินทางไปยังบ้านผาสุก หมู่ที่ 20 เพื่อเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจผู้ป่วยติดเตียงและผู้ยากไร้ โดยได้รับความร่วมมือจากผู้ใหญ่บ้านและพี่น้อง อสม. ในพื้นที่ ทั้งนี้ นายอภิรักษ์ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพผู้ป่วยในชุมชนและการสร้างเครือข่ายความช่วยเหลือในระดับหมู่บ้าน เพื่อให้ผู้ป่วยและครอบครัวได้รับการสนับสนุนทั้งในด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

เวลา 14.30 น. นายอภิรักษ์และทีมงานได้ลงพื้นที่สำรวจโครงการพัฒนาถนนคอนกรีตเสริมเหล็กบริเวณระหว่างบ้านพนาสวรรค์ไปยังบ้านอาเกอะ หมู่ที่ 13 เพื่อดูความคืบหน้าในการดำเนินงาน โดยโครงการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาชุมชนที่มุ่งเน้นการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานของพื้นที่ให้เอื้อต่อการเดินทางและการดำเนินชีวิตประจำวันของประชาชน นายอภิรักษ์ได้กล่าวว่า ถนนสายนี้เป็นเส้นทางสำคัญที่เชื่อมระหว่างหมู่บ้าน โดยการก่อสร้างจะช่วยเพิ่มความสะดวกในการเดินทาง ลดปัญหาฝุ่นละอองในช่วงฤดูแล้ง และช่วยให้การขนส่งผลผลิตทางการเกษตรเป็นไปอย่างราบรื่นยิ่งขึ้น

เสริมสร้างความเป็นอยู่ที่ดีของชุมชน

ในระหว่างการลงพื้นที่ นายอภิรักษ์ได้พูดคุยกับประชาชนในชุมชนถึงปัญหาและความต้องการในพื้นที่ พร้อมให้คำมั่นว่าทางเทศบาลตำบลแม่ยาวจะดำเนินการปรับปรุงและแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเรื่องโครงสร้างพื้นฐานและการดูแลประชากรในกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้ป่วยติดเตียงและผู้ยากไร้ เพื่อให้ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

โครงการในครั้งนี้ถือเป็นตัวอย่างที่ดีของการบริหารงานที่เน้นการพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ ทั้งในด้านสุขภาพและสาธารณูปโภค เพื่อเสริมสร้างความเป็นปึกแผ่นและความร่วมมือในชุมชนอย่างยั่งยืน.

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : เทศบาลตำบลแม่ยาว

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
NEWS UPDATE

รัฐช่วยชาวนาไร่ละพัน ลดผลกระทบราคาข้าวตกต่ำ

รัฐบาลอนุมัติเงินสนับสนุนชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท กระตุ้นผลผลิตเกษตรกรรายย่อยทั่วประเทศ

เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2567 นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ว่า ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของคณะอนุกรรมการด้านการผลิต เพื่อสนับสนุนเกษตรกรรายย่อยให้สามารถเพิ่มผลผลิตและลดผลกระทบจากราคาข้าวที่ตกต่ำในปีนี้ โดยเห็นชอบการสนับสนุนเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ต่อครัวเรือน ซึ่งจะครอบคลุมเกษตรกรจำนวน 4.68 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ รวมวงเงิน 38,000 ล้านบาท

โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วยชาวนา

นางนฤมล ระบุว่า การสนับสนุนดังกล่าวจะเป็นการช่วยเหลือเฉพาะฤดูเก็บเกี่ยวครั้งนี้เท่านั้น เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของเกษตรกร และเป็นการเพิ่มศักยภาพการผลิตในระยะสั้น สำหรับแผนการช่วยเหลือระยะยาว จะต้องพิจารณาแนวทางเพิ่มผลผลิตและลดต้นทุนอย่างยั่งยืนต่อไป

ที่ประชุมยังได้ยกเลิกโครงการ “ปุ๋ยคนละครึ่ง” ซึ่งใช้งบประมาณ 29,000 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา โดยเปลี่ยนมาเป็นการจ่ายเงินสนับสนุนไร่ละ 1,000 บาทแทน ทั้งนี้ เพื่อให้โครงการสามารถช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยได้อย่างครอบคลุมและตรงจุดยิ่งขึ้น

เปลี่ยนโครงการปุ๋ยคนละครึ่งเพื่อช่วยชาวนา

นางนฤมล อธิบายว่า งบประมาณที่มีอยู่จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) จำนวน 29,000 ล้านบาท จะถูกนำมาใช้ในโครงการนี้ โดยเพิ่มเติมงบประมาณอีก 9,000 ล้านบาท ซึ่งทางผู้บริหาร ธกส. ยืนยันว่าสามารถบริหารจัดการได้

นายปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย กล่าวแสดงความพึงพอใจกับโครงการดังกล่าว แม้ในอดีตชาวนาเคยได้รับเงินสนับสนุนไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ แต่ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันที่ราคาข้าวตกต่ำ การได้รับการสนับสนุนในครั้งนี้จึงช่วยลดความเดือดร้อนของเกษตรกรรายย่อยได้

เงินสนับสนุนเพื่อความยั่งยืนในอนาคต

แม้ตัวแทนเกษตรกรจะแสดงความต้องการได้รับการสนับสนุนมากกว่าที่กำหนด แต่รัฐบาลยังต้องพิจารณางบประมาณที่มีอย่างรอบคอบ โดยเงินบางส่วนจะถูกนำไปพัฒนาแหล่งน้ำและโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ เพื่อสร้างความยั่งยืนในอนาคตสำหรับภาคเกษตรกรรม

นางนฤมล กล่าวปิดท้ายว่า โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของรัฐบาลในการสนับสนุนเกษตรกรไทย และคาดว่าจะสามารถนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรในวันที่ 29 พฤศจิกายนนี้ เพื่ออนุมัติเป็นของขวัญปีใหม่สำหรับชาวนาไทย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

นายกฯ ชูแผนแก้น้ำท่วมเชียงใหม่-เชียงราย เสร็จก่อนฤดูฝนปี 2568

นายกฯ เคาะแผนแก้น้ำท่วมเชียงใหม่-เชียงราย เร่งเสร็จก่อนฤดูฝนปีหน้า

เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2567 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) เป็นผู้นำทีมวางแผนแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย เพื่อป้องกันเหตุการณ์น้ำท่วมซ้ำในปีหน้า

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีและโฆษก ศปช. เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาเชิงรุก โดยแผนระยะเร่งด่วนต้องเร่งให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคม 2568 ก่อนฤดูฝน เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะการขุดลอกแหล่งน้ำ การกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ และการสร้างแนวป้องกันตลิ่ง ทั้งนี้ ศปช.เห็นชอบในหลักการแผนงานที่เสนอมาแล้ว และจะนำเสนอเข้าสู่การประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรในสัปดาห์นี้ เพื่อเริ่มดำเนินงานได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568

แผนระยะกลางและระยะยาว

ในระยะกลางและระยะยาว แผนงานจะรวมถึงการขุดคลองผันน้ำ การสร้างแก้มลิงชั่วคราว และการพัฒนาระบบป้องกันตลิ่งที่มีความยั่งยืน เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่สำคัญ เช่น แม่น้ำปิงในจังหวัดเชียงใหม่ และแม่น้ำกกในจังหวัดเชียงราย

การแก้ปัญหาน้ำท่วมแม่น้ำสาย-แม่น้ำรวก ระหว่างไทย-เมียนมา

สำหรับปัญหาการไหลของน้ำในแม่น้ำสายและแม่น้ำรวก ซึ่งเป็นพื้นที่เขตแดนระหว่างประเทศไทยและเมียนมา ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมไทย-เมียนมา (JCR) ได้เห็นพ้องในการขุดลอกแม่น้ำเพื่อเพิ่มช่องทางการระบายน้ำ และแก้ปัญหาสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำแม่น้ำ ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยและจังหวัดเชียงราย ดำเนินการอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่

เสียงสะท้อนจากประชาชน

นายจิรายุเปิดเผยว่า มีเสียงสะท้อนจากประชาชนในอำเภอแม่สายว่าไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ซ้ำอีก ทาง ศปช. จึงให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาการรุกล้ำลำน้ำอย่างจริงจัง เพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อบ้านเรือนประชาชนและเศรษฐกิจในพื้นที่

การดูแลเยียวยากำลังพลที่ได้รับผลกระทบ

ในขณะเดียวกัน ศปช. ได้เห็นชอบในหลักการให้กระทรวงกลาโหม รวบรวมรายชื่อกำลังพลที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม แต่ยังไม่ได้รับเงินเยียวยา 9,000 บาท ส่งให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการหารือกับกรมบัญชีกลาง เพื่อจัดการเรื่องดังกล่าวโดยเร็ว

นายกรัฐมนตรีชื่นชมการทำงานเชิงรุกของ ศปช. ที่สามารถแก้ปัญหาได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว พร้อมกำชับให้ทุกฝ่ายดำเนินการตามแผนที่วางไว้ เพื่อให้ประชาชนได้รับการช่วยเหลือและป้องกันภัยพิบัติในอนาคตอย่างเต็มที่.

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) 

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

รถบรรทุกน้ำมันพลิกคว่ำที่พาน กู้ภัยเร่งช่วยเหลือจนเปิดใช้ถนนได้ปกติ

รถบรรทุกน้ำมันพลิกคว่ำที่พาน กู้ภัยเร่งช่วยเหลือจนเปิดใช้ถนนได้ปกติ

เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2567 เวลา 04.50 น. เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกน้ำมันเตาพลิกคว่ำบริเวณถนนพหลโยธินขาขึ้น หน้าบริษัททนาเกรน หมู่ 6 ตำบลสันกลาง อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย โดยรถบรรทุกน้ำมันพลิกคว่ำขวางถนน ส่งผลให้การจราจรติดขัดเป็นเวลาหลายชั่วโมง

เหตุการณ์และการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
ในที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บเป็นชาย อายุประมาณ 50-60 ปี มีบาดแผลเล็กน้อยที่ศีรษะ หน่วยกู้ชีพองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) สันกลาง ได้นำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลพานเพื่อรับการรักษาทันที

การกู้รถและเคลียร์พื้นที่

ต่อมา เจ้าของรถบรรทุกได้นำรถเครนมายกย้ายรถที่พลิกคว่ำออกจากพื้นที่ พร้อมกับเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานที่ร่วมกันเคลียร์พื้นถนน โดยได้ฉีดล้างคราบน้ำมันและตรวจสอบความปลอดภัยอย่างละเอียด เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน

หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมมืออย่างแข็งขัน

เหตุการณ์ครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานหลายภาคส่วน ได้แก่

  1. สถานีตำรวจภูธรพาน
  2. สายตรวจทางหลวง
  3. แขวงการทางเชียงราย
  4. กู้ชีพ อบต.ม่วงคำ
  5. กู้ชีพสมาคมเจริญเมือง
  6. เทศบาลเมืองพาน
  7. อบต.เจริญเมือง
  8. อบต.ป่าหุ่ง
  9. อบต.แม่เย็น

ทุกหน่วยงานได้ทำงานร่วมกันอย่างเต็มที่จนสามารถเปิดถนนให้ใช้งานได้ตามปกติในเวลาประมาณ 14.00 น.

ข้อแนะนำเพื่อความปลอดภัยบนท้องถนน

อุบัติเหตุครั้งนี้เน้นย้ำความสำคัญของการขับขี่อย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะในช่วงเวลามืดหรือเมื่อขับขี่รถบรรทุกสารเคมีหรือเชื้อเพลิงที่อาจก่อให้เกิดอันตรายได้

องค์การบริหารส่วนตำบลสันกลางและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอขอบคุณประชาชนในพื้นที่และผู้ใช้รถใช้ถนนที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี พร้อมทั้งยืนยันที่จะดูแลความปลอดภัยและจัดการอุบัติเหตุอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือที่แข็งแกร่งของทุกฝ่ายในพื้นที่ เพื่อความปลอดภัยและการจัดการปัญหาที่รวดเร็ว ซึ่งถือเป็นตัวอย่างของการบริหารจัดการอุบัติเหตุในพื้นที่สาธารณะอย่างมีประสิทธิภาพ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : องค์การบริหารส่วนตำบลสันกลาง

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

กาดอิ่มบุญ ยลวิถีผาเงา เสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์เชียงราย

“กาดอิ่มบุญ ยลวิถีผาเงา” ผนึกพลังชุมชนและวัฒนธรรมเชียงรายสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์

เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2567 เวลา 09.00 น. ณ อาคารสำนักงานเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย วัดพระธาตุผาเงา อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ได้มีการประชุมคณะทำงานเตรียมการจัดงาน “กาดอิ่มบุญ ยลวิถีผาเงา และกิจกรรมข่วงวัฒนธรรมสร้างสรรค์” ภายใต้โครงการสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โดยมีนายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย พร้อมข้าราชการสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงรายร่วมประชุม เพื่อวางแผนงานและแนวทางการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมและยกระดับเศรษฐกิจชุมชนผ่านมิติทางวัฒนธรรม

