Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ฝึกปฏิบัติการช่วยชีวิตขั้นนักเรียน 6 สถานศึกษาที่จังหวัดเชียงราย

 
เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 67 ว่าที่ร้อยตรี ศราวุธ จันทวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานพิธีเปิดการอบรม “ทำดี ทำง่าย ให้เลือด” ตามโครงการเครือเจริญโภคภัณฑ์สนับสนุนเยาวชนไทยให้โลหิต ประจำปีการศึกษา 2567 (ปีที่ 24) ณ ห้องดอยตุง 2 โรงแรมเดอะริเวอร์รี บายกะตะธานี อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย โดยมีคณะผู้บริหารบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์จำกัด รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย ผู้แทนนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย ผู้แทนโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ และคณะครูอาจารย์จาก 6 สถานศึกษาในจังหวัดเชียงราย ส่งน้องๆ นักเรียน เข้าร่วมโครงการเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ส่งเสริมให้เยาวชนมีคุณธรรมและรู้จักการเป็น “ผู้ให้” มีจิตอาสา โดยเริ่มจากการเป็นผู้บริจาคโลหิต สนับสนุนให้เยาวชนมีบทบาทเป็นผู้นำในการประชาสัมพันธ์เผยแพร่การบริจาคโลหิต ส่งเสริมให้สถานศึกษาเป็นจุดศูนย์กลางในการบริจาคโลหิต เพื่อให้ได้รับปริมาณโลหิตบริจาคเต็มตามจำนวนที่คาดหวัง และเพื่อให้การจัดหาโลหิตของประเทศไทยประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน ต่อไป
 

         นายภาคภูมิ จักกะพาก ผู้ช่วยผู้อำนวยการธุรกิจสุกรภาคเหนือตอนบน บริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การอบรม “ทำดี ทำง่าย ให้เลือด” ตามโครงการเครือเจริญโภคภัณฑ์สนับสนุนเยาวชนไทยให้โลหิต ประจำปีการศึกษา 2567 (ปีที่ 24) เครือเจริญโภคภัณฑ์มีความเจริญเติบโตในการดำเนินธุรกิจ   ครบ 100 ปี โดยมีปฎิธานมุ่งมั่น สร้างความเจริญให้ประเทศไทย ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชนและบริหารงานธุรกิจด้วยหลักคุณธรรมมาอย่างต่อเนื่องสำหรับความรับผิดชอบต่อสังคมนั้น เครือเจริญโภค-ภัณฑ์ได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะงานบริการโลหิต ซึ่งมีความสำคัญต่อการรักษา พยาบาลให้ประชาชนหายจากการเจ็บป่วย ปลูกฝังเยาวชนที่เป็นต้นกล้าที่แข็งแรงให้มีความรู้ ความเข้าใจในงานบริการโลหิต เพื่อเป็นผู้บริจาคโลหิตต่อไปในอนาคต จึงได้จัดทำโครงการ เครือเจริญโภคภัณฑ์สนับสนุนเยาวชนไทยให้โลหิต ด้วยแนวคิด “ทำดี ทำง่าย ให้เลือด” ดำเนิน การมาตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2543 จนถึงปัจจุบัน กว่า 24 ปี นับว่าประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง โดยได้รับความร่วมมือจากสถานศึกษาในระดับมัธยมศึกษา อาชีวศึกษาและพณิชยการ ให้การสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ อย่างเต็มที่ ซึ่งการอบรมครั้งนี้ โครงการเครือเจริญโภคภัณฑ์สนับสนุนเยาวชนไทยให้โลหิต ประจำปีการศึกษา 2567 จังหวัดเชียงราย ในวันนี้ เป็นจังหวัดลำดับที่ 5 ต่อจาก จังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ ขอนแก่น  และหนองคาย มีคุณครูและนักเรียนเข้ารับการอบรม จำนวน 155 คน จากสถานศึกษา จำนวน 6 แห่ง โดยได้รับการสนับสนุนอย่างดียิ่งจาก เหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 10 จังหวัดเชียงใหม่ และสถานศึกษาทุกแห่ง
 

       สำหรับช่วงการอบรม ได้จัดให้มีการให้ความรู้เกี่ยวกับการบริจาคเลือด คุณสมบัติ/การเตรียมตัวก่อน – หลังการบริจาคโลหิต กรุ๊ปเลือดจะต่างกัน แต่เลือดเราปลอดภัยนะ ระบบหมู่โลหิต การตรวจหมู่โลหิต และการตรวจคัดกรองโลหิต เลือด 1 ถุง เอาไปทำอะไรต่อ ส่วนประกอบของโลหิตและผลิตภัณฑ์โลหิต ให้เลือดแล้วภูมิใจสุดๆ ประโยชน์ของเลือดที่มีต่อผู้ป่วย และความภาคภูมิใจที่ได้รับจากการบริจาคโลหิต ชมวิดิทัศน์/บรรยาย/สาธิตการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน (CPR) และการใช้เครื่องช็อคหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ (AED) ฝึกปฎิบัติการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน (CPR) การใช้เครื่องช็อคหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ (AED) อีกด้วย
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

ม.ราชภัฏเชียงราย ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม 4 องค์กรชาติพันธุ์

 

เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2567 ณ หอประชุมกาสะลองคำ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย (มร.ชร) อ.เมือง จ.เชียงราย มูลนิธิพัฒนาชุมชนและเขตภูเขา (พชภ.) ร่วมกับ สำนักศิลปะและวัฒนธรรมมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย จัดเวทีพลเมืองตื่นรู้ในการส่งเสริมสุขภาวะทางกายในชุมชนชาติพันธุ์  โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ยิ่งศักดิ์ เพชรนิล รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย เป็นประธาน และนางเตือนใจ ดีเทศน์ กรรมการผู้ก่อตั้ง พชภ.  นางจุฑามาศ  ราชประสิทธิ์ ผู้จัดการโครงการสร้างเสริมสุขภาวะทางกายฯ พชภ.  ดร.อติเทพ วงศ์ทอง ผ.อ.สำนักศิลปะวัฒนธรรมร่วมเปิดงาน โดยมีนักเรียนจากโรงเรียนผู้ร่วมโครงการ และชุมชนชาวชาติพันธุ์ เข้าร่วมกว่า 400 คน 

ทั้งนี้สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มร.ชร.  พชภ. สมาคมลาหู่ในประเทศไทย  สมาคมไตลื้อจังหวัดเชียงราย และวิสาหกิจชุมชนกลุ่มอาชีพวิถีชนเผ่าต้นน้ำแม่ยาว ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อการทำงานแบบเบญจภาคีว่าด้วยการจัดกิจกรรม อนุรักษ์ ส่งเสริม สืบสาน และเผยแพร่ ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม และกิจกรรมทางด้านภูมิปัญญาท้องถิ่นและด้านวิชาการ พร้อมทั้งเป็นการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และการประสานสัมพันธ์ที่ดีระหว่าง 5 องค์กร

ดร.อติเทพ วงศ์ทอง ผอ. สำนักศิลปะและวัฒนธรรม กล่าวว่า เป็นจุดเริ่มต้นการส่งเสริมศิลปะวัฒนะธรรมท้องถิ่น เนื่องจาก มร.ชร. เป็นมหาวิทยาลัยที่บริการวิชาการชุมชน ที่รับผิดชอบในเชียงราย สำนักศิลปะและวัฒนธรรมได้ร่วมกันสนับสนุนภูมิปัญญาท้องถิ่น สุขภาวะทางกาย และวัฒนธรรม จึงเป็นโอกาสที่ดีที่ได้ร่วมกับกลุ่มชาติพันธุ์ทำให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น ทั้งด้านการแสดงออกทางวัฒนธรรมที่ส่งผลต่อกายและใจ ด้านอาหารกลุ่มชาติพันธุ์ การสร้างเครือข่าย สนับสนุนวิชาการที่จะเป็นแหล่งเรียนรู้ทุกชาติพันธุ์ในเชียงราย

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ยิ่งศักดิ์ เพชรนิล รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย กล่าวว่า จังหวัดเชียงรายนับว่ามีทรัพยากร นิเวศน์วิถีชีวิตที่หลากหลาย เป็นการอยู่ร่วมกันอย่างสมดุล มีการปลูกพืชผักหลากหลาย มีเอกลักษณ์เฉพาะ ตัวทำให้มีการส่งเสริมกิจกรรมกาดกายดี นับเป็นนิมิตหมายที่ดีได้แสดงออกทางวัฒนธรรม มีผลต่อสุขภาวะทางกายด้วย ทั้งเพื่อพัฒนาองค์ความรู้สุขภาวะชุมชนชาติพันธุ์ ได้ใช้ประโยชน์ในการส่งเสริมสุขภาพผ่านวัฒนธรรมและกิจกรรม การทำงานกันเป็นทีม เป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อน ทั้งบุคลกร การศึกษา และสังคม 

นางเตือนใจ  ดีเทศน์  กล่าวว่า จากที่ได้ชมการแสดงจะเห็นว่ามีออกกำลังกายทุกส่วน และต้องมีการซ้อมการทำงานเป็นหมู่คณะ ยังช่วยทำให้เด็กและเยาวชนไม่ซึมเศร้า สร้างความรักความสามัคคี  ทั้งเป็นการรวมกลุ่มสังคมครอบครัววัฒนธรรมหลายกลุ่มพี่น้องชาติพันธุ์ทำกิจกรรมร่วมกัน มีส่วนที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติอยู่ เช่น การทำดาบจากไม้ไผ่ ชุดชาติพันธุ์ที่ทำจากผ้าฝ้าย ขนสัตว์ ลูกเดือยที่นำมาทำเป็นเครื่องประดับ  ทำให้รู้คุณค่าการใช้ประโยชน์จากธรรมชาติ ทำให้ตระหนักในธรรมชาติในความอุดมสมบูรณ์  

ทั้งนี้ภายในงานมีการจัดเสวนาหัวข้อพลเมืองตื่นรู้ในการส่งเสริมสุขภาวะทางกายในชุมชนชาติพันธุ์ และแนวทางหรือข้อคิดเห็นในการส่งเสริมกิจกรรมทางกายในชุมชนชาติพันธุ์ โดยนายวิชัย  ภินะบรรณ์ หัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานทั่วไป โรงพยาบาลแม่ฟ้าหลวง ต.เทอดไทย กล่าวว่า การจะขยับเรื่องสุขภาพเป็นบทบาทที่เราจะต้องทำร่วมกัน ภาครัฐที่มีองค์ความรู้ ซึ่งตัวชุมชนมีศักยภาพอยู่แล้ว รัฐต้องออกนโยบายมาให้เหมาะกับชุมชนนั้น ถ้าสิ่งแวดล้อมดี  ก็จะทำให้สุขภาพกายและจิตดี ในบ้าน โรงเรียน สภาพอากาศ เด็กจะออกกำลังกายได้ มีการซ้อมแผนการได้รับบาดเจ็บ ในสังคมที่บ้าน พ่อแม่ให้ความเชื่อมมั่นเอาใจใส่ สุดท้ายเด็กจะได้เป็นผู้ใหญ่สมบูรณ์ 

นายวุฒิพงษ์ สวรรคโชติ ประธานสมาคมลาหู่ในประเทศไทย กล่าวว่า ประชาชนมักทำงานหาเงินจนลืมสุขภาพ แต่สุดท้ายยอมสูญเสียทุกอย่างเพื่อให้ได้สุขภาพดีคืนมา คนชนบทบนดอยเมื่อก่อนไม่มีโรคประจำตัว เพราะปกติพวกทำไร่ ทำนา ทำสวน พอพลวัตทางสังคม เทคโนโลยี เข้ามาทำให้ทำงานน้อยลง ปัจจุบันมีคนไปรับยา ความดันเบาหวาน ไขมันพอกตับ เรากำลังให้ความสนใจ จากเดิมที่ปลูกผักส่งขาย ปัจจุบันปรากฎว่าเราชาวดอยรอรถเข้ามาขายในหมู่บ้าน ไม่ค่อยมีผักสวยครัวกันแล้ว เป็นสิ่งที่เราควรกลับมาพิจารณาปลูกผักกินเองเพื่อความปลอดภัยและได้สุขภาพกายที่ดีด้วย

นายตฤณธวัช  ธุระวร ผู้ประสานงานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มอาชีพวิถีชนเผ่าต้นน้ำแม่ยาว กล่าวว่า กายดี สุขภาพดี มีองค์ประกอบ วงแรก คือ อาหาร อากาศ ยารักษาโรค อยู่ในชีวิตเราทุกวัน ทุกวันนี้เราเจอปัญหาสุขภาพ การกินเป็นลำดับแรก อากาศที่เราหายใจ ปัจจุบันอากาศเสียมาก การใช้ยารักษาโรค การในนำธรรมชาติมาใช้รักษาโรค ถ้าเราใช้เป็น มีผลกระทบน้อยกว่าแผนปัจุบัน ส่วนวงที่สอง คือ ดิน น้ำ ป่า ปัจจุบันจะเห็นว่าดินอาบด้วยยาพิษ ส่งต่อไปที่อาหาร น้ำ เดิมบนดอยน้ำดื่มตักที่ไหนก็กินได้ ปัจจุบันต้นน้ำมีแต่สารเคมี มีผลกระทบต่ออาหาร อากาศ ป่าเป็นแหล่ง อาหาร น้ำ ยาสมุนไพร  ปัจจุบันเราตัดต้นไม้ มีเคมีมหาศาล ส่งผลต่ออาหาร อากาศ 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

คาดไม่เกิน 10 ปี ละอ่อนเชียงรายดื่มเหล้าสถิติพุ่งขึ้นอันดับ 1 ของประเทศ

 

เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2567 กลุ่มเยาวชน YSDN (Youth Strong & Development Network) ได้จัดเสวนาคืนข้อมูลเพื่อแก้ปัญหาการดื่มแอลกอฮอล์ของเด็ก เยาวชนในจังหวัดเชียงราย และอีก 6 จังหวัด พร้อมยื่นข้อเสนอ 5 ข้อ ต่อนายวิสาร เตชะธีรวัฒน์ ประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และนายธีระ วัชรปราณี รองประธานฯ คนที่ 5 ที่วัดหัวฝาย ต.สันกลาง อ.พาน จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา 

 

นายณัฐพงษ์ ไชยพงษ์ เจ้าหน้าที่โครงการ YSDN จังหวัดน่าน กล่าวว่า จากการสำรวจข้อมูลในกลุ่มอายุ 12-15 ปี จำนวน 10,078 ในอำเภอพาน อำเภอเทิง อำเภอเวียงชัย อำเภอแม่จัน อำเภอเชียงแสน อำเภอโนนสัง อำเภอวังทอง อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน อำเภอเมืองเชียงใหม่ อำเภอบัวเชด และอำเภอกระนวน พบว่า เด็กไทยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ทำให้คุณภาพชีวิตเปราะบาง โดยพบว่า 62.75 % มีเพื่อนดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งคนที่มีผลต่อการดื่มครั้งแรกคือ เพื่อนและรุ่นพี่ รุ่นน้อง 56.53% สมาชิกในครอบครัว 31.43 %

 

ส่วนสถานที่ดื่มพบในงานบุญประเพณี 46.25 % งานวันเกิด 45.90% ดื่มช่วงรับประทานอาหารกับครอบครัว 19.10 % โดย 48.62 เคยซื้อจากร้านค้าต่างๆ ได้  ทั้งๆ ที่กฎหมายห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ดังนั้น ผลสำรวจนี้แสดงให้เห็นว่า ผู้ประกอบการยังขาดความรับผิดชอบที่จะปฏิบัติตามกฎหมาย และชี้ให้เห็นว่ายังไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายได้อย่างจริงจังโดยเฉพาะในระดับชุมชนได้

 

ด้าน นส.โสภี ดงปาลี กล่าวว่า ข้อมูลที่ได้จากการดำเนินโครงการใน 5 อำเภอ ของจังหวัดเชียงรายสะท้อนว่า หากไม่มีมาตราการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง ในอีก 5-10 ปีข้างหน้า อาจจะทำให้สถิติการดื่มของจังหวัดเชียงรายสูงเป็นอันดับหนึ่งของประเทศได้ เพราะสามารถหาซื้อได้ง่ายและราคาถูก สุราชุมชนก็มีการส่งเสริมให้ผลิตได้อย่างเสรี ซึ่งเจ้าหน้าที่สรรพสามิตจังหวัดเชียงรายที่ร่วมเสวนารับปากว่ากวดขันให้เป็นไปตามกฎหมาย และพร้อมให้คำปรึกษากลุ่มเยาวชน หรือแจ้งเหตุใหมีการตรวจสอบการกระทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะการขายให้เด็กเยาวชน รวมถึงการเข้มงวดการจัดงานดนตรี ประเพณีต่างๆ โดยการสนับสนุนจากธุรกิจรายใหญ่ มีศิลปินดารามาแสดง แต่ไม่มีการควบคุมไม่ให้เด็ก เยาวชนเข้าไปดื่มแอลกอฮอล์

ด้าน นายวิสาร เตชะธีรวัฒน์ กล่าวว่า คณะกรรมาธิการแก้ไขกฎหมาย ทั้ง 42 คน มีความเห็นตรงกันในการปกป้องเด็กเยาวชน แต่ขณะนี้มีร่างกฎหมายถึง 5 ฉบับ ที่เสนอโดยรัฐบาล พรรคการเมือง และฝ่ายประชาชนที่เป็นผู้ประกอบการ และฝ่ายรณรงค์ ทำให้ต้องพยายามหาจุดร่วมกันจากทั้ง 5 ร่าง ซึ่งไม่ง่าย แต่ก็มีความก้าวหน้าไปมากแล้ว และคาดว่าอีก 2 เดือนน่าจะเสร็จ รวมทั้งตั้งคณะอนุกรรมาธิการศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไขปัญหาการบังคับใช้กฎหมายด้วย  

 

สำหรับข้อเรียกร้อง 5 ข้อ ประกอบด้วย

1. งดขาย งดดื่มแอลกอฮอล์ให้งานประเพณี งานกาชาด งานของดีประจำพื้นที่ งานที่มีมหรสพรื่นเริง ดนตรีการแสดง ซึ่งส่วนใหญ่จัดในสถานที่ราชการ สวนสาธารณะ สถานศึกษา วัด หรือพื้นที่สาธารณะ

2.ส่งเสริมค่านิยมในครอบครัว “ไม่ชวนให้เด็กดื่ม ไม่ดื่มให้เด็กเห็น”

3.ควบคุมการโฆษณาแฝงด้วยน้ำดื่ม โซดา มีกิจกรรมดนตรี Music หรือ Sexy Marketing ใช้ศิลปิน ดาราที่มีชื่อเสียงรวมทั้ง ควบคุมการโฆษณาในสื่อออนไลน์

4. ส่งเสริมกิจกรรมสร้างสรรค์สำหรับเด็กเยาวชนให้ทั่วถึงทุกคน นอกจากในโรงเรียน เพื่อให้มีทักษะชีวิตในโลกยุคใหม่ได้ทันสมัย

5.ภาครัฐในระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล ต้องให้ความสำคัญในการสร้างเมืองที่เป็นมิตรและสร้างสรรค์สำหรับเด็กเยาวชน ผู้ใหญ่ต้องเป็นแบบอย่างที่ดี และบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
FEATURED NEWS

เปิดรับสมัครแล้ว! อบรมเชิงปฏิบัติการ “ผู้ผลิตข่าวดิจิทัลรุ่นเยาว์” รุ่น 8 พัฒนาคนรุ่นใหม่สู่เส้นทางสื่อมืออาชีพ

 

สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ (SONP) จัดอบรม โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการผู้ผลิตข่าวดิจิทัลรุ่นเยาว์ ปีที่ 8 (Young Digital News Providers 2024) สำหรับนิสิตนักศึกษาระดับอุดมศึกษาทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 16-18 สิงหาคม 2567 ณ ศูนย์ประชุมอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จังหวัดปทุมธานี

สำหรับโครงการนี้ได้รับการสนับสนุนหลักจาก บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) , บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค)
และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)

โครงการเชิงปฏิบัติการผู้ผลิตข่าวดิจิทัลรุ่นเยาว์ รุ่นที่ 8 เป็นโครงการอบรมสำหรับนิสิตนักศึกษาระดับอุดมศึกษาหรือเทียบเท่าจากทั่วประเทศ รวมถึงเยาวชนหรือกลุ่มบุคคลที่มีอายุไม่เกิน 23 ปี เพื่อสร้างผู้ผลิตข่าวดิจิทัลยุคใหม่ เรียนรู้ พัฒนาทักษะในทุกมิติของการผลิตข่าวบนโลกออนไลน์ พร้อมเข้าสู่การทำงานอย่างมืออาชีพ

พร้อมพบกับวิทยากรแถวหน้าระดับประเทศ ประกอบด้วย คุณวรรณสิงห์ ประเสริฐกุล ผู้ผลิตรายการสารคดีและผู้ก่อตั้ง เถื่อนChannel , คุณอรรถพล ไข่ทอง หรือ เบลล์ ขอบสนาม ผู้ก่อตั้งเพจขอบสนาม , คุณชุตินธรา วัฒนกุล บรรณาธิการบริหารข่าวออนไลน์ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส, อ. ไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ
อาจารย์พิเศษด้านกฎหมายเทคโนโลยี
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคุณอัยยา ตันติเสรีรัตน์ Head of Partnership & Co-Managing Director บริษัท เทลสกอร์ จำกัด และทีมงานจาก Tiktok และ Youtube รวมถึงเรียนรู้จริยธรรมสื่อ

สำหรับผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับโอกาสในการคัดเลือกเข้าฝึกงานกับสำนักข่าวที่เป็นสมาชิกสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ (SONP) รวมกว่า 48 องค์กร รวมถึงโอกาสในการส่งผลงานข่าวเข้าประกวดชิงรางวัลในเวทีประกวดรางวัลข่าวดิจิทัลยอดเยี่ยม 2024 หมวดหมู่ผู้ผลิตข่าวดิจิทัลรุ่นเยาว์ และผลงานที่ได้รับรางวัลจะได้รับการเผยแพร่โดยสำนักข่าวชั้นนำอีกด้วย

ผู้สนใจเข้าร่วมอบรมโครงการ สามารถสมัครเป็นทีม ทีมละ 4 คน พร้อมเขียนโครงงานผลิตสกู๊ปข่าวในประเด็นใดก็ได้ที่สนใจ ในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ Photo Story, วีดิโอ (ความยาว 1.30 – 5 นาที) สำหรับการเผยแพร่ในแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ สามารถส่งใบสมัคร หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ (SONP) โทรศัพท์ 081 700 2601 อีเมล์ SonpAssociation@gmail.com เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 22 กรกฎาคม 2567

ประกาศผลผู้มีสิทธิเข้าร่วมอบรม ในวันที่ 31 กรกฎาคม 2567 บนเว็บไซต์ www.sonp.or.th และ https://www.facebook.com/SONPThai/

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ (SONP)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เชียงราย จัดโครงการพัฒนาศักยภาพ ผู้นำคลื่นลูกใหม่ในจังหวัด (YPC) รุ่น 2

 
เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2567 ที่โรงแรมแม่โขงเดลต้า อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานเปิดโครงการพัฒนาศักยภาพผู้นำคลื่นลูกใหม่ในจังหวัด Young Public and Private Collaboration (YPC) รุ่น 2 ประจำปี 2567 โดยมีนายภาคภูมิ ผลพิสิษฐ์ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย คณะกรรมการหอการค้าจังหวัด

เชียงราย คณะวิทยากรจากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และผู้เข้าร่วมอบรมจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เข้าร่วม

