Categories
NEWS UPDATE

กระทรวงดีอีเผยภัยออนไลน์ สร้างความเสียหาย 1.9 หมื่นล้านบาท

กระทรวงดีอีเผย มูลค่าความเสียหายจากการหลอกลวงออนไลน์ พุ่งสูงถึง 1.9 หมื่นล้านบาทใน 1 ปี

เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2567 กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยข้อมูลที่น่าตกใจ เกี่ยวกับการหลอกลวงออนไลน์ที่เกิดขึ้นตลอดช่วงระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา โดยมี นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอีฯ เป็นประธานในการแถลงข่าว ณ ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (AOC) โดยเปิดเผยว่า มูลค่าความเสียหายจากการหลอกลวงทางออนไลน์สูงถึง 19,000 ล้านบาท ในช่วงระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2566 ถึงเดือนตุลาคม 2567

ยอดการแจ้งเหตุพุ่งสูง การหลอกลวงออนไลน์หลากหลายรูปแบบ

จากสถิติของศูนย์ AOC ในระยะเวลา 1 ปี มีผู้โทรเข้าสายด่วน 1441 จำนวน 1,176,512 สาย และมีการระงับบัญชีที่ต้องสงสัยรวม 348,006 เคส โดยกลุ่มอายุที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ กลุ่มวัยทำงานอายุ 20-49 ปี มีจำนวนสูงถึง 145,302 เคส คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 8,223 ล้านบาท โดยผู้หญิงตกเป็นเหยื่อมากที่สุดถึง 64.05% โดยส่วนใหญ่ถูกหลอกในรูปแบบการโอนเงินเพื่อหารายได้พิเศษและการลงทุนออนไลน์

ช่องทางยอดนิยมที่มิจฉาชีพใช้หลอกลวงประชาชน

  • Facebook พบเคสการหลอกลวงถึง 26,804 เคส คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 718 ล้านบาท
  • Call Center มีจำนวน 22,299 เคส มูลค่าความเสียหาย 945 ล้านบาท
  • เว็บไซต์ต่างๆ ถูกใช้เป็นช่องทางหลอกลวงถึง 16,510 เคส คิดเป็นมูลค่า 1,148 ล้านบาท
  • TikTok มีการหลอกลวง 994 เคส มูลค่า 65 ล้านบาท
  • ช่องทางอื่นๆ รวมทั้งสิ้น 20,518 เคส มูลค่าความเสียหาย 1,262 ล้านบาท

กลุ่มจังหวัดที่มีการแจ้งเหตุสูงสุด

  1. กรุงเทพมหานคร มีการแจ้งเหตุ 84,241 ครั้ง และระงับบัญชีได้ 48,558 บัญชี
  2. สมุทรปราการ มีการแจ้งเหตุ 17,853 ครั้ง และระงับบัญชีได้ 10,968 บัญชี
  3. นนทบุรี, ชลบุรี และปทุมธานี ตามลำดับ

กระทรวงดีอี เร่งดำเนินมาตรการป้องกันอาชญากรรมออนไลน์อย่างต่อเนื่อง

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ย้ำว่า กระทรวงดีอีมุ่งมั่นในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์อย่างเป็นรูปธรรม โดยการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนในสังคม พร้อมเร่งรัดมาตรการที่มีประสิทธิภาพเพื่อยับยั้งแก๊งมิจฉาชีพและลดผลกระทบที่เกิดขึ้น

ข้อแนะนำเพื่อป้องกันภัยออนไลน์

กระทรวงดีอีแนะนำประชาชนให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลส่วนตัวแก่บุคคลที่ไม่รู้จัก หลีกเลี่ยงการโอนเงินให้กับแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ รวมถึงการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์และแอปพลิเคชันก่อนทำธุรกรรมทางการเงิน ทั้งนี้ หากพบว่ามีการหลอกลวงหรือการกระทำที่น่าสงสัย สามารถแจ้งเหตุได้ที่สายด่วน 1441 หรือผ่านช่องทางออนไลน์ของศูนย์ AOC

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
FOLLOW ME
MOST POPULAR
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ดีอี – ไปรษณีย์ จับมือ พาณิชย์ ส่งพัสดุสู่ร้านธงฟ้ากว่า 20,000

 

เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2567 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นสักขีพยานในพิธีลงนาม MOU ความร่วมมือโครงการไปรษณีย์ไทย @ธงฟ้า ระหว่างกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ และบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เพื่อขยายจุดให้บริการของไปรษณีย์ไทยสู่ร้านธงฟ้ากว่า 20,000 สาขาทั่วประเทศ ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน เพิ่มช่องทางในการดรอปหรือส่งสินค้าผ่านร้านธงฟ้าและลดภาระค่าใช้จ่าย โดยมีนายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน นายณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลฯ นายวัลลภ รุจิรากรเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ และ ดร.อนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ร่วมด้วย

 

โดย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า โครงการไปรษณีย์ @ธงฟ้า เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงดีอีทำงานเชิงรุก พี่น้องประชาชนจะได้รับความสะดวกสบายมาบริการให้ในเขตหมู่บ้านประหยัดเวลาประหยัดค่าใช้จ่าย ไปรษณีย์ไทยจะมีสาขาเพิ่มอีก 20,000 สาขาทันทีในการรับส่งสินค้า ช่วยเพิ่มปริมาณการขนส่งสินค้า สำหรับกรมการค้าภายใน ร้านธงฟ้าก็ได้รับประโยชน์ นอกจากรับส่งของยังสามารถขายของในร้านตัวเองได้อีก ในอนาคตอาจมีการต่อยอดในการขนส่งสินค้าภาคการเกษตรเพิ่มขึ้นซึ่งได้ประโยชน์ทุกฝ่าย

 

ด้าน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ทั้ง 2 หน่วยงานบูรณาการการจัดส่งสินค้าช่วยเพิ่มรายได้สร้างโอกาสให้พี่น้องประชาชน ไปรษณีย์ไทยยังขาดเครือข่ายและกระทรวงพาณิชย์มีร้านธงฟ้าอยู่ในเครือข่ายกว่าหนึ่งแสนร้านค้า เราคัดมา 20,000 ร้านค้า ความร่วมมือครั้งนี้จะเกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนที่เป็นคนตัวเล็ก เจ้าของร้านค้าธงฟ้า ซึ่งจะเป็นเครือข่ายประชาชนให้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศ ใช้ไปรษณีย์ไทยและร้านธงฟ้าเพิ่มรายได้และลดภาระค่าใช้จ่าย หน่วยงานของรัฐก็มาช่วยสนับสนุนดูแลพี่น้องประชาชน

 

สำหรับจุดบริการ “ไปรษณีย์ไทย@ธงฟ้า” ในระยะแรกจะเปิดเป็นจุดดรอปพัสดุ ผู้ฝากส่งเพียงเตรียมการฝากส่งล่วงหน้า ซึ่งผู้ให้บริการร้านธงฟ้าสแกนบาร์โค้ดหน้ากล่องผ่านแอปพลิเคชันเพื่อรับสิ่งของเข้าระบบ จากนั้นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์จะเข้ามารับพัสดุไปดำเนินการเพื่อส่งต่อให้ผู้รับปลายทาง และระบบจะคำนวณรายได้ให้ร้านธงฟ้า โดยจะเริ่มให้บริการในเดือนเมษายน 2567 ตามเวลาทำการของร้านธงฟ้าแต่ละแห่ง ส่วนระยะต่อไปจะเปิดให้บริการทั้งจุดรับพัสดุและเป็นจุดรอจ่ายพัสดุให้ผู้รับปลายทาง ทั้งนี้ จากความร่วมมือดังกล่าว จะทำให้ไปรษณีย์ไทยมีเครือข่ายรวมมากกว่า 50,000 จุดทั่วประเทศ

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News