Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

สาธารณสุขนิเทศ เปิดศูนย์ช่วยเหลือ ทางด้านจิตใจ แรงงานไทยในอิสราเอล

 

เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2566 แพทย์หญิงบุญศิริ จันศิริมงคล รักษาการสาธารณสุขนิเทศก์ เขตสุขภาพที่ 1 เป็นประธานเปิดศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ด้านการแพทย์และสาธารณสุข (ศูนย์ EOC) กรณีได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศอิสราเอล โดยมีนายแพทย์วัชรพงษ์ คำหล้า นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย นำผู้เข้าร่วมพิธีเปิดประกอบด้วย คณะผู้บริหาร สาธารณสุขอำเภอ โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ โรงพยาบาลชุมชน และคณะทำงานกลุ่มภารกิจต่างๆ ร่วมพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ ที่ภายในสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย ตำบลท่าสาย อำเภอเมืองเชียงราย

 

จากกรณีเหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศอิสราเอล ส่งผลให้แรงงานไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศอิสราเอล ได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก และกระทรวงสาธารณสุขเป็นหน่วยสนับสนุนในการช่วยเหลือทางด้านจิตใจผู้ที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งหมายถึงแรงงานที่เดินทางกลับจากประเทศอิสราเอล ญาติ และครอบครัว จังหวัดเชียงรายมีแรงงานไทยที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ความไม่สงบ จำนวน 2,174 คน มากเป็นอันดับสองของประเทศ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย จึงได้มีการเปิดศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขขึ้น
 
 
แพทย์หญิงบุญศิริ จันศิริมงคล รักษาการสาธารณสุขนิเทศเขตสุขภาพที่ 1 กล่าวว่า “ทีม MCATT” หรือ “ทีมสหวิชาชีพที่ให้การช่วยเหลือทางด้านจิตใจผู้ประสบภาวะวิกฤต” ของจังหวัดเชียงราย ทั้ง 18 อำเภอ ได้จัดทีมลงพื้นที่เยี่ยมบ้าน และดูแลจิตใจคนไทยที่กลับมาถึงภูมิลำเนาแล้วทุกครอบครัว ส่วนคนไทยในอิสราเอลที่ยังไม่กลับมานั้น ทางครอบครัวยังเฝ้ารอ และต้องติดตามข่าวความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีทั้งความเครียด ความกังวล ความกลัว ทั้งนี้ได้มอบให้ทีม MCATT จังหวัดเชียงราย ติดตามให้การดูแลอย่างใกล้ชิด โดยขณะนี้แรงงานไทยได้เดินทางกลับบ้านอย่างต่อเนื่อง จึงอยากให้ประชาชนแสดงความห่วงใยถามไถ่อย่างเหมาะสม ” ในหลัก 3 ไม่ ” ได้แก่ ไม่ถามซ้ำ ถึงเหตุการณ์ความรุนแรง เพื่อไม่ให้สร้างรอยแผลอันจะนำไปสู่ความเสียใจ, ไม่ตอกย้ำ ถึงขั้นตอน สถานที่การดำเนินชีวิต หรือลำดับเหตุการณ์อันจะทำให้คิดถึงภาพความรุนแรงที่ยังติดอยู่ในความคิด และ ไม่รื้อพื้น ถึงการตัดสินใจไปทำงาน
 
 
ด้าน นายแพทย์วัชรพงษ์ คำหล้า นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ทีม MCATT จังหวัดเชียงราย ได้ลงพื้นที่เยียวยาจิตใจผู้ได้รับผลกระทบ จำนวน 3,473 ราย โดยจัดกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบ 3 กลุ่ม แยกเป็นกลุ่ม A คือ ผู้บาดเจ็บ/ตัวประกัน/ผู้สูญหาย รวมถึงญาติของผู้เสียชีวิต และผู้ที่ได้รับผลกระทบข้างต้น จำนวน 33 คน (เสียชีวิต 1 ราย, บาดเจ็บ 1 ราย, สูญหาย 1 ราย และกลุ่มญาติ 30 ราย) กลุ่ม B คือ แรงานไทยในพื้นที่เสี่ยงสูงหรือปานกลาง รวมถึงญาติของกลุ่มดังกล่าวจำนวน 3,397 คน (หมายถึง กลุ่มผู้ไม่บาดเจ็บที่กลับมาแล้ว 164 ราย กลุ่มคนไทยที่ยังอยู่ในอิสราเอล 953 ราย กลุ่มญาติของคนไทยในอิสราเอลที่ยังไม่กลับมา และกลับมาแล้ว 2,280 ราย) กลุ่ม C คือ ประชาชนที่รับรู้เหตุการณ์ และผู้ปฏิบัติงาน จำนวน 43 คน ทีม MCATT ได้ ดำเนินการประเมินความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพจิต และเยียวยาจิตใจด้วยการให้ปฐมพยาบาลทางใจเบื้องต้น การจัดการความเครียด และภาวะวิกฤตทางใจ เพื่อลดความเจ็บป่วยด้านจิตใจในอนาคต ซึ่งจังหวัดเชียงรายได้กำหนดแนวทางการดูแลจิตใจแรงงานไทย ในสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอลใน แต่ละกลุ่มออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะวิกฤต (Impact Phase), ระยะปรับตัว ( Post-Impact Phase) และ ระยะฟื้นฟู (Recovery Phase)
 
 
จากนั้นได้ลงพื้นที่ ต.ห้วยสัก อ.เมือง จ.เชียงราย เยี่ยมให้กำลังใจญาติแรงงานไทยในประเทศอิสราเอล ร่วมกับนายวิรัตน์ วงศ์มา แรงงานจังหวัดเชียงราย นายโสภณ แก้วล้อมทรัพย์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงราย
ทั้งนี้ ด้านแรงงานจังหวัดเชียงรายและพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงราย ได้ให้ความมั่นใจว่า หากแรงงานไทยที่ทำงานอยู่ประเทศอิสราเอลให้กลับมาตั้งหลักที่ประเทศไทยบ้านเกิดก่อน หากเหตุการณ์สงบรัฐบาลไทยพร้อมจะสนับสนุนให้กลับไปทำงานใหม่อีกครั้งอย่างสุดความสามารถ
 
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
NEWS UPDATE

พม. ส่งทีมสหวิชาชีพ ร่วมรับแรงงานไทย กลับจากอิสราเอล ทุกไฟลท์บิน

 

 

วันนี้ (18 ต.ค. 66) เวลา 15.00 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยถึงกรณีกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ส่งเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพและทีมนักจิตวิทยา ร่วมดูแลเยียวยาแรงงานไทยที่เดินทางกลับจากประเทศอิสราเอล ว่า กระทรวง พม. ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าร่วมปฏิบัติการรับแรงงานไทยทุกเที่ยวบิน ซึ่งเราจะมีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ที่สนามบิน ซึ่งทุกจังหวัดที่เราได้รับรายงานว่า มีสมาชิกของคนในครอบครัวเดินทางไปทำงานที่ประเทศอิสราเอล ขณะนี้สามารถยืนยันผู้เสียชีวิต โดยการพิสูจน์อัตลักษณ์ได้เพียง 1 ราย แต่ผู้เสียชีวิตมีจำนวนมากกว่านั้น ทั้งนี้ การยืนยันอัตลักษณ์ของแต่ละราย ยังเป็นไปได้ด้วยความล่าช้า เพราะมีหลายประเทศที่ประสบปัญหาเช่นเดียวกับประเทศไทยในการขอข้อมูลจากทางการอิสราเอล ซึ่งกำลังเร่งติดตามอยู่ทุกนาที 

 

          นายวราวุธ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บที่กระทรวง พม. ต้องเข้าไปดูแลเยียวยาสภาพจิตใจไปพร้อมกับหลายหน่วยงานที่ให้การสนับสนุนทั้งเรื่องเงินชดเชยเยียวยาต่าง ๆ โดยงานสำคัญของกระทรวง พม. คือการเยียวยาสภาพจิตใจ ว่าแต่ละคนได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง อย่างไรก็ตาม บางปัญหาไม่สามารถแก้ไขได้ในเวลาชั่วข้ามคืน แต่การที่มีคนเข้าพูดคุย นั่งฟัง เพื่อให้เขาได้ระบายความรู้สึกต่าง ๆ เหล่านั้น ดีกว่าเก็บขังเอาไว้ภายในใจ และจะช่วยบรรเทาความเครียดได้ในระดับหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม บางรายไม่ต้องการให้เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือเยียวยา และมีบางรายที่แจ้งความจำนงว่าอยากจะเข้ามาพูดคุยปรึกษากับทาง พม. จังหวัด ซึ่งกระทรวง พม. จะส่งเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพและนักจิตวิทยาเข้าเยี่ยมแต่ละบ้าน เพื่อให้ได้ร่วมพูดคุย แลกเปลี่ยนความรู้สึก 

 

        นายวราวุธ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ กระทรวง พม. ทำงานปฏิบัติการร่วมกับกรมสุขภาพจิตกระทรวงสาธารณสุข และการกลับมาถึงของพี่น้องแรงงานไทยในแต่ละครั้งนั้นเป็นจำนวนหลักร้อย แต่การทยอยเข้ามาของแรงงานไทย ทำให้สรรพกำลังที่เรามีอยู่ขณะนี้ยังสามารถรับมือได้ อย่างไรก็ตาม ขอขอบคุณนายกรัฐมนตรี และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงกลาโหม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงแรงงาน ที่ดำเนินการร่วมกันอย่างเต็มที่ ถึงแม้ขณะนี้ นายกรัฐมนตรีปฏิบัติภารกิจอยู่ต่างประเทศ แต่จะโทรศัพท์กลับมาติดต่อกับทุกหน่วยงานด้วยตัวท่านเอง และคอยสอบถามความคืบหน้าการทำงานอยู่ตลอด ซึ่งต้องขอขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่คอยติดตามงาน

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News