เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 ที่ จ.เชียงใหม่ ตำรวจภูธรภาค 5 แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหา นายหลิน ชุน หง (Mr.LIN CHUN HUNG) สัญชาติไต้หวัน และ นายโสภณ สงวนนามสกุล อายุ 28 ปี ชาว ต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย พร้อมของกลาง เครื่องกระจายสัญญาณโทรศัพท์ หรือ Simbox จำนวน 6เครื่อง เร้าเตอร์ wifi แบบใส่ซิมการ์ด 6 เครื่อง กล้องวงจรปิด 7 ตัว โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง
พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5 เปิดเผยว่า ตนได้ไปกู้เงินสหกรณ์ตำรวจภูธรภาค 5 จำนวนหนึ่งเพื่อที่จะนำเงินไปซื้อรถยนต์ส่วนตัว แต่หลังจากที่เรื่องอนุมัติและมีเงินโอนเข้าบัญชีของธนาคารแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นบัญชีของตนเอง พอวันรุ่งขึ้น ก็มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่เบอร์ลงท้ายด้วยเลข 4986 โทรเข้ามา ทำทีว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร ที่รู้ว่ามีเงินโอนเข้าบัญชีจำนวนหนึ่ง ได้แจ้งว่า บัญชีมีความผิดปกติมีเงินเข้าจำนวนมาก จึงให้ตนนั้นดำเนินการตามขั้นตอนและกรอกข้อมูลส่วนตัวลงไป
ตนจึงเกิดคำถามว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เหล่านี้ จะรู้เรื่อง เงินเข้าออกบัญชีส่วนตัวเราได้อย่างไร ซึ่งจากพฤติกรรมดังกล่าวเชื่อได้ว่า เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โทรมาหลอกลวง จึงมีการสั่งการให้ นำหมายเลขโทรศัพท์ ที่โทรเข้ามา ไปตรวจสอบด้วยเครื่องพิเศษในการติดตาม และเช็กสัญญานชัดเจนว่า มีการออนระบบในพื้นที่ ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย จึง ได้ทำการสืบสวน และรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลจังหวัดเชียงรายที่ ค.206/2567 เพื่อขอหมายค้น
โดยได้ตรวจค้น อาคาร G ห้องG03 โดยได้ตรวจพบ กล้อง ip camera ยี่ห้อ tp-link model: tapo C200 จำนวน 1 เครื่อง เครื่องกระจายสัญญาณอินเตอร์เน็ต ยี่ห้อ tp-link model:Archer MR600 จำนวน 1 เครื่อง และสามารถจับกุม นายโสภณ และ นายหลิน ชุน หง ได้
สอบสวนทราบว่า นายหลิน ชุน หง ได้นำอุปกรณ์ต่าง ๆ มาติดตั้ง เพื่อกระจายสัญญาณโทรศัพท์ โดยเป็นการสุ่มหมายเลขออกไปเพื่อให้ปลายทาง ที่รับสายไม่สามารถระบุได้ว่าปลายทางของสายเป็นใคร และมาจากประเทศอะไร โดยได้จ้างวานนายโสภณ ให้เป็นล่ามในการช่วยประสานงานการทำงานวันละ 1,000 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นส่วนหนึ่งของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่หลบเลี่ยงการตรวจจับสัญญานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะได้ขยายผลหากลุ่มผู้ร่วมขบวนการต่อไป
สำหรับการตรวจยึด Sim Box หรือเครื่องกระจายสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ซึ่งโดยทั่วไปไม่อนุญาตให้บุคคลทั่วไปติดตั้ง ใช้ส่งสัญญาณโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ซึ่งขณะตรวจค้นพบว่า มีการติดตั้งและเปิดทำงานอยู่ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ดำเนินการขอหมายจับผู้ต้องหาทั้งสองตาม จ.289/67 และ จ.290/67 ของศาลจังหวัดเชียงราย และได้ดำเนินการจับกุมตัวผู้ต้องหา ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านดู่ ดำเนินการตามกฎหมายในข้อหา ร่วมกัน ทำ มี ใช้ นำเข้า นำออก หรือค้าซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคม โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต ตามมาตรา 6 พระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ.2498, ร่วมกันตั้งสถานีวิทยุคมนาคม โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต ตามมาตรา 11 พระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ.2498, ร่วมกันใช้คลื่นความถี่ในการประกอบกิจการโทรคมนาคม โดยไม่ได้รับอนุญาตอันมีลักษณะที่เป็นการประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่สาม ตามมาตรา 67(3) ตามพระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม
เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ตำรวจภูธรภาค 5