Categories
WORLD PULSE

“แพทองธาร” หารือ “สี จิ้นผิง” ขยายตลาดสินค้าไทย

“แพทองธาร” หารือ “สี จิ้นผิง” ที่เอเปค สานสัมพันธ์ไทย-จีน พร้อมเปิดตลาดสินค้าและแลกเปลี่ยนเทคโนโลยี

เมื่อวันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2567 นางสาว แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย ได้พบหารือทวิภาคีกับ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในช่วงการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 31 ณ โรงแรม Delfines Hotel Lima กรุงลิมา ประเทศเปรู การประชุมครั้งนี้ถือเป็นจุดสำคัญในการสานต่อความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างไทยและจีน โดยเฉพาะในโอกาสครบรอบ 50 ปีของความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศ

จีนสนับสนุนไทยในเวทีระดับโลก เปิดรับสินค้าจากไทยเพิ่ม

ในที่ประชุม ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ยืนยันว่าจะสนับสนุนไทยในเวทีระดับโลกทุกมิติ ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การค้า และเทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยจีนพร้อมเปิดรับสินค้าจากไทยมากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าทางการเกษตร เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจของไทยให้เติบโต นอกจากนี้ยังยืนยันการสนับสนุนให้ไทยเข้าร่วมเป็นสมาชิกในกลุ่ม BRICS ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ขนาดใหญ่ที่มีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจโลก

แลกเปลี่ยนประสบการณ์การพัฒนาและเทคโนโลยี

นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร กล่าวชื่นชมจีนในการพัฒนาอุตสาหกรรมสมัยใหม่ โดยเฉพาะ เทคโนโลยีการผลิตคุณภาพใหม่ รถยนต์ไฟฟ้า (EV) และ พลังงานสะอาด ซึ่งเป็นแนวทางที่สอดคล้องกับการพัฒนาของประเทศไทยที่มุ่งเน้นการส่งเสริมการค้าเสรีและการพัฒนาที่ยั่งยืน ไทยพร้อมที่จะแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับจีนในด้าน การแก้ปัญหาความยากจน เทคโนโลยีอวกาศ และการต่อสู้กับภัยธรรมชาติ

เตรียมเปิดฉากปีทองแห่งมิตรภาพไทย-จีน

นางสาวแพทองธารยังได้เชิญ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และภริยาเข้าร่วมเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ครบรอบ 50 ปี ไทย-จีน ในปี 2568 ที่จะถือเป็น ปีทองแห่งมิตรภาพ ระหว่างสองประเทศ โดยในโอกาสนี้ จีนได้เตรียมอัญเชิญ พระเขี้ยวแก้ว จากกรุงปักกิ่งมาประดิษฐาน ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวงในวันที่ 4 ธันวาคม เพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสมหามงคล

จีนมอบแพนด้ายักษ์เป็นสัญลักษณ์มิตรภาพ

อีกหนึ่งข่าวดีสำหรับประชาชนชาวไทยคือ จีนจะส่งแพนด้ายักษ์มาประเทศไทยในปีหน้า เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพระหว่างสองประเทศ ซึ่งจะสร้างความตื่นเต้นและความสุขให้กับคนไทย รวมถึงกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในประเทศ

ร่วมมือในด้านเทคโนโลยีและพลังงานสะอาด

จีนยังพร้อมที่จะร่วมมือกับไทยใน การพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล การศึกษา และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและการเชื่อมโยงระหว่างประชาชน นอกจากนี้ยังมีการหารือเรื่องการขยายความร่วมมือด้าน พลังงานสะอาดและเทคโนโลยีที่ยั่งยืน เพื่อเพิ่มความเข้มแข็งในด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม

การประชุมเพื่อความร่วมมือในอนาคต

ในการประชุมครั้งนี้ ทั้งสองประเทศยังได้หารือเกี่ยวกับการร่วมมือในกรอบความร่วมมือ เอเชีย (ACD) และ แม่โขง-ล้านช้าง (MLC) ที่จะช่วยส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนและสร้างความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค นอกจากนี้ยังมีการเตรียมการสำหรับการประชุมสุดยอด BRICS ที่จีนจะเป็นเจ้าภาพในปี 2569

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

  1. การประชุมครั้งนี้มีเป้าหมายอะไร?
    การประชุมครั้งนี้มุ่งเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างไทยและจีนในด้านเศรษฐกิจ การค้า และเทคโนโลยี

  2. จีนสนับสนุนไทยในด้านใดบ้าง?
    จีนยืนยันการสนับสนุนไทยในการเข้าร่วมเป็นสมาชิก BRICS และเพิ่มการนำเข้าสินค้าจากไทย

  3. การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างไทย-จีนจะมีอะไรบ้าง?
    จีนจะส่งแพนด้ายักษ์มายังไทยและอัญเชิญพระเขี้ยวแก้วมาประดิษฐานที่ท้องสนามหลวง

  4. ไทยจะร่วมมือกับจีนในด้านใด?
    ไทยพร้อมแลกเปลี่ยนความรู้ในด้านการแก้ปัญหาความยากจน เทคโนโลยีอุตสาหกรรม และพลังงานสะอาด

  5. ปี 2568 จะมีการฉลองอะไรบ้าง?
    ปี 2568 จะเป็นปีทองแห่งมิตรภาพไทย-จีน ฉลองครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูต

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
FOLLOW ME
MOST POPULAR
NEWS UPDATE

กรมวังผู้ใหญ่ประจำพระองค์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ติดตามการดำเนินงานตามโครงการราชทัณฑ์ปันสุขฯ ที่จังหวัดเชียงราย

Categories
WORLD PULSE

จับตา 3 แนวทางในเวทีผู้นำเอเปค ความยั่งยืน-การค้าที่เปิดกว้าง-ความเชื่อมโยง

 

เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2566 เวลา 11.30 น. (ตามเวลาท้องถิ่นนครซานฟรานซิสโก ซึ่งช้ากว่าเวลาที่กรุงเทพฯ 15 ชั่วโมง) ณ ศูนย์ประชุม Moscone Center นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคในรูปแบบ Retreat (APEC Economic Leaders’ Retreat (Session II)) ในหัวข้อ “Interconnectedness and Building Inclusive and Resilient Economies” พร้อมร่วมรับรองเอกสารผลลัพธ์การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคครั้งที่ 30 โดยก่อนการกล่าวถ้อยแถลงของ นายกฯ (ลำดับที่ 18 ต่อจากจีนไทเป ก่อน ปธน. เวียดนาม) นาง Kristalina Georgieva กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund: IMF) นำเสนอภาพรวมเศรษฐกิจโลกใน ค.ศ. 2023 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญดังนี้

 
ท่ามกลางความไม่แน่นอนของโลก ประเทศไทยยังคงมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ต่อระบบการค้าพหุภาคีและเอเปค เพื่อมุ่งสู่ประชาคมเอเชีย-แปซิฟิกที่เปิดกว้าง ยืดหยุ่น และสงบสุข โดยวานนี้ ได้มีการหารือและสนทนาเกี่ยวกับวิธีการต่อสู้กับปัญหาสภาพภูมิอากาศ ซึ่งนายกฯ เห็นพ้องกับผู้นำทุกคนว่า ถึงเวลาที่ต้องลงมือแล้ว โดยเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว นายกฯ ได้เสนอ 3 มุมมองที่เป็นประโยชน์ต่อเอเปค
 
1. ให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และสานต่อพัฒนาการเป้าหมายกรุงเทพฯ ว่าด้วยเศรษฐกิจ BCG ซึ่งเอเปคมีความก้าวหน้าอย่างมากในปีนี้ จากโครงการมากกว่า 280 โครงการที่ตอบสนองต่อเป้าหมายฯ นี้ ในขณะที่ ABAC เดินหน้าผลักดันการจัดทำ BCG Pledge รวมถึงการจัดการประชุม Sustainable Future Forum ครั้งแรก เพื่อกระตุ้นธุรกิจและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่น ๆ
 
2. เปิดการค้าและการลงทุนอย่างเติบโตและรุ่งเรือง เอเปคสนับสนุนระบบการค้าพหุภาคีที่ยึดกฎเกณฑ์ โดยมี WTO เป็นแกนกลางนั้น ถือเป็นกุญแจสำคัญ ซึ่งรวมถึงการมีส่วนร่วมไปสู่ผลลัพธ์ที่มีความหมายในการประชุมรัฐมนตรีครั้งต่อไป (the Thirteenth Ministerial Conference (MC13))
ซึ่ง ไทย ผลักดันความพยายามอย่างต่อเนื่องในเรื่องเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก (FTAAP) เพื่อความก้าวหน้าในการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค และ ไทยจะเร่งเจรจา FTA อื่นๆ ในเชิงรุก รวมทั้งยกระดับการเจรจาที่มีอยู่เพื่อรับมือกับความท้าทายทางการค้าที่จะเกิดขึ้นใหม่ 
 
3. เสริมสร้างความเชื่อมโยง เพื่อเศรษฐกิจและห่วงโซ่อุปทานที่มีความยืดหยุ่น โดย ไทยกำลังเดินหน้าโครงการ Landbridge เชื่อมมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิก รวมทั้งยังได้อนุมัติวีซ่าฟรี เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และสนับสนุนความต่อเนื่องของบัตรเดินทางสำหรับนักธุรกิจเอเปค (APEC Business Travel Card) ให้ครอบคลุมมากขึ้น เพื่อสนับสนุน MSMEs และสตาร์ทอัพอีกด้วย
 
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรียินดีกับสหรัฐฯ ในการเป็นเจ้าภาพการประชุมที่เป็นประโยชน์ครั้งนี้ โดยไทยพร้อมร่วมประสานความร่วมมือกับเปรูเพื่อสานต่อความสำเร็จนี้ต่อไป  

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักนายกรัฐมนตรี

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News