Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เชียงรายติดอันดับ “โรคมือ เท้า ปาก” ในเด็กเล็กสูง แพทย์แนะสังเกตอาการ

 

เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลง เนื่องจากเข้าสู่ช่วงฤดูฝน ซึ่งเอื้อต่อการระบาดของเชื้อโรคต่างๆ โดยเฉพาะโรคมือ เท้า ปาก ประกอบกับสถานศึกษาเปิดเรียนเป็นปกติ เด็กอาจมีการทำกิจกรรมรวมกลุ่ม ทำให้เสี่ยงต่อการแพร่กระจายของเชื้อ ซึ่งโรคดังกล่าวมีแนวโน้มพบอัตราป่วยมากที่สุดในกลุ่มเด็กเล็กและเด็กวัยเรียน โดยเฉพาะเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี โดยเชื้อสามารถแพร่กระจายได้ง่ายจากการสัมผัสน้ำมูก น้ำลาย น้ำในตุ่มพอง ตุ่มแผล หรือจากการสัมผัสของเล่น อุปกรณ์เครื่องใช้ หรือภาชนะที่ใช้ร่วมกัน ดังนั้น สถานศึกษาจึงควรมีมาตรการคัดกรองและสังเกตอาการของเด็กก่อนเข้าเรียนทุกเช้า เพื่อเฝ้าระวังการป่วยด้วยโรคมือ เท้า ปาก หากพบเด็กมีอาการเสี่ยงจะได้ป้องกันการแพร่ระบาดไปสู่เด็กคนอื่น

 

สถานการณ์โรคมือเท้าปาก ข้อมูลจากกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 29 มิถุนายน 2567 พบรายงานผู้ป่วยสะสม จำนวน 23,143 ราย เสียชีวิต 1 ราย กลุ่มอายุที่มีอัตราป่วยต่อประชากรแสนคนสูงสุดสามอันดับแรก คือ กลุ่มเด็กแรกเกิด – 4 ปี โดยพบผู้ป่วย 16,732 ราย รองลงมาเป็นกลุ่มอายุ 5-9 ปี จำนวน 5,597 ราย และกลุ่มอายุ 10-14 ปี จำนวน 488 ราย ส่วนจังหวัดที่มีอัตราป่วยต่อประชากรแสนคนสูงสุด 5 อันดับแรกคือ

  • ภูเก็ต (110.63)
  • เชียงราย (97.60)
  • ชลบุรี (83.55)
  • พัทลุง (82.40)
  • สระบุรี (67.79) ตามลำดับ

 

สำหรับอาการของโรคมือ เท้า ปาก ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่อาจไม่แสดงอาการหรือมีอาการเพียงเล็กน้อย เช่น มีไข้ต่ำๆ อ่อนเพลีย เจ็บคอ เจ็บปาก ในเด็กเล็กสังเกตได้จากการไม่ยอมรับประทานอาหารหรือมีน้ำลายไหล ร่วมกับมีผื่นหรือตุ่มน้ำใสพองเล็กๆ ขึ้นบริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า ลำตัว ก้น มีตุ่มแผลบริเวณในช่องปาก เพดานอ่อน กระพุ้งแก้ม ลิ้น ซึ่งภายหลังตุ่มแผลจะแตกออกเป็นแผลหลุมตื้นๆ ส่วนใหญ่อาการจะทุเลาและหายเองได้ภายใน 7-10 วัน หากอาการไม่ดีขึ้น เช่น มีไข้สูง รับประทานอาหารและน้ำได้น้อยมาก ซึมลง ชักเกร็ง หายใจหอบเหนื่อย อาเจียนมาก ควรรีบพาผู้ป่วยไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุดเพราะอาจติดเชื้อโรคมือ เท้า ปากชนิดรุนแรง และอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนถึงขั้นเสียชีวิตได้

 

นพ.อภิชาต วชิรพันธ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวย้ำให้ผู้ปกครองและสถานศึกษาสังเกตอาการของเด็กอย่างใกล้ชิดและสม่ำเสมอ และสถานศึกษาหรือสถานรับเลี้ยงเด็กควรปฏิบัติตามคำแนะนำป้องกันโรคมือ เท้า ปาก ดังนี้ 1.คัดกรองเด็กก่อนเข้าเรียนทุกเช้าอย่างเคร่งครัด  2.ให้เด็กล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ (แอลกอฮอล์เจลไม่สามารถฆ่าเชื้อนี้ได้) ทั้งก่อนและหลังรับประทานอาหาร หลังเข้าห้องน้ำ และหลังเล่นของเล่น  3.หมั่นทำความสะอาดของใช้ ของเล่น และพื้นที่ที่เด็กใช้ร่วมกันเป็นประจำ  4.หากสถานศึกษาพบเด็กป่วยให้แยกออกจากเด็กปกติและแจ้งให้ผู้ปกครองรับกลับบ้านเพื่อพาไปพบแพทย์ พร้อมทั้งให้เด็กหยุดเรียนจนกว่าจะหาย แยกของใช้ส่วนตัวของเด็กป่วยออกจากเด็กปกติ ทำความสะอาดด้วยน้ำยาทำความสะอาดหรือน้ำยาฆ่าเชื้อทั่วไป และนำไปตากแดดให้แห้ง หลีกเลี่ยงการคลุกคลีกับเด็กคนอื่น งดไปในที่ชุมชนหรือสถานที่แออัด  และหากพบการระบาดของโรคมือ เท้า ปาก เป็นกลุ่มก้อน ควรแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่เพื่อดำเนินการสอบสวนและควบคุมโรคต่อไป สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กรมควบคุมโรค

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

บอร์ดปลดล็อค “5 วันพระใหญ่” ‘ขายเหล้า’ ในสนามบินเชียงรายได้แล้ว

 

เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ที่รัฐสภา  นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ครั้งที่ 3/2567 โดยที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ พิจารณาประเด็นการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันห้ามขาย ณ ท่าอากาศยานของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต หาดใหญ่ ได้มีการพิจารณาเห็นชอบ ให้ปรับปรุงประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดวันห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2558 คือ วันอาสาฬหบูชา วันวิสาขบูชา วันมาฆบูชา วันเข้าพรรษา และวันออกพรรษา  

 

รายงานข่าวจากที่ประชุมระบุว่า  เดิมการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในท่าอากาศยานนานาชาติ สามารถจำหน่ายได้เฉพาะบริเวณ ร้านค้าปลอดอากรภายในอาคารท่าอากาศยานนานาชาติ  แต่จากการประชุมครั้งนี้ มีการพิจารณาและเห็นชอบให้สามารถจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ในอาคารท่าอากาศยาน โดยสามารถขายได้ใน 5 วันสำคัญทางศาสนา (วันพระใหญ่) ประกอบด้วย  วันอาสาฬหบูชา วันวิสาขบูชา วันมาฆบูชา วันเข้าพรรษา และวันออกพรรษา  

 

ทั้งนี้ นายสุริยะ กล่าวถึงการประชุม ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ได้ร่วมกันพิจารณาในประเด็น หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์ พร้อมทั้งข้อความคำเตือนสำหรับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ผลิตหรือนำเข้า พ.ศ. …. ซึ่งระยะเวลาในการออกประกาศคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นี้ จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 หลังจากนี้จะต้องนำไปแจ้งเวียนประเทศสมาชิก WTO อย่างน้อย 60 วัน หากพิจารณาแล้วเห็นว่าเนื้อหาในร่างประกาศมีผลบังคับใช้กับผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้เกิดผลกระทบกับผู้ประกอบการ จำเป็นต้องพิจารณาร่างประกาศด้วยความละเอียดรอบคอบ มีหลักฐานทางวิชาการและวิทยาศาสตร์สนับสนุนด้วย

 

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า สำหรับประเด็นการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันห้ามขาย ณ ท่าอากาศยานของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต หาดใหญ่ ได้มีการพิจารณาเห็นชอบ ให้ปรับปรุงประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดวันห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2558 ซึ่งเดิม คือ วันอาสาฬหบูชา วันวิสาขบูชา วันมาฆบูชา วันเข้าพรรษา และวันออกพรรษา ให้สามารถจำหน่ายได้ ในอาคารอากาศยานนานาชาติ เพื่อให้เกิดการใช้จ่าย สร้างรายได้จากการท่องเที่ยว และเป็นการส่งเสริมภาคเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของประเทศ 

 

ในส่วนของการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ขอพิจารณาแนวทางการขอยกเว้นสถานที่ หรือบริเวณห้ามขายหรือบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในบริเวณสถานีรถไฟ หรือในขบวนรถที่อยู่บนทางรถไฟ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศนั้นได้ให้ คกก.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ร่วมกับ รฟท.หารือแนวทางและมาตรการควบคุมป้องกันด้านสาธารณสุขและการท่องเที่ยว และร่างกฎหมายส่งให้ คกก.นโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ พิจารณาถึงความเหมาะสมและผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น เพื่อให้เกิดสมดุลระหว่างการกระตุ้นเศรษฐกิจและผลกระทบด้านสุขภาพของประชาชนต่อไป

 

นอกจากนี้ ที่ยังได้มีมติเห็นชอบ ร่าง คำสั่งคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ เรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาแนวทางการจัดหาหรือจัดตั้งกองทุนเพื่อการบำบัดรักษาหรือฟื้นฟูสภาพผู้มีปัญหาการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อให้ผู้ที่มีปัญหาการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ต้องการเข้ารับการบำบัดรักษาเพื่อการเลิกดื่ม สามารถเข้าสู่ระบบบำบัดรักษา และเยียวยาแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากผู้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในประเทศไทย

 

นายสุริยะ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติกำหนดให้วันเข้าพรรษาของทุกปีเป็น “วันงดดื่มสุราแห่งชาติ” ในปีนี้ กรมควบคุมโรค ได้จัดกิจกรรมรณรงค์วันงดดื่มสุราแห่งชาติ ประจำปี 2567 ขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 18 กรกฎาคม 2567 ณ บริเวณลานหน้าห้อง MCC Hall ชั้น 4 เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน จังหวัดนนทบุรี ภายใต้ธีมงาน “หยุดเหล้า หยุดอันตรายต่อผู้อื่น (Stop Alcohol Stop Harm to Other)” โดยมุ่งเน้นรณรงค์ในกลุ่มเด็กเยาวชน และผู้หญิง เพื่อให้เยาวชนรุ่นใหม่ ตระหนักถึงอันตรายของการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และกระตุ้นให้เกิดการลด ละ เลิกการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พร้อมมีกิจกรรม “เชิญ ชวน เชียร์ ลด ละ เลิกเหล้า เข้าสู่ระบบบำบัดรักษา” ด้วยการลงนาม ผ่านระบบออนไลน์ ผ่าน QR Code หรือ เว็บไซต์www.noalcohol.ddc.moph.go.th เพื่อร่วมงดเหล้าในช่วงเข้าพรรษาตลอดระยะเวลา 3 เดือน นำสู่การเลิกเหล้าตลอดชีวิต

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : คณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

‘วันชัย’ ดันกลไกชุมชนแก้ปัญหา”จากล่างขึ้นบน” คือ “ชุมชนสู่ระดับประเทศ”

 

เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2567 ที่อาคารอิมแพ็ค ฟอรั่ม เมืองทองธานี สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ ภาคีเครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ จัดเวที “สานพลัง สร้างนวัตกรรม สู่สุขภาวะชุมชนที่ยั่งยืน ปี 2567” วาระ: ชุมชนท้องถิ่นร่วมแก้ปัญหาประเทศ” มุ่งเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนท้องถิ่น ร่วมแก้ไขปัญหาจากชุมชนสู่ระดับประเทศ โดยมี ดร.วันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย  ดร.นุชากร มาศฉมาดล รองนายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด นายประทุม ไทรแช่มจันทร์ ประธานชุมชนหน้าสมาคมธรรมศาสตร์ กทม. นายประภัสสร ผลวงษ์ ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขสิ่งแวดล้อม เทศบาลเมืองสุพรรณบุรี และ นางเยาวลักษณ์ บุญตามชู นักวิชาการสาธารณสุขเทศบาลหาดใหญ่ ร่วมเสวนาในหัวข้อ “อัตลักษณ์การเสริมสร้างความเข็มแข็งของชุมชนท้องถิ่นร่วมแก้ปัญหาประเทศ”

 

ดร.วันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย  กล่าวว่า เชียงรายเป็นเมืองที่มีปัญหาน้ำเสีย ปัญหาสิ่งแวดล้อมต่างๆมากมาย การที่มาทำงานจากการสัมผัสด้วยตัวเอง มองว่าการจะแก้ปัญหาสู่การพัฒนาสิ่งสำคัญที่สุดคือเป็นการสร้างภาคีเครือข่ายสร้างมุมมองคนร่วมคิดร่วมทำ การที่เราจะสะท้อนปัญหาและแก้ไขที่ชัดเจนหรือภาคประชาชนสร้างมุมมองสู่ท้องถิ่น รวมถึงการจัดวางแผนงบประมาณ เชื่อมั่นว่ากระทรวง ทบวง กรม ต่างมีงบประมาณค่อนข้างมากและกระบวนการที่เราจะคิดและปัญหาที่เราจะแก้ไขได้ เราจะเชิญชวนดึงมาปรับแผนเข้าหากัน มองว่าอยากสร้างให้เป็นชุมชนท้องถิ่นที่ยั่งยืนชุมชนที่เป็นเมืองแห่งความสุขเป็นเมืองสุขภาพดี ดังนั้นการขับเคลื่อนรวมถึงการร่วมมือกับหน่วย อสม.จึงสำคัญ

 

นอกจากนี้ ยังมีการเสริมสร้างสุขภาพและพัฒนาในเรื่องของอาหารปลอดภัย “เชื่อมั่นว่าถ้าเราปลอดภัยแข็งแรงไม่เจ็บไข้ได้ป่วยไม่ทำให้ไม่มีค่าใช้จ่าย” ทำให้คนในครอบครัวไม่ต้องกังวลใจในภาระต่างๆ เชียงรายโชคดีเมื่อทำงานเรามีภาคีเครือข่ายที่เป็นท้องถิ่นต่างๆรวมถึงเทศบาลและโรงพยาบาลเชียงราย โรงพยาบาลภาคเอกชน รวมถึงกระทรวงสาธารณสุข การที่มีสุขภาพวะตามทิศทางของนโยบาย กลยุทธ์ของผู้ว่าราชการจังหวัดสิ่งต่างๆสะท้อนออกมาเมื่อขับเคลื่อนไปจะทำให้เกิดภาคประชาชนแข็งแรง

 

ดร.นุชากร มาศฉมาดล รองนายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า การทำงานคือคิดจากข้างล่างไปข้างบน เพราะการทำงานจากข้างล่างไปข้างบนชุมชนมีส่วนร่วมความยั่งยืนเกิดขึ้นแน่นอน  ร้อยเอ็ดทำ 8 เรื่อง ทั้ง สิ่งแวดล้อม ผู้สูงอายุ เด็กและเยาวชน เศรษฐกิจ เป็นต้น อย่างเรื่องปัญหาเด็กและเยาวชนเป็นสิ่งสำคัญ เพราะปัจจุบันพบมีเด็กออกนอกระบบการศึกษาประมาณ 1,025,115 คน แต่ปี 66 ออกนอกระบบประมาณ 1,000,000 คน  โดยจังหวัดร้อยเอ็ดมีเด็กออกนอกระบบ 6,000 คน ซึ่งเรามีการพาเด็กกลุ่มนี้ไปเรียนฝึกอาชีพซึ่งผลปรากฎว่า เด็กกลุ่มนี้สามารถเปิดร้านเสริมสวยได้ เปิดร้านซ่อมรถได้ ฯลฯ ทุกวันนี้เด็กไม่อยากไปโรงเรียนเพราะไม่รู้เรียนไปแล้วจะทำอาชีพอะไร ฉะนั้นชุมชนจึงสำคัญ  และต้องมาคิดว่าจะทำอย่างไรให้เด็กกับชุมชนอยู่ด้วยกันได้ 

 

นายประทุม ไทรแช่มจันทร์ ประธานชุมชนหน้าสมาคมธรรมศาสตร์ กทม. กล่าวว่า ตอนนี้ในประเทศไทย กลุ่มผู้สูงอายุมีเยอะมาก ในพื้นที่เรามีการประชาสัมพันธ์กับผู้สูงอายุว่า “การชราภาพเป็นเรื่องปกติ แต่เราจะชราภาพให้มีคุณภาพอย่างไร” ซึ่งเรามีการทำกิจกรรมออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นการพบปะสังสรรค์ ใช้แบบสังคมบำบัด นอกจากนี้ยังมีการพูดคุยกัน 5-10 นาที และสำหรับกลุ่มเปราะบางกับผู้ป่วยติดเตียงหรือผู้พิการจะออกกำลังกายในกลุ่มของเราไม่ได้ เราก็ต้องให้ผู้สูงอายุมาเยี่ยมพบปะพูดคุย

 

อีกเรื่องคือกลุ่มเยาวชน กลุ่มเยาวชนในชุมชนปทุมธานีเป็นพื้นที่สีแดงรองจากคลองเตย เป็นชุมชนที่ยาเสพติดค่อนข้างรุนแรงจนไม่มีใครเอาอยู่คณะกรรมการไม่มีใครเอาอยู่ จึงมีการเข้าห้ามปรามได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง เยาวชนเก่าหายไปหมดติดคุกบ้างไปเล่นยาบ้าง ตอนนี้มีการสร้างเยาวชนรุ่นใหม่เป็นเยาวชนของชุมชนและมีการประชุมการบอกโทษของยาเสพติดหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น ยาบ้า กัญชา กระท่อม เฮโรอีน ยาไอซ์ เรามีการประชาสัมพันธ์เรียกกลุ่มเยาวชนมาประชุมเพื่อให้ห่างไกลยาเสพติด เพราะยาเสพติดอันตรายไม่ใช่อันตรายกับชุมชนไม่ใช่อันตรายกับครอบครัวแต่อันตรายต่อประเทศชาติ เราจึงจำเป็นต้องให้เขารับรู้ว่าเป็นสิ่งไม่ดี  จึงเปิดพื้นที่เขาสร้างกิจกรรมเอง ไม่ว่าจะเป็น การทาสีกำแพงบ้าน เป็นต้น

 

นางเยาวลักษณ์ บุญตามชู นักวิชาการสาธารณสุขเทศบาลหาดใหญ่ กล่าวว่า มีชุมชนทั้งสิ้น 103 ชุมชน มีประชากร 150,000 คน รวมประชากรแฝงที่เข้ามาทำงานเข้ามาเพื่อการศึกษาการท่องเที่ยวประมาณ 150,000 คน   ในพื้นที่หาดใหญ่เป็นพื้นที่หลายวัฒนธรรม ทั้งไทย จีน เมืองหาดใหญ่จะเจอปัญหาต่างๆที่กระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่เหมือนเมืองอื่นๆ ภายใต้การดำเนินนโยบายของเทศบาลนครหาดใหญ่และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนหรือทุนทางสังคมในพื้นที่เพื่อขับเคลื่อนสู่เมืองน่าอยู่อย่างยั่งยืน ซึ่งมีในพื้นที่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น เรื่องของหน่วยงานภาครัฐในหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่มีโรงพยาบาลเอกชน มีสถาบันการศึกษาต่างๆ

 

นางเยาวลักษณ์ กล่าวต่อว่า หาดใหญ่เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ โดยมีผู้สูงอายุร้อยละ 19.19 ซึ่งถ้าไม่มองในเรื่องของดูแลผู้สูงอายุจะทำให้การพัฒนาด้านอื่นเป็นไปไม่ได้ด้วย ฉะนั้นเทศบาลหาดใหญ่มีนโยบายเรื่อง “แก่แต่เก๋า สูงวัยแต่ฉลาด” โดยมีกิจกรรมต่างๆเพื่อทำให้ผู้สูงอายุเป็นผู้สูงอายุที่ทรงพลังทางด้านสุขภาพและการมีความพร้อมช่วยเหลือตนเองได้ ไม่นั่งนึกถึงก่อนวัยอันควรหรือในเรื่องของการส่งเสริมการรวมกลุ่มของชมรมผู้สูงอายุเพื่อให้ดูแลการการสร้างการเรียนรู้ตลอดชีวิต การจัดตั้งมีผู้สูงอายุที่จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง การจัดบริการดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุขสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง 

 

สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการสร้างเพิ่มขีดความสามารถอย่างน้อยใน 6 ประการ 1. การพัฒนาภาวะผู้นำของผู้นำและบุคลากรทุกฝ่ายของเทศบาลนครหาดใหญ่และหน่วยงานองค์กรทั้งภาครัฐและภาคประชาสังคมที่เกี่ยวข้อง  2. การเพิ่มคุณภาพการจัดระบบข้อมูล  3. การพัฒนาศักยภาพระบบและกลไก 4. การสร้างการมีส่วนร่วมของเทศบาลนครหาดใหญ่   5. การนำเทคโนโลยีดิจิตอลมาใช้ในการพัฒนาและแอพพลิเคชั่นต่างๆ  6. การสร้างนวัตกรรมโดยบริหารจัดการให้เกิดรูปธรรมการพัฒนาสร้างสรรและความเชี่ยวชาญในการจัดการความรู้

 

สสส.เข้ามาสอนเราในเรื่องของการพัฒนาศักยภาพของกลุ่มและทำให้ค้นพบผู้นำรุ่นใหม่ที่จะต่อยอดการพัฒนาชุมชนซึ่งเราเน้นชุมชนเป็นฐาน นางเยาวลักษณ์ กล่าวทิ้งท้าย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

ผู้ว่าฯ เชียงราย สั่งเปิดปฏิบัติการจับซ้ำ บุหรี่ไฟฟ้าร้านเดิม ลักลอบขายอีกครั้ง

 

เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 67 นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย สั่งเปิดปฏิบัติการ “เชียงรายฟ้าใส (ไร้ควัน)” จัดระเบียบสังคมฯ ป้องกันเด็ก เยาวชน นักเรียน และนักศึกษา ยุ่งเกี่ยวกับอบายมุข ในการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า ตามนโยบาย มท.1 สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้ทำการจับกุมร้านลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ชื่อร้าน P-VAPE ตั้งอยู่ที่ 197/8 หมู่ที่ 15 ตำบลรอบเวียง อำเภอเมืองเชียงราย ซึ่งขณะนั้นจำกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 4 คน แสดงตัวเป็นผู้ดูแลร้าน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ ได้ทำการสืบทราบมาว่า ร้านดังกล่าวกลับมาเปิดลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าอีกครั้ง แต่เปลี่ยนสถานที่ และรูปแบบในการจำหน่าย โดยมีการตั้งกลุ่มไลน์ในการซื้อขาย นัดรับ และส่งของ โดยในไลน์กลุ่มจะพบว่าร้านดังกล่าวมีสาขาอยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย อีกสองสาขา ได้แก่ สาขาตะวันแดง และสาขาบ้านดู่เมืองใหม่ โดยจะใช้วิธีการโอนเงินแต่เพียงอย่างเดียว โดยชื่อบัญชีผู้รับโอนจะเป็นคนเดียวกันซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดนครปฐม แล้วผู้ใช้บริการถึงเลือกว่าจะให้ทางร้านส่งของให้ผ่านทางไรเดอร์ หรือนัดรับตามจุดที่ทางร้านแจ้ง ซ้ำร้านดังกล่าวยังมีการจัดโปรโมชั่นลดราคาต้อนรับเปิดเทอม ซึ่งเป็นรูปแบบเดียวกันทุกสาขา อันเป็นการมุ่งเป้าหมายไปที่กลุ่มเด็ก เยาวชน นักเรียน และนักศึกษา และเป็นการมอมเมา เด็กและเยาวชนในพื้นที่จังหวัดเชียงรายเป็นอย่างมาก

 

     ภายใต้การอำนวยการของ นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายบัลลังก์ ไวทย์ศิริ ปลัดจังหวัดเชียงราย นายบุญส่ง ตินารี นายอำเภอเมืองเชียงราย  พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผบก.ภ.จว.เชียงราย และ พ.ต.อ.โสภณ ม่วงเฟื่อง ผกก.สภ.เมืองเชียงราย ได้สั่งการให้ฝ่ายปกครองร่วมกับตำรวจ นำโดยนายกองรบ กระทุ่มนัด ป้องกันจังหวัดเชียงราย ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดเชียงราย สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดเชียงรายที่ 1 พร้อมเจ้าหน้าที่บูรณาการร่วมออกปราบปรามร้านลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ให้แก่เด็ก เยาวชน นักเรียน และนักศึกษา วันที่ 3 กรกฎาคม 2567 เวลา 14.20 น. เจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนเข้าตรวจสอบร้านดังกล่าว โดยวิธีล่อซื้อ และปลอมตัวเป็นไรเดอร์เพื่อเข้าทำการจับกุม และอีกชุดซุ่มดูพฤติกรรมอยู่บริเวณบ้านเช่าที่คาดว่าเป็นที่เก็บบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งระหว่างที่ทำการซุ่มดูอยู่ประมาณ 15 นาที ทางร้านมีการออกไปส่งของกว่า 5 ครั้ง และมีไรเดอร์เข้ามารับของอยู่ตลอดเวลา เมื่อทำการตกลงซื้อขายและนัดรับของ โดยทางร้านแจ้งให้มารับของที่บริเวณ ข้างวิทยาลัยเทคนิค เชียงราย โดยผู้ส่งของได้ออกจากบ้านเช่าเลขที่ 194/39 ตำบลรอบเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย โดยใช้มอเตอร์ไซต์ ออกมาส่งของ เมื่อมาถึงจุดรับรับเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัว พร้อมพามาตรวจค้นในบริเวณบ้านเช่า ซึ่งเป็นอาคารชั้นเดียว จากการตรวจสอบพบผู้ดูแล จำนวน 2 คน เป็นหญิงและหนึ่งในนั้น เคยถูกจับมาเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 จากการตรวจสอบพบบุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์ จำนวนกว่า 300 ชิ้น มูลค่ากว่า แสนบาท ยังพบบัญชีซึ่งมีรายได้ต่อเดือนกว่า 500,000 บาท และเจ้าหน้าที่ยังพบคำสั่งปิดร้าน ร้าน P-VAPE ตั้งอยู่ที่ 197/8 หมู่ที่ 15 ตำบลรอบเวียง อำเภอเมืองเชียงราย อยู่ในบ้านเช่าหลังดังกล่าวด้วย เจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ดูแลทั้ง 2 ราย โดยแจ้งข้อหา 

 

           1) ได้มีการซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยความผิดตามมาตรา 242 ตามมาตรา 246 วรรคแรก แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 ประกอบข้อ 4 แห่งประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้บารากู่และบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2557 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับเป็นเงินสี่เท่าของราคาของซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้ว หรือ ทั้งจำทั้งปรับ

          2) ขายสินค้าบารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า โดยฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ 9/2558 เรื่อง ห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้า บารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า ต้องระวางโทษ โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

           เจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมกล่าวโทษเจ้าของบัญชี ต่อไป ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะได้ปราบปรามร้านทั้งเปิดหน้าร้านและขายออนไลน์ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

คืบหน้าสร้าง ถนน อ.เทิง-อ.จุน เชื่อม 2 จังหวัด เชียงรายและพะเยา

 

เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2567 นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เปิดเผยว่า กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ดำเนินโครงการก่อสร้างถนนทางหลวงชนบทสายแยก ทล.1020 – บ้านกิ่วแก้ว อำเภอเทิง, จุน จังหวัดเชียงราย, พะเยา โดยปัจจุบันโครงการมีความคืบหน้ากว่าร้อยละ 82 อยู่ระหว่างดำเนินงานชั้นโครงสร้างทาง งานก่อสร้าง

 
ผิวจราจรแอสฟัลท์ติกคอนกรีต งานก่อสร้างสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก และงานไฟฟ้าส่องสว่าง คาดว่าจะก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ในเดือนธันวาคม 2567 นี้ เมื่อก่อสร้างเสร็จจะสามารถใช้เป็นเส้นทางลัดจากอำเภอเชียงของมายังกรุงเทพมหานครโดยไม่ต้องผ่านตัวอำเภอภูซาง อำเภอเชียงคำ และอำเภอจุน ช่วยลดระยะทาง ได้ประมาณ 20 กิโลเมตร พร้อมสนับสนุนการเดินทางและการขนส่งภาคเหนือตอนบน ช่วยยกระดับการคมนาคม การท่องเที่ยวระหว่างประเทศ เนื่องจากจังหวัดพะเยาและจังหวัดเชียงรายมีเขตติดกับประเทศเมียนมา สปป.ลาว และสามารถเชื่อมต่อไปยังตอนใต้ของประเทศจีนได้ 
 
 
จึงใช้เป็นเส้นทางเชื่อมต่อการขนส่งลำเลียงสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังช่วยรองรับปริมาณการจราจรที่เพิ่มขึ้นจากการพัฒนาเขตสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ ตลอดจนประชาชนที่จะใช้เส้นทางผ่านสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 4 (เชียงของ – ห้วยทราย) และจากท่าเรือเชียงของได้อีกด้วย โครงการก่อสร้างถนนทางหลวงชนบทสายแยก ทล.1020 – บ้านกิ่วแก้ว อำเภอเทิง, จุน จังหวัดเชียงราย, พะเยา มีระยะทางรวม 43.709 กิโลเมตร 
 
 
ในการก่อสร้างแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือการปรับปรุงขยายถนนเดิมในบริเวณทับซ้อนถนนสาย พย.4025 เดิมช่วง กม.ที่ 5+000 – 11+900 และ กม.ที่ 13+000 – 15+500 ระยะทางประมาณ 9.4 กิโลเมตร และการก่อสร้างถนนใหม่ บริเวณ กม.ที่ 0+000 – 5+000, 11+900 – 13+000 และ 15+500 – 43+709 รวมระยะทาง 34.309 กิโลเมตร 
 
 
ซึ่งก่อสร้างเป็นถนนแอสฟัลท์ติกคอนกรีตขนาด 2 – 4 ช่องจราจร กว้างช่องละ 3.50 เมตร ไหล่ทางกว้าง 2.50 เมตร พร้อมก่อสร้างสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กขนาดใหญ่ข้ามแม่น้ำลาว 1 แห่ง สะพานคอนกรีตเสริมเหล็กขนาดเล็ก 12 แห่ง รวมถึงโครงสร้างระบายน้ำ อุปกรณ์อำนวยความปลอดภัย สัญญาณไฟจราจร และไฟฟ้าส่องสว่างตลอดสายทาง โดยใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 1,199 ล้านบาท
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กรมทางหลวงชนบท กระทรวงคมนาคม

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

นายกฯ สั่งปราบยาเสพติดระดมตรวจฉี่กลุ่มเสี่ยง-เด็ก 16 ขึ้น ปีไปทั่วประเทศ

 

เมื่อวันที่ 2 ก.ค.2567 ที่ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานมอบนโยบายการบูรณาการแก้ไขปัญหายาเสพติดระยะเร่งด่วน

 

โดยมีนายภูมิธรรม เวชชัย รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกฯ นายจักรพงษ์ แสงมณี รมต.ประจำสำนักนายกฯ หัวหน้าส่วนราชการ และนักศึกษาใหม่ภาคปกติ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา เข้ารับฟังนโยบาย

 

นายกฯ กล่าวมอบนโยบายตอนหนึ่ง ว่า การแก้ปัญหายาเสพติด ถือเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งตั้งแต่เข้าสู่การเมือง หาเสียงพบประชาชนเกือบทุกจังหวัด นอกจากปัญหาปากท้อง ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดคือยาเสพติด โดยเฉพาะยาบ้ามีการนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน แม้รัฐบาลจะจัดการผู้ค้ายา จับยาบ้าได้มากกว่า 4 เท่าในช่วงที่ผ่านมา แต่การใช้ยายังมีต่อเนื่อง ราคายาบ้ายังไม่ขึ้น การที่ราคาคงที่แสดงว่ามีซัพพลายเยอะมาก ฉะนั้น เรื่องนี้ถือว่าสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง

นายเศรษฐา กล่าวว่า ปฏิเสธไม่ได้ ยาเสพติดเป็นต้นตอความสูญเสียหลายอย่าง ทั้งอาชีพ การถูกจำคุก หรือสูญเสียชีวิต จึงขอให้ทุกหน่วยงานช่วยกันอย่างเต็มที่ ปราบยาเสพติดให้หมดไป ร่วมมือกันขจัดยาเสพติดให้สิ้นซากไปจากพื้นที่ที่เรารับผิดชอบกันตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

 

นายเศรษฐา กล่าวว่า ทุกหน่วยงานจะต้องร่วมใจกันแก้ไขปัญหาผ่านนโยบายบูรณาการแก้ไขปัญหายาเสพติดระยะเร่งด่วน 3 เดือน ดังนี้ 1.ให้ผู้ว่าฯทุกจังหวัดเป็น CEO ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหายาเสพติด ร่วมกับผู้บัญชาการตำรวจภูธรจังหวัด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด นายก อบจ. ทำให้ทุกภาคส่วนในพื้นที่เกิดการขับเคลื่อนงานป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติดร่วมกัน

 

2.ตัดวงจรการค้ายาเสพติดรายสำคัญ ปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติดในพื้นที่ เอ็กซเรย์ทุกพื้นที่ด้วยการระดมกำลังตรวจปัสสาวะของกลุ่มเสี่ยงตั้งแต่อายุ 16 ปีขึ้นไปทุกหมู่บ้าน และแยกผู้เสพออกมาให้ได้รับการบำบัด

ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงยุติธรรม โดยสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และกระทรวงกลาโหม ขยายผลการจับกุมผู้ขายเพื่อดำเนินคดีอย่างเฉียบขาด ดำเนินการกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดอย่างจริงจังและเด็ดขาด

นายเศรษฐา กล่าวว่า ร่วมกันค้นหาผู้มีอาการจิตเวชจากยาเสพติดและให้กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงยุติธรรม นำเข้าบำบัดรักษาและให้มีระบบติดตามดูแลช่วยเหลือเฝ้าระวัง หลังจากรักษาอาการและกลับเข้ามาสู่ชุมชน ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีส่วนร่วมสนับสนุนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ดูแลไม่ให้บุคคลเหล่านั้นกลับไปสู่วงจรยาเสพติดอีก

ให้ควบคุมปัจจัยเสี่ยงจากระเบียบสังคมในพื้นที่สถานบันเทิง สถานบริการ สถานประกอบการ คล้ายสถานบันเทิง และบริเวณรอบสถานศึกษา ให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นแรงในการแพร่ระบาดยาเสพติด สร้างมาตรฐานในชุมชนและมาตรฐานทางสังคมให้เป็นพลังต่อต้านยาเสพติดอย่างกว้างขวาง

“การแก้ไขปัญหายาเสพติด ต้องได้รับการสนับสนุนจากประชาชนลุกขึ้นมาต่อสู้ ร่วมกันเป็นหูเป็นตาสอดส่องแจ้งเบาะแส เฝ้าระวัง ขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนช่วยกันแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยเฉพาะ 25 จังหวัดเร่งด่วน”นายเศรษฐา กล่าว

ขณะที่ตัวแทนนักศึกษา กล่าวขอบคุณนายกฯ ที่ได้ให้เกียรติมามอบนโยบายการบูรณาการการแก้ไขปัญหายาเสพติดระยะเร่งด่วนแก่นักศึกษา ซึ่งการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ หรือการใช้ยาเสพติด เป็นภัยร้ายแรงที่อยู่ใกล้ตัวนักศึกษา โดยนักศึกษาของมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา จะนำนโยบายของนายกฯ ไปปฏิบัติเพื่อผลดีต่อตนเอง ครอบครัว และประเทศต่อไป

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักนายกรัฐมนตรี

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

Soft Power เชียงราย เยาวชนมัคคุเทศก์นักเล่าเรื่อง

 

เมื่อวันอังคารที่ 2 กรกฎาคม 2567 โรงเรียนสามัคคีวิทยาคม ได้จัดโครงการ Youth Guied Joy History In Chiang Rai เยาวชนมัคคุเทศก์นักเล่าเรื่องเมืองเชียงรายภายใต้โครงการจิตสำนึกรักเมืองไทยประจำปี 2567 เพื่อส่งเสริมความรู้และอนุรักษ์การท่องเที่ยว ผลักดัน Soft Power จังหวัดเชียงรายเพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจแหล่งท่องเที่ยวในชุมชนรวมถึงส่งเสริมการมีส่วนร่วมของเยาวชนในการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์

 

ทั้งนี้ นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย และคณะผู้บริหารได้เข้าร่วมโครงการ โดยทางเทศบาลนครเชียงรายได้ให้การสนับสนุนข้อมูลการท่องเที่ยวและรถรางในการดำเนินโครงการให้แก่คณะกรรมการนักเรียนโรงเรียนสามัคคีวิทยาคมเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงรายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มการกระจายรายได้สู่ชุมชนและสนับสนุนข้อมูลทางการท่องเที่ยวเพื่อให้เยาวชนมีความเข้าใจ และเข้าถึงการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์มากขึ้น
 
 
นอกจากนี้ยังมีผู้แทนจากสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม นางพรทิวา ขันธมาลา นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการพิเศษ แขกผู้มีเกียรติ และนักเรียนเข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ด้วย
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : เทศบาลนครเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

พิธีทักษิณานุประทาน อุทิศส่วนกุศล พระเทพสิทธินายก อดีตเจ้าคณะเชียงราย

 

เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2567 ที่วัดพระสิงห์ พระอารามหลวง อำเภอเมืองเชียงราย พระพุทธิวงศ์วิวัฒน์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ในพิธีทักษิณาประทาน แด่ บูรพาจารย์อดีตเจ้าอาวาสวัดพระสิงห์ พิธีสมโภช พระอารามหลวง วัดพระสิงห์ จังหวัดเชียงราย โดยมีนายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมกันนี้มีหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำภาคเอกชนพุทธศาสนิกชน และศิษยานุศิษย์ร่วมพิธี

 

ภายในพิธีประธานฝ่ายสงฆ์นำศิษยานุศิษย์ จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย พร้อมกล่าวคำอาราธนาศีล พิธีทักษิณานุปทาน เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แด่ พระเทพสิทธินายก อดีตเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระสิงห์ พระอารามหลวง ซึ่งมรณภาพ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ.2561 ด้วยภาวะเส้นเลือดในสมองแตก สิริอายุได้ 79 ปี 4 วัน พรรษา 59 จากนั้นประธานฝ่ายฆราวาสนำศิษยานุศิษย์ ถวายไทยธรรมแด่พระสงฆ์ 30 รูป เมื่อเสร็จสิ้น พระพุทธิวงศ์วิวัฒน์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย มอบทุนการศึกษาให้แก่ผู้สอบบาลีสนามหลวงได้ ประจำปี 2567 ในสำนักศาสนศึกษาวัดพระสิงห์ เป็นอันเสร็จสิ้นพิธี

 

พระเทพสิทธินายก เดิมชื่อ ชื่น นามสกุล แก้วประภา นามฉายา ปัญญาธโร เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 3 ก.ค. พ.ศ. 2482 ณ บ้านปี้ ต.หงาว อ.เทิง จ.เชียงราย อุปสมบท ณ วัดบุญนาค ต.เวียง อ.เทิง จ.เชียงราย สอบได้นักธรรมเอก และเปรียญธรรม 6 ประโยค ในฝ่ายปริยัติศึกษา และจบบาลีศึกษาปีที่ 2 จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในฝ่ายสามัญศึกษาพ.ศ. 2522 เป็นเปรียญธรรม 6 ประโยค ด้านสมณศักดิ์ พ.ศ. 2530 เป็นพระครูสัญญาบัตร รองเจ้าคณะจังหวัด ในราชทินนามที่ พระครูศรีปริยัติวิธาน, พ.ศ. 2535 เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ (สป.) ในราชทินนามที่ พระสุนทรปริยัติวิธาน, พ.ศ. 2544 เป็นพระราชาคณะชั้นราช ในราชทินนามที่ พระราชสิทธินายก ดิลกศีลาจารนิวิฐ มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี, พ.ศ. 2553 เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ในราชทินนามที่ พระเทพสิทธินายก ดิลกศีลาจารนิวิฐ วรกิจจานุกิจจาทร มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

2 ปีซ้อน หลังสนามบินเชียงราย ได้รับรางวัล “ท่าอากาศยานดีเด่น ปี 67”

 

 เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 นาวาอากาศตรีสมชนก เทียมเทียบรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย พร้อมด้วย นางแสงเดือน อ้องแสนคำ รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ด้านสนับสนุนธุรกิจ) และพนักงานท่าอากาศยานแม่หลวง เชียงราย เข้าร่วมมีพิธีมอบรางวัลเชิดชูเกียรติบุคลากรผู้ทรงคุณค่าของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)(ทอท.) และมอบรางวัลให้แก่พนักงานดีเด่น , พนักงานที่ได้รับการคัดเลือกเป็นสุจริตชน ฅน ทอท. , พนักงานและลูกจ้างที่ได้รับการยกย่องเป็นกรณีพิเศษ , กลุ่มหรือหน่วยงาน ทอท.ดีเด่น , ท่าอากาศยานดีเด่น , บุคคลหรือหน่วยงานภายนอกผู้ทำคุณประโยชน์ให้แก่ ทอท. ประจำปี 2567 เนื่องในโอกาสครบรอบการดำเนินงาน 45 ปี ทอท. 

ในปี 2567 นี้ ถือเป็นอีกหนึ่งปีแห่งความภาคภูมิใจของพนักงานท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.) ที่ได้รับรางวัลอันทรงคุณค่า โดยมีรายละเอียดดังนี้ 

 ท่าอากาศยานดีเด่น ประจำปี 2567 (ติดต่อกัน 2 ปีซ้อน) ของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) รางวัลแห่งความภาคภูมิใจที่มาจากความมุ่งมั่น ตั้งใจ ทุ่มเท และเสียสละ ของพนักงานท่าอากาศยานท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงรายทุกคน ที่ร่วมมือร่วมใจกันเป็นหนึ่งเดียวในการดำเนินงานให้ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงราย และขานรับนโยบายของ ทอท. พร้อมทั้ง “มุ่งมั่น พัฒนา ขับเคลื่อนสู่อนาคต” 

โดยผลงานแห่งความภาคภูมิใจ ของ ทชร. นั้น ประกอบด้วย 

  • เข้าร่วมโครงการ Customer Experience Accreditation จาก Airport Council International ซึ่งเป็นท่าอากาศยานแรกของประเทศไทย
  • การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ICAO Asia Pacific Aerodrome Design and Operation Task Force ภายใต้การดำเนินงานทั้งหมดของทีมงานพนักงาน ทชร. เพื่อแสดงถึงศักยภาพในการพร้อมนำจังหวัดเชียงรายสู่ Mice City
  • ได้รับรางวัลสถานประกอบการดีเด่นด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อมในการทำงาน 15 ปีติดต่อกัน
  • ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการจัดนิทรรศการศิลปะร่วมสมัย Thailand Bianale Chiang Rai โดยให้การสนับสนุนสถานที่ตั้งปฏิมากรรมศิลปะร่วมสมัย เพื่อให้ผู้โดยสารและผู้ใช้บริการร่วมชมและถ่ายภาพ 

พนักงานที่ได้รับการคัดเลือกเป็น “พนักงานดีเด่น ประจำปี 2567“ คือ นางสาวอารินรักษ์ โพธิ์ระมาด ตำแหน่ง เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานอาวุโส 6 ส่วนมาตรฐานท่าอากาศยานและอาชีวอนามัย 

ในการนี้ เข้ารับรางวัลจาก ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. ซึ่งการได้รับรางวัลในครั้งนี้ ถือเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานเพื่อการมุ่งมั่น ตั้งใจให้ ทชร. ก้าวไปสู่การเป็นท่าอากาศยานที่ดีต่อชุมชม และต่อเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงรายต่อไป 

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
NEWS UPDATE

“บิ๊กต่าย” ปลื้มเร่งปราบปรามกลุ่มผู้มีอิทธิพล-บ้านใหญ่ ทั่วประเทศ

 

เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2567 เมื่อเวลา 11.00 น. ภายหลัง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ  พันธ์ุเพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. เสร็จสิ้นการเข้าร่วมสังเกตการณ์ ยุทธการ”พิทักษ์ประชาราษฎร์ 767” ผ่านห้อง ปฏิบัติการ Realtime Crime Center เพื่อควบคุมการปฏิบัติหน้าที่เข้าตรวจค้นเป้าหมายในแต่ละจุดแล้วนั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ก็ได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนถึงภาพรวมปฏิบัติการครั้งนี้ว่า สืบเนื่องจากนายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายให้เร่งปราบปรามกลุ่มผู้มีอิทธิพล ฮั้วประมูล มือปืนรับจ้าง เครือข่ายยาเสพติด แก๊งเงินกู้นอกระบบ ค้าอาวุธปืนออนไลน์ จนนำมาซึ่งปฏิบัติการครั้งนี้ที่เป็นการร่วมมือกันของตำรวจทุกหน่วยงานในการค้นหาเป้าหมาย ได้เกือบ 200 จุด ซึ่งภาพรวมในการตรวจค้นจับกุมตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้เป็นที่น่าพอใจ

“ก่อนหน้านี้เคยเปิดปฏิบัติการไปแล้ว 1 ครั้ง เมื่อช่วงระว่างวันที่ 25 -30 มิ.ย. เป็นการทบายเครือข่ายยาเสพติด ส่วนเป้าหมายครั้งนี้อย่างที่บอก เราเน้นหนักไปที่ กลุ่มผู้มีอิทธิพล ฮั้วประมูล มือปืนรับจ้าง แก๊งเงินกู้ เครือข่ายยาเสพติด ค้าอาวุธปืนออนไลน์  ยกตัวอย่าง เครือข่ายกำนันนก รวมไปกลุ่มอื่นๆที่เรียกว่าบ้านใหญ่อีกหลายเครือข่าย ยืนยันว่าทุกกลุ่มเราไม่มีปล่อยวาง เราติดตามตลอด”

สำหรับยุทธการครั้งนี้จากจำนวน 183 เป้าหมาย ขณะนี้เข้าตรวจค้นไปแล้ว 127 เป้าหมาย ยังมีอีกหลายจุดที่ยังไม่เสร็จสิ้น แต่โดยรวมถือว่าเป็นที่น่าพอใจ สามารถจับกุมผู้กระทำผิดและของกลางได้เป็นจำนวนมาก อาทิ ยาบ้ากว่า 7 แสนเม็ด อาวุธปืนกว่า 700 กระบอก ซึ่งหลังจากนี้ไปได้กำชับไปแล้วว่าจะต้องเร่งขยายผลต่อเนื่อง ส่วนบางเป้าหมายที่หลบหนีไปได้ ยืนยันว่าข่าวไม่ได้หลุดรั่ว แต่อาจเป็นเพราะช่วงจังหวะที่เป้าหมายไม่อยู่  อย่างไรก็ตามไม่ต้องเป็นกังวล ได้สั่งกำชับให้เร่งติดตามต่อเนื่องแล้ว

ต่อข้อสักถาม ถึงกรณีกลุ่มเป้าหมายที่ตรวจค้นเป็นเครือข่ายบ้านใหญ่ต่างๆนั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ยืนยันว่า ไม่เป็นกังวล เพราะทำตามหน้าที่ ต้องการให้ประชาชนเชื่อมั่นในสิ่งที่เราทำ อยากให้เห็นว่ายุทธการครั้งนี้เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างทีมสืบสวนและทีมปราบปรามของทุกหน่วยที่จับมือกัน และถือเป็นครั้งแรกที่มีการรวมตัวกันของคณะผู้บัญชาระดับสูงทุกหน่วยเป็นจำนวนมาก

“กลุ่มผู้มีอิทธิพลพวกนี้ มักสร้างความเดือดร้อน ก่อกวนถือเป็นภัยคุกคามชีวิตประชาชน ดังนั้นเราจึงไม่หวั่นวิตก ที่จะปฏิบัติหน้าที่ โดยในวันพรุ่งนี้เวลาประมาณ 10.00 น. จะมีการแถลงสรุปผลยุทธการอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ที่ กองบังคับการปราบปราม” รอง ผบ.ตร. กล่าวทิ้งท้าย

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News