Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

‘พิสันต์’ ลงพื้นที่ชุมชนวัดห้วยปลากั้ง 1 ใน 10 สุดยอดชุมชนต้นแบบ

 

เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2567 เวลา 15.30 น. นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยข้าราชการและบุคลากรสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ได้เดินทางลงพื้นที่ชุมชนวัดห้วยปลากั้ง ในอำเภอเมืองเชียงราย เพื่อติดตามและประเมินผลการดำเนินงานโครงการส่งเสริมกิจกรรม “1 อำเภอ 1 ลานสร้างสรรค์” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ที่ได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2567 และหารือเกี่ยวกับการวางแผนการดำเนินงานโครงการ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 – 2568 โดยชุมชนวัดห้วยปลากั้งได้รับการคัดเลือกเป็น 10 สุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ประจำปี พ.ศ. 2567 ซึ่งได้รับคำแนะนำจากพระไพศาลประชาทร วิ. (พบโชค ติสฺสวํโส) ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดเชียงรายและเจ้าอาวาสวัดห้วยปลากั้ง เพื่อเป็นแนวทางในการปรับใช้กับการดำเนินงานอื่นๆ ต่อไป

โครงการ “1 อำเภอ 1 ลานสร้างสรรค์” ที่วัดห้วยปลากั้งได้รับการตอบรับอย่างดีจากชุมชน โดยมีกิจกรรมที่ส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมท้องถิ่น และเปิดโอกาสให้ผู้คนในชุมชนได้แสดงความสามารถด้านต่างๆ ซึ่งส่งผลดีต่อการสร้างความสามัคคีและการรักษาวัฒนธรรมท้องถิ่น

ในส่วนของโครงการ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” นายพิสันต์ ได้นำเสนอว่า ชุมชนวัดห้วยปลากั้งมีศักยภาพในการเป็นต้นแบบของชุมชนที่ใช้วิถีชีวิตและวัฒนธรรมในการสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับชาวบ้าน โดยการดำเนินโครงการนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเผยแพร่วัฒนธรรมของชุมชนเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมให้ชุมชนมีรายได้จากการท่องเที่ยวชุมชนอีกด้วย

การจัดกิจกรรมต่างๆ ในชุมชนวัดห้วยปลากั้งเป็นตัวอย่างที่ดีของการใช้วัฒนธรรมเป็นเครื่องมือในการพัฒนาชุมชน ทั้งนี้ กิจกรรมเหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นการสร้างความบันเทิงให้กับชาวบ้านเท่านั้น แต่ยังเป็นการศึกษาและการเรียนรู้ที่สามารถนำไปสู่การพัฒนาชุมชนให้ยั่งยืนได้อีกด้วย

การเดินทางมาของคณะนายพิสันต์จึงไม่เพียงแต่เป็นการติดตามผลงานเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างความร่วมมือและเสริมสร้างความเข้าใจระหว่างหน่วยงานราชการกับชุมชน ส่งเสริมให้เกิดการทำงานร่วมกันในหลากหลายมิติ เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของชุมชนต่อไป

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

คณะกรรมการ ประเมินเชิงประจักษ์พหุชาติพันธุ์ชุมชนวัดห้วยปลากั้ง

 

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม 2567 ณ วัดห้วยปลากั้ง ตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงรายสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ร่วมกับชุมชนวัดห้วยปลากั้ง ต้อนรับและอำนวยความสะดวกคณะกรรมการคัดเลือก 10 สุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ประกอบด้วย นางศศิฑอณร์ สุวรรณมณี หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรม, นางสุนันทา มิตรงาม  ผู้ทรงคุณวุฒิด้านวัฒนธรรม, นางจันทิมา จริยเมโธ  ที่ปรึกษากระทรวงวัฒนธรรม, และ นายภัทราวุฑ ตะวันวงค์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนปฏิบัติการ รวมจำนวน 4 คน ลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย เพื่อประเมินชุมชนเชิงประจักษ์ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี พหุชาติพันธุ์” ณ ชุมชนวัดห้วยปลากั้ง จังหวัดเชียงราย โดยนายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย มอบหมายให้ นางพรทิวา ขันทะมาลา ผู้อำนวยการกลุ่มยุทธศาสตร์และเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม พร้อมด้วยข้าราชการและเจ้าหน้าที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ร่วมให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกแก่คณะกรรมการฯ

 

 

กระทรวงวัฒนธรรมได้ประกาศผลการคัดเลือกให้ “ชุมชนวัดห้วยปลากั้ง” จังหวัดเชียงราย ผ่านการประเมินรอบแรก 20 ชุมชน ในการคัดเลือกสุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ประจำปี พ.ศ. 2567 ซึ่งคณะกรรมการฯ จะดำเนินการคัดเลือกให้เหลือเพียง 10 ชุมชน เพื่อเข้ารับโล่รางวัลจากนายกรัฐมนตรี

 

ในวันนี้  คณะกรรมการฯ ได้ลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย เพื่อพิจารณาคัดเลือกเชิงประจักษ์ ณ วัดห้วยปลากั้ง โดยมี นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย, นางอมรรัตน์ ปินวรรณา ผู้อำนวยการโรงเรียนสหศาสตร์ศึกษา  นายนัฐการณ์ ศรีกุณา ผู้แทนจากวัดห้วยปลากั้ง, นางแสงหล้า ไชยอิ่นคำ ประธานชุมชนห้วยปลากั้ง, นายสีเมือง ทำมา ปราชญ์ชุมชน/นักเล่าเรื่อง, นายอนันต์ คนสวรรค์ ผู้นำกลุ่มชาติพันธ์ุลัวะ, นางแอ่น เดือนวิไล ผู้นำกลุ่มชาติติพันธ์ุไทลื้อ, นางรพีพร ทองดี ประธานกลุ่มแม่บ้าน,พร้อมด้วยผู้นำชุมชนกลุ่มชาติพันธุ์ในพื้นที่ คณะกรรมการชุมชนฯ และเครือข่ายทางวัฒนธรรมให้การต้อนรับและร่วมให้ข้อมูล

 

ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ ได้เข้ากราบนมัสการพระไพศาลประชาทร วิ. (หลวงพ่อพบโชค ติสสะวังโส) เจ้าอาวาสวัดห้วยปลากั้ง พร้อมรับฟังแนวทางการบริหารจัดการชุมชน ด้านการท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรม, รับทราบการขับเคลื่อน Soft Power และการนำเอาทุนทางวัฒนธรรมและอัตลักษณ์มาสร้างเสน่ห์ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี พหุชาติพันธุ์” โดยคณะกรรมการฯ ได้สัมผัสกับความหลากหลายของพหุวัฒนธรรม ณ ชุมชนวัดห้วยปลากั้ง   กิจกรรมประกอบด้วย

  • การร่วมรับประทานอาหารในโครงการแค่คิดก็ผิดแล้ว (ครัวละซาว : อาหารสด สะอาด คุณภาพดี ราคาย่อมเยา เพียงเมนูละ 20 บาท)
  • ชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมจากกลุ่มเด็กและเยาวชนวัดห้วยปลากั้ง ซึ่งประกอบด้วย การแสดงต้อนรับ การฟ้อนอวยพร และการแสดงที่สื่อถึงอัตลักษณ์ล้านนา ซึ่งฝึกสอนโดย : นายพิชญ์ บุษเนียร
  • ชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมต้อนรับของกลุ่มชาติพันธุ์ลัวะ โดยมีกลองใหญ่โบราณของชนเผ่าลัวะเป็นองค์ประกอบหลักในชุดต่างๆ จำนวน 4 ชุดการแสดง
  • ชมวิดิทัศน์สรุปการบริหารจัดการการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมสร้างสรรค์ และเรียนรู้การสร้างบารมีทานอันยิ่งใหญ่ในโครงการช่วยเหลือสังคมของพระไพศาลประชาทร วิ. (หลวงพ่อพบโชค ติสสะวังโส) เจ้าอาวาสวัดห้วยปลากั้งณ ห้องประชุมพบโชค
  • นักเล่าเรื่องของวัดห้วยปลากั้ง นำโดย นายนัฐการณ์ ศรีกุณา และนายแสนสุข อินตาดือ นำคณะกรรมการ เดินทางโดยรถราง กราบนมัสการสักการะสิ่งศักดิ์ เยี่ยมชมสถาปัตยกรรมที่งดงามในวัดห้วยปลากั้ง อาทิ ชมพบโชคธรรมเจดีย์ และกราบสักการะพระพุทธรูป พระอรหันต์ พระโพธิสัตว์กวนอิม หลวงพ่อโสธร และสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี), ชมพระอุโบสถสีขาว, สักการะพระโพธิสัตว์กวนอิม ที่มีขนาดสูงถึง 69 เมตร, ชมการแสดงดนตรีพื้นเมือง โดย กลุ่มล้านนาพบโชค (เชียงราย), ชมวิวทิวทัศน์จังหวัดเชียงราย และเยี่ยมชมโรงพยาบาลวัดห้วยปลากั้งเพื่อสังคม

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สนง.วัฒนธรรม เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

วัฒนธรรมเชียงราย หารือแนวทาง จัดการท่องเที่ยวชุมชนวัดห้วยปลากั้ง

 

เมื่อวันอังคารที่ 18 มิถุนายน 2567 เวลา 09.30 – 12.30 น. ณ ห้องประชุมพบโชค วัดห้วยปลากั้ง และชุมชนวัดห้วยปลากั้ง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย

 

สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ร่วมกับชุมชนวัดห้วยปลากั้ง จัดประชุมหารือ เพื่อร่วมกันกำหนดแนวทางการจัดการท่องเที่ยวชุมชน โดยชุมชน เพื่อชุมชนยั่งยืน รวมทั้ง เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมด้านการท่องเที่ยวและการเป็นเจ้าบ้านที่ดี

 

โดยมี นายนัฐการณ์ ศรีกุณา ผู้แทนจากวัดห้วยปลากั้ง, นางแสงหล้า ไชยอิ่นคำ ประธานชุมชนห้วยปลากั้ง, นายสีเมือง ทำมา ปราชญ์ชุมชน/นักเล่าเรื่อง, นายอนันต์ คนสวรรค์ ผู้นำกลุ่มชาติพันธ์ละหู่, นางแอ่น เดือนวิไล ผู้นำกลุ่มชาติติพันธ์ุไทลื้อ, นางรพีพร ทองดี ประธานกลุ่มแม่บ้าน,พร้อมด้วยผู้นำชุมชน คณะกรรมการชุมชนฯ เข้าร่วมประชุมฯ และสำรวจเส้นทางในชุมชนฯ เพื่อวางแผนการดำเนินงานร่วมกัน

 

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ร่วมกันปรึกษาหารือ/วางแผน เตรียมการต้อนรับคณะกรรมการประเมินชุมชนเชิงประจักษ์ ในการคัดเลือกชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ซึ่งคณะกรรมการฯ กำหนดลงพื้นที่ระหว่างวันที่ 7 – 8 กรกฎาคม 2567 

 

โดยที่ประชุมได้กำหนดแผนการดำเนินงาน เริ่มจากเยี่ยมชมวัดห้วยปลากั้ง และโครงการช่วยเหลือสังคมต่างๆ ของวัดห้วยปลากั้ง, ต่อด้วยการนำเสนอวิถีชีวิตของพหุวัฒนธรรมที่หลากหลายในชุมชนวัดห้วยปลากั้งที่อาศัยอยู่ร่วมกัน อย่างลงตัว  อาทิ ชาติพันธุ์ละหู่ ไทลื้อ อาข่า ฯลฯ เป็นต้น โดยร่วมกันจัดเรียงเป็นเส้นทางท่องเที่ยวชุมชน และกิจกรรมการท่องเที่ยวชุมชนเชิงวัฒนธรรมสร้างสรรค์ “เที่ยวชุมชน ยลวิถีพหุชาติพันธุ์” ในชุมชนวัดห้วยปลากั้ง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย

 

ในการนี้ นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย มอบหมายให้ นางสาวณพิชญา นันตาดี นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ นางกัลยา แก้วประสงค์ นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ นางสุพรรณี เตชะตน นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ นายจิรัฏฐ์ ยุทธ์ธนประวิช นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ และนายสุวัฒน์ชัย คำตื้อ เจ้าหน้าที่มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม เป็นผู้จัดประชุมและดำเนินการประชุมดังกล่าว

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สนง.วัฒนธรรม เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

‘พิสันต์’ เตรียมส่ง ‘วัดห้วยปลากั้ง’ เป็นสุดยอดชุมชนต้นแบบเชียงราย ปี 67

 

เมื่อวันที่ 23 พ.ค.67 ที่ห้องประชุมพวงแสด ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดเชียงราย นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการส่งเสริมคุณธรรมจังหวัดเชียงราย ครั้งที่1/2567 โดยมีคณะอนุกรรมการฯ เข้าร่วมประชุม

 

โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ได้นำเสนอผลการดำเนินงานปีที่ผ่านมา ได้แก่การจัดพิธีมอบโล่เชิดชูเกียรติชุมชน องค์กร อำเภอ และจังหวัดคุณธรรมต้นแบบโดดเด่น ประจำปี 2566 เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2567 ที่ห้องนิทรรศการ 5 อาคารศิลป์แห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งจังหวัดเชียงรายมีผู้ไปรับโล่เชิดชูเกียรติฯ ได้แก่ ชุมชนคุณธรรมต้นแบบโดดเด่น ได้แก่ ชุมชนคุณธรรมวัดหัวฝาย โดยพระครูปิยวรรณพิพัฒน์ เจ้าอาวาสวัดหัวฝาย องค์กรคุณธรรมต้นแบบโดดเด่น ได้แก่ โรงพยาบาลแม่จัน โดยนายรัฐกานต์ ปาระมี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแม่จัน อำเภอคุณธรรมต้นแบบโดดเด่น ได้แก่ อำเภอพาน โดยนายวุฒิกร คำมา นายอำเภอพาน สำหรับการดำเนินการยกย่องเชิดชูเกียรติ ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเป็นคนดีศรีจังหวัด ประจำปี 2566 ประเภทเด็ก/เยาวชน (อายุ 13-25 ปี) ได้แก่ นายอิทธิพล หลวงโปธา และประเภทประชาชน ได้แก่ นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ 

 

นอกจากนี้ นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ได้แจ้งในที่ประชุมทราบถึงโครงการ สุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ปี 2567 ซึ่งจังหวัดเชียงรายได้เสนอชุมชนคุณธรรมฯ วัดห้วยปลากั้ง ตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย เข้ารับการคัดเลือก ขณะนี้ได้ผ่านการคัดเลือกในรอบ 20 ชุมชน (จากชุมชนฯ ทั่วประเทศ จำนวน 76 ชุมชน) โดยจะมีคณะกรรมการลงพื้นที่ในปลายเดือนมิถุนายน เพื่อคัดเลือกวัดห้วยปลากั้งให้เป็น 10 สุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ต่อไป

 

โครงการคัดเลือก 10 สุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ประจำปี 2564 – 2567 ซึ่งจังหวัดเชียงรายมีชุมชนที่ได้รับคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 10 สุดยอดชุมชนต้นแบบ“ เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 – 2566 จำนวน 3 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนวัดท่าข้ามศรีดอนชัย อำเภอเชียงของ ชุมชนบ้านเมืองรวง อำเภอเมืองเชียงราย และชุมชนวัดพระธาตุผาเงา (บ้านสบคำ) อำเภอเชียงแสน ซึ่งเป็นจังหวัดที่ได้รับรางวัล 3 ปีซ้อน แห่งเดียวในประเทศไทย และในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ชุมชนวัดห้วยปลากั้ง ตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย ได้ผ่านการคัดเลือกในรอบ 20 ชุมชน ซึ่งคณะกรมมการฯ จะมีลงพื้นที่พิจารณาชุมชนเชิงประจักษ์ประมาณเดือนกรกฎาคม 2567

 

ปิดท้ายสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ได้เชิญชวนชาวเชียงรายสมัครเข้ารับการคัดเลือกให้เป็น “คนดีศรีจังหวัด” โดยเปิดรับสมัครไปจนถึง วันที่ 30 พฤษภาคม 2567 สามารถส่งรายละเอียดผลงานได้ที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ตำบลบ้านดู่ อำเภอเมืองเชียงราย เชียงราย หรือโทรสอบถามรายละเอียดที่ได้ 053 150 169 และสามารถดาวน์โหลดใบสมัคร พร้อมรายละเอียดการสมัครที่ได้ที่ https://me-qr.com/1maHKiUC

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS SOCIETY & POLITICS

อบจ.เชียงราย พร้อมเยาวชน นำเครื่องฟอกอากาศ มอบวัดห้วยปลากั้ง

 

เมื่อวันอังคารที่ 2 เมษายน 2567 เวลา 18.30 น.  ณ วัดห้วยปลากั้ง อ.เมือง จ.เชียงราย นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย พร้อมด้วยนางอัญญลักษณ์ กายาไชย เลขานุการนายก อบจ.เชียงราย นายฐิติวัชร ไลศิริพันธุ์ ผู้อำนวยการส่วนส่งเสริมศาสนา และวัฒนธรรม รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม นำแกนนำเยาวชน จากศูนย์เยาวชน อบจ.เชียงราย  นำเครื่องฟอกอากาศ DIY (กล่องอากาศดี)  มอบให้วัดห้วยปลากั้ง จ.เชียงราย โดยได้รับเมตตาจาก พระไพศาลประชาทร วิ.  เจ้าอาวาสวัดห้วยปลากั้ง รับมอบ เครื่องฟอกอากาศ DIY ในครั้งนี้

จากวิกฤตสถานการณ์ฝุ่นควัน PM 2.5 การเผาป่า ฝุ่นควันข้ามแดนเป็นจำนวนมาก ซึ่งในพื้นที่จังหวัดเชียงรายพบว่าเกิดการเผาป่าในพื้นที่น้อยมาก องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย โดย นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ได้กำหนดยุทธศาสตร์ ขับเคลื่อนนวัตกรรม “กล่องอากาศดี” (เครื่องฟอกอากาศและเติมอากาศ) ผลงานนวัตกรรมของ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 

 

โดยปีงบประมาณ 2567 การดำเนินการผ่าน แกนนำสภาเยาวชนองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย+สำนักการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ดังนี้

 

 

  1. การขับเคลื่อนระดับนโยบายระดับจังหวัดเชียงราย

– การประสานการจัดมอบนโยบายระดับจังหวัดเชียงราย โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ให้นโยบายแก่ นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จังหวัดเชียงราย 144 แห่ง ในการขับเคลื่อนดำเนินการในเรื่องของฝุ่น PM 2.5 และการสาธิตนวัตกรรม “กล่องอากาศดี” เมื่อวันทีี 11 มกราคม 2567 ณ ห้องประชุมคชสาร ศูนย์บูรณาการการเรียนรู้และนันทนาการ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย โดยการประสานงานและสนับสนุนจากสำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดเชียงราย

 

  1. การจัดอบรมนักประดิษฐ์ จิตอาสา การทำ “กล่องอากาศดี” (เครื่องฟอกอากาศและเติมอากาศ) จำนวน 140 ชุด โดยถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่ผู้เข้าอบรม 300 คน เพื่อจัดทำห้องลดฝุ่นรองรับวิกฤตฝุ่น PM 2.5 ให้กับ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก, รพ.สต. วัดและกลุ่มเปราะบาง วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 ณ หอประชุมกาละลองคำ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย สนับสุนการถ่ายทอดองค์ความรู้ โดยสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สุขภาพ มช.

 

  1. ประสานงาน สนับสนุน การจัดโครงการ “คืนลมหายใจที่ไร้ฝุ่น คลีนรูมเพื่อศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ในพื้นที่อำเภอแม่สาย และอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ของ สถาบันวิจัยวิทยาศาตร์สุขภาพ มช. ร่วมกับ มูลนิธิเวชดุสิตฯ, โรงพยาบาลกรุงเทพ-เชียงราย และบริษัท ลลิตา พีพีโอ แพ็คเกจจิ้ง จำกัด กิจกรรมครั้งนี้ หลังจากเสร็จการอบรมถ่ายทอดความรู้ ได้มอบ “กล่องอากาศดี” ให้กับ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อำเภอแม่สาย และอำเภอเชียงแสน 36 แห่ง (72 กล่อง) วันที่ 18 มีนาคม 2567 ณ ห้องประชุมอาคาร 2 ชั้น 3 เทศบาลตำบลแม่สาย

 

  1. จัดต้งศูนย์ประสานงาน โดยจัดทำเฟสบู๊ค “ศูนย์ลมหายในที่ไร้ฝุ่น อบจ.เชียงราย” เพื่อเแผยแพร่องค์ความรู้ เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ และประสานงานต่างๆ

 

  1. เผยแพร่ นวัตกรรม “กล่องอากาศ” (เครื่องฟอกอากาศและเติมอากาศ)

– มอบกล่องอากาศดี ต้นแบบ ให้แก่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อบต. เทศบาล อำเภอเชียงแสน 7 แห่ง

– มอบกล่องอากาศดี ต้นแบบ ให้แก่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อบต. เทศบาล อำเภอเชียงของ  8 แห่ง

– มอบกล่องอากาศดี ต้นแบบ ให้แก่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อบต. เทศบาล อำเภอเวียงแก่น  4 แห่ง

– มอบกล่องอากาศดี ต้นแบบ ให้แก่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อบต. เทศบาล อำเภอแม่จัน  1 แห่ง

– จัดทำห้องลดฝุ่น 2 แห่ง ศูนย์เยาวชน อบจ.เชียงราย, ห้อง Service & Sharing Center สำนักงาน อบจ.เชียงราย ให้บริการแก่ เด็ก เยาวชนและประชาชน

– ติดตั้ง “กล่องอากาศดี” จำนวน 12 ตัว เพื่อทำ ห้องคลีนรูม อาคารพบโชคคอมเพล็กซ์ เพื่อให้บริการแก่เด็ก เยาวชน ประชาชนกลุ่มเปราะบาง

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

‘พิพัฒน์’ ลงพื้นที่เชียงราย ให้กำลังใจแรงงานโครงการคืนคนดีสู่สังคม

 
เมื่อวันที่ 17 มีนาคม นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่เยี่ยมพบปะให้กำลังใจแรงงานที่ได้รับการฝึกอาชีพตามโครงการคืนคนดีสู่สังคม ศูนย์ฝึกอาชีพ สร้างงานสร้างรายได้ และให้บริการล้างทำความสะอาดรถยนต์แก่ประชาชนที่มารับบริการ ณ ศูนย์ฝึกอาชีพ สร้างงานสร้างรายได้ เมตตา พระไพศาลประชาทร วิ. วัดห้วยปลากั้ง อ.เมือง จ.เชียงราย โดยมีนายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน นายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน เข้าร่วม ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน
 
 
โดยสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 20 เชียงราย กับวัดห้วยปลากั้ง ที่ได้ฝึกอาชีพให้แก่ผู้ต้องขังที่พ้นโทษ ได้นำความรู้จากการฝึก มาต่อยอดในการประกอบอาชีพ มีงานทำ มีรายได้ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น นายพิพัฒน์กล่าวว่า ในวันนี้ตนพร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงแรงงานลงพื้นที่เชียงรายมาเยี่ยมพบปะกับแรงงานที่ได้รับการฝึกอาชีพตามโครงการคืนคนดีสู่สังคม ที่ศูนย์ฝึกอาชีพ สร้างงานสร้างรายได้ เมตตา พระไพศาลประชาทร วิ. ซึ่งที่นี่ให้บริการล้างทำความสะอาดรถยนต์แก่ประชาชนที่มารับบริการคันละ 50 บาท ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงแรงงานกับวัดห้วยปลากั้ง ที่จะเปิดโอกาสให้แรงงานชั้นดีที่พ้นโทษได้มีงานทำ มีอาชีพ มีรายได้ สามารถประกอบอาชีพหลังจากออกมาสู่สังคม โดยการล้างรถ ฝุ่น โคลน
 

ซึ่งในส่วนนี้ตนจะนำโมเดลดังกล่าวไปต่อยอดขยายผล  พร้อมหารือสถานีบริการน้ำมันเอกชนทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มการจ้างงาน สร้างอาชีพ พร้อมสร้างคุณค่าคืนคนดีสู่สังคมต่อไป นายพิพัฒน์กล่าวต่อว่า จากการลงพื้นที่เชียงรายในครั้งนี้ ยังพบว่าปัจจุบันเชียงรายยังพบปัญหาฝุ่นควันในปริมาณที่สูง ซึ่งส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน ที่สำคัญมีความห่วงใยต่อแรงงานที่ทำงานอยู่ในพื้นที่โดยเฉพาะแรงงานที่ต้องทำงานอยู่ในกลางแจ้ง

จึงได้กำชับให้แรงงานจังหวัด ร่วมมือกับอาสาสมัครแรงงาน (อสร.) จังหวัดเชียงราย 124 คน พบปะกับชาวบ้านในพื้นที่เพื่อรณรงค์ให้ชาวบ้านช่วยกันหยุดเผาป่า ป้องกันฝุ่นควันลดปัญหามลพิษทางอากาศ อันเป็นสาเหตุของการเกิดโรคระบบทางเดินหายใจ นอกจากนี้ เพื่อร่วมสร้างทัศนียภาพให้กลับมาสวยงามเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงแรงงาน

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ติดตามการดำเนินงานการพัฒนา วัดห้วยปลากั้ง สังฆาภิบาล แนวคิดอารามภิรมย์

 
เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.2566 นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางไปยังวัดห้วยปลากั้ง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย เพื่อติดตามการดำเนินงานการพัฒนาวัด ด้านสาธารณสงเคราะห์ การดำเนินงานของโรงพยาบาลวัดห้วยปลากั้งเพื่อสังคม ตามโครงการสังฆาภิบาล การสงเคราะห์เด็กกำพร้า 300 คน และการพัฒนาวัดตามแนวคิดอารามภิรมย์ โดยมีพระไพศาลประชาทร วิ.(พระอาจารย์ พบโชค ติสสะวังโส) เจ้าอาวาสวัดห้วยปลากั้งเป็นผู้ให้ข้อมูล และพาเยี่ยมชมการดำเนินด้านสังคมของวัดห้วยปลากั้ง 
 
 
ได้แก่สถานรับเลี้ยงเด็กด้อยโอกาส และสถานพักพิงสำหรับคนไร้ที่พึ่ง ตลอดจนเยี่ยมชมโรงพยาบาลวัดห้วยปลากั้ง ที่เปิดให้การรักษาแก่ประชาชนรวมถึงพระสงฆ์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งวัดห้วยปลาก้างได้เข้าร่วมโครงการสังฆาภิบาล พระสงฆ์อาพาธ ตามนโยบายรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (ดร.พวงเพ็ชร ชุนละเอียด) ในการให้ความช่วยเหลือพระสงฆ์อาพาธ
 
 
พระไพศาลประชาทร วิ.(พระอาจารย์ พบโชค ติสสะวังโส) เจ้าอาวาสวัดห้วยปลากั้ง กล่าวว่า “โรงพยาบาลวัดห้วยปลากั้งเพื่อสังคม” สร้างขึ้นเพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้ที่เข้าถึงระบบสาธารณสุขได้ยาก โดยที่ผ่านมาวัดห้วยปลากั้ง เป็นสถานที่ทำบุญแบ่งปันสิ่งต่างๆ แก่ประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าว่าจะสามารถรองรับผู้ป่วยทั่วไปได้วันละประมาณ 500 คน และผู้ป่วยด้านทันตกรรมวันละประมาณ 120 คน สิ่งสำคัญคือการให้บริการ เน้นการทำบุญ โดยรับรักษาฟรีไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
 
 
สำหรับโรงพยาบาลวัดห้วยปลากั้งเพื่อสังคม ประกอบด้วย ศูนย์ทันตกรรม ศูนย์โพลีคลินิก ศูนย์ฝึกวิชาชีพ เป็นต้น และให้บริการเฉพาะผู้ป่วยนอกโดยไม่มีบริการนอนพัก ผู้ป่วยฉุกเฉินหรือทั่วไปเข้ารับการตรวจรักษาและกลับบ้านได้ หรือหากอาการหนักจะส่งตัวไปรักษาต่อ ณ สถานพยาบาลใกล้เคียง เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา
 
 
พระไพศาลประชาทร วิ. เจ้าอาวาสวัดห้วยปลากั้ง กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันทางวัดมีการดำเนินการหลายโครงการเพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้ตามแนวทางให้ความเมตตากับคนทุกชนชั้น และหนึ่งในนั้นคือการก่อสร้างโรงพยาบาลวัดห้วยปลากังเพื่อสังคมแห่งนี้ ถือเป็นโรงพยาบาลเอกชนระดับปฐมภูมิและทุติยภูมิ ที่มีรูปทรงอาคารเป็นเรือยาว 108 เมตร สูง 7 ชั้น ขนาด 90 เตียง เพื่อเอาไว้บริการรักษาผู้ที่เจ็บป่วยฟรี รวมถึงพระสงฆ์ที่อาพาธ โรงพยาบาลจะเน้นในเรื่องทันตกรรมและช่องปาก แต่ก็สามารถรับรักษาโรคทั่วไป ด้วยเครื่องมือที่ทันสมัยได้ด้วยเช่นกัน
 
 
ทั้งนี้ จากข้อมูลของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) รายงานว่า ปัจจุบันมีพระภิกษุสงฆ์ ทั้งหมดจำนวน 288,956 รูป อาพาธทั่วประเทศประมาณ 10,000 รูป ซึ่งบางรูปไม่ได้รับการรักษาตามสิทธิ์ขั้นพื้นฐานของ สปสช. บางรูปไม่มีผู้ดูแล พศ. จึงจัดทำโครงการในการให้ความช่วยเหลือพระสงฆ์ ประกอบด้วย โครงการอุดหนุนค่าใช้จ่ายในการสังฆาภิบาลเพื่อพระสงฆ์อาพาธ โครงการกุฎิสงฆ์อาพาธร่วมกับโรงพยาบาลสงฆ์ นอกจากนี้ พศ. ยังสร้างกลไกความร่วมมือในการจัดบริการดูแลพระสงฆ์ ทำสถานชีวาภิบาลสำหรับองค์กรพระพุทธศาสนา รวมถึงให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงฐานข้อมูลของเพื่อตรวจสอบสิทธิ์ในการเข้ารับการรักษาพยาบาล ตามข้อกำหนดของ สปสช.
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

มทบ.37 จัดโครงการ “หนึ่งมื้อกินเจ หมื่นชีวิตรอดตาย”

 

เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 66 เวลา 11.30 พล.ต. บุญญฤทธิ์ เกษตรเวทิน ผอ.ศอ.จอส.พระราชทาน มทบ.37 พร้อมด้วย กำลังพลจิตอาสา มทบ.37 ร่วมกับ พระไพศาลประชาทร วิ. (พระอาจารย์พบโชค) เจ้าอาวาสวัดห้วยปลากั้ง แจกจ่ายอาหารเจ ให้กับประชาชนทั่วไป เพื่อเป็นการช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์กิจกรรมโครงการ “หนึ่งมื้อกินเจ หมื่นชีวิตรอดตาย” ในเทศกาลกินเจ 2566 ซึ่งการปฏิบัติ มทบ.37 ได้สนับสนุนพื้นที่ บริเวณค่ายเม็งรายมหาราช พร้อมกำลังพลจิตอาสา พร้อมอุปกรณ์ สำหรับประกอบอาหาร, สนับสนุนเจ้าหน้าที่ สห. อำนวยความสะดวกด้านการจราจร ในพื้นที่ดำเนินโครงการฯ, การจัดเตรียมถุงอาหารเจสำเร็จสำหรับห่อกลับบ้าน, การจัดพื้นที่อำนวยความสะดวกเพื่อแจกอาหารเจฟรี ตลอดจนเป็นสถานที่รับประทานอาหารสำหรับประชาชนโดยทั่วไปที่มาร่วมงานเทศกาลฯ ตั้งแต่วันที่ 15 – 23 ต.ค. 66 เวลา 09.00 – 17.00 น. ณ บริเวณพื้นที่สถานี สห. มทบ.37 ค่ายเม็งรายมหาราช อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

‘พิสันต์’ นำเจ้าหน้าที่ถวายวัตถุดิบโรงทาน วัดห้วยปลากั้ง “พบโชค พบบุญ”

 

     นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย นางพัชรนันท์ แก้วจินดา ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม นางพรทิวา ขันธมาลา ผู้อำนวยการกลุ่มยุทธศาสตร์และเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม ข้าราชการและบุคลากรสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ร่วมมอบถวายผักและวัตถุดิบสำหรับประกอบอาหารเจเพื่อแจกจ่ายให้พุทธศาสนิกชนและประชาชนช่วงเทศกาลกินเจ ในวันพุธที่ 18 ตุลาคม 2566 เวลา 11.00 น. ณ โรงทานวัดห้วยปลากั้ง “พบโชค พบบุญ” พระไพศาลประชาทร วิ. (พบโชค ติสฺสวํโส) บริเวณสามแยกดอยทอง ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย

 

     จัดโดย วัดห้วยปลากั้ง ร่วมกับ มณฑลทหารบกที่ 37 เพื่อแจกจ่าย บริการอาหารเจให้แก่พุทธศาสนิกชนและประชาชนช่วงของเทศกาลกินเจ หรือ ประเพณีถือศีลกินผัก ในปีพุทธศักราช 2566 เทศกาลกินเจจะตรงกับวันที่ 15 – 23 ตุลาคม 2566 ซึ่งการบริโภคอาหารประเภทผักที่ไม่มีของสดของคาวผสม กำหนดเอาวันตามจันทรคติ คือ เริ่มต้นตั้งแต่วันขึ้น 1 ค่ำ ถึง ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 ตามปฏิทินจีนของทุกปี รวม 9 วัน โดยในปีนี้จะตรงกับเดือนตุลาคมของไทย โดยมีวัตถุประสงค์หลัก 3 ประการ คือ

 

  1. กินเพื่อสุขภาพ อาหารเจเป็นอาหารประเภทชีวจิต เมื่อกินติดต่อกันไปช่วงเวลาหนึ่งจะทำให้ร่างกายเกิดการปรับตัวให้อยู่ในสภาวะสมดุล สามารถขับพิษของเสียต่างๆ ออกจากร่างกายได้ ปรับระบบไหลเวียนโลหิต ระบบทางเดินอาหารให้มีเสถียรภาพ
  2. กินด้วยจิตเมตตา เนื่องจากอาหารที่เรากินอยู่ในชีวิตประจำวัน ประกอบด้วยเลือดเนื้อของสรรพสัตว์ ผู้มีจิตเมตตา มีคุณธรรมและมีจิตสำนึกอันดีงามย่อมไม่อาจกินเลือดเนื้อของสัตว์เหล่านั้นซึ่งมีเลือดเนื้อ จิตใจและที่สำคัญมีความรักตัวกลัวตายเช่นเดียวกับคนเรา
  3. กินเพื่อเว้นกรรม ผู้ที่เข้าใจอย่างลึกซึ้งย่อมตระหนักว่าการกินซึ่งอาศัยการฆ่าเพื่อเอาเลือดเนื้อผู้อื่นมาเป็นของเราเป็นการสร้างกรรม แม้ว่าจะไม่ได้เป็นผู้ลงมือฆ่าเองก็ตาม การซื้อจากผู้อื่นก็เหมือนกับการจ้างฆ่าเพราะถ้าไม่มีคนกินก็ไม่มีคนฆ่ามาขาย (ถ้าไม่ฆ่าไม่ขายก็ไม่มีคนกิน) กรรมที่สร้างนี้จะติดตามสนองเราในไม่ช้าทำให้สุขภาพร่างกายอายุขัยของเราสั้นลงเป็นบ่อเกิดของโรคภัยไข้เจ็บ เมื่อผู้หยั่งรู้เรื่องกฎแห่งกรรมนี้จึงหยุดกินหยุดฆ่าหันมารับประทานอาหารเจ ซึ่งทำให้ร่างกายเติบโตได้เหมือนกัน โดยไม่เห็นแก่ความอร่อยช่วงเวลาสั้นๆ เพียงแค่อาหารผ่านลิ้นเท่านั้น
  4.  

     สำหรับ “เจ” ในภาษาจีนทางพุทธศาสนานิกายมหายานมีความหมายเดียวกับคำว่า อุโบสถ ดังนั้นการกินเจก็คือการรับประทานอาหารก่อนเที่ยงวัน เหมือนกับที่ชาวพุทธในประเทศไทยที่ถืออุโบสถศีล หรือรักษาศีล 8 โดยไม่รับประทานอาหารหลังจากเที่ยงวันไปแล้ว แต่เนื่องจากการถืออุโบสถศีลของชาวพุทธนิกายมหายานที่ไม่กินเนื้อสัตว์ จึงนิยมนำการไม่กินเนื้อสัตว์ไปรวมกันเข้ากับคำว่ากินเจ กลายเป็นการถือศีลกินเจ ในปัจจุบันผู้ที่รับประทานอาหารทั้ง 3 มื้อแต่ไม่กินเนื้อสัตว์ก็ยังคงเรียกว่ากินเจ ฉะนั้นความหมายก็คือคนกินเจมิใช่เพียงแต่ไม่กินเนื้อสัตว์ แต่ยังต้องดำรงตนอยู่ในศีลธรรมอันดีงาม มีความบริสุทธิ์ สะอาด ทั้งกาย วาจา ใจ สำหรับการปฏิบัติตนในช่วงเทศกาลกินเจ 9 วัน 9 คืน ผู้ที่ต้องการกินเจอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ตามประเพณีการกินเจจะต้องปฏิบัติดังนี้

 

  1. รับประทาน “อาหารเจ”
  2. งดอาหารรสจัด ซึ่งหมายถึงอาหารเผ็ด หวานมาก เปรี้ยวมาก เค็มมาก งดผักที่มีกลิ่นฉุนทั้งหลาย แยกภาชนะสำหรับอาหารเจเท่านั้น
  3. รักษาศีลห้า
  4. รักษาจิตใจให้บริสุทธิ์ รักษาอารมณ์ ไม่พูดคำหยาบคาย รวมถึงงดการมีเพศสัมพันธ์ ทำบุญทำทาน ไหว้พระ สวดมนต์
  5. นุ่งขาวห่มขาวตลอดเทศกาลกินเจ และควรแต่งกายชุดขาวเข้าร่วมพิธีกรรมต่าง ๆ ในแต่ละศาลเจ้า
  6.  

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สนง.วัฒนธรรม เชียงราย

พัชรนันท์ แก้วจินดา, สุพจน์ ทนทาน : รายงาน

พร้อมพงษ์ ทาสิทธิ์ : ภาพ

อภิชาต กันธิยะเขียว : บรรณาธิการ

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

ในหลวง โปรดเกล้าฯ ให้ผู้แทนพระองค์เชิญเครื่องสังฆทาน ผ้าไตร และเครื่องไทยธรรมพระราชทานแด่พระสงฆ์ เจ้าอาวาสวัดห้วยปลากั้ง

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เชิญผ้าไตรพร้อมเครื่องสังฆทานพระราชทานไปถวายแด่เจ้าอาวาสวัดต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.ต.สุพิชัย สุนทรบุระ รองเลขาธิการพระราชวัง (5) เชิญผ้าไตรพร้อมเครื่องสังฆทานพระราชทาน และเครื่องเขียนพระราชทาน ไปถวายแด่ พระไพศาลประชาทร วิ. (พบโชค ติสฺสวํโส) เจ้าอาวาสวัดห้วยปลากั้ง ในวันศุกร์ ที่ 29 กันยายน 2566 เวลา 14.30 น. ณ วัดห้วยปลากั้ง ตำบลแม่ยาว อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย

 

พระไพศาลประชาทร วิ. (พบโชค ติสฺสวํโส) เจ้าอาวาสวัดห้วยปลากั้ง เป็นประธานในพิธีสงฆ์ และเมตตากล่าวสัมโมทนียกถานายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย มอบหมายให้ นายศรัณยู มีทองคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย นายบุญธรรม ทองพิจิตร นายอำเภอเมืองเชียงราย หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ และพุทธศาสนิกชน เข้าร่วมพิธีฯ อย่างพร้อมเพรียง

 

ในโอกาสมงคลนี้ นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย นายพิพัฒน์ สุ่มมาตย์ นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ นายสุพจน์ ทนทาน นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ นายยุทธนา สุทธิสม นักวิชาการวัฒนธรรมปฏิบัติการ นายนิติกร ปันแก้ว นักวิชาการวัฒนธรรมปฏิบัติการ นายสานุพงศ์ สันทราย นักวิชาการวัฒนธรรมปฏิบัติการ และ นายพร้อมพงษ์ ทาสิทธิ์ ข้าราชการและบุคลากรสำนักวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย เข้าร่วมพิธี อำนวยความสะดวกแด่คณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชน ทั้งนี้ การดำเนินงานพิธีฯ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและบรรลุผลสำเร็จทุกประการ

 

 

ประวัติ พระไพศาลประชาทร วิ. มีนามเดิมว่า พบโชค มาไพศาลกิจ เกิดเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2502 บ้านตลาดสำรอง ตำบลพังตรุ อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี พระคุณท่านได้สมณศักดิ์ เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญยก ฝ่ายวิปัสสนาธุระ สำหรับการจัดตั้งวัดได้เริ่มก่อตั้งสำนักสงฆ์ห้วยปลากั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2544 และจนกระทั้งเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2548 พระคุณท่านได้เดินทางมาปฏิบัติธรรมและเริ่มมีการก่อตั้งศาสนวัตถุ เริ่มแต่กุฏิสงฆ์ ศาลาการเปรียญ หอฉัน เจดีย์และเมื่อ วันที่ 24 กรกฎาคม 2552 ทางสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้มีประกาศแต่งตั้งให้เป็นวัดโดยชื่อว่า วัดห้วยปลากั้ง ปัจจุบันวัดห้วยปลากั้งเป็นวัดที่มีศรัทธา จากต่างจังหวัด ต่างประเทศ เข้ามากราบไหว้นมัสการ และปฏิบัติธรรมเป็นจำนวนมาก ถือเป็นจุดกำเนิดพุทธศาสนาในเชียงรายแห่งหนึ่งที่สำคัญ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดเชียงราย และพระคุณท่านได้จัดสร้างโรงพยาบาลห้วยปลากั้ง ขึ้นเพื่อเป็นโรงพยาบาลเพื่อประชาชน และนอกจากนี้ยังบำเพ็ญประโชยน์ต่อชุมชนด้านสังคมสงเคราะห์อีกด้วย

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สนง.วัฒนธรรม เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News