Categories
SPORT

AIS ยืนยัน ดูบอลไทยลีกฟรี 3 พันธมิตรทุ่ม 500 ล้านบาท

AIS-GULF-JAS ประกาศคว้าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดไทยลีก 4 ฤดูกาลเต็ม ดูฟรีทั่วประเทศ ยกระดับฟุตบอลไทยสู่มาตรฐานโลก

กรุงเทพฯ,10 มิถุนายน 2568 – ประเทศไทยกำลังเดินหน้าเข้าสู่ยุคใหม่ของการพัฒนาวงการฟุตบอลอย่างเป็นรูปธรรม เมื่อ 3 พันธมิตรยักษ์ใหญ่แห่งวงการดิจิทัล เทคโนโลยี และพลังงาน ได้แก่ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS, บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF และบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ร่วมกันประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญ คว้าสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพของประเทศไทยอย่างครอบคลุมทุกระดับ

พิธีแถลงข่าวจัดขึ้นที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ โดยมี “มาดามแป้ง” นางนวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ร่วมกับผู้บริหารระดับสูงของทั้งสามบริษัท ได้แก่ นายสารัชถ์ รัตนาวะดี (GULF), นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ (AIS) และ ดร.โสรัชย์ อัศวะประภา (JAS) ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ในการผลักดันฟุตบอลไทยให้เข้าถึงผู้ชมทุกกลุ่ม ด้วยระบบการถ่ายทอดสดความคมชัดระดับ HD ผ่านช่องทางที่ครอบคลุมทั้งทีวีและดิจิทัลแพลตฟอร์ม

ประกาศชัด คนไทยดูบอลฟรีทั้งประเทศ

หนึ่งในไฮไลต์ของงาน คือคำยืนยันจากนายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ซีอีโอ AIS ว่า “วันนี้ขอประกาศอย่างเป็นทางการว่า คนไทยทุกคนจะสามารถรับชมการแข่งขันไทยลีกได้ฟรี” โดยการรับชมจะสามารถทำได้ผ่าน AIS PLAY บนมือถือหรือเน็ตบ้าน และผ่านสถานีโทรทัศน์ MONO29 รวมถึงแพลตฟอร์ม Monomax ซึ่ง JAS เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ถือเป็นการปักหมุดให้ไทยเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่ประชาชนสามารถชมฟุตบอลลีกอาชีพได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

500 ล้านบาทต่อปี กับภารกิจยกระดับลีกฟุตบอลไทย

“มาดามแป้ง” เปิดเผยว่า การประมูลครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าที่แท้จริงของฟุตบอลไทย โดยพันธมิตรทั้ง 3 รายยินดีจ่ายค่าลิขสิทธิ์รวม 350 ล้านบาทต่อปี และยังร่วมออกค่าโปรดักชั่นอีก 150 ล้านบาท รวมมูลค่าการสนับสนุนสูงถึง 500 ล้านบาทต่อปี เป็นเวลา 4 ฤดูกาล ตั้งแต่ปี 2025/26 – 2028/29 พร้อมออปชันต่ออายุอีก 2 ฤดูกาล

ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นการวางรากฐานให้กับระบบถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยลีกทั้ง ไทยลีก 1, ไทยลีก 2, ไทยลีก 3, ฟุตบอลถ้วย (เอฟเอ คัพ, ลีก คัพ), ฟุตบอลหญิงลีก, ฟุตบอลเยาวชน U-21 และอื่น ๆ ที่ไม่เคยได้รับการเผยแพร่เต็มรูปแบบเช่นนี้มาก่อน

จากสนามสู่ทุกครัวเรือน วิสัยทัศน์จากพันธมิตรหลัก

นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ซีอีโอ GULF กล่าวถึงบทบาทของตนว่า “ฟุตบอลก็เหมือนโรงงานขนาดใหญ่ที่ประกอบด้วยผู้เล่น โค้ช เจ้าหน้าที่ และแฟนบอลรวมหลายหมื่นชีวิต GULF ต้องการเป็นแรงสนับสนุนเพื่อให้ทุกคนในระบบนี้เดินหน้าต่อไปได้” พร้อมระบุว่า ความตั้งใจของ GULF คือให้การถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยเข้าถึงทุกคนทั่วประเทศอย่างแท้จริง โดยเฉพาะในไทยลีก 2 และ 3 ที่มักถูกละเลยในอดีต

ขณะที่ ดร.โสรัชย์ อัศวะประภา จาก JAS เน้นย้ำว่า ความร่วมมือครั้งนี้จะไม่เพียงเป็นเรื่องของการถ่ายทอดสดเท่านั้น แต่ยังมีเป้าหมายร่วมกับ พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ในการส่งเสริมศักยภาพของฟุตบอลไทยใน 3 ด้าน ได้แก่ นักกีฬา, ผู้ตัดสิน, และ ผู้ฝึกสอน เพื่อยกระดับมาตรฐานทั้งระบบ โดยเน้นความยั่งยืนและการพัฒนาในระยะยาว

เมื่อฟุตบอลไทยไม่ใช่แค่กีฬา แต่คือระบบนิเวศน์เศรษฐกิจและวัฒนธรรม

การประกาศครั้งนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของวงการกีฬาไทย เพราะฟุตบอลไม่ใช่เพียงเกมกีฬา แต่ยังเป็นกลไกเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงผู้ประกอบการรายย่อย ชุมชนท้องถิ่น แฟนบอล และภาคอุตสาหกรรมบันเทิงในวงกว้าง

การเปิดให้คนไทยรับชมฟรี อาจส่งผลต่อรูปแบบรายได้ของสมาคมฯ ในระยะสั้น แต่ในระยะยาวจะช่วยเพิ่มฐานผู้ชม เกิดการกระจายรายได้จากสินค้าและบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขัน เช่น ตั๋วเข้าชม สนามกีฬา อีเวนต์เชิงกีฬา และการค้าปลีก

ในขณะเดียวกัน การที่พันธมิตรด้านเทคโนโลยีรายใหญ่ของประเทศ เช่น AIS และ JAS เข้ามาเป็นผู้ขับเคลื่อน ย่อมส่งผลให้คุณภาพของระบบการถ่ายทอดสด และช่องทางการเข้าถึงได้รับการยกระดับแบบก้าวกระโดด ไม่ว่าจะผ่านเน็ตมือถือ, สมาร์ตทีวี หรือแอปพลิเคชัน OTT

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ
  • บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)
  • บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
  • บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)
  • สถานีโทรทัศน์ MONO29 และแพลตฟอร์ม Monomax
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
NEWS UPDATE

นิด้าโพล เผยผลสำรวจ 5 อันดับ ทีมบอลของอังกฤษ – ไทย ที่ชื่นชอบ

 

เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2567 ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ฤดูกาล 2024 – 2025 และฟุตบอลไทยลีก 1 ฤดูกาล 2567-2568” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 6-9 สิงหาคม 2567 จากประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 2,500 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการติดตามฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ฤดูกาล 2024-2025 และฟุตบอลไทยลีก 1 ฤดูกาล 2567-2568  การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0

 

          จากการสำรวจเมื่อถามถึงการติดตามฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 50.04 ระบุว่า ไม่ติดตาม ขณะที่ร้อยละ 49.96   ระบุว่า ติดตาม โดยตัวอย่างที่ติดตามฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ (จำนวน 1,249 หน่วยตัวอย่าง) ร้อยละ 80.78 ระบุว่า ติดตามเป็นครั้งคราว และร้อยละ 19.22 ระบุว่า ติดตามสม่ำเสมอ

 

          เมื่อถามตัวอย่างที่ติดตามฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ (จำนวน 1,249 หน่วยตัวอย่าง) เกี่ยวกับทีมที่ชื่นชอบมากที่สุดในการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ฤดูกาล 2024-2025 พบว่า

  1. ร้อยละ 27 ระบุว่า ทีมลิเวอร์พูล (Liverpool) รองลงมา
  2. ร้อยละ 90 ระบุว่า ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Manchester United)
  3. ร้อยละ 89 ระบุว่า ทีมอาร์เซนอล (Arsenal)
  4. ร้อยละ 81 ระบุว่า ทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City)
  5. ร้อยละ 16  ระบุว่า ทีมเชลซี (Chelsea)
  6. ร้อยละ 68 ระบุว่า ทีมเลสเตอร์ ซิตี้ (Leicester City)
  7. ร้อยละ 52 ระบุว่า ทีมอื่น ๆ ได้แก่ ทีมนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด (Newcastle United) ทีมน็อตติงแฮม ฟอเรสต์ (Nottingham Forest) ทีมท็อตแนม ฮอตสปอร์ส (Tottenham Hotspur) ทีมแอสตัน วิลลา (Aston Villa) ทีมเอฟเวอร์ตัน (Everton) ทีมไบรตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน (Brighton & Hove Albion) ทีมเวสต์แฮม ยูไนเต็ด (West Ham United) และทีมวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส (Wolverhampton Wanderers)
  8. และร้อยละ 77 ระบุว่า ไม่ชอบทีมใดเป็นพิเศษ

 

          สำหรับการติดตามฟุตบอลไทยลีก 1 พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 58.04 ระบุว่า ไม่ติดตาม ขณะที่ร้อยละ 41.96 ระบุว่า ติดตามโดยตัวอย่างที่ติดตามฟุตบอลไทยลีก 1 (จำนวน 1,049 หน่วยตัวอย่าง) ร้อยละ 86.65 ระบุว่า ติดตามเป็นครั้งคราว และร้อยละ 13.35 ระบุว่าติดตามสม่ำเสมอ

 

          เมื่อถามตัวอย่างที่ติดตามฟุตบอลไทยลีก 1 (จำนวน 1,049 หน่วยตัวอย่าง) เกี่ยวกับทีมที่ชื่นชอบมากที่สุดในการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก 1 ฤดูกาล 2567-2568 พบว่า

  1. ร้อยละ 75 ระบุว่า ทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
  2. ร้อยละ 96 ระบุว่า ทีมเมืองทอง ยูไนเต็ด
  3. ร้อยละ 53 ระบุว่า ทีมการท่าเรือ เอฟซี
  4. ร้อยละ 48 ระบุว่า ทีมบีจี ปทุม ยูไนเต็ด
  5. ร้อยละ 34 ระบุว่า ทีมสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด และทีมนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ในสัดส่วนที่เท่ากัน
  6. ร้อยละ 00 ระบุว่า ทีมขอนแก่น ยูไนเต็ด
  7. ร้อยละ 91 ระบุว่า ทีมราชบุรี เอฟซี
  8. ร้อยละ 05 ระบุว่า ทีมสุโขทัย เอฟซี
  9. ร้อยละ 76 ระบุว่า ทีมอื่น ๆ ได้แก่ ทีมระยอง เอฟซี ทีมหนองบัวพิชญ เอฟซี ทีมทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ทีมอุทัยธานี เอฟซี ทีมลำพูน วอริเออร์ ทีมพีที ประจวบ และทีมนครปฐม ยูไนเต็ด
  10. และร้อยละ 88 ระบุว่า ไม่ชอบทีมใดเป็นพิเศษ

 

          เมื่อพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 8.48 มีภูมิลำเนาอยู่กรุงเทพฯ ร้อยละ 18.60 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคกลาง ร้อยละ 17.80 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคเหนือ ร้อยละ 33.40 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยละ 13.92 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคใต้ และร้อยละ 7.80 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคตะวันออก ตัวอย่าง ร้อยละ 48.20 เป็นเพศชาย และร้อยละ 51.80 เป็นเพศหญิง

 

          ตัวอย่าง ร้อยละ 16.16 มีอายุ 15-25 ปี ร้อยละ 17.16 มีอายุ 26-35 ปี ร้อยละ 17.48 มีอายุ 36-45 ปี ร้อยละ 25.44 มีอายุ 46-59 ปี และร้อยละ 23.76 มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ตัวอย่าง ร้อยละ 96.00 นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ 3.24 นับถือศาสนาอิสลาม และร้อยละ 0.76 นับถือศาสนาคริสต์ และศาสนาอื่น ๆ ตัวอย่าง ร้อยละ 38.20 สถานภาพโสด ร้อยละ 59.96 สมรส และร้อยละ 1.84 หม้าย หย่าร้าง แยกกันอยู่

 

          ตัวอย่าง ร้อยละ 16.52 จบการศึกษาประถมศึกษาหรือต่ำกว่า ร้อยละ 38.04 จบการศึกษามัธยมศึกษาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 8.72 จบการศึกษาอนุปริญญาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 30.92 จบการศึกษาปริญญาตรีหรือเทียบเท่า และร้อยละ 5.80 จบการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า 

 

          ตัวอย่าง ร้อยละ 10.08 ประกอบอาชีพข้าราชการ/ลูกจ้าง/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 17.48 ประกอบอาชีพพนักงานเอกชน ร้อยละ 21.92 ประกอบอาชีพเจ้าของธุรกิจ/อาชีพอิสระ ร้อยละ 8.84 ประกอบอาชีพเกษตรกร/ประมง ร้อยละ 13.72 ประกอบอาชีพ รับจ้างทั่วไป/ผู้ใช้แรงงาน ร้อยละ 19.92 เป็นพ่อบ้าน/แม่บ้าน/เกษียณอายุ/ว่างงาน และร้อยละ 8.04 เป็นนักเรียน/นักศึกษา

 

          ตัวอย่าง ร้อยละ 23.76 ไม่มีรายได้ ร้อยละ 16.48 มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนไม่เกิน 10,000 บาท ร้อยละ 29.76 มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 10,001-20,000 บาท ร้อยละ 10.08 มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 20,001-30,000 บาท ร้อยละ 5.40 มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 30,001-40,000 บาท ร้อยละ 5.56 มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 40,001 บาทขึ้นไป และร้อยละ 8.96 ไม่ระบุรายได้

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News