การจัดงานเพื่ออนุรักษ์และพัฒนาเศรษฐกิจวัฒนธรรม

ชุมชนวัดพระธาตุผาเงา (บ้านสบคำ) ซึ่งมีความโดดเด่นด้านภูมิปัญญาท้องถิ่น ได้ร่วมบูรณาการกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย เพื่อจัดพิธีเปิดงาน “กาดอิ่มบุญ ยลวิถีผาเงา” ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 ณ ลานอเนกประสงค์หน้าอาคารโรงเรียนสามวัย วัดพระธาตุผาเงา ภายในงานมีกิจกรรมหลากหลายที่สะท้อนความเป็นเอกลักษณ์ของชุมชน เช่น การแสดงศิลปะและวัฒนธรรมพื้นบ้าน การสาธิตภูมิปัญญาท้องถิ่น การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม และสินค้าชุมชนในอำเภอเชียงแสน

ผู้มีส่วนร่วมผลักดันงานครั้งนี้

การประชุมดังกล่าวได้รับเกียรติจากพระราชวชิรคณี เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย และเจ้าอาวาสวัดพระธาตุผาเงา เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วยพระปลัดณัฐธวนลพงศ์ กลฺยาโณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธาตุผาเงา นางทิพย์วรรณ โตแตง ประธานสภาวัฒนธรรมเทศบาลตำบลเวียง นายอานนท์ สมพันธุ์ ผู้ใหญ่บ้านสบคำ และผู้นำชุมชนร่วมวางแผน เพื่อสร้างความพร้อมสำหรับการจัดกิจกรรม

วัฒนธรรมที่เชื่อมโยงเศรษฐกิจสร้างสรรค์

งาน “กาดอิ่มบุญ ยลวิถีผาเงา” นอกจากจะเป็นพื้นที่แสดงออกถึงภูมิปัญญาท้องถิ่นแล้ว ยังมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ผ่านผลิตภัณฑ์ชุมชน โดยเฉพาะสินค้าพื้นบ้านและงานหัตถกรรมที่สะท้อนเอกลักษณ์ท้องถิ่นของจังหวัดเชียงราย เช่น ผลิตภัณฑ์ผ้าทอพื้นเมือง อาหารพื้นบ้าน และผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นการเสริมสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน

กิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจสู่คนรุ่นใหม่

การแสดงศิลปะและวัฒนธรรมในงาน เช่น การฟ้อนพื้นเมือง การบรรเลงดนตรีพื้นบ้าน และการแสดงละครสะท้อนเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ในพื้นที่ จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่เห็นความสำคัญของมรดกทางวัฒนธรรม พร้อมทั้งกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้และอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นในระยะยาว

ความคาดหวังและอนาคตที่ยั่งยืน

งานนี้คาดว่าจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวในชุมชนวัดพระธาตุผาเงา และสร้างการรับรู้ในวงกว้างเกี่ยวกับวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดเชียงราย โดยไม่เพียงแต่สร้างรายได้ให้แก่ชุมชน แต่ยังเสริมสร้างความยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจวัฒนธรรมในพื้นที่

เชิญร่วมสัมผัสประสบการณ์ทางวัฒนธรรม

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถร่วมงาน “กาดอิ่มบุญ ยลวิถีผาเงา” และกิจกรรมข่วงวัฒนธรรมสร้างสรรค์ ได้ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 ที่วัดพระธาตุผาเงา จังหวัดเชียงราย งานนี้เป็นโอกาสสำคัญในการสัมผัสเสน่ห์ของวัฒนธรรมและวิถีชีวิตท้องถิ่น พร้อมสนับสนุนสินค้าชุมชนที่เปี่ยมไปด้วยคุณค่าและเอกลักษณ์

ข้อมูลเพิ่มเติม

สถานที่จัดงาน: วัดพระธาตุผาเงา อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย
วันเวลา: 30 พฤศจิกายน 2567
กิจกรรมเด่น: การแสดงพื้นบ้าน การสาธิตภูมิปัญญา และตลาดสินค้าชุมชน

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการอนุรักษ์วัฒนธรรมและพัฒนาชุมชนในจังหวัดเชียงราย ผ่านงานที่เต็มไปด้วยความสร้างสรรค์และคุณค่าทางสังคม

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สํานักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เทศบาลนครเชียงรายเดินหน้า นำเมืองแห่งการศึกษาและเรียนรู้

“เทศบาลนครเชียงรายเดินหน้ายกระดับการศึกษา เมืองแห่งการเรียนรู้”

เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เทศบาลนครเชียงราย นำโดย นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย ร่วมกับคณะผู้บริหารเทศบาลฯ ได้ประกาศนโยบายสำคัญในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ภายใต้แนวคิด “การศึกษาพัฒนาคน คนพัฒนาเมือง เมืองพัฒนาคน” เพื่อยกระดับเชียงรายให้เป็น “เมืองแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต” ส่งเสริมให้ประชาชนในทุกช่วงวัยมีองค์ความรู้รอบด้าน พร้อมทั้งสร้างนวัตกรรมทางการศึกษาเพื่อพัฒนานักเรียนและเยาวชนให้มีความรู้คู่คุณธรรม เป็น “คนเก่งและคนดี”

การสนับสนุนเพื่อการศึกษาในทุกมิติ

นายวันชัยกล่าวว่า หนึ่งในเป้าหมายหลักของเทศบาลคือการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา โดยเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนที่เรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ได้รับการสนับสนุนที่เหมาะสม ตัวอย่างโครงการเด่น ได้แก่

  1. บริการหอพักนักเรียนฟรี สำหรับนักเรียนในพื้นที่
  2. โควตาเข้าเรียนต่อในโรงเรียนสังกัดเทศบาลนครเชียงราย
  3. ทุนการศึกษา เพื่อสนับสนุนการศึกษาของนักเรียนในทุกระดับ

“เทศบาลนครเชียงรายมุ่งมั่นที่จะสร้างโอกาสและพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กและเยาวชนให้ดียิ่งขึ้น เพราะเราเชื่อว่าการศึกษาคือรากฐานสำคัญของการพัฒนาเมือง” นายวันชัยกล่าว

สร้างความสัมพันธ์โรงเรียน-ผู้ปกครอง

เทศบาลนครเชียงรายยังมุ่งเน้นการสร้างความเข้าใจและสัมพันธภาพที่ดีระหว่างโรงเรียนในสังกัดและผู้ปกครอง โดยจัดกิจกรรมพบปะ ชี้แจงแนวทางการจัดการศึกษาของโรงเรียนสังกัดเทศบาลนครเชียงราย ได้แก่ โรงเรียนเทศบาลนครเชียงราย ท.1 – ท.8 ทั้งยังส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือระหว่างผู้ปกครองและโรงเรียนเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาร่วมกัน

ความสำเร็จระดับภูมิภาค

นายวันชัยยังแสดงความยินดีและภาคภูมิใจกับความสำเร็จของโรงเรียนในสังกัดเทศบาลนครเชียงราย ที่คว้ารางวัลอันดับ 1 ในการแข่งขันทักษะวิชาการระดับภาคเหนือได้ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพของบุคลากรทางการศึกษาและนักเรียนที่มีคุณภาพ

ผลักดันเชียงรายสู่เมืองแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต

นอกจากการสนับสนุนเด็กและเยาวชน เทศบาลนครเชียงรายยังมีเป้าหมายในการส่งเสริมการเรียนรู้สำหรับประชาชนทุกช่วงวัย โดยจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลาย เช่น

  • การฝึกอบรมวิชาชีพ
  • การจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ในชุมชน
  • การส่งเสริมการอ่านผ่านห้องสมุดประชาชน

นายวันชัยกล่าวว่า “เราต้องการสร้างเชียงรายให้เป็นเมืองที่ทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนาตัวเองได้ตลอดชีวิต เพื่อสร้างชุมชนที่เข้มแข็งและยั่งยืน”

ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน

เทศบาลนครเชียงรายยังมุ่งเน้นการสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อร่วมกันผลักดันโครงการต่างๆ ให้เกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม

มุ่งหน้าสู่อนาคต

นายกเทศมนตรีนครเชียงรายย้ำว่า การพัฒนาการศึกษาคือภารกิจที่ต้องทำอย่างต่อเนื่องและจริงจัง เพื่อให้เด็กและเยาวชนในพื้นที่มีอนาคตที่สดใส พร้อมทั้งสร้างรากฐานให้เชียงรายเป็น “นครแห่งการศึกษา” อย่างแท้จริง

เมื่อโครงการต่างๆ ได้ดำเนินการตามแผนอย่างครบถ้วน เชียงรายจะไม่เพียงเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ แต่ยังเป็นแบบอย่างของการพัฒนาการศึกษาที่ยั่งยืนและครอบคลุมสำหรับทุกคนในสังคม.

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : เทศบาลนครเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE