Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ชุมชนเกาะทองพลิกฟื้น! ใช้โซลาร์ปั๊ม-น้ำหมุนเวียน สร้างคลองแห่งความสุขแบบยั่งยืน

พลิกวิกฤตเป็นโอกาส นครเชียงรายเนรมิต ‘คลองบำบัดน้ำเสีย’ สู่แลนด์มาร์คสีเขียว ติดตั้งโซลาร์เซลล์–ระบบน้ำหมุนเวียน ยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนเกาะทอง

เชียงราย, 12 ตุลาคม 2568 — พื้นที่ซึ่งครั้งหนึ่งถูกมองว่าเป็น “รอยแผลของเมือง” กำลังถูกเยียวยาด้วยมือของคนในชุมชนและเทศบาล เมื่อ เทศบาลนครเชียงราย เดินหน้าโครงการปรับภูมิทัศน์ “คลองบำบัดน้ำเสียชุมชนเกาะทอง” เปลี่ยนเส้นทางนำน้ำเสียสู่บ่อบำบัดให้กลับมามีความสวยงาม สะอาด เป็นระเบียบ พร้อมพัฒนาพื้นที่โดยรอบให้เป็น สวนสาธารณะ–ลานกีฬากลางแจ้ง และเตรียม ติดตั้งเครื่องสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อสร้าง “ระบบน้ำหมุนเวียน” ให้น้ำไหลตลอดเวลา ลดการค้างเน่า สร้างสภาวะเหมาะสมแก่พืชน้ำ–สัตว์น้ำ และดึงชุมชนเข้ามาเป็น เจ้าของพื้นที่ร่วม อย่างแท้จริง

“เราเริ่มจากการลงพื้นที่ ฟังเสียงคนริมคลอง ไม่ใช่เดินเข้าไปด้วยคำตอบสำเร็จรูป” แนวทางของโครงการถูกสรุปสั้น ๆ ผ่าน ไทม์ไลน์ ที่จับต้องได้ 26 มิถุนายน 2568 นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย พร้อมคณะและสมาชิกสภาเทศบาล ลงพื้นที่ ชุมชนเกาะทอง–ชุมชนวังดิน–ชุมชนร่องปลาค้าว เพื่อรับฟังปัญหาและความต้องการ ก่อนจะขยับจากแผนสู่การปฏิบัติ 10 ตุลาคม 2568 ด้วยกิจกรรม “ปลูกดอกไม้ริมคลอง พุทธรักษา และ ยี่โถสีม่วง เพื่อสร้างสีสันและความรู้สึกเป็นเจ้าบ้านร่วมกัน

จาก “คลองน้ำเสีย” สู่ “คลองแห่งความสุข” ภาพจำใหม่ของเมือง

หากเดินเท้าตามแนวคลองวันนี้ ภาพแรกที่เปลี่ยนไปคือ ความเป็นระเบียบและความสะอาด ริมตลิ่งถูกจัดรูปใหม่ ลดเศษวัชพืช–ขยะลอยน้ำ จุดคอขวดที่น้ำเคยค้างเน่าได้รับการแก้ไขเชิงกายภาพ พื้นที่เปิดโล่งกลายเป็น เส้นทางเดิน–วิ่ง–ปั่นจักรยาน ที่เชื่อมย่านที่อยู่อาศัยกับ ลานออกกำลังกายกลางแจ้ง เด็ก ๆ ได้พื้นที่วิ่งเล่น ผู้สูงวัยมีพื้นที่ยืดเหยียดร่มรื่น ผู้ค้าชุมชนเริ่มวางแผงกิจกรรมยามเย็นแบบไม่รุกล้ำทางน้ำ

แต่จุดเปลี่ยนสำคัญไม่ใช่เพียงภูมิทัศน์ภายนอก คือ ระบบน้ำหมุนเวียน ที่เทศบาลเตรียมติดตั้งผ่าน เครื่องสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Pump) เติม “น้ำดี” ไล่ “น้ำเสีย” ลงสู่บ่อบำบัดให้เร็วขึ้น ลดการตกค้าง–หมักหมม ของสารอินทรีย์และตะกอน ช่วยให้น้ำในคลอง เคลื่อนไหวสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นหัวใจของการฟื้นฟูคุณภาพน้ำเบื้องต้นในพื้นที่เปิดโล่งของเมือง ทั้งหมดใช้ พลังงานสะอาด ลดค่าไฟฟ้าในระยะยาว และทำงานประจำได้แม้ในวันที่ภารกิจของเทศบาลหนาแน่น

ฟัง–ร่วมคิด–ร่วมทำ เครื่องมือทางสังคมที่ซ่อมทั้งคลองและความรู้สึกเป็นเจ้าของ

โครงการนี้ไม่ใช่ “งานโครงสร้าง” อย่างเดียว หากแต่ย้ำ กระบวนการสังคม ที่สำคัญ ตั้งแต่การลงพื้นที่ 26 มิถุนายน 2568 เพื่อรับฟังความเห็นชุมชน 3 ย่าน ไปจนถึงกิจกรรม 10 ตุลาคม 2568 ที่ชักชวนคนทุกวัยมาปลูกดอกไม้ริมคลอง การมีส่วนร่วมทำให้ “คลอง” เปลี่ยนจาก “พื้นที่ของเทศบาล” เป็น “พื้นที่ของเรา” และเมื่อคนรู้สึกเป็นเจ้าของ พฤติกรรมการทิ้งขยะ การดูแลความสะอาด การเฝ้าระวังน้ำผิดปกติ ก็เปลี่ยนไปโดยอัตโนมัติ

เทศบาลยังจับมือกับ กรมโยธาธิการ เพื่อวางรูปแบบ ทางเท้า เขื่อน พื้นที่ชะลอน้ำ ให้รองรับทั้งการใช้งานและการระบายน้ำยามฝน รวมถึง จุดทางเชื่อม ที่เป็นมิตรกับผู้สูงวัยและคนใช้วีลแชร์ ซึ่งล้วนเป็นรายละเอียดเล็ก ๆ ที่ เพิ่มคะแนนคุณภาพชีวิต ของเมืองได้จริง

นวัตกรรมที่พอดีเมือง ทำไมต้อง “เครื่องสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ + น้ำหมุนเวียน”?

หัวใจของคลองบำบัดน้ำเสีย คือ “อย่าให้น้ำหยุดนิ่ง” เพราะเมื่อน้ำหยุด สารอินทรีย์สะสม เกิด กลิ่น สีน้ำ ความขุ่น ที่สร้างผลกระทบต่อชุมชนรอบคลอง การใช้ Solar Pump จึงเหมาะกับเมืองที่มี แดดจัด ฝนสลับ อย่างเชียงราย สามารถเดินเครื่องกลางวันด้วยไฟแสงอาทิตย์ ลดการพึ่งพาไฟฟ้าจากโครงข่าย ช่วย “ปั่นระบบ” ให้ น้ำไหล ต่อเนื่อง พร้อมกับการ “ปล่อยน้ำดี” เป็นช่วง ๆ เพื่อเร่งให้น้ำเสียในคลองเลื่อนไหลลงสู่บ่อบำบัดได้เร็วขึ้น เมื่อน้ำหมุนเวียน ออกซิเจนละลายน้ำ (DO) มีแนวโน้มดีขึ้น ระบบนิเวศริมคลองจะฟื้นตัวได้ง่ายกว่า เด็ก ๆ มีพื้นที่ชุมชนที่ รับกลิ่น รับลม ได้โดยไม่ต้องเบือนหน้าหนี

แม้กระนั้น เทศบาลย้ำว่าคุณภาพน้ำที่ดี “ต้องวัด ต้องติดตาม” ไม่ใช่แค่ มองด้วยตา จึงมีแผนเฝ้าระวัง ตัวชี้วัดพื้นฐาน เช่น BOD (ค่าความต้องการออกซิเจนทางชีวเคมี), COD, DO, ความขุ่น, สี, กลิ่น และ ชีวภาพเบื้องต้น เช่น พืชน้ำ/สัตว์น้ำที่ทน ไม่ทนมลพิษ เพื่อดู เทรนด์การฟื้นตัว มากกว่าการตัดสินจากภาพช่วงเปิดงานเพียงครั้งเดียว

พื้นที่สาธารณะคือวัคซีนใจ ฟังก์ชันสุขภาพ เศรษฐกิจ การเรียนรู้

เมื่อริมคลองสะอาดและปลอดภัยขึ้น เมืองก็ได้ วัคซีนป้องกันโรคไม่ติดต่อ (NCDs) ไปพร้อมกันคนเดินมากขึ้น หัวใจแข็งแรงขึ้น ระดับน้ำตาล ไขมันดีขึ้น ค่าใช้จ่ายสาธารณสุขในระยะยาวก็ผ่อนเบา นอกจากนั้น พื้นที่สาธารณะยังเชื่อม เศรษฐกิจชุมชน ร้านน้ำสมุนไพร รถเข็นอาหาร สินค้าทำมือสามารถตั้งขายแบบ ไม่รุกล้ำทางเท้าและตลิ่ง ตามหลักเกณฑ์เทศบาลที่ชัดเจน กลายเป็น “เศรษฐกิจริมทาง” ที่สุภาพและปลอดภัย

ด้านการเรียนรู้ โรงเรียน มหาวิทยาลัยท้องถิ่นสามารถใช้คลองเป็น “ห้องทดลองมีชีวิต” สอนวงจรน้ำ เมือง สิ่งแวดล้อม พลังงานสะอาด ให้นักเรียนเก็บตัวอย่างน้ำเบื้องต้น สังเกตการเปลี่ยนแปลง ระหว่างก่อน หลังเปิดระบบน้ำหมุนเวียน ฝึกตั้งคำถามและสะท้อนผลด้วยภาษาเข้าใจง่ายนี่คือ ทุนสังคม ที่จะทำให้โครงการอยู่ยาว ไม่ใช่ “สวยเฉพาะวันเปิด”

ความท้าทายที่ต้องบอกกันตรง ๆ เมืองจะรักษาคุณภาพอย่างไรเมื่อปีงบฯ เปลี่ยน?

ทุกโครงการสาธารณะมี วัฏจักรงบประมาณ การบำรุงรักษา เป็นเงื่อนไขความยั่งยืน จุดแข็งของการใช้ Solar Pump คือ ต้นทุนพลังงานต่ำ ระยะยาว แต่ยังต้อง ดูแลอุปกรณ์–ทำความสะอาดตะแกรง–ตรวจมอเตอร์/อินเวอร์เตอร์–ไล่ตะกอน เป็นประจำ ด้านภูมิทัศน์ก็ต้อง ตัดหญ้า–ตัดแต่งพืช ต่อเนื่อง หนึ่งความเสี่ยงที่เทศบาลและชุมชนรับรู้ตรงกันคือ “เมื่อปีงบฯ เปลี่ยน คนเปลี่ยน งานจะตกหล่นไหม?” คำตอบของโครงการนี้คือ กำหนด “บทบาทชุมชน” ให้ชัด ชุดจิตอาสา/คณะกรรมการคลองทำหน้าที่ แจ้งเตือน–ร่วมดูแลเบื้องต้น–เป็นหูเป็นตา ให้เทศบาล และช่วย สื่อสารมารยาทการใช้พื้นที่ (เช่น ห้ามทิ้งเศษอาหารลงคลอง, พื้นที่ใดตั้งร้านได้ ไม่ได้) ลดแรงเสียดทานและค่าใช้จ่ายซ่อมบำรุงที่ไม่จำเป็น

เมืองแห่งความสุขแบบยั่งยืน นโยบายใหญ่ต้องลงบน “งานเล็กที่ทำจริง”

วิสัยทัศน์ “นครแห่งความสุขแบบยั่งยืน” จะเป็นเพียงคำสวยหากไม่ถูก แปลงเป็นงานพื้นที่ โครงการคลองเกาะทองจึงทำหน้าที่เป็น Prototype ของงานสิ่งแวดล้อมเมืองที่ จับต้องได้ จุดเล็ก ๆ แต่ต่อท่อไปสู่ สุขภาพ–เศรษฐกิจ–การเรียนรู้ และ ความภูมิใจร่วม ของคนเชียงราย

เพื่อให้เป้าหมายไม่หลุดกรอบ ข่าวนี้สรุป “สมการความสำเร็จ” ของคลองบำบัดน้ำเสียเกาะทองไว้ 4 ข้อ

  1. โครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะกับบริบท  แก้คอขวดทางกายภาพ + Solar Pump + ระบบน้ำหมุนเวียน
  2. การมีส่วนร่วมของชุมชน  ตั้งแต่ร่วมคิด, ลงมือปลูก, ดูแลประจำวัน
  3. ตัวชี้วัด–การสื่อสารข้อมูล  เฝ้าระวังคุณภาพน้ำและรายงานผลเป็นระยะ ด้วยภาษาที่ประชาชนอ่านเข้าใจ
  4. ระเบียบพื้นที่สาธารณะชัดเจน  เปิดโอกาสเศรษฐกิจริมคลองอย่างปลอดภัย ไม่รบกวนการระบายน้ำและการสัญจร

ตัวชี้วัดความสำเร็จที่ติดตามได้ (ไม่ใช่ความรู้สึก)

เพื่อให้สังคมตรวจสอบได้ โครงการควรกำหนด “ตัวเลขเป้าหมายเชิงผลลัพธ์” ที่สอดคล้องกับมาตรฐานงานเมือง/สิ่งแวดล้อม เช่น

  • ความถี่การสูบ–แลกเปลี่ยนน้ำ (ครั้ง/วัน) และ ชั่วโมงเดินเครื่อง Solar Pump (ชม./วัน)
  • แนวโน้ม ค่า DO–BOD–COD–ความขุ่น สี กลิ่น (รายเดือน/รายไตรมาส)
  • ปริมาณขยะที่เก็บได้ ริมคลอง (กก./เดือน) และ สัดส่วนขยะที่คัดแยกสำเร็จ
  • อัตราการใช้งานพื้นที่สาธารณะ (คน–ครั้ง/วันหยุด, วันธรรมดา) และ กิจกรรมชุมชน (ครั้ง/เดือน)
  • เหตุร้องเรียน/แจ้งเหตุ ที่เกี่ยวกับกลิ่น–น้ำค้างเน่า–การทิ้งขยะ (ครั้ง/เดือน) ที่ลดลง

ตัวชี้วัดเหล่านี้จะทำให้การสื่อสารต่อสาธารณะ ตรงไปตรงมา ถ้าดีขึ้นเห็นจากตัวเลข ถ้ายังไม่ดีกำหนด แผนแก้ไขรอบถัดไป และเปิดข้อมูลให้ตรวจสอบได้

เศรษฐกิจริมคลองกับ “เงื่อนไขสุขาภิบาลที่ไม่ต่อรอง”

การเปิดพื้นที่สาธารณะให้เกิดกิจกรรมเศรษฐกิจย่อมตามมาด้วย ความรับผิดชอบด้านสุขาภิบาล เทศบาลควรกำหนด เงื่อนไขไม่ต่อรอง น้ำทิ้งจากร้านต้องไม่ลงคลองโดยตรง มี จุดล้าง ดักไขมัน ที่ถูกสุขลักษณะ พื้นที่ขายต้อง ไม่ล้ำเขตน้ำ และ ไม่กีดขวางเส้นทางหนีไฟ/การสัญจรผู้ใช้รถเข็น มี ถังขยะคัดแยก เพียงพอ และกำหนด ช่วงเวลาขายเก็บร้าน ชัดเจน พร้อมกลไก เตือน ปรับ งดใช้พื้นที่ชั่วคราว เมื่อฝ่าฝืนซ้ำ เพื่อคงสมดุลระหว่าง “สง่าราศีของคลองใหม่” กับ “ความคึกคักของเศรษฐกิจชุมชน”

บทเรียนสำหรับเมืองอื่น เริ่มจาก “ปมเล็ก” ที่คนแตะได้ทุกวัน

หลายเมืองมี “คลองน้ำเสีย” หรือ “คูระบาย” เป็นจุดอับของภาพลักษณ์ แต่บทเรียนเชียงรายชี้ว่า ไม่จำเป็นต้องเริ่มจากโครงการใหญ่ราคาแพง เสมอไป การเลือก “ปมเล็ก” ที่คนเห็นทุกวัน และใช้ เทคโนโลยีพอดี พลังงานสะอาด–การมีส่วนร่วม สามารถสร้าง วงจรไว้วางใจ ระหว่างเมืองกับประชาชนได้เร็วกว่า เมื่อความเชื่อมั่นเกิดขึ้น เมืองจะขยายโครงข่าย คลองดี–ทางเท้าดี–สวนดี ไปย่านอื่นได้ง่ายขึ้น

คลองบำบัดน้ำเสียชุมชนเกาะทองจากปัญหาสุขาภิบาลและภาพลักษณ์สู่ “แลนด์มาร์คสีเขียว” ด้วยเครื่องมือสามอย่าง ปรับภูมิทัศน์, ระบบน้ำหมุนเวียนพลังงานแสงอาทิตย์, และ การมีส่วนร่วมของชุมชน เมืองไม่ได้หวังภาพสวยชั่วคราว แต่กำลังวางกรอบ ตัวชี้วัด, การบำรุงรักษา, และ บทบาทชุมชน ให้คลองอยู่ได้ยาวคนใช้จริง สุขภาพดีขึ้น เศรษฐกิจริมคลองเดินไปกับกติกาที่ชัดเจน นี่คือภาพจำใหม่ของนครเชียงรายในฐานะ “นครแห่งความสุขแบบยั่งยืน” ที่ลงมือทำจริงในระดับคลองหนึ่งเส้น

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • เทศบาลนครเชียงราย
  • กรมโยธาธิการ (กรมโยธาธิการและผังเมือง)
  • ชุมชนเกาะทอง–ชุมชนวังดิน–ชุมชนร่องปลาค้าว
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SPORT

เชียงรายเปิดลานกีฬาเอ็กซ์ตรีมริมน้ำกก แลนด์มาร์คใหม่

เชียงรายเปิดตัวแลนด์มาร์คใหม่ ลานกีฬาเอ็กซ์ตรีมริมน้ำกก

เชียงราย, 6 กุมภาพันธ์ 2568 – นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย พร้อมด้วยส่วนงานที่รับผิดชอบ ได้ลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้าโครงการพัฒนาพื้นที่ริมน้ำกก ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร ตั้งแต่ฝายเชียงรายถึงหาดเชียงราย

การพัฒนาพื้นที่ริมน้ำกก

โครงการพัฒนาพื้นที่ริมน้ำกก เป็นโครงการที่เทศบาลนครเชียงรายให้ความสำคัญอย่างยิ่ง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาพื้นที่ริมน้ำกกให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจและสถานที่ออกกำลังกายสำหรับประชาชน ปัจจุบันโครงการได้ดำเนินการไปแล้ว 3-4 กิโลเมตร ประกอบด้วย สวนสาธารณะริมน้ำกก เลนวิ่ง เลนจักรยาน และลานกีฬาเอ็กซ์ตรีม

ลานกีฬาเอ็กซ์ตรีม เทศบาลนครเชียงราย

ลานกีฬาเอ็กซ์ตรีม เทศบาลนครเชียงราย บริเวณชุมชนร่องเสือเต้น เป็นหนึ่งในโครงการที่สำคัญของโครงการพัฒนาพื้นที่ริมน้ำกก หลังจากประสบปัญหาน้ำท่วมและดินโคนทับถม ปัจจุบันได้รับการฟื้นฟูและปรับปรุงใหม่ทั้งหมด เพื่อเปิดพื้นที่ให้นักกีฬาและประชาชนทั่วไปได้เข้ามาใช้พื้นที่ได้อย่างสะดวกและปลอดภัยมากขึ้น

นายกเทศมนตรีเน้นส่งเสริมกีฬา

นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย กล่าวว่า ลานกีฬาเอ็กซ์ตรีม เทศบาลนครเชียงราย แห่งนี้ ไม่ได้เน้นการแข่งขันอย่างเดียว แต่เน้นตั้งแต่เริ่มต้นเป็นนักกีฬาจนประสบความสำเร็จ และเป็นการกระตุ้นให้ออกกำลังกายมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อสุขภาพ

เชียงรายเมืองแห่งกีฬา

นายกเทศมนตรีกล่าวเพิ่มเติมว่า ผลงานหลายมิติที่ทำให้เชียงรายต้องขับเคลื่อนต่อไปด้านกีฬา และได้จัดกิจกรรมมากมายทางด้านกีฬารวมทั้งถนนสายกีฬา และเชื่อว่าอนาคตการจัดการแข่งขันกีฬาระดับประเทศจะทำให้นักท่องเที่ยวผู้ชื่นชอบกีฬาเข้ามาจังหวัดเชียงรายมากยิ่งขึ้น

สรุป

การพัฒนาพื้นที่ริมน้ำกกและลานกีฬาเอ็กซ์ตรีมในครั้งนี้ จะเป็นแลนด์มาร์คใหม่ของจังหวัดเชียงราย ที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยวและส่งเสริมให้ประชาชนหันมาออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดี

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : เทศบาลนครเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
AROUND CHIANG RAI TRAVEL

‘อ.เชียงแสน’ เปิดสวนสาธารณะใหม่ ลานกิจกรรมธรรมชาติ-จุดพักผ่อน

 

การอัปเดตข่าวสารเกี่ยวกับสวนสาธารณะเมืองเชียงแสน ที่กำลังได้รับการพัฒนาให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ และสถานที่ออกกำลังกายของชาวเชียงแสน เป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาสาธารณูปโภคที่สำคัญในจังหวัดเชียงราย ซึ่งความคืบหน้าล่าสุดบอกได้เลยว่าสวยงามมาก สวนสาธารณะแห่งนี้มีทั้งลานกิจกรรม ลานสเก็ต และพื้นที่สีเขียวสำหรับการออกกำลังกาย ทำให้เป็นพื้นที่ที่เหมาะสำหรับคนทุกวัยที่จะมาพักผ่อนและทำกิจกรรมต่างๆ โดยสวนสาธารณะแห่งนี้ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองเชียงแสน ที่มีประวัติศาสตร์และวิวทิวทัศน์ธรรมชาติที่งดงาม

เชียงแสน อำเภอหนึ่งในจังหวัดเชียงราย ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของจังหวัด ล้อมรอบด้วยแม่น้ำโขงและภูเขาสูงทั้งทางฝั่งไทยและลาว ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อทางวัฒนธรรมและการค้าระหว่างไทย ลาว และพม่า โดยเฉพาะบริเวณ “สามเหลี่ยมทองคำ” ที่มีชื่อเสียงมากในการท่องเที่ยวและการขนส่งสินค้าในภาคเหนือของประเทศไทย

 

เชียงแสนยังเป็นแหล่งโบราณคดีสำคัญ มีซากโบราณสถานมากมายที่บอกเล่าเรื่องราวความรุ่งเรืองในอดีตของเมืองนี้ และเป็นจุดที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่สนใจในประวัติศาสตร์และธรรมชาติ เนื่องจากเมืองนี้เป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์จากแม่น้ำโขงไหลผ่าน ทำให้มีการทำการเกษตรและการค้าขายที่เจริญเติบโตมาตั้งแต่สมัยโบราณ

สวนสาธารณะแห่งใหม่ที่กำลังพัฒนาในเชียงแสนไม่เพียงแค่เป็นพื้นที่สีเขียวสำหรับการออกกำลังกายและพักผ่อน แต่ยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้กับเชียงแสน ซึ่งเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน โดยสถานที่ตั้งของสวนสาธารณะนี้อยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่งในเชียงแสน เช่น ซากเมืองโบราณและแม่น้ำโขง ทำให้สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาพักผ่อนและท่องเที่ยวในพื้นที่ใกล้เคียงได้ง่ายขึ้น

พื้นที่เชียงแสนมีอาณาเขตที่ติดต่อกับอำเภอแม่สาย รัฐฉานของประเทศพม่า และแขวงบ่อแก้วของประเทศลาว ซึ่งสร้างโอกาสในการพัฒนาเศรษฐกิจและการค้าข้ามชาติ ทำให้เชียงแสนกลายเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศในภาคเหนือของประเทศไทย

 

 

สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบธรรมชาติและประวัติศาสตร์ เชียงแสนถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาด ด้วยวิวทิวทัศน์ที่งดงามและความเป็นมาอันยาวนาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาในปัจจุบันที่ทำให้เชียงแสนมีความทันสมัยมากขึ้น แต่ยังคงรักษาเสน่ห์ของเมืองโบราณไว้อย่างดี

สำหรับการเดินทางมาท่องเที่ยวในเชียงแสน นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาได้สะดวกทั้งทางรถยนต์ส่วนตัวและรถโดยสารจากตัวเมืองเชียงราย การท่องเที่ยวที่นี่ไม่เพียงแค่ได้สัมผัสกับธรรมชาติอันงดงาม แต่ยังได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่หลากหลายของพื้นที่นี้

สุดท้ายนี้ ขอเชิญชวนทุกท่านที่สนใจมาเที่ยวชมสวนสาธารณะเมืองเชียงแสน และสำรวจเมืองประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่แห่งนี้ ที่ยังคงความเป็นธรรมชาติและเสน่ห์ทางวัฒนธรรมไว้อย่างดี

เครดิตข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

ภาพโดย : Kho RachaSit

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News