Categories
AROUND CHIANG RAI EDITORIAL

‘ช่างเบน’ กับการให้ที่ไม่มีที่สิ้นสุด จิตอาสาฟิ้นฟูล้างโคลนในบ้านไม่คิดค่าแรง

 

หลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ในอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2567 ซึ่งถือเป็นอุทกภัยที่รุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี น้ำท่วมครั้งนี้สร้างความเสียหายต่อบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างจำนวนมาก โดยมีผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัตินี้ นอกจากนั้น มวลน้ำยังไหลทะลักเข้าสู่ตัวเมืองเชียงราย แม้ว่าระดับน้ำจะลดลงแล้ว แต่การฟื้นฟูพื้นที่หลังน้ำท่วมยังคงต้องใช้เวลาอีกเป็นเดือน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีดินโคลนสะสมอยู่ในบ้านเรือนและบริเวณโดยรอบ ทำให้ชาวบ้านต้องลงแรงทำความสะอาดเองด้วยความลำบาก

สำนักข่าวนครเชียงรายนิวส์ ได้สัมภาษณ์ครอบครัวจิตอาสาที่เข้ามาช่วยเหลือในพื้นที่ พี่เบน คุณสุวิชา ไชยเลิศ วัย 39 ปี พร้อมภรรยา คุณสิทธิชยา สุกฤติยานันท์ (เอ๋) วัย 40 ปี และลูกชายสองคน ด.ช.ตปัสวิน ไชยเลิศ (โมโน) วัย 7 ปี และ ด.ช.ฌานิน ไชยเลิศ (โมนิน) วัย 6 เดือน บ้านของ พี่เบน คุณสุวิชา อยู่ในบริเวณที่น้ำท่วมไม่ถึง แต่ชุมชนรอบข้างได้รับความเสียหายอย่างหนัก เนื่องจากน้ำท่วมและดินโคลนที่เข้าท่วมบ้านเรือนของผู้ประสบภัย

 พี่เบน คุณสุวิชา เล่าว่า เขาและภรรยาได้คุยกันว่าจะช่วยเหลือผู้เดือดร้อนอย่างไร โดยเริ่มต้นจากการนำเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงที่มีอยู่มาใช้ในการทำความสะอาดบ้านของชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมหนัก ในวันแรกมีเพียงเขาและภรรยาเข้าร่วมทำความสะอาด แต่หลังจากนั้นก็ได้มีอาสาสมัครเข้าร่วมเพิ่มเติม จนมีสมาชิกกลุ่มมากถึง 8 คนในบางวัน ซึ่งทุกคนที่เข้ามาร่วมทำงานก็ทำด้วยใจ โดยไม่ขอรับเงินหรือสิ่งของตอบแทน กลุ่มนี้เป็นกลุ่มจิตอาสาที่มีอุดมคติที่ชัดเจนว่าจะไม่รับเงินจากการช่วยเหลือ แต่หากมีผู้ใจบุญที่ต้องการสนับสนุน พวกเขาขอเป็นอุปกรณ์ทำความสะอาดแทน เช่น เครื่องฉีดน้ำ แปรงขัดพื้น ผงซักฟอก และไม้กวาด เพื่อให้สามารถใช้ในการช่วยเหลือคนอื่นได้ต่อไป
 

พี่เบน คุณสุวิชา กล่าวต่อว่า ตอนนี้พวกเขาได้เน้นช่วยเหลือ ‘เฉพาะในตัวอำเภอเมืองเชียงราย’ โดยช่วยกลุ่มเปราะบางที่ต้องการความช่วยเหลือก่อน เช่น ผู้สูงอายุและครอบครัวที่ไม่สามารถทำความสะอาดบ้านเองได้ พวกเขาใช้เครื่องฉีดน้ำในการล้างดินโคลนออกจากบ้าน และถอดเฟอร์นิเจอร์ที่ผุพังออก ทั้งนี้ การดำเนินงานขึ้นอยู่กับขนาดและสภาพของพื้นที่เป็นหลัก หากชาวบ้านต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม หรือคนไหนที่อยากจ้างช่างต่อเติมที่มีจิตอาสาสามารถติดต่อผ่านไลน์ไอดี Suvicha.cr ได้โดยตรง

 

วิกฤตน้ำท่วมครั้งนี้ไม่เพียงแต่สร้างความเสียหายทางกายภาพเท่านั้น แต่ยังทำให้เห็นถึงน้ำใจของจิตอาสาจากทุกภาคส่วนที่เข้ามาช่วยเหลือโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน แม้ว่าหลายคนจะประสบกับความลำบากเช่นเดียวกัน แต่ก็ยังมีความตั้งใจที่จะช่วยเหลือเพื่อนร่วมชุมชน เจ้าของบ้านหลายคนที่ได้รับการช่วยเหลือต่างแสดงความขอบคุณด้วยรอยยิ้ม ซึ่งเป็นสิ่งตอบแทนที่มีค่าสำหรับจิตอาสาเหล่านี้

การช่วยเหลือฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในจังหวัดเชียงรายยังคงดำเนินต่อไป ทั้งในตัวเมืองและชุมชนต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้โดยเร็ว

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME
Categories
AROUND CHIANG RAI

ร้านลาบป้าไหล่พร้อมฟื้นฟูหลังน้ำท่วมหนัก คาดเปิดใหม่ตุลาคมนี้

 

เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2567 ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์ได้ลงสำรวจพื้นที่ “ร้านลาบป้าไหล่ – อาหารพื้นเมือง เชียงราย” ซึ่งเป็นร้านอาหารพื้นเมืองที่มีชื่อเสียงและเปิดบริการมายาวนานหลายสิบปี แม้ว่าจะเป็นร้านริมทางที่มีความเรียบง่าย แต่ก็เต็มไปด้วยบรรยากาศที่เป็นกันเอง จุดเด่นของร้านคือการให้บริการที่อบอุ่น มีบริการผักสดและน้ำเปล่าให้รับประทานฟรี ที่ร้านมีเมนูขึ้นชื่ออย่างลาบหมู ลาบควาย และลาบเนื้อ เรียกได้ว่ารสชาติลาบของที่นี่ต้องยกให้เป็นอันดับหนึ่ง

ช่วงเวลาที่ร้านเปิดให้บริการตั้งแต่ 09:00 น. ถึง 20:00 น. ร้านตั้งอยู่ในบริเวณบ้านฟาร์ม ตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย ไม่ไกลจากสนามบินเชียงราย ปัจจุบันร้านได้ทำการปรับปรุงใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่การขยายพื้นที่จอดรถที่สามารถรองรับได้มากกว่า 20 คัน และการปรับโฉมร้านให้โล่ง โปร่งสบาย มีที่นั่งรองรับลูกค้าได้กว่า 100-200 ที่นั่ง ซึ่งเหมาะกับการมาตั้งหมู่คณะ

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในจังหวัดเชียงรายที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน 2567 ได้ส่งผลกระทบต่อร้านลาบป้าไหล่อย่างมาก ระดับน้ำสูงถึง 1.5 เมตร ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ต่าง ๆ ในร้านเสียหายอย่างมาก ตั้งแต่ตู้เย็น 3 ตู้ ตู้แช่ 2 ตู้ แอร์ 4 ตัว และพัดลมกว่า 20 ตัว เจ้าของร้านเล่าว่า ในช่วงที่น้ำมาได้พยายามย้ายของบางส่วนขึ้นที่สูง แต่ก็ไม่คิดว่าน้ำจะขึ้นสูงขนาดนี้ จนทำให้หลายสิ่งของถูกน้ำท่วมไปอย่างสิ้นเชิง

หลังจากน้ำเริ่มลดลงในวันที่ 15 กันยายน 2567 เจ้าของร้านและพนักงานจึงเริ่มกลับเข้ามาทำความสะอาด โดยใช้เวลาหลายวันในการกวาดโคลนและสูบน้ำออกจากพื้นที่เพื่อให้ร้านกลับมาอยู่ในสภาพที่พร้อมเปิดบริการอีกครั้ง ในวันนี้พนักงานที่เคยหยุดงานก็ได้กลับมาช่วยกันทำความสะอาดอย่างขะมักเขม้น พร้อมกับได้รับค่าแรงแทนการเสิร์ฟอาหาร

สถานการณ์ในตอนนี้แม้จะเริ่มดีขึ้น แต่ยังคงมีน้ำขังอยู่บริเวณข้าง ๆ ร้าน และคาดว่าทางร้านจะกลับมาเปิดให้บริการได้ในวันที่ 2 หรือ 3 ตุลาคม 2567 เจ้าของร้านกล่าวว่าพวกเขาพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ร้านสามารถกลับมาเปิดได้โดยเร็ว เพราะต้องการฟื้นฟูร้านให้กลับมาเป็นแหล่งอาหารพื้นเมืองที่ผู้คนในเชียงรายและนักท่องเที่ยวจะมาเยือนอีกครั้ง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ทัพฟ้าจัดบิ๊กคลีนนิ่งฟื้นฟูโรงเรียน หลังน้ำท่วมเชียงรายรุนแรง

 

เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2567 ที่โรงเรียนเทศบาล 2 หนองบัว สังกัดเทศบาลนครเชียงราย นาวาอากาศโท ปราโมทย์ กุยแก้ว ผู้บังคับฝูงบิน 416 ได้จัดกิจกรรม “บิ๊กคลีนนิ่งเดย์” ภายใต้โครงการ “ทัพฟ้า พาน้องเข้าเรียน” โดยมีการนำกำลังพล พร้อมอุปกรณ์ทำความสะอาดเข้าช่วยเหลือในการทำความสะอาดอาคารเรียนและบริเวณโรงเรียนที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา

กิจกรรมในครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนจากบุคลากรของโรงเรียน โดยมี นางสาวอโณทัย จิระดา ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาล 2 นำคณะครูและเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนทั้งหมดเข้าร่วมอย่างเต็มที่ เพื่อให้โรงเรียนกลับมาเปิดเรียนได้โดยเร็วที่สุด หลังจากที่ต้องหยุดเรียนไปหลายวันเนื่องจากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ที่กระทบหลายพื้นที่ในจังหวัดเชียงราย

นาวาอากาศโท ปราโมทย์ กุยแก้ว เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในจังหวัดเชียงราย ทางกองทัพอากาศ โดย พลอากาศเอก พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ ได้แสดงความห่วงใยต่อประชาชนและข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ ท่านได้มอบหมายให้ พลอากาศเอก วรกฤต มุขศรี ผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมการปฏิบัติทางอากาศ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานด้านบรรเทาสาธารณภัย ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ ลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจประชาชน รวมทั้งเร่งดำเนินการช่วยเหลือฟื้นฟูโรงเรียนและสถานที่ราชการที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม

สำหรับโรงเรียนเทศบาล 2 หนองบัว ถือเป็นหนึ่งในโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ซึ่งเป็นสาเหตุให้ต้องปิดทำการเรียนการสอนไปหลายวัน ด้วยเหตุนี้ โครงการ “ทัพฟ้า พาน้องเข้าเรียน” จึงได้ถูกจัดขึ้นเพื่อให้โรงเรียนสามารถกลับมาเปิดเรียนได้ตามปกติในวันที่ 23 กันยายน 2567 การดำเนินการครั้งนี้เป็นความร่วมมือจากหลายภาคส่วน รวมถึงการใช้ทั้งแรงงานคนและเครื่องจักร เพื่อทำความสะอาดและฟื้นฟูโรงเรียนให้พร้อมสำหรับการเปิดเรียน

หน่วยงานที่เข้าร่วมสนับสนุนกิจกรรมในครั้งนี้ นอกจากฝูงบิน 416 ของกองทัพอากาศแล้ว ยังมีความร่วมมือจากเทศบาลนครเชียงราย อำเภอเวียงเชียงรุ้ง สำนักงานเจ้าท่าเชียงราย สำนักงานชลประทานเชียงราย สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มูลนิธิสยามรวมใจ รวมไปถึงเครือข่ายกลุ่มชุมชนต่าง ๆ ที่เข้ามาช่วยเหลืออย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนและองค์กรต่าง ๆ ที่ร่วมมือกันจนทำให้งานบรรลุผลตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

นาวาอากาศโท ปราโมทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ความสำเร็จของกิจกรรมในครั้งนี้มาจากความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วน ที่ทำงานอย่างเต็มที่เพื่อฟื้นฟูสภาพแวดล้อมของโรงเรียนให้กลับมาเป็นปกติ การสนับสนุนจากภาคเอกชน หน่วยงานราชการ และชุมชน ถือเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้งานเสร็จสิ้นได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยให้โรงเรียนกลับมาเปิดทำการเรียนการสอนได้ทันเวลา แต่ยังเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับครูและนักเรียนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอีกด้วย

โครงการ “ทัพฟ้า พาน้องเข้าเรียน” เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจบรรเทาสาธารณภัยของกองทัพอากาศ ที่มุ่งเน้นการช่วยเหลือฟื้นฟูสถานศึกษาและสถานที่สำคัญให้กลับมาดำเนินการได้อย่างปกติหลังเกิดภัยพิบัติ ซึ่งนับเป็นโครงการที่ช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนและช่วยลดผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้อย่างเป็นรูปธรรม

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : เทศบาลนครเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

สสจ.เชียงราย เตือนระวังโรคหลังน้ำลด เสี่ยงต่อการติดเชื้อทางเดินอาหาร

 

เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2567 นพ.วัชรพงษ์ คำหล้า นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย (สสจ.เชียงราย) ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับมาตรการรับมือและการให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในจังหวัดเชียงราย โดยกล่าวว่าทีมเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขได้ลงพื้นที่สำรวจสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมให้คำแนะนำแก่ประชาชนในเรื่องของการป้องกันตนเองหลังน้ำลด โดยเฉพาะปัญหาฝุ่น PM10 ที่มักเกิดขึ้นหลังจากน้ำลด โดยแนะนำให้ประชาชนในพื้นที่โล่งแจ้งควรสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันฝุ่น และสามารถใช้หน้ากากอนามัยธรรมดาได้

อีกหนึ่งปัญหาที่ต้องเฝ้าระวังคือขยะเน่าเหม็น ซึ่งอาจเป็นแหล่งเชื้อโรค โดยขอให้ประชาชนที่ต้องเข้าไปในพื้นที่ที่มีขยะใส่รองเท้าบูทหรือรองเท้ายางเพื่อป้องกันการติดเชื้อ ทั้งนี้ การจัดการขยะจะต้องประสานกับหน่วยงานท้องถิ่นเพื่อเร่งจัดเก็บ โดยมีการแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบถึงประเภทของขยะในแต่ละพื้นที่ เพราะขยะเน่าเหม็นนั้นมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อทางเดินอาหาร หากมีการหยิบจับหรือสัมผัสสิ่งของที่เริ่มเน่าเสียแล้วไม่สวมถุงมือหรือไม่ล้างมือให้สะอาด

นอกจากนี้ยังมีประเด็นเกี่ยวกับบาดแผลที่อาจสัมผัสน้ำเน่าเสีย นพ.วัชรพงษ์ได้กล่าวว่า บาดแผลที่สัมผัสกับน้ำเน่าเสียมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อโรคฉี่หนู ซึ่งควรทำความสะอาดและทายาทันทีหลังจากสัมผัสน้ำ หรือไปขอความช่วยเหลือจากหน่วยปฐมพยาบาลที่ลงพื้นที่ เพื่อให้แพทย์ประเมินสภาพบาดแผลและให้คำแนะนำอย่างถูกต้อง โดยสาธารณสุขจังหวัดเชียงรายได้พบว่า ขณะนี้ประชาชนส่วนใหญ่เริ่มมีอาการเท้าเปื่อย ระบบทางเดินหายใจ และตาแดง ส่วนโรคฉี่หนูยังไม่มีการแพร่ระบาด แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง

ในส่วนของภาวะทางจิตใจ นพ.วัชรพงษ์ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า มีการส่งทีมสุขภาพจิตเข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภาวะเครียดจากเหตุการณ์น้ำท่วม โดยร่วมกับทีมจากโรงพยาบาลสวนปรุงของกรมสุขภาพจิต ซึ่งได้คัดกรองประชาชนไปแล้วประมาณ 3,000 คน พบว่ามีผู้ที่มีความเครียดในระดับปานกลางที่ยังสามารถดูแลตัวเองได้ บางรายมีการใช้ยาเพื่อบรรเทาอาการ แต่ยังไม่พบผู้ที่เป็นโรคซึมเศร้าหรือมีแนวโน้มจะฆ่าตัวตาย

ความเครียดที่พบส่วนใหญ่เกิดจากความกังวลเรื่องบ้านเรือนที่ถูกดินโคลนถล่มและไม่สามารถเข้าไปฟื้นฟูได้ ประชาชนบางส่วนยังคงวิตกเกี่ยวกับการเกิดพายุหรืออุทกภัยซ้ำในอนาคต กรมสุขภาพจิตได้จัดทำข้อมูลเพื่อช่วยแจ้งเตือนประชาชนอยู่ตลอด และมีการเตรียมพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ในอนาคต นอกจากนี้ยังได้ทำคู่มือแนะนำประชาชนเกี่ยวกับการรับมือภัยพิบัติ โดยแนะนำให้ประชาชนมองสถานการณ์ในแง่บวก เชื่อมั่นในความสามารถของตนเองในการผ่านพ้นวิกฤตนี้ และอย่าลังเลที่จะขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นเมื่อมีความจำเป็น

สุดท้าย นพ.วัชรพงษ์กล่าวย้ำว่า เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนกำลังทำงานกันอย่างเต็มที่ และประชาชนควรป้องกันตนเองให้ดีในช่วงหลังน้ำลด เพราะอาจมีโรคภัยต่างๆ ตามมาได้ เช่น โรคทางเดินอาหาร เท้าเปื่อย โรคฉี่หนู และโรคตาแดง ซึ่งหากมีอาการควรไปพบแพทย์ทันที เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการรุนแรง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักข่าวชายขอบ

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI FOOD

‘ร้านชีวิตธรรมดา’ เชียงราย กับวันที่ต้องรับมือแบบ ‘ไม่ธรรมดา’

 

เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าว “สำนักข่าว นครเชียงรายนิวส์” ได้รายงานสถานการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ในพื้นที่เศรษฐกิจของอำเภอเมืองเชียงรายและอำเภอแม่สาย ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 10 – 13 กันยายน 2567 น้ำท่วมครั้งนี้ได้สร้างความเสียหายต่อธุรกิจหลายแห่ง รวมถึงร้านอาหารและร้านกาแฟชื่อดังในพื้นที่ หนึ่งในร้านที่ได้รับผลกระทบหนักคือ “ชีวิตธรรมดา คอฟฟี่เฮาส์ บิสโทร บาร์” ร้านอาหารและร้านกาแฟยอดนิยมที่ตั้งอยู่ริมน้ำกก จังหวัดเชียงราย

ร้านชีวิตธรรมดาเป็นที่รู้จักในฐานะร้านอาหารและร้านกาแฟที่มีบรรยากาศไม่ธรรมดาเหมือนชื่อร้าน ด้วยการตกแต่งสไตล์วินเทจแบบบ้านไม้สีขาว ร่มรื่นด้วยต้นไม้เขียวขจีและสวนอังกฤษ พื้นที่ภายในร้านกว้างขวางและหลากหลายโซน ทั้งห้องแอร์ โอเพ่นแอร์ โซนสวน ห้องกระจก ห้องสมุด และระเบียงริมน้ำ ร้านนี้กลายเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวที่มาเยือนเชียงราย

 อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากน้ำท่วมในครั้งนี้ทำให้ร้านชีวิตธรรมดาเสียหายอย่างหนัก โดยมีน้ำท่วมสูงถึงเมตรครึ่ง พื้นที่ภายในร้านส่วนใหญ่ถูกปกคลุมด้วยดินโคลน เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ต่างๆ ภายในร้านเสียหายไปหลายรายการ แม้ว่าทางร้านจะพยายามย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง แต่ระดับน้ำที่ไหลเข้ามาอย่างรวดเร็วทำให้ไม่สามารถป้องกันความเสียหายได้ทัน พนักงานในร้านกว่า 100 ชีวิตต้องรีบอพยพหนีออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัย
 

จากการสัมภาษณ์กับทางร้าน ทางร้านชีวิตธรรมดาเปิดเผยว่า “ตอนนี้ทางร้านกำลังเร่งฟื้นฟูและทำความสะอาดพื้นที่ รวมถึงการเคลื่อนย้ายดินโคลนที่หนาและเหนียวออกจากพื้นที่ ทั้งในร้านและที่พักพนักงาน แม้จะได้รับความเสียหายอย่างหนัก แต่ทางร้านยังคงมีความตั้งใจที่จะเปิดโซนเล็กๆ ก่อน เพื่อให้พนักงานสามารถทำงานและได้รับเงินเดือนเต็มจำนวน” ทางร้านยังคาดหวังว่าจะสามารถเปิดให้บริการบางส่วนได้ในวันที่ 25 กันยายนนี้

ในเชิงเศรษฐกิจ น้ำท่วมครั้งนี้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อธุรกิจร้านอาหารและคาเฟ่ริมแม่น้ำกกหลายแห่ง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของเชียงราย การปิดให้บริการชั่วคราวและการฟื้นฟูที่ต้องใช้เวลาย่อมส่งผลต่อการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ร้านชีวิตธรรมดายังคงมุ่งมั่นฟื้นฟูธุรกิจของตนและคาดหวังว่าจะกลับมาเปิดให้บริการได้ในอนาคตอันใกล้

สำหรับลูกค้าที่ต้องการเยี่ยมเยียนร้านชีวิตธรรมดา ร้านตั้งอยู่ที่ 179 หมู่ 2 ซอยร่องเสือเต้น 3 ตำบลริมกก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย 57100 สามารถเดินทางโดยข้ามสะพานแม่น้ำกก เมื่อเจอแยกไฟแดงแรกให้เลี้ยวซ้าย ร้านเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 08:00 น. ถึง 21:00 น. และสามารถติดต่อสอบถามได้ที่เบอร์โทร 081-984-2925 หรือ 053-166-967
 

ผลกระทบที่เกิดขึ้นนี้เป็นเครื่องเตือนใจให้ธุรกิจในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมต้องวางแผนรับมือกับเหตุการณ์ธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต การมีแผนป้องกันและการเตรียมความพร้อมของชุมชนในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้สามารถฟื้นฟูธุรกิจและเศรษฐกิจของท้องถิ่นได้อย่างรวดเร็ว และลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจและสังคมในระยะยาว

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

ธนพิริยะเดินหน้าฟื้นฟูแม่สายหลังน้ำท่วม พร้อมขยายสาขาเพิ่ม

 

เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2567 นางอมร พุฒิพิริยะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP ซึ่งเป็นผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคในเขตจังหวัดเชียงรายและจังหวัดใกล้เคียง ได้เปิดเผยถึงเหตุการณ์น้ำท่วมรุนแรงในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ที่เกิดจากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นยางิ ซึ่งพัดผ่านจาก สปป.ลาวตอนบน ภาคเหนือตอนบน และรัฐฉานในประเทศเมียนมา โดยนางอมรกล่าวว่า ขณะนี้ระดับน้ำได้ลดลงสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ทิ้งความเสียหายมากมายต่ออาคารบ้านเรือนและพื้นที่ทางการเกษตร

ก่อนหน้านี้ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2567 เหตุการณ์น้ำท่วมระลอกแรกที่เกิดจากร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านบริเวณจังหวัดน่าน แพร่ และพะเยา ได้ส่งผลกระทบต่อธนพิริยะซูเปอร์มาร์เก็ต สาขา อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย แต่ขณะนี้สาขาดังกล่าวได้กลับมาเปิดให้บริการตามปกติแล้ว อย่างไรก็ตาม สำหรับพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งได้รับความเสียหายอย่างหนักจากอุทกภัย จำเป็นต้องมีการฟื้นฟูครั้งใหญ่ โดยนางอมรกล่าวว่า “ที่แม่สายได้รับความเสียหายอย่างมาก เราจำเป็นต้องระดมเครื่องสูบน้ำเพื่อล้างโคลนออก และเตรียมการฟื้นฟูอย่างเร่งด่วน”

นางอมรยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้อาหารและน้ำดื่มมีเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน แต่สิ่งที่ต้องเร่งจัดหาคือวัสดุก่อสร้างสำหรับการซ่อมแซมอาคารบ้านเรือนที่เสียหายจากน้ำท่วม รวมถึงเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีพ สาขาที่แม่สายคาดว่าจะสามารถกลับมาเปิดให้บริการได้ในสัปดาห์หน้า

สำหรับผลกระทบทางธุรกิจจากเหตุการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) ได้ทำประกันภัยครอบคลุมความเสียหายทั้งหมดไว้แล้ว โดยวงเงินประกันครอบคลุมประมาณ 4 ล้านบาท จากสาขาที่ได้รับผลกระทบหลายแห่ง

อย่างไรก็ตาม นางอมรยืนยันว่าการดำเนินธุรกิจของบริษัทในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2567 จะยังคงเป็นไปตามแผนเดิม โดยบริษัทมีแผนขยายสาขาเพิ่มเติมจากเดิมที่มีอยู่ 47 สาขา และ 1 ศูนย์ค้าส่งสินค้า มาเป็น 51 สาขา โดยตั้งแต่ต้นปี 2567 บริษัทได้ทยอยเปิดสาขาใหม่ในพื้นที่ จ.พะเยา และเชียงรายอย่างต่อเนื่อง

ในส่วนของผลประกอบการไตรมาสที่ 2/2567 บริษัทมีกำไรสุทธิ 42,253,000 บาท ส่วนผลประกอบการครึ่งแรกของปี 2567 (มกราคม-มิถุนายน) บริษัทมีกำไรสุทธิ 87,153,000 บาท โดยบริษัทยังคงรักษาอัตราการเติบโตตลอดทั้งปีนี้ไว้ที่ร้อยละ 15 ตามเป้าหมายที่วางไว้

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : บริษัท ธนพิริยะ จำกัด

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

กรุงเทพฯ ส่งรถดูดโคลนช่วยเหลือฟื้นฟูน้ำท่วมเชียงราย

 

เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2567 พญ.วันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีปล่อยขบวนรถดูดโคลนของกรุงเทพมหานคร เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในจังหวัดเชียงราย โดยมีนายสุราษฎร์ เจริญชัยสกุล ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ และนายสุนทร สุนทรชาติ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย พร้อมด้วยผู้บริหารจากสำนักการโยธา สำนักสิ่งแวดล้อม สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว รวมทั้งผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมพิธี ณ หน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง

การส่งทีมงานครั้งนี้เป็นไปตามคำสั่งของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ได้สั่งการให้มีการประสานงานกับจังหวัดเชียงราย เพื่อส่งความช่วยเหลือในภารกิจสนับสนุนการฟื้นฟูพื้นที่ที่ประสบภัยน้ำท่วม โดยในเบื้องต้น ได้ส่งข้าราชการ 3 คน (จากสำนักการระบายน้ำ 1 คน และกองโรงงานช่างกล สำนักการคลัง 2 คน) พร้อมด้วยลูกจ้างจำนวน 23 คน ยานพาหนะ 7 คัน ประกอบด้วย รถดูดโคลนขนาดความจุ 14 ลูกบาศก์เมตร 2 คัน, รถตรวจการณ์ 1 คัน, รถหน่วยซ่อมเคลื่อนที่เร็ว (BEST) 1 คัน, รถบรรทุกติดตั้งเครนขนาด 65 ตัน 1 คัน, รถไฟส่องสว่าง 1 คัน และรถตู้ 12 ที่นั่ง 1 คัน

พญ.วันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร ได้กล่าวว่า กรุงเทพมหานครได้ส่งทีมงานล่วงหน้าไปประเมินสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย และได้รับการประสานจากผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายว่ามีความจำเป็นต้องการรถดูดโคลนเลนเพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย ซึ่งกรุงเทพมหานครมีรถดูดโคลนเลนทั้งหมด 6 คัน โดยในครั้งนี้ได้ส่งรถไปช่วยสนับสนุนจำนวน 2 คัน โดยอีก 4 คัน ยังคงต้องปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

ในครั้งนี้ กรุงเทพมหานครยังได้ส่งรถหน่วยซ่อมเคลื่อนที่เร็ว (BEST) ของกองโรงงานช่างกล รวมถึงรถบรรทุกติดตั้งเครน เพื่อช่วยสนับสนุนการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับเครื่องกลหนัก และรถไฟส่องสว่าง โดยทีมงานทั้งหมดจะเดินทางไปยังพื้นที่ในอำเภอแม่สาย 1 คัน และอำเภอเมืองเชียงราย 1 คัน ซึ่งการดำเนินงานนี้จะเน้นการช่วยเหลือในการดูดโคลนที่อุดตันในท่อระบายน้ำและตามถนนซอยที่กีดขวางการระบายน้ำ

ปลัดกรุงเทพมหานครยังกล่าวเพิ่มเติมว่า กรุงเทพมหานครได้เปิดรับบริจาคเครื่องอุปโภคบริโภคจากประชาชนในสำนักงานเขตทั้ง 50 เขต เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยรับบริจาคถึงสิ้นเดือนกันยายนนี้ และจะทยอยส่งสิ่งของไปยังพื้นที่ประสบภัยในจังหวัดเชียงรายหรือพื้นที่อื่นๆ ที่ยังต้องการความช่วยเหลือ

นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครยังเน้นย้ำว่า ความช่วยเหลือดังกล่าวไม่เพียงแต่เป็นการดูแลเรื่องโคลนและน้ำท่วม แต่ยังเป็นการฟื้นฟูสภาพความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ โดยจะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ หน่วยงานทุกภาคส่วนของกรุงเทพมหานครพร้อมที่จะส่งกำลังใจและความช่วยเหลือไปยังผู้ประสบภัยให้ผ่านพ้นวิกฤตินี้โดยเร็ว

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์ สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

รัฐมนตรีช่วยว่าการมหาดไทยเยี่ยมเชียงราย เร่งแก้ไขปัญหาน้ำท่วม

 

เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2567 นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางมายังศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน ป้องกันและบรรเทาเหตุอุทกภัยและดินโคลนถล่ม ณ เทศบาลนครเชียงราย โดยมี ว่าที่ร้อยตรี ศราวุธ จันทวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และนายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย พร้อมด้วยคณะผู้บริหารเทศบาลนครเชียงราย และเจ้าหน้าที่ส่วนงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันให้การต้อนรับ

การเดินทางครั้งนี้เป็นการติดตามและประเมินสถานการณ์น้ำท่วมในเขตพื้นที่เทศบาลนครเชียงราย ซึ่งได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมใน 52 ชุมชน มีผู้ได้รับความเสียหายมากกว่า 10,000 หลังคาเรือน โดยนางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ ได้กล่าวให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ทำงานในการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย และย้ำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการฟื้นฟูพื้นที่ให้กลับเข้าสู่สภาวะปกติ

ในที่ประชุม นายวันชัย จงสุทธานามณี ได้รายงานสถานการณ์น้ำท่วมในเขตเทศบาลนครเชียงราย โดยสาเหตุหลักมาจากน้ำในแม่น้ำกกที่ไหลล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน รวมทั้งการไหลย้อนเข้าลำน้ำสาขาและท่อระบายน้ำขนาดใหญ่ในหลายจุด ทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ริมแม่น้ำกกที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด

ทั้งนี้ การแก้ไขปัญหาที่สำคัญคือการจัดการกับดินโคลนที่สะสมอยู่ในบ้านเรือนและท่อระบายน้ำ ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญในการระบายน้ำออกจากพื้นที่ หากฝนตกซ้ำในช่วงนี้ อาจทำให้เกิดน้ำท่วมซ้ำซากได้ จึงได้ขอความร่วมมือจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่มีอุปกรณ์และรถดูดดินโคลนมาช่วยในการฟื้นฟูพื้นที่ดังกล่าว

นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในด้านการผลิตน้ำประปาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และในส่วนของการสนับสนุนรถดูดดินโคลน ได้มีการประสานงานกับสำนักงานโยธาธิการและผังเมือง รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้นำเครื่องจักรเข้ามาช่วยดำเนินการ คาดว่าจะสามารถเข้าถึงพื้นที่ได้ในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ ซึ่งจะเริ่มดำเนินการดูดดินโคลนออกจากท่อระบายน้ำในเขตเทศบาลนครเชียงรายและจุดที่เกิดปัญหาต่างๆ เพื่อป้องกันการเกิดน้ำท่วมซ้ำอีก

นอกจากนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยยังได้กล่าวให้กำลังใจแก่พี่น้องประชาชน และขอให้ทุกคนร่วมมือกันผ่านพ้นวิกฤตน้ำท่วมในครั้งนี้ไปโดยเร็วที่สุด

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

ข้อมูลน้ำท่วมเชียงราย 9 -18 ก.ย. 67 เสียชีวิต 14 ราย กระทบแล้ว 53,209 ครัวเรือน

 
ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ฯ รายงานสถานการณ์อุทกภัย และดินถล่ม ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ประจำวันที่ 18 กันยายน 2567
ข้อมูลสะสมระหว่างวันที่ 9 -18 ก.ย. 2567 รวมทั้งสิ้น 9 อำเภอ 35 ตำบล 167 หมู่บ้าน 1 เทศบาลนคร (52 ชุมชน) โดยตลาดชุมชนเศรษฐกิจ ได้รับผลกระทบ 2 แห่ง ร้านค้า/สถานประกอบการ 92 แห่ง ราษฎรได้รับผลกระทบเบื้องต้น 53,209 ครัวเรือน เสียชีวิต 14 ราย บาดเจ็บ 2 ราย พื้นที่เกษตรได้รับผลกระทบ 14,138 ไร่ ปศุสัตว์ได้รับผลกระทบ ได้แก่ โค 894 ตัว กระบือ 141 ตัว สุกร 1 ตัว แพะ/แกะ 25 ตัว สัตว์ปีก 19,500 ตัว สุนัข 145 ตัว และแมว 154 ตัว ด้านสิ่งสาธารณประโยชน์ได้รับผลกระทบ ได้แก่ โรงเรียน จำนวน 31 แห่ง ถนน 7 จุด และคอสะพาน 4 จุด
 
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ผู้อำนวยการกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย ได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งได้เตรียมการมาเป็นอย่างดีทั้งเครื่องมือ อุปกรณ์เครื่องจักรกล ยุทโธปกรณ์ พร้อมกำลังพลในการเข้าไปช่วยเหลือ อย่างเร่งด่วน แต่เนื่องจากเกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง หลายวัน ทำให้วันนี้ (18 กันยายน 2567) ได้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่ ได้แก่ ได้แก่ อ.เมืองเชียงราย, อ.เชียงแสน, อ.เชียงของ, อ.แม่จัน, อ.แม่ฟ้าหลวง, อ.แม่สาย, อ.ดอยหลวง, อ.เทิง และอ.เวียงแก่น เกิดน้ำท่วมหนักในรอบหลายปี อย่างไรก็ตาม นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจ และเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน หากประชาชนต้องการขอความช่วยเหลือ หรือแจ้งเหตุ แจ้งได้ตลอด 24 ช่วยโมง ที่สายด่วน 1784
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย รายงานสถานที่เกิดเหตุ/ความเสียหาย/การให้ความช่วยเหลือ (เหตุต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย. 67 และสถานการณ์ในวันนี้ (18 ก.ย. 67) ดังนี้
 
อ.เมืองเชียงราย ภาพรวมสถานการณ์คลี่คลาย ดำเนินการฉีดล้างทำความพื้นที่ที่น้ำลดลงแล้ว ยังคงมีสถานการณ์บางส่วนในพื้นที่ชุมชนป่าแดง ชุมชนฝั่งหมิ่น และชุมชนบ้านใหม่ (เขตเทศบาลนครเชียงราย)
เขตเทศบาลนครเชียงราย พื้นที่ได้รับผลกระทบสะสม 52 ชุมชน เสียชีวิต 1 ราย ปัจจุบัน (วันที่ 18 ก.ย. 67) สถานการณ์คลี่คลาย บางชุมชนมีน้ำผุดท่อเนื่องจากท่อระบายน้ำอุดตัน (ได้แก่ พื้นที่ชุมชนป่าแดง และชุมชนฝั่งหมิ่น) และยังมีน้ำท่วมขังส่งกลิ่นเน่าเหม็นในพื้นที่ชุมชนบ้านใหม่) / เทศบาลนครเชียงรายดำเนินการ Big Cleaning Day จุดที่น้ำลดลงแล้วตั้งแต่วันที่ 14 ก.ย. 67 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบัน
 
แจ้งปิดใช้สะพานเนื่องจากน้ำท่วมสูง จำนวน 5 จุด/ คลี่คลายแล้วทุกจุด รถสามารถสัญจรผ่านได้ อยู่ระหว่างสำรวจความเสียหายโครงสร้าง จุดที่ 1 สะพานแม่ฟ้าหลวง (ศาลากลางจังหวัดเชียงราย) เปิดใช้งานทั้งสองเลนส์ ตั้งแต่วันที่ 13 ก.ย. 67 คอสะพานบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยวัยที่ 3 ชุมชนน้ำลัด ขาด ผ่านไม่ได้ จุดที่ 2 สะพานขัวพญาเม็งราย (แยกบ้านใหม่ถึงแยกสถานีตำรวจภูธรเชียงราย) คลี่คลายแล้ว ตั้งแต่วันที่ 14 ก.ย.67จุดที่ 3 สะพานข้ามแม่น้ำกก (แขวงทางหลวงเชียงรายที่ 1 ถึง 5 แยกพ่อขุนเม็งราย) คลี่คลายแล้ว ตั้งแต่วันที่ 14 ก.ย.67 จุดที่ 4 สะพานเฉลิมพระเกียรติ (เส้นทางสนามกีฬากลาง โรงเรียนเทศบาล 6 นครเชียงราย ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย) คลี่คลายแล้ว ตั้งแต่วันที่ 14 ก.ย.67 จุดที่ 5 สะพานใหม่บ้านหนองด่าน (ฮ่องอ้อ) จากแยกวัดห้วยปลากั้ง ไปทางโรงเรียนสามัคคี 2) คลี่คลายแล้ว ตั้งแต่วันที่ 12 ก.ย. 67
โรงเรียนในเขตเทศบาลนครเชียงรายประกาศหยุดเรียนจนกว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เบื้องต้น 11 โรงเรียน 1 ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ได้แก่ โรงเรียนเทศบาล 1- 8/ ร.ร.สามัคคีวิทยาคม/ ร.ร.อนุบาลเชียงราย (สันต้นเปา)/ ร.ร.อบจ.เชียงราย และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านใหม่ ความคืบหน้าสถานศึกษาที่เปิดเรียน ดังนี้
 
วันที่ 17 ก.ย. 67 สถานศึกษาที่เปิดเรียน จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ ร.ร.สามัคคีวิทยาคม และ ร.ร.อนุบาลเชียงราย (สันต้นเปา) วันที่ 18 ก.ย. 67 สถานศึกษาที่เปิดเรียน จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ ร.ร.เทศบาล 3 ศรีทรายมูล และร.ร.เทศบาล 4 สันป่าก่อ วันที่ 19 ก.ย. 67 สถานศึกษาที่เปิดเรียน จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ ร.ร. เทศบาล 1 ศรีเกิด และ ร.ร.เทศบาล 5 เด่นห้า วันที่ 20 ก.ย. 67 สถานศึกษาที่เปิดเรียน จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านใหม่, ร.ร.เทศบาล 2 หนองบัว, ร.ร.เทศบาล 7 ฝั่งหมิ่น และ ร.ร.เทศบาล 8 บ้านใหม่
 
การประปาส่วนภูมิภาคสาขาเชียงราย หยุดระบบการผลิตและระบบจ่ายน้ำ (ตั้งแต่วันที่ 11 ก.ย. 67 เวลา 15.59 น.) อำเภอเมืองเชียงรายและอำเภอเวียงชัย ได้รับผลกระทบเต็มพื้นที่
 
– วันที่ 18 ก.ย. 67 เวลา 11.30 น. โรงสูบน้ำแรงดันต่ำ สถานีสูบน้ำวังคำ ประสบปัญหา ความขุ่นน้ำสูงและน้ำท่วมทำให้ตะกอนตกค้างไม่สามารถสูบน้ำผลิตได้ ทีมช่างลงกวนโคลนเพื่อให้กลายเป็นเลนเพื่อสูบระบายออกและได้รับการสนับสนุนรถดูดโคลนจิตอาสาและบุคลากรจาก อบจ.เชียงราย ปฏิบัติการดูดตะกอนตกค้าง/ เวลา 16.00 น. สามารถเดินเครื่องสูบน้ำ ผลิตน้ำได้อย่างต่อเนื่อง จ่ายน้ำอำเภอเวียงชัยเกือบเต็มระบบ (ขยายการผลิตถึง ร.ร.บ้านเวียงชัย และบ้านไชยนารายณ์ ซอย 2) และโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ศรีบุรินทร์ ต.สันทราย อ.เมืองเชียงราย พร้อมนี้ กปภ.สาขาเชียงราย จัดรถบริการน้ำแจกจ่ายควบคู่กับการระบายน้ำ จำนวน 6 คัน (ให้บริการตั้งแต่วันที่ 17 ก.ย.67 เป็นต้นมา) จุดบริการ ดังนี้
– รถน้ำ สาขาพะเยา ให้บริการ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ อ.เมืองเชียงราย
– รถน้ำ สาขาเชียงราย ให้บริการ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ อ.เมืองเชียงราย
– รถน้ำ สาขาลำปาง ให้บริการ รพ.โรงพยาบาลสมเด็จพระญาณสังวร อ.เวียงชัย
– รถน้ำเขต 10 คันที่ 1 ให้บริการจุดจ่ายน้ำ โครงการ A-star ต.ท่าสุด อ.เมืองเชียงราย
– รถน้ำเขต 10 คันที่ 2 ให้บริการจุดจ่ายน้ำ 7-11 ต.ท่าสาย อ.เมืองเชียงราย
– รถน้ำเขต 10 คันที่ 3 ให้บริการบริเวณมูลนิธิแสงธรรมสาธารณกุศลเชียงราย สำนักงานใหญ่ (โค้งหนองเหียง ซอย 4 ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย)
 
ต.รอบเวียง หมู่ที่ 1 – 5 ลำน้ำกก ลำน้ำกรณ์ และลำน้ำลาว ระดับน้ำได้ล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน และในพื้นที่ของหาดเชียงราย/ สถานการณ์คลี่คลาย ระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง
 
ต.ดอยฮาง หมู่ที่ 2,3,4,5,6 ลำน้ำกกล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่เกษตร บางหมู่บ้าน ถูกตัดขาด ใช้การลำเลียงน้ำและอาหารโดยรถยกสูง และอากาศยาน (หมู่ที่ 6 บ้านเรือนราษฎรถูกน้ำป่าไหลหลากพัดหายไป จำนวน 9 หลัง)
 
ต.แม่ยาว หมู่ที่ 1 -20 ลำน้ำกกล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน เร่งอพยพประชาชนและขนย้ายทรัพย์สินขึ้นที่สูง /สะพานแขวนฮาแหล่จ่ะ (สะพานไม้) ขาด ไม่สามารถสัญจรได้/ บ้านกะเหรี่ยงรวมมิตร บ้านแคววัวดำ บ้านพนาสวรรค์ บ้านผาขวาง และบ้านอาดี่ (บ้านบริวารบ้านผาสุก หมู่ที่ 20) ใช้การลำเลียงน้ำและอาหาร หญิงตั้งครรภ์ และผู้ป่วยฉุกเฉิน โดยอากาศยาน/ วันที่ 15 ก.ย. 67 ดำเนินการปรับเกลี่ยดินสไลด์เพื่อเปิดใช้เส้นทาง/ วันที่ 16 ก.ย. 67 สามารถใช้รถออฟโรดเข้าพื้นที่ได้ บางจุดต้องใช้จักรยานยนต์วิบากในการลำเลียงน้ำและอาหาร
 
ต.ห้วยชมภู หมู่ที่ 1,4,5,6,10,11,16 น้ำป่าไหลหลากและดินสไลด์ปิดทับเส้นทาง/ บ้านจะคือ หมู่ที่ 10 ใช้การลำเลียงน้ำและอาหาร หญิงตั้งครรภ์ และผู้ป่วยฉุกเฉิน โดยอากาศยาน เนื่องจากเส้นทางถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง
 
ต.ริมกก หมู่ที่ 1-7 วันที่ 11 ก.ย. 67 น้ำกกล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนของราษฎร/ บ้านเมืองงิม ม.4 พนังกั้นน้ำถูกกัดเซาะ อบต.ริมกก ดำเนินการจัดทำแนวตลิ่งเพื่อกันน้ำไม่ให้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนของราษฎร พร้อมทั้งอพยพคนออกจากพื้นที่ที่น้ำท่วมสูง วันที่ 12 ก.ย. 67 น้ำเพิ่มระดับสูงขึ้น ไหลเชี่ยวและแรง บางจุดไม่สามารถอพยพประชาชนออกมาได้ ต้องใช้การลำเลียงน้ำและอาหาร โดยใช้โดรน และเจ๊ตสกี / วันที่ 14 ก.ย. 67 สถานการณ์คลี่คลาย ระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง ถนนสามารถสัญจรผ่านได้ ภาพรวมสามารถฉีดล้างทำความสะอาดบ้านเรือนได้แล้ว ยังคงท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำบางส่วน
 
ต.บ้านดู่ ม. 1,10,12,15,16,17,20 น้ำท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่เกษตร สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ
 
ต.แม่ข้าวต้ม ม. 3,4 น้ำท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่เกษตร สถานการณ์คลี่คลายบางส่วน
 
ต.นางแล ม. 1,4,5,6,11,16 น้ำท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่เกษตร สถานการณ์คลี่คลาย
อ.เชียงแสน จำนวน 6 ตำบล 38 หมู่บ้าน โรงเรียน 1 แห่ง พื้นที่เกษตร 14,138 ไร่ ถนน 2 สาย สะพาน 1 จุด คอสะพาน 1 จุด น้ำท่วมบ้านเรือนราษฎร พื้นที่เกษตร และเกิดดินสไลด์ ในพื้นที่ ดังนี้ ต.เวียง ม.1, 2, 3 ,4 ,5 ,6 ,7 ,8 , 9 น้ำล้นตลิ่งและเกิดดินสไลด์บ้านสบรวก ร้านค้า จำนวน 16 ร้าน ต.โยนก ม.1 ,2 ,4 ,6 ,7 ต.บ้านแซว ม.7 ,8 ,10 ,14 ต.ป่าสัก ม.1 ,2, 3, 5, 6 ,7 ,11 ,12, 13 ต.ศรีดอนมูล ม.1, 2 ,3 ,5 ,9 ,10 ,12, 13 และ ต.แม่เงิน ม.1, 5, 10
 
ปิดเส้นทางสัญจร
ปิดเส้นทางสะพานโยนกนาคนคร ม.1 และ ม.4 ต.โยนก เส้นบายพาส เนื่องจากแม่น้ำกกหนุนสูงท่วมปิดเส้นทางไม่สามารถสัญจรได้/ วันที่ 14 ก.ย. 67/ วันที่ 14 ก.ย. 67 สถานการณ์ปกติ สามารถสัญจรผ่านได้
 
ปิดเส้นทางหมายเลข 1290 ตอนแม่สาย – กิ่วกาญจน์ ระหว่าง กม.20+000 – กม.20+500 บ้านเวียงแก้ว ม.5 ต.ศรีดอนมูล – บ้านวังลาว ม.4 ต.เวียง เนื่องจากแม่น้ำรวกล้นตลิ่งท่วมถนน รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้/ อยู่ระหว่างดำเนินการซ่อมแซม
อ.เชียงของ จำนวน 2 ตำบล 1 หมู่บ้าน
 
ต.เวียง หมู่ที่ 1 แม่น้ำโขงล้นตลิ่งหลากเข้าท่วมพื้นที่บริเวณท่าเรือบั๊ค บริเวณสวนสาธารณะปลาบึก 7 สี และบ้านเรือนราษฎรติดริมฝั่งโขง / ทต.เวียง อพยพประชาชนและขนย้ายทรัพย์สินขึ้นที่สูง เรียบร้อยแล้ว และ ต.ศรีดอนไชย น้ำหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร ได้รับผลกระทบ
 
อ.แม่จัน แม่น้ำจัน-คำ หลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่เกษตรเป็นวงกว้าง ในพื้นที่ 7 ตำบล 15 หมู่บ้าน โรงเรียนได้รับผลกระทบ 3 โรงเรียน/ สถานการณ์คลี่คลาย ยังคงค้างในพื้นที่ลุ่มต่ำของตำบลแม่คำ
 
อ.แม่ฟ้าหลวง จำนวน 4 ตำบล 12 หมู่บ้าน (เสียชีวิตจากสะสม 5 ราย เกิดจากน้ำป่าไหลหลาก 1 ราย/ดินสไลด์ 4 ราย) ถนนเสียหาย 4 จุด คอสะพาน 3 จุด โรงเรียนได้รับผลกระทบ 8 โรงเรียน (ดินสไลด์ปิดเส้นทางเข้า-ออก)/ บ้านจะตี ต.เทอดไทย ดินปิดสไลด์เส้นทาง ใช้อากาศยานในการขนส่ง / วันที่ 16 ก.ย. 67 ผช. ผรส. บ้านปูนะ ต.เทอดไทย ร่วมกับชาวบ้านตัดต้นไม้และเคลียร์พื้นที่ดินสไลด์ ใช้แบคโฮเปิดเส้นทาง สามารถใช้รถยนต์และจักรยานยนต์ผ่านได้ ยังต้องใช้ความระมัดระวังบางจุด เนื่องจากยังมีดินสไลด์ลงมาเป็นระยะ ยังดำเนินการกู้ระบบไฟฟ้า ใช้ได้เพียงบางจุด
ต.แม่ฟ้าหลวง ม. 12,16,17
ต.แม่สลองนอก ม.7
ต.แม่สลองใน ม.3,4,5,15
ต.เทอดไทย ม.6,7,15,16
 
วันที่ 17 ก.ย. 67 กองพันสัตว์ต่าง กรมการสัตว์ทหารบก ตั้ง บก.ช่วยเหลือ ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. 2567 ณ อบต.แม่ฟ้าหลวง กำลังพล ทหาร 15 นาย อุปกรณ์ ล่อ 3 ตัว ช่วยขนย้ายสิ่งของจำเป็นให้กับผู้ประสบภัย
อ.แม่สาย น้ำท่วมพื้นที่ตลาดสายลมจอย และพื้นที่เศรษฐกิจ จำนวน 4 ตำบล 37 หมู่บ้าน (ชุมชนได้รับผลกระทบรุนแรง ได้แก่ ชุมชนแม่สาย ชุมชนเหมืองแดง ชุมชนเกาะทราย ชุมชนไม้ลุงขน) จำนวน 4 ตำบล โรงเรียนได้รับผลกระทบ 8 โรงเรียน ต.แม่สาย ม.2,3,6,7,8,10 ต.เวียงพางคำ ม.1-10 ต.เกาะช้าง ม. 1-13
ต.ศรีเมืองชุม ม.1-8
 
วันที่ 18 ก.ย. 67 สถานีผลิตน้ำเกาะช้าง จ่ายน้ำในพื้นที่ในโซนถนนเส้นทางหลักของหมู่บ้าน ได้แก่ บ้านสันผักฮี้ บ้านสันทราย บ้านเอื้ออาทร 1 และ 2 บ้านเหมืองแดงใต้ บ้านเหมืองแดง หมู่ 1 และ 2 ทั้งนี้ ได้มีการผันน้ำไปพื้นที่โซนศูนย์วิจัยและพัฒนาชาน้ำมันและพืชน้ำมัน และโรงพยาบาลแม่สาย นอกจากโซนดังกล่าวที่มีการจ่ายน้ำ จะเป็นเพียงการจ่ายน้ำเป็นเวลา กปภ.สาขาแม่สาย จึงขอให้ผู้ใช้น้ำเตรียมการสำรองน้ำไว้ใช้ในเวลาที่น้ำไม่ไหล ทั้งนี้กปภ.สาขาแม่สาย โดยการสนับสนุนของ บริษัท วิค วอเตอร์ จำกัด นำเครื่องผลิตน้ำสะอาดขนาด 3,000 ลิตร/ชั่วโมง หรือ 60,000 ลิตร/วัน เพื่อนำมาผลิตน้ำสะอาดเพื่อการอุปโภค – บริโภค จากน้ำผิวดินที่มีอยู่ สามารถมารับบริการได้ที่ตำบลเวียงพางคำ (เลยสี่แยกไฟแดงสถานีขนส่งแม่สาย ได้ทุกวัน บริการถึงเวลา 17.00 น.)/ กฟภ.สาขาแม่สาย ดำเนินการจ่ายไฟได้เกือบทั่วพื้นที่ ยกเว้นบางส่วนของบริเวณชุมชนไม้ลุงขน ชุมชนเกาะทราย ตลาดลายลมจอย และบ้านหัวฝาย โดยมีประกาศหยุดจ่ายไฟในวันที่ 21 ก.ย. 67 เพื่อปรับปรุงระบบจำหน่ายไฟฟ้าแรงสูง
 
อ.ดอยหลวง จำนวน 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน ต.หนองป่าก่อ หมู่ที่ 8 น้ำกัดเซาะถนนชำรุด ไม่สามารถสัญจรได้ อยู่ระหว่างซ่อมแซม/ 16 ก.ย.67 บ้านที่อยู่ติดถนนถูกน้ำพัดพาได้รับความเสียหาย
 
อ.เทิง จำนวน 3 ตำบล 4 หมู่บ้าน (สถานการณ์คลี่คลาย อยู่ระหว่างการซ่อมแซม) ต.งิ้ว ม.7,18 น้ำล้นออกจากอ่างเก็บน้ำขอนซุง เข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่เกษตร ต.ปล้อง ม.2 น้ำหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่เกษตร ต.ตับเต่า ม.8 เสาค้ำสะพานสะพานเบลีย์ชำรุด/ เวลาประมาณ 14.00 น. หมวดทางหลวงเทิง แขวงทางหลวงเชียงรายที่ 2 และศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่ 1 (พิจิตร) เข้ามาดำเนินการซ่อมแซม หากไม่มีมีฝนตกคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 2 วัน (วันที่ 16 ก.ย. 67)/ วันที่ 16 ก.ย. 67 ยังคงดำเนินการอยู่ ใกล้แล้วเสร็จ
 
อ.เวียงแก่น จำนวน 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน ต.ปอ ม.2 น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างสำรวจความเสียหาย
 
การให้ความช่วยเหลือ
– จังหวัดเชียงราย ได้จัดตั้งกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ปี พ.ศ. 2567 เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ในการซ่อมแซมที่อยู่อาศัย และจัดหาปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นในการดำรงชีพ ผ่านทางธนาคาร กรุงไทย สาขาเชียงราย เลขที่บัญชี 504-3-23-732-5 ชื่อบัญชี กองทุนช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ปี พ.ศ. 2567 โดยสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ 1 เท่า ยอดเงินบริจาค ณ วันที่ 18 ก.ย. 67 เวลา 16.00 น. จำนวน 6,266,907.98 บาท
 
– กองทัพเรือสนับสนุนเรือและยุทโธปกรณ์ เครื่องมือเร่งดำเนินการติดตั้งเคลื่อนย้ายเรือผลักดันน้ำ JET จำนวน 10 ลำ ยกจากเครนวางตามแนวลำน้ำอิง ประสิทธิภาพการไหลได้ วันละ 1 ล้านลูกบาก์เมตร เริ่มดันน้ำได้วันที่11 ก.ย. 67 เวลา 15.00 น. ณ สะพานข้ามแม่น้ำอิง อ.เทิง จ.เชียงราย
 
– สภากาชาดไทย สนับสนุนครัวสนามเคลื่อนที่ 1 คัน จุดตั้งโรงครัว ณ วัดพระสิงห์ ถ.ท่าหลวง ต.เวียง อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ประกอบเลี้ยงตั้งแต่วันที่ 12 ก.ย. 67 จะประกอบเลี้ยงถึงวันพุธที่ 18 ก.ย. 67 (มื้อกลางวัน)
 
– มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ตั้งครัวพระราชทานช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และ อบจ.เชียงราย สนับสนุนรถครัวประกอบเลี้ยงอาหาร ณ จุดเดียวกัน บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 (ตะเคียนคู่) ต.สันทราย อ.เมืองเชียงราย ตั้งแต่วันที่ 13 ก.ย. 67 และสนับสนุนถุงยังชีพพระราชทาน จำนวน 3,500 ถุง ถุงยังชีพสำหรับพระภิกษุสงฆ์ 105 ถุง จะประกอบเลี้ยงถึงวันพุธที่ 18 ก.ย. 67 (มื้อกลางวัน)/ วันที่ 19 ก.ย. 67 ดำเนินโครงการ “ฟื้นฟุชุมชน บรรเทาทุกข์ บำรุงสุขให้ยั่งยืน ” โดยมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ณ ที่ว่าการอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยมีบริการสุขภาพกาย สุขภาพจิต จ่ายยาพื้นฐานเบื้องต้น, ให้คำปรึกษาเอกสิทธิ์ของกลุ่มเปราะบาง, Fix it จิตอาสา ซ่อมแซมรถจักรยานยนต์ เครื่องจักรกลการเกษตร เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, แจกจ่ายอุปกรณ์ทำความสะอาด และประกอบอาหาร โรงครัวพระราชทาน
 
– กองทัพเรือ/หน่วยซีล สนับสนุน เรือ 9 ลำ รถบรรทุก 4 คัน ถุงยังชีพ 1,000 ชุด (ของ 918 150 ชุด) กำลังพล 50 นาย
– ฮ.ปภ.32 สนับสนุนภารกิจขนย้ายผู้ประสบภัย ลำเลียงถุงยังชีพและอาหารแห้งส่งมอบให้แก่ผู้ประสบภัย ในพื้นที่ตำบลแม่ยาว อำเภอเมืองเชียงราย จำนวน 2 เที่ยว ถุงยังชีพรวมทั้งสิ้น 150 ชุด จุดจอดสนามกีฬากลางโรงเรียนผาขวางวิทยา ต.แม่ยาว (แจกจ่ายในพื้นที่บ้านพนาสวรรค์ หมู่ที่ 13 และบ้านบริวาร (200 ถุง)/ บ้านออบเสือแหวน หมู่ที่ 15 และบ้านบริวาร (27 ถุง)/ บ้านผาสุข หมู่ที่ 20 และบ้านบริวาร (43 ถุง))
 
– ฮ.กรมฝนหลวงและการบินเกษตร/ฮ.ทอ./ ฮ.ตชด. 327/ ฮ.ทส. เตรียมความพร้อมรอคำสั่ง/ไม่มีภารกิจบิน
– ศูนย์ ปภ.เขต 15 เชียงราย /เขต 1 ปทุมธานี/ เขต 2 สุพรรณบุรี /เขต 3 ปราจีนบุรี/ เขต 4 ประจวบคีรีขันธ์/ เขต 8 กำแพงเพชร /เขต 9 พิษณุโลก /เขต 11 สุราษฎร์ธานี และเขต 16 ชัยนาท สนับสนุนเครื่องจักรกลสาธารณภัยด้านปฏิบัติการ (อุทกภัย) และกำลังพล
 
วันที่ 16 ก.ย. 67 สนับสนุนภารกิจ Big Cleaning Day ในเขตเทศบาลนครเชียงราย / สนับสนุนรถบรรทุกน้ำอเนกประสงค์ขนาด 12,000 ลิตรรับน้ำแจกจ่ายน้ำสะอาดให้แก่โรงพยาบาลและพื้นที่ชุมชนในเขตอำเภอเมืองเชียงราย อำเภอแม่สาย อำเภอเชียงแสน และอำเภอเวียงชัย/ ภารกิจวาง Big Bag จุดแนวกระสอบทรายชำรุดบริเวณจุดสะพานมิตรภาพแห่งที่ 1 ไทย – เมียนมา
 
ศูนย์พักพิง ที่ยังเปิดศูนย์ฯ ให้บริการที่พักพิงชั่วคราวอยู่ ณ วันที่ 18 ก.ย. 67 รวมทั้งสิ้น 13 แห่ง
แบ่งตามขอบเขตการปกครอง ได้แก่ อ.เมืองเชียงราย 4 แห่ง/ อ.แม่สาย 8 แห่ง/ อ.เวียงชัย 1 แห่ง
ศูนย์พักพิงฯ ที่มีทีมแพทย์และสาธารณสุขให้บริการด้านการแพทย์ เยียวยาจิตใจ แจกจ่ายยาและเวชภัณฑ์ จำนวน 7 แห่ง
ศูนย์พักพิงฯ ในความดูแลของกระทรวง พม. จำนวน 1 แห่ง (ได้แก่ ศูนย์พักพิงบ้านเอื้ออาทรแม่สาย 1 คงค้างพักพิงอยู่ จำนวน 17 คน)
 
รายละเอียดดังนี้
อำเภอเมืองเชียงราย ที่ยังเปิดศูนย์ฯ ให้บริการที่พักพิงชั่วคราว จำนวน 4 แห่ง
ในเขตเทศบาลนครเชียงราย ทน.เชียงราย จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ที่ยังเปิดศูนย์ฯ ให้บริการที่พักพิงชั่วคราวอยู่ ณ ปัจจุบัน จำนวน 2 แห่ง ได้แก่
จุดโรงเรียนเทศบาล 8 บ้านใหม่* มีทีมแพทย์และสาธารณสุขให้บริการด้านการแพทย์ เยียวยาจิตใจ แจกจ่ายยาและเวชภัณฑ์
 
จุดโรงเรียน อบจ. เชียงราย* มีทีมแพทย์และสาธารณสุขให้บริการด้านการแพทย์ เยียวยาจิตใจ แจกจ่ายยาและเวชภัณฑ์
ศูนย์พักพิงชั่วคราว ช่วยเหลือผู้ประสบภัย มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย/ คงค้างจำนวน
18 ครอบครัว 50 คน ปิดศูนย์พักพิงฯ แล้ว ในวันที่ 18 ก.ย. 67
 
ตำบลแม่ยาว ณ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลแม่ยาว กำกับดูแลโดย ทต.แม่ยาว
ตำบลดอยฮาง วันที่ 16 ก.ย. 67 เวลา 17.00 น. จัดตั้งศูนย์พักพิง ณ บ้านโป่งนาคำ มีผู้พักพิงประมาณ 50 คน มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้นำเต็นท์นอนพระราชทาน ขนาด 2 คน จำนวน 50 หลัง มอบให้แก่ราษฎรผู้ประสบอุทกภัยฯ (**เปิดใหม่**)
 
อำเภอแม่สาย ที่ยังเปิดศูนย์ฯ ให้บริการที่พักพิงชั่วคราวอยู่ ณ ปัจจุบัน 8 แห่ง รวมทั้งสิ้น 994 คน (โดยเป็นศูนย์พักพิงฯ ที่มีทีมแพทย์และสาธารณสุขให้บริการ จำนวน 5 แห่ง, ศูนย์พักพิงในความดูแลของกระทรวง พม. 1 แห่ง )
 
ศูนย์พักพิงเทศบาลตำบลแม่สาย* คงค้างจำนวน 51 ราย (ทีมแพทย์และสาธารณสุขให้บริการด้านการแพทย์ในการดูแล ได้แก่ รพ.สต.เชียงแสน/ รพ.สต.ฮ่องแฮ่/ รพ.สต.บ้านด้าย)
 
ศูนย์พักพิงวัดพรหมวิหาร* คงค้างจำนวน 327 ราย (ทีมแพทย์และสาธารณสุขให้บริการด้านการแพทย์ในการดูแล ได้แก่ รพ.แม่สาย, ทีม MCATT, รพ.ดอยหลวง, รพ.ค่ายเม็งรายมหาราช)
 
ศูนย์พักพิงวัดเหมืองแดง* คงค้างจำนวน 162 ราย (ทีมแพทย์และสาธารณสุขให้บริการด้านการแพทย์ในการดูแล ได้แก่ รพ.พญาเม็งราย, ทีม MCATT จาก รพ.สวนปรุง, รพ.สต.แม่สาย)
ศูนย์พักพิง รพ.สต.เกาะช้าง* คงค้างจำนวน 56 ราย (ทีมแพทย์และสาธารณสุขให้บริการ
ด้านการแพทย์ในการดูแล ได้แก่ รพ.สต.เกาะช้าง)
 
ศูนย์พักพิงวัดมงคลธรรมกายาราม* คงค้างจำนวน 24 ราย (ทีมแพทย์และสาธารณสุขให้บริการด้านการแพทย์ในการดูแล ได้แก่ รพ.สต.โป่งงาม และ รพ.สต.บ้านถ้ำ)
ศูนย์พักพิงโบสถ์คริสต์ คงค้างจำนวน 37 คน
ศูนย์พักพิงวัดถ้ำผาจม คงค้างจำนวน 320 คน
 
ศูนย์พักพิงบ้านเอื้ออาทรแม่สาย 1 คงค้างจำนวน 17 คน (ในความดูแลของกระทรวง พม.)
อำเภอเวียงชัย ที่ยังเปิดศูนย์ฯ ให้บริการที่พักพิงชั่วคราวอยู่ ณ ปัจจุบัน จำนวน 1 แห่ง ศูนย์ศุภนิมิตรเพื่อการพัฒนา ต.เวียงเหนือ อ.เวียงชัย ปรับสภาพเป็นศูนย์พักคอยเนื่องจากประชาชนเริ่มกลับไปทำความสะอาดบ้านเรือนและมานอนที่ศูนย์ฯ ในตอนกลางคืน
 
นพค.31 /นพค.32/นพค.34 สนับสนุนกำลังพล รถครัวสนาม และรถสุขาเคลื่อนที่
มูลนิธิสมาคมกู้ชีพกู้ภัย อาสาสมัคร จิตอาสาภาคประชาชน ร้านค้า/ผู้ประกอบการ สนับสนุนปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย ให้ที่พักพิงชั่วคราว มอบอาหารปรุงสำเร็จ และถุงยังชีพ
 
จิตอาสาราชทัณฑ์ (จอส.รท.) จัดส่งเจ้าหน้าที่และนักโทษเด็ดขาดหรือผู้ต้องกักขังที่ได้รับอนุมัติจ่ายออกทำงานสาธารณะหรือได้รับอนุญาตให้ออกทำงานนอกเรือนจำ สนับสนุนภารกิจครัวสนาม และบรรจุถุงยังชีพ ณ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 15 เชียงราย จำนวน 10 นาย
 
วิทยาลัยอาชีวศึกษาและโรงเรียนในเครือ ดำเนินโครงการศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน Fix It Center ตั้งจุดบริการและจัดชุดเคลื่อนที่ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยจะช่วยซ่อมแซมอุปกรณ์ไฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ รวมถึงยานพาหนะที่เสียหาย เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 14 ก.ย. เป็นต้นมา /วันที่ 17 ก.ย. 67
 
รมว.ศึกษาธิการ เน้นย้ำให้ดูแลโรงเรียนก่อนเป็นลำดับแรก / สถานศึกษา สอศ. ที่ร่วมปฏิบัติงานจากทั่วประเทศ ประจำวันที่ 18 ก.ย. 67 จำนวน 43 แห่ง ปฏิบัติงานในพื้นที่ประสบอุทกภัย จ.เชียงราย 18 แห่ง
วันที่ 17 ก.ย. 67 ทภ.3 จัดตั้ง ศบภ.ทภ.3 ส่วนหน้า ณ ที่ว่าการอำเภอแม่สาย เพื่ออำนวยการประสานงานการให้ความช่วยเหลือประชาชนของหน่วยทหารทุกหน่วย ในพื้นที่ อ.แม่สาย
 
อบจ.เชียงราย ดำเนินการดังนี้ เปิดศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย อบจ. เชียงราย ณ อาคารคชสาร (สนามกีฬากลาง อบจ.เชียงราย) ระหว่างวันที่ 18 – 22 กันยายน 2567 เวลา 08.00 – 16.00 น. โดยเป็นจุดให้บริการ ดังนี้ จุดรับน้ำดื่ม จุดโรงครัว (มื้อเช้า กลางวัน เย็น) จุดรับและมอบของบริจาค จุดปฐมพยาบาล (ทำแผล ฉีดบาดทะยัก คอตีบ และจ่ายยาสามัญ/เวชภัณฑ์)
 
ให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วม ด้านดำรงชีพ ดังนี้ ค่าใช้จ่ายด้านดำรงชีพ ได้แก่ ค่าเครื่องนุ่งห่ม รายละไม่เกิน 1,100 บาท ค่าเครื่องมือประกอบอาชีพ เท่าที่จ่ายจริง ครอบครัวละไม่เกิน 11,400 บาท ค่าเครื่องครัวและอุปกรณ์ในการประกอบอาหาร เท่าที่จ่ายจริง ครอบครัวละไม่เกิน 3,500 บาท ค่าเครื่องนอน รายละไม่เกิน 1,000 บาท
หลักฐานที่ต้องเตรียม ได้แก่ สำเนาทะเบียนบ้านและบัตรประชาชนของเจ้าของบ้านที่ประสบภัย รูปภาพความเสียหาย
การขอรับความช่วยเหลือ ผ่าน อบต. หรือ ทต. ที่ประสบภัย ในวันและเวลาราชการ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบจ.เชียงราย ฝ่ายสงเคราะห์ผู้ประสบภัย โทร. 053175329 หรือ 053175333 ต่อ 1402 ในวันและเวลาราชการ สำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร สนับสนุนรถดูดโคลน จำนวน 2 คัน พร้อมบุคลากรผู้เชี่ยวชาญในการปฏิบัติงานฯ
 
กรมโยธาธิการและผังเมือง สนับสนุนบุคลากร สำรวจ/วางแผน บริหารจัดการให้เป็นไปตามระบบหลักเพื่อบรรเทาน้ำท่วมชุมชนเมือง
 
วันที่ 18 – 19 ก.ย. 67 นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์และตรวจเยี่ยมประชาชนผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่อำเภอแม่สาย และตรวจเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงราย พร้อมทั้ง ร่วมกิจกรรม Big Cleaning Day ณ ชุมชนกกโท้ง ชุมชนบ้านไร่ และชุมชนวังดิน
วันที่ 18 ก.ย. 67 เวลา 10.00 น. นายปริญญา วงษ์เชิดขวัญ วุฒิสภาด้านการศึกษา ตรวจเยี่ยมศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยและดินถล่ม จังหวัดเชียงราย ณ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 15 เชียงราย พร้อมติดตามสถานการณ์และการให้ความช่วยเหลือ พร้อมทั้งได้ตั้งจุดบริการประชาชน โดยได้รับการสนับสนุนบุคลากรจากโรงเรียนเอกชน จำนวน 2 จุด บริการตัดผม อาหารปรุงสุก และแจกจ่ายสิ่งของจำเป็นสำหรับผู้ประสบภัย จุดที่ 1 บริเวณบ้านน้ำลัด อ.เมืองเชียงราย จุดที่ 2 ใกล้ด่านพรมแดนแม่สาย อ.แม่สาย
 
การอำนวยการ/สั่งการ ประจำวันที่ 18 ก.ย. 2567
จังหวัดเชียงราย กำหนด Big Cleaning Day ในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงราย ดังนี้ วันอาทิตย์ที่ 15 ก.ย. 2567 Kick Off ณ บริเวณศาลากลางจังหวัดเชียงราย (จุดที่ 1) และบริเวณอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช (จุดที่ 2) ระหว่างวันที่ 16 – 18 ก.ย. 67 กำหนดแผนปฏิบัติการทำความสะอาดพื้นที่เมืองเชียงราย โดยกำหนดโซนดำเนินการเป็น 4 โซน ดังนี้
โซนที่ 1 ได้แก่ ชุมชนร่องเสือเต้น ชุมชนบ้านใหม่ หากแล้วเสร็จดำเนินการต่อในพื้นที่ชุมชนสันตาลเหลือง ชุมชนสันต้นเปา และชุมชนป่าตึงริมกก
 
โซนที่ 2 ได้แก่ ชุมชนป่าแดง ชุมชนฝั่งหมิ่น หากแล้วเสร็จดำเนินการต่อในพื้นที่ชุมชนรั้วเหล็กใต้, ชุมชนรั้วเหล็กเหนือ ชุมชนกกโท้งใต้ และชุมชนกองยาว
 
โซนที่ 3 ได้แก่ ชุมชนน้ำลัด หากแล้วเสร็จดำเนินการต่อในพื้นที่ชุมชนเกาะลอย ชุมชนป่างิ้ว ชุมชนเทิดพระเกียรติ ชุมชนราชเดชดารง ชุมชนทวีรัตน์ ชุมชนบ้านไร่ ชุมชนฮ่องลี่ และชุมชนดอยทอง
 
โซนที่ 4 ได้แก่ ชุมชนแควหวาย ชุมชนมุสลิมกกโท้ง หากแล้วเสร็จดำเนินการต่อในพื้นที่ชุมชนบ้านไร่ ชุมชนเกาะทอง ชุมชนริมน้ำกก ชุมชน ชุมชนวังดิน และชุมชนร่องปลาค้าว)
 
แผนปฏิบัติการลำเลียงน้ำและอาหาร (อาหารแห้ง) สำหรับพื้นที่ถูกตัดขาดเส้นทางโดยสิ้นเชิง อยู่ระหว่างเปิดใช้เส้นทางและดำเนินการเรียบร้อยแล้วเป็นบางจุด ให้ใช้การสัญจรทางบกในการลำเลียงเป็นหลัก/ สำหรับพื้นที่อำเภอแม่ฟ้าหลวง หากมีการร้องขอเรื่องน้ำและอาหารเร่งด่วนฉุกเฉิน จำเป็นต้องใช้อากาศยาน มอบให้ ตชด.327
 
รับประสานการปฏิบัติ ทั้งนี้ สายทางที่ได้รับความเสียหาย ให้หน่วยงานเจ้าของสายทางและหน่วยงานสนับสนุนดำเนินการเร่งรัดเปิดใช้เส้นทางโดยเร็วที่สุด
 
การปฏิบัติการทางอากาศ ให้ใช้กรณีฉุกเฉินเร่งด่วน เช่น การลำเลียงผู้ป่วยวิกฤติ สำหรับการขนส่งน้ำและอาหารพิจารณาเป็นรายกรณี เนื่องจากเปิดใช้เส้นทางลำเลียงทางบกได้แล้ว ซึ่งบรรทุกได้เป็นจำนวนมากและประชาชนเข้าถึงการแจกจ่ายได้ง่ายกว่าการใช้อากาศยาน
 
ในระยะนี้เป็นช่วงฟื้นฟูบูรณะ และ Big Cleaning Day ให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม มอบหมาย สนง.ปภ.จ.เชียงราย จัดสรรสิ่งของและอุปกรณ์ทำความสะอาดที่ได้รับบริจาคกระจายลงไปทั่วทุกจุด อปท.ที่ไม่ได้ประสบสาธารณภัยรวมทั้งหน่วยงานที่มีรถน้ำให้สนับสนุนภารกิจจนกว่าจะแล้วเสร็จ
 
ให้หน่วยบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุข จัดชุดปฏิบัติการ “เคาะประตูบ้าน” เพื่อติดตามสถานการณ์โรคที่อาจมากับน้ำท่วม และเยียวยาจิตใจผู้ประสบภัย พร้อมทั้งให้จัดสรรยารักษาน้ำกัดเท้า ยากันยุง ยาแก้คัน และยารักษาโรคผิวหนัง เพิ่มเติมจากยาและเวชภัณฑ์เดิมที่เคยแจกจ่าย เนื่องจากประชาชนมีความต้องการเป็นอย่างมาก ให้ตำรวจสอดส่องและรักษาความปลอดภัยให้กับบ้านและทรัพย์สินของประชาชน เพื่อป้องกันโจรลักขโมย ให้ความสำคัญในการเร่งรัดดำเนินการให้ความช่วยเหลือด้านดำรงชีพของประชาชนเป็นอันดับแรก
 
(ที่อยู่อาศัย การดำรงชีวิต ผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต) ด้านเกษตรให้เร่งรัดการสำรวจความเสียหาย และจัดประชุม ก.ช.ภ.อ. และ ก.ช.ภ.จ. ต่อไป ให้เทศบาลนครเชียงราย จัดหายาเวชภัณฑ์ยากันยุง/ยาทาแก้น้ำกัดเท้า นำไปแจกจ่ายผู้ประสบภัย ให้สถาบันอาชีวะ ขอชมรมช่างฯ เปิดซ่อมสร้าง 5 จุด ได้แก่ สนง.ขนส่ง/ร.ร.เทศบาล 7/ร.ร.เทศบาล 8/ ฮ่องลี่/เกาะทอง ให้สำนักงาน ปภ.จ.เชียงราย จัดหาถุงมือสำหรับผู้ปฏิบัติงาน/ถุงมือแพทย์ และสนับสนุนน้ำมันสำหรับเครื่องจักรกลที่นำมาปฏิบัติงาน
 
แนวโน้มสถานการณ์ สถานการณ์อยู่ในระดับคลี่คลาย-เฝ้าระวัง ไม่มีฝนตก ระดับน้ำสาย/น้ำกกลดลง/น้ำโขง แนวโน้มลดลง
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

“ท่าน ว.วชิรเมธี” มอบถุงยังชีพ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ต.แม่ยาว

 

เมื่อวันพุธที่ 18 กันยายน 2567 เวลา 15.00 น. นายอภิรักษ์ อินต๊ะวัง นายกเทศมนตรีตำบลแม่ยาว พร้อมทีมงาน ได้เดินทางนำถุงยังชีพ ข้าวสาร อาหารแห้ง และเงินขวัญถุงจำนวน 500 บาทจากพระเมธีวชิโรดม (ว.วชิรเมธี) มอบให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยน้ำท่วมในหลายหมู่บ้าน เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้านที่ประสบภัย ณ จุดแจกจ่ายที่โรงเรียนบ้านรวมมิตร โดยมีบ้านกะเหรี่ยงรวมมิตร บ้านแคววัวดำ บ้านผามูบ บ้านออบเสือแหวน บ้านอาเกอะ 1 บ้านอาเกอะ 2 บ้านสามเส้า บ้านอาดี่ บ้านหมอผี บ้านป่าแล บ้านจะสอป่า บ้านลอบือ บ้านห้วยสักกอง บ้านห้วยลุหลวง บ้านพนาสวรรค์ และบ้านใหม่พัฒนา เป็นพื้นที่ได้รับแจกจ่ายในครั้งนี้

นอกจากนี้ยังมีจุดแจกจ่ายถุงยังชีพอีกแห่งที่เทศบาลตำบลแม่ยาว ประกอบด้วย บ้านห้วยทรายขาว บ้านป่าอ้อใหม่ บ้านเกาะ บ้านป่าอ้อ และบ้านริมกก รวมทั้งหมด 1,500 ชุด ถุงยังชีพเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญในการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างหนัก ซึ่งส่งผลให้บ้านเรือนและทรัพย์สินเสียหายเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เป็นที่ลุ่มและติดแม่น้ำ การแจกจ่ายถุงยังชีพช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและมอบกำลังใจให้แก่ประชาชนในยามที่ต้องเผชิญกับภัยธรรมชาติ

นายอภิรักษ์ อินต๊ะวัง นายกเทศมนตรีตำบลแม่ยาว กล่าวถึงความสำคัญของการร่วมมือกันในช่วงเวลาวิกฤต พร้อมทั้งขอบคุณพระเมธีวชิโรดมที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนและช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัย ทั้งนี้ การช่วยเหลือในรูปแบบของถุงยังชีพ และเงินขวัญถุงช่วยให้ผู้ประสบภัยมีทรัพยากรเพียงพอในการฟื้นฟูชีวิตความเป็นอยู่ในเบื้องต้น

นอกจากนี้ ทีมงานของเทศบาลตำบลแม่ยาวยังได้ประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อเร่งดำเนินการทำความสะอาดพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมและให้การสนับสนุนเพิ่มเติมในด้านความปลอดภัยและสุขอนามัย การช่วยเหลือในครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่ยังเป็นการสร้างความสามัคคีในชุมชนและเตรียมพร้อมฟื้นฟูชีวิตความเป็นอยู่ในระยะยาว

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : เทศบาลตำบลแม่ยาว

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News