ด้วยหอการค้าจังหวัดเชียงราย ร่วมกับจังหวัดเชียงราย มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ (YEC) เชียงราย ได้จัดโครงการพัฒนาศักยภาพผู้นำคลื่นลูกใหม่ในจังหวัด (Young Public and Private Collaboration: YPC) รุ่นที่2 ประจำปี พ.ศ. 2567 ขึ้น ระหว่างวันที่ 25 – 26 มิถุนายน 2567 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาความพร้อมของผู้นำรุ่นใหม่ในภาคราชการไทยและเอกชน สู่การเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในการพัฒนาระบบราชการและเศรษฐกิจตามสภาวการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป

 และเพื่อพัฒนาขีดความสามารถ ความรู้ ทักษะ ทัศนคติ ในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ ด้วยการพัฒนาแผนพัฒนาจังหวัดให้บรรลุเป้าหมายตามแผนพัฒนาภาค อีกทั้งเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และประสบการณ์จากการลงพื้นที่จังหวัดระหว่างผู้เข้ารับการฝึกอบรมจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาคราชการ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน

 ซึางการดำเนินการโครงการครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมจากข้าราชการสังกัดราชการส่วนภูมิภาค หรือราชการส่วนท้องถิ่นที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในจังหวัดเชียงราย และภาคเอกชน ผู้ประกอบการ พนักงานเอกชนที่มีสถานประกอบการอยู่ในจังหวัดเชียงราย และข้าราชการ หรือ พนักงานมหาวิทยาลัย ของมหาวิทยาลัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ที่มีประสบการณ์การทำงานร่วมกับภาครัฐและภาคเอกชนในจังหวัดเชียงราย จำนวนทั้งสิ้น 60 คน

         นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า โครงการพัฒนาศักยภาพผู้นำคลื่นลูกใหม่ในจังหวัด หรือ YPC เป็นการแสดงถึงความร่วมมือระหว่างภาครัฐ และภาคเอกชน รวมทั้ง สถาบันการศึกษาและภาคส่วนต่าง ๆ อย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การพัฒนาความรู้ ความเข้าใจและทัศนคติ ที่มีต่อการพัฒนาภายใต้บริบทการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายที่เข้ารับการอบรมล้วนประกอบด้วย ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ที่ประสบความสำเร็จบุคลากรภาครัฐที่มีศักยภาพ รวมถึงผู้ที่มีบทบาทสำคัญ ในการขับเคลื่อน ของภาคส่วนต่างๆ ซึ่งจะเป็นบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อน และกำหนดทิศทางการพัฒนาจังหวัดในอนาคต รวมทั้งเป็นการสร้างโอกาสประสานสัมพันธ์ของคนรุ่นใหม่ ทั้งภาครัฐและเอกชน ให้มีความคุ้นเคยเข้าใจในบทบาทของแต่ละภาคส่วน เพื่อการประสานงาน อย่างเป็นเอกภาพ โดยใช้เวทีการอบรมในการเรียนรู้ ร่วมคิด ร่วมทำ และร่วมรับผิดชอบ เป็นพื้นฐานสำคัญในการผลักดันการพัฒนา ของจังหวัดเชียงราย ให้เกิดประโยซน์ ต่อประชาชนในพื้นที่ อย่างกว้างขวางต่อไป

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

อุทยานแห่งชาติลำน้ำกกฯ แจ้งความผู้จัดกิจกรรมวิ่งดอยช้างเทรล 2024

 
เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2567 เวลาประมาณ 18.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติลำน้ำกก ประจำจุดสกัดชาพันปี บ้านใหม่พัฒนา ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวยจังหวัดเชียงราย พบว่ามีกลุ่มบุคคลเข้ามาเตรียมสถานที่โดยการกางเต็นท์และจัดโต๊ะบริเวณลานกางเต็นท์ หน้าสำนักงานจุดสกัดชาพันปี เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าไปสอบถามกลุ่มบุคคลดังกล่าวทราบว่าเข้ามาดำเนินการจัดสถานที่ เพื่อเป็นจุดเช็คระยะและจุดพักนักกีฬาในกิจกรรมวิ่งเทรล ดอยช้างเทรล 2024 ซึ่งจะมีการวิ่งผ่านเข้าเขตอุทยานแห่งชาติลำน้ำกก บริเวณต้นชาพันปีและสันดอยกิ้งก่า จึงได้รายงานให้นายพิทยา สะศรีสังข์ นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษหัวหน้าอุทยานแห่งชาติลำน้ำกก ทราบ
 
 
หัวหน้าอุทยานแห่งชาติลำน้ำกกจึงได้สั่งการให้นายนรินทร์ แสงวงศ์ พนักงานพิทักษ์ป่าหัวหน้าจุดสกัดชา พันปี ดำเนินการแจ้งแก่เจ้าหน้าที่ประจำจุดเช็คระยะและจุดพักนักวิ่งว่า การจัดกิจกรรมดังกล่าวไม่ได้ขออนุญาตตามระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชว่าด้วยการเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติพ.ศ. 2563 และหากยังมีการดำเนินกิจกรรมดังกล่าวจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป
 
 
ต่อมาเวลาประมาณ 00.55 ของวันที่ 23 มิถุนายน 2567 พบว่ายังมีการจัดกิจกรรม และมีนักวิ่งทำการวิ่งเข้าไปในเส้นทางที่ไม่ได้รับอนุญาต คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการบันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวไว้เป็นหลักฐาน ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงไม่ให้เกิดการปล่อยประละเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 หัวหน้าอุทยานแห่งชาติลำน้ำกกจึงมอบ หมายให้นายกมล แฝงบุปผา นักวิชาการป่าไม้ปฏิบัติการ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติลำกก เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรแม่สรวย
ณ วันที่ 24 มิถุนายน 2567
 
 
อนึ่ง ในปีพ.ศ. 2565 คณะผู้จัดเดียวกันนี้ ได้เคยขออนุญาตจัดกิจกรรมดังกล่าวกับทางอุทยานแห่งชาติลำน้ำกกแล้วมาครั้งหนึ่ง และได้รับอนุญาตให้จัดกิจกรรมได้ แต่ในครั้งนี้ไม่มีการประสานล่วงหน้าแต่อย่างใด
ซึ่งการจัดกิจกรรมดังกล่าวจะต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมาย ตามระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชว่าด้วยการเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติพ.ศ. 2563
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : เชียงรายทอล์ค

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

มูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์และมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ นำร่องการใช้เทคโนโลยีการสำรวจข้อมูลระยะไกลดูแลผืนป่าในพื้นที่โครงการพัฒนาดอยตุง

 

เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2567 มูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์ ได้มอบทุนสนับสนุนจำนวน 200,000 ดอลลาร์สหรัฐให้กับมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงภายใต้พระบรมราชูปถัมภ์ (MFLF) เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีการสำรวจข้อมูลระยะไกลที่สามารถติดตามการบุกรุกป่าไม้และพัฒนาแบบจำลองที่สามารถนำไปใช้ต่อยอดและขยายผลในภูมิภาคอื่น ๆ ในขั้นต้นเทคโนโลยีนี้จะถูกนำมาใช้เพื่อเฝ้าติดตามสังเกตการณ์ไร่กาแฟในพื้นที่โครงการพัฒนาดอยตุง (DTDP) ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ภูเขาบนที่ราบสูงในจังหวัดเชียงราย  โดยมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ จะบริหารจัดการไร่กาแฟซึ่งปลูกใต้ร่มไม้ใหญ่ และเฝ้าติดตามการขยายตัวของป่าเศรษฐกิจ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการบุกรุกป่า พร้อมทั้งยกระดับโครงการคาร์บอนเครดิตซึ่งใช้วิธีการทางธรรมชาติ (nature-based carbon credit) ของทางมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ซึ่งเป็นโครงการคาร์บอนเครดิตซึ่งใช้วิธีการทางธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

นางดีปาลี คันนา รองประธาน สำนักงานภูมิภาคเอเชีย มูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์  กล่าวว่า “การสนับสนุนเทคโนโลยีการสำรวจข้อมูลระยะไกลของมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ เป็นตัวอย่างของความมุ่งมั่นในการเพิ่มขีดความสามารถให้กับชุมชนที่อยู่ในแนวหน้าของการดำเนินงานด้านสภาพภูมิอากาศ ด้วยการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเกิดใหม่ (emerging technology) ความริเริ่มนี้มุ่งเน้นการสร้างประโยชน์ให้กับชุมชน เสริมสร้างความเป็นผู้นำในท้องถิ่น กระตุ้นตลาดคาร์บอนให้มีสีสัน และยกระดับมาตรฐานตลาดคาร์บอนเครดิตให้มีความยั่งยืนโปร่งใส”

ด้วยทุนสนับสนุนนี้ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ จะพัฒนาแอปพลิเคชันที่ผ่านการทดสอบภาคสนามในพื้นที่โครงการพัฒนาดอยตุง ซึ่งครอบคลุมหมู่บ้าน 29 แห่งและผู้อยู่อาศัยจำนวน 12,682 ราย แอปพลิเคชันนี้เป็นแพลตฟอร์มที่สามารถนำไปใช้เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการแยกความแตกต่างระหว่างป่าเศรษฐกิจและป่าอนุรักษ์ เนื่องจากต้นกาแฟนั้นมักปลูกใต้ร่มเงา จึงอาจเป็นเรื่องยากที่จะป้องกันไม่ให้ไร่กาแฟขยายไปสู่เขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์ซึ่งจะเป็นการทำลายความหลากหลายทางชีวภาพ ในระยะยาว เทคโนโลยีนี้จะช่วยปกป้องป่าอนุรักษ์ โดยส่งเสริมการอนุรักษ์แหล่งที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติและป้องกันการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพที่ทรงคุณค่าในพื้นที่โครงการพัฒนาดอยตุง นอกจากนี้ ศักยภาพในการคัดแยกระหว่างพื้นที่ป่าเศรษฐกิจและป่าอนุรักษ์จะช่วยทำให้โครงการคาร์บอนเครดิตภายใต้โครงการพัฒนาดอยตุงนั้นมีความแม่นยำโปร่งใสยิ่งขึ้น

Maisie Williams tươi tắn rạng rỡ trong chuyến sang Việt Nam dự sự kiện ngày 24/6. Không khí tràn đầy hứng khởi khi người hâm mộ háo hức chào đón cô. Maisie bày tỏ lòng biết ơn về sự tiếp đón nồng nhiệt và những trải nghiệm văn hóa độc đáo mà cô gặp được. Trong suốt cả ngày, có thể thấy rõ sự nhiệt tình của cô ấy; cô giao lưu với các nghệ nhân địa phương, nếm thử các món ăn truyền thống của Việt Nam và tham gia các hội thảo văn hóa nhằm nêu bật di sản phong phú của khu vực. Niềm hạnh phúc của cô được thể hiện rõ qua những nụ cười thường trực và những tương tác sôi nổi, cho thấy chuyến thăm này là điểm nhấn đáng nhớ trong chuyến du lịch của cô.

ทั้งนี้ ทีมงานมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ จะเข้าไปทำงานร่วมกับชุมชนที่ปลูกกาแฟเพื่อสนับสนุนการใช้เทคนิคการสำรวจระยะไกลและการพัฒนาโซลูชันที่นำโดยชุมชนเพื่อจุดประสงค์การอนุรักษ์ป่าไม้ ซึ่งจะสามารถช่วยลดต้นทุนการพัฒนาโครงการ ยกระดับความพยายามในการอนุรักษ์ป่าไม้ และสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้กับชุมชน มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ มีแผนที่จะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้กับชุมชนอื่นๆ นอกพื้นที่โครงการพัฒนาดอยตุงเพื่อขยายผลโครงการอนุรักษ์ป่าไม้ต่างๆ ทั่วประเทศ

มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ มีประสบการณ์มากกว่า 50 ปีในการดำเนินงานด้านการพัฒนาพื้นที่อย่างยั่งยืน รวมถึงการปลูกป่าและการอนุรักษ์ป่า ทั้งนี้ โครงการล่าสุดคือการจัดการคาร์บอนเครดิตในป่าเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ภายใต้การดำเนินงานของมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ซึ่งช่วยให้ชุมชนขายคาร์บอนเครดิตจากกิจกรรมอนุรักษ์ป่าไม้ โดยมีภาคเอกชนเป็นผู้สนับสนุนงบประมาณ  โดยโครงการดังกล่าวช่วยกระจายจากภาคเอกชนกว่า 60% สู่ชุมชนโดยตรง ในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ได้จดทะเบียนป่าชุมชนประมาณ 312,500 ไร่กับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) ซึ่งเป็นระบบทะเบียนคาร์บอนเครดิตของประเทศ ทำให้โครงการนี้เป็นโครงการคาร์บอนเครดิตซึ่งใช้วิธีการทางธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ

องค์ความรู้จากการดำเนินงานของมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ร่วมกับชุมชนในการพัฒนาเทคโนโลยีการสำรวจระยะไกลนี้ จะถูกนำมาใช้เป็นกรณีศึกษาและในกิจกรรมอื่นๆ เพื่อให้เกิดการขยายผลต่อยอดองค์ความรู้ไปสู่ภูมิภาคต่างๆ และพืชพันธุ์ชนิดอื่นๆ ทุนสนับสนุนนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของมูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์ในการเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับองค์กรที่มีความโดดเด่นในด้านความเป็นผู้นำและการสร้างผลกระทบเชิงบวกในการดำเนินงานด้านสภาพภูมิอากาศและการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน อันถือเป็นก้าวสำคัญสู่การสร้างตลาดคาร์บอนที่มีความโปร่งใสและยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  กลยุทธ์ด้านสภาพภูมิอากาศของมูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์มุ่งเน้นการสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงระบบในด้านอาหาร สุขภาพ พลังงาน และการเงิน เพื่อแก้ไขวิกฤติสภาพภูมิอากาศ การดำเนินงานนี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเทคโนโลยีเกิดใหม่ในการส่งเสริมโอกาสการเข้าถึงและแข่งขันในตลาดให้กับโครงการหรือความริเริ่มที่นำโดยชุมชนท้องถิ่น อันจะนำไปสู่การเปลี่ยนผ่านสู่สังคมคาร์บอนต่ำอย่างเท่าเทียมเป็นธรรม

หากสนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการของมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ และการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (climate change) ของมูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์ สามารถเยี่ยมชมได้ที่ https://www.maefahluang.org/en/homepage/ และ https://www.rockefellerfoundation.org/

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : มูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์ / มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

เสริมสิริมงคลป้ายทะเบียนเลขสวย “ค้าขายม่วนล้ำ” จัดประมูล 31 ส.ค. 67

 
เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 67 ที่ลานพระธาตุดอยตุง ต.ห้วยไคร้ อ.แม่สาย จ.เชียงราย พระพุทธิวงศ์วิวัฒน์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย พร้อมคณะสงฆ์ประกอบพิธีอธิษฐานจิตเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ป้ายทะเบียนรถเลขสวย ซึ่งเป็นป้ายทะเบียนรถยนต์ไม่เกิน 7 ที่นั่ง หมวดอักษร ขค จำนวน 301 หมายเลข ซึ่งหมายถึง “ค้าขายม่วนล้ำ เงินคำไหลค่อน” โดยการทำพิธีดังกล่าว เพื่อความเป็นสิริมงคลกับป้ายทะเบียน และส่งให้ถึงผู้ที่ประมูลเป็นเจ้าของป้ายทะเบียนเลขสวย ซึ่งพระพุทธิวงศ์วิวัฒน์ ยังได้ทำพิธีการอันศักดิ์สิทธิ์เพื่อเจิมป้ายทะเบียนเลขสวยอีกด้วย 
 
 
ในช่วงทำพิธีถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ศักดิ์สิทธิ์อย่างมาก (ตามความเชื่อของชาวล้านนา) เพราะบริเวณโดยรอบองค์พระธาตุดอยตุง มีหมอกฝนสีขาวลอยปกคลุม จนคล้ายฤดูหนาว และอากาศยังหนาวเย็นตลอดเวลา ไม่มีแสงแดดหรือฝนตกลงมาแต่อย่างใด ส่วนป้ายทะเบียนเลขสวยนั้น ลวดลายยังเป็นการออกแบบเดิมที่สวยงาม โดย อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติชาวเชียงราย เป็นผู้ออกแบบ โดยได้นำเอาภาพแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของ จ.เชียงราย เช่น ภูชี้ฟ้า ดอยนางนอน หอนาฬิกา ฯลฯ มาประกอบในป้ายอย่างสวยงาม โดยมี นายอนุวัฒน์ วงศ์จำรัส ขนส่งจังหวัดเชียงราย นางชลีพร เลานันท์ หัวหน้าฝ่ายทะเบียนรถ นำคณะเจ้าหน้าที่และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประกอบพิธีโดยพร้อมเพรียงกัน
 

         ทางด้าน นายอนุวัฒน์ วงศ์จำรัส ขนส่งจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า การประมูลป้ายทะเบียนรถเลขสวย หมวด ขค ซึ่ง หมายถึง “ค้าขายม่วนล้ำ เงินคำไหลค่อน” โดยจะมีการเปิดประมูลทะเบียนเลขสวยในครั้งนี้เป็นรูปแบบใหม่ผ่านทาง www.tabienrod.com ในวันเสาร์ที่ 31 สิงหาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป พร้อมกัน 2 ช่องทาง คือการประมูลทางวาจา (เคาะไม้) ณ โรงแรมเดอะริเวอร์รี บายกะตะธานี เชียงราย โดยใช้วิธียกป้ายเสนอราคา (Bidding Card) และการประมูลผ่านอินเตอร์เน็ต WWW.TABIENROD.COM หรือโทรสอบถามรายละเอียดได้ที่ 053-152076 เพื่อเป็นการจัดการประมูลนำรายได้เข้ากองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.) ซึ่งจะนำไปใช้สำหรับการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ต่อไป
 

        สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือติดต่อลงทะเบียนได้ที่ สำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงราย โทร 053-152 076 สำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงรายสาขาอำเภอเทิง โทร 053-795 222  สำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงรายสาขาอำเภอพาน โทร 053-795 222 และ สำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงรายสาขาอำเภอเวียงป่าเป้า โทร 053-781 493 หรือ โทรศัพท์สายด่วน 1584 และสามารถติดตามข่าวสารได้ที่ เพจประมูลทะเบียนสวยเชียงราย
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ภารกิจกู้ภัยถ้ำหลวง ครบรอบ 6 ปี จิ๊กซอว์ แห่งความสำเร็จ

 

เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2567 ที่อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน (เตรียมการ) ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย นายณรงค์พล คิดอ่าน นายอำเภอแม่สาย เป็นประธานเปิดงาน 6 ปี กู้ภัยถ้ำหลวง รวมใจเป็นหนึ่งเดียว โดยมีนายปัณณวิชช์ ภูริรักษ์พิติกร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน (เตรียมการ) นำหัวหน้าส่วนราชการ ทีมหมูป่าอะคาเดมี และประชาชน เข้าร่วมงาน เพื่อรำลึกถึงผู้เสียสละให้กับนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และเคยเป็นผู้บัญชาการในเหตุการณ์ช่วยเหลือทีมเยาวชนหมูป่าอะคาเดมีจำนวน 13 คน ที่ติดอยู่ในถ้ำหลวงระหว่างวันที่ 23 มิ.ย.-10 ก.ค.2561 นาวาตรีสมาน กุนัน (จ่าแซม) เรือโทเบรุต ปากบารา รวมถึงนายดวงเพชร พรหมเทพ (น้องดอม นักฟุตบอลทีมหมูป่า)

 

โดยในช่วงเช้ามีพิธีทำบุญตักบาตร พระสงฆ์จำนวน 90 รูป พิธีบวงสรวงเจ้าแม่นางนอน และพิธีร่วมแสดงไว้อาลัยให้กับผู้เสียสละในเหตุการณ์ดังกล่าว โดยมีดร.ฉวีวรรณ คำพา นายกสมาคมส่งเสริมการ เลี้ยงไก่ แห่งประเทศไทยฯ เป็นประธานในพิธี นอกจากนี้ภายในงานยังมีการจัดนิทรรศการแสดงเหตุการณ์กู้ภัย เวทีเสวนา หัวข้อ “จิ๊กซอว์แห่งความสำเร็จภารกิจกู้ภัยถ้ำหลวง” (Jigsaw.Beyond Heroics Decoding the Tham Luang Cave Rescue) การฉายวีดิทัศน์ สารคดีเหตุการณ์กู้ภัยถ้ำหลวง การแสดงสืบสานและเผยแพร่อัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม และการจำหน่ายสินค้าชุมชน

 

ทั้งนี้วันที่ 23 มิถุนายน ถือเป็นวันที่เริ่มต้นของปฏิบัติการค้นหา และกู้ภัยครั้งประวัติศาสตร์ โดยได้รับความร่วมแรงร่วมใจ ความสามัคคี จากทุกฝ่าย ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ประกอบกับความเชื่อ ความศรัทธาและกำลังใจจากทั่วโลก ที่หล่อหลอมรวมรวมจิตใจในการปฏิบัติภารกิจ ทำให้สามารถช่วยเหลือทั้ง 13 ชีวิต ได้อย่างปลอดภัย

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เปิดทุ่งทานตะวันเวียงเชียงรุ้ง เลี้ยงขุนน้ำ ฟังธรรมปลาช่อน ขุนน้ำบ้านโป่ง

 

เมื่อวันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน 2567 เวลา 10.30 น. นายก นก อทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย เป็นประธานเปิดงานโครงการส่งเสริมจารีตประเพณีและวัฒนธรรมท้องถิ่น

 

กิจกรรมเลี้ยงขุนน้ำ (ฟังธรรมปลาช่อน) ณ ขุนน้ำบ้านโป่ง หมู่ 1 ต.ทุ่งก่อ อ.เวียงเชียงรุ้ง โดยมีนายสมภพ ทิศอุ่น นายก อบต.ทุ่งก่อ กล่าวรายงาน นายปภาณ นัยติ๊บ รองประธานสภา อบจ.เชียงราย นายชัยสิทธิ์ ชัยเนตร เลขานุการนายก อบจ.เชียงราย ผู้นำท้องที่ท้องถิ่น ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ อบต.ทุ่งก่อ และประชาชนในพื้นที่ เข้าร่วมพิธีเปิดในครั้งนี้ด้วย
ทั้งนี้ นายก นก ยังได้เสนอแนวทางในการพัฒนาให้พื้นที่ ต.บ้านโป่ง เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยั่งยืน บูรณาการกับการพัฒนาเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ โดยการขอความร่วมมือทุกๆ ครัวเรือนในพื้นที่ ให้ปลูกดอกทานตะวันเป็นแนวนำสายตาให้นักท่องเที่ยวได้ชมตลอดการเดินทางตั้งแต่เข้าชุมชน จนถึงขุนน้ำบ้านโป่ง เพื่อดึงดูดความน่าสนใจระหว่างการเดินทาง
 
 
ด้วยวิถีชีวิตและวัฒนธรรมในการอยู่ร่วมกันของชาวล้านนาที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวในด้านประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงาม หนึ่งในประเพณี ที่ชาวล้านนาถือปฏิบัติกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษก็คือ “ประเพณีเลี้ยงขุนน้ำ (ฟังธรรมปลาช่อน)” ซึ่งในแต่ละหมู่บ้านจะมีแหล่งน้ำที่สำคัญเพื่อใช้อุปโภคและบริโภค และในทุกๆ ปีจะมีการทำพิธีเลี้ยงขุนน้ำ (ฟังธรรมปลาช่อน) เพื่อเป็นการขอฝนให้ตกต้องตามฤดูกาล และขอให้มีน้ำใช้อุปโภคบริโภคตลอดทั้งปี อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้เด็กเยาวชน ผู้สูงอายุและประชาชนได้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ และสืบสานประเพณีอันดีงามสืบไป และในปีนี้ทางผู้นำพร้อมกับพี่น้องประชาชนบ้านโป่ง ทั้ง 3 หมู่บ้าน ได้ปลูกดอกทานตะวันเพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์ ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวของบ้านโป่ง ทั้ง 3 หมู่บ้านต่อไป
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News