Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

เชียงรายพัฒนาเว็บไซต์ท่องเที่ยวด้วย Big Data และ AI

เชียงรายจัดประชุมพัฒนาการท่องเที่ยวด้วย Big Data และเว็บไซต์ Chiang Rai Digital Tourism

เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2567 เวลา 09.00 น. ณ ห้องวิสต้าไพรเวท ชั้น 2 โรงแรมแกรนด์วิสต้า เชียงราย ตำบลรอบเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย ได้จัดการประชุมสำคัญเพื่อระดมความคิดเห็นในการออกแบบเว็บไซต์และฐานข้อมูลสำหรับโครงการ Chiang Rai Digital Tourism ซึ่งมุ่งพัฒนาการท่องเที่ยวของจังหวัดให้มีความทันสมัยและสอดคล้องกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

เป้าหมายเพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านการท่องเที่ยวของเชียงราย

การประชุมครั้งนี้มี นายเสริฐ ไชยยานันตา ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุม พร้อมทั้งมีนายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นและให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการพัฒนาเว็บไซต์ Chiang Rai Digital Tourism โดยมีผู้แทนส่วนราชการและเครือข่ายภาคเอกชนในจังหวัดเชียงรายเข้าร่วมอย่างคับคั่ง

โครงสร้างหลักของเว็บไซต์ Chiang Rai Digital Tourism

ภายในงานนี้ คณะทำงานได้นำเสนอโครงสร้างหลักของเว็บไซต์ Chiang Rai Digital Tourism เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้เข้าใจถึงแนวคิดและการทำงานของเว็บไซต์ที่กำลังจะถูกพัฒนาขึ้น โดยเน้นไปที่การใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เพื่อช่วยให้สามารถวิเคราะห์และติดตามพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวได้อย่างแม่นยำ

ระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนเพื่อสร้างเว็บไซต์ที่ตอบโจทย์

กิจกรรมระดมความคิดเห็นในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสที่ผู้เข้าร่วมประชุมได้ร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ รวมถึงการใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบแผนที่ (Google Map) ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการแสดงข้อมูลการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงราย ทั้งในเรื่องของแหล่งท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร และเส้นทางการเดินทางที่น่าสนใจ

การใช้ปัญญาประดิษฐ์และ Google Map เพื่อยกระดับเว็บไซต์ท่องเที่ยว

การประชุมยังได้พูดถึงความสำคัญของการนำระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาช่วยในการทำงานของเว็บไซต์ Chiang Rai Digital Tourism ซึ่ง AI จะสามารถช่วยแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวตามความสนใจของนักท่องเที่ยวแต่ละคน โดยใช้ข้อมูลที่ได้จาก Big Data นอกจากนี้ยังมีการนำ Google Map มาใช้เพื่อสร้างความสะดวกสบายในการเข้าถึงข้อมูลแผนที่และการเดินทาง โดยนักท่องเที่ยวสามารถค้นหาตำแหน่งของแหล่งท่องเที่ยวได้ทันทีบนเว็บไซต์

สรุปประเด็นการระดมความคิดเห็นและตอบข้อซักถามจากผู้เข้าร่วม

ในช่วงสุดท้ายของการประชุม คณะทำงานได้สรุปประเด็นที่ได้จากการระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับการใช้งานระบบ AI และ Google Map ในการพัฒนาเว็บไซต์ Chiang Rai Digital Tourism พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมประชุมซักถามและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพิ่มเติม เพื่อให้การพัฒนาเว็บไซต์ดังกล่าวตอบโจทย์ทุกความต้องการของนักท่องเที่ยว

การประชุมดำเนินไปอย่างราบรื่นและเป็นระบบ

การประชุมในครั้งนี้เป็นไปอย่างราบรื่น มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง โดยมี นายจิรัฏฐ์ ยุทธ์ธนประวิช นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการจากสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย เป็นตัวแทนจากนายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย มาร่วมให้ข้อเสนอแนะ และการจัดการประชุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สะท้อนถึงความร่วมมือและการมุ่งมั่นของทุกภาคส่วนในการพัฒนาการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงรายให้ก้าวสู่ความทันสมัย

อนาคตการท่องเที่ยวเชียงรายกับ Chiang Rai Digital Tourism

การประชุมในครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้เชียงรายกลายเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวที่ทันสมัย ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าในการเก็บข้อมูล วิเคราะห์ และนำเสนอข้อมูลการท่องเที่ยวให้ตรงกับความต้องการของนักท่องเที่ยว ด้วยเว็บไซต์ Chiang Rai Digital Tourism ที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความสะดวกในการวางแผนการท่องเที่ยว ตอบโจทย์ทั้งนักท่องเที่ยวไทยและต่างประเทศ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สนง.วัฒนธรรม เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
AROUND CHIANG RAI TRAVEL

ชมจิตรกรรมบัวหลวงสัญจร ครั้งที่ 45 ณ เชียงราย

เชิญชมผลงานนิทรรศการจิตรกรรมบัวหลวงสัญจร ครั้งที่ 45 ณ เชียงราย

เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 ณ พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยเมืองเชียงราย (CCAM) ได้มีพิธีเปิดนิทรรศการจิตรกรรมบัวหลวงสัญจร ครั้งที่ 45 อย่างเป็นทางการ โดยได้รับเกียรติจากนายดำรงค์ศักดิ์ ยอดทองดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธี ร่วมกับผู้ชมและผู้มีเกียรติจากหลากหลายวงการที่มาร่วมเยี่ยมชมผลงานจิตรกรรมที่ได้รับการคัดเลือกจากการประกวดถึง 81 ผลงาน

ภายในงานนี้ยังได้มีการปาฐกถาพิเศษเรื่อง “กว่า 4 ทศวรรษ จิตรกรรมบัวหลวง” โดยศาสตรเมธี ดร.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติที่มอบความรู้และแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะไทย นับเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ส่งเสริมการสืบสานศิลปวัฒนธรรมไทยในท้องถิ่นเชียงราย และสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักศึกษาและบุคคลทั่วไปที่สนใจงานศิลปะ

การประกวดจิตรกรรมบัวหลวง: เวทีสำหรับศิลปินรุ่นใหม่

มูลนิธิบัวหลวงได้จัดการประกวดจิตรกรรมบัวหลวงมาตั้งแต่ปี 2517 โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนผู้ที่มีแนวคิดสร้างสรรค์ในการสร้างผลงานจิตรกรรมให้สามารถสร้างสรรค์ผลงานที่ดีและมีคุณค่า การประกวดครั้งนี้ถือเป็นปีที่ 45 ซึ่งจัดขึ้นในปี 2567 โดยมีการประกวดในสามประเภท ได้แก่ จิตรกรรมไทยแบบประเพณี จิตรกรรมไทยแนวประเพณี และจิตรกรรมร่วมสมัย ซึ่งมีศิลปินเข้าร่วมส่งผลงานทั้งสิ้น 117 ราย จำนวนรวม 148 ภาพ

ผลงานที่ชนะเลิศในแต่ละประเภทของการประกวด

สำหรับประเภทจิตรกรรมไทยแบบประเพณี ผลงานที่ได้รับรางวัลที่ 1 เหรียญทองบัวหลวงได้แก่ “โลกวิวรณปาฏิหาริย์” ของนายสิปปภาส แก้สรากมุข ซึ่งเป็นผลงานที่สะท้อนเรื่องราวทางวัฒนธรรมได้อย่างลึกซึ้ง ส่วนรางวัลที่ 2 เหรียญเงินบัวหลวงได้แก่ “มโนราห์บูชายัญ” ของนายณัฐดนัย ทองเติม และ “พุทธเจ้าโปรดเท้าพญามหาชมพูบดี” ของนายสุริวัฒน์ แดงประดับ

ในประเภทจิตรกรรมไทยแนวประเพณี รางวัลที่ 1 เหรียญทองบัวหลวงตกเป็นของผลงาน “ประตูเปิดแล้ว” ของนายเจษฎา กีรติเสวี ที่แสดงถึงความสำคัญของประเพณีและศิลปะไทย ส่วนรางวัลที่ 2 เหรียญเงินบัวหลวงได้แก่ผลงานชื่อ “ยมกปาฏิหาริย์” ของรองศาสตราจารย์นิโรจน์ จรุงจิตวิทวัส และรางวัลที่ 3 เหรียญทองแดงบัวหลวง ได้แก่ผลงาน “ชุมชนมัสยิดมหานาค” ของนายอัซมาวีย์ การี

สำหรับประเภทจิตรกรรมร่วมสมัย รางวัลที่ 1 เหรียญทองบัวหลวงตกเป็นของผลงาน “ตนิจิต 1/2567” ของนายระพีพัฒน์ ผลรัตนไพบูลย์ ซึ่งเป็นผลงานที่แสดงถึงความคิดสร้างสรรค์และความร่วมสมัย ส่วนรางวัลที่ 2 เหรียญเงินบัวหลวงได้แก่ผลงาน “มายาแห่งความคิด” ของนายจรัญ พานอ่อนตา และรางวัลที่ 3 เหรียญทองแดงบัวหลวงได้แก่ผลงาน “พื้นที่จินตนาการแห่งความสุข” ของนายจตุพล สีทา

เงินรางวัลและสิทธิพิเศษสำหรับศิลปินผู้ชนะการประกวด

ผู้ชนะที่ได้รับรางวัลที่ 1 เหรียญทองบัวหลวงในแต่ละประเภท จะได้รับเงินรางวัลจำนวน 200,000 บาท พร้อมสิทธิพิเศษในการรับทุนทัศนศึกษางานศิลปะในต่างประเทศ รางวัลที่ 2 เหรียญเงินบัวหลวงจะได้รับเงินรางวัลรางวัลละ 150,000 บาท และรางวัลที่ 3 เหรียญทองแดงบัวหลวงจะได้รับเงินรางวัลรางวัลละ 100,000 บาท

เชิญชมนิทรรศการจิตรกรรมบัวหลวงสัญจร ครั้งที่ 45

นิทรรศการจิตรกรรมบัวหลวงสัญจร ครั้งที่ 45 จัดแสดงผลงานของศิลปินที่ผ่านการคัดเลือกจากการประกวด โดยนิทรรศการจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5 พฤศจิกายน – 16 ธันวาคม 2567 ณ พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยเมืองเชียงราย (CCAM) ซึ่งเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมทุกวันอังคาร – วันอาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์) ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ถึง 18.00 น.

การจัดแสดงผลงานครั้งนี้เป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ที่สนใจในศิลปะและวัฒนธรรมไทยที่จะได้สัมผัสกับผลงานจิตรกรรมที่ทรงคุณค่าและสะท้อนถึงความคิดสร้างสรรค์และความสามารถของศิลปินรุ่นใหม่

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
SPORT

เปิดเผยความจริง Imane Khelif กระตุ้นกระแสวิพากษ์ในวงการมวย

เอกสารการแพทย์เผยความจริงเกี่ยวกับเพศของ Imane Khelif นักมวยหญิงผู้คว้าเหรียญทองโอลิมปิก

เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 Imane Khelif นักมวยหญิงจากแอลจีเรีย ซึ่งเคยได้รับเหรียญทองในการแข่งขันโอลิมปิกที่ปารีส กลายเป็นศูนย์กลางของกระแสวิพากษ์วิจารณ์อีกครั้งหลังมีรายงานทางการแพทย์รั่วไหลออกมา เผยให้เห็นว่า Khelif มีความผิดปกติทางเพศตามข้อมูลของผู้สื่อข่าวชาวฝรั่งเศส Djaffar Ait Aoudia ซึ่งระบุว่าเธอเป็นเพศชายทางชีวภาพ

เปิดโปงปัญหาความเป็นธรรมในวงการมวยหญิง

Imane Khelif เคยถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสาธารณชนและหน่วยงานกำกับการแข่งขันหลายครั้งเกี่ยวกับเพศของเธอ โดยเฉพาะหลังจากการแข่งขันโอลิมปิกที่ปารีส 2024 ที่เธอได้คว้าเหรียญทองจากการแข่งขันมวยหญิง การปรากฏตัวของเธอในฐานะนักมวยหญิงที่แข็งแกร่งและเอาชนะคู่ต่อสู้ได้หลายครั้งนั้น ได้ก่อให้เกิดความไม่พอใจในหมู่ผู้ที่มองว่าเธอควรจะแข่งขันในหมวดหมู่เพศชาย

รายงานทางการแพทย์ยืนยันปัญหาทางพัฒนาการเพศ

รายงานจากผู้สื่อข่าวชาวฝรั่งเศสเผยว่าเขาได้เข้าถึงเอกสารทางการแพทย์ของ Khelif ซึ่งแสดงว่าเธอมีภาวะ “5-alpha reductase deficiency” ซึ่งเป็นความผิดปกติทางพัฒนาการเพศที่พบในเพศชาย ทำให้เธอมีลักษณะทางกายภาพที่สอดคล้องกับเพศชาย ข้อมูลนี้ยิ่งเสริมกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าเธอไม่ควรแข่งขันในกลุ่มมวยหญิง

ประธาน IBA เรียกร้องให้ประธาน IOC ขอโทษต่อกรณีอื้อฉาวนี้

นาย Umar Kremlev ประธานสมาคมมวยสากล (IBA) ได้เรียกร้องให้ Thomas Bach ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ขอโทษต่อสาธารณชนเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยกล่าวว่า IOC ได้ละเมิดกฎของวงการกีฬาด้วยการอนุมัติให้นักมวยชายแข่งขันกับนักมวยหญิงในปี 2024 ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายต่อวงการมวยสากลและความเป็นธรรมของนักมวยหญิง

ประธาน IBA ย้ำถึงการปกป้องความเสมอภาคในวงการมวย

Umar Kremlev เน้นย้ำว่า IBA ให้ความสำคัญกับความเสมอภาคทางเพศและความยุติธรรมในการแข่งขัน เขาเรียกร้องให้ Thomas Bach และทีมงาน IOC ขอโทษต่อชุมชนมวยทั่วโลก รวมถึงนักมวยหญิงที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ โดยกล่าวว่า “Thomas Bach ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำนี้ และทุกคนในสมาคมมวยสากลกำลังรอคอยคำขอโทษจากเขา”

ปัญหาการตัดสินคุณสมบัติของนักกีฬาจาก IOC

กรณีของ Imane Khelif และ Lin Yu-ting นักมวยจากไต้หวัน เคยถูกตัดสิทธิ์โดยสมาคมมวยสากลในการแข่งขันมวยหญิงก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม IOC กลับอนุมัติให้พวกเธอสามารถเข้าแข่งขันได้ ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดการถกเถียงถึงความเหมาะสมและการตัดสินใจของคณะกรรมการโอลิมปิก

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : iba.sport / mmaweekly

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

เชียงรายบุกยึดรถดัดแปลงเสียงดัง ลดอุบัติเหตุบนถนน

ตำรวจเชียงรายเปิดยุทธการ “บุกบ้านอันธพาล” ตรวจยึดรถดัดแปลงเสียงดัง สร้างความสงบในช่วงเทศกาลลอยกระทงและปีใหม่

เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 ตำรวจเชียงรายได้เปิดยุทธการครั้งใหญ่ภายใต้ชื่อ “บุกบ้านอันธพาล จังหวัดเชียงราย 2567” ซึ่งได้รับการอำนวยการจาก พ.ต.อ.โสภณ ม่วงเฟื่อง ผกก.สภ.เมืองเชียงราย เพื่อกวาดล้างและยึดรถจักรยานยนต์ดัดแปลงสภาพที่มีเสียงดังเกินควรและขาดอุปกรณ์ส่วนควบตามกฎหมาย นับเป็นการดำเนินงานเพื่อลดความเดือดร้อนรำคาญให้แก่ประชาชนและเสริมสร้างความปลอดภัยในช่วงเทศกาลสำคัญอย่างลอยกระทงและปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง

บูรณาการความร่วมมือหลายหน่วยงานเพื่อบรรลุภารกิจ

การดำเนินการครั้งนี้เป็นการบูรณาการความร่วมมือจากหลายฝ่าย ทั้งจากหน่วยงานตำรวจ องค์กรท้องถิ่น และภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยมี พ.ต.ท.พันชาติ สมตัว รอง ผกก.จร.สภ. เมืองเชียงราย, พ.ต.ท.ฉันทฤทธิ์ เหล่าไพโรจน์จารี รอง ผกก.ป.สภ.เมืองเชียงราย, พ.ต.ท.พรต เศรษฐกร รอง ผกก.สส.สภ.เมืองเชียงราย และ พ.ต.ท.สถาพร มังคลาด สวป.สภ.เมืองเชียงราย ร่วมเป็นผู้ควบคุมและติดตามการดำเนินงานอย่างใกล้ชิด ในการนี้ยังมีชุดปฏิบัติการสายตรวจและชุดปฏิบัติการจราจรจาก สภ.เมืองเชียงราย พร้อมหน่วยงานเครือข่าย เช่น อำเภอเมืองเชียงราย, ขนส่งจังหวัดเชียงราย, ผู้แทนสถานศึกษา, กำนัน ต.ป่าอ้อดอนชัย และส่วนที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมบูรณาการการปฏิบัติในพื้นที่เพื่อความปลอดภัยสูงสุด

ตรวจเข้มรถจักรยานยนต์ดัดแปลง ท่อเสียงดัง ป้องกันการก่อความรำคาญ

ตามนโยบายของ พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผบก.ภ.จว.เชียงราย ได้มอบหมายให้หน่วยงานตำรวจในพื้นที่เข้มงวดกับการตรวจสอบและยึดรถจักรยานยนต์ที่มีการดัดแปลงสภาพ เช่น ท่อไอเสียเสียงดังเกินกฎหมายกำหนด หรือมีอุปกรณ์ส่วนควบที่ไม่ครบถ้วน โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลลอยกระทงและปีใหม่ ซึ่งมีการเดินทางและการเฉลิมฉลองในพื้นที่อย่างหนาแน่น การตรวจยึดรถเหล่านี้นอกจากจะช่วยลดความรำคาญแก่ประชาชนแล้วยังสามารถช่วยป้องกันและลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้รถที่ไม่ปลอดภัยได้อีกด้วย

ผลการดำเนินงาน: ตรวจยึดรถจักรยานยนต์ดัดแปลงสภาพรวม 86 คัน

จากการดำเนินยุทธการ “บุกบ้านอันธพาล” ที่ผ่านมานี้ ทางตำรวจสามารถตรวจยึดรถจักรยานยนต์ที่ถูกดัดแปลงสภาพให้มีเสียงดังและมีสภาพที่ไม่ปลอดภัยต่อการใช้งาน รวมจำนวนทั้งสิ้น 86 คัน การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของพื้นที่และป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการรบกวนประชาชนในช่วงเทศกาลสำคัญ

แนวทางป้องกันความปลอดภัยและเสริมสร้างสังคมปลอดภัย

นอกจากการตรวจยึดรถดัดแปลงแล้ว หน่วยงานตำรวจยังได้แนะนำให้ประชาชนและผู้ใช้รถใช้ถนนปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงการดัดแปลงสภาพรถที่อาจเป็นอันตรายหรือสร้างความรำคาญแก่ผู้อื่น เพื่อเสริมสร้างสังคมที่ปลอดภัยและสร้างความร่วมมือจากทุกฝ่ายในการลดปัญหาการดัดแปลงรถยนต์และการใช้รถที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายในชุมชน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สภ.เมืองเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
AROUND CHIANG RAI SPORT

กองทุนพัฒนาฯ มอบอุปกรณ์กีฬา ฟื้นฟูโรงเรียน สืบสาน สร้างเสริม เติมมต่อ

กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ มอบอุปกรณ์กีฬาให้โรงเรียนในเชียงราย สร้างรอยยิ้มให้เยาวชน

เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา ณ โรงเรียนบ้านสันโค้ง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ร่วมกับจังหวัดเชียงราย ได้จัดพิธีมอบอุปกรณ์กีฬาให้แก่โรงเรียนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย โดยมี  นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยนายสุรศักดิ์ เกิดจันทึก รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทยฝ่ายส่งเสริมกีฬา และ นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เป็นประธานในการมอบอุปกรณ์กีฬา

ส่งมอบความสุขผ่านกีฬา สร้างรากฐานเยาวชนไทย

โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนมีโอกาสเข้าถึงกิจกรรมทางกายและกีฬาอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงเรียนที่ขาดแคลนอุปกรณ์กีฬา เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ อุปกรณ์กีฬาที่มอบให้ในครั้งนี้ประกอบด้วย อุปกรณ์กีฬาชนิดต่างๆ ที่จำเป็นต่อการออกกำลังกายและการเรียนรู้ เช่น ลูกฟุตบอล บาสเก็ตบอล วอลเลย์บอล และอุปกรณ์กีฬาอื่นๆ อีกมากมาย

เปิดโอกาสให้เยาวชนได้พัฒนาตนเอง

นอกจากการมอบอุปกรณ์กีฬาแล้ว ภายในงานยังมีการจัดกิจกรรมแข่งขันกีฬาเทเบิลเทนนิสสำหรับเยาวชนในพื้นที่ และการอบรมเทคนิคการเล่นกีฬาเทเบิลเทนนิสอย่างถูกต้อง โดยมีนักกีฬาอาชีพมาให้คำแนะนำ ซึ่งกิจกรรมนี้ได้รับความสนใจจากเยาวชนเป็นอย่างมาก

กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ มุ่งมั่นพัฒนาเยาวชนไทย

นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ กล่าวว่า “โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนมีสุขภาพที่ดีและมีพัฒนาการทางด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาประเทศในระยะยาว”

ความร่วมมือที่แข็งแกร่งเพื่ออนาคตของเยาวชน

ความร่วมมือระหว่างกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติและจังหวัดเชียงรายในครั้งนี้ ถือเป็นตัวอย่างที่ดีของการทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ความสำคัญกับเด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นทรัพยากรที่มีค่าของชาติ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
AROUND CHIANG RAI SPORT

เชียงรายจัดวิ่งมาราธอนฟรี ชมธรรมชาติ ‘เวียงหนองหล่ม’

เชียงรายพร้อมต้อนรับนักวิ่งทั่วประเทศ ในงานวิ่งเลาะเวียงหนองหล่ม

เชียงราย – เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา ณ โรงแรมไชยนารายณ์ ริเวอร์ไซด์ จังหวัดเชียงราย ได้มีการจัดประชุมเตรียมความพร้อมสำหรับการจัดกิจกรรมวิ่งเลาะเวียง “เวียงหนองหล่ม จังหวัดเชียงราย” โดยมี นายเสริฐ ไชยยานันตา ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธี

ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา สร้างเศรษฐกิจกลุ่มจังหวัด

กิจกรรมวิ่งเลาะเวียง “เวียงหนองหล่ม จังหวัดเชียงราย” นับเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 (เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน) ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา และกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อ:

  • เผยแพร่ศักยภาพด้านการท่องเที่ยว: นำเสนอความสวยงามของธรรมชาติ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ของเวียงหนองหล่ม และจังหวัดเชียงราย
  • กระตุ้นเศรษฐกิจ: ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มาเยือนจังหวัดเชียงราย สร้างรายได้ให้แก่ชุมชน
  • ส่งเสริมสุขภาพ: ส่งเสริมให้ประชาชนหันมาออกกำลังกาย และมีสุขภาพที่ดี

รายละเอียดกิจกรรม

  • วันและสถานที่: วันอาทิตย์ที่ 8 ธันวาคม 2567 ณ โรงเรียนจันจว้าวิทยาคม ตำบลจันจว้าใต้ อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย
  • ระยะทางการวิ่ง: แบ่งเป็น 3 ระยะ ได้แก่ มาราธอน (42 กม.), ฮาล์ฟมาราธอน (21 กม.), และ Fun Run (5 กม.)
  • เส้นทางวิ่ง: ผ่านสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และธรรมชาติของเวียงหนองหล่ม
  • การสมัคร: สามารถสมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ฟรี ผ่านทาง

วิ่งเลาะเวียงล้านนาตะวันออก

กิจกรรมวิ่งเลาะเวียง “เวียงหนองหล่ม จังหวัดเชียงราย” เป็นส่วนหนึ่งของโครงการวิ่งเลาะเวียงล้านนาตะวันออก ซึ่งจัดขึ้นใน 4 เมืองหลัก ได้แก่ เวียงลอ (พะเยา), เวียงหนองหล่ม (เชียงราย), เวียงสา (น่าน) และเวียงโกศัย (แพร่) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเชื่อมโยงและพัฒนาการท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2

เชิญชวนนักวิ่งทุกท่านร่วมกิจกรรม

ขอเชิญชวนนักวิ่งทุกท่านมาร่วมสัมผัสประสบการณ์การวิ่งที่แสนพิเศษ พร้อมทั้งร่วมกันอนุรักษ์และส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงราย และกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

เชียงรายเร่งช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย มอบเงินกองทุนกว่า 1.9 ล้านบาท

เชียงรายเร่งช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย มอบเงินกองทุนกว่า 1.9 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 ณ ห้องประชุมสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในการประชุมคณะทำงานฝ่ายพิจารณาจัดสรรเงินกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย เพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัยและดินถล่มที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดเชียงรายเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

มอบเงินช่วยเหลือกว่า 1.9 ล้านบาท

ที่ประชุมได้มีมติอนุมัติการช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่ผู้ประสบภัยใน 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแม่สาย อำเภอแม่ฟ้าหลวง และอำเภอเวียงแก่น โดยมอบเงินจากกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย จำนวนทั้งสิ้น 1,940,000 บาท เพื่อนำไปใช้ในการซ่อมแซมบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยเฉพาะบ้านที่ได้รับความเสียหายทั้งหลัง ซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 43 หลังคาเรือน

ความช่วยเหลือครอบคลุมทุกพื้นที่

จังหวัดเชียงรายได้ให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างทั่วถึง โดยได้จัดตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อพิจารณาและจัดสรรเงินกองทุนให้แก่ผู้ที่มีความจำเป็นอย่างเร่งด่วน โดยมีการพิจารณาจากหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนและเป็นธรรม เพื่อให้การช่วยเหลือถึงมือผู้ประสบภัยอย่างตรงจุดและทั่วถึง

ขอบคุณผู้บริจาคทุกท่าน

นอกจากนี้ จังหวัดเชียงรายขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมบริจาคเงินเข้ากองทุนช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ทำให้มีเงินทุนเพียงพอในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในครั้งนี้ โดยยอดบริจาค ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 3,245,716.42 บาท และหลังจากการพิจารณาในครั้งนี้ ยังคงเหลือเงินในกองทุนอีก 1,305,716.42 บาท ซึ่งจะนำไปใช้ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในระยะต่อไป

ร่วมสร้างกำลังใจให้ผู้ประสบภัย

แม้ว่าเหตุการณ์อุทกภัยจะผ่านพ้นไปแล้ว แต่ผลกระทบยังคงอยู่ จังหวัดเชียงรายจึงขอเชิญชวนทุกภาคส่วนร่วมกันส่งกำลังใจและให้การสนับสนุนผู้ประสบภัย เพื่อให้พวกเขาสามารถฟื้นฟูชีวิตและกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
SOCIETY & POLITICS

ปลดล็อกตัวเงินตัวทอง-นกแอ่น สร้างรายได้ทางเศรษฐกิจ

ปลดล็อก “ตัวเงินตัวทอง-นกแอ่น” เพื่อเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงเพื่ออนาคต

เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ประกาศนโยบายปลดล็อกเกี่ยวกับการเลี้ยงสัตว์เพื่อเศรษฐกิจ โดยเน้นไปที่ตัวเงินตัวทองและนกแอ่น ซึ่งได้รับการเห็นชอบจากคณะกรรมการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า เพื่อเปิดโอกาสให้เกษตรกรและผู้ประกอบการสามารถใช้ประโยชน์จากสัตว์เหล่านี้ได้อย่างถูกกฎหมายและมีมาตรการป้องกันการลักลอบจำหน่าย

ปรับปรุงกฎหมายเพื่อความยั่งยืน

คณะกรรมการได้เห็นชอบให้มีการจัดทำกฎหมายลำดับรองตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า รวม 12 ฉบับ เพื่อกำหนดแนวทางให้ผู้ประกอบการสามารถเลี้ยงสัตว์คุ้มครอง เช่น ตัวเงินตัวทอง ได้เพื่อเศรษฐกิจและการอนุรักษ์ ในขณะเดียวกันก็มีการกำหนดข้อบังคับด้านสุขอนามัยและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการเลี้ยงสัตว์เหล่านี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อชุมชน

นโยบายการเลี้ยงตัวเงินตัวทอง

การประชุมคณะกรรมการได้เห็นชอบให้ตัวเงินตัวทองเป็นสัตว์ที่สามารถเลี้ยงเพื่อวัตถุประสงค์ทางเศรษฐกิจได้ โดยปัจจุบันมีความต้องการในตลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสามารถเลี้ยงเป็นสัตว์สวยงามและมีศักยภาพในการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร ซึ่งมาตรการนี้เป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมเศรษฐกิจและลดการลักลอบค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย

ความสำคัญของการเลี้ยงนกแอ่นกินรัง

นอกจากตัวเงินตัวทองแล้ว นกแอ่นกินรังและนกแอ่นรังดำก็ได้รับการบรรจุในนโยบายดังกล่าว โดยอนุญาตให้เก็บรังนกแอ่นเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจอย่างถูกต้องตามกฎหมาย นับเป็นการตอบสนองความต้องการของตลาดที่มีรังนกแอ่นเป็นที่ต้องการสูง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพและโภชนาการ

สร้างความสมดุลระหว่างเศรษฐกิจกับการอนุรักษ์

นโยบายใหม่จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนี้ ไม่ได้เพียงแค่เพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างความสมดุลระหว่างการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติกับการอนุรักษ์สัตว์ป่าในระยะยาว การออกกฎหมายใหม่ทั้ง 12 ฉบับนี้เป็นการป้องกันการลักลอบใช้ทรัพยากรธรรมชาติและยังช่วยเพิ่มรายได้ให้กับชุมชนโดยไม่กระทบต่อระบบนิเวศ

ข้อบังคับเกี่ยวกับการเลี้ยงสัตว์ป่าคุ้มครอง

การเลี้ยงสัตว์ป่าคุ้มครองจะต้องมีการขออนุญาตและปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด เพื่อให้สอดคล้องกับข้อบังคับด้านสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัย อีกทั้งยังกำหนดอัตราเรียกเก็บค่าบริการและค่าใช้จ่ายสำหรับการขออนุญาต เพื่อควบคุมการใช้งานและให้เป็นไปตามมาตรฐานของกฎหมาย

ประโยชน์ต่อเศรษฐกิจในระยะยาว

การเปิดโอกาสให้เลี้ยงสัตว์เหล่านี้ได้จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะในภาคการเกษตรและการท่องเที่ยว ซึ่งสามารถดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศได้ รวมถึงการส่งออกผลิตภัณฑ์จากสัตว์ป่าเหล่านี้ยังเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการสร้างรายได้ให้กับชุมชน

ก้าวต่อไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมยืนยันว่าจะติดตามผลกระทบของนโยบายนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าการใช้ประโยชน์จากสัตว์ป่าคุ้มครองจะไม่ก่อให้เกิดปัญหาต่อสิ่งแวดล้อม การพัฒนานี้เป็นก้าวสำคัญในการสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติกับการส่งเสริมเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณาให้ความเห็นชอบกฎหมายลำดับรองประกอบ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ในความรับผิดชอบของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และกรมประมง รวม 12 ฉบับ เช่น

  • ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่องกำหนดชนิดของสัตว์ป่าคุ้มครองให้เป็นสัตว์ป่าที่เพาะพันธุ์ได้ พ.ศ. ….
  • เรื่องกำหนดชนิดสัตว์ป่าคุ้มครองที่อนุญาตให้เก็บ ทำอันตราย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งรังได้ พ.ศ. ….
  • ร่างระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ว่าด้วยการขอรับใบอนุญาตและการออกใบอนุญาตให้เก็บ ทำอันตราย หรือมีไว้ครอบครอง ซึ่งรังของสัตว์ป่าคุ้มครองที่มิใช่สัตว์น้ำ พ.ศ. ….
  • ร่างระเบียบฯ ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการจ่ายค่าเสียหายหรือค่าชดเชยในพื้นที่ควบคุมเพื่อการจัดการสัตว์ป่า พ.ศ. ….
  • ร่างระเบียบฯ ว่าด้วยการกำหนดอัตราเรียกเก็บค่าใช้จ่าย ค่าบริการ หรือค่าตอบแทน และราคาสัตว์ป่า พ.ศ. ….
  • ร่างระเบียบฯ ว่าด้วยการขึ้นทะเบียนสถานที่ที่จัดไว้สำหรับใช้เลี้ยงดู ดูแล รักษาสัตว์ป่า พ.ศ. ….
  • ร่างระเบียบฯ ว่าด้วยหลักเกณฑ์ในการคำนวณมูลค่าของทรัพยากรธรรมชาติในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าหรือเขตห้ามล่าสัตว์ป่า พ.ศ. ….
  • ร่างระเบียบฯ ว่าด้วยการเรียกเก็บและยกเว้นค่าบริการหรือค่าตอบแทน และอัตราค่าบริการหรือค่าตอบแทน ในการให้บริการและอำนวยความสะดวกในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและเขตห้ามล่าสัตว์ป่า (ฉบับที่..) พ.ศ. ….

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม-ประเทศไทย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
ENVIRONMENT

‘ซานตาครูซ’ แบนบุหรี่ไส้กรอง หวังลดมลพิษสิ่งแวดล้อม

‘ซานตาครูซ’ ประกาศห้ามขายบุหรี่แบบมีไส้กรองครั้งแรกในสหรัฐฯ มุ่งลดมลพิษเพื่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพประชาชน

เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 มีรายงานจาก Environment+Energy Leader ว่าซานตาครูซ (Santa Cruz County) ในสหรัฐอเมริกา ได้ประกาศแบนการขายบุหรี่ที่มีไส้กรอง โดยถือเป็นการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญในสหรัฐฯ เพื่อลดมลพิษที่เกิดจากบุหรี่ซึ่งเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน การแบนนี้ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการกำกับดูแลของเทศมณฑลซานตาครูซ ซึ่งมีผลบังคับใช้ในเดือนมกราคม 2567 ทำให้เทศมณฑลซานตาครูซกลายเป็นเขตอำนาจศาลแรกในประเทศที่ใช้กฎหมายห้ามนี้อย่างเป็นทางการ

การเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน

การแบนบุหรี่แบบมีไส้กรองที่ซานตาครูซ เมืองในแคลิฟอร์เนีย รัฐในประเทศสหรัฐฯ
นี้มุ่งหวังที่จะลดมลพิษทางทะเลและขยะสาธารณะที่เกิดจากก้นบุหรี่ ซึ่งส่วนประกอบของไส้กรองบุหรี่นั้นมักประกอบด้วยไมโครพลาสติกที่มีสารเคมีอันตราย ก้นบุหรี่ถือเป็นขยะที่พบบ่อยที่สุดบนชายหาดและในทางน้ำทั่วโลก ซึ่งก่อให้เกิดปัญหามลพิษมากมาย

ข้อมูลจากองค์กร Ocean Conservancy เปิดเผยว่า ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2529 โครงการ International Coastal Cleanup สามารถเก็บก้นบุหรี่ได้มากถึง 63 ล้านชิ้นทั่วโลก โดยเฉพาะในรัฐแคลิฟอร์เนียเพียงแห่งเดียวพบว่ามีก้นบุหรี่ที่เก็บได้ถึง 8.5 ล้านชิ้น กลุ่มอนุรักษ์ท้องถิ่น Save Our Shores ยังได้เก็บข้อมูลที่น่ากังวลโดยพบว่ามีก้นบุหรี่กว่า 400,000 ชิ้นที่ถูกเก็บขึ้นมาจากชายหาดและพื้นที่สาธารณะในซานตาครูซภายในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ซึ่งการเคลื่อนไหวนี้สื่อถึงความมุ่งมั่นของเทศมณฑลในการปกป้องสิ่งแวดล้อมทางทะเลและลดมลพิษในระดับท้องถิ่นอย่างจริงจัง

การทำงานร่วมกันเพื่อให้บรรลุเป้าหมายสิ่งแวดล้อมระดับภูมิภาค

การดำเนินการห้ามขายบุหรี่ที่มีไส้กรองในซานตาครูซนี้ได้ใช้วิธีการร่วมมือ โดยกำหนดให้เมืองที่อยู่ในเขตเทศมณฑลซานตาครูซอย่างน้อย 2 ใน 4 เมืองต้องดำเนินกฎหมายที่คล้ายคลึงกัน เพื่อให้เกิดการสนับสนุนอย่างเข้มแข็งและบรรลุเป้าหมายร่วมกันในการลดมลพิษทางสิ่งแวดล้อม การใช้แนวทางนี้ยังช่วยให้เกิดความสอดคล้องกับนโยบายระดับภูมิภาคที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้การบังคับใช้กฎหมายมีความครอบคลุมและเพิ่มประสิทธิภาพในการลดมลพิษจากบุหรี่อย่างแท้จริง

นโยบายดังกล่าวสอดคล้องกับแนวทางการปกป้องสิ่งแวดล้อมที่กำลังเกิดขึ้นทั่วสหรัฐฯ ตัวอย่างเช่นในรัฐฟลอริดาซึ่งได้ออกกฎหมายในปี พ.ศ. 2565 อนุญาตให้แต่ละเมืองบังคับใช้การห้ามสูบบุหรี่ในพื้นที่ชายหาดและสวนสาธารณะ ซึ่งผลักดันให้มณฑลและเทศบาลมากกว่า 50 แห่งนำแนวทางนี้ไปปรับใช้ นับเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหามลพิษในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ

กฎหมายซานตาครูซต้นแบบการลดมลพิษเพื่อสิ่งแวดล้อม

การแบนบุหรี่แบบมีไส้กรองในเทศมณฑลซานตาครูซมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นต้นแบบสำหรับการออกนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมในพื้นที่อื่น ๆ เพื่อแก้ไขปัญหามลพิษจากบุหรี่ที่แหล่งกำเนิด ขณะที่ยังคงให้ความสำคัญกับสุขภาพของประชาชน กฎหมายนี้ชี้ให้เห็นถึงการจัดการมลพิษอย่างมีประสิทธิภาพและสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้ยั่งยืน

ด้วยแนวทางและการดำเนินการเชิงบวกนี้ การห้ามขายบุหรี่แบบมีไส้กรองของซานตาครูซอาจกลายเป็นแรงบันดาลใจให้หลายพื้นที่ในสหรัฐฯ หันมาใช้มาตรการที่คล้ายคลึงกันเพื่อส่งเสริมสุขภาพและปกป้องสิ่งแวดล้อม

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : environment energy leader

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
AROUND CHIANG RAI TRAVEL

เชียงรายเชิญเที่ยวภูชี้ฟ้า สัมผัสหนาว ชมหมอกสวย

รองปลัดมหาดไทยชวนเที่ยวภูชี้ฟ้า สัมผัสอากาศหนาว ชมทะเลหมอก จังหวัดเชียงราย

เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทยและรักษาการในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้เชิญชวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาเที่ยวจังหวัดเชียงราย เพื่อสัมผัสกับอากาศหนาวเย็น โดยเฉพาะที่ “ภูชี้ฟ้า” แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวต่างเดินทางมาชมทะเลหมอกในยามเช้า และความงดงามของพระอาทิตย์ขึ้น

ภูชี้ฟ้า: จุดชมวิวทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นที่งดงามที่สุดในเชียงราย

ภูชี้ฟ้า ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย และถือเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเทือกเขาดอยผาหม่น ความสูงเฉลี่ยจากระดับน้ำทะเลอยู่ที่ 1,628 เมตร ด้วยลักษณะภูมิประเทศที่เป็นหน้าผาทอดยาวชี้ขึ้นฟ้าทางฝั่งประเทศลาว จึงได้ชื่อว่า “ภูชี้ฟ้า” จากภูชี้ฟ้า นักท่องเที่ยวจะสามารถมองเห็นหมู่บ้านเชียงตองของประเทศลาว ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่มีทิวทัศน์สวยงามยิ่งนัก

จุดชมวิวที่นิยม


นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นไปยังจุดชมวิวบนยอดภู หรือเลือกหยุดที่ลานกว้างซึ่งอยู่ก่อนถึงยอดเขา ทั้งสองจุดนี้จะให้มุมมองที่งดงามไม่แพ้กัน โดยเฉพาะยามเช้าตรู่ที่ทะเลหมอกก่อตัวขึ้นพร้อมกับแสงแดดอ่อน ๆ ของพระอาทิตย์ที่ค่อย ๆ โผล่พ้นขอบฟ้า

ฤดูหนาวนี้พิเศษกว่าที่ผ่านมา

ปีนี้ธรรมชาติที่ภูชี้ฟ้าได้ฟื้นตัวจากเหตุการณ์ไฟป่าที่เคยเกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา ตอนนี้นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสความเขียวขจีของทุ่งหญ้าและวิวทิวทัศน์ที่กลับมาสวยงาม พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่

การเดินทางไปยังภูชี้ฟ้า

นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปภูชี้ฟ้าได้ทั้งการใช้รถส่วนตัวและรถสาธารณะ โดยการเดินทางด้วยรถส่วนตัวสามารถใช้แอปพลิเคชันนำทาง GPS เพื่อนำทางไปถึงจุดจอดรถ จากนั้นสามารถต่อรถสองแถวขึ้นภูได้

แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/NFgN2Ah8p3myZkk46 

การเดินทางด้วยรถสาธารณะมี 2 วิธี

  1. รถโดยสารสายเชียงราย-เทิง-เชียงของ ลงที่อำเภอเทิง และต่อรถสองแถวที่มีให้บริการรอบเดียวในเวลา 14.00 น. ค่ารถโดยสารอยู่ที่ประมาณ 33 บาทและค่าโดยสารรถสองแถวเพิ่มอีก 70 บาท
  2. รถตู้จากเชียงรายไปภูชี้ฟ้า ค่าโดยสารอยู่ที่ 150 บาท มีบริการ 2 รอบ คือเวลา 07.15 น. และ 13.00 น. สำหรับขากลับมีรอบเวลา 09.00 น. และ 15.00 น. ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง

สถานที่ท่องเที่ยวอื่นในจังหวัดเชียงราย

นอกจากภูชี้ฟ้าแล้ว จังหวัดเชียงรายยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย เช่น ดอยแม่สลอง ดอยผาตั้ง และวัดร่องขุ่น ซึ่งแต่ละที่ล้วนมีความงดงามเฉพาะตัว และเส้นทางการคมนาคมสะดวกสบาย เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากมาสัมผัสบรรยากาศเมืองเหนือในฤดูหนาว

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE