Categories
FEATURED NEWS

กฎหมายป้องกันฟ้องปิดปากสำเร็จ ไทยชาติแรกเอเชีย ACT หนุนต่อยอด

ACT สนับสนุนกฎหมายป้องกันการฟ้องปิดปาก ปลดล็อก 10 ปีแห่งการรอคอย

องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันชื่นชม “รัฐสภา-ป.ป.ช.” พร้อมเสนอแนวทางเพิ่มเติม

องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT ออกแถลงการณ์ต้อนรับการบังคับใช้ มาตรการป้องกันการฟ้องปิดปาก (Anti-SLAPP Law) ซึ่งช่วยปกป้องผู้แจ้งเบาะแส คุ้มครองสิทธิในการแสดงออก และเสริมสร้างความมั่นใจในการต่อต้านคอร์รัปชัน ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียที่มีกฎหมายนี้

มาตรการป้องกันการฟ้องปิดปาก” สร้างความมั่นใจให้ประชาชน

นายมานะ นิมิตรมงคล ประธาน ACT ระบุว่า กฎหมายดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้แจ้งเบาะแส นักกิจกรรม และสื่อมวลชนถูกฟ้องร้องหรือคุกคามโดยไม่เป็นธรรม ซึ่งกฎหมายนี้เป็นกลไกสำคัญที่ช่วยให้ประชาชนกล้าตรวจสอบและเปิดเผยพฤติกรรมทุจริตมากขึ้น

3 ประเด็นสำคัญที่ต้องเร่งศึกษาเพิ่มเติม

  1. สิทธิผู้บริโภค – ปัญหาการเอารัดเอาเปรียบและการปกปิดข้อมูลสำคัญของสินค้าและบริการ
  2. สิ่งแวดล้อม – การทำลายทรัพยากรธรรมชาติและการบุกรุกพื้นที่ป่า
  3. สิทธิมนุษยชน – การละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนโดยภาครัฐและเอกชน

ที่มาของกฎหมายป้องกันการฟ้องปิดปาก

กฎหมายนี้มีต้นกำเนิดจากข้อเรียกร้องของภาคประชาสังคมที่เห็นถึงปัญหาการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือข่มขู่และปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงออก โดยเริ่มต้นจากข้อเสนอของ สภาปฏิรูปแห่งชาติในปี 2558 และได้รับการผลักดันจนผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาในปี 2568

หลักการสำคัญของกฎหมายป้องกันการฟ้องปิดปาก

  1. การปกป้องสิทธิในการแสดงออก – ประชาชนสามารถวิพากษ์วิจารณ์และร้องเรียนเกี่ยวกับประเด็นสาธารณะได้โดยไม่ถูกฟ้องร้องโดยไม่มีเหตุผล
  2. การคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแส – ให้การป้องกันบุคคลที่เปิดเผยข้อมูลการทุจริตหรือประพฤติมิชอบ
  3. การเร่งพิจารณาคดี – ศาลสามารถพิจารณายุติคดีที่เข้าข่ายการฟ้องปิดปากได้อย่างรวดเร็ว เพื่อลดภาระของผู้ถูกฟ้อง

บทบาทของ “ป.ป.ช.” ในการบังคับใช้กฎหมาย

คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนและกำกับดูแลการบังคับใช้กฎหมายป้องกันการฟ้องปิดปาก โดยมีหน้าที่ดังนี้:

  • ให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ผู้ถูกฟ้องร้อง
  • สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดี
  • ประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเพื่อป้องกันการใช้กฎหมายโดยมิชอบ

ผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดขึ้น

  1. ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน – ผู้คนจะกล้าออกมาร้องเรียนและตรวจสอบการทุจริตมากขึ้น
  2. ลดการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือข่มขู่ – นักธุรกิจและเจ้าหน้าที่รัฐที่ทุจริตจะไม่สามารถใช้กฎหมายเพื่อปิดปากผู้เห็นต่างได้
  3. เพิ่มความเชื่อมั่นของนานาชาติ – การมีกฎหมายนี้ช่วยให้ประเทศไทยมีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้นด้านสิทธิมนุษยชนและธรรมาภิบาล

สถิติที่เกี่ยวข้อง

  • จากรายงานของ Transparency International ปี 2567 พบว่า 85% ของประชาชน เห็นว่าคอร์รัปชันเป็นปัญหาหลักของประเทศ
  • สถาบันเพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งเอเชีย ระบุว่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีกรณีฟ้องปิดปากเพิ่มขึ้น กว่า 150% ในภูมิภาคเอเชีย
  • สำนักข่าว Reuters รายงานว่า กว่า 60 ประเทศทั่วโลก ได้ออกกฎหมายป้องกันการฟ้องปิดปากเพื่อปกป้องสิทธิเสรีภาพของประชาชน

สรุป

กฎหมายป้องกันการฟ้องปิดปากถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการปกป้องสิทธิของประชาชนและส่งเสริมธรรมาภิบาลในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังต้องเร่งศึกษาแนวทางเพิ่มเติมเพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายมีประสิทธิภาพสูงสุด และครอบคลุมประเด็นสิทธิผู้บริโภค สิ่งแวดล้อม และสิทธิมนุษยชนอย่างทั่วถึง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) / องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) 

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME