Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

สวนตุงและโคมฯ เชียงรายจัดเต็ม! มหัศจรรย์ Lanna Winter Wonderland

สวนตุงและโคมฯ เนรมิตเทศกาล “Lanna Winter Wonderland” ดึงดูดนักท่องเที่ยว

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 เวลา 18.00 น. ณ สวนตุงและโคมเฉลิมพระเกียรติ 75 พรรษา อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ได้มีการเปิดงาน “Lanna Winter Wonderland” อย่างเป็นทางการ โดยมีการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จังหวัดเชียงราย เทศบาลนครเชียงราย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวช่วงฤดูหนาวในโครงการ “Thailand Winter Festivals 2024”

นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ได้มอบหมายให้คณะผู้แทนจากสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย นำโดยนางพรทิวา ขันธมาลา ผู้อำนวยการกลุ่มยุทธศาสตร์และเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม พร้อมด้วยข้าราชการกลุ่มกิจการพิเศษ เข้าร่วมงานดังกล่าว โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายชรินทร์ ทองสุข เป็นประธานในพิธีเปิดงาน พร้อมด้วย นางจิระวดี คุณทรัพย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว (ททท.) และ นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย ที่ร่วมทำสัญลักษณ์ Gimmick เปิดตัวงานอย่างเป็นทางการ

วัตถุประสงค์และเป้าหมายของงาน

เทศกาล Lanna Winter Wonderland จัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 – 30 พฤศจิกายน 2567 เพื่อตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการท่องเที่ยว โดยมุ่งเน้นการสร้างบรรยากาศดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ช่วยขยายระยะเวลาการพักค้าง เพิ่มการใช้จ่าย และส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยบนเวทีโลก

งานนี้ยังมีเป้าหมายเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจในพื้นที่ โดยเฉพาะการช่วยเหลือผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในจังหวัดเชียงราย ซึ่งถือเป็นการสร้างโอกาสใหม่ให้กับเศรษฐกิจในพื้นที่

บรรยากาศงานเต็มไปด้วยความสุขและความสนุกสนาน

ภายในงาน “Lanna Winter Wonderland” เต็มไปด้วยกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย อาทิ การประดับตกแต่งไฟสวยงามตระการตา สร้างบรรยากาศโรแมนติกเหมาะแก่การถ่ายภาพ การแสดงทางดนตรีจากศิลปินชื่อดัง การแสดงวัฒนธรรมพื้นเมืองที่งดงาม และกิจกรรมเวิร์คช็อปที่น่าสนใจ นอกจากนี้ ยังมีร้านค้าจำหน่ายอาหารและสินค้าพื้นเมือง รวมถึงสินค้าหัตถกรรมที่ผลิตโดยชุมชน ให้ผู้เข้าร่วมงานได้เลือกซื้อเป็นของฝากอีกด้วย

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายกล่าวเปิดงาน

นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า งาน “Lanna Winter Wonderland” จัดขึ้นเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงราย และกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และเหตุการณ์อุทกภัยที่ผ่านมา โดยเชื่อมั่นว่างานในครั้งนี้จะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้เดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงรายมากขึ้น

ททท. หนุนเสริมการท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาว

นางจิระวดี คุณทรัพย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว (ททท.) กล่าวว่า การจัดงาน “Lanna Winter Wonderland” เป็นหนึ่งในกิจกรรมภายใต้โครงการ Thailand Winter Festivals 2024 ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาวของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ททท. เชื่อมั่นว่างานในครั้งนี้จะสามารถสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการในธุรกิจท่องเที่ยว และช่วยกระตุ้นเศรฐกิจของประเทศได้เป็นอย่างดี

กิจกรรมและไฮไลต์ในงาน

ภายในงานมีการตกแต่งสวนตุงและโคมฯ ให้เต็มไปด้วยแสงสีเสียงสุดอลังการ พร้อมกิจกรรมหลากหลายที่ตอบโจทย์ทุกกลุ่มนักท่องเที่ยว ได้แก่

  • การแสดง Art Installation & Lighting: การตกแต่งไฟประดับสุดตระการตา
  • การแสดงดนตรี: การแสดงจากศิลปินชื่อดังที่จะมาสร้างความบันเทิง
  • กิจกรรม Workshop: เปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมได้เรียนรู้และทดลองทำกิจกรรมที่สะท้อนวัฒนธรรมล้านนา
  • การออกร้านสินค้าและอาหาร: รวมสินค้าชุมชน ร้านอาหารท้องถิ่น และสินค้าจากผู้ประกอบการในพื้นที่
  • การแสดงวัฒนธรรม: การแสดงศิลปวัฒนธรรมล้านนาที่สะท้อนเอกลักษณ์ของชาวเชียงราย

ผู้เข้าร่วมงานและความร่วมมือ

งานนี้ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชนหลายฝ่าย โดยมีตัวแทนสำคัญเข้าร่วม เช่น

  • นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์: รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย
  • นายเสริฐ ไชยยานันตา: ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย
  • นายวิสูตร บัวชุม: ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานเชียงราย
  • อาจารย์สุวิทย์ ใจป้อม: นายกสมาคมขัวศิลปะเชียงราย
    นอกจากนี้ ยังมีเครือข่ายผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว ร้านค้า และร้านอาหารในจังหวัดเชียงรายมาร่วมสนับสนุนงาน

การกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมภาพลักษณ์

เทศกาลนี้ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ช่วยเพิ่มการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจในพื้นที่เชียงราย โดยเน้นการส่งเสริมเอกลักษณ์ล้านนาและความสวยงามของฤดูหนาวผ่านกิจกรรมสร้างสรรค์ที่หลากหลาย ทั้งนี้ยังเป็นการช่วยให้เชียงรายก้าวขึ้นเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลกที่นักท่องเที่ยวต้องมาเยือน

นักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมงานได้ตั้งแต่วันที่ 22 – 30 พฤศจิกายน 2567 ณ สวนตุงและโคมเฉลิมพระเกียรติ 75 พรรษา อำเภอเมืองเชียงราย

สัมผัสความงดงามและสร้างความประทับใจในเทศกาล Lanna Winter Wonderland ได้แล้ววันนี้!

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

เชียงรายจัดสัมมนายกระดับเส้นทางการท่องเที่ยว สู่การเป็นจุดหมายระดับโลก

เชียงรายเปิดเวทีสัมมนายกระดับเส้นทางการท่องเที่ยว เสริมศักยภาพเมืองต้อนรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 เทศบาลนครเชียงราย นำโดยนายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย พร้อมด้วยคณะผู้บริหารเทศบาล จัดงานสัมมนาวิชาการเพื่อยกระดับเส้นทางการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย ณ โรงแรมเลอ เมอริเดียน เชียงราย รีสอร์ท โดยมีนายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิดงาน พร้อมตัวแทนจากภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง

ความพร้อมของเทศบาลนครเชียงราย

นายวันชัย จงสุทธานามณี กล่าวในหัวข้อ “ความพร้อมของเทศบาลนครเชียงรายในการรองรับการท่องเที่ยว” ว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เทศบาลได้มุ่งพัฒนาการท่องเที่ยวของจังหวัดอย่างต่อเนื่อง พร้อมจัดกิจกรรมที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งให้เชียงรายกลายเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญสำหรับทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

ความร่วมมือในมิติด้านศิลปะ

อาจารย์ทรงเดช ทิพย์ทอง ศิลปินเชียงราย กล่าวถึงความสำคัญของศิลปะในฐานะเครื่องมือในการส่งเสริมการท่องเที่ยว พร้อมชื่นชมเทศบาลนครเชียงรายที่ให้การสนับสนุนศิลปินอย่างเต็มที่ โดยอนาคตอาจได้เห็นโครงการสร้างสรรค์ประติมากรรมขนาดใหญ่กว่า 300 ชิ้นในเมืองเชียงราย ซึ่งจะเป็นแลนด์มาร์กสำคัญและอาจเป็นแห่งแรกในโลก

ความพร้อมของท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง

นาวาอากาศตรี ดร.สมชนก เทียมเทียบรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย กล่าวว่า ท่าอากาศยานพร้อมรองรับนักท่องเที่ยว โดยปี 2019 มีผู้เดินทางผ่านสนามบินมากถึง 2.9 ล้านคน แม้ในปี 2023 จะลดลงเหลือ 1.9 ล้านคน แต่ยังคงเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในการต้อนรับนักท่องเที่ยว โดยมีสายการบินให้บริการทั้งหมด 6 สาย และยังมีแผนสนับสนุนให้เชียงรายกลายเป็นศูนย์ซ่อมอากาศยานในอนาคต

แผนการท่องเที่ยวทั้ง 12 เดือน

นายสมชาย ชมภูมิน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ททท. ได้จัดเตรียมแผนการท่องเที่ยวตลอด 12 เดือนสำหรับภาคเหนือ โดยเฉพาะเชียงราย ซึ่งครอบคลุมทั้งการจัดโปรแกรมการท่องเที่ยว โปรโมชั่นพิเศษ และการประชาสัมพันธ์สถานที่ต่างๆ ที่เหมาะสมกับทุกฤดูกาล

ความร่วมมือของทุกภาคส่วน

นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวชื่นชมความร่วมมือของทุกฝ่ายในการจัดสัมมนาครั้งนี้ พร้อมเน้นย้ำว่าเชียงรายเป็นพื้นที่ที่มีความปลอดภัยและเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่สามารถสัมผัสบรรยากาศหนาวเย็นและความงดงามทางธรรมชาติที่หลากหลาย

การบูรณาการเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยว

นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวถึงความสำคัญของการบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการพัฒนาเมืองเชียงรายให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบ เพื่อสร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาสัมผัสประสบการณ์ในจังหวัดเชียงราย

เชียงรายพร้อมแล้วที่จะเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยงานสัมมนาครั้งนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการเสริมสร้างศักยภาพและการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อสร้างอนาคตที่สดใสในวงการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงรายต่อไป

วัตถุประสงค์การจัดกิจกรรมการสัมมนาฯ 
มีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมกันปรึกษาหารือแนวทางในการกระตุ้นเศรษฐกิจส่งเสริมการท่องเที่ยว การค้า การลงทุนของประเทศและจังหวัดเชียงราย เตรียมความพร้อมของเมือง ของผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว ธุรกิจสายการบิน และการมีส่วนร่วมของท้องถิ่น ภาคีเครือข่ายการท่องเที่ยว ในการยกระดับเส้นทางท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย หลังจากได้ประสบสาธารณภัย (อุทกภัย) ระหว่างวันที่ 11 – 18 กันยายน 2567 ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ทรัพย์สินบ้านเรือนเสียหาย ซึ่งในปัจจุบันได้กลับคืนสู่สภาวะเกือบเป็นปกติแล้ว และอยู่ระหว่างการฟื้นฟูสภาพพื้นและเศรษฐกิจหลังเกิดอุทกภัย โดยการผนึกกำลังความร่วมมือของทุกภาคส่วน ผสมผสานทั้งการท่องเที่ยว กีฬา ผลิตภัณฑ์ชุมชน วิถีวัฒนธรรมท้องถิ่น เพื่อเตรียมพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

อบจ.เชียงรายมอบทุนช่วยเยาวชน สร้างโอกาสการศึกษาอย่างยั่งยืน

อบจ.เชียงราย มอบทุนการศึกษาและเงินช่วยเหลือ สนับสนุนเยาวชนยากจนและด้อยโอกาส ปีงบประมาณ 2567

เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 เวลา 13.30 น. ณ โรงเรียนอนุบาลจอมสวรรค์ อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย (อบจ.เชียงราย) จัดพิธีมอบเงินช่วยเหลือตามโครงการทุนการศึกษาและเงินช่วยเหลือสำหรับนักศึกษาและนักเรียนที่ยากจนหรือด้อยโอกาส ในพื้นที่อำเภอเชียงแสน แม่จัน แม่ฟ้าหลวง แม่สาย และดอยหลวง

พิธีดังกล่าวมี นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย เป็นประธานกล่าวเปิดงาน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนการศึกษาให้แก่นักเรียนและนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ในจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยนายญาณาฤทธิ์ หนสมสุข รองปลัด อบจ.เชียงราย และนายฐิติวัชร ไลศิริพันธุ์ ผู้อำนวยการส่วนส่งเสริมการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม อบจ.เชียงราย

ส่งเสริมการศึกษาตามนโยบายกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น

อบจ.เชียงราย ดำเนินงานโครงการดังกล่าวภายใต้นโยบายของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ และระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยรายจ่ายเกี่ยวกับทุนการศึกษาสำหรับนักศึกษาและการให้ความช่วยเหลือนักเรียนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2561

งบประมาณที่จัดสรรในปีงบประมาณ 2567 นี้ มีจำนวนทั้งสิ้น 5,000,000 บาท โดยมุ่งเน้นการสนับสนุนนักเรียนและนักศึกษาในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงรายที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ให้ได้รับการศึกษาและการช่วยเหลืออย่างเหมาะสม เพื่อเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง และสร้างโอกาสทางการศึกษาแก่เยาวชน

รายละเอียดการมอบทุนการศึกษาและเงินช่วยเหลือ

ในพิธีครั้งนี้ มีผู้นำท้องถิ่น ผู้บริหารสถานศึกษา และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม อาทิ

  • นายโยธิน สิทธิประเสริฐ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3
  • นายบุญส่ง สุรีนันท์ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลจอมสวรรค์
  • นายอัครพล กันทะดง ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลจอมสวรรค์
  • นายกฤชฐา พลตรี ผู้อำนวยการโรงเรียนจันจว้าวิทยาคม
  • นายสมนึก ยาวิลาศ กำนันตำบลจอมสวรรค์

ผู้แทนทั้งหมดได้ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีมอบเงินช่วยเหลือและทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนและนักศึกษาจำนวนมากในพื้นที่อำเภอเชียงแสน แม่จัน แม่ฟ้าหลวง แม่สาย และดอยหลวง

อบจ.เชียงรายกับเป้าหมายเพื่อการศึกษาที่ยั่งยืน

โครงการนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ อบจ.เชียงราย ที่จะส่งเสริมการศึกษาในทุกมิติ ทั้งในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัย เพื่อสร้างความเสมอภาคทางการศึกษาและสนับสนุนให้เยาวชนได้รับโอกาสพัฒนาศักยภาพของตนอย่างเต็มที่

อบจ.เชียงราย ได้พิจารณาและคัดเลือกนักเรียนที่เหมาะสมเพื่อรับทุนการศึกษาและเงินช่วยเหลือในแต่ละพื้นที่ โดยยังมีกำหนดการมอบทุนการศึกษาและเงินช่วยเหลือในพื้นที่อำเภอต่าง ๆ ของจังหวัดเชียงรายอย่างต่อเนื่อง

สรุป

การมอบทุนการศึกษาและเงินช่วยเหลือในครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญของ อบจ.เชียงราย ในการสร้างโอกาสทางการศึกษาและช่วยเหลือเยาวชนในพื้นที่ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ซึ่งไม่เพียงช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัว แต่ยังเป็นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาจังหวัดเชียงรายในอนาคต

อบจ.เชียงรายขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมสนับสนุนโครงการนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเยาวชนทุกคนจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากโครงการนี้ พร้อมก้าวไปสู่ความสำเร็จในชีวิตการศึกษาและการทำงานในอนาคต

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

กรมปศุสัตว์เร่งฟื้นฟูสุขภาพกระบือเวียงหนองหล่ม

กรมปศุสัตว์เร่งฟื้นฟูสุขภาพกระบือเวียงหนองหล่ม สร้างความมั่นคงให้เกษตรกร

เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 ชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจของกรมปศุสัตว์ได้ลงพื้นที่ปางควายเวียงหนองหล่ม อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย เพื่อดำเนินการฟื้นฟูสุขภาพกระบือ ซึ่งเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่สำคัญของเกษตรกรในพื้นที่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรและส่งเสริมการอนุรักษ์พันธุ์กระบือไทย

นายพืชผล น้อยนาฝาย ปศุสัตว์จังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า การปฏิบัติการในครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และอธิบดีกรมปศุสัตว์ ที่มุ่งเน้นการดูแลสุขภาพสัตว์และส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์อย่างยั่งยืน โดยทีมปฏิบัติการได้ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ทั่วประเทศ อาทิ สำนักควบคุมป้องกันและบำบัดโรคสัตว์ ทีม DART ของศูนย์วิจัยและพัฒนาการสัตวแพทย์ต่างๆ สำนักงานปศุสัตว์เขต 5 และสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดเชียงราย

การปฏิบัติงานฟื้นฟูสุขภาพกระบือ

ทีมปฏิบัติการได้ดำเนินการตรวจสุขภาพกระบืออย่างละเอียด ให้วัคซีนป้องกันโรค ทำหมัน และให้ยาตามอาการ รวมถึงการทำเครื่องหมายประจำตัวสัตว์ เพื่อติดตามและบันทึกข้อมูลสุขภาพของกระบือแต่ละตัวอย่างต่อเนื่อง โดยการปฏิบัติการครั้งนี้ ครอบคลุมพื้นที่ปางป่าสักหลวง ปางห้วยน้ำราก และปางต้นยาง สามารถให้บริการฟื้นฟูสุขภาพกระบือได้ทั้งหมด 330 ตัว และทำเครื่องหมายประจำตัวสัตว์ได้ 316 ตัว

การดำเนินงาน

การดำเนินงานฟื้นฟูสุขภาพกระบือของกรมปศุสัตว์ครั้งนี้ มีผลดีต่อเกษตรกรและชุมชนในหลายด้าน ดังนี้

  • ยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร: การมีกระบือที่แข็งแรงสมบูรณ์จะช่วยเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรและสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร
  • อนุรักษ์พันธุ์กระบือไทย: การดูแลสุขภาพกระบืออย่างต่อเนื่องจะช่วยรักษาพันธุ์กระบือไทยให้คงอยู่
  • ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตร: การมีกระบือที่แข็งแรงและสวยงาม จะดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชมและสัมผัสวิถีชีวิตของชาวบ้าน
  • สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค: ผลิตภัณฑ์จากกระบือที่ได้รับการดูแลสุขภาพอย่างดี จะได้รับความเชื่อมั่นจากผู้บริโภคมากขึ้น

คำขวัญ “ครอบครัวปศุสัตว์ ทำด้วยใจ ทำให้ไว ทำได้จริง” สรุปได้ถึงความมุ่งมั่นของเจ้าหน้าที่ทุกคนในการทำงานเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและดูแลสุขภาพสัตว์

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

  1. ทำไมต้องฟื้นฟูสุขภาพกระบือ? เพราะกระบือเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่สำคัญของเกษตรกร ช่วยในการไถนาพรวนดิน และเป็นแหล่งอาหารโปรตีน การดูแลสุขภาพกระบือจึงเป็นการรักษาอาชีพของเกษตรกรและส่งเสริมการเกษตรแบบยั่งยืน
  2. หน่วยงานใดบ้างที่ร่วมในการปฏิบัติการครั้งนี้? หน่วยงานที่ร่วมในการปฏิบัติการ ได้แก่ สำนักควบคุมป้องกันและบำบัดโรคสัตว์ ทีม DART ของศูนย์วิจัยและพัฒนาการสัตวแพทย์ต่างๆ สำนักงานปศุสัตว์เขต 5 และสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดเชียงราย
  3. การทำเครื่องหมายประจำตัวสัตว์มีประโยชน์อย่างไร? การทำเครื่องหมายประจำตัวสัตว์ช่วยให้สามารถติดตามและบันทึกข้อมูลสุขภาพของกระบือแต่ละตัวได้อย่างต่อเนื่อง
  4. การฟื้นฟูสุขภาพกระบือจะส่งผลดีต่อชุมชนอย่างไร? การฟื้นฟูสุขภาพกระบือจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตร และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค
  5. ประชาชนสามารถมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์กระบือไทยได้อย่างไร? ประชาชนสามารถมีส่วนร่วมได้โดยการสนับสนุนผลิตภัณฑ์จากกระบือไทย เลือกซื้อเนื้อวัวจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และร่วมกันรณรงค์ให้คนในชุมชนตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์พันธุ์กระบือไทย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

FAM Trip เชียงราย สร้างสรรค์ศิลปะจากธรรมชาติ

ศิลปินเชียงราย ร่วมสรรค์สร้างสรรค์งานศิลปะตามรอยเส้นทางชา-กาแฟ

เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย ร่วมกับสมาคมขัวศิลปะ จัดกิจกรรม FAM Trip เส้นทางชา กาแฟ จากสวนสู่แก้วครั้งที่ 1 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมของจังหวัดเชียงราย โดยมีศิลปินจากทั่วภาคเหนือเข้าร่วมกิจกรรม

ตามรอยเส้นทางชา กาแฟ สู่แรงบันดาลใจศิลปะ

นายเสริฐ ไชยยานันตา ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า กิจกรรม FAM Trip เส้นทางชา กาแฟ จากสวนสู่แก้วครั้งนี้ เป็นการนำศิลปินจากหลากหลายสาขา ทั้งจิตรกร นักแกะสลัก และช่างภาพ เดินทางไปยังแหล่งปลูกชาและกาแฟชั้นนำของจังหวัดเชียงราย เพื่อสัมผัสบรรยากาศและวัฒนธรรมการปลูกชาและกาแฟอย่างใกล้ชิด และสร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่สะท้อนถึงความงดงามและเอกลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ และภูมิทัศน์ของจังหวัดเชียงราย

ศิลปินร่วมสร้างสรรค์ผลงานศิลปะเพื่อประชาสัมพันธ์

อาจารย์สุวิทย์ ใจป้อม นายกสมาคมขัวศิลปะ กล่าวว่า กิจกรรมครั้งนี้เป็นโอกาสอันดีที่ศิลปินจะได้ร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่สะท้อนถึงความหลากหลายของวัฒนธรรมและภูมิปัญญาของชาวเชียงราย ผลงานศิลปะที่เกิดจากการจัดกิจกรรมครั้งนี้ จะถูกนำไปจัดแสดงในงานเชียงรายดอกไม้งาม เพื่อประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวและผลิตภัณฑ์ของจังหวัดเชียงรายให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น

เส้นทางชา กาแฟ สู่ประสบการณ์ที่น่าประทับใจ

ตลอดระยะเวลาของกิจกรรม ศิลปินจะได้สัมผัสกับกระบวนการผลิตชาและกาแฟตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง ได้เรียนรู้เกี่ยวกับพันธุ์ชาและกาแฟที่ปลูกในจังหวัดเชียงราย รวมถึงได้ชิมกาแฟและชาหลากหลายชนิด นอกจากนี้ ศิลปินยังได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์กับเกษตรกรผู้ปลูกชาและกาแฟ

กิจกรรม

กิจกรรม FAM Trip เส้นทางชา กาแฟ จากสวนสู่แก้วครั้งนี้ คาดว่าจะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงรายในหลายด้าน ได้แก่

  • ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์: กิจกรรมนี้จะช่วยส่งเสริมให้จังหวัดเชียงรายเป็นที่รู้จักในฐานะแหล่งท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ที่มีศิลปะและวัฒนธรรมที่น่าสนใจ
  • สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ชาและกาแฟ: ผลงานศิลปะที่เกิดจากกิจกรรมนี้ จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ชาและกาแฟของจังหวัดเชียงราย
  • สร้างรายได้ให้กับชุมชน: กิจกรรมนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการท่องเที่ยว
  • ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม: กิจกรรมนี้เป็นตัวอย่างที่ดีของการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เพื่อพัฒนาจังหวัดเชียงราย

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

  1. กิจกรรม FAM Trip เส้นทางชา กาแฟ จัดขึ้นเมื่อไหร่? กิจกรรมจัดขึ้นในวันที่ 11-12 ธันวาคม 2567
  2. มีศิลปินเข้าร่วมกิจกรรมกี่คน? มีศิลปินจากเชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน และพะเยา เข้าร่วมกิจกรรมประมาณ 35 คน
  3. ผลงานศิลปะที่สร้างสรรค์ขึ้นจะนำไปจัดแสดงที่ไหน? ผลงานศิลปะจะถูกนำไปจัดแสดงในงานเชียงรายดอกไม้งาม
  4. กิจกรรมนี้มีวัตถุประสงค์หลักอะไร? วัตถุประสงค์หลักคือเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ และเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมของจังหวัดเชียงราย
  5. กิจกรรมนี้มีประโยชน์ต่อชุมชนอย่างไร? กิจกรรมนี้จะช่วยสร้างรายได้ให้กับชุมชน ส่งเสริมการท่องเที่ยว และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับจังหวัดเชียงราย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

เชียงรายร่ายมนต์ “มหกรรมไม้ดอกอาเซียน 2024” กระตุ้นเศรษฐกิจ-ฟื้นฟูชุมชน

เชียงรายพร้อมร่ายมนต์ “มหกรรมไม้ดอกอาเซียน 2024” สร้างสรรค์ความงามและกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น

เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 เวลา 17.00 น. ณ ลานธรรม ลานศิลป์ ถิ่นพญามังราย อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ได้มีการจัดงานแถลงข่าว “มหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงราย 2024” (Chiang Rai Flower and Art Festival 2024) โดยมีนายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธาน พร้อมด้วยนายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย และผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าร่วม

งานนี้จัดโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย (อบจ.) นำโดยนางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย พร้อมนำเสนอแนวคิด “The Magical Garden” เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีใหม่ที่ผสมผสานวัฒนธรรมล้านนา ความคิดสร้างสรรค์ และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

เปิดตัววิดีทัศน์และกิจกรรมสุดอลังการ

ในงานมีการเปิดตัววิดีทัศน์ประชาสัมพันธ์ “Chiang Rai Flower and Art Festival 2024” ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 ธันวาคม 2567 ถึง 5 มกราคม 2568 ณ สวนไม้งามริมน้ำกก ตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย ภายในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย อาทิ

  • โซนสวนไม้งาม 4 โซนวิเศษ
    1. ลูกแก้ววิเศษ
    2. คาถาวิเศษ
    3. ดอกไม้วิเศษ
    4. สัตว์วิเศษ
  • การแสดงแสง สี เสียง และการแสดงจากเยาวชนในกิจกรรม “Chiang Rai Talent”
  • นิทรรศการวิถีชีวิตล้านนาและชาติพันธุ์ จาก 17 ชาติพันธุ์
  • การจำหน่ายชา กาแฟ อาหารพื้นถิ่น และผลิตภัณฑ์ชุมชน

เสริมสร้างเศรษฐกิจท้องถิ่นด้วยการท่องเที่ยววิถีใหม่

งานมหกรรมนี้ยังเน้น “Social Impact Tourism” หรือการท่องเที่ยวที่สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชน โดยเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวมีส่วนร่วมในการสนับสนุนสินค้าท้องถิ่นและร่วมกิจกรรมที่ช่วยฟื้นฟูชุมชนจากมหาอุทกภัยที่ผ่านมา

กิจกรรมพิเศษที่แม่สาย

นอกจากสวนไม้งามริมน้ำกก ยังมีการจัดกิจกรรม “ฮีลใจแม่สาย เหนือสุดในสยาม” ระหว่างวันที่ 14 ธันวาคม 2567 ถึง 5 มกราคม 2568 ณ วัดถ้ำเสาหินพญานาค และบริเวณหน้าด่านพรมแดนไทย-เมียนมา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย

พิธีเปิดงานยิ่งใหญ่

พิธีเปิดงานจะจัดขึ้นในวันที่ 15 ธันวาคม 2567 โดยได้รับเกียรติจากทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จเป็นองค์ประธาน

เชิญชวนร่วมงานมหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงราย

องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงรายขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วมสัมผัสความงดงามของหมู่มวลดอกไม้ และช่วยฟื้นฟูชุมชนในงาน “มหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงราย 2024” พร้อมร่วมนำเชียงรายสู่ความยั่งยืนในทุกมิติ

การเสวนาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นในพิกัดอาเซียน

รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย, นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์, ได้เปิดเผยวิสัยทัศน์ของที่ประชุมการเสวนาครั้งนี้ มุ่งเน้นไปที่การปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ของเชียงรายจากการเป็นเมืองที่ประสบปัญหาภัยพิบัติเป็นจุดหมายท่องเที่ยวชั้นนำที่มีศักยภาพในการดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยความสวยงามของผืนป่าและความเป็นมาทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย การฟื้นฟูให้นักท่องเที่ยวเต็มที่ในช่วงไฮซีซันกลางหนาวนี้ถือเป็นจุดเน้นหลัก

ดอกไม้ภายใต้ความชื่นมื่นและความเข้มแข็ง” การแสดงทางวัฒนธรรมและศิลปะความหลากหลาย”

งานมหกรรมไม้ดอกอาเซียน เชียงราย 2024 ซึ่งจะจัดขึ้นในฤดูหนาวปีหน้า ถูกจัดแสดงโดย นายวิสูตร บัวชุม, ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งชาติสำนักงานเชียงราย การจัดมหกรรมไม้ดอกครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการแสดงความงามของธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างเครือข่ายและการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ที่ทำให้เชียงรายเป็นจุดลงของนักท่องเที่ยวระดับบริเวณและระหว่างประเทศ

นวัตกรรมและการเปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับนักท่องเที่ยว

ส่วนหนึ่งของการแถลงข่าวคือการแนะนำนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่จะนำมาใช้ในการจัดงานท่องเที่ยว รวมถึงการใช้เทคโนโลยีเพื่อเสริมสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยว จากส่วนราชการได้แสดงถึงความพร้อมในการจัดงานที่มีคุณภาพโดยมีการติดตั้งระบบเทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว

นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวถึงความพร้อมและศักยภาพของจังหวัด

ในการสัมมนาเสวนาเชียงรายบนเวที “มหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงราย 2024” (Chiang Rai Flower and Art Festival 2024)  นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้กล่าวถึงความพร้อมของจังหวัดเชียงรายในการต้อนรับนักท่องเที่ยวรวมถึงการตอบสนองต่อสถานการณ์วิกฤติอุทกภัยที่ผ่านมา นายนรศักดิ์ ได้แสดงความมั่นใจว่าจังหวัดเชียงรายมีการรับมืออย่างแข็งขันและเรียบร้อย โดยได้รับความร่วมมือทั้งจากภาคเอกชน, สมาคมต่างๆ, ประชาชน และส่วนราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ภาคีส่วนต่างๆได้เข้ามาประสานงานช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่ การกู้วิกฤตในระยะ 30 วันที่ผ่านมาได้ประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง ทำให้พื้นที่นี้พร้อมที่จะกลับมาคึกคักโดยเร็วที่สุด

นอกจากนี้ นายนรศักดิ์ ยังได้พูดถึงการเตรียมงานสำคัญที่จะมีขึ้นในจังหวัดเชียงราย เกี่ยวกับมหกรรมไม้ดอกอาเซียนซึ่งจัดขึ้นที่เชียงรายเป็นประจำทุกปี โดยกล่าวว่าการจัดงานนี้มีความสำคัญที่จะทำให้เชียงรายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวหลักของประเทศและเอเชีย การจัดงานนี้จะเน้นแสดงความงามทางธรรมชาติและวัฒนธรรมของจังหวัดให้โลกได้เห็น ซึ่งจะช่วยเรียกนักท่องเที่ยวจำนวนมากมายมายังจังหวัดในช่วงฤดูหนาวที่เป็นช่วงไฮซีซั่นของจังหวัดเชียงราย

ทั้งนี้พลังงานและความมุ่งมั่นของภาคส่วนต่างๆ ในเชียงรายในการฟื้นฟูและเตรียมพร้อมสำหรับการท่องเที่ยวครั้งใหม่นี้เป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดเจน ทั้งนี้เพื่อให้การท่องเที่ยวของเชียงรายกลับมาคึกคักและเป็นที่จดจำของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกได้อีกครั้ง

การฟื้นฟูการท่องเที่ยวเชียงราย: จากวิกฤตสู่ความหวังใหม่

นายวิสูตร บัวชุม ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติ (ททท.) จังหวัดเชียงราย ได้เปิดเผยถึงความมุ่งมั่นของจังหวัดในการฟื้นฟูและพัฒนาภาคการท่องเที่ยว โดยเฉพาะหลังจากประสบกับอุทกภัยครั้งใหญ่ ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจและสาธารณูปโภคของจังหวัดเชียงราย

จากการที่จังหวัดเชียงรายเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวหลักและมีสถานที่สวยงามมากมาย ผู้อำนวยการแห่ง ททท.เชียงรายได้ชี้แจงว่า “การท่องเที่ยวคือตัวจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดเรา” เขาได้กล่าวเสริมว่า “แม้จะเผชิญกับวิกฤตใหญ่อย่างอุทกภัย การร่วมมือจากทุกภาคส่วนรวมถึงจิตอาสาทั่วประเทศได้ช่วยให้เชียงรายสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว”

ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 เชียงรายได้เริ่มต้นเดินหน้าปรับภาพลักษณ์จากความเสียหายสู่ความงามของจังหวัด โดยมุ่งหวังให้การท่องเที่ยวกลับมาเป็นไปตามปกติ ตัวเลขการเดินทางและการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวในจังหวัดกำลังฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ และคาดว่าจะเห็นผลเต็มที่ในช่วงเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม ที่ช่วงไฮซีซันครั้งใหม่ของเชียงราย

นอกจากนี้ งานกิจกรรมต่างๆที่จัดขึ้นโดยภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะงานมหกรรมไม้ดอกอาเซียน เชียงราย ตามข้อมูลจากนายวิสูตร บัวชุม เปิดเผยว่าการตอบรับจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศในปีนี้ค่อนข้างสูง โดยตัวเลขนักท่องเที่ยวที่คาดหมายจะมาเพื่อการเดินทางในงานนี้อยู่ที่หลายแสนคน ซึ่งสะท้อนถึงความมั่นใจและความตั้งใจของนักท่องเที่ยวที่ต้องการเยี่ยมชมเชียงราย

เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นทางสำนักงาน ททท.เชียงรายได้เปิดแคมเปญการท่องเที่ยวยิ่งใหญ่ภายใต้ชื่อ “เหนือ..พร้อมเที่ยว เชียงรายพร้อม” ซึ่งแคมเปญนี้ไม่เพียงแต่เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างความมั่นใจว่าเชียงรายพร้อมและปลอดภัยสำหรับการเข้ามาเยี่ยมชมของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

กลยุทธ์และแคมเปญต่างๆ เหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อดึงดูดผู้คนให้เดินทางมาเยือนเชียงรายและเพลิดเพลินกับสภาพอากาศและธรรมชาติที่งดงามของเชียงรายในช่วงฤดูหนาว ต่างประเทศต่างก็หันมาสนใจเชียงรายอย่างต่อเนื่อง และข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวได้กำหนดเป็นวาระสำคัญในการประชุมส่วนภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกที่จะมีขึ้นในเดือนตุลาคมนี้

การฟื้นฟูและพัฒนาการท่องเที่ยวของเชียงรายในปัจจุบันไม่เพียงแต่เป็นตัวดำเนินการทางเศรษฐกิจ เชียงรายกำลังพลิกโฉมใหม่ โดยเริ่มจากการท่องเที่ยวและจึงยืนยันถึงศักยภาพที่แท้จริงของจังหวัดเชียงราย

คุณนิทัศน์ ศรีรัตนประสิทธิ์มุ่งสร้างเศรษฐกิจชีวิตใหม่ให้เชียงรายผ่านกลยุทธ์แบรนด์และนวัตกรรม

คุณนิทัศน์ ศรีรัตนประสิทธิ์ ประธานกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่จังหวัดเชียงรายและหัวหน้า Young Entrepreneur Chamber of Commerce (YEC Chiang Rai) กล่าวในงานแถลงข่าวบนเวทีว่าได้เดินหน้าโครงการที่จะกระจายพลังศักยภาพของเชียงรายไปยังสายตาชาวโลกผ่านเครือข่ายดิจิทัลและโซเชียลมีเดียที่แข็งแกร่ง

ผู้นำภาคธุรกิจรุ่นใหม่ได้กล่าวถึงโครงการ TikTok ชวนเที่ยวเชียงราย “ฮีลใจ ฮีลเชียงราย” ซึ่งเป็นแคมเปญที่ตั้งใจจะกระตุ้นการท่องเที่ยวโดยใช้แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นที่ได้รับความนิยมอย่าง TikTok แคมเปญนี้ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากครีเอเตอร์ทั่วประเทศที่ส่งคลิปมาร่วมแข่งขัน ด้วยยอดวิวรวมเกิน 10 ล้านครั้ง แสดงให้เห็นว่าเชียงรายกลายเป็นที่สนใจของชาวโซเชียลอย่างกว้างขวาง

ในแคมเปญนี้ ผู้เข้าร่วมสามารถชิงรางวัลมูลค่ากว่า 10,000 บาท รวมถึงตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ที่พักสองคืน เพื่อสนับสนุนไม่เพียงแต่การมาเยือนเชียงรายเท่านั้นแต่ยังรวมถึงการพัฒนากระแสการท่องเที่ยวในจังหวัด

คุณนิทัศน์ยังได้เล่าถึงการส่งเสริมการแบรนด์เพื่อเฟ้นสร้างศักยภาพให้กับผู้ประกอบการชาวเชียงราย โดยมีการจัดงาน “The Power of Branding” ที่นำเสนอการสร้างแบรนด์และสร้างธุรกิจที่มีผู้เข้าร่วมกว่าหลายร้อยคน เน้นย้ำถึงการต้องปรับตัวและใช้นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อเติบโตในยุคดิจิทัล การสัมมนาดังกล่าวได้เชิญผู้เชี่ยวชาญระดับแนวหน้ามากระตุ้นแรงบันดาลใจและเรียนรู้เทคนิคการแบรนด์ที่ถูกต้อง

การขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยการท่องเที่ยวและการสร้างแบรนด์จากคุณนิทัศน์และทีมงาน YEC เป็นส่วนสำคัญในการฟื้นฟูและส่งเสริมการท่องเที่ยวของเชียงราย อีกทั้งยังทำให้เห็นว่าจังหวัดเชียงรายมีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวแห่งเอเชียนอกเหนือจากความงามทางธรรมชาติ ณ ปัจจุบันและอนาคต

นายกนก อทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย กล่าวถึงความงามและศักยภาพของเชียงรายในการเป็นเมืองท่องเที่ยวหลัก

นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ได้กล่าวบนเวทีแถลงข่าวในครั้งนี้เกี่ยวกับเอกลักษณ์และศักยภาพของจังหวัดเชียงรายในการเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวชั้นนำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านศิลปะ ธรรมชาติ และวัฒนธรรมที่หลากหลาย ซึ่งสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกให้เข้ามาสัมผัสและประทับใจได้ไม่รู้ลืม

“เชียงรายของเรามีทุกอย่างที่นักท่องเที่ยวต้องการ: ธรรมชาติอันงดงาม ศิลปะความเป็นเลิศ และความเป็นมิตรของผู้คน” นางอทิตาธรกล่าว ระบุเสริมว่าเทศกาลและกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นในเชียงรายได้ส่งเสริมให้เชียงรายกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจยิ่งขึ้นไม่เพียงแค่สำหรับการท่องเที่ยวอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการเรียนรู้และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมอีกด้วย

หลังจากเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19, องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงรายได้ใช้โอกาสนี้เป็นการปรับปรุงและพัฒนาการจัดการท่องเที่ยวของจังหวัดให้ดีขึ้น เช่นการนำระบบเทคโนโลยี AI มาช่วยในการตรวจจับและสนับสนุนการเข้าพักที่ปลอดภัยของนักท่องเที่ยว นวัตกรรมเหล่านี้ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวว่าเชียงรายเป็นจุดหมายปลายทางที่ปลอดภัยและน่ามาเยือน

ไฮไลต์ของการกล่าวถึงคือ การจัดงานมหกรรมไม้ดอกอาเซียน ซึ่งเป็นงานเทศกาลที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมายังจังหวัดเชียงรายหลายแสนคนอย่างต่อเนื่องทุกปี ตั้งแต่การเริ่มต้นในปี 2021 ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงรายได้ให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อให้แน่ใจว่างานเทศกาลจะสามารถดำเนินไปได้โดยปลอดภัยและเป็นที่ประทับใจของผู้เข้าร่วมงาน

“เราได้ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆในการอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว พร้อมทั้งให้ความมั่นใจว่าพวกเขาจะได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด” นางอทิตาธรกล่าวเสริม การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีไม่เพียงแต่ในการตรวจสอบอุณหภูมิและการคัดกรองเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการใช้แสงสีและศิลปะในการสร้างบรรยากาศและกิจกรรมที่น่าตื่นตาตื่นใจ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากนักท่องเที่ยวและชุมชนท้องถิ่น

ด้วยการจัดงานที่เน้นไปที่ความปลอดภัยและการสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจ จังหวัดเชียงรายได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นมากกว่าเมืองท่องเที่ยว แต่เป็นสถานที่ที่สามารถสร้างความเชื่อมั่นและสร้างความสุขให้กับทุกคนที่มาเยือน นับเป็นแบบอย่างที่ดีที่ผสานความงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมเข้ากับนวัตกรรมและเทคโนโลยีได้อย่างลงตัว

การแถลงข่าวครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเปิดตัวโครงการสำคัญของจังหวัดเชียงรายเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับชาวเชียงรายในการพัฒนาภาคเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวไปสู่ระดับที่สามารถแข่งขันกับเมืองท่องเที่ยวชั้นนำของโลก ที่สำคัญคือการเพิ่มศักยภาพการรับนักท่องเที่ยวในฤดูการท่องเที่ยว

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

เชียงรายฟื้นฟูเศรษฐกิจ สู่การเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก

เชียงรายขับเคลื่อนเศรษฐกิจ มุ่งสู่การเป็นเจ้าภาพ PATA DESTINATION MARKETING FORUM 2025

เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 ณ ห้องประชุมธรรมลังกา ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดเชียงราย นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัดเชียงราย (กรอ.จ.เชียงราย) ครั้งที่ 1/2568 เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน และภาคีเครือข่ายเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง

เชียงรายลุ้นเป็นเจ้าภาพ PATA 2025 กระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยว

หนึ่งในประเด็นสำคัญที่ถูกหยิบยกขึ้นมาหารือในที่ประชุม คือ ความคืบหน้าในการเสนอตัวของจังหวัดเชียงรายให้เป็นเจ้าภาพจัดงาน PATA DESTINATION MARKETING FORUM 2025 ซึ่งหากได้รับการคัดเลือก จะเป็นโอกาสสำคัญในการส่งเสริมภาพลักษณ์ของจังหวัดเชียงรายในเวทีระดับโลก และกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคการท่องเที่ยวให้เติบโตอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ผู้ประกอบการและประชาชนในพื้นที่ยังจะได้รับประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจ การค้า และการท่องเที่ยวอีกด้วย

ปรับปรุงโครงสร้าง กรอ.เชียงราย เพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ที่ประชุมได้มีการแก้ไขคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการ กรอ.จ.เชียงราย เพื่อให้สอดคล้องกับระเบียบข้อกฎหมายและตำแหน่งปัจจุบันของสมาชิก ทำให้การขับเคลื่อนการดำเนินงานของคณะกรรมการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังได้มีการแจ้งแนวทางการขับเคลื่อนการดำเนินงานของ กรอ.จังหวัด และกรอ.กลุ่มจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 รวมถึงแผนปฏิบัติการและระบบติดตามการฟื้นฟูเยียวยาพื้นที่ประสบอุทกภัย วาตภัยและดินโคลนถล่ม ในจังหวัดเชียงราย ระยะที่ 2 เพื่อให้การฟื้นฟูเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม

สถานการณ์เศรษฐกิจเชียงรายล่าสุด

หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังจังหวัดเชียงราย โดยพบว่าเศรษฐกิจโดยรวมในเดือนกันยายน 2567 หดตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การท่องเที่ยวกลับมีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยในช่วงเดือนมกราคมถึงกันยายน 2567 จังหวัดเชียงรายมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.39 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สร้างรายได้ให้กับจังหวัดกว่า 33,864.04 ล้านบาท ส่วนมูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดนด้านจังหวัดเชียงราย ในช่วงเดือนมกราคมถึงกันยายน 2567 มีมูลค่าการค้ารวม 95,797.50 ล้านบาท

ผลักดันโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังภัยพิบัติ

ที่ประชุมยังได้พิจารณาข้อเสนอโครงการของภาคีเครือข่าย ส่วนราชการ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดเชียงราย เพื่อฟื้นฟูพื้นที่และเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ปี พ.ศ. 2567 เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาล นอกจากนี้ ยังได้มีการวางแผนการประชุมคณะกรรมการ กรอ.จ.เชียงราย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 เพื่อติดตามความคืบหน้าของโครงการต่างๆ และวางแผนการดำเนินงานในอนาคต

สรุป

การประชุม กรอ.จ.เชียงราย ครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของจังหวัดเชียงรายในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน และฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ โดยมีการวางแผนและดำเนินงานอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

  1. จังหวัดเชียงรายมีแนวโน้มที่จะได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพจัดงาน PATA DESTINATION MARKETING FORUM 2025 มากน้อยเพียงใด? การได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพจัดงานดังกล่าวขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ศักยภาพของจังหวัดในการจัดงาน ความพร้อมของสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวก รวมถึงการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน
  2. การจัดงาน PATA จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงรายอย่างไร? การจัดงาน PATA จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของจังหวัดเชียงรายในระดับสากล ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนมากขึ้น และกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคการท่องเที่ยวให้เติบโต
  3. จังหวัดเชียงรายมีแผนการฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยอย่างไร? จังหวัดเชียงรายมีแผนปฏิบัติการและระบบติดตามการฟื้นฟูเยียวยาพื้นที่ประสบอุทกภัย วาตภัยและดินโคลนถล่ม ซึ่งจะดำเนินการโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีการจัดสรรงบประมาณเพื่อสนับสนุนโครงการต่างๆ ที่จะช่วยฟื้นฟูสภาพแวดล้อมและเศรษฐกิจของพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ
  4. ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงรายอย่างไร? ภาคเอกชนมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคการท่องเที่ยวและการค้า ซึ่งภาคเอกชนจะร่วมมือกับภาครัฐในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวและนักลงทุน
  5. ประชาชนสามารถมีส่วนร่วมในการพัฒนาจังหวัดเชียงรายได้อย่างไร? ประชาชนสามารถมีส่วนร่วมในการพัฒนาจังหวัดเชียงรายได้หลายช่องทาง เช่น การเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ของชุมชน การให้ข้อมูลข่าวสารแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการเลือกผู้แทนที่สามารถสะท้อนความต้องการของประชาชนได้

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

เปิดอาคารเรียนฟัรดูอีน มัสยิดดอยวาวี เชียงราย เสริมศาสนาและชุมชน

การเปิดอาคารละหมาดหญิงและอาคารเรียนฟัรดูอีนฯ ณ มัสยิดอัฏฏออะห์ สร้างความสามัคคีและส่งเสริมการศึกษาในชุมชน

เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2567 เวลา 10.30 น. อาจารย์อรุณ บุญชม จุฬาราชมนตรี ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดอาคารละหมาดหญิงและอาคารเรียนฟัรดูอีน ณ มัสยิดอัฏฏออะห์ ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย โดยมีการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากชุมชนและบุคคลสำคัญมากมายที่มาร่วมงานในครั้งนี้

ภายในงานยังมีการร่วมพิธีเปิดโดย Mr. ALI k.m.c. chang (อาลี เค.เอ็ม.ซี. ชาง) ประธานคณะกรรมการอิสลามแห่งไต้หวัน พร้อมด้วยอาจารย์ประสาน ศรีเจริญ นายกสมาคมคุรุสัมพันธ์อิสลามแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ พลตำรวจตรีสุรินทร์ ปาลาเร่ เลขาธิการกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย รวมถึงผู้แทนจากภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ นายดำรงค์ศักดิ์ ยอดทองดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และนายสมจิต มุณีกร รองประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดเชียงราย

เป้าหมายของการเปิดอาคารใหม่และการส่งเสริมการศึกษา

อาจารย์อรุณ บุญชม จุฬาราชมนตรี ได้กล่าวในพิธีเปิดว่า การสร้างอาคารละหมาดและอาคารเรียนฟัรดูอีนนี้ มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความรู้และความเข้าใจในหลักศาสนาอิสลามแก่เยาวชนมุสลิมในพื้นที่ นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้เกิดความสามัคคีและการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขในชุมชนหลากหลายวัฒนธรรม โดยเฉพาะบนดอยวาวีซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทั้งชาติพันธุ์และศาสนา

จุฬาราชมนตรียังกล่าวชื่นชมการอยู่ร่วมกันของพี่น้องมุสลิมและคนไทยในพื้นที่เชียงราย ซึ่งได้แสดงให้เห็นถึงความเคารพซึ่งกันและกันอย่างเต็มเปี่ยม ทั้งนี้ถือเป็นแบบอย่างที่ดีในการสร้างสังคมพหุวัฒนธรรมที่ทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ

การสนับสนุนจากภาครัฐและต่างประเทศ

ในพิธีเปิดครั้งนี้ นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ได้กล่าวว่า การพัฒนาอาคารใหม่เพื่อการศึกษาและการละหมาดนี้ ได้รับการสนับสนุนจากหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานภาครัฐ องค์กรศาสนา รวมถึงความร่วมมือจากหน่วยงานต่างประเทศ เช่น ไต้หวัน ที่ได้ให้การสนับสนุนการพัฒนาศาสนาและวัฒนธรรมในประเทศไทย

Mr. ALI k.m.c. chang ได้กล่าวถึงการให้ความสำคัญของประเทศไทยต่อพี่น้องมุสลิม โดยชื่นชมการบริหารจัดการของประเทศไทยที่เปิดโอกาสให้ทุกศาสนาได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ ซึ่งถือเป็นความโชคดีของชาวมุสลิมไทยที่มีสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนศาสนาและวัฒนธรรมของตนเอง

การเสวนาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

นอกจากพิธีเปิดอาคารใหม่แล้ว ยังมีการเสวนาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างคณะกรรมการอิสลามแห่งประเทศไทยและผู้เข้าร่วมงาน เกี่ยวกับแนวทางในการพัฒนาชุมชนมุสลิมในเชียงรายให้ยั่งยืน การพัฒนาด้านการศึกษาและการส่งเสริมกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ทั้งนี้เพื่อให้ชุมชนมุสลิมในพื้นที่สามารถพัฒนาและเติบโตได้อย่างมั่นคง

สร้างอนาคตที่ดีผ่านการศึกษาและศาสนา

การเปิดอาคารเรียนฟัรดูอีนฯ และอาคารละหมาดหญิงในครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการส่งเสริมการศึกษาและการพัฒนาทักษะให้แก่เยาวชนในพื้นที่ โดยเน้นให้เยาวชนมุสลิมมีโอกาสในการศึกษาและเรียนรู้ศาสนาอิสลาม รวมถึงการมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนอย่างต่อเนื่อง

นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ได้กล่าวสรุปในงานว่า การเปิดอาคารใหม่ครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างศักยภาพและคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ให้ดีขึ้น พร้อมทั้งส่งเสริมการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขในสังคมพหุวัฒนธรรม

การเปิดอาคารละหมาดหญิงและอาคารเรียนฟัรดูอีนฯ ณ มัสยิดอัฏฏออะห์ในครั้งนี้ จึงถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนมุสลิมในเชียงราย ทั้งด้านศาสนา การศึกษา และการพัฒนาที่ยั่งยืน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนังานวัฒนธรรมเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เชียงรายจัดงานรำลึกผู้สูญเสียอุบัติเหตุ สร้างถนนปลอดภัย

เชียงรายจัดงาน “วันโลกรำลึกถึงผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน” ส่งเสริมความปลอดภัยบนถนน

วันนี้ (17 พฤศจิกายน 2567) ที่ลานธรรม ลานศิลป์ ถิ่นพญามังราย อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานเปิดงาน “วันโลกรำลึกถึงผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรำลึกถึงผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน และเพื่อสร้างความตระหนักรู้แก่ประชาชนในการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย

การรวมพลังเพื่อถนนปลอดภัย

กิจกรรมในวันนี้ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ภาคประชาสังคม นักเรียน นักศึกษา และประชาชนที่สนใจเข้าร่วมอย่างคับคั่ง ภายในงานมีการอ่าน “สารวันโลกรำลึกถึงผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน” และมีการยืนสงบนิ่งไว้อาลัยเป็นเวลา 1 นาที เพื่อแสดงความอาลัยต่อผู้ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน

นายประเสริฐกล่าวว่า “การจัดกิจกรรมนี้เป็นการเน้นย้ำให้ประชาชนทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของการใช้รถใช้ถนนอย่างระมัดระวัง เพราะอุบัติเหตุไม่เพียงแต่ทำให้เกิดการสูญเสียชีวิต แต่ยังส่งผลกระทบต่อครอบครัวและสังคมโดยรวม”

กิจกรรมพิเศษและการเดินรณรงค์

นอกจากพิธีการในลานธรรมแล้ว ยังมีการเดินขบวนรณรงค์ไปตามถนนสายหลักในตัวเมืองเชียงราย เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนใส่ใจเรื่องความปลอดภัยในการใช้ถนน โดยมีการจัดนิทรรศการและบูธให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันอุบัติเหตุ เช่น การใช้เข็มขัดนิรภัย การขับรถไม่ดื่มแอลกอฮอล์ และการใช้โทรศัพท์อย่างปลอดภัยในขณะขับขี่

ในงานยังมีการมอบประกาศนียบัตรให้แก่หน่วยงานที่ให้การสนับสนุนการจัดงาน และหน่วยงานที่มีบทบาทในการส่งเสริมความปลอดภัยทางถนนอย่างต่อเนื่อง

ความสำคัญของวันโลกรำลึกถึงผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน

องค์การสหประชาชาติได้กำหนดให้วันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 3 ของเดือนพฤศจิกายนของทุกปี เป็นวัน “โลกรำลึกถึงผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน” สำหรับปี พ.ศ. 2567 นี้ตรงกับวันที่ 17 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันที่ทั่วโลกหันมาให้ความสำคัญกับการรณรงค์ลดอุบัติเหตุทางถนน

ประเทศไทยยังคงเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนสูงติดอันดับต้น ๆ ของโลก ดังนั้นการจัดงานครั้งนี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างความตระหนักรู้แก่ประชาชน โดยมุ่งหวังให้ถนนทุกสายในประเทศไทยเป็น “ถนนปลอดเหตุ ชีวิตปลอดภัย”

แนวทางการลดอุบัติเหตุในอนาคต

นอกจากกิจกรรมรณรงค์และนิทรรศการแล้ว จังหวัดเชียงรายยังได้ประกาศเป้าหมายในการลดจำนวนอุบัติเหตุทางถนนผ่านการส่งเสริมการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัยและการสร้างจิตสำนึกในสังคม นอกจากนี้ยังมีแผนการร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อพัฒนาระบบการตรวจสอบและป้องกันอุบัติเหตุ เช่น การติดตั้งกล้องวงจรปิดและการจัดอบรมให้ความรู้แก่ผู้ขับขี่

การรณรงค์ครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการรำลึกถึงผู้ที่สูญเสียไปแล้ว แต่ยังเป็นการกระตุ้นให้สังคมตระหนักถึงความรับผิดชอบร่วมกันในการทำให้ถนนเป็นที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

‘วิโรจน์’ เผยผลสำรวจหลังร่วมฟื้นฟู น้ำท่วมเชียงราย เสนอมาตรการระยะยาว

วิโรจน์ ลักขณาอดิศร เปิดเผยผลสำรวจหลังร่วมฟื้นฟูน้ำท่วมเชียงราย เสนอมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยระยะยาว

เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร รองหัวหน้าพรรคประชาชน ได้เปิดเผยผลการดำเนินงานของทีมอาสาสมัครฟื้นฟูน้ำท่วมจังหวัดเชียงราย ซึ่งเกิดขึ้นจากเหตุการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยนายวิโรจน์ได้เน้นย้ำถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นจากภัยพิบัติครั้งนี้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่และเศรษฐกิจของประชาชนในพื้นที่อย่างรุนแรง

ภัยพิบัติครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบหลายปี

เหตุการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในจังหวัดเชียงราย ไม่เพียงแต่เป็นน้ำท่วมทั่วไป แต่ยังรวมถึงน้ำป่าไหลหลากและดินสไลด์ ซึ่งสร้างความเสียหายต่อบ้านเรือนและโครงสร้างพื้นฐานอย่างรุนแรง นายวิโรจน์ระบุว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในภัยพิบัติที่สร้างความเสียหายมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศไทยนับตั้งแต่ปี 2547 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่อำเภอแม่สาย ซึ่งได้รับผลกระทบหนักที่สุด

ความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการฟื้นฟู

หลังจากเกิดเหตุการณ์น้ำท่วม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคประชาชนประจำจังหวัดเชียงราย ได้ลงพื้นที่เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนเบื้องต้น และได้ร่วมกันจัดตั้ง “ศูนย์ประชาชนอาสา” เพื่อระดมความช่วยเหลือจากทุกภาคส่วนในการฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย โดยมีมูลนิธิกระจกเงาเข้ามาร่วมเป็นพี่เลี้ยงในการดำเนินงาน

ปัญหาที่พบและข้อเสนอแนะ

จากการลงพื้นที่และดำเนินงานฟื้นฟู นายวิโรจน์ได้พบปัญหาสำคัญหลายประการ เช่น ปัญหาเรื่องหนี้สินของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในระยะยาว นอกจากนี้ ยังพบปัญหาเกี่ยวกับระบบบำบัดน้ำเสียในพื้นที่อำเภอแม่สาย ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นฟูสภาพแวดล้อม

เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ นายวิโรจน์ได้เสนอข้อเสนอแนะหลายประการ เช่น การให้รัฐบาลสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำแก่ผู้ประสบภัย เพื่อให้สามารถฟื้นฟูชีวิตและธุรกิจได้ รวมถึงการเร่งแก้ไขปัญหาเรื่องระบบบำบัดน้ำเสียในพื้นที่อำเภอแม่สาย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำซากในอนาคต

ความสำคัญของการร่วมมือกัน

นายวิโรจน์ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการร่วมมือกันระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ในการฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในระยะยาว เพื่อให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ

หลังจากตนประเมินสภาพพื้นที่ จึงได้พูดคุยขอคำปรึกษาจากเจ้ากรมยุทธการทหารและเจ้ากรมทหารช่าง ซึ่งต้องขอบคุณที่ในเวลาต่อมา ทหารช่างส่งเจ้าหน้าที่มาดำเนินการฟื้นฟูพื้นที่อย่างรวดเร็ว นี่คือตัวอย่างของการร่วมแรงร่วมใจทำงาน เราผนึกกำลังกับทุกภาคส่วนทั้งราชการและท้องถิ่นเพื่อให้งานสำเร็จ

(1) จะทำอย่างไรให้ประชาชนเข้าถึงการชดเชยเยียวยาอย่างรวดเร็วไม่ตกหล่น

(2) จะทำอย่างไรให้ประชาชนเข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำจากสถาบันการเงินในระบบ เพราะจากการลงพื้นที่ ตนพบว่าทุกบ้านจะมีบัตรของแหล่งเงินกู้นอกระบบตกอยู่ตามพื้นเต็มไปหมด แสดงว่านายทุนเงินกู้นอกระบบรู้ว่าชาวบ้านคนตัวเล็กต้องการเงินทุนเพื่อตั้งต้นชีวิตใหม่

ดังนั้น รัฐบาลต้องเร่งประชาสัมพันธ์ให้ธนาคารออมสินซึ่งเป็นกลไกหลักของรัฐ ทำให้ประชาชนคนตัวเล็กตัวน้อยผู้ประกอบการรายย่อยสามารถเข้าถึงสินเชื่อจากสถาบันการเงินในระบบได้ ไม่เช่นนั้นหลังจากนี้ภาวะหนี้ครัวเรือนจะยิ่งซ้ำเติมชาวเชียงราย

(3) ระบบระบายน้ำที่พร้อมรองรับฤดูฝนในปี 2568 เพราะเราเชื่อว่ายังมีโคลนค้างอยู่ในท่อบางจุด จึงจำเป็นต้องมีการลอกท่อครั้งใหญ่ ข้อจำกัดตอนนี้ คือ งบประมาณของท้องถิ่นอาจร่อยหรอลงเพราะต้องนำเงินสะสมไปใช้ในช่วงภัยพิบัติ จึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลต้องพิจารณางบประมาณให้เหมาะสมเพื่อช่วยเหลือประชาชน

(4) ปัญหาเอกสารสิทธิในที่ดิน เนื่องจากหลายบ้านไม่มีบ้านเลขที่ ไม่มีเอกสารสิทธิ์ ทำให้เข้าไม่ถึงการชดเชยเยียวยา รัฐบาลควรใช้โอกาสนี้เป็นจุดเริ่มต้นในการแก้ปัญหาเรื่องเอกสารสิทธิ์ในที่ดิน รวมถึงย้ายประชาชนที่ปัจจุบันอาศัยในพื้นที่เสี่ยง ให้ออกมาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย

(5) ปัญหาบ่อบำบัดน้ำเสียที่ อ.แม่สาย ที่ประชาชนตั้งข้อสังเกตว่าสร้างขวางทางไหลของน้ำหรือไม่ ตอนนี้บ่อชำรุด รัฐควรให้วิศวกรเข้ามาตรวจสอบว่าขวางทางน้ำจริงหรือไม่ ปรับปรุงให้มีการระบายน้ำที่ดีขึ้นกว่านี้ได้หรือไม่ ในอนาคตจะได้ไม่เกิดปัญหาซ้ำเดิม

โดยเรื่องนี้ตนได้ตั้งกระทู้ถามไปยังนายกรัฐมนตรีให้ตอบในราชกิจจานุเบกษา เพื่อให้ประชาชนทราบว่ารัฐจะดำเนินการอย่างไร เนื่องจากยังมีประชาชนไม่สบายใจ กังวลว่าปีหน้าจะเกิดเหตุแบบปีนี้ ซึ่งนายกฯ มีหนังสือตอบกลับมาแล้ว ขอเวลาในการตอบเพิ่มเติม ตนจะติดตามเรื่องนี้ต่อไป

(6) การขุดลอกแม่น้ำสาย เนื่องจากเป็นแม่น้ำที่กั้นพรมแดนระหว่างไทยและเมียนมา การทำอะไรจึงมีข้อจำกัดเพราะมีประเด็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศที่ต้องพูดคุยว่าจะขุดลอกแม่น้ำสายร่วมกันอย่างไร ทำระบบเตือนภัยให้ประชาชนทั้ง 2 ฝั่งลำน้ำได้ประโยชน์ รวมถึงพิจารณาปัญหาการรุกล้ำลำน้ำ

บทสรุป

เหตุการณ์น้ำท่วมในจังหวัดเชียงราย เป็นบทเรียนสำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของสังคมต่อภัยพิบัติทางธรรมชาติ และความจำเป็นในการเตรียมความพร้อมและวางแผนรับมือกับภัยพิบัติในอนาคต นอกจากนี้ ยังเป็นตัวอย่างที่ดีของการร่วมมือกันของทุกภาคส่วนเพื่อฟื้นฟูและสร้างสรรค์สังคมให้กลับมามีความเข้มแข็งอีกครั้ง

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

  1. เหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้สร้างความเสียหายมากน้อยเพียงใด? เหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงต่อบ้านเรือน โครงสร้างพื้นฐาน และเศรษฐกิจของประชาชนในจังหวัดเชียงราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่อำเภอแม่สาย ซึ่งถือเป็นหนึ่งในภัยพิบัติที่ร้ายแรงที่สุดในรอบหลายปี

  2. มีการดำเนินการใดบ้างเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย? มีการจัดตั้งศูนย์ประชาชนอาสาเพื่อระดมความช่วยเหลือจากทุกภาคส่วนในการฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย โดยมีการจัดส่งทีมอาสาสมัครเข้าไปช่วยเหลือในการทำความสะอาดบ้านเรือนและชุมชน

  3. ปัญหาที่สำคัญที่พบในการฟื้นฟูคืออะไร? ปัญหาที่สำคัญคือหนี้สินของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ และปัญหาเรื่องระบบบำบัดน้ำเสียในพื้นที่อำเภอแม่สาย

  4. มีมาตรการใดบ้างเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น? ข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหา ได้แก่ การให้รัฐบาลสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำแก่ผู้ประสบภัย และการเร่งแก้ไขปัญหาเรื่องระบบบำบัดน้ำเสีย

  5. บทเรียนที่ได้จากเหตุการณ์นี้คืออะไร? เหตุการณ์นี้เป็นบทเรียนสำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นในการเตรียมความพร้อมและวางแผนรับมือกับภัยพิบัติในอนาคต รวมถึงความสำคัญของการร่วมมือกันของทุกภาคส่วนในการฟื้นฟู

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : วิโรจน์ ลักขณาอดิศร รองหัวหน้าพรรคประชาชน

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News