Categories
NEWS UPDATE

THACCA จัดใหญ่ 12 จังหวัดซ้อม Pitch แผนพัฒนาเมืองสู่เวทีโลก

 “อวดเมือง Pitching” เวทีปลุกพลัง 12 จังหวัดสร้างสรรค์เทศกาลระดับชาติ เตรียมชิงเจ้าภาพแลนด์มาร์คเทศกาลในงาน THACCA SPLASH – Soft Power Forum 2025

กรุงเทพฯ, 19 มิถุนายน 2568 –  ในยุคที่ Soft Power กลายเป็นหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เมืองทั่วประเทศต่างตื่นตัวกับโอกาสใหม่ผ่านการต่อยอดทุนวัฒนธรรม สู่เทศกาลที่โดดเด่นและมีอัตลักษณ์ของตนเอง ล่าสุดกรุงเทพฯ เปิดบ้านต้อนรับ 12 จังหวัดเข้าร่วมโครงการ “อวดเมือง Pitching” เพื่อเฟ้นหาจังหวัดเจ้าภาพแลนด์มาร์คเทศกาลท่องเที่ยวไทยปี 2569 ที่จะเป็นต้นแบบของเมืองน่าลงทุน น่าอยู่ และน่าเที่ยว บนเวที THACCA SPLASH – Soft Power Forum 2025

จุดเริ่มต้นและเป้าหมาย

เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2568 ณ ห้องบอลรูม โรงแรมแลนด์มาร์ค กรุงเทพฯ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA) ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (TCEB) และ Thailand Creative Culture Agency (THACCA) จัดกิจกรรม Mentoring Workshop ภายใต้โครงการ “อวดเมือง Pitching” โดยคัดเลือก 12 จังหวัดต้นแบบจากนักจัดเทศกาลทั่วประเทศ ผ่านกระบวนการนำเสนอแนวคิดและไอเดียเทศกาลท้องถิ่นที่ทรงพลัง

งานนี้มีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อยกระดับเทศกาลท้องถิ่นให้กลายเป็นเครื่องมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนาเมือง โดยผลักดันให้แต่ละจังหวัดสร้างจุดขายใหม่บนฐานทุนทางวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ของท้องถิ่น พร้อมรองรับการเป็นเจ้าภาพเทศกาลใหญ่ระดับประเทศในอนาคต

 “Chiang Rai BREW Festival” พลิกวิถีล้านนา สู่ Soft Power

การเลือก Chiang Rai BREW Festival เป็นแลนด์มาร์คเทศกาลนำร่อง เกิดจากแนวคิดที่ผสานอัตลักษณ์ท้องถิ่นเข้ากับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยเทศกาลนี้หยิบ “ชา” และ “กาแฟ” ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของเชียงรายมาเป็นหัวใจหลัก สะท้อนรากเหง้าทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญา และพระราชปณิธานของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ริเริ่มส่งเสริมการปลูกกาแฟบนพื้นที่สูง ทดแทนพืชเสพติด เมื่อครั้งพระราชทานต้นกาแฟให้ชนเผ่าบนดอยช้าง และสืบสานสู่ชาอัสสัมพันธุ์ล้านนาของดอยแม่สลอง

เทศกาลนี้ไม่ได้เป็นเพียงงานเฉลิมฉลอง หากแต่เป็นเวทีบูรณาการทุกภาคส่วน ตั้งแต่เกษตรกร ผู้ประกอบการ สถาบันการศึกษา ภาครัฐ เอกชน และชุมชนชาติพันธุ์ เชื่อมโยงให้เกิดระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) สร้างรายได้จากต้นน้ำถึงปลายน้ำ พร้อมต่อยอดภูมิปัญญาดั้งเดิมสู่สินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่ม

เวิร์กช็อปเข้มข้น เสริมแกร่งทุกมิติ

ภายในงานได้รับเกียรติจาก นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ประธานกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ และรองประธานคณะที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี ขึ้นกล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “จากรากวัฒนธรรมสู่พลังสร้างชาติ : การขับเคลื่อน Soft Power ไทยผ่านเทศกาลท้องถิ่น” สะท้อนบทบาทของงานเทศกาลในฐานะสะพานเชื่อมทุนวัฒนธรรมและเศรษฐกิจยุคใหม่

นอกจากเวทีความรู้ ยังมี 7 MENTORS ตัวจริงระดับประเทศจากอุตสาหกรรม MICE และเทศกาล มาร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ติดอาวุธไอเดีย และให้คำแนะนำเจาะลึกในทุกมิติ ตั้งแต่การบริหารจัดการเทศกาลให้ยั่งยืน กลยุทธ์สร้างมูลค่าเพิ่ม การตลาดสร้างแบรนด์เมือง ไปจนถึงการพัฒนา Content ที่สามารถตอบโจทย์นักลงทุน นักท่องเที่ยว และผู้อยู่อาศัยอย่างครบถ้วน

สู่รอบ Final City Pitching เวที Soft Power แห่งชาติ

ผลจากกิจกรรม Mentoring Workshop ครั้งนี้ จะถูกนำไปใช้ต่อยอดในเวที Final City Pitching รอบสุดท้าย ภายใต้ธีม “น่าลงทุน น่าอยู่ น่าเที่ยว” ในงาน THACCA SPLASH – Soft Power Forum 2025 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8–11 กรกฎาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ฮอลล์ 1–4 ชั้น G โดยแต่ละจังหวัดจะได้อวดแลนด์มาร์ค “ชวนเมือง Dream Box” ที่บูธเมืองพาวิลเลียน พร้อมนำเสนอแนวคิดและศักยภาพในฐานะเจ้าภาพเทศกาลปี 2569

ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของอุตสาหกรรมไมซ์และเทศกาลในประเทศไทย เมื่อจังหวัดต่าง ๆ ได้รับโอกาสในการแสดงศักยภาพ สร้างเครือข่ายกับผู้เชี่ยวชาญ และขยายโอกาสทางเศรษฐกิจสู่เวทีนานาชาติ

วิเคราะห์และบทสรุป

โครงการ “อวดเมือง Pitching” ไม่ได้เป็นเพียงการแข่งขันนำเสนอแผนพัฒนาเมืองเท่านั้น หากแต่เป็นเวทีบ่มเพาะผู้นำเทศกาลท้องถิ่นรุ่นใหม่ เสริมพลังท้องถิ่นด้วยทุนวัฒนธรรม และผลักดัน Soft Power ไทยให้ขยายสู่ระดับโลกอย่างยั่งยืน ภายใต้ความร่วมมือของภาครัฐและภาคเอกชน ตอกย้ำภาพลักษณ์ประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางเทศกาลสร้างสรรค์ของภูมิภาคอาเซียน

การเดินหน้าปั้นแลนด์มาร์คเทศกาลทั่วประเทศในปีนี้ จึงเป็นก้าวสำคัญที่เชื่อมโยงชุมชน ท้องถิ่น และความคิดสร้างสรรค์ ให้เป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุคใหม่อย่างแท้จริง

Soft Power – จุดแข็ง จุดท้าทาย ของเชียงราย

Chiang Rai BREW Festival สะท้อนความกล้าในการต่อยอด Soft Power ไทยให้ก้าวพ้นกรอบศิลปวัฒนธรรมดั้งเดิม สู่การใช้ “พืชเศรษฐกิจ” อย่างชากาแฟเป็นเครื่องมือสร้างภาพจำใหม่ และพลิกบริบทการท่องเที่ยวสู่สายประสบการณ์ การเชื่อมโยงเทศกาลนี้กับพระราชปณิธานในหลวงรัชกาลที่ 9 และแนวคิดพัฒนาที่ยั่งยืนของมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ยังช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและแรงบันดาลใจอย่างลึกซึ้ง

อย่างไรก็ตาม การดันชากาแฟเป็นซอฟต์พาวเวอร์หลักของเชียงรายอาจเผชิญข้อท้าทายในการสื่อสารกับนักท่องเที่ยวบางกลุ่มที่ยังยึดติดภาพจำเดิมของ Soft Power ไทย แต่ในอีกมุมหนึ่ง หากเชียงรายสามารถผสานเรื่องเล่าและประสบการณ์เข้ากับการท่องเที่ยว อาจเป็นโมเดลใหม่ของเทศกาลสร้างสรรค์ไทยในเวทีโลก

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA)
  • สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (TCEB)
  • Thailand Creative Culture Agency (THACCA)
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SPORT

ประเพณีแข่งขันเรือพายอำเภอเทิง เสริมท่องเที่ยวเชียงราย

ประเพณีแข่งขันเรือพายอำเภอเทิง คึกคักส่งเสริมท่องเที่ยวและเศรษฐกิจท้องถิ่น

เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2567 ณ อ่างเก็บน้ำบ้านทุ่งโห้ง หมู่ 5 ตำบลเวียง อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย ได้จัดงานประเพณีแข่งขันเรือพายประจำปีงบประมาณ 2568 โดยมีนายรังสรรค์ วันไชยธนวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (ฝ่ายการเมือง) ประจำนายอนุทิน ชาญวีระกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดงาน โดยมีนายศราวุธ ค่อมบุญ นายอำเภอเทิง นายกฤษฎา ชัยยา ปลัดอาวุโสอำเภอเทิง นายสวาท สมใจ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเวียง และบรรดาผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น รวมถึงประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมงานอย่างคึกคัก

ส่งเสริมประเพณี สร้างการรับรู้ในวงกว้าง

นายสวาท สมใจ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเวียง เปิดเผยว่า งานประเพณีแข่งขันเรือพายนี้จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมและสืบสานประเพณีอันดีงามของอำเภอเทิงให้คงอยู่ต่อไป พร้อมทั้งสร้างการรับรู้ให้กับนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปเกี่ยวกับประเพณีท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว นอกจากนี้ยังมุ่งหวังให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ผ่านการส่งเสริมการท่องเที่ยว

การแข่งขันเรือพายที่หลากหลายทีมจากหลายอำเภอ

ในปีนี้มีทีมเรือพายเข้าร่วมการแข่งขันมากกว่า 20 ทีม โดยมาจากหลากหลายพื้นที่ เช่น อำเภอเชียงแสน และอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย รวมถึงทีมจากอำเภอแม่ใจและอำเภอเมือง จังหวัดพะเยา โดยการแข่งขันแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ประเภท ก. และประเภท ข. ซึ่งการแข่งขันรอบคัดเลือกของประเภท ก. ได้เริ่มต้นขึ้นในวันนี้ และประเภท ข. จะเริ่มในวันพรุ่งนี้เช้า โดยผู้ชนะของทั้งสองประเภทจะเข้าไปแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศช่วงบ่าย

ผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจชุมชน

งานครั้งนี้ได้รับความสนใจจากประชาชนและนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ทำให้บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความคึกคัก โดยเฉพาะบริเวณที่มีร้านค้าจำหน่ายอาหารและสินค้าท้องถิ่น คาดว่ากิจกรรมในครั้งนี้จะช่วยสร้างรายได้ให้กับพ่อค้าแม่ค้าในพื้นที่ รวมถึงกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี

เกียรติสูงสุดจากถ้วยรางวัลของ รมช.มหาดไทย

สำหรับถ้วยรางวัลในปีนี้ได้รับการสนับสนุนจากนายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) ซึ่งถือเป็นเกียรติยศสำหรับทั้งคณะผู้จัดงานและผู้ชนะการแข่งขัน

ประเพณีที่ต้องสืบสานสู่อนาคต

ประเพณีแข่งขันเรือพายของอำเภอเทิงไม่เพียงแต่เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมความสามัคคีในชุมชน แต่ยังเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ช่วยสืบสานวัฒนธรรมประจำถิ่นให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง พร้อมสร้างความภาคภูมิใจให้กับชาวอำเภอเทิงและจังหวัดเชียงราย

งานประเพณีแข่งขันเรือพายอำเภอเทิงในครั้งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่สะท้อนให้เห็นถึงการประสานงานของหน่วยงานต่างๆ และความร่วมมือร่วมใจของคนในชุมชนในการสืบทอดวัฒนธรรมและขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่นให้เติบโตอย่างยั่งยืน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบต.เวียง อ.เทิง จ